ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 19:37
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ปริศนาข้าวแกงนายสมัคร และปริศนาศาสตร์อี้จิงนายทักษิณ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ปริศนาข้าวแกงนายสมัคร และปริศนาศาสตร์อี้จิงนายทักษิณ  (อ่าน 1750 ครั้ง)
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« เมื่อ: 29-12-2007, 13:14 »

อ้างถึง
เมื่อ'สมัคร'เป็นนายกฯ โดยประสงค์ วิสุทธิ์
     
...เมื่อพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายกวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้ถึง 233 เสียง โอกาสที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แค่เอื้อม คาดว่า หลังช่วงหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ คงรู้ว่า หมู่หรือจ่า...

คนที่ผมรู้จักหลายคนซึ่งอาจมีภาพของนายสมัครแตกต่างกัน เมื่อปะหน้ายอมรับว่า ทำใจรับได้ยาก แต่ต้องก้มหน้ารับกติกาในระบอบประชาธิปไตย

ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช นายกราชบัณฑิตยสถานถึงกับเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ว่า เป็นโชคร้ายของประเทศไทยที่จะมีนายกรัฐมนตรีชื่อ สมัคร สุนทรเวช

ผมเองไม่เคยรู้จักหรือพบปะกับนายสมัครแม้แต่ครั้งเดียวแต่รับรู้เรื่องราวของนายสมัครผ่านนักหนังสือพิมพ์อาวุโสหลายคนที่รู้ 'กำพืด' ของนายสมัครเป็นอย่างดี

แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมผู้คนหรือแม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงจึงเรียกนายสมัคร(ลับหลัง)ว่า 'อ้ายหมัก' กันทั่วบ้านทั่วเมือง (ไม่ รู้ว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชนเรียกแบบเดียวกันนี้ด้วยหรือไม่) ทั้งๆ ที่นายสมัคร อายุคราวปู่คราวทวดถึง 72 ปีแล้ว แต่ยังเรียกนายสมัครว่า'พี่'('อ้าย'แปลว่า'พี่ชาย')

อย่างไรก็ตาม มีคนเตือนสติผมว่า การที่ได้นาย สมัครเป็นนายกรัฐมนตรี มีข้อดีที่นายกรัฐมนตรีคนอื่นไม่มี เพราะนอกจากจะให้สัมภาษณ์อย่างดุเด็ดเผ็ดมันแล้ว  เราอาจจะได้คำยินได้ฟังคำ 'ผรุสวาท' ผ่านจอทีวีและวิทยุทุกวัน เป็นการให้การศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมแก่เยาวชนว่า สุภาพชนที่แท้จริงควรปฏิบัติตัวอย่างไร

เมื่อนายสมัครเป็นนายกฯได้ระยะหนึ่ง เราอาจมีหนังสือ 'รวมคำผรุสวาท' ของนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ไว้ชื่นชม คล้ายๆ กับรวมปฐกถา หรือรวมวิสัยทัศน์ที่ผู้นำประเทศชอบจัดพิมพ์เป็นผลงานไว้เผยแพร่อะไรเทือกนั้น

นายสมัครยังมีความมุ่งมั่นสูง (จนทำให้คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่า ดื้อด้าน) ไม่กลัวใคร ฝีปากจัดจ้านและชอบเดินไปทางขวาจนติดเป็นนิสัย ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเลือกนายสมัครมาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนซึ่งนายสมัครเองก็ไม่ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณผิดหวัง เพราะ

หนึ่ง นายสมัคร เป็นบุคคลเดียวที่กล้าต่อกรกับ 'ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ'ในนิยามของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือ 'อีแอบผมขาว'ในนิยามของนายสมัคร

อย่าเข้าใจผิดเป็นอันขาดว่า 'อีแอบผมขาว'ผู้นี้เป็น' อีแอบผมขาว'ที่ชอบผลุบโผล่หิ้วกระเป๋าตาม พ.ต.ท.ทักษิณในช่วงเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่จะว่าไปแล้ว 'อีแอบผมขาว' รายหลังนี้ก็เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเหมือนกันเพราะ แค่ พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มจะคิด 'อีแอบผมขาว'ก็ทำงานเสร็จแล้ว เช่น โทรศัพท์ไปสั่งบรรณาธิการสถานีโทรทัศน์ต่างๆ

สอง นายสมัคร เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการยุบคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อ ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ( คตส.)เพราะนายสมัครเองก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้รอดจากคดีจัดซื้อรถดับเพลิงที่ คตส.กำไลังไต่สวนอยู่เช่นกัน

ถ้ายกเลิก คตส.ได้พ.ต.ท.ทักษิณก็มีโอกาสรอดคดีที่พ.ต.ท.ทักษิณตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาซึ่ง คตส.กำลงไต่สวนอยู่ 7-8 คดี

จะเห็นว่า ในการแถลงข่าวของนายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชนไม่ ยอมรับเงื่อนไขหรือไม่ยอมตอบข้อเรียกร้อง 1 ใน 5 ข้อของพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินที่เรียกร้องไม่ให้มีการยุบ คตส.แต่ตอบแบบไปไหนมาสามวาสองศอก

'กรณีต้องไม่ยกเลิก คตส.เนื่องจากมองว่า หลายฝ่ายมีความเข้าใจผิดกันว่า เมื่อยกเลิก คตส. แล้ว คดีทุกคดีที่ คตส.พิจารณาอยู่จะยุติไป ซึ่ง พปช. เห็นว่า ความเข้าใจผิดดังกล่าว ทำให้พรรคการเมืองบางพรรค และประชาชนส่วนใหญ่สับสน ซึ่งความจริงแล้วหากการกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นความผิด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ยังคงมีอำนาจในการดำเนินคดีสอบสวนอยู่

'ดังนั้นคดีทุกคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ คตส. จะต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น ดังนั้น ขอยืนยันว่า การยกเลิก คตส. ก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด'

เรียกว่า ได้นายสมัคร เป็นหัวหน้าพรรคเหมือนยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว

นายสมัครแถลงข่าวตอบโต้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยกรณียื่นไขในการเข้าร่วมรัฐบาลว่า ต้อง เทิดทูนสถาบันกษัตริย์เป็นการดูหมิ่นว่า ไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ โดยนายสมัครไล่เรียงถึงกำพืดและประวัติของตนเองว่า เป็นรัฐมนตรีมากี่กระทรวง ทำความดีความชอบจนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง

แต่ที่ลืมเล่าคือ ช่วงกินข้าวแกง 2 จาน นำแข็งเปล่าหนึ่งถ้วย ราคา 14.50 บาท หน้าหนังสือพิมพ์สยามรัฐเมื่อกว่า 30 ปีก่อน เมื่อนายสมัครจ่ายแบงก์100 แล้วแม่ค้าไม่มีเงินทอน
 
นายสมัครทำอย่างไร(ฮา)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=15144&catid=16
อ้างถึง
เปลวสีเงิน

    ผู้เข้าถึงศาสตร์จากตำราอี้จิงท่านบอกกับผมว่า   ลักษณะจมูกพ.ต.ท.ทักษิณเหมือนจมูก"ตั้งเปียกชิ้ง"คือเป็นคนมีจมูกคว่ำ หมายถึงว่า เห็นหน้า-เห็นจมูก
    แต่จะมองไม่เห็นรูจมูก!
    ลักษณะนี้ เงินไหลนอง-ทองไหลมา จะรวยรวบคนเดียวในประเทศ..ยันตาย!!
    ตั้งเปียกชิ้ง รวยแล้วก็"ไม่มีแผ่นดินอยู่"ต้องลี้ภัยการเมืองไปอยู่นอกประเทศ เลาะรั้วริมประเทศไทยไปอยู่แถวฮ่องกงเหมือนกัน สุดท้ายก็กลับมาเป็น อภิมหาเศรษฐีนายแบงก์ใหญ่ของไทย และของภูมิภาค ทิ้งเงินทิ้งทองไว้ให้ลูกหลานกินกันไปอีกสิบชั่วโคตรก็ไม่หมด
    ทักษิณจะเป็นคนที่  ๒ ต้องลักษณะ!
    ร่องแก้มเหมือนกัน ถ้าสังเกตจะเห็นพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนชอบยิ้ม จะยิ้มด้วยอารมณ์ไหน-แบบไหน  เป็นอีกเรื่อง ยิ้มหวาน ยิ้มเจ้าเล่ห์ แสยะยิ้ม ยิ้มเอาเรื่อง ฉีกยิ้ม เรียกว่าบนหน้า ๔ เหลี่ยมนี้ ยิ้มได้ทุกหน้า
    แต่ที่สำคัญคือ ทุกคนจะมีเส้นร่องแก้ม จะลึก จะตื้น จะยาว จะกินพื้นที่กว้าง หรือแคบ นั่นเป็นแต่ละคนไป
    สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณถือว่าเป็นคนลักษณะพิเศษ   คือนอกจากเส้นร่องแก้มแล้ว ยังมีอีกเส้นหนึ่งที่ขึ้นบริเวณสันกรามทั้งสองข้างเวลายิ้ม หรือหัวเราะ เส้นนี้ ตามตำราอี้จิงบอกว่า
    จะทำการสิ่งใด จะได้รับการสนับสนุนทั้งลับและแจ้งจากคนต่างถิ่น-ต่างแดน!
    รวยก็รวยแบบ"สูง-ต่ำกินรวบ"
    นั่นก็น่ากลัวอยู่แล้ว    แต่กลับมี"ต่างประเทศหนุนหลัง"ในการกระทำทุกอย่าง
    ท่านคิดว่า คน ๑ ใน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ล้านอย่างนี้ น่าอิจฉามั๊ย?
    แต่อี้จิงบอกไว้อีกอย่าง ซึ่งอย่างนี้"ผมขอไม่บอก"ดีกว่า!?
    มีคนที่เขาบินไปคารวะทักษิณกลับมาสรรเสริญแกมนินทาว่า ท่านยังคงดื่มไวน์หนักเหมือนเดิม ดื่มแล้ววาจาพรั่งพรู ปากมีรู ประตูหัวใจมีช่อง แสดงวิสัยทัศน์ผู้นำช่ำชอง-เป็นฉาก
    แต่ใครก็อย่าไป"ขัดคอ"เป็นอันขาด ไม่งั้นไวน์จะกร่อย วงสนทนาจะจ๋อย เพราะไม่เป็นที่สบทัยท่านผู้นำ!

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=29/Dec/2550&news_id=152581&cat_id=200



มีใครพอทราบเรื่องตรงสีแดงๆ บ้างมั้ยครับ
อ่านแล้วมันคันๆ อ่ะ

แบบว่าอยากจะฮาด้วยคนน่ะครับ  Mr. Green

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 30-12-2007, 22:53 »

จมูกงุ้ม ไม่เห็นรูจมูก เรียกว่า จมูกของคนขี้เหนียว ( เหมือนจมูกยิว "ไชล็อค" ไง )

ไม่ยอมเสียเปรียบใคร พูดง่ายๆ เงินเข้าแล้วออกยาก

จมูกเปิดๆ แบบลุงแคน เรียกว่า มีแต่ให้ได้เท่าไหร่ใช้จนเกลี้ยง

เรื่องกินข้าวแกง ต้องขอสืบค้นก่อน อิ อิ
บันทึกการเข้า

ลับ ลวง พราง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 945



« ตอบ #2 เมื่อ: 30-12-2007, 23:11 »

หวังว่าคงไม่ได้ไล่ แม่ค้าข้าวแกงให้ไปเสพเมถุน
บันทึกการเข้า

"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #3 เมื่อ: 30-12-2007, 23:25 »

คนชอบเสพเมถุนคล้ายกัน เพียงแต่ต่างกรรมต่างวาระ
บันทึกการเข้า
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #4 เมื่อ: 30-12-2007, 23:29 »

พวกแก่กะโหลกกะลาหาดีไม่ได้



ทำตัวเป็นขี้ลอยน้ำแถวนี้ยังมีให้เห็นถมเถไป กร๊ากกกกกกกกกกกก
บันทึกการเข้า
sensei
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721



« ตอบ #5 เมื่อ: 31-12-2007, 00:04 »

หวังว่าคงไม่ได้ไล่ แม่ค้าข้าวแกงให้ไปเสพเมถุน

แม่ค้า : รับอะไรดีจ้ะ ?

หมัก : ผมถามคุณบ้างแล้วกัน เมื่อคืนก่อนทำกับข้าวคุณไปเสพเมถุนกับใครมาหรือเปล่า ? ว่าไงล่ะ ?

 
บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #6 เมื่อ: 31-12-2007, 00:20 »

อ้างถึง
......................................................
......................................................

มีใครพอทราบเรื่องตรงสีแดงๆ บ้างมั้ยครับ
อ่านแล้วมันคันๆ อ่ะ

แบบว่าอยากจะฮาด้วยคนน่ะครับ  Mr. Green



เส้นนั้นเป็นเส้นบนหน้าศพของคนที่ตายอย่างทรมาน ( กัดฟันจนแน่น กระทั่งกล้ามเนื้อบนใบหน้าเกร็ง )
คนที่ตายแบบนี้รู้อยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองทำชั่วไว้ ( ส่วนจะปกปิด บิดเบือน สร้างภาพมายาคติอัยใด ได้แค่ไหน  เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)
จึงทำให้เป็นคนขี้ขลาด - กลัวตายเป็นที่สุด
- ถ้ารักจะเป็นบริวารของคนประเภทนี้ต้องฉลาด  รู้จักฉกฉวยเมื่อโอกาสมาถึง  และสร้างโอกาสเมื่อมี  รู้จัก "จังหวะเข้า-ออก" รวมทั้งต้องชำนาญเชี่ยวชาญในศิลปด้านการโกหกหลอกลวง - ตลบแตลง  เพื่อเอาตัวรอดจากทั้งตัวคนผู้นั้นและบริวารของมัน ( ซึ่งเป็นคนแบบเดียวกับเรา )
...ตัวอย่างบุคคลที่ควรศึกษาและเอาเป็นเยี่ยง...เอร่อ...แบบอย่าง คือ มิ้ง  เลี้ยบ ( คนนี้น่าศึกษามาก - จับตาไว้ดี ๆ)

อย่าได้เผลอ "ยึดมั่นในศักดิ์ศรี" เป็นอันขาด  เพราะจะตายฟรี  เนื่องจากจะถูกใช้ประโยชน์อย่างโง่ ๆ ( แบบแท้กซี่ ) หรือ อดทนยอมให้ช่วงใช้จนตัวตายไปก่อน ( เพราะสายป่านไม่ยาวเท่า - บารมีไม่มีเท่า เพราะถูก "ปล้นบารมี" ไปหมด ) 
...ตัวอย่างเช่น  สมคิด อุ๋ย  ป้าแมรี่
...และตัวอย่างของพวก "อ้างศักดิ์ศรี - อ้างหลักการ" แต่ไร้ความสามารถ - สร้างงานเอาหน้าไม่เป็น  จนถูกกำจัดแบบหมากเบี้ยพลีชีพ  เช่น  อ๋อย  ปุ 

ส่วนสมัคร มีรูปหน้าหมือนศพตายอืด  นัยน์ตาเหลือกโพลง
ถ้ารักจะเป็นบริวารต้องทำตัวดุจเดียวกับสัปเหร่อ  มัคทายก  ซึ่ง "ยอมเกลือกกลั้วกับศพ - ยอมเช็ดขี้ เยี่ยว น้ำเหลือง ที่ไหลออกมาจากศพ" เพื่อจะได้ "หากินกับญาติมิตร ( คนรัก -  คนนับถือ ) ของผู้ตาย" ( ตัวศพ ใช้เอามาทำมาหากินไม่ได้ )
...ห้ามทำตัวมีศักดิ์ศรีอีกเช่นกัน  มีโอกาสฉกฉวยได้ ให้รีบเอาทันที ( เพราะงานศพเป็น "งานสั้น" )
อย่าได้ทำตัวเป็นโยมอุปฐาก - เกื้อหนุนกันนาน ๆ  ยกเว้นเป็นคนไม่มีอะไรอยู่แล้วมาก่อน ( เป็นคนสั่ว ๆ มาก่อน ) ก็ทำไปเถอะ


บันทึกการเข้า

Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #7 เมื่อ: 31-12-2007, 00:39 »

ไอ๊หย่าาา ศาสตร์อี้จิงนี่น่ากลัวกว่าที่คิด

ขลังมักๆๆ อ่านแล้วขนลุกเลย Yell
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
หน้า: [1]
    กระโดดไป: