ภูเขาไฟ ที่อินโดนีเซียระเบิดแล้วค่ะ

อิเหนาเมินคำเตือนขอเฝ้าสมบัติ

*ภูเขาไฟเมราปิพ่นพิษหนัก ปล่อยกลุ่มแก๊สเถ้าถ่านร้อนปกคลุมไกลรัศมี 4 กม. ชาวบ้านห่วงเฝ้าสมบัติ เมินคำเตือนทางการ กลุ่มความเชื่อลึกลับทำพิธีปัดรังควาน ไม่ให้ภูเขาไฟระเบิด*

ภูเขาไฟเมราปิ หนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นและพร้อมจะระเบิดมากที่สุดของอินโดนีเซีย ได้พ่นพิษรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อเช้าวันที่ 15 พฤษภาคม โดยพ่นกลุ่มแก๊ส,หินและเถ้าถ่านร้อนระอุออกจากปากปล่องภูเขาไฟ ตกปกคลุมบ้านเรือนเรือกสวนไร่นาบนพื้นที่ราบที่ตั้งอยู่ในรัศมีไกลถึง 4 กิโลเมตร แต่การแผลงฤทธิ์รุนแรงของภูเขาไฟลูกนี้ ยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยจากภูเขาไฟระเบิด ยอมอพยพออกจากบ้านเรือนทั้งหมดได้ โดยมีบางส่วนยังคงปักหลักเฝ้าสมบัติของตนเองอยู่ภายในบ้าน
(ข่าวจากมติชน)

ข่าวแจ้งว่า สามารถมองเห็นกลุ่มควันสีเทาขาวก้อนใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่า เมฆขนแกะ พวยพุ่งออกจากปากปล่องภูเขาไฟเมราปิที่สูงเกือบ 3,000 เมตร ตั้งอยู่บนเกาะชวา ห่างจากกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ไปทางตะวันออกราว 450 กิโลเมตร ในเช้าวันเดียวกันนี้ โดยกลุ่มควันดังกล่าวประกอบด้วยแก๊ส,เถ้าถ่านและฝุ่นควันที่มีอุณหภูมิสูงถึง 500 องศาเซลเซียส ซึ่งแม้ภูเขาไฟลูกนี้จะมีการเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น และทำให้มีการอพยพชาวบ้านราว 5,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยนี้ไปก่อนแล้วก็ตาม แต่ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงไม่ยอมอพยพหนีไปไหน เนื่องจากห่วงทรัพย์สมบัติฝูงวัวและบ้านเรือนของตน

นายแซปโตเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเขตสเลแมน หนึ่งใน 3 พื้นที่เสี่ยงอันตรายหากภูเขาไฟเมราปิระเบิดกล่าวว่า พวกชาวบ้านรู้ว่ากำลังเสี่ยงอันตราย แต่พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะอพยพหนีทางรถยนต์แล้วหากเกิดระเบิดขึ้น

ข่าวแจ้งด้วยว่า ชาวบ้านยังมีความเชื่อลึกลับที่เกี่ยวพันกับภูเขา โดยชาวชวาบางคนเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของภูเขาไฟเมราปิเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้น และเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ทำพิธีสักการะแม่น้ำที่ไหลทอดลงมาจากเนินภูเขาไฟเมราปิด้วย ภายใต้ความเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าไม่ให้ภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดได้

ทั้งนี้ เมราปิ เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ 129 ลูก ในอินโดนีเซียที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ โดยการระเบิดเมื่อปี 2537 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 60 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตราว 1,300 คน จากการระเบิดเมื่อปี 2473

วันเดียวกัน มีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นจันจูซึ่งมีความเร็วลม 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์อย่างหนักเมื่อสุปสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 41 รายแล้ว และทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย กรมอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะเพิ่มกำลังรุนแรงมากยิ่งขึ้นขณะเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวถึงเกาะฮ่องกงในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ (เอเอฟพี)