http://songkhlatoday.com/index.php?file=webboard&obj=forum.topic.forprint(13342)
ที่มา: มติชน
โดย Focus Team เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2550 12:07:32 น."ป่วนใต้"ทำเด็กกำพร้า ยอดพุ่งทะลุ4พันราย ลอบยิงครูสายบุรีดับอีก
ข่าวประจำวัน >> ข่าวประจำวัน (บทความ)
สมเด็จพระราชินีพระราชทานเงิน 5 แสน ช่วยครอบครัว"ปงกันมูล" ครูใต้พอใจนายกฯรับฟังข้อเสนอมาตรการคุ้มครองครู
**"สุรยุทธ์"กำหนดแผนคุ้มครองครู
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) และ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมแถลงข่าวภายหลังการประชุมรักษาความปลอดภัยให้แก่สถานศึกษา ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า เป็นการหารือมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถือว่าดีในระดับหนึ่ง แต่ยังมีจุดอ่อนต้องแก้ไขให้รัดกุมขึ้น
**ขู่หญิงมุสลิมให้ก่อม็อบกดดัน
นายพระนายกล่าวว่า ศอ.บต.จะขอเพิ่มกำลังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครหมู่บ้าน (อส.) เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดย อส.จะเพิ่มเป็นหมู่บ้านละ 12 คน จากทั้งหมด 1,600 หมู่บ้าน และปลายเดือนมกราคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่อีกครั้ง
พล.ท.วิโรจน์กล่าวว่า ได้มีสตรีที่มาชุมนุมปิดล้อมโทรศัพท์มาบอกว่าโดนบังคับ หากไม่ไปชุมนุม สามีจะถูกยิงตาย และถ้าเจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมเด็กและสตรีเหล่านี้ ก็จะกลายเป็นภาพอีกอย่าง เนื่องจากมีการจัดตั้งอยู่อีกส่วนหนึ่งไว้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงพยายามถ่ายวิดีโอช่วงที่มีการชุมนุมกดดันไว้ เพราะเกรงจะมีการสวมรอยทำร้ายตัวเอง เพื่อป้ายความผิดให้เจ้าหน้าที่ และอยากถามคนร้ายที่ยิงผู้บริสุทธิ์ ทั้งครู คนเก็บขยะ คนพิการ ว่า จิตใจทำด้วยอะไร จึง***มโหด แถมมีการมาปลุกระดมว่า หากสามารถฆ่าไทยพุทธได้ 1 คน ก็สามารถพาญาติของตัวเองขึ้นสวรรค์ได้
**สมาพันธ์ครูฯพอใจนายกฯรับข้อเสนอ
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ผู้แทนครูพอใจกับผลการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ รับฟังและรับข้อเสนอของผู้แทนครูทุกเรื่อง สำหรับข้อเสนอของผู้แทนครูมี 2 เรื่องใหญ่คือ กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของครูในพื้นที่ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น และเสนอให้เร่งรัดเรื่องการปรับฐานะครูอัตราจ้างเป็นข้าราชการ การปรับปรุงวิทยฐานะของครู การเลื่อนขั้นเงินเดือน การพิจารณาให้เหรียญชายแดนใต้ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูในพื้นที่
**"แม้ว"ไม่ฟัง"สุรยุทธ์"ค้านยุบศอ.บต.
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุม พล.อ.สุรยุทธ์ได้พูดถึงการเสียชีวิตของ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ว่า "เป็นความสูญเสียของพวกเราทุกคน ดังนั้น เราจึงต้องระลึกถึงคุณธรรมและเกียรติภูมิของครูจูหลิง รัฐบาลได้ดำเนินการสันติวิธีด้วยการฟื้น ศอ.บต. ในอดีตตอนที่มีการยุบเลิก ศอ.บต.และกองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) ในสมัยที่ผมเป็น ผบ.ทบ.ในปี 2545 ตอนนั้นมีการประชุม ครม.นอกสถานที่ ที่ จ.นราธิวาส ผมไปร่วมประชุมด้วย ผมได้คัดค้านคุณทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) แล้วแต่ท่านก็ไม่ฟัง"
**ศธ.เสนอทหารฝังตัว 200 หมู่บ้าน
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า กระทรวงศึกษาธิการจะเสนอมาตรการคุ้มครองครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ ขอกำลังทหารมาฝังตัวในหมู่บ้านที่มีความเสี่ยง ซึ่ง ศอ.บต.ประเมินว่ามีกว่า 200 หมู่บ้าน จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะครูปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง จึงอาจถูกทำร้ายได้ตลอดเวลาทั้งที่บ้านพักและชุมชน ไม่ใช่เฉพาะเวลาเดินทางไปโรงเรียนเท่านั้น รวมถึงขอให้มีการลาดตระเวนให้ถี่มากขึ้น มีแผนดูแลครูในพื้นที่เสี่ยง
**ต่ออายุพ.ร.บ.ฉุกเฉินอีก3จว.ใต้
นายประกิต ประจนปัจจนึก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงภายหลังการประชุม สมช. โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเห็นสมควรขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เป็นครั้งที่ 6 ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ถึง 19 เมษายนนี้ ส่วนในพื้นที่ชายแดนอีก 4 อำเภอใน จ.สงขลา และสตูล ไม่มีการขยายระยะเวลาของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังคงกฎอัยการศึกที่มีการประกาศใช้อยู่แล้วไว้
**มั่นใจปล่อย 10 อุสตาซไม่มีปัญหา
ส่วนกรณีศาลอาญาให้ประกันตัวอดีตครูสอนศาสนา หรืออุสตาซ 15 คน จำเลยในคดีความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ทำหนังสือรับรองว่า จะดูแลไม่ให้หลบหนี ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และมีแผนจะดึงตัวมาช่วยราชการเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้นั้น พล.ท.วิโรจน์กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่ทำให้เหตุการณ์ยุ่ง เพราะจำเลยเหล่านี้ยังอยู่ในความดูแลและควบคุมของเจ้าหน้าที่ แต่บอกไม่ได้ว่าจะใช้วิธีควบคุมอย่างไร เจ้าหน้าที่ได้ดูและตรวจสอบร่วมกัน 3 ฝ่ายแล้ว
ด้านนายพระนายกล่าวว่า การประกันตัว 15 อุสตาซ เป็นเรื่องของทางทหารเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับ ศอ.บต. และกองทัพภาคที่ 4 ไม่ได้ประสานงานกับ ศอ.บต.
**"จรัญ"สั่งดีเอสไอถอนอายัดตัว
นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขออายัดตัวอุสตาซ 1 คน ที่ศาลให้ประกันตัวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เป็นการขออายัดตัวคดีเก่า ซึ่งยื่นเรื่องไว้ตั้งแต่นำตัวมาควบคุมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และดีเอสไอจะถอนการอายัดตัวให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ (10 มกราคม) จากนั้นเรือนจำฯจะปล่อยตัวได้ทันที นอกจากนี้ดีเอสไอได้ประกาศยกเลิกรางวัลนำจับผู้ต้องในคดีความมั่นคงของดีเอสไอทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการประสานข้อมูลกับชุมชน และให้เกิดความร่วมมือในการแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
**ประกบยิงครู"สายบุรี"เสียชีวิตอีก1
ด้านเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนร้ายยังลงมือก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 08.30 น. นายดอมะ เด็งลา อายุ 60 ปี แพทย์ประจำตำบลปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ขับรถปิคอัพเพื่อไปส่งนางฟาตีเมาะ เด็งลา อายุ 50 ปี ภรรยา ครูโรงเรียนบ้านโต๊ะบาลา อ.สายบุรี ที่โรงเรียน โดยนางฟาตีเมาะนั่งเบาะหน้า และมีนางนางสุไลยา กาเซ็ง อายุ 35 ปี นางสาลินี สะนิวา และ น.ส.ซัยนะ มะยาแม ครูโรงเรียนเดียวกันกับนางฟาตีเมาะ นั่งเบาะด้านหลัง โดยขับรถมาตามถนนสายสายบุรี-เจาะกือแย เมื่อมาถึงหมู่ 3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ได้ถูกคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเข้าประกบ และใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงเข้าใส่ กระสุนถูกนายดอมะที่ต้นคอ และนางซัยนะถูกยิงเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นายดอมะแข็งใจขับรถมาถึงโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี แต่นางซัยนะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านโต๊ะบาลา ได้ปิดการเรียนการสอนทันทีโดยไม่มีกำหนด หลังทราบเหตุคนร้ายยิงนางซัยนะเสียชีวิต
สำหรับ น.ส.ซัยนะเป็นหลานสาวของ ดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมาน แกนนำของกลุ่มเปอร์ซาตูหรือประธานเบอร์ซาตู โดยมีการทำพิธีฝั่งศพที่กูโบร์ปะเสยาวอ อ.สายบุรี เมื่อเวลา 17.00 น.โดยมีญาติพี่น้อง ข้าราชการครู เพื่อนครู และประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวแทนจากสำนักงานเขตการศึกษาเขตที่ 1 มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 22,300 บาท ส่วนเงินช่วยเหลืออื่นๆจะมอบช่วยเหลือภายหลัง
**รวบผู้ต้องสงสัยซุ่มยิงทหารเจ็บ
สำหรับเหตุการณ์ที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงทหารชุดลาดตระเวน จนเกิดการปะทะกัน บริเวณหมู่ 8 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมานั้น เป็นเหตุให้ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นายคือ ส.ต.สุขสันต์ โคนันทะ และในช่วงเช้าวันที่ 10 มกราคม เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คนคือ นายอารง เจ๊ะซอ อายุ 22 ปี ขณะกำลังล้างโคลนที่เปลื้อนตัวบริเวณบ่อน้ำห่างจุดปะทะประมาณ 200 เมตร และจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า นายอารงอยู่ในสังกัดหน่วยอาร์เคเคในพื้นที่
เวลา 02.30 น. คนร้ายลอบยิงนายซุลกิฟลีย์ วามะ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 1 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี ขณะกลับมาจากร้านน้ำชาในหมู่บ้านเสียชีวิต และเวลา 18.30น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางเพลิงโรงเรียนบ้านจ่ากอง ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับความเสียหาย 1 ห้องเรียน
**ตั้งด่านสกัดโจรใต้ค่าหัว2ล.ลอบบึ้ม
รายงานข่าวจาก สภ.อ.เมืองยะลา ว่า พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา ได้สั่งตั้งด่านตรวจทุกจุดในเส้นทางที่เข้าเขตเทศบาลนครยะลา เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า นายสาหูดิน โต๊ะเจ๊ะมะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องคดีก่อความไม่สงบ ที่เคยมีรางวัลนำจับของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า (ศปก.สน.) จ.ยะลา จำนวน 2 ล้านบาท จะลอบเข้ามาก่อเหตุวินาศกรรมในเขตเทศบาลนครยะลา โดยมีเป้าหมายเป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านประดับยนต์ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ
**พระราชินีพระราชทานเงิน5แสน
ด้านบรรยากาศการจัดงานศพ น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ จ.เชียงราย ที่ถูกชาวบ้านจับเป็นตัวประกันและทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมานั้น ทางญาติพี่น้องได้เคลื่อนย้ายศพจากบ้านพักเลขที่ 114 หมู่บ้านปงน้อย หมู่ 10 ต.ปงน้อย กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปงสนุก ต.ปงน้อย
เช้าวันเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ช่วยงานศพ น.ส.จูหลิง จำนวน 5 แสนบาท ขณะเดียวกันราชองครักษ์ ผู้แทนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อัญเชิญพวงมาลาในพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มาพระราชทานแก่ศพ น.ส.จูหลิง โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ ซี 130 ถึงท่าอากาศยานเชียงราย เมื่อเวลา 13.30 น. และนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และคณะรอรับ จากนั้นอัญเชิญพวงมาลาไปวางยังหน้าหีบศพ น.ส.จูหลิง
นายสุน ปงกันมูล บิดา น.ส.จูหลิง กล่าวว่า ครอบครัวปงกันมูลและชาวกิ่ง อ.ดอยหลวงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานพวงมาลาศพ น.ส.จูหลิง เชื่อว่าจะทำให้วิญญาณ น.ส.จูหลิงไปสู่สรวงสวรรค์
**เพิ่มข้อหา58ผู้ต้องหาทำร้ายครูจูหลิง
พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ กล่าวว่า ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเพิ่มโทษในสำนวนผู้ต้องหาร่วมกันทำร้าย น.ส.จูหลิง ที่ออกหมายจับ 58 คน จับกุมและเข้ามอบตัวแล้ว 27 คน จากกักขังหน่วงเหนี่ยวและทำร้ายให้มีโทษหนักขึ้น หลังจากที่ น.ส.จูหลิงเสียชีวิต จึงขอให้ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีการจับกุมอีก 31 คนรีบเข้ามอบตัวสู้คดี
**ป่วนใต้ทำเด็กกำพร้าเพิ่มกว่า4พัน
วันเดียวกัน ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และเครือข่ายแกนนำด้านเด็กและเยาวชน จัดเสวนาในหัวข้อ "จุดยืนของเยาชนกับสถานการณ์ความรุนแรงในสังคม" โดยตัวแทนเยาวชนจากพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 60 คนเข้าร่วมเสวนา
น.ส.วรรณกนก เป๊าะอีแตดาโอะ ประธานกลุ่มลูกเหลียง และผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กและเยาวชนยุติความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ ทำให้เด็กกำพร้าเพิ่มมากขึ้นแบบรายวัน ปัจจุบันมีมากกว่า 4,000 คน และเด็กต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยครอบครัวทำงาน ที่น่าห่วงคือเด็กร้อยละ 80 ถูกชักชวนให้กระทำความผิดเพื่อแก้แค้นเจ้าหน้าที่รัฐ
**ห่วงปัญหาเด็กแบ่งกลุ่มแยกแค้น
น.ส.วรรณกนกกล่าวว่า ขณะที่ในหมู่บ้านมีแม่หม้ายเพิ่มขึ้น เช่น หมู่บ้านปุโรง อ.กรงปีนัง จ.ยะลา มีแม่หม้ายร้อยละ 70 จากคนในหมู่บ้านประมาณ 700-800 คน เนื่องจากผู้ชายเสียชีวิตมากขึ้น และบางส่วนหนีไปอยู่ประเทศมาเลเซีย เพราะเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและไม่มั่นใจในความปลอดภัย
"อีกหนึ่งปัญหาน่าห่วงคือ เด็กที่สูญเสียพ่อหรือแม่จากเหตุไม่สงบจะเกิดความรู้สึกเคียดแค้น ซึ่งแบ่งเด็กได้ 2 กลุ่มคือ ลูกเจ้าหน้าที่รัฐจะแค้นกลุ่มผู้ก่อการร้าย และกลุ่มลูกชาวบ้านจะแค้นเจ้าหน้าที่รัฐ" น.ส.วรรณกนกกล่าว
**"ไพบูลย์"ชี้แรงยิ่งกว่าสงครามโลก
ด้านนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีความรุนแรงสร้างความเสียหายเจ็บปวดทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เป็นความรุนแรงกว้างขวางอย่างต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งกว่าสงครามโลกครั้งที่ 2
"อยากให้สังคมโดยรวมร่วมขับเคลื่อนกระบวนการต่อต้านความรุนแรงด้วยสันติวิธี 4 ข้อ คือ 1.ต้องไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรง ด้วยการประณามและต่อต้าน 2.ต้องไม่ยอมสยบ ยอมแพ้ต่อความรุนแรง 3.ต้องไม่ประมาท มีมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังและเตรียมพร้อม และ 4.สร้างภูมิคุ้มกันเชิงสันติวิธีในตัวเอง ครอบครัว และชุมชน เครือข่าย ให้คนที่คิดจะใช้ความรุนแรงทำได้ยากขึ้น" นายไพบูลย์กล่าว
**บึ้มทหารมาเลย์ฐานชายแดนเจ็บ4
วันเดียวกัน ทหารมาเลเซียที่ตั้งฐานปฏิบัติการบริเวณเขตรอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย ห่างจากชายแดนไทยบริเวณบ้านดินเสมอ หมู่ 5 ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ประมาณ 200 เมตร ได้ซ้อมเผนเผชิญเหตุ และเกิดอุบัติเหตุระเบิดทำให้ทหารมาเลเซีย 4 นายได้รับบาดเจ็บ จึงมีการประสานมายัง สภ.อ.ธารโต ขอความช่วยเหลือในการนำทหารทั้ง 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลธารโต
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองบัญชาการผสม พลเรือนตำรวจทหาร (พตท.) กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุมีฝนตกหนักในพื้นที่ ทัศนวิสัยไม่ดี เจ้าหน้าที่มาเลเซียไม่สามารถนำทหารที่ได้รับบาดเจ็บไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลของประเทศมาเลเซียได้ จึงร้องขอให้ทหารของไทยนำส่งโรงพยาบาลธารโต เมื่อทำบาดแผลเสร็จได้นำส่งกลับฐานของทหารมาเลเซียแล้ว
"จุดตรวจร่วมบ้านดินเสมอเป็นข้อตกลงระหว่างทหารไทยและทหารมาเลเซียในการตั้งจุดตรวจร่วมกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยพื้นที่ตามแนวชายแดนของแต่ละประเทศ โดยมีทหารทั้ง 2 ประเทศลาดตระเวนร่วมกันจุดตรวจละ 25 นาย" พล.อ.อัครกล่าว
ที่มา: มติชน
โดย Focus Team เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2550 12:07:32 น.