......................................................
......................................................
มีใครพอทราบเรื่องตรงสีแดงๆ บ้างมั้ยครับ
อ่านแล้วมันคันๆ อ่ะ
แบบว่าอยากจะฮาด้วยคนน่ะครับ
เส้นนั้นเป็นเส้นบนหน้าศพของคนที่ตายอย่างทรมาน ( กัดฟันจนแน่น กระทั่งกล้ามเนื้อบนใบหน้าเกร็ง )
คนที่ตายแบบนี้รู้อยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองทำชั่วไว้ ( ส่วนจะปกปิด บิดเบือน สร้างภาพมายาคติอัยใด ได้แค่ไหน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)
จึงทำให้เป็นคนขี้ขลาด - กลัวตายเป็นที่สุด
- ถ้ารักจะเป็นบริวารของคนประเภทนี้ต้องฉลาด
รู้จักฉกฉวยเมื่อโอกาสมาถึง และสร้างโอกาสเมื่อมี รู้จัก "จังหวะเข้า-ออก" รวมทั้งต้องชำนาญเชี่ยวชาญในศิลปด้านการโกหกหลอกลวง - ตลบแตลง เพื่อเอาตัวรอดจากทั้งตัวคนผู้นั้นและบริวารของมัน ( ซึ่งเป็นคนแบบเดียวกับเรา )
...ตัวอย่างบุคคลที่ควรศึกษาและเอาเป็นเยี่ยง...เอร่อ...แบบอย่าง คือ มิ้ง เลี้ยบ ( คนนี้น่าศึกษามาก - จับตาไว้ดี ๆ)
อย่าได้เผลอ "ยึดมั่นในศักดิ์ศรี" เป็นอันขาด เพราะจะตายฟรี เนื่องจากจะถูกใช้ประโยชน์อย่างโง่ ๆ ( แบบแท้กซี่ ) หรือ อดทนยอมให้ช่วงใช้จนตัวตายไปก่อน ( เพราะสายป่านไม่ยาวเท่า - บารมีไม่มีเท่า เพราะถูก "ปล้นบารมี" ไปหมด )
...ตัวอย่างเช่น สมคิด อุ๋ย ป้าแมรี่
...และตัวอย่างของพวก "อ้างศักดิ์ศรี - อ้างหลักการ" แต่ไร้ความสามารถ - สร้างงานเอาหน้าไม่เป็น จนถูกกำจัดแบบหมากเบี้ยพลีชีพ เช่น อ๋อย ปุ
ส่วนสมัคร มีรูปหน้าหมือนศพตายอืด นัยน์ตาเหลือกโพลง
ถ้ารักจะเป็นบริวารต้องทำตัวดุจเดียวกับสัปเหร่อ มัคทายก ซึ่ง "ยอมเกลือกกลั้วกับศพ - ยอมเช็ดขี้ เยี่ยว น้ำเหลือง ที่ไหลออกมาจากศพ" เพื่อจะได้ "หากินกับญาติมิตร ( คนรัก - คนนับถือ ) ของผู้ตาย" ( ตัวศพ ใช้เอามาทำมาหากินไม่ได้ )
...ห้ามทำตัวมีศักดิ์ศรีอีกเช่นกัน มีโอกาสฉกฉวยได้ ให้รีบเอาทันที ( เพราะงานศพเป็น "งานสั้น" )
อย่าได้ทำตัวเป็นโยมอุปฐาก - เกื้อหนุนกันนาน ๆ ยกเว้นเป็นคนไม่มีอะไรอยู่แล้วมาก่อน ( เป็นคนสั่ว ๆ มาก่อน ) ก็ทำไปเถอะ