โหรสัมฤทธิ์ อดีตโหรประจำตระกูลทักษิณ ออกมาทำนายอีกแล้วครับ
ก็เลยเอามาลงให้คอยดูกันต่อไป
ว่าคราวนี้จะแม่นเหมือนคราวที่ทายว่าทักษิณดวงแตกหรือเปล่า ---
ปล. นามสกุลจริงน่าจะเป็น "เกลาเกลี้ยง" สงสัยข่าวจะลงนามสกุลผิดครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สัมฤทธิ์ เกลี้ยงเกลา ฟันธง "พปช." บนความไม่แน่นอนประชาชาติธุรกิจ วันที่ 03 มกราคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3963 (3163)
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02pol02030151&day=2008-01-03§ionid=0202ดวงและดาวของพรรคพลังประชาชนช่วงนี้ถือว่าแรงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการหอบหิ้วคะแนนเสียงได้ถึง 233 จนทำให้ความหวัง
ที่นายสมัคร สุนทรเวช จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 อยู่แค่เอื้อม
แต่คนที่แอบมองอยู่ห่างๆ อย่างเป็นห่วง "ร.ต.สัมฤทธิ์ เกลี้ยงเกลา" อดีตโหราจารย์ แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า กลับไม่คิดเช่นนั้น
เมื่อต้นปีนี้ อ.สัมฤทธิ์ ฟันธงผ่าน "ประชาชาติธุรกิจ" ไว้หลายประเด็น อาทิ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 จะผ่านการลงประชามติ
ปลายปีจะมีการเลือกตั้ง
"ผมฟันธงว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 จะผ่านและ มีการเลือกตั้งแน่นอนหลังวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ดวงเมืองดีมาก รัฐมนตรีการคลังคนใหม่
ที่เข้ามาจะเก่งมาก อัจฉริยะมากเรื่องการเงิน หลังเลือกตั้งจะเป็นของจริง ลงทุนจริง หุ้นจริง เศรษฐกิจจริง ตอนนี้ยังแค่หลอกๆ
ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน เลือกตั้งเดือนธันวาคม คนจนจะเริ่มดีขึ้น คนรวย ก็จะรวยมากขึ้น ซึ่งเป็นผลประโยชน์จริงๆ ของรากหญ้า
จะดีไปจนเดือนเมษายน ผมกล้ายืนยันว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีที่สุด 6 เดือนแรกจะบูมมาก หน่วยงานทั้ง 4 คือ BOI สภาพัฒน์
แบงก์ชาติ สรรพากร จะโดนผ่าตัดเพราะฉุดความรุ่งเรือง ทำเศรษฐกิจง่ายกลายเป็นยาก ดวงดาวว่าอย่างนี้"
ต้องถือว่า อ.สัมฤทธิ์เป็นเพียงหมอดูไม่กี่คนที่ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ในขณะที่หมอดูหลายๆ คนบอกว่าการเลือกตั้งจะถูกล้มเลิก
นั่นคือเมื่อหลายเดือนที่แล้ว แต่วันนี้ อ.สัมฤทธิ์จับยามสามตา เพ่งดวงเมือง เปิดตำรา วิเคราะห์ตามดาว จับความได้ดังนี้
"นายสมัครดวงไม่น่าเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้อาจจะมีคะแนนมาก แต่วันที่ 17 มกราคม 2551 ดวงอาทิตย์ทับราศีเกิดของนายสมัคร
อาจจะเกิดเคราะห์ได้ ตอนนี้ก็คงดีใจที่ได้คะแนนมาก แต่ข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ยังมีอยู่อาจจะย้อนกลับมาได้ในเดือนมกราคม"
อ.สัมฤทธิ์บอกว่า ในเดือนมกราคม 2551 ถือว่าเป็นช่วงที่ลำบากของนายสมัคร เพราะจะมีการเร่งเร้าทุกคดี ตั้งแต่คดีความที่เกี่ยวกับ
การหมิ่นประมาท รวมไปถึงคดีที่ค้างคาอยู่ ในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้ เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อย่างคดี
เกี่ยวพันกับรถดับเพลิง
"เรื่องใบแดงนี่สำคัญมาก จะทำให้ลดจำนวน ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนลงไปเยอะ ซึ่งจะไปแบ่งเข้าพรรคประชาธิปัตย์
ผมมองว่าเดือนมกราคมจะเป็นเดือนแห่งการสอยทั้งเดือน จะมีใบเหลืองใบแดงเกลื่อน ใบแดงวุ่นวายแล้วจะเกิดขั้วใหม่
ไปที่พรรคประชาธิปัตย์"
"กลางเดือนมกราคมนี้ อาทิตย์จะย้ายมามังกร ทำมุมกับดาวอังคาร ความหวังของนายสมัคร อาจดับวูบ แม้ว่าตอนนี้จะมีความหวัง
เพราะคะแนนเยอะ แต่ดวงของนายอภิสิทธิ์แรงมาก อาจจะเกิดการแจกใบแดงจนไปทางประชาธิปัตย์ คือสอยบานน่าจะ 20 ใบขึ้น"
อ.สัมฤทธิ์ยังมองผ่านดาววิเคราะห์ต่อไปว่า พรรคเพื่อแผ่นดินเองก็มีโอกาสสูงที่จะโดนใบแดง ในขณะที่ทางพรรคชาติไทย
ดวงดีคู่กับพรรคประชาธิปัตย์ คาดว่าเมื่อได้ผลสรุปแล้วพรรค ชาติไทยน่าจะมีเก้าอี้ ส.ส.ประมาณ 40 กว่าขึ้นไป
ส่วนพลังประชาชนน่าจะเหลือประมาณ 190 จนไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ นอกจากนี้ยังจะมีการเลือกตั้งซ่อมอีก
ประมาณ 3 ครั้งในเดือนมกราคม
"ผมฟันธงเลยว่าเดือนกุมภาพันธ์ถึงจะมีการ จัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะเดือนมกราคมเป็นเดือนแห่งการสอยบาน
ฝ่ายที่คิดว่าแน่ๆ อาจจะ ไม่แน่ เรื่องเศรษฐกิจปีหน้า เศรษฐกิจจะดี ให้คุณกับประเทศชาติ"
นอกจากนี้ อดีตโหราจารย์แห่งบ้าน จันทร์ส่องหล้า ยังมองทะลุไปอีกว่า ดวงของ นายอภิสิทธิ์
อย่างไรก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างแน่นอน ส่วนนายสมัครต้องฝ่าด่านคดีหลายคดีให้รอดไปก่อน
"แต่รัฐบาลชุดใหม่นี้จะอยู่ได้เพียง 2 ปี หลังจากนี้อาจจะเป็นนายบรรหาร ศิลปอาชามีสิทธิเป็นนายกฯ อนาคตมีสิทธิเป็นไปได้"
นี่คือเส้นทางความไม่แน่นอนของพรรคพลังประชาชนที่ อ.สัมฤทธิ์ย้ำอีกครั้งว่า
"ดาวมันเป็นอย่างนั้น"