"สมัคร"ได้ฤกษ์ยกเลิกกฎอัยการศึกทั่ว ปท. เว้น 3 จว.ใต้ หันใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯคุมแทน จว.คลื่นใต้น้ำ"บุรีรัมย์-เชียงราย-ศรีสะเกษ"เฮ ได้เคลื่อนไหวอิสระ "อนุพงษ์"ชี้ดีต่อภาพลักษณ์ชาติ บัวแก้วให้ทูตตีฆ้องทั่วโลก โฆษกโต้ไม่เกี่ยวรับ"แม้ว"เดินสายทำบุญ 4 จว.อีสาน
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 17 เมษายน โดยที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วประเทศที่เคยประกาศไว้ทั้งหมด รวม 179 อำเภอ ใน 31 จังหวัด ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอในจังหวัดสงขลา
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายนพดล ปัมทะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ส.ส.) รวมทั้ง รองปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกองทัพเรือและผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมทั้ง พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการ สมช.คนใหม่ เข้าร่วมประชุมครั้งแรก ใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
@ เลิกอัยการศึกใช้กม.มั่นคงฯแทน
ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสมัครแถลงภายหลังการประชุมว่า เหตุผลที่ยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น เพราะมีกฎหมายใหม่ คือ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในฯมาใช้ทดแทนได้ แต่ไม่ได้ทดแทนทั้งหมด โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จะไปดูว่าพื้นที่ตรงไหนบ้างที่จะใช้กฎหมายมั่นคงฯทดแทนในบางบริเวณ และในวันที่ 18 เมษายน จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ พิจารณาวาระเดียว คือการต่ออายุการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะหมดอายุวันที่ 19 เมษายน
@ เว้นพื้นที่ 3จว.ใต้-5อ.ในสงขลา
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่จะยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 5 อำเภอใน จ.สงขลา คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี และสะเดา ที่จะคงกฎอัยการศึกเอาไว้ก่อน ส่วนสาเหตุสำคัญที่ยกเลิกนั้น ที่ประชุมมองในมุมทางสังคมและความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ขณะนี้ประเทศเป็นประชาธิปไตย จึงไม่อยากให้มีบรรยากาศของทหารที่ยังเหมือนมีการปฏิวัติกันอยู่ นอกจากนี้ที่ประชุม ได้ให้ กอ.รมน. ไปพิจารณาว่าพื้นที่ใดมีความจำเป็นต้อง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ เพิ่มเติม ก็ให้เสนอ สนช.พิจารณาอีกครั้ง
พล.ต.ท.วิเชียรโชติกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 19 เมษายน 2551 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสอบสวนจับกุมนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีมติที่จะขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 3 เดือน
@ "อนุพงษ์"ชี้เลิกแล้วภาพลักษณ์ชาติดี
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ประเด็นคือ ถ้าเรามีกฎหมายใดมาใช้ และมีความเหมาะสมกว่า การยกเลิกก็ถือเป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติในเรื่องของภาพลักษณ์ต่อประเทศและนานาชาติ แม้กระทั่งด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนก็น่าจะดีกว่า
นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จะสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกชี้แจงเรื่องดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าไทยกลับสู่สภาวะปกติและกลับสู่บรรยากาศประชาธิปไตย ประชาชนได้รับสิทธิและเสรีภาพกลับคืนมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการสะท้อนให้ประชาคมโลกรับทราบ
@ จว.คลื่นใต้น้ำ"บุรีรัมย์-ชร."ได้อานิสงส์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกต่อต้านจากหลายฝ่ายว่าให้อำนาจฝ่ายทหารมากเกินไปนั้น ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการปรับแก้มาหลายครั้ง ส่วนการยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่ 31 จังหวัดครั้งนี้นั้น เป็นการยกการประกาศกฎอัยการศึกที่คงไว้หลังจากมีการประกาศใช้ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ซึ่งต่อมาได้มีการประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ลงในราชกิจจานุเบกษา สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2550 โดยคงไว้ 35 จังหวัด และเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2551 โดยคงไว้ 31 จังหวัด
สำหรับครั้งนี้ นอกจากจะยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่แนวชายแดน ที่มีปัญหาด้านความมั่นคงและยาเสพติดแล้ว ยังส่งผลให้หลายจังหวัด ที่เคยคงกฎอัยการศึกไว้เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวของมวลชนการเมืองในฝั่งพรรคไทยรักไทยเดิม หรือที่เรียกว่าคลื่นใต้น้ำ ถูกยกเลิกไปด้วย อาทิ จ.บุรีรัมย์,สุรินทร์,. ศรีสะเกษ,เชียงราย และเชียงใหม่ เป็นต้น
รายงานข่าวจากที่ประชุม สมช.แจ้งว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะ กอ.รมน.ได้หารือถึงแนวทางการยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียดในการใช้อำนาจของฝ่ายทหาร โดย กอ.รมน.ได้ยืนยันว่าแม้จะมีการประกาศพื้นที่กฎอัยการศึกในช่วงที่ผ่านมา แต่ทหารก็ไม่ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกต่อประชาชน และปัจจุบัน มีการคงพื้นที่กฎอัยการศึกไว้น้อยมาก มีเพียงอำเภอแนวชายแดนและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ที่จะได้รับผลกระทบมากคือฝ่ายที่ทำผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติด อย่างไรก็ตาม แม้กฎอัยการศึกจะอำนวยต่อการปฏิบัติงานแก้ปัญหาด้านความมั่นคงให้กับทหาร แต่ก็มีภาพกฎหมายที่รุนแรง เฉียบขาด เป็นกฎหมายที่ใช้สำหรับการรบ ไม่ได้รับการยอมรับด้านสิทธิมนุษยชน ทำให้ฝ่ายทหารถูกโจมตีเรื่องใช้อำนาจเกินขอบเขต การยกเลิก จึงเป็นประโยชน์ต่อภาพของทหาร อีกทั้งยังจะเป็นการทดลองใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในครั้งแรก เพื่อดูขั้นตอนการปฏิบัติและผลการตอบรับต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ให้ กอ.รมน.ไปศึกษาและวางแผนการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามบทเฉพาะกาล และมาตราต่างๆ ต่อสภาพเหตุการณ์ที่เข้าเงื่อนไขต่อไป โดยทั้งนายสมัคร และ พล.อ.อนุพงษ์ต่างก็เห็นด้วยในหลักการดังกล่าว
@ ปัดเลิกไว้รับ"แม้ว"เดินสายทำบุญ
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเวลา 17.00 น.เศษ ของวันที่ 17 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับจากนครดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นวันที่ 21 เมษายน จะเดินสายทำบุญในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) แบบวันเดียวกลับ ซึ่งเป็นการเดินสายทำบุญตามวัดต่างๆ ตามเป้าที่วางไว้หลายวัด จากนั้นช่วงปลายเดือนเมษายนจะเดินทางกลับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีการยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ จะส่งผลให้มวลชนของ พ.ต.ท. ทักษิณในจังหวัดภาคอีสาน สบายใจในการออกมาเคลื่อนไหวให้กำลังใจมากขึ้นหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า จริงๆ แล้วในการเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะการเดินสายทำบุญ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเดินทางไปแบบเงียบๆ ไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวติดตามเท่าไหร่ ส่วนการยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศไว้ในยุครัฐประหาร แต่ปัจจุบันพื้นที่ต่างๆ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องคงกฎอัยการศึกไว้ต่อไป เนื่องจากไม่มีเหตุผลรองรับ นอกจากเป็นพื้นที่ที่มีความไม่สงบเพียง 2-3 จังหวัดเท่านั้น
"การประกาศกฎอัยการศึกต้องยกเลิกไปตามจังหวะเวลา แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่ามันน่าจะยกเลิกไปทั้งหมดตั้งแต่แรกที่รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยของนายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาเป็นนายกฯด้วยซ้ำไป" โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
@ สะเดาะเคราะห์วัดเดิมคดีซุกหุ้น
ด้านนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการเดินทางไปทำบุญภาคอีสาน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ในวันที่ 21 เมษายน พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาถึงสนามบินขอนแก่น เวลา 07.10 น. จากนั้นจะเดินทางไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และทำบุญที่วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยเดินทางมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์สมัยโดนคดีซุกหุ้นช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะเดินทางไปที่วัดกลาง จ.กาฬสินธุ์ วัดบึงพลาญชัย และวัดบูรพาภิราม (วัดพระเจ้าใหญ่) อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด และปิดท้ายที่วัดพระพุทธมงคล (วัดพระยืน) อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จนกระทั่งเวลา 20.25 น. จะเดินทางไปที่สนามบินขอนแก่น เพื่อขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ โดยการเดินทางไปบุญภาคอีสานครั้งนี้ เป็นไปตามความตั้งใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าจะเดินทางไปทำบุญทั่วประเทศให้ครบ 99 วัด โดยจะทำบุญและทำสังฆทานโดยเฉพาะ คิดว่าจะมีประชาชนในพื้นที่มารอต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรีจำนวนมาก เพราะคนอีสานยังคงคิดถึงและรักอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่เสมอ
@ คนร้ายลอบบึ้มป่วน"ยะลา-ปัตตานี"
สำหรับสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้วันเดียวกันนี้ ปรากฏว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหลายแห่งทั้งพื้นที่ จ.ยะลา และปัตตานี โดยเวลา 06.30 น. คนร้ายลอบวางระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม (กก.) จุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล บริเวณริมถนนสายลำใหม่-ท่าสาป หมู่ 5 บ้านควน ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารที่มาลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ จ.ส.อ.วิชัย วงศ์เพชร อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ร้อย ร.5034 พัน 3 ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ศีรษะ หลังแขนและขา อาการสาหัส และเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
จากนั้นเวลา 08.10 น. เกิดเหตุระเบิดที่ริมถนนทางหลวงสาย 410 ยะลา-เบตง บริเวณถ้ำฤาษี บ้านหน้าเกษตร หมู่ 2 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา จากการสอบสวนทราบว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยเส้นทางดังกล่าว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ พบกล่องต้องสงสัยวางอยู่ริมถนน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจสอบ ระหว่างจะเข้าตรวจสอบคนร้ายคาดว่าอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุได้จุดชนวนระเบิดขึ้นทันที โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
เวลา 14.00 น. คนร้ายลอบยิงนายมะลาเซ็ง บาลาตายะ อายุ 60 ปี อยู่ที่ 33/1 หมู่ 4 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา อาชีพนายหน้าซื้อที่ดิน นอนเสียชีวิตอยู่ข้างๆ รถจักรยานยนต์ บนถนนในหมู่บ้านฆอรอคาเอ หมู่ 5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา
@ ฆ่าตัดคอล่อเจ้าหน้าที่ก่อนกดบึ้ม
ที่ จ.ปัตตานี เกิดเหตุระเบิดเมื่อเวลา 07.30 น. บริเวณหมู่ที่ 2 ต.ตุยง ห่างโรงพัก อ.หนองจิก ประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่กำลังอาสาสมัคร (อส.) 6 นาย ใช้รถยนต์ออกลาดตระเวน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อ อส.สุรเดช มามะ อายุ 40 ปี และ อส.อุสมัน สะมะแอ อายุ 25 ปี ถูกสะเก็ดบริเวณแขนและลำตัวบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายนำระเบิดมาวางไว้ช่วงค่ำวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา โดยต้องการสังหารเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบหลังได้รับแจ้งพบศีรษะของนายสุประวิทย์ มิตรจันทร์ อายุ 30 ปี ผู้จัดการบริษัท พีแอนด์ซีอะฟามารีน จำกัด ที่ถูกคนร้ายยิงแล้วตัดศีรษะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา จากนั้นก็จะกดชนวนระเบิด แต่ระเบิดเกิดไม่ทำงาน เนื่องจากได้ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จนคนร้ายกดระเบิดอีกครั้งเพื่อหมายสังหารเจ้าหน้าที่ อส.
@ รวบตัวมือฆ่านอภ.ไม้แก่น
เวลา 10.30 น. ที่กองกำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ร่วมแถลงผลการจับกุมนายอาฮามะ หะมะ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลปัตตานีที่ จ97/2549 คดีความมั่นคงหลังเข้าตรวจค้นบ้านพักพบอาวุธปืนพกสั้น ปืนสงคราม อุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมาก
นายอาฮามะ หรือนายมะตะพา เป็นระดับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ กลุ่มจะลาโก และเป็นครูฝึก ผู้ชักชวนครูสอนศาสนาและเยาวชนเป็นแนวร่วม นอกจากนี้พบว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหลายคดี ทั้งยิงครูฝึกวิชาทหารเสียชีวิต 3 นาย ใน อ.สายบุรี เมื่อปี 2550 เป็นหัวหน้าชุดวางระเบิดนายอำเภอไม้แก่น เสียชีวิตปลายปี 2549 โดยระบุอีกว่านายอาฮามะเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญกลุ่มเดียวกับนายมูฮำหมัด อาลี และนายออฮามะ หรือไซนุง นายยารานิง แดมามุ เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดประเภทยาบ้า พืชใบกระท่อม ยาแก้ไอ ส่วนผสมชนิด 4 คูณ 100 ได้อีกจำนวน 7 ราย
.............................
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0111190451&day=2008-04-19§ionid=0101 ครม.นัดพิเศษขยาย
ประกาศภาวะฉุกเฉิน 3 จว.ใต้อีก 3 เดือน "สมัคร"เล็งบังคับใช้ครอบคลุม 5 อำเภอสงขลาด้วย แต่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้ง สั่ง สมช.หาข้อสรุป ชม"อนุพงษ์"หลังเป็น ผบ.ทบ.ทำสถานการณ์ความไม่สงบดีขึ้น กอ.รมน.ขอเวลา 3 เดือนกำหนดพื้นที่ใช้ กม.ความมั่นคง
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 18 เมษายน โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 30 นาที ว่าที่ประชุมมีมติให้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา นราธิวาส ปัตตานี) อีก 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน-19 กรกฎาคม 2551
"หากไม่ประชุมเป็นกรณีพิเศษ ผมอาจจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินด้วยตัวของตนเอง ซึ่งจะเอิกเกริกเกินไป ครั้งนี้ถือเป็นการต่ออายุครั้งที่ 11 โดยมีตัวแทนของผู้ที่ต้องใช้อำนาจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาชี้แจงกับ ครม.ด้วย แม้ตอนนี้สถานการณ์จะดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังต้องใช้อยู่"นายสมัครกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมไปถึง 5 อำเภอ (เทพา สะบ้าย้อย สะเดา จะนะ นาทวี) ของ จ.สงขลา ด้วยหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า อยากจะให้มีการประกาศใช้ด้วย จึงสั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปพิจารณาเรื่องข้อขัดแย้ง เนื่องจากคนที่ทำธุรกิจใน 5 อำเภอนั้นไม่อยากให้มีการประกาศ แต่คนที่บริหารในการจัดการเรื่องความสงบก็อยากให้มี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ครอบคลุม 5 อำเภอใน จ.สงขลา
นายสมัครยังกล่าวถึงการยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วประเทศว่า มีผลทันทีหลังการประชุม สมช. เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา แต่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ขอเวลา 3 เดือน ในการพิจารณาแต่ละพื้นที่ ที่จำเป็นต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการประชุม ครม. นายสมัครได้กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ได้ไปประชุม สมช. ไปรับฟังเรื่องราวต่างๆ แทน ครม.ทุกคน พบว่าตั้งแต่มีการแต่งตั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เริ่มดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาในเรื่องการปฏิบัติ โดยเฉพาะขั้นตอนการสับเปลี่ยนกำลังในพื้นที่ที่ยังมีช่องว่างและรอยต่อกันอยู่ แต่ในภาพรวมไม่มีปัญหา สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว ดังนั้น จึงเห็นด้วยต่อการต่ออายุประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นหนทางที่จะช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ และทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
ด้านเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ เมื่อเวลา 10.30 น. ขณะที่นายณัฐวุฒิชัย มามะ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสายบ้านควนคูหา-บ้านท่าเรือ เมื่อมาถึงหมู่ 1 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ถูกคนร้าย 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะประกบใช้ปืนยิง กระสุนถูกนายณัฐวุฒิชัย ที่ลำตัวและแขนขวา ได้รับบาดเจ็บ
นายประกิจ พลเดช อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีการยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วประเทศ ว่าถือเป็นเรื่องที่ดี และจะส่งผลดีต่อความรู้สึกของประชาชน และจะทำให้กลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เพราะในอดีตโดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีการเข้มงวดมากจากฝ่ายทหาร ทำให้ ส.ส.และประชาชนในพื้นที่มีความอึดอัด แต่หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาก็ผ่อนคลายลง
"ที่วิพากษ์วิจารณ์พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่ของคลื่นใต้น้ำนั้น ขอปฏิเสธ การเคลื่อนไหวทุกอย่างของชาวบุรีรัมย์ล้วนเกิดขึ้นจากวิญญาณของนักต่อสู้ ช่วงก่อนการเลือกตั้งมันอึดอัดมาก โดนลิดรอน อย่างผมก็โดนเยอะแยะไปหมด มีทหารคอยติดตาม ตามรถเวลาไปไหนมาไหน รวมทั้งคอยตามถ่ายรูป มาสอบถามทุกอย่างว่าไปทำอะไร มีทรัพย์สินเงินทองอะไรบ้าง ดังนั้น การยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วประเทศครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็สบายใจขึ้นมาก" นายประกิจกล่าว
นายประกิจกล่าวว่า ส่วนที่กลัวว่ายกเลิกกฎอัยการศึกแล้วจะมีการก่อม็อบวุ่นวายกันไปหมดนั้น ขอปฏิเสธเช่นกัน เพราะการเคลื่อนไหวของชาวบุรีรัมย์ ที่ผ่านมาในเรื่องการเมือง ล้วนเคลื่อนไหวด้วยวิญญาณของนักประชาธิปไตย เป็นการเคลื่อนไหวอย่างอิสระไม่มีสิ่งแอบแฝง และเชื่อว่าพอบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว ราคาพืชผลทางการเกษตรดี คงไม่มีใครออกมาเคลื่อนไหวอะไรกัน
นายสุชาติ ตรีรัตน์วัฒนา อดีตประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนของ จ.ตาก มีผลประโยชน์มากในเรื่องการค้าการขายในพื้นที่ อ.แม่สอด และอำเภอใกล้เคียง เพราะที่ผ่านมาในช่วงประกาศกฎอัยการศึกมีปัญหาเรื่องการส่งออก เพราะถูกมองว่าสินค้าที่ส่งออกไปพม่าเป็นสินค้ายุทธปัจจัย
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวว่า การยกเลิกกฎอัยการศึกมีผลให้พื้นที่ อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง จ.พะเยา ถูกยกเลิกไปด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกคน โดยเฉพาะประชาชนที่เป็นกลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มต่างๆ ที่จะมีโอกาสรวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมต่อกลุ่มของตนเอง เช่น กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเรื่องราคาผลผลิตการเกษตรจะได้มีช่องทางเรียกร้องได้สะดวกมากยิ่งขึ้น