แนวทางป้องกันการก่อเหตุด้วยวัตถุระเบิดhttp://www.nia.go.th/FileRoom/CABFRM01/DRAWER01/GENERAL/DATA0008/00008097.PDFสถานการณ์ในปัจจุบันมีเหตุลอบวางระเบิดและการขู่วางระเบิดตามสถานที่ราชการ และสถานที่ต่างๆ อันเป็นภัยและส่งผลกระทบอย่างมากมายต่อขวัญ กำลังใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายต่อความสงบเรียบร้อย ภาพลักษณ์ของประเทศ เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะในด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ผู้ เกี่ยวข้องและประชาชนทุกคน ต้องมีส่วนร่วมในการระวังป้องกัน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ผู้อื่น เฉพาะอย่างยิ่งของส่วนราชการ
แนวทางป้องกันการก่อเหตุด้วยวัตถุระเบิด ตามหลักการแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
1. เชิงตั้งรับ หมายถึง การป้องกัน การเฝ้าระวัง รักษาสถานที่ โดยกำหนดรูปแบบมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ หรือการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่เรานั่นเอง เช่น
- การสร้างแนวกีดขวาง รั้ว กำแพง ประตู เหล็กดัด
- ระบบแสงสว่าง อุปกรณ์เสริมด้านรักษาความปลอกภัย เช่น กล้องวงจรปิด ประตูรหัส เข้า-ออก
- การกำหนดพื้นที่ควบคุม การควบคุมบุคคล เข้า-ออก ควบคุมยานพาหนะ เข้า-ออก
- การจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติบุคลก่อนเข้าทำงาน
- ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำกำลังป้องกันเป้าหมาย
- ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การสังเกต การตรวจค้น
การแก้ปัญหาจากเหตุการณ์เบื้องต้น จัดทำแผนฉุกเฉิน แผนการเคลื่อนย้าย และการป้องกันในเชิงตั้งรับนั้น ถ้าสถานที่เป็นสถานที่ปิด จะไม่ประสพปัญหาในการวางมาตรการแต่ถ้าเป็นสถานที่เปิด เพื่อให้ประชาชนเข้ามาติดต่อหรือเข้ามาใช้บริการ เช่น ที่ว่าการอำเภอ โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด แหล่งจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ สถานีขนส่ง ก็จะเกิดปัญหาด้านกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีไม่เพียงพอ หากกำหนดมาตรการควบคุมเข้มงวดเกินไป ก็จะขัดต่อการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจและขอความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานอยู่ในสถานที่นั้นว่า การระวังป้องกันภัยมิใช่เป็นเพียงหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือตำรวจเพียงอย่างเดียว ทุกคนต้องมีส่วนร่วม ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้น ทุกคนย่อมได้ผลกระทบเช่นกัน การทุ่มเทกำลังพลและงบประมาณจำนวนมากต่อการเฝ้าสถานที่เป็นการสิ้นเปลือง ดังนั้นการที่ทุกคนกระจายทำงานอยู่ในสถานที่นั้นๆ อยู่แล้ว จึงควรช่วยกันทำหน้าที่เฝ้าระวัง เป็นหูเป็นตา และสังเกต สิ่งผิดปกติรอบๆ ตัวเรา ถ้าพบเห็นสิ่งผิดปกติ ต้องแจ้งเ จ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้า
- 2 -
ตรวจสอบทันที และปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
2. เชิงรุก หมายถึง มาตรการในการต่อต้านต่างๆ ที่มุ่งกระทำโดยตรงต่อตัวผู้มุ่งร้าย
เป็นงานในหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้มีอำนาจหน้าที่โดยเฉพาะ เช่น
- การหาข่าวและรวบรวมข่าวสารความเคลื่อนไหว เพื่อทำลายเครือข่ายของขบวนการ สืบสวน ติดตาม พิสูจน์ทราบ องค์กร กลุ่มบุคคล ตัวผู้ลอบ วางระเบิดแล้วเข้าทำการจับกุม
- การบังคับใช้ กฎหมาย ควบคุมการนำเข้าและการมีไว้ในครอบครองวัสดุ อุปกรณ์ ที่อาจนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องมือในการลอบวางระเบิด
- ศึกษาวิเคราะห์ วิจัย กลวิธีในการลอบวางระเบิด และปรับปรุงมาตรการป้องกัน การลอบวางระเบิด
มาตรการต่อต้านในเชิงรุกนั้น ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องประสานกำลังหลายฝ่ายเข้าปฏิบัติตามแผนอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาและอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ คือ การเฝ้าระวังพื้นที่สาธารณะที่มีประชาชนเข้ามาใช้พื้นที่หนาแน่นและพื้นที่มีขนาดกว้างขวาง กำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรและพื้นที่ ดังนั้น จึงต้องเสริมทั้งกำลังภาครัฐอื่นๆ และภาคประชาชนเข้ามาช่วยเฝ้าระวังร่วมกัน เช่น
- ประสานการปฏิบัติระหว่างกลุ่มแนวร่วมประชาชน อาสาสมัครป้องกันภัย มูลนิธิ สมาคม ตำรวจบ้าน กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน พนักงานรักษาความปลอกภัยเอกชน ฯลฯ คอยเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส และตื่นตัวในการรักษาความปลอดภัย
- จัดอบรมให้มีความรู้ในด้านการสังเกต ตรวจสอบ แจ้งเตือน แก่เจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่เอกชน ที่ต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ผ่านพื้นที่สาธารณะ เช่น พนักงานของการไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่เทศกิจ พนักงานทำความสะอาดของกรุงเทพมหานคร กลุ่มรถรับจ้างสาธารณะ
- จัดทำข้อมูล เอกสารเผยแพร่ คำแนะนำ ให้ประชาชนเข้าใจถึงภัยของการลอบวางระเบิด พร้อมแนวทางปฏิบัติในการป้องกันภัย
- ประสานการใช้เครื่องมือเสริมด้านการรักษาความปลอดภัยกับภาคเอกชน เช่น การใช้กล้องวงจรปิด โดยกำหนดจุดตั้งกล้องของภาครัฐและเอกชนให้ครอบคลุมพื้นที่เฝ้าระวัง
- จัดทำแผนและเตรียมความพร้อมในการกู้ภัย การดับเพลิง การอพยพประชาชน เตรียมการรักษาพยาบาล การซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่จำเป็น
- การประชาสัมพันธ์และบำรุงขวัญ
- 3 -
การปฏิบัติเมื่อมีการขู่วางระเบิดทางโทรศัพท์
1. ผู้รับโทรศัพท์อย่าตื่นเต้นหวาดกลัวจนเกินเหตุ มีสติ ทำใจให้สงบ (จากสถิติการ
โทรศัพท์ขู่วางระเบิดจะเกิดระเบิดจริงเพียงร้อยละ 1-5 เท่านั้น)
2. รีบเตรียมอุปกรณ์บันทึกข่าวสาร
3. พยายามจับความให้ละเอียด ปล่อยให้ผู้โทรศัพท์ขู่พูดไปเรื่อย ๆ อย่าขัดจังหวะ
4. ในระหว่างการพูดสนทนา ให้พยายามซักถามรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด เช่น
- วางระเบิดไว้ที่ไหน
- จะระเบิดเวลาใด
- ทำไมต้องวางระเบิด
- วางระเบิดไว้เมื่อใด และวางไว้ด้วยวิธีอะไร
- วัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้ในภาชนะใด
5. พยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้โทรศัพท์ขู่ให้มากที่สุด
- วัน เวลา ที่รับโทรศัพท์
- เพศ อายุประมาณ
- สภาพจิตใจระหว่างสนทนา
- สังเกตสำเนียง ภาษาที่ใช้ คำพูด
- เสียงต่าง ๆ ที่เข้ามาระหว่างสนทนา
- พยายามชวนพูดคุยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อรวบรวมข้อมูลของการขู่
6. การติดตั้งโทรศัพท์ชนิดแสดงหมายเลขโทรเข้า
7. ถ้าเป็นไปได้ ให้พ่วงเครื่องโทรศัพท์เครื่องอื่น เพื่อให้มีผู้ร่วมฟังด้วย หรือเปิดเครื่อง
บันทึกเสียง ถ้ามีเตรียมไว้
8. ให้แจ้งผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
- 4 -
แนวปฏิบัติเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุระเบิด
หากพบวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นวัตถุระเบิด ให้ปฏิบัติดังนี้
1. อย่าแตะต้อง และห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปใกล้วัตถุต้องสงสัย
2. กั้นบริเวณที่วัตถุต้องสงสัยนั้นไว้
3. นำยางนอกรถยนต์มาวางครอบวัตถุต้องสงสัย โดยวางซ้อน 3-4 ชั้น
4. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด และคอยพบเพื่อชี้แจงรายละเอียด
ในกรณีที่พบว่า เป็นอุปกรณ์ก่อวินาศกรรมแน่ชัดแล้ว ถ้าเป็นการก่อวินาศกรรมด้วยไฟ ผู้
พบเห็นควรจัดการแก้ไข เพื่อไม่ให้มีสิ่งที่เสริมการลุกไหม้ ถ้าเป็นวัตถุระเบิด ผู้พบต้องดำเนินการด้วยความเยือกเย็น มีสติ ไม่ตื่นเต้น เพื่อรอให้ผู้มีความรู้ ความชำนาญ และมีประสบการณ์มาดำเนินการต่อ และ วิธีที่ดีที่สุด คือ พยายามหาหนทางให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินให้มากที่สุด โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
1. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
2. ออกจากพื้นที่ที่วัตถุต้องสงสัยตั้งอยู่ ให้ถือว่าพื้นที่นั้นเป็นเขตอันตรายโดยเร็ว และ
พยายามร่วมมือกับบุคคลอื่นๆ กันมิให้มีผู้อื่นเข้าไปในเขตอันตราย ระยะปลอดภัยประมาณ 100 เมตรขึ้นไป
3. ปิดไฟฟ้า ท่อแก๊ส ท่อเชื้อเพลิง ที่เข้าไปสู่เขตอันตราย
4. ถ้ามีกระสอบทราย ให้วางไว้โดยรอบ และให้สูงเกิน 1 เท่าของความสูงของระเบิด แต่
อย่าใช้กระสอบทรายทับระเบิด เพราะจะทำให้แรงระเบิดสูงขึ้น ถ้ามีการระเบิดหรือมีเครื่อง ช่วยลดแรงระเบิดอื่นๆ เช่น ยางรถยนต์ ให้นำไปครอบไว้ 3-4 ชั้น
5. ถ้ามีเวลาเพียงพอ อาจเคลื่อนย้ายวัสดุติดไฟและวัตถุเล็กๆ อื่น ออกจากบริเวณใกล้เคียง
แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบถึงเชือก ลวด หรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะโยงไปสู่วัตถุระเบิด หากพบลักษณะเช่นนี้ อย่าดึงหรือแตะต้องเด็ดขาด
6. อย่าแตะต้องหรือกู้ระเบิดเป็นอันขาด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญด้านวัตถุระเบิดมากู้
ให้เท่านั้น
- 5 -
การปฏิบัติเมื่อมีผู้ส่งจดหมายหรือกล่องพัสดุที่น่าสงสัย
1. ตรวจสอบความถูกต้องของการจ่าหน้าซอง สังเกตและพิจารณาชื่อผู้รับและผู้ส่งมีความถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ลายมือหรือตัวพิมพ์เป็นตัวหนังสือที่คุ้นเคยหรือไม่ รวมทั้งโอกาส
และเหตุผลในการส่งสิ่งของมาให้
2. สังเกตน้ำหนักและความสมดุลของน้ำหนัก หากมีความหนักมากเกินสมควรหรือมีความหนักที่ด้านใดด้านหนึ่ง ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน
3. สังเกตรอยเปื้อนหรือรอยด่างคล้ายคราบน้ำมัน และอาจมีกลิ่น
4. ใช้ความรู้สึกสัมผัส เพราะจดหมายปกติจะเป็นแผ่นกระดาษพับ หากพบเป็นแผ่นแข็ง หรือมีความหยุ่นมือ หรือพบเส้นลวดเล็กบางที่ซ่อนพรางไว้เอา หรือมีรูเล็กที่เจาะไว้ ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นวัตถุระเบิด
5. ในกรณีที่สงสัยว่าเป็นวัตถุระเบิด ให้ดำเนินการดังนี้
5.1 แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
5.2 นำสิ่งต้องสงสัยไปวางในที่โล่งแจ้ง และให้ห่างจากตัวอาคารให้มากที่สุด
5.3 อย่าดัด งอ เปิด เขย่า หรือกระแทกสิ่งต้องสงสัย รวมทั้งอย่าตัดเชือกที่ผูกอยู่ และอย่านำไปล้างหรือแช่น้ำ หรือเก็บในตู้เก็บเอกสารเด็ดขาด
5.4 กันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของ
เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญด้านวัตถุระเบิด
6. ข้อพิจารณา
6.1 อย่ารับสิ่งของจากบุคคลแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก รวมทั้งสิ่งของที่ไม่ได้สั่ง หรือผู้ที่นำ
มาส่งแบบผิดปกติ
6.2 อย่าให้คนนำส่งของเข้ามาในบ้าน ถ้าทำได้ให้จดชื่อและที่อยู่ของผู้นำส่งไว้ด้วย
6.4 ไม่ควรรับฝากสิ่งของไว้ให้บุคคลอื่น ควรแนะนำผู้นำส่งให้ส่งกับผู้ที่ระบุชื่อบนจดหมายหรือพัสดุโดยตรง
6.5 หากต้องรับฝาก ให้บันทึก วัน เวลา ชื่อผู้รับ ผู้ส่งให้ครบถ้วน
บันทึกข้อมูลขู่วางระเบิด
1.วัน เดือน ปี ที่รับโทรศัพท์........................... จำนวนครั้ง.....................................
2. เพศของผู้โทร ( ) หญิง ( ) ชาย
3. อายุประมาณ.............................................. เบอร์ที่โทรเข้ามา.....................................
4. ได้รับโทรศัพท์เมื่อเวลา..................................... ระยะเวลาในการโทร...............................
5. สิ่งที่ต้องถาม
1. ระเบิดจะระเบิดเมื่อไร...................................... 6. คุณรู้ไหมว่าระเบิดอยู่ตรงไหน...................................
2. ตอนนี้ระเบิดอยู่ที่ไหน.................................... 7. ทำไมถึงเอามาวาง......................................................
3. ระเบิดรูปร่างคล้ายอะไร.................................. 8. คุณอยู่ที่ไหน..............................................................
4. เป็นระเบิดชนิดไหน....................................... 9. คุณชื่ออะไร................................................................
5. อะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิด..........................................................................................................
6. บันทึกการขู่วางระเบิด (พูดว่าอย่างไร...........................................................
1................................................................................................................................................................
2................................................................................................................................................................
7. น้ำเสียงของผู้โทรเข้ามา (กาเครื่องหมาย / )
( ) สงบนิ่ง ( ) เน้นเสียง ( ) นุ่ม ( ) ตื่นเต้น ( ) หัวเราะ ( ) ดัดเสียง
( ) เร็ว ( ) ธรรมดา ( ) โกรธ ( ) เสียงดัง ( ) ช้า ( ) ร้องไห้
( ) เสียงลึก ( ) แตกต่าง ( ) ขาดหาย ( ) หายใจลึก ( ) ปิดบัง ( ) กระซิบ
( ) คล่อง ( ) คล้าย (ถ้าเสียงคล้าย, คล้ายใคร)
8. เสียงแบคกราวด์ (กาเครื่องหมาย / )
( ) บนท้องถนน ( ) เครื่องจักรในโรงงาน ( ) วุ่นวาย ( ) เสียงสัตว์
( ) เงียบ ( ) เครื่องเสียง ( ) เสียงเพลง ( ) เสียงในบ้าน
( ) เสียงอยู่ไกล ( ) ภายใน ( ) เสียงมอเตอร์ ( ) เครื่องจักรสำนักงาน
( ) อื่น ๆ (ระบุ) .........................................................................................................................................
9. ภาษาที่ใช้ในการขู่วางระเบิด (กาเครื่องหมาย / )
( ) พูดเร็ว (มีการศึกษา) ( ) อักขระ ( ) เสียงจากเทป ( ) อ่านข้อความที่เตรียมมา
10. การออกสำเนียง (กาเครื่องหมาย / )
( ) ภาคเหนือ ( ) ภาคอิสาน ( ) ภาคใต้ ( ) ไม่ชัดเจนแบบจีน ( ) ไม่ชัดเจนแบบฝรั่ง
( ) ไม่ชัดเจนแบบ ..........................................................................................
11. สภาพอารมณ์ ( ) ปกติ ( ) ไม่ปกติ
12. ข้อพิจารณา (อื่น ๆ)....................................................................................................................................
ชื่อผู้บันทึก..............................................ตำแหน่ง.......................................เบอร์โทร..................................
วัน เดือน ปี ที่บันทึก ................../............................/............................