แถลงการณ์ฉบับที่ 5 มูลนิธิองค์การกลางเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายพีเน็ตเฉพาะกิจ
การเลือกตั้งแม้ขาดความชอบธรรม แต่ก็เป็นหน้าที่ที่คนไทยต้องไปเลือกตั้ง มูลนิธิองค์กรกลางฯและเครือข่ายพีเน็ตเฉพาะกิจ ได้แสดงจุดยืนทางการเมืองต่อการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 ว่าเป็นการเลือกตั้งที่ขาดความชอบธรรมด้วยเหตุผล 3 ประการคือ หนึ่ง การยุบสภามิได้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับรัฐสภา แต่เป็นการหาทางออกจากการที่มีประชาชนไม่พอใจการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีที่มีผลประโยชน์ส่วนตัวแอบแฝง สอง การกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเร่งรีบ ภายในเวลา 37 วันทั้งๆที่สามารถดำเนินการได้ภายใน 60 วัน เป็นการแสดงถึงเล่ห์กลและการช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งซึ่งฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อมมากกว่า สาม การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองใหญ่สมัครเพียงพรรคเดียว เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านอีก 3 พรรคที่พอมีศักยภาพในการแข่งขัน ประท้วงไม่ลงเลือกตั้ง ประชาชนจึงไม่มีทางเลือก และมีแนวโน้มว่าสภาผู้แทนราษฎรจะประกอบด้วยพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวทั้ง 500 คน ไม่มีกลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล
ข้อเสนอที่มูลนิธิองค์กรกลางฯได้แสดงจุดยืนมาโดยตลอด คือ การขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เลื่อนการเลือกตั้งออกไป โดยให้เป็นมติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อออกพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ กำหนดให้มีการเลือกตั้งใน 60 วัน และเปิดรับสมัครใหม่ เพื่อให้พรรคการเมืองใหญ่ได้มีโอกาสร่วมสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีองค์กรภาคประชาชนทำหน้าที่ในการตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างเข้มแข็ง มิใช่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่บั่นทอนความเข้มแข็งของการตรวจสอบจากภาคประชาชนมาโดยตลอด แต่ข้อเสนอดังกล่าวมิได้รับการตอบสนอง และยังยืนยันเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน ต่อไป
หากมีการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 สิ่งที่คาดการณ์ได้โดยไม่ยาก คือ โอกาสที่จะมี จำนวน ส.ส. ครบ 500 คน ในการเลือกตั้งครั้งแรก เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สูงมาก เนื่องจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทย มีเพียง 99 คน โอกาสที่พรรคเล็กจะได้ สส.บัญชีรายชื่อ จะต้องได้ถึง 1.5 ล้านเสียง ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากนี้ยังมีอีกกว่า 200 เขต ที่มีผู้สมัครพรรคเดียว ซึ่งต้องได้คะแนนเสียงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิ์ในเขตเลือกตั้งนั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีหลายเขตที่ยังไม่ได้ สส.ในการเลือกตั้งครั้งแรก และต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ครั้งที่สอง ครั้งสาม หรือต่อๆไป จนกว่าจะได้ สส. ครบ 500 คน ซึ่งตามกฎหมาย กกต. ต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จภายใน 30 วัน หากมีการเลือกตั้งหลายครั้งเพื่อให้ได้ ส.ส. ครบย่อมหมายความว่า การเปิดสภาครั้งแรกเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอาจต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน หลังจากวันที่ 2 เมษายน 2549
รัฐบาลที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถตัดสินใจในโครงการสำคัญ ไม่สามารถเสนอพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี ไม่สามารถดำเนินสัมพันธ์กับต่างประเทศเพื่อทำข้อตกลงใดๆเพื่อผูกพันต่อกันได้ การเป็นรัฐบาลพรรคเดียวที่สภาผู้แทนราษฎรมาจากพรรคการเมืองพรรคเดียว คือความแข็งแกร่งที่สุดที่เป็นจุดอ่อนที่สุดในตัวเอง เนื่องจากต่างชาติจะขาดความเชื่อมั่น ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลเช่นนี้จะอยู่ได้นาน ความเชื่อถือ ความไว้วางใจต่อการตัดสินใจลงทุนจากต่างชาติ จึงเป็นเรื่องที่เปราะบางแบบสุดสุด และยิ่งปัญหาการขาดความไว้วางใจในตัวผู้นำประเทศในหมู่ประชาชนหลายสาขาอาชีพ การชุมนุมคัดค้านขอให้ผู้นำเว้นวรรคทางการเมืองเนื่องจากขาดจริยธรรมและมีผลประโยชน์ทับซ้อน ขาดการยอมรับนับถือเนื่องจากหมดสิ้นความเชื่อถือในคำพูดที่เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างหาจุดยืนไม่ได้ ยิ่งเป็นสถานการณ์ที่ถมทับปัญหา นำประเทศไทยไปสู่จุดอับอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
การตัดสินใจเดินหน้าเลือกตั้ง ทั้งๆที่มีแนวทางอื่นที่ดีกว่า จึงเป็นเรื่องที่ จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง และรัฐบาลไทยรักไทยต้องรับผิดชอบ
เมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เราถือว่าเป็นหน้าที่ที่ประชาชนคนไทยต้องไปใช้สิทธิ์แม้ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ขาดความชอบธรรม มูลนิธิองค์กรกลางฯ จึงขอเรียกร้องและเชิญชวนประชาชนทุกคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 2 เมษายน และตัดสินใจเลือกพรรค หากเชื่อว่าพรรคดังกล่าวทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ หรือ กาในช่องในไม่ประสงค์จะลงคะแนน หากเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ขาดความชอบธรรม หรือไม่ชอบพรรคการเมืองใดเลย
นอกจากนี้ เครือข่ายพีเน็ตเฉพาะกิจ ได้จัดตั้ง ศูนย์รับแจ้งเหตุทุจริตการเลือกตั้งอย่างเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขึ้นที่บ้านมนังคศิลา โทรศัพท์ 02 2805384 02 280 5385. โทรสาร 02 280 5386 อินเตอร์เน็ต
www.pnet.in.th เพื่อรับแจ้งเหตุทุจริตเลือกตั้ง ทั่วราชอาณาจักร
เราขอเรียกร้องให้เครือข่ายพีเน็ตทุกจังหวัดได้ช่วยกันตรวจสอบกระบวนการบริหารจัดการการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด และรวบรวมข้อมูลการกระทำผิดพ.ร.บ.เลือกตั้งในจังหวัดของท่านส่งให้พีเน็ต โดยข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์ในการชี้ให้เห็นว่า การเลือกตั้งคราวนี้ใสสะอาด หรือสกปรกเพียงใด
กรุงเทพฯ 29 มีนาคม 2549