คำนูณ สิทธิสมาน: บรรหาร...ผู้ทรยศ !

[ปุถุชน]

บรรหาร...ผู้ทรยศ ! 
 
โดย คำนูณ สิทธิสมาน 7 มกราคม 2551 11:42 น.
 
 
        คงไม่ต้องยกคำพูดวันต่อวันนาทีต่อนาทีมาอ้างนะครับว่าก่อนหน้าการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 คุณบรรหาร ศิลปอาชาแสดงจุดยืนทางการเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะไม่เข้าร่วมกับอดีตพรรคไทยรักไทยอย่างไรบ้าง ที่สำคัญที่สุดก็คือประโยคที่พูดซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง
       
       “ ผมจะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่คบกันมากว่า 30 ปีต้องผิดหวัง ”
       
       คงไม่ต้องอ้อมค้อมกันให้มากความหรอกนะว่าหัวหน้าพรรคชาติไทยหมายถึงใคร ถ้าไม่ใช่หนึ่งเดียวคนนี้...
       
       พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ !
       
       ผมเคยคิดว่าเพราะท่านเข้าใจสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองดีพอ ถึงออกมาพูดจาทำนองนี้ตั้งแต่ก่อนวันรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยแสดงตนเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรชัดเจนพอควร แม้จะไม่มากนัก แต่สำหรับนักการเมืองที่มาจากคหบดีพ่อค้ารับเหมาเก่าอย่างท่านที่ผู้คนไม่เคยคาดหวังสารัตถะลึกซึ้งอะไรนักมาก่อน ต้องบอกว่ามากถึงมากที่สุดแล้ว
       
       คำว่า “เข้าใจสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองดีพอ” ที่ผมใช้ในย่อหน้าก่อน หมายถึงวิกฤตต่อระบอบ(ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) และวิกฤตต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
       
       ผมเคยพูดทั้งในสภา ใน ASTV และเคยเขียนในคอลัมน์นี้มาแล้วหลายครั้งว่าสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองนับตั้งแต่ยุคปลายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรื่อยมาจนถึงการลุกขึ้นวิ่งชนกำแพงของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ต่อมาจนถึงการรัฐประหารครั้งล่าสุด และความพยายามก่อการจลาจลย่อยของ นปก. ระหว่างปี 2548 – 2550 คือการเป็นพันธมิตรกันของ “ทุนเหิมเกริม” กับ “ซ้ายอารมณ์ค้าง” ท่ามกลางความตกต่ำและไร้ประสิทธิภาพของระบอบอมาตยาธิปไตยภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์
       
       การต่อสู้ทางการเมืองช่วงนี้จึงถือเป็นสถานการณ์พิเศษ ไม่ใช่แค่แข่งขันกันตามปกติเท่านั้น
       
       ความเชื่อว่าคุณบรรหาร ศิลปอาชา “เข้าใจสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองดีพอ” ถูกตอกย้ำซ้ำด้วยการที่พรรคชาติไทยกับพรรคเพื่อแผ่นดินเสนอหลักการ 5 ข้อออกมาเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะพิจารณาว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนหรือไม่ เพราะ 2 ใน 5 ข้อนั้นมีประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และประธานองคมนตรี ที่ทำให้พรรคพลังประชาชนและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมีอันต้อง “เต้น” ออกแถลงการณ์ชี้แจงภายในวันเดียวกัน
       
       ท่าทีเช่นนี้ เมื่อผสานกับการทำงานทางฝั่ง กกต. -- โดยเฉพาะทีมของพล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล – ทำให้สถานการณ์ของพรรคพลังประชาชนไม่แน่นอนทันที
       
       น่าเสียดาย...ที่เมื่อถึงที่สุดแล้วคุณบรรหาร ศิลปอาชาไม่สามารถยืนหยัดท่าทีดังกล่าวไว้ได้ !
       
       คนที่ทำทีทำท่าว่า “เข้าใจสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมืองดีพอ” กลับมาเป็นนักการเมืองดาด ๆ ที่คิดตื้น ๆ เพียงแค่ขอให้ได้ร่วมรัฐบาลเท่านั้นเป็นพอ
       
        เหตุผลที่ยกมาอ้างต่อสาธารณะนั้นก็ “โหล่ยโท่ย” สิ้นดี เพียงแค่ว่าพอใจในท่าทีที่น่ารักของคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์
       
       ทั้ง ๆ ที่จนถึงวันนี้พรรคพลังประชาชนไม่ได้ตอบรับหลักการ 5 ข้อเลย !
       
        คุณสมัคร สุนทรเวช ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ไม่เพียงแต่ตอกกลับเจ็บ ๆ ในวันที่โชว์ภาพถ่ายตนเองแต่งเครื่องแบบเต็มยศที่แสดงให้เห็นว่าได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงกว่า แล้วเรียกร้องให้คุณบรรหาร ศิลปอาชา “แหงนหน้าขึ้นมามอง” เท่านั้น ในวันต่อมาที่พรรคพลังประชาชนประกาศชิงจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ 3 พรรคการเมืองขนาดเล็ก 21 เสียง ยังได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมพูดจาเป็นนัยอย่างน่ารังเกียจกระทบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ที่ไม่มีช่องทางตอบโต้อีกต่างหาก
       
        คุณสมัคร สุนทรเวชพูดถึง “มือที่มองไม่เห็น” ก่อน แล้วโยงด้วยชั้นเชิงไปอีกเรื่องว่าขณะไปหาเสียงต่างจัดหวัดเห็นหนังสือเล่มหนึ่งวางขายอยู่ ขนลุก ไม่กล้าเปิดดู
       
       “ก้อนกรวดในรองพระบาท”
       
       คุณบรรหาร ศิลปอาชาไม่รู้หรอกหรือว่านี่เป็นหนังสือผิดกฎหมายที่กลุ่มต่อต้านคมช.สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรพิมพ์เผยแพร่แล้วแจกจ่ายไปทั่ว โดยก่อนหน้านี้เป็นบทความมินิซีรีส์ขนาด 8 – 10 ตอนเผยแพร่อยู่ในเว็บไซด์ “ไฮ - ทักษิณ” เนื้อหานั้นมุ่งโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์โดยตรง ว่าเป็นผู้ที่แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมเสีย
       
       ใครเขียนผมไม่รู้ เพราะใช้นามปากกาว่า “ประดาบ” แต่ต้องยอมรับในลีลา ชั้นเชิง และความพลิกพลิ้ว
       
       ปรมาจารย์นักเขียนอย่าง เปลว สีเงิน” ยังยอมรับในอันตราย !
       
       คุณบรรหาร ศิลปอาชาควรจะรับรู้ไว้ด้วยว่า คนกลุ่มนี้ยังคงแสดงความอาฆาตมาดร้อยต่อพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์อยู่แม้จนทุกวันนี้ !
       
       ผมมีประจักษ์พยาน
       
       ข้อเขียนของ “ประดาบ” ผู้เขียน “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ที่ปรากฏในเว็บไซด์ “ไฮ – ทักษิณ” ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ทันทีที่พรรคชาติไทยกับพรรคเพื่อแผ่นดินยื่นเงื่อนไข 5 ข้อคือประจักษ์พยานที่ว่า ตอนหนึ่งเขาเขียนว่า...
       
       “...พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ถือเป็นรัฐบุรุษที่สูงสุดในบรรดาผู้คนทั้งหลายและเป็นที่เคารพของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งตรงนี้เราต้องรักษาไว้ และเราจะต้องไม่ก้าวล่วง... เงื่อนไขข้อนี้ของนายบรรหาร ดูจะเป็นเงื่อนไขเฉพาะตัวของนายบรรหารเพียงคนเดียว ไม่ใช่ของคนทั้งประเทศ
       
       “  ...อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่ยอมรับ และรับไม่ได้ อีกทั้งไม่เคารพ ไม่เทิดทูน ไม่คิดว่าพล.อ.เปรม เป็นรัฐบุรุษสูงสุด และเคยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่หยุดตรวจสอบพฤติกรรมของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
       
       “...แม้แต่สิ้นลมหายใจไปแล้ว ก็ต้องขุดเบื้องหลังมาตรวจสอบกัน และต้องตรวจสอบให้หนักและลึกกว่าที่พรรคประชาธิปัตย์เคยขุดศพเตี่ยนายบรรหารมาตรวจสอบสัญชาติ และวันเดินทางมาถึงแผ่นดินสยาม หลายเท่า
       
       “...พล.อ.เปรมเป็นคนที่นายบรรหารเคารพมา 30 ปี ก็เป็นเรื่องของนายบรรหาร ประชาชนไม่เกี่ยว ในฐานะประชาชนที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ผมยืนยันอีกครั้งว่าพล.อ.เปรม คือ ศัตรูตัวสำคัญของระบอบประชาธิปไตย และประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ที่จะต้องตายจากกันไปข้าง ไม่สามารถอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันได้...  ”
       
       นี่คัดมาเฉพาะถ้อยคำที่พอคัดได้นะครับ
       
       จากวาทะ “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรขณะอยู่ในอำนาจ มาจนธงนำของ นปก. ที่พุ่งเป้าการโจมตีไปที่ประธานองคมนตรี การพยายามยกพลบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ รวมทั้งคำพูด “อีแอบผมขาว”, “มือที่มองไม่เห็น” และ “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ของคุณสมัคร สุนทรเวช ล้วนเป็นเรื่องเดียวกันมีความต่อเนื่องกัน
       
       คุณบรรหาร ศิลปอาชาวันนี้อายุเลย 70 มาพอสมควรแล้ว
       
       อยู่ได้อีกไม่นานก็จะจากโลกนี้ไปตามอายุขัย ก็อยู่ที่ท่านแหละว่าต้องการให้ผู้คนจดจำในฐานะอะไร
       
       หรือท่านไม่กังวลกับการถูกจดจำในลักษณะนี้...
       
       “บรรหาร...ผู้ทรยศ !”
 
 
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000001886
 
 
 
    คุณสมัคร สุนทรเวชพูดถึง “มือที่มองไม่เห็น” ก่อน แล้วโยงด้วยชั้นเชิงไปอีกเรื่องว่าขณะไปหาเสียงต่างจัดหวัดเห็นหนังสือเล่มหนึ่งวางขายอยู่ ขนลุก ไม่กล้าเปิดดู
       
       “ก้อนกรวดในรองพระบาท”

'หมัก เมถุน' ไม่กล้าหยิบ ไม่กล้าเปิดดู ก็ รู้ว่า "ก้อนกรวดในรองพระบาท" หมายความว่าอะไร
แต่คนที่'หมัก เมถุน' ดูแคลน ไม่รู้ ไม่เข้าใจ........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
       
 
 “...พล.อ.เปรมเป็นคนที่นายบรรหารเคารพมา 30 ปี ก็เป็นเรื่องของนายบรรหาร ประชาชนไม่เกี่ยว ในฐานะประชาชนที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ผมยืนยันอีกครั้งว่าพล.อ.เปรม คือ ศัตรูตัวสำคัญของระบอบประชาธิปไตย และประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ที่จะต้องตายจากกันไปข้าง ไม่สามารถอยู่ร่วมแผ่นดินเดียวกันได้...  ”

ในฐานะประชาชนที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย.................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า/color]

ใครเขียนผมไม่รู้ เพราะใช้นามปากกาว่า “ประดาบ” แต่ต้องยอมรับในลีลา ชั้นเชิง และความพลิกพลิ้ว
       
       ปรมาจารย์นักเขียนอย่าง เปลว สีเงิน” ยังยอมรับในอันตราย !


'มีเงิน จ้างผีโม่แป้ง ก็ด๊ายยยย'.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปรมาจารย์เจได]

อย่าไปมองถึงคำกล่าวอ้างที่มันบอกผู้ใหญ่ที่เคารพ 30 ปีเลยครับ
ถ้าผู้ใหญ่ในที่นี้หมายถึงพลเอกเปรมก็น่าคิด แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มันพูดลอยๆมาเองก็น่าชัง

อย่างไรก็ตามแต่ อย่าไปมองเรื่อง คนที่มันเคารพ 30 ปีเลยครับ

เอาแค่คำสัตย์ของมันก็พอ
ยังไม่ถึง 2 ปีเลย

มันก็ลืมแล้ว...

[ริวเซย์]

ไม่งั้นจะได้ฉายานามปลาไหลเหรอคับ

ไม่งั้นก็มังกร(เอี้ย) เติ้ง 

[ปุถุชน]

วันนี้ (8 ม.ค.) ที่พรรคชาติไทย นายเกษม สรศักดิ์เกษม กรรมการบริหารพรรคชาติไทย ในฐานะที่ประธานคณะกรรมการกฎหมายพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์..........
.................................................................................................................................................................................................

ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมกำลังเกิดคำถามว่าทำไมพรรคชาติไทยจึงเข้าร่วมรัฐบาลพลังประชาชน  นายเกษม กล่าวว่า ถามว่าหากไม่เข้าร่วมแล้วตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ตั้งได้เกิน 10-15 เสียงก็ตั้งได้ แต่ถามว่ามั่นคงหรือไม่ มีรัฐบาลก็ต้องการให้รัฐบาลมั่นคง การร่วมรัฐบาลไม่ใช่เรื่องเสียหายของชาติ  ถ้าไม่ร่วม ชั่งน้ำหนักแล้วจะเสียมากกว่าดี บ้านเมืองก็สะดุด ถามว่าไม่ร่วมซีกพลังประชาชนมาร่วมซีกประชาธิปัตย์คะแนนยิ่งหนัก แล้วจะเกณฑ์ 5 พรรคที่เหลือมาร่วมทางนี้มันเกณฑ์กันได้หรือไม่ คงต้องอยู่ที่ความสมัครใจ อยู่ที่มติพรรค อยู่ที่ผู้บริหาร แนวโน้มต้องมองไปในอนาคต ไม่ใช่มองแค่ว่ากวักมือ เคาะกะลา แล้วมารวมกัน มันไม่ใช่ แต่ต้องดูประเทศชาติด้วย มาถึงวันนี้ต้องมองไกลอย่ามองใกล้
      
       “ จะโดนวิจารณ์ยับมันก็ช่วยไม่ได้ ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน เข้าไปทำงานเสียก่อน แก้ปัญหาที่รออยู่ข้างหน้ามากกมาย ปัญหาให้จะแก้ถ้าไม่มีรัฐบาล มันยืดหยุ่นไปไม่ได้แล้วเพราะรัฐธรรมนูญบังคับ ไม่เช่นนั้นฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญกันหมด รัฐบาลชุดนี้เขาเก็บเสื้อผ้าจะกลับบ้านกันอยู่แล้ว”
      
       เมื่อถามว่า แต่หัวหน้าพรรคชาติไทยเคยให้สัจจะกับพรรคประชาธิปัตย์ และประกาศมีความกตัญญูต่อผู้ใหญ่เอาไว้ นายเกษม กล่าวว่า แต่แนวทางการร่วมรัฐบาลตามที่เสนอไป 5 ข้อ ทางพรรคพลังประชาชนก็ตอบสนองดี  ส่วนจะรับเต็มที่หรือไม่เขาตอบสนองก็แล้วกัน ทั้ง 5 ข้อไม่ใช่เงื่อนไขพิเศษเลย แต่เป็นทางช่วยกันประคับประคองไปให้ได้ หากทุกคนมีแนวทางตรงนั้นร่วมกันมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรในการที่พรรคชาติไทยจะเข้าร่วมรัฐบาล
      
       เมื่อถามว่า แต่พรรคชาติไทยเคยให้คำมั่นกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพันธมิตรกัน นายเกษม กล่าวว่า ตอนนั้นเป็นช่วงที่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่พอเลือกตั้งแล้วก็ต้องเอาคะแนนมาดู ถ้าคะแนนรวมกันแล้วมันตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ไม่รู้จะไปรวมเพื่ออะไร มันไม่ใช่ประโยชน์ส่วนพรรคทั้งสองพรรคแล้ว ต้องเอาประโยชน์บ้านเมืองมาตั้งแล้วช่วยประคับประคองไป จะมากจะน้อยขอประคับประคองไปก่อน เมื่อถามว่าไม่ใช่เป็นการทิ้งเพื่อนใช่หรือไม่ นายเกษม กล่าวว่า ไม่หรอก วนอยู่ในอ่างเดียวกัน มองกันได้ ต่อไปวันข้างหน้าพรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาลก็ได้ ถ้าถามว่าเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ถ้าคะแนนเท่านี้ ไม่ได้ อาจารย์เสนีย์ ปราโมทย์ เคยเป็นมาแล้ว 10 กว่าวัน รัฐบาลเสียงข้างน้อยคว่ำทันที กระบวนการในรัฐสภาก็ปล่อยและทำงานต่อไปไม่ได้ ขณะนี้จะมัวมองใกล้ไม่ได้ บ้านเมืองจะเสียหาย ต้องมองให้ไกล ปล่อยให้เดินหน้าไปสัก 2 ปีแล้วรัฐบาลไม่ดีอยากจะยุบสภา เมื่อถึงตรงนั้นก็นิมนต์
      
       เมื่อถามว่า แสดงว่า พรรคชาติไทยยอมโดนด่าในการตัดสินใจครั้งนี้ นายเกษม กล่าวว่า ก็จำเป็นและต้องใช้เวลาเป็นเครื่องตัดสิน ผู้สื่อข่าวถามว่า อดีตพรรคไทยรักไทยซึ่งส่วนใหญ่เปลี่ยนมาเป็นพรรคพลังประชาชนก็ถูกสอบสวนและวิพากษ์วิจารณ์ผลการกระทำที่ผ่านมา นายเกษม กล่าวว่า ถูกต้องแล้วที่ต้องโดนตรวจสอบ แต่ผู้บริหารของพรรคพลังประชาชนเมื่อเป็นเสียงข้างมากก็ต้องวางตำแหน่งให้ถูกต้อง อย่าไปโหยหาอดีต ส่วนคดีซุกหุ้นหรือคดีอะไรต่างๆ ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเขาว่ากันไป แต่ฝ่ายบริหารมีหน้าที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น ตั้งต้นใหม่และทำให้ประชาชนเห็น ประชาชนจะได้เข้าใจและเห็นใจมากขึ้น โดยเฉพาะ ครม.ชุดใหม่ที่กำลังจะตั้งขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมีหน้าเดิมๆ เข้ามาบ้าง แต่ต้องวางตำแหน่งให้ถูกต้อง อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเก่าๆ
      
       เมื่อถามว่า  ถ้า ครม.ชุดใหม่หน้าตาไม่ดีแล้วประชาชนยี้ นายเกษม กล่าวว่า ก็ต้องปล่อยไประยะหนึ่ง แต่ตนเชื่อว่าเขาคงไม่โง่พอที่จะทำอย่างนั้น เพราะเขาอยู่ในสายตาถูกคนจับจ้องมาก ถ้ายิ่งทำเสียหายคราวนี้หนักแน่ จะเสียอนาคตทางการเมืองกันหมด เชื่อว่า เขาคงไม่คิดสั้น ตอนนี้ต้องช่วยกันประคับประคองบ้านเมือง มีรัฐบาลเสียงข้างมากแล้ว มี ครม.36 คน พรรคพลังประชาชน มี 25-27 คน แล้วมาทำกันเรื่อยเปื่อยคงไม่ได้ เท่ากับเขาฆ่าตัวเอง ตนเชื่อว่า พรรคพลังประชาชนคงไม่กล้าสร้างความเสียหายอีกแล้ว ถ้าไม่ยอมถอยก็จะนองเลือดกันอีก ประเทศชาติจะเสียหายหนัก เพราะฉะนั้นควรจะต้องหลัก ตั้งสติกันเสียใหม่ ทำสมาธิก่อนรับหน้าที่ รัฐบาลใหม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ อะไรที่อืดอาดอยู่ตอนนี้ต้องรีบทำ เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น ต่างชาติมองแล้วน่าเข้ามาลงทุน จึงหวังว่ารัฐบาลใหม่ต้องดี ต้องหาคนตั้งใจทำงาน และที่สำคัญต้องไม่ยึดติดพวกพ้อง

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000002557



ผมนำคำพูด'เอาแต่ได้'ของลูกหลาน'ปลาไหล เติ้ง' มาให้อ่าน
ถ้าใครจะเชื่อตามคำพูดของลูกปลาไหล ก็ตามใจ..........

ผมสงสัยว่ว เขารู้ตัวเองว่าเป็นใคร จึงพูดเอง เออเอง เหมือน 'แม๊ว หน้าเหลี่ยม ' 'นิติกรบริการ' และ 'หมัก เมถุน'.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[aiwen^mei]

ไม่งั้นจะได้ฉายานามปลาไหลเหรอคับ

ไม่งั้นก็มังกร(เอี้ย) เติ้ง 

จริงด้วยค่ะ เลยชวนให้สงสัยว่า ธรรมชาติ ของ ปลาไหล แท้จริงเป็นเช่นไร 

คำตอบคือ

รูปร่างลักษณะ    รูปร่างยาวคล้ายงู  ส่วนปลายของลำตัวค่อนข้างแบน ทำให้สามารถว่ายน้ำได้เร็ว  ลำตัวเป็นสีน้ำตาล  ส่วนหลังสีจะเข้ม  ส่วนท้องจะเป็นสีจาง  ไม่มีเกล็ดแต่จะมีเมือกป้องกันตัวแทนด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถจับปลาไหลได้ยาก

อุปนิสัย  เมื่อมีขนาดโตขึ้นไปประมาณ 400 กรัมขึ้นไปจะเปลี่ยนเป็นเพศผู้ 

http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no20/plahli.html

ปล. มันเปลี่ยนเพศ ได้จริง ๆ หรือ ? เพิ่งทราบเนี่ยค่ะ 

[ริวเซย์]

จริงด้วยค่ะ เลยชวนให้สงสัยว่า ธรรมชาติ ของ ปลาไหล แท้จริงเป็นเช่นไร 

คำตอบคือ

รูปร่างลักษณะ    รูปร่างยาวคล้ายงู  ส่วนปลายของลำตัวค่อนข้างแบน ทำให้สามารถว่ายน้ำได้เร็ว  ลำตัวเป็นสีน้ำตาล  ส่วนหลังสีจะเข้ม  ส่วนท้องจะเป็นสีจาง  ไม่มีเกล็ดแต่จะมีเมือกป้องกันตัวแทนด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถจับปลาไหลได้ยาก

อุปนิสัย  เมื่อมีขนาดโตขึ้นไปประมาณ 400 กรัมขึ้นไปจะเปลี่ยนเป็นเพศผู้ 

http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no20/plahli.html

ปล. มันเปลี่ยนเพศ ได้จริง ๆ หรือ ? เพิ่งทราบเนี่ยค่ะ 

โอ้โฮเฮะ เพิ่งรู้นะครับว่าปลาไหลมันเปลี่ยนเพศได้ ความรู้ใหม่จริงๆครับ อิอิ ขอบคุณคุณเม่ยที่เติมความรู้ให้

ว่าแต่ป๋าเติ้งเป็นปลาไหลแก่แล้ว คงจะแอ๊บแบ๊วอยู่กระมังนะ

[แอ่นแอ๊น]

เรื่องผู้ใหญ่หน่ะ ยกมาอ้างหาเครดิตให้ตัวเองอ่ะ ผู้ใหญ่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย 

ส่วนบรรหารเหรอ ดีใจกะชาวภาคตะวันออกด้วย ท่านไม่ได้เลือกผิดคน
ถ้าเลือกปลาไหลเจ้าถิ่น ป่านนี้คงยกม๊อบไปหน้าบ้านแล้ว 

ส่วนข้าพเจ้า อดฟังนักจัดรายการคนโปรดคนหนึ่ง หายไปตั้งแต่เลือกตั้งแล้วไม่กลับมา
พอปีใหม่แกเลยไปยาว (ทีแรกแค่หนีเที่ยว) เข้าใจว่าเพราะผู้สนับสนุนรายการย้ายข้างหน้าตาเฉย
สงสัยแกเลยรับไปไม่ได้ ลาออก เลิกจัดมันเลย สบายใจกว่า 

คิดถึงนะเนี่ย ทั้งๆ ที่ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง

ปล.ยังไม่โทรถามว่าหายหลังไมค์ว่าหายไปไหน แต่เดาเอา คิดว่าไม่ผิด 

[noppon]

เตี้ยเติ้งก็คงละอายตัวเอง ไม่กล้าออกมาแถลงข่าว ปล่อยให้ลูกพรรคจัดการดำน้ำขุ่น ๆ ตามประสานักการเมืองยุคล้านปี

เชื่อแล้วว่า "เงินจ้าง เติ้ง โม่แป้งได้" 555

[samepong(ยุ่งแฮะ)]

เรียก ชูวิทย์ มันฟัน ปลาไหลหน่อย อยากเห็ยชูวิทย์มากๆช่วงนี้ เล่นการเมืองไม่กี่ปี อ่านคุณเติ้งขาด จริงๆ

[Can ไทเมือง]

น่าผิดหวังที่สุดคือ ชาติไทย กับ เพื่อแผ่นดิน

[ปุถุชน]

ชูวิทย์” อัด “เติ้ง” ชี้ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์เล็งเป้าสุดสูง
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2551 11:54 น.
 
 
      “ชูวิทย์” อัดซ้ำ “เติ้ง” ไร้จุดยืน-สัจจะ พลิกลิ้นร่วมรัฐบาล “พลังแม้ว” ทำทุกอย่างเพื่อหวังผลประโยชน์ มีเป้าหมายสูงที่เก้าอี้องคมนตรี วางตัว “ก้านยาว-สมศักดิ์” นั่ง รมว.เกษตรฯ-ศึกษาธิการ 
       
       วันนี้ (9 ม.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ทางเอเอสทีวี เมื่อตอนเช้า โดยตำหนินายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย อย่างรุนแรงอีกครั้ง ที่ไม่รักษาสัจจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน โดยระบุว่าเป็นการสะท้อนให้เห็นว่านายบรรหารเป็นคนที่ไม่มีจุดยืนทางการเมือง ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์บางอย่างเท่านั้น
       
       “ ผมเคยอยู่วงในมาก่อนผมรู้ดี เมื่อก่อนผมเคยนั่งร่วมโต๊ะกับท่านบรรหาร ท่านก็บอกว่าในทางการเมืองต้องออกสองทางไว้เสมอ แต่ผมไม่เห็นด้วย เพราะต้องมีจุดยืนชัดเจน ที่ผ่านมาเห็นป้ายประกาศหาเสียงในกรุงเทพฯ มีภาพท่านหัวหน้าพรรคทาปากใส่เสื้อสีแดง แต่ไม่ได้แสดงจุดยืนให้คนเห็นจึงไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ในต่างจังหวัดอาจมีระบบอุปถัมภ์อย่างไรก็ได้ แต่ในกรุงเทพฯต้องชัดเจน” อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยสะท้อนให้เห็นภาพการหาเสียงของพรรคชาติไทยที่ไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน
       
       นายชูวิทย์ยังระบุอีกว่า มีข่าวทำนองเรื่องค่าตอบแทนการเลือกตั้งจำนวนหนึ่งเพื่อแลกกับการเข้าร่วมรัฐบาล และการเสนอเงื่อนไข 5 ข้อก็เป็นแค่เพียงละครหน้าฉากเท่านั้น
       
       “ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนและประชาชนหลายคนด่าผมว่าผมเผาบ้านตัวเอง แล้ววันนี้เป็นไง ผมเคยได้ยินคนที่บ้านเมืองทองฯ พูดว่าไอ้เตี้ยมันเคยมีสัจจะที่ไหน ตอนนั้นมันบอกว่าจะลาออก แต่กลายเป็นว่ามันยุบเฉย ถ้าตอนนั้นป๋า(คนที่บ้านเมืองทอง)มีปืนป๋ายิงมันแล้ว” อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทยกล่าว
       
        นายชูวิทย์ยังกล่าวอีกว่า มีการต่อรองจากนายบรรหารเพื่อขอตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจริง แต่คนที่ฮ่องกงไม่พอใจว่าต่อรองมากเกินไป ถึงขั้นเปิดเสียงทางลำโพงโทรศัพท์ให้ฟัง และว่าเป้าหมายสุดท้ายของนายบรรหารก่อนที่จะยุติบทบาททางการเมือง หากไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง สูงสุดคืออยากจะเป็นองคมนตรีจึงมีการเข้าออกบ้านพักพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์อยู่บ่อยๆ
       
       นายชูวิทย์ยังระบุอีกว่า หากพรรคชาติไทยร่วมรัฐบาล บุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีน่าจะเป็นดังนี้ คือ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น ซึ่งก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
       
 
 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000002937
 
 
 
 

[นทร์]

บรรหาร แสดงตัวมาตลอดว่าต้องการเป็นรัฐบาล

เป็นฝ่ายค้านมันอดอยากปากแห้ง

มีอะไรในโลกอีกมากที่เรายังไม่รู้

ใจคนนี่ แน่นอน เราไม่มีทางรู้ว่าจะทำอะไร

หรือใครจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ในทุกวินาที ในอนาคต....

 

[ชัย คุรุ เทวา โอม]

ปลาไหล อย่างไรก็ ปลาไหล

[55555]

ครั้งนี้ คุณบรรหาญ อึดอัดใจในการ่วมรัฐบาลเป็นพิเศษ ตั้งเงื่อนไข หรือ ประกาศกับสาธารณะ ชน มันกลายเป็นบ่วงรัด ตัวเอง ไปหมด...ไม่ว่า จะเป็นเรื่องประกาศ ไม่ร่วมสังฆกรรม กับ คุณทักษิณ หรือ เงื่อนไข 5 ข้อ........

ส่วนเงื่อนไข ที่ไม่ได้ประกาศ ต่อสาธารณะชน ที่ยื่นออกไป ผมเดาว่า คงได้รับการตอบรับ อย่างดี....

จึงทำให้อึดอัดไปหมด....จึงอยากเข้าร่วม มาก ๆ ....แต่ จะบอกกับสาธารณะชน ยังไงดีหนอ.......

"ปวดหัวจังโว้ย "......ลุงบรรหาญ คงพูดคำนี้ ทุกวัน

 

[O_envi]

เสียดายครับเคยมั่นใจว่าบรรหารจะกลับใจมาเป็นคนดี

[อธิฏฐาน]

ไปฟังเพลง เพลงปลาไหลลืมรู  ที่บ้านคุณโฟล์คเหน่อค่ะ


http://www.oknation.net/blog/folkner/2008/01/09/entry-2

[Cherub Rock]

จึงทำให้อึดอัดไปหมด....จึงอยากเข้าร่วม มาก ๆ ....แต่ จะบอกกับสาธารณะชน ยังไงดีหนอ.......

"ปวดหัวจังโว้ย "......ลุงบรรหาญ คงพูดคำนี้ ทุกวัน

 

ไม่ยากครับ
บอกว่าเขาพูดจาสุภาพนุ่มนวล
อดใจไม่ไหวหลงรักหัวปักหัวปำ

ถ้าเป็นผู้หญิงคงแต่งงานด้วยไปแล้ว

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องร่วมรัฐบาลกับเค้า




เงื่อนไข 5 ข้อ...




ลืม!



ปล. ความรักทำให้คนปัญญาอ่อน

[ปุถุชน]

"บรรหาร"กลืนน้ำลายลืมผู้ใหญ่ร่วมรัฐบาลพปช.
 
31 ธันวาคม พ.ศ. 2550 12:41:00
 
“เติ้ง”ตกใจแกนนำพปช.บุกถึงเตียง ชม “น้องเขยแม้ว”ไม่ก้าวร้าว นิ่มนวล เหมาะเป็นทูต ระบุชท.จัดตั้งรัฐบาลต้องไหว้แล้วไหว้อีกกว่าจะเรียบร้อย แย้มเป็นนัยะชท.-พผ.ไม่มีปัญหา รอจังหวะนัดปชป.กินข้าวเคลียร์ใจ ขอร้องสื่อหยุดนั่งเขียนอ้างชท.ขอเก้าอี้ ชี้อยู่ที่พปช.จะให้

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เปิดบ้านถนนจรัญสนิทวงศ์ เพื่อใหลูกพรรคและนักการเมืองเข้าอวยพรปีใหม่ โดยนายบรรหาร กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนจงมีฐานะดีขึ้นคลายความกังวลหรือคิดว่าความมั่นคงของประเทศชาติจะหวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่งเศรษฐกิจจะดีขึ้น พี่น้องประชาชนชาวไทยก็จะดีขึ้นด้วย พรรคชาติไทยให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องชาวไทยทุกคนให้เจริญมีรายได้ดี

นายบรรหารกล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 28 ธ.ค.ที่เข้าโรงพยาบาลรามาธิบดี ตอนนั้นความดันขึ้นสูงถึง 170 มีอาการวิงเวียนศีรษะมา 2 วันแล้วแต่ไม่มาก และเมื่อวันที่ไปทานข้าวที่บ้านนายสุชาติ ตันเจริญ ตนมีอาการเวียนศีรษะมากจึงคิดว่าควรเข้าไปตรวจเช็คร่างกาย และทานยาแก้ความดัน นอนให้น้ำเกลือ เช้าน่าจะดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลได้จนถึงเวลา 21.00 น.ตนรู้สึกตกใจไม่คาดคิดว่าทางพรรคพลังประชาชนจะส่งตัวแทนมาเกือบ 10 คนภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคมาถึงเตียงนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายสมชายเป็นคน

มีอัธยาศัยดีมาก ไม่ก้าวร้าว พูดจาอ่อน นิ่ม เรียนเชิญพรรคชาติไทยเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อให้เกิดความมั่นคง พี่น้องประชาชนจะได้เกิดความหายคลายกังวล เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้นเพราะพรรคของท่านเองได้เสียงมามากพอสมควร  และข้อเสนอทั้ง 5 ท่านก็บอกว่าพรรคของท่านเองรับได้ ทำได้ และคิดว่าคนไทยทุกคนก็รับตรงนี้แล้ว ทุกอย่างถ้าทำได้ก็เกิดความสามัคคีความปรองดอง ความเสมอกันในชาติ

นายบรรหาร กล่าวว่า เมื่อท่านรับตรงนี้แล้วตนก็บอกไปว่า ไม่น่ามีปัญหา แต่ต้องด่วนที่สุดพรุ่งนี้เช้าให้ไปเชิญพรรคเพื่อแผ่นดินโดยด่วนเพราะเราพูดกันแล้วว่าจะทำงานร่วมกัน จะได้ไปด้วยกัน อีกไม่ถึงชั่วโมงก็ทราบมาว่าจะไปพบนายวัฒนา อัศวเหมที่บ้านในเวลา 11.00น.วันที่ 29 ธ.ค.นี่คือสิ่งที่อยากชี้แจงให้ทราบ ตอนนี้อาการมึนหัวก็คลี่คลายไปแล้ว ดังนั้นคิดว่าในวันที่ 2 ม.ค.จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค และหารือร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน และจะประกาศในเย็นวันนั้นเลย ซึ่งเท่าที่ทราบพรรคเพื่อแผ่นดินก็ตอบรับเป็นนัยยะอยู่แล้ว และพรรคชาติไทยก็บอกเป็นนัยยะเช่นกัน ตอนนี้สื่อมวลชนก็เขียนข่าวมั่วไปหมด ถ้าขืนนานไปพรรคชาติไทยก็จะกลายเป็นปลาไหลมากขึ้น ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ไปเขียนว่าพรรคชาติไทยต่อรอง 7 -8 ตำแหน่งนั่งเทียนเขียนกันไปหมด

......................................................................................................................................................................................
เมื่อถามว่าที่เคยระบุว่าจะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่เคารพมา 30 ปี ผิดหวัง  นายบรรหาร กล่าวว่า มาอีกแล้ว ไม่เอาแล้วขอไม่ตอบ เอาคำสร้างสรรค์ได้หรือไม่ จะให้ตนไหว้คุณหรือไม่

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งใหม่ที่เขต 1 จ.บุรีรัมย์ พรรคชาติไทยคาดหวังแค่ไหน นายบรรหารกล่าวว่า เมื่อดูตัวผู้สมัครของพรรคชาติไทยคงจะยาก คงจะเป็นช่วงชิงระหว่างพรรคเพื่อแผ่นดินและมัชฌิมาธิปไตย ต่อข้อถามว่าจะมีการตกลงหรือไม่ว่าจะไม่แข่งขันกันเนื่องจากจะเข้าร่วมรัฐบาลกันแล้ว นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น

เมื่อถามถึงการทำหน้าที่ของกกต.โดยแต่งตั้งตำรวจสันติบาลเข้าไปช่วยด้วย นายบรรหารกล่าวว่า เห็นใจการทำงานของกกต. คงอยากให้รวดเร็ว จึงให้ตำรวจสันติบาลเข้าช่วย เพื่อตรวจดูสำนวนให้ละเอียดรอบคอบ ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม ส่วนรายละเอียดคงไปถาม กกต.
 
http://www.bangkokbiznews.com/2007/12/31/WW01_0101_news.php?newsid=216565
 
 


ผมขอสารภาพว่า ผมไม่เคยได้อ่าน ได้ยินว่าแกนนำพรรคฯ เช่น 'หมัก เมถุน' 'หมอเลี๊ยบ' และ 'ทนายหน้าหอ นพดล' เป็นต้น ยอมรับ 5 ข้อตามที่'ปลาไหล เติ้ง' ยื่นให้.......    



นายบรรหาร กล่าวว่า มาอีกแล้ว ไม่เอาแล้วขอไม่ตอบ เอาคำสร้างสรรค์ได้หรือไม่ จะให้ตนไหว้คุณหรือไม่ 

อยากเข้าร่วมรัฐบาล ให้ไหว้ก็ยอม.................................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

http://forum.serithai.net/index.php?topic=20495.0

ดร.เสรี เคยพูดจาแข็งขันว่า 'ปลาไหล เติ้ง' จะไม่ใช่คนพรรค์นั้น
จะต้องเป็นคนรู้จัก '30 ปี' ฯลฯ......

[\(^_^)/]

ตอนตกคลองน้ำครำพร้อมกับน้องแบม อาจได้รับ "เชื้อราขึ้นสมอง"
ตัวเดียวกันกับ "น้อง  บิ๊ก ดีทูบี " คงต้องปลูกถ่ายเซลล์สมอง หรือ สเตม เซลล์" ใหม่
ถึงจะจำความได้ว่า "ผู้ใหญ่ที่นับถือมา 30 ปี " ชื่ออะไร??    

[jerasak]

ตอนนั้นอุตส่าห์ให้ แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงออกทีวี..

"พรรคชาติไทย ยืนหยัดชัดเจน"

นึกไม่ถึงว่าเขาจะยืนหยัด "แบบนี้" ไปเสียได้
คนที่เลือกพรรคนี้คงผิดเิองนะครับ..
เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่ายืนหยัดตรงไหน 

[Familie]

เข้ามารับทราบข่าวสารเฉยๆ
คุยกับเขาไม่เป็นนะครับ คงไม่มีใครรำคาญผมนะครับ
ผมชอบอ่านมากกว่า

[Solidus]

ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้

[ปุถุชน]

**ดร.เสรีเสียใจอย่างแรง“เติ้ง”พลิกลิ้น
       
       ในช่วงท้าย ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึง ดร.เสรี วงศ์มณฑา ที่เป็นที่ปรึกษาให้กับพรรคชาติไทย และที่ผ่านมาได้ยืนหยัดต่อสู้กับระบบทักษิณร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเอเอสทีวีอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอดว่า หลังจากที่พรรคชาติไทยแสดงท่าทีจะเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว ทำให้ ดร.เสรีเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะช่วงก่อนเลือกตั้งได้ทุ่มเทต่อสู้เพื่อที่จะพูดถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณผ่านทางทีวีช่องต่างๆ ให้มากที่สุด รวมทั้งได้แก้ต่างให้กับนายบรรหาร ตอนที่ไปหาเสียงที่ภาคอีสานและบอกว่าไม่ได้จับขั้วกับประชาธิปัตย์
       
       นอกจากนี้ ดร.เสรียังยืนยันว่านายบรรหารจะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่เคารพมา 30 ปีต้องผิดหวังตามที่นายบรรหารได้แถลงเอาไว้ ถึงขั้นตำหนิการ์ตูนที่เขียนล้อว่าผู้ใหญ่ของนายบรรหารคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
       
       “อาจารย์เสรีได้ต่อสู้ทุ่มเทกับเอเอสทีวีอย่างมาก ในช่วงหนึ่ง ท่านถึงกับท้อใจ เพราะเห็นโพลและกระแสข่าวที่ออกมา แล้วปรากฏว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ท่านถึงกับหลั่งน้ำตาทางหน้าจอโทรทัศน์ และไม่ใช่แต่อาจารย์เสรีคนเดียวที่หลงเชื่อคุณบรรหาร คนอื่นๆ รวมถึงคำนูณ สิทธิสมาน ก็เคยหลงเชื่อ บรรหาร”
       
       ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ดร.เสรีเสียใจสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่รู้จะทำอย่างไร และเสียใจมากจนไม่อยากมาจัดรายการที่เอเอสทีวี แม้ว่าพวกเราทั้งหมดยังให้กำลังใจ และเชื่อมั่นในความกล้าหาญตั้งใจและทุ่มเทของอาจารย์ และอยากให้มาจัดรายการเหมือนเดิม และเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากต้องการให้ ดร.เสรีมาพูด เพราะเข้าใจสถานการณ์ที่ ดร.เสรีประสพอยู่เป็นอย่างดี และอยากจะฟังเสียงดร.เสรีวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คืออะไร....

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000006550




และอยากให้มาจัดรายการเหมือนเดิม และเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากต้องการให้ ดร.เสรีมาพูด เพราะเข้าใจสถานการณ์ที่ ดร.เสรีประสพอยู่เป็นอย่างดี และอยากจะฟังเสียงดร.เสรีวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คืออะไร....


มันไม่ใช่ความผิดของอาจารย์เสรีที่เคยยืนยัน รับรอง'ปลาไหล เติ้ง'....
แม้แต่คนสุพรรณฯ เพิ่งรู้สึกตัวว่าถูก 'ปลาไหล เติ้ง' หลอกลวงจนตายใจ....
'ปลาไหล เติ้ง' ได้เข้าร่วมรัฐบาลพรรคปล้นชาติ เพราะเหยียบย่ำความเชื่อถือของคนสุพรรณฯ....

ผมสนับสนุน เรียกร้องให้อาจารย์เสรีไปจัดรายการที่ ASTV อย่างเดิม.....
อย่าไปประชด ลงโทษตัวเองอย่างไร้ค่ากับ 'ปลาไหล เติ้ง' เลย ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง....

'ปลาไหล เติ้ง' อยากได้สมญานามใหม่เพิ่มขึ้น......
อยากจะเป็น' เด็กเลี้ยงแกะ' คนใหม่.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ริวเซย์]

ตอนนั้นอุตส่าห์ให้ แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงออกทีวี..

"พรรคชาติไทย ยืนหยัดชัดเจน"

นึกไม่ถึงว่าเขาจะยืนหยัด "แบบนี้" ไปเสียได้
คนที่เลือกพรรคนี้คงผิดเิองนะครับ..
เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่ายืนหยัดตรงไหน 

น่าจะเปลี่ยนเป็น"พรรคชาติไทย เปลี่ยนสีชัดเจน" มากกว่านะครับ

[ลับ ลวง พราง]

คราวหน้าต้องชูสโลแกน "สับปลับ นิยม" 

[ปุถุชน]

"เติ้ง-สุวิทย์"แถลงจุดยืนผสมพันธุ์"พลังแม้ว"
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2551 20:58 น.
 
 
        "บรรหาร"ควง"สุวิทย์"แถลงหน้าชื่นร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน อ้างหากจับขั้ว ปชป.ไม่มีทางตั้งรัฐบาลได้ พร้อมยืนยันแกนนำ พปช.ยอมรับเงื่อนไข 5 ข้อแล้ว ขณะเข้าเยี่ยมที่ ร.พ.รามาฯ
       
       เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ร่วมกันแถลงข่าว ประกาศจุดยืนในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนอย่างเป็นทางการ
       
       นายบรรหารอ้างว่าหากไปจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อนับเสียงก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ จึงได้นำ ส.ส. 61 เสียง ของพรรคชาติไทยและเพื่อแผ่นดินเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน
       
        ส่วนเงื่อนไข 5 ข้อที่ตั้งไว้ให้พรรคพลังประชาชนยอมรับก่อนนั้น ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนได้รับปากแล้วขณะที่เข้าเยี่ยมอาการป่วยของตนที่ ร.พ.รามาธิบดีเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
       
       อย่างไรก็ตาม นายบรรหารไม่ยืนยันว่า ในการยกมือเลือกนายกฯ ในสภานั้น ส.ส.พรรคของตนจะยกมือให้ใคร

 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007087
 
 
 
ส่วนเงื่อนไข 5 ข้อที่ตั้งไว้ให้พรรคพลังประชาชนยอมรับก่อนนั้น ทางแกนนำพรรคพลังประชาชนได้รับปากแล้วขณะที่เข้าเยี่ยมอาการป่วยของตนที่ ร.พ.รามาธิบดีเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา.....

คนไทยที่ไม่อยู่โรงพยาบาลบ้าคนไหน ยืนยันว่าแกนนำพรรคพลังประชาชนได้รับปาก.....
'หมอเลี๊ยบ' เลขาฯพรรคแถลงในนามพรรคพลังประชาชนว่าไม่ยอมรับ 5 ข้อนั้นเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล.....
วัฒนา อัศวเหมแกนนำพรรค'เพื่อแผ่นดิน' ก็ยืนยันว่า พรรคพลังประชาชนยังไม่ยอมรับ 5 ข้อ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า





       
 

[ปุถุชน]

  “เติ้ง” บ้วนสัจจะเกี่ยวก้อย ปชป. - ฉุนสื่อจี้หนุน “หมัก” นั่งนายกฯ
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2551 01:36 น.
 
 
 

บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน

 
 
 
  “ บรรหาร” บ้วนทิ้งสัจนิยมที่เคยให้ไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ อ้างเข้าใจกันและกัน พร้อมนัดกินข้าวปรับความเข้าใจ ยันยังเคารพ “ผู้ใหญ่” ที่นับถือมา 30 ปี แต่ต้องยึดประเทศชาติเป็นหลัก ฉุนขาดอัดสื่อหาเรื่องหลังจ่อปากถามไม่หนุน “หมัก” นั่งนายกฯ
       
       วานนี้ (17 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่าภายหลังจากนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ร่วมกันแถลงข่าวโดยประกาศจุดยืนในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นจึงตอบคำถามผู้สื่อข่าว
       
       โดยผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไข 5 ข้อที่พรรคเพื่อแผ่นดินตั้งขึ้นร่วมกัน แล้วจะมีความเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าพรรคพลังประชาชนจะปฏิบัติตามได้จริง นายสุวิทย์ กล่าวว่า สิ่งที่นายบรรหารได้ถามกับตัวแทนพรรคพลังประชาชนในวันที่เข้าเยี่ยมไข้ก็น่าจะมีความชัดเจนแล้ว โดยทางพรรคพลังประชาชนได้ตอบรับเงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
       
        จากนั้น นายบรรหารกล่าวเสริมว่า การตอบเราคงไม่ต้องไปเอาหนังสือสัญญาอะไร เราอาศัยเพียงแค่คำพูดก็น่าจะเชื่อถือได้ และคำพูดของคนที่น่าจะเชื่อได้มาพูดกับตัวแทนพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน  ก็คิดว่าน่าจะเชื่อถือได้เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน ส่วนถ้ามีการละเมิดเงื่อนไขในข้อใดข้อหนึ่งแล้วจะทำอย่างไรนั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง เพราะเหตุมันยังไม่เกิดขึ้น
       .......................................................................................................................................................
       ส่วนจะเคลียร์กับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องสัจนิยมอย่างไรนั้น นายบรรหาร กล่าวว่า เอาให้จบเรื่องเสียก่อนแล้วเดี๋ยวจะนัดไปทานข้าวที่ร้านช้อนเงินช้อนทอง เราเคยพูดกันแล้วตอนเลือกตั้งว่าถ้าเป็นอย่างนี้เราจะทำอย่างไร เราเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ต้องห่วงจะมีการนัดทานข้าวกันแน่นอน
      .........................................................................................................................................................       
        เมื่อถามในส่วนของผู้ใหญ่ที่นับถือกันมา 30 ปีจะว่าอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า “ ผมว่าแล้วว่าคุณจะต้องถามคำถามนี้ ผมขอพูดตามความจริงว่าผมยังเคารพนับถือตลอด ไม่มีเสื่อมคลาย แต่ต้องว่ากันเป็นกรณีไป ตอนนี้ต้องเอาประเทศชาติเป็นหลัก ผมขอถามว่าถ้ารัฐบาลจัดไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไร เราจะเอาอะไรไว้ก่อน เหมือนกับเมื่อปี 2540 ผมเป็นนายกฯ ปี 2539 ผมถูกพรรคประชาธิปัตย์ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจผม โดยเอาเรื่องเก่ามาพูดเล่นถึงปู่ย่าตายายพ่อแม่ผมทั้งหมดเลย จนทำให้บางคนที่ดูกันทางโทรทัศน์ต้องเตะโทรทัศน์แตกกระจายหมดเลย ผมก็เก็บไว้ในใจ
       
       ......................................................................................................................................................................             
       รายงานแจ้งว่า ภายหลังจากการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายบรรหารได้เดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าโรงแรง ซึ่งในขณะที่กำลังจะออกจากห้องแถลงข่าว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานที่ปรึกษาพรรค ซึ่งไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วย โดยก่อนหน้านี้ได้ออกมาให้สัมภาษณ์วิพากษ์นายบรรหาร อย่างดุดัน ได้เดินเข้ามาไหว้นายบรรหาร ซึ่งนายบรรหาร ไม่ได้รับไหว้แต่อย่างใด พร้อมทั้งมีสีหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา
       
       อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชา ว่าเหตุใดถึงเพิ่งมาปรากฏตัวหลังจากแถลงข่าวเสร็จ และการเข้ามาไหว้นายบรรหาร ครั้งนี้ หมายความว่าอย่างไร แต่ พล.ต.อ.ประชา ไม่ตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ทุกอย่างให้ไปถามนายสุวิทย์”

 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007126
 
 
เมื่อ'ปลาไหล เติ้ง' เป็น 'เฒ่าเลี้ยงแกะ' เพราะกลัว'อดอยากปากแห้ง' หรือ เพื่อประเทศชาติ.....
คนที่มีความคิดเห็นเชื่อว่า'ปลาไหล เติ้ง' เป็น 'เฒ่าเลี้ยงแกะ' เพื่อประเทศชาติ ช่วยยกมือขึ้น....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 
 

[ปุถุชน]

'อวยชัย' จวก'บรรหาร'ร่วมพรรคมารสูตรสำเร็จเพื่อตัวเอง
 
18 มกราคม พ.ศ. 2551 13:25:00
 
อดีตผู้สมัครพรรคชาติไทย จวก"บรรหาร"ตระบัดสัตย์สยบร่วมพรรคพปช. แค่สูตรสำเร็จ ชี้รัฐบาลใหม่อยู่ไม่เกินสิ้นปี ประกาศลาออกพรรค พร้อมนำองค์กรภาคประชาชนอีสานยุติการสนับสนุน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :  นายอวยชัย วะทา อดีตผู้สมัครส.ส.แบบสัดส่วน พรรคชาติไทย กล่าวว่ารู้สึกรับไม่ได้กับการประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย โดยสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมเครือข่ายภาคประชาชนที่ จ.ขอนแก่น เพื่อหารือเรื่องการลาออกจากพรรคชาติไทย 

โดยสหพันธ์สหกรณ์ภาคเกษตรอีสานและองค์กรภาคประชาชนทั้งหมด ที่เคยสนับสนุนพรรคชาติไทย จะขอยุติบทบาทตรงนี้ เพราะเหตุผลของนายบรรหารไม่ใช่เหตุผลที่ต้องการทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงสูตรสำเร็จของพรรคที่อยากเข้าร่วมรัฐบาลเท่านั้น ตอนนี้ไม่อยากให้ประชานคาดหวังกับนักการเมืองเหล่านี้ ประชนชาต้องพึ่งตนเอง ตอนนี้มันชัดเจนแยกขั้วระหว่างเทพกับมาร แต่ไม่ได้หมายความว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเทพ แต่ประชาชนคือเทพ แต่เทพต้องแย่ในวันนี้ คนที่ใกล้ชิดนายบรรหาร คงดูกระแสสังคมว่าจะรุนแรงแค่ไหน หากรุนแรง เชื่อว่าคงมีการถอยหลังกันบ้าง แต่สำหรับตัวนายบรรหารคงไม่ฟังกระแสสังคม 

นายอวยชัย กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่เกินสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะยิ่งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้การเมืองถูกแทรกแซงอย่างหนักจากกลุ่มอำนาจเก่า ความสมานฉันท์ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน การเป็นรัฐบาลหลายพรรค จะมีการแย่งชิงผลประโยชน์ ขอให้ประชาชนเฝ้าจับตาโครงการต่างๆที่จะไปสู่รากหญ้า เพราะจะมีเม็ดเงินจากตรงนี้มาก และนักการเมืองต่างเฝ้าตะครุบอยู่ ที่นายบรรหารถูกถามเรื่องผู้มีพระคุณแล้วบอกว่า เรื่องการเมืองให้ลืมๆไปบ้าง ก็อยากบอกกับเด็กรุ่นหลังเหมือนกันว่า ให้ลืมนักการเมืองรุ่นเก่าให้หมด ประเทศชาติจะได้เจริญมากกว่านี้
 

 http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/18/WW03_0301_news.php?newsid=221485


'คอการเมือง'ที่ไม่ได้เป็นลิ่วล้อทักษิณหรือหมัก เมถุน คอยติดตามว่าการรวม 6 พรรคการเมืองเป็นรัฐบาลอย่างนี้
จะเกิด'สมานฉันท์'ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สังคมและประเทศชาติอย่างไรบ้าง...

[Cherub Rock]

รอดูคัทเอาท์

[ปุถุชน]

“กัญจนา” อ้างกติกาหนุน “หมัก” เป็นนายกฯแล้วลั่นไม่เป็น รมต.
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2551 17:03 น.
 
 
 
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา เคยแถลงข่าวตอบโต้นายนพดล ปัทมะ อย่างรุนแรงหลังถูกกล่าวหาว่านายบรรหารต่อรองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2550 ที่ผ่านมา

    “กัญจนา” ขู่ฟ้อง “ชูวิทย์” อ้างให้ร้ายพ่อ อ้างไม่มีทางเลือกต้องร่วม “พลังแม้ว” โหวตหนุน “หมัก” เป็นนายกฯ ลั่นไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล พร้อมทำใจถูกเรียก “ลูกปลาไหล” ระบุเรียกได้เรียกไป
       
       วันนี้ (18 ม.ค.) ที่พรรคชาติไทย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กรณีแถลงข่าวพาดพิง นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ว่า ส่วนตัวไม่มีความเห็นกับพฤติกรรมของคนนี้อยู่แล้ว อยากทำอะไรก็ทำไป แต่อยากให้พึงสังวรว่ายังมีกฎหมายหมิ่นประมาทอยู่ ดังนั้น จะพูดจาอะไรก็ให้ระวังไว้ให้ดี สำหรับคนนี้ในการแสดงความคิดเห็นไม่เคยเข้าหูตน แต่ความเห็นที่มีคุณค่าก็พร้อมที่จะยอมรับ ซึ่งขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอยู่ อาจจะมีการดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดในข้อหาหมิ่นประมาทได้ ส่วนที่ นายชูวิทย์ ได้ขุดอดีตของบิดามารดาขึ้นมาเปรียบเปรยนั้น อยากบอกว่าอาชีพตัดเสื้อผ้าเป็นอาชีพสุจริต มันเสียหายตรงไหน ตนยังไม่เคยไปประณามคนบางคนที่ทำอาชีพที่สังคมรังเกียจเลย และถ้าไม่มีช่างตัดเสื้อถามว่าคุณจะมีเสื้อใสหรือไม่
       
       น.ส.กัญจนา กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์พรรคชาติไทยในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็รู้สึกอึดอัดใจพอสมควร แต่ด้วยเหตุผลรอบด้าน และด้วยภาวะแวดล้อม เราต้องคำนึงถึง ซึ่งคุณพ่อ (นายบรรหาร ศิลปอาชา) ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านกระบวนการทางความคิดมามาก ท่านคงคิดพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ด้วยเหตุผลรอบด้านเราไม่มีทางเลือก ถึงจะไม่ได้อยากร่วมรัฐบาล และได้มีการพูดกับพรรคประชาธิปัตย์ มาตลอด แต่ด้วยคะแนนเสียงที่ออกมาอย่างนี้ ถึงอย่างไรพรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้ ถ้าเราไม่เข้าร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชาชนก็จัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงปริ่มๆ และคนที่เป็นรัฐมนตรีก็จะเกิดความชะงักงันทางการเมือง ทำให้บางทีก็เลือกทางเดินอย่างที่ใจนึกไม่ได้ โดยเฉพาะที่ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง คือ การแบ่งแยกทางความคิดอย่างชัดเจน ระหว่างคนเมืองกับคนในชนบท เป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความรู้สึกลำบากใจในการที่จะเลือก นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เมื่อกติกาเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องเคารพ เมื่อเราอยู่ภายในระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะเปิดอิสระให้เลือกนายกฯ แต่เมื่ออยู่ภายใต้พรรคการเมือง เราก็ต้องเคารพมติพรรค ความรู้สึกส่วนตัวต้องเก็บเอาไว้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามครรลอง การที่ นายบรรหาร ระบุว่า พร้อมเข้าร่วมรัฐบาล แต่เรื่องการโหวตนายกฯให้อยู่ที่มติของที่ประชุม ก็ถือว่าเป็นการพูดไปตามขั้นตอน แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามกติกา เมื่อถามว่า มีการพูดคุยถึงความอึดอัดใจกับคุณพ่อหรือไม่ น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ก็สะท้อนกันและกันอยู่ตลอด ตนเองก็ไม่ชอบที่จะถูกเรียกว่า พรรคปลาไหล แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ทำใจ จะเรียกก็เรียกไป ไม่ขอเถียง
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการจับตามองถึงตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า จะมีบุคคลใกล้ชิดและบุตรของนายบรรหาร รับตำแหน่งแน่นอน น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เรื่องของคนอื่นไม่ขอพูด แต่สำหรับตนเองจะไม่มีตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้นในรัฐบาลชุดนี้ และรับรองว่าจะไม่มีชื่อ “กัญจนา” เป็นรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ซึ่งไม่เกี่ยวว่าเป็นเพราะพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่โดยวิสัยของตนแล้ว ไม่ชอบมีตำแหน่ง แต่ครั้งที่แล้วรับตำแหน่งด้วยเหตุบางประการ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่กลัวโดยวิพากษ์วิจารณ์ หากมั่นใจก็จะไม่กลัว แต่เมื่อเลือกได้ที่จะไม่เป็น ก็ขอไม่เป็นดีกว่า ซึ่งได้แจ้งให้คุณพ่อได้ทราบแล้ว ท่านก็เคารพความเห็นของตน ยอมรับว่า การที่ตนปฏิเสธตำแหน่งครั้งนี้ เป็นการเปิดทางให้ผู้ใหญ่คนอื่นของพรรคไปโดยอัตโนมัติ สำหรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคที่แต่งตั้งเข้าไปเราก็ต้องมั่นใจ แต่จะคอยติดตามและตรวจสอบการทำงาน รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะในส่วนที่ยังมีช่องว่างอยู่
       


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007456


คนไทยที่ไม่ใช่คนรัก'แม๊ว หน้าเหลี่ยม' รัก'หมัก เมถุน' ต้องขอบคุณ สำนึกในบุญคุณ
ความเสียสละกาย สละชื่อเสียงเกียรติยศ สละความรักนับถือผู้ใหญ่กว่า 30 ปี ฯลฯ ของ'ปลาไหล เติ้ง'
หรือ 'เฒ่าเลี้ยงแกะ' คนใหม่เข้าร่วมรัฐบาลพลังแม๊ว....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

แปลกแต่จริง คนที่ไม่ใช่คนรักพรรค์นั้น ฟังคำอธิบาย คำชี้แจง
ยกแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำสุพรรณมาอ้าง ก็ไม่คล้อยตามสักที.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


 
 

[ปุถุชน]

  "เติ้ง" หดหัว ไม่ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2551 14:04 น.
 
 
       นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน เดินทางถึงโรงแรมสุโขทัย สถานที่แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันของ 6 พรรคการเมืองแล้ว โดยเปิดเผยว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และการจัดทำนโยบาย ส่วนการจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีนั้น มีการพูดคุยในเบื้องต้นแล้ว ขณะที่พรรคชาติไทยได้แจ้งต่อพรรคพลังประชาชนแล้วว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมแถลงข่าวได้ โดยได้ส่ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค มาร่วมแถลงข่าวแทน
        สำหรับบรรยากาศล่าสุด นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เดินทางมาถึงแล้ว โดยทั้งหมดจะหารือกันก่อนเป็นเวลาประมาณ 15 นาที ก่อนแถลงข่าวร่วมกัน

 
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000007669



'หมัก เมถุน' น่าจะโกรธเคือง'ปลาไหล เติ้ง' ที่ให้รับหน้าคนเดียว......
นักข่าวสนใจจะถาม 'หมัก เมถุน' และ 'ปลาไหล เติ้ง'........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[Doss]

เติ้ง ทำถูกแล้ว ที่เห็นประชาชน ดีกว่า ป๋าป.

[Kittinunn]

เติ้ง ทำถูกแล้ว ที่เห็นประชาชน ดีกว่า ป๋าป.

ขยายความด้วยครับว่า ประชาชนที่สนุนสมัคร 
พูดความจริงครึ่งเดียวนี่หว่า

[ปุถุชน]

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 10906

  "เติ้ง" ฉุน เครียด สื่อซักกั๊กหนุน"หมัก"



ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักกับอาการ "น็อตหลุด" ของ "นายบรรหาร ศิลปอาชา" หัวหน้าพรรคชาติไทย (ชท.) แม้จะเข้าสู่ "วัยทอง" หลายปีแล้วก็ตาม แต่พอเข้าสู่ช่วงผสมพันธุ์ตั้งรัฐบาล "บุรุษวัย 75" กลับแสดงอาการ "เม้งแตก" ใส่สื่อหลายครั้ง

โดยเหตุการณ์ที่เป็นที่โจษขานสุด หนีไม่พ้น การตะเพิดผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ออกจากที่ทำการพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม หลังยิงคำถามจี้ใจดำกรณีปรากฏข่าวต่อรองขอตำแหน่งนายกฯ คนที่ 25

หลังจากนั้นนายบรรหารก็พยายามสงบปากสงบคำ งดให้สัมภาษณ์ยาวๆ

กระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 17 มกราคม ชท. มีคิวแถลงร่วมกับ พผ. ที่โรงแรมปาร์ค นายเลิศ ถนนวิทยุ โดยมีทั้ง "แกนนำ-แกนตาม" ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง

นายบรรหาร : ขอนมัสการสื่อมวลชนทุกคน ผมเป็นใบ้ไป 2 สัปดาห์กว่า เพราะสื่อมวลชนพยายามสอบถามผมเรื่องการเมือง แต่พอบอกว่าต้องรอให้ครบ 15 วันก่อน (ก่อนจะร่ายยาวถึงที่มาที่ไปในการจับมือของ 2 พรรค ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2550 พร้อมยกสมการการเมือง และเหตุผลอื่นๆ ขึ้นมาอธิบาย)...ขอประกาศต่อประชาชนและสื่อมวลชนว่า ชท. และ พผ.ซึ่งมี 61 เสียง ยินดีจะเป็นรัฐบาลร่วมกับ พปช.

  ผู้สื่อข่าว: จะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค พปช. เป็นนายกฯ หรือไม่

นายบรรหาร : "ไม่ใช่ ผมบอกให้จัดรัฐบาล อย่าลงลึก ต้องโหวตเลือกประธานสภาก่อน"

(จากนั้นก็ชิงยุติการขยายความเพิ่มเติมด้วยการส่งไมค์ให้ "นายสุวิทย์ คุณกิตติ" หัวหน้าพรรค พผ. ใช้เวลา 3 นาที)

  ผู้สื่อข่าว: ขณะนี้ พปช. ยังไม่ตอบรับเงื่อนไข 5 ข้อเป็นทางการ เหตุใดจึงมั่นใจจะร่วมงานด้วย

นายบรรหาร : การตอบตกลงไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ อาศัยคำพูดก็ได้ เมื่อเขารับรองกับแกนนำของ 2 พรรคแล้ว เราก็ต้องให้เกียรติ

ผู้สื่อข่าว: หาก พปช. ผิดเงื่อนไข จะถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่

นายบรรหาร :เหตุยังไม่เกิด

(จากนั้นก็มีคำถามหลากหลายจากผู้สื่อข่าวหลายคน อาทิ การพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ การจัดสรรโควต้ารัฐมนตรี ฯลฯ ซึ่งนายบรรหารได้ตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย)

  ผู้สื่อข่าว : ขอทราบจุดยืน 2 พรรค ต่อการสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกฯ

นายบรรหาร: มันก้าวไปไกลเกินไปแล้วมั้ง

ผู้สื่อข่าว : โดยหลักการนายสมัครเป็นหัวหน้าพรรคเสียงข้างมาก ควรสนับสนุนหรือไม่ 

นายบรรหาร : ผมบอกแล้วว่าต้องไปโหวตในสภา

  ผู้สื่อข่าว : พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บอกว่านายสมัครเหมาะสม

นายบรรหาร : ไม่ตอบ

  ผู้สื่อข่าว : ไม่ตอบ แสดงว่าไม่สนับสนุนใช่หรือไม่

นายบรรหาร : หนูอยู่ฉบับไหน ถามหาเรื่องไม่ดีนะ ไม่ดี

(ขณะเดียวกันมีการถามคำถามจากผู้สื่อข่าวรายอื่นในอีกมุมหนึ่งของห้อง เพื่อถามนายสุวิทย์ ในระหว่างนั้น

นายบรรหารได้หันมามองหน้าผู้สื่อข่าวคนเดิมที่ถาม)

นายบรรหาร : หนูอยู่ฉบับไหน ถ้าบอกผมมา ผมจะตอบคำถามให้

  ผู้สื่อข่าว : ประชาชาติธุรกิจ

นายบรรหาร :อ๋อ ประชาชาติฯ พวกเดียวกับมติชน วันก่อนก็ถามผมไม่ดีเลย ผมจะบอกให้นะว่าเรื่องนายกฯ มันต้องโหวตในสภาฯ เป็นเรื่องของผู้แทนฯ ผมจะไปตอบแทนได้ยังไง เข้าใจนะ

ผู้สื่อข่าวอีกคนถาม: เหตุใดจึงมั่นใจในคำพูดแกนนำ พปช. มากกว่าพฤติกรรมที่แสดงออก

นายบรรหาร :ผมตอบจบไปแล้ว อย่าย้ำ ผมตอบจบแล้ว

(เวลาผ่านไป มีคำถามใหม่แทรกเข้ามา แต่ตอบไปได้ 1-2 คำถาม นายบรรหารยังติดใจกับคำถามผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้)

นายบรรหาร: หนูที่ถามเมื่อกี้อยู่ฉบับไหน

  ผู้สื่อข่าว: มติชน

นายบรรหาร : อ๋อ มติชนอยู่กับประชาชาติ เดี๋ยวผมต้องพูดกับผู้ใหญ่คุณแล้ว ถ้าคำพูดคนมันเชื่อถือไม่ได้ จะเชื่อในอะไร มันไม่มีความจริงใจกันแล้ว

ผู้สื่อข่าว : เห็นนายสมัครออกมาพูดถึงมือสกปรก มือที่มองไม่เห็น จึงสงสัยว่า 2 พรรคนี้ติดใจพฤติกรรมเหล่านี้หรือเปล่า



นายบรรหาร: อย่าให้ผมตอบทะเลาะกับใครเลย ไม่เอา

  ผู้สื่อข่าว : ในเมื่อ พปช. ได้เสียงข้างมาก ทำไมจึงไม่มีประกาศสนับสนุนหัวหน้า พปช. เป็นนายกฯ

นายบรรหาร : คุณถามใคร

  ผู้สื่อข่าว : ถามหัวหน้าพรรคทั้ง 2 คน

นายบรรหาร : ดี งั้นให้สุวิทย์ตอบ

(พอนายสุวิทย์ตอบจบ)

นายบรรหาร : ผมรู้สึกจะถูกรุกไล่แล้ว เนื้อหาที่แถลงก็ครบถ้วนแล้ว ขอยุติการให้สัมภาษณ์แค่นี้ (จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที)

เหล่านี้คืออาการ "มึน เครียด เม้งแตก" ที่เกิดขึ้นกับนายบรรหาร ในเวลาเพียง 20 นาที ที่ถูกยิงคำถามจากสื่อมวลชน!!!

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol03190151&day=2008-01-19&sectionid=0133



ถ้าไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของ'หมัก เมถุน' แถลงร่วมจัดตั้ง 6 พรรคฯ
เปรียบเทียบกับ 'ปลาไหล เติ้ง' แล้ว จะไม่รู้ว่าใครลอกเลียนสไตล์การพูดของใคร.....

คาดว่าจะร่วมหัวจมท้ายกัน จึงต้องมีนิสัยและคำพูดสไตล์เดียวกันกระมั่ง.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[สมชายสายชม]

เมื่อก่อน ใครๆก็เรียก "หลงจู๊"

เดี๋ยวนี้ตกต่ำอดอยากมาหลายปี จึงต้องเรียกว่า "เล่าเบ๊"

ถ้าไอ้หมักเมถุนได้เป็นนายก คงจะต้องตุน "โครงไก่" เผื่อขาดตลาด

ถ้า "เล่าเบ๊บรรหาร" ได้เป็นนายก คงจะต้องตุน "ปลาไหล" ไว้ทำ "ปลาไหลต้มเปรต"

...

[ปุถุชน]

  “เติ้ง” อ้างเจ็บเพื่อชาติร่วม “พลังแม้ว” หนุน “หมัก” นั่งนายกฯชัดเจน
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มกราคม 2551 13:49 น.
 
 
 
 
       “เติ้ง” แจงที่ประชุมพรรค อ้างความจำเป็นร่วม “พลังแม้ว” ยอมไฟเขียว “หมัก” เป็นนายกฯเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ ย้ำไม่รับตำแหน่งทั้งตัวเอง และลูกๆ ให้สมาชิกคนอื่นเป็นรัฐมนตรีแทน
       
       วันนี้ (21 ม.ค.) ที่พรรคชาติไทย ตั้งแต่เวลา 09.30 น.นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เป็นประธานประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยมี ส.ส.ใหม่ทุกคนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งมีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ในที่ประชุม นายบรรหาร ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ว่า พรรคเราคาดหวังไว้พอสมควร แต่ได้ผลมาผิดเป้าไปกว่า 10 ที่นั่ง เนื่องจากต้องยอมรับว่าสู้กระแสไม่ได้ สำหรับการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ก็อย่างที่ได้แถลงข่าวถึงเหตุผลไปแล้ว เพราะถ้าไม่ตัดสินใจเดินหน้าเช่นนี้การเมืองก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ บ้านเมืองติดล็อก แล้วมีปัญหาอีก
       
       ส่วนเรื่องความคืบหน้าเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนั้น คงต้องรอให้มีความชัดเจนเรื่องตั้งนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งคาดว่า น่าจะรู้ชัดประมาณวันที่ 25 ม.ค.ส่วนข่าวที่เขียนในหนังสือพิมพ์หรือสื่อต่างๆ เสนอไปนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เป็นการคาดการณ์เท่านั้น ส่วนของจริงต้องอ่านหน้า 2 นสพ.มติชน ฉบับวันนี้ (21 ม.ค.) อย่างไรก็ตาม นายบรรหาร ได้กล่าวถึงตำแหน่งรองประธานสภาให้ที่ประชุมทราบเพียงว่า พรรคชาติไทยไม่ส่งชื่อใครไปเป็นรองประธานสภา และสำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น หากพรรคพลังประชาชนเสนอชื่อใครมาพรรคเราก็ต้องมีการเรียกประชุม ส.ส.ของพรรคก่อน
       
       นายบรรหาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดโควตารัฐมนตรี ว่า ยังไม่ถึงตอนนั้น ต้องรอให้เปิดรัฐสภาก่อน จากนั้นก็มีการเลือกตั้งประธานสภา และรองประธานสภา และรอโปรดเกล้าฯ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหน จากนั้นประธานรัฐสภาก็ต้องนัดประชุม เพื่อเลือกนายกฯจากนั้นถึงจะมีประชุมพรรคร่วมรัฐบาลว่าใครจะได้อะไรบ้าง แต่ประเพณีที่เคยทำมาเป็นไปตามอัตราส่วน ส่วนที่สื่อลงว่าพรรคชาติไทยได้ 4-5 ที่นั่งไม่ใช่ทั้งหมด และตนยังไม่รู้เรื่องเลย
       
       เมื่อถามว่า การพิจารณาคุณสมบัติบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีของพรรคอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า จะยึดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ คนที่ช่วยเหลือพรรค และอยู่กับพรรคมานานพอสมควรแล้ว ใครที่อยู่ในพรรคชาติไทยก็ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเกือบทุกคน ตอนนี้ยังมีค้างตั้งแต่ปี 2527 ก็มี ซึ่งจะต้องพิจารณาหลายส่วนด้วยกัน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยได้ 5 ตำแหน่ง อัตราส่วนตรงนี้พอใจหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ใครบอก พรรคพลังประชาชนยังไม่บอกมาเลย ตนยังไม่รู้เรื่องเลยว่าได้กี่ที่นั่ง เมื่อถามว่าการจัดสรรโควตาไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่เป็น สมัยนี้ไม่เอาแล้ว เงื่อนไขต่อรองไม่มีแล้ว สุดแท้แต่เขาจะพิจารณาให้ว่าความเหมาะสมและความพอดีอยู่ตรงไหนเท่านั้น
       
        ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าร่วมรัฐบาลพรรคค่อนข้างจะถูกโจมตีมากจะชี้แจงอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าจะให้ทำอย่างไร ความจริงแล้วถ้าเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายที่ไม่อยากให้เข้าก็โทร.มาเล่นงานเรา มันโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เข้าก็ถูกเล่นงาน ไม่เข้าก็ถูกเล่นงาน
       
       “ ที่ตัดสินใจเพราะเรามองเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เราต้องมีรัฐบาล จะปล่อยให้สุญญากาศเกิดขึ้นไม่ได้ และรัฐบาลก็มีความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งไปแล้วปริ่มน้ำก็อยู่ไม่ยืด ซึ่งตรงนี้เราใช้เวลาพิจารณานานมากพอสมควร ดังนั้น เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม แล้วจะให้ทำอย่างไร ผมก็ถามคนที่ต่อว่ามาจะทำอย่างไรก็ตอบไม่ได้ นี่คือ ข้อเท็จจริง ถึงตรงนี้ผมเรียนตรงๆ ว่า ไม่เอาอะไรอีกแล้ว อะไรก็ไม่เป็น ลูกก็ไม่เป็น แต่เราอยากเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ถ้าหากมีรัฐบาลที่ดี มีความมั่นคง เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ความเชื่อถือก็กลับคืนมาในทั้งและต่างประเทศ ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่อึมครึมเหมือนตลอดเวลา” นายบรรหาร กล่าว และว่า หากพรรคพลังประชาชนจะรวมกับพรรคเล็กก็สามารถตั้งรัฐบาลได้ ไม่ใช่จำเป็นต้องพึ่งพรรคชาติไทย และเพื่อแผ่นดิน แต่มันก็ปริ่ม ๆ และอันตรายมาก
     ........................................................................................................................................................................... 
            เมื่อถามว่า พรรคชาติไทย จะหนุน นายสมัคร เป็นนายกฯหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็พรรคพลังประชาชนยังไม่บอกมาว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ก็พูดไม่ได้ เมื่อพรรคพลังประชาชนเขาก็ยังไม่บอกว่าเสนอใคร เมื่อถามย้ำว่า หากเขาเสนอใครมาพรรคชาติไทยก็พร้อมสนับสนุนใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็แน่นอน เขาเสนอใครมาเราตัดสินใจร่วมรัฐบาลแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น
       
       เมื่อถามถึงความสง่างามของนายสมัครในการนั่งตำแหน่งนายกฯ เนื่องจากติดคดีอยู่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ขอร้องเถอะ ขอร้องเถอะ
       
       นางสาวปอรรัชม์ ยอดเณร รองโฆษกพรรคชาติไทย แถลงภายหลังการประชุมกรรมกรรมการบริหารพรรค ว่า ในการประชุม นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน ซึ่งหัวหน้าพรรคชาติไทยได้แจ้งว่าเมื่อมีการชั่งน้ำหนักแล้ว ระหว่างการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าหากพรรคชาติไทยเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชนประเทศชาติน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ซึ่งสมาชิกพรรคก็เห็นด้วย เนื่องจากการเข้าร่วมรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและทำงานต่อไปได้
       
       นายศิริโชค ศิริวรรณภา รองโฆษกพรรคชาติไทย กล่าวว่า ที่ประชุมได้แจ้งให้สมาชิกทราบว่าพรรคชาติไทยได้ ส.ส.ทั้งหมด 34 คน และได้มีการแนะนะตัว ส.ส.นอกจากนี้ การที่พรรคชาติไทยโดนใบแดง 2 ใบที่จังหวัดชัยนาทนั้น หัวหน้าพรรคชาติไทยก็ได้ย้ำว่าต่อไปห้ามทำผิดข้อกฎหมายต่างๆ และย้ำไม่ให้ทุกคนประมาทและให้ลงพื้นที่อย่างหนัก
       


 http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000008244
 


ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าร่วมรัฐบาลพรรคค่อนข้างจะถูกโจมตีมากจะชี้แจงอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าจะให้ทำอย่างไร ความจริงแล้วถ้าเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายที่ไม่อยากให้เข้าก็โทร.มาเล่นงานเรา มันโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เข้าก็ถูกเล่นงาน ไม่เข้าก็ถูกเล่นงาน
       
       “ ที่ตัดสินใจเพราะเรามองเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เราต้องมีรัฐบาล จะปล่อยให้สุญญากาศเกิดขึ้นไม่ได้ และรัฐบาลก็มีความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งไปแล้วปริ่มน้ำก็อยู่ไม่ยืด ซึ่งตรงนี้เราใช้เวลาพิจารณานานมากพอสมควร ดังนั้น เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้วก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม แล้วจะให้ทำอย่างไร ผมก็ถามคนที่ต่อว่ามาจะทำอย่างไรก็ตอบไม่ได้ นี่คือ ข้อเท็จจริง ถึงตรงนี้ผมเรียนตรงๆ ว่า ไม่เอาอะไรอีกแล้ว อะไรก็ไม่เป็น ลูกก็ไม่เป็น แต่เราอยากเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ถ้าหากมีรัฐบาลที่ดี มีความมั่นคง เศรษฐกิจก็ดีขึ้น ความเชื่อถือก็กลับคืนมาในทั้งและต่างประเทศ ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่อึมครึมเหมือนตลอดเวลา” นายบรรหาร กล่าว และว่า หากพรรคพลังประชาชนจะรวมกับพรรคเล็กก็สามารถตั้งรัฐบาลได้ ไม่ใช่จำเป็นต้องพึ่งพรรคชาติไทย และเพื่อแผ่นดิน แต่มันก็ปริ่ม ๆ และอันตรายมาก


รัฐบาลชวน II มีคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ และ รวมกับพรรคการเมืองอื่น ๆ รวมกันก็'ปริ่ม ๆ' เหมือนกัน
แต่สามารถบริหารรัฐบาลจนเกือบหมดวาระ แม้ว่า'ท่อน้ำเลี้ยง'ของพรรคความหวังใหม่จะให้ สส.ควม. ทยอยลาออกก็ตาม.....

แต่เราอยากเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
ถ้าหากมีรัฐบาลที่ดี มีความมั่นคง เศรษฐกิจก็ดีขึ้น
ความเชื่อถือก็กลับคืนมาในทั้งและต่างประเทศ
ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่อึมครึมเหมือนตลอดเวลา....”

ดังนั้น'หมัก เมถุน' สามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ 3 พรรคการเมืองได้เช่นเดียวกัน
และ'เฒ่าเลี้ยงแกะ' ไม่ควรดูแคลนฝีมือ'หมัก เมถุน' ที่ไม่แคร์ ไม่สนใจ 5 ข้ออ้างบังหน้าของ'ปลาไหล เติ้ง'....


แล้วจะให้ทำอย่างไร ผมก็ถามคนที่ต่อว่ามาจะทำอย่างไรก็ตอบไม่ได้......
น่าจะเป็นคำถามคำตอบของ'คนป่วยในโรงพยาบาล'ที่ชอบใจความอ่อนน้อม
อ่อนหวานมากกว่าผลประโยชน์ประเทศชาติที่แท้จริง....

[ปุถุชน]

'ปลาไหล เติ้ง' เป็นได้แค่'เฒ่าเลี้ยงแกะ'
กลัว'อดอยากปากแห้ง'
มากกว่ารักษา'สัจจนิยม'และ'ความถูกต้อง'

[iam xyz]

ไม่มีสัจจะในหมู่โจรฉันท์ใด ก็ย่อมไม่มีสัจจะในหมู่นักการเมืองฉันท์นั้น ปลาไหลก็คือปลาไหลวันยังค่ำ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร  (พรรค)ชาติไทยไม่มีวันตาย นี้คือบทสรุปของนักการเมืองอาชีพครับ

[ปุถุชน]

สำหรับการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ก็อย่างที่ได้แถลงข่าวถึงเหตุผลไปแล้ว เพราะถ้าไม่ตัดสินใจเดินหน้าเช่นนี้การเมืองก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ บ้านเมืองติดล็อก แล้วมีปัญหาอีก

ข้อความโดย 'ปลาไหล เติ้ง'

 

  &แม้ว่า คนอีสานจะ ถูก นายสมัคร สุนทรเวช  “ป๋าหมาก” ไล่ส่ง รื้อถอนเต้นส์หน้ารัฐสภา มาแล้ว   คราวที่มาขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล “ป๋าหมาก” ในฐานะนายกเทศมนตรีขณะนั้น สั่งให้ตำรวจเทศกิจรื้อถอนเต้นส์ออกไป  ไล่จับชาวบ้านที่มาประท้วงขึ้นรถกะบะ ย้ายไปให้พ้นจากหน้ารัฐสภา กระทำการอย่างไล่หมูไล่หมาก็ไม่ปาน ..ลูกหลานอีสาน ลืมกันหมดแล้วหรือไร..คนไทยในต่างประเทศ อย่าง'ชาติเชื้อ ชนบท' ยังจำได้ และไม่ให้อภัยกับการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรม ของ “คนถ่***” ที่ทำได้ลงคอกับคนไทยด้วยกัน

http://www.sereechai.com/demo/news.php?no=-1&sec=1&col=0


คนที่ให้โอกาส และทำให้'หมัก เมถุน' จัดตั้งรัฐบาลได้ ไม่ใช่'ปลาไหล เติ้ง' ดังที่อวดอ้าง ใช้'ทองเหลว'ปิดหน้าขณะนี้....
แต่เป็นชาวอิสานที่ลืมเลือนครั้งหนึ่ง 'หมัก เมถุน'เป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ไล่พวกเขาเป็นหมู เป็นหมามาแล้ว....

[55555]

สำหรับการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลนั้น ก็อย่างที่ได้แถลงข่าวถึงเหตุผลไปแล้ว เพราะถ้าไม่ตัดสินใจเดินหน้าเช่นนี้การเมืองก็จะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ บ้านเมืองติดล็อก แล้วมีปัญหาอีก

บรรหาญ เรียน คณิตศาสตร์ ป.2  มานานเกินไปหน่อย....จึงอาจบวกเลขไม่ถูก......

หากพรรคชาติไทย....ไม่เข้าร่วม พรรคปล้นชาติ ก็จะจัดตั้งรัฐบาล ด้วย สส. 280 เสียง......เพียงพอ จะทำให้ หมัก เดินหน้าต่อไป สู่ การถูกขับไล่ เหมือนหมู เหมือนหมา.......

บรรหาญ น่าจะ บอกตรง ๆ กับประชาชน ว่า ข้อเสนอ เรื่องรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องใหญ่.....แต่ ข้อเสนอ เรื่อง เงินทุน ในการหาเสียง บวกดอก เบี้ย(โคตรดี) มัน ยั่ว จนถึงกับ ทนไม่ได้ ต้องหมอบ เข้าไปหา ทักษิณ เพื่อ หนุน พรรคปล้นชาติให้รัฐบาลที่เข้มแข็ง ....ข้อ เสนอ มันดี จนกระทั้ง....ให้ยอมแก้ผ้า กลางถนน ก็ เอา ครับ

เก็บเงินเอาไว้เถอะครับ เก็บเอาไว้เยอะ ๆ ....ไม่มีแรงใช้ ก็ เอา ไปกองไว้ในส้วมก็ได้ ....เอาไว้ ชื่นชมตอน ลุงนั่งขี้ ก็ยังดี...

[ปุถุชน]

วันที่ 18 มกราคม 2551 เวลา 00:00 น. | จำนวนผู้อ่าน 1411 คน ผู้โหวต 0 คน


  ลืม 'ฝนห่าใหญ่'
 คำพูดของ “พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ” อดีตนายกรัฐมนตรีที่ล่วงลับไปแล้ว เคยกล่าวไว้ว่า “ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด หลังพูดคำพูดเป็นนายเรา” ดูจะเป็นประโยคที่อมตะและสามารถนำมาใช้ได้ในทุกยุคสมัย ยิ่งในช่วงที่ต้องพิสูจน์ว่า นักการเมืองคนไหนรักษาคำพูดหรือมีสัจจะหรือไม่
 
ถ้าจะลองถอดความหมายคำพูดของพล.อ.ชาติชายคงพออธิบายได้ว่า เมื่อใดก็ตามถ้าหากเราพูดอะไรหรือสัญญาอะไรไว้ และคนรู้ในสิ่งที่เราพูดไปแล้ว ต้องยึดถือและปฏิบัติตามคำพูดนั้น แต่ถ้าหากตราบใดเรายังไม่เคยพูดอะไรไว้ ก็ยังไม่มีอะไรผูกมัดหรือบังคับให้เราทำตามที่พูดไว้ได้
 
  ผมว่าคนที่กำลังเผชิญบททดสอบครั้งสำคัญตามคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีเคยกล่าวไว้ คงหนีไม่พ้นนักการเมืองที่ชื่อ   “บรรหาร ศิลปอาชา” ที่ไม่รู้เป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ เพราะบุคคลท่านนี้ก็เคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ชาติชายในสมัยที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทย และมีนายบรรหารเป็นเลขาธิการพรรค
 
ช่วงที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคชาติไทยพยายามเอาตัวรอดจากคำพูดที่ว่า “จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่เคารพมา 30 ปี ผิดหวัง” โดยอ้างว่าแกนนำพรรคพลังประชาชนได้รับปากแล้วว่าจะดำเนินการตามเงื่อนไข 5 ประการ จึงตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล แต่ถ้าหากรายชื่อ ครม. ที่จะประกาศกันอีกไม่กี่วันข้างหน้า มีบุคคลที่เคยเป็นแกนนำ นปก. ร่วมอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าหัวหน้าพรรคชาติไทยจะตอบคำถามกับสังคมอย่างไร
 
เพราะล่าสุดมีข่าวว่าทั้ง “จักรภพ เพ็ญแข” จะได้ดำรงตำแหน่งเป็น รมช.ต่างประเทศ หรือแม้กระทั่ง จตุพร พรหมพันธุ์ จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองโฆษกรัฐบาล แค่นี้ก็พอรู้แล้วว่าข้อเสนอ 5 ประการเป็นเพียงลมปากหรือข้ออ้างเพื่อหาทางออก ให้การจัดตั้งรัฐบาลทำได้สำเร็จ
 
ย้อนไปดู พฤติกรรมของกลุ่ม นปก. ช่วงที่ผ่านมาว่าทำอะไรไว้บ้าง ที่เห็นชัด ๆ คือนำกลุ่มคนจำนวนหนึ่งไปชุมนุมหน้า บ้านพักของ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แถมทั้งปราศรัยโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงยังขว้างปาสิ่งของเข้าไปในบ้านพักของบุคคลที่สังคมให้ความเคารพ หลายคนแทบไม่เชื่อว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะเกิดในช่วงที่เรามีรัฐบาลที่มาจากคณะปฏิวัติรัฐประหาร
 
หรือล่าสุดที่เกิดกรณีที่ นายวิจิตร ยอดสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 3 พรรคชาติไทย ได้ถอนคำร้องคัดค้านผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ต่อ กกต. เชียงราย ซึ่งกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำคนสำคัญของพรรคพลังประชาชน
 
ไม่มีใครล่วงรู้ว่านายบรรหารจะรู้เห็นเรื่องนี้หรือไม่ แต่จำได้เมื่อไม่นานมานี้ หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้ออกมาบ่นหลายหนว่าการเลือกตั้งในอดีตมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ฝนตกห่าใหญ่” ซึ่งหมายความว่า มีการใช้เงินในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และถือเป็นคำพูดที่ฮิตติดปาก หลายคนชอบนำมาพูดเวลาที่มีการใช้เงินซื้อเสียงหรือกระทำทุจริตในการเลือกตั้ง
 
การ โอนคะแนนให้กัน ระหว่าง 6 พรรคการเมืองที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล ในการเลือกตั้งใหม่หลังจากที่ กกต. ได้ประกาศให้ใบแดงและใบเหลืองกับผู้สมัคร ส.ส. นั้น ผมว่าคงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ เพราะถือว่าเป็นยุทธวิธีทางการเมืองและเก้าอี้ ส.ส. ก็ยังอยู่กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากเป็นประเภทฮั้วหรือสมยอมกันเรื่องซื้อเสียงหรือทำให้ข้อกล่าวหาทุจริตการเลือกตั้งต้องยุติลง ผมว่าทำกันอย่างนี้เท่ากับตบหน้าคนไทยทั้งประเทศเลยก็ว่าได้
 
ถ้าหากทำกันได้อย่างนี้ ต่อไปก็ ไม่จำเป็นต้องมี กกต. คอยจัดการเลือกตั้ง ปล่อยให้พรรคการเมืองว่ากันไปตามใจชอบหรือเพื่อให้สมประโยชน์มากที่สุด.

"เขื่อนขันธ์"
 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=51583&NewsType=2&Template=1


ได้ร่วมรัฐบาลตามต้องการแล้ว...
ใครพูดถึง '30 ปี' หรือ 'ความรัก ความนับถือ'  โกรธกันตายเลย.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[ปุถุชน]

“เติ้ง” เหนือเมฆส่ง “ท็อป” พบ “แม้ว” ทวงสัจจะโควตา 5 รมต.
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 มกราคม 2551 02:12 น.
 
 
 
        “เติ้ง” ส่ง “ลูกท็อป” ดอดพบ “แม้ว” ที่ฮ่องกง หวั่นโควตา 5 รมต.ไม่เหมือนเดิม ด้าน “ลูกนา” เผย “บรรหาร” กำชับลูกพรรคเข้มเข้าสภาโหวตนายกฯ 28 ม.ค.นี้ ยันยึดมารยาทพรรคร่วมรัฐบาลโหวตเลือกนายกฯ ตามพรรค พปช.
       
       วานนี้ ( 25 ม.ค.) แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของโควตารัฐมนตรีของพรรคชาติไทยซึ่งเดิมมีการหารือกับแกนนำพรรคพลังประชาชน และเป็นที่ตกลงภายในกันแล้วว่าจะได้ 5 ตำแหน่ง คือ รองนายกรัฐมนตรี รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา รมช.ศึกษา และรมช.คมนาคม โดยทางพรรคชาติไทยกำหนดตัวบุคคลไว้แล้วเช่นกัน โดยล่าสุดตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนนี้ยังไม่นิ่ง หรือได้ข้อยุติ เพราะแกนนำ และ ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้พยายามขอแลกเปลี่ยนโควตา รมช.ศึกษาคืน โดยแลกเปลี่ยนกับ รมช.เกษตรฯ
       
        แหล่งข่าวคนเดิม แจ้งเพิ่มเติมว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้ส่งนายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชาย เดินทางไปฮ่องกงเพื่อพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อยืนยัน และรักษาโควตารัฐมนตรีเดิมในสัดส่วนของพรรคชาติไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเรื่องแกนนำ รวมทั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางไปฮ่องกงเพื่อขอแลกเปลี่ยนตำแหน่งทางการเมือง
       
       ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากประเทศจีน ถึงกรณีที่ไม่ได้เข้าร่วมงานรัฐพิธีที่พระที่นั่งอนันต์ฯ และไม่ได้เข้าประชุมสภาฯ นัดที่มีการโหวตเลือกประธานสภาฯ ว่า ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างร่วมเดินทางมาประเทศจีนเพื่อศึกษาดูงานด้านความมั่นคงของประเทศ ร่วมกับคณะอาจารย์ และนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เนื่องจากตนกำลังเป็นนักศึกษาหลักสูตร ปรอ.รุ่นที่ 20 ซึ่งอยู่ในระหว่างเดินทางวันที่ 20-28 ม.ค. นี้ ซึ่งขณะนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องเวลาเรียนเป็นอย่างมาก จึงไม่อยากขาดเรียน
       
       “อย่างไรก็ตามเบื้องต้นที่คาดการว่าอาจจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในทันทีหลังมีพระบรมราชโอการโปรดเกล้าฯ ประธานสภา ซึ่งเบื้องต้นคาดกันว่าอาจจะต้องโหวตในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ตนก็คอยติดตามสอบถามข่าวคราวความคืบหน้าการเรียกประชุมของประธานฯ อยู่เช่นกัน และได้เตรียมตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมาโหวต แล้วจะเดินทางกลับไปประเทศจีนเพื่อร่วมกับคณะอาจารย์ และเพื่อนๆ เช่นเดิม ส่วนการเดินทางครั้งนี้ก็มากันเป็นหมู่คณะ ดังนั้นจึงขอปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าตนหนีโหวต เพราะได้ทำหนังสือลาที่ประชุมสภาอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นตนจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยเวลา ประมาณ 22.00 น. ในวันอาทิตย์ที่ 27 ม.ค.นี้”น.ส.กัญจนา กล่าว
 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000010657


การคัดสรรรัฐมนตรีและตำแหน่งทางการเมืองของรัฐบาล 'หมัก เมถุน' ประหลาดกว่าใคร ๆ.....
ถ้าพูดแบบคนไทยรุ่นเก่า ๆ คงพูดด้วยความประหลาดใจว่า 'หัวกระไดบ้าน'หมัก เมถุน แห้งผาก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงทำงานหนัก....
เพราะมี'โสเภณีไทย' ทั้งเพศผู้ เพศเมีย เดินทางไปฮ่องกงทุกเที่ยวบิน.....

ปล. เวลานี้คนไทยที่คิดตนเองไม่ได้เป็น 'โสเภณี' ควรหลีกเลี่ยงเดินทางไปฮ่องกงชั่วคราว.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[see - u]

การคัดสรรรัฐมนตรีและตำแหน่งทางการเมืองของรัฐบาล 'หมัก เมถุน' ประหลาดกว่าใคร ๆ.....
ถ้าพูดแบบคนไทยรุ่นเก่า ๆ คงพูดด้วยความประหลาดใจว่า 'หัวกระไดบ้าน'หมัก เมถุน แห้งผาก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกงทำงานหนัก....
เพราะมี'โสเภณีไทย' ทั้งเพศผู้ เพศเมีย เดินทางไปฮ่องกงทุกเที่ยวบิน.....

ปล. เวลานี้คนไทยที่คิดตนเองไม่ได้เป็น 'โสเภณี' ควรหลีกเลี่ยงเดินทางไปฮ่องกงชั่วคราว.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

*  น่าเห็นใจ    " โสเภณีอาชีพ "    ที่ต้องมาแปดเปื้อน
    เพราะ   "  โสเภณี  ในคราบ ...  นักการเมือง  "    

[ปุถุชน]

'บรรหาร'ยัวะฟ้องแพ่งร้อยล้าน พ่วงอาญา'ชูวิทย์'
 
28 มกราคม พ.ศ. 2551 16:54:00
 
หัวหน้าพรรคชาติไทย เตรียมให้ทนายความฟ้องเป็นการส่วนตัว แพ่งและอาญา"ชูวิทย์" เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ที่พรรคชาติไทย นายเกษม สรศักดิ์เกษม ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคชาติไทย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่กล่าวโจมตีพรรคและ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย

โดยหัวหน้าพรรคฯ ได้สั่งการให้ฟ้อง นายชูวิทย์ เป็นการส่วนตัว ทั้งในความผิดทางแพ่ง และอาญา โดยความผิดทางแพ่งจะฟ้องร้องนายชูวิทย์ เวลา 10.00 น.ที่ศาลอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ส่วนในความผิดอาญาในถ้อยคำฐานหมิ่นประมาทนั้น จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลอาญา ให้มีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด 

นายเกษม กล่าวด้วยว่า ถ้อยคำความผิดของนายชูวิทย์ ที่จะมัดตัวในทางคดี คือการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา บริเวณหน้าพรรคชาติไทย ที่ได้นำรูปนายบรรหาร มาประกอบการแถลงข่าวนั้น ถือเป็นการใช้ถ้อยคำให้ร้าย หมิ่นประมาทความผิดหลักฐานชัดเจน

"เรื่องนี้นายบรรหาร เสียหายเป็นการส่วนตัว และไม่ได้ฟ้องในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง สำหรับการแถลงข่าวที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 28 มกราคมนั้น ต้องดูถ้อยคำความผิดด้วยว่ามีคำกล่าวร้าย ให้ร้ายมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้จำเป็นจะต้องมีการนำเทปมาเปิดดูอย่างละเอียดต่อไป เพื่อดำเนินคดีกับนายชูวิทย์จนถึงที่สุด" ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคชาติไทย กล่าว
 

http://www.bangkokbiznews.com/2008/01/28/WW03_0301_news.php?newsid=224482