ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-04-2024, 16:29
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  พลังประชาชนอาจถูกยุบพรรค ถ้ายังไม่สลัดภาพทักษิณ ออกจากอำนาจเหนือพรรค 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
พลังประชาชนอาจถูกยุบพรรค ถ้ายังไม่สลัดภาพทักษิณ ออกจากอำนาจเหนือพรรค  (อ่าน 2260 ครั้ง)
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« เมื่อ: 29-12-2007, 03:53 »


 


ขอเตือนด้วยความหวังดีครับ
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 29-12-2007, 03:57 »



ส่วนพรรคคู่แข่งหลายพรรคมีฉายา

บางพรรคผมให้ฉายา ว่าแมลงสาบเหงือกแห้ง

แต่คงไม่ต้องระบุแน่ชัดว่าเป็นพรรคใดหัวหน้าพรรคหนุ่มหรือแก่ ?
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 29-12-2007, 04:11 »





เอาเวลามาทำงานบ้านเมือง กำจัดแมลงสาบที่นำเชื้อโรค แก่ประเทศและประชาชนดีกว่า
บันทึกการเข้า

เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #3 เมื่อ: 29-12-2007, 07:12 »




ขอเตือนด้วยความหวังดีครับ


 อ้าวพี่ คิวก็  ทรท.เก่า ก็คือพรรคใหม่ในชื่อ พปช นะครับ   





 
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #4 เมื่อ: 29-12-2007, 08:21 »

แล้วไม่เป็นห่วงพรรคอื่น อย่าง "เพื่อแผ่นดิน" บ้าง?

ทักษิณ ไม่อยู่ในประเทศไทยด้วยซ้ำไป

แต่ สุรเกียรติ สุชาติ ที่ช่วงนี้สุมหัวกันทุกวัน กับพรรคชาติไทย
ผลัดกันเป็นเจ้าภาพ 6 วัน 6 บ้าน
เมื่อวานที่บ้านริมน้ำของสุชาติ
ภาพออกสื่อชัดเจน

ไม่เห็นมี กกต. หน้าไหน ไปขู่ยุบพรรค

ถ้า "เชื่อได้ว่า" พวกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทักษิณก็ต้องไม่เกี่ยวแน่นอน

สุดท้าย
ควรคิดทำอะไรที่เกิดประโยชน์
มากกว่าจะยุบพรรคโน้นพรรคนี้

พรรคเป็นของสมาชิก มิใช่ของกรรมการ
หากผู้บริหารทำผิด ก็ลงโทษที่ตัวบุคคล มิใช่ที่องค์กร

นิกสัน ผิดในคดี วอเตอร์เกต
ไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรครีพับลิกัน

เอกสารลับ เป็นหลักฐานแทรกแซงการเลือกตั้ง
หรือยิ่งกว่านั้น ... เอารถถังออกมายึดอำนาจ
ทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน
ควรจะต้องยุบกองทัพหรือเปล่า?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #5 เมื่อ: 29-12-2007, 08:27 »

ดีครับยุบกองทัพ แล้วเอา สส พปช ไปยืนเฝ้ารั้วแทน

อยากรู้เหมือนกันว่าพี่น้องร่วมชาติจะนอนตาหลับดีไหม
บันทึกการเข้า
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #6 เมื่อ: 29-12-2007, 08:37 »

อยากเตือนก็ไปเตือนที่เลินเดิ้นหรือฮ่องกงสิครับ นโยบายพรรคเค้ากำหนดกันที่โน่น
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #7 เมื่อ: 29-12-2007, 08:39 »

ดีครับยุบกองทัพ แล้วเอา สส พปช ไปยืนเฝ้ารั้วแทน

อยากรู้เหมือนกันว่าพี่น้องร่วมชาติจะนอนตาหลับดีไหม


ยุบแล้วก็สร้างใหม่ได้
ทหารอาชีพ ที่รู้หน้าที่
ไม่ยุ่งการเมือง ก็มี

ว่าแต่เข้าใจที่เขียนหรือเปล่า
ว่าถ้าทำผิด ให้ลงโทษที่ตัวบุคคล มิใช่องค์กร
ดังนั้น ไม่ได้บอกว่าควร ยุบกองทัพ
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 29-12-2007, 16:50 »



การยุบองค์กร ก็ทำให้วัฒธรรมเลวร้าย แบบมะเร็งที่รักษาไม่หาย หรือเอดส์ พลอยถูกกำจัดไปด้วย

องค์กรใดที่รับความเชื่อผิดๆเข้าไว้ ในที่สุดจะต้องเสื่อมสูญไป..บางองค์กรก็มีอายุขัยจำกัดแต่แรก

ไม่มีความจำเป็นต้องอาลัยอาวรณ์  อย่างพรรคเก่าแก่หากยังเป็นเช่นนี้ ในที่สุดก็คงไปพร้อมๆกับการเปลี่ยนแปลงในการเมืองไทยครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2007, 16:55 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-12-2007, 17:03 »



หากทักษิณยังมีอำนาจเหนือพลังประชาชน พลังประชาชนก็สมควรถูกยุบ

หรืออย่างน้อยก็เปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค..



ไม่ต่างอะไรจากพรรคเก่าแก่ ที่สมควรเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 29-12-2007, 17:37 »




มันยุปกันเองก็บ่อย  มันทำตัวเองก็บ่อย

ดังนั้นต่อจากนี้ไป พรรคใดทำผิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หากไม่ยุบ

การทำผิดรัฐธรรมนูญ และการบังคับใช้กฎหมายจะมีปัญหา


ส่วนพวกปั้นน้ำเป็นตัว หรือสร้างความวุ่นวาย เราก็เล่นงานกันได้ตามความผิด

ไม่มีปัญหา ขิงก็ราข่าก็แรง ก็ลด ละ เลิกกันไป..

บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 30-12-2007, 00:01 »



พลังประชาชน ต้องเลิกอิงทักษิณ และเงินทักษิณและพวก

ต้องช่วยกันเร่งให้ทักษิณกลับมาข้นศาลสู้คดี..

กองเชียร์พลังประชาชนต้องไม่ปากว่าตาขยิบ ไปลากคนที่ไม่เกี่ยวมาเกี่ยวข้อง

แค่นี้ก็ทำงานไปได้โดยสงบราบรื่น


ควรเดินหน้าปฏิรูประบบราชการอย่างเป็นกลางต่อไปครับ..

อย่าพยายามล้วงลูกนอกหลักการ หรืออย่าพยายามล็อคเสป็กอะไร?
บันทึกการเข้า

เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #12 เมื่อ: 30-12-2007, 11:32 »


พลังประชาชน ต้องเลิกอิงทักษิณ และเงินทักษิณและพวก

ต้องช่วยกันเร่งให้ทักษิณกลับมาข้นศาลสู้คดี..

กองเชียร์พลังประชาชนต้องไม่ปากว่าตาขยิบ ไปลากคนที่ไม่เกี่ยวมาเกี่ยวข้อง

แค่นี้ก็ทำงานไปได้โดยสงบราบรื่น


ควรเดินหน้าปฏิรูประบบราชการอย่างเป็นกลางต่อไปครับ..

อย่าพยายามล้วงลูกนอกหลักการ หรืออย่าพยายามล็อคเสป็กอะไร?




พี่คิวครับ  พปช. มันก็เท่ากับ ทรท.พรรคที่โดนยุบพรรคแหละครับ

 ทักษิณต้องมายุ่งเกี่ยวด้วยแน่นอน  ไม่อย่างนั้นจะบินจาก อังกฤษ

 มานั่งบัญชาการที่ฮ่องกงทำไม  แล้วพวก พปช. พอได้รับเลือกตั้งเข้ามากก็

 ยังแห่บินไปหา ทักษิณ ที่ฮ่องกงทำไม  พปช.มันพรรคนอมินี ของทักษิณอยู่แล้วครับ






บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 30-12-2007, 12:14 »

ยุบแล้วก็สร้างใหม่ได้
ทหารอาชีพ ที่รู้หน้าที่
ไม่ยุ่งการเมือง ก็มี

ว่าแต่เข้าใจที่เขียนหรือเปล่า
ว่าถ้าทำผิด ให้ลงโทษที่ตัวบุคคล มิใช่องค์กร
ดังนั้น ไม่ได้บอกว่าควร ยุบกองทัพ


อย่าเสร่อเลยคุณ

คุณว่ากรณีทักษิณ กับ สุรเกียรติ์ เหมือนกันงั้นหรอ

สรุปก็คือมองแค่เปลือกนอกเหมือนเดิม รายละเอียดไม่ต้องพูดถึง

เจตนาจะเป็นอย่างไรไม่สน เพราะมองแค่ว่าเค้าก้าวขาข้างเดียวกัน ยกมือข้างเดียวกัน หันไปทางเดียวกัน

แต่ไม่ดูว่าสิ่งที่เค้ากำลังทำนั้น เพื่ออะไร เพื่อใคร 

เจอนักประชาธิปไตยที่เห็นแก่ตัว แบบนี้ก็แย่หน่อย ไม่ยอมรับผิดชอบร่วม

เค้าถึงว่าทำงานเป็นทีมไม่ค่อยเป็น 
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #14 เมื่อ: 30-12-2007, 12:24 »


พลังประชาชน ต้องเลิกอิงทักษิณ และเงินทักษิณและพวก

ต้องช่วยกันเร่งให้ทักษิณกลับมาข้นศาลสู้คดี..

กองเชียร์พลังประชาชนต้องไม่ปากว่าตาขยิบ ไปลากคนที่ไม่เกี่ยวมาเกี่ยวข้อง

แค่นี้ก็ทำงานไปได้โดยสงบราบรื่น


ควรเดินหน้าปฏิรูประบบราชการอย่างเป็นกลางต่อไปครับ..

อย่าพยายามล้วงลูกนอกหลักการ หรืออย่าพยายามล็อคเสป็กอะไร?


ทั้งหมดนี้พวกพลังเมถุนมันจะมีปัญญาทำได้เหรอครับ 
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 04-01-2008, 19:40 »




ถ้าหากพรรคพลังประชาชนจ่อคิวถูกส่งเรื่องต่อเพื่อพิจารณาในการยุบพรรค

ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย..มากนัก ขึ้นอยู่กับหลักฐาน..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 11-01-2008, 15:30 »



ถ้าหากพรรคพลังประชาชนจ่อคิวถูกส่งเรื่องต่อเพื่อพิจารณาในการยุบพรรค

ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย..มากนัก ขึ้นอยู่กับหลักฐาน..



เรื่องยุบพรรคคงยาวหลายปีครับ..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 15-01-2008, 18:12 »



สรุปว่าพลังประชาชนอยากถูกยุบพรรค

แต่ กลายเป็นซอมบี้ เพราะหาช่องยืมมือที่สาม

ไล่สมัครและเฉลิมไม่ได้..


ทักษิณจ๋า เดะๆคิดถึง.
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #18 เมื่อ: 15-01-2008, 18:46 »

แล้วไม่เป็นห่วงพรรคอื่น อย่าง "เพื่อแผ่นดิน" บ้าง?

ทักษิณ ไม่อยู่ในประเทศไทยด้วยซ้ำไป

แต่ สุรเกียรติ สุชาติ ที่ช่วงนี้สุมหัวกันทุกวัน กับพรรคชาติไทย
ผลัดกันเป็นเจ้าภาพ 6 วัน 6 บ้าน
เมื่อวานที่บ้านริมน้ำของสุชาติ
ภาพออกสื่อชัดเจน

ไม่เห็นมี กกต. หน้าไหน ไปขู่ยุบพรรค

ถ้า "เชื่อได้ว่า" พวกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทักษิณก็ต้องไม่เกี่ยวแน่นอน

สุดท้าย
ควรคิดทำอะไรที่เกิดประโยชน์
มากกว่าจะยุบพรรคโน้นพรรคนี้

พรรคเป็นของสมาชิก มิใช่ของกรรมการ
หากผู้บริหารทำผิด ก็ลงโทษที่ตัวบุคคล มิใช่ที่องค์กร

นิกสัน ผิดในคดี วอเตอร์เกต
ไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรครีพับลิกัน

เอกสารลับ เป็นหลักฐานแทรกแซงการเลือกตั้ง
หรือยิ่งกว่านั้น ... เอารถถังออกมายึดอำนาจ
ทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน
ควรจะต้องยุบกองทัพหรือเปล่า?


อ่านแล้วก็เท่ากับคุณ snowflake ยอมรับ
ว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชาชน

*เท่ากับผิดจริงตามที่คุณ Q ตั้งกระทู้*

จะไปอ้างทำไมว่ามีใครทำเหมือนกันบ้าง
ใครโดนฟ้องก็ถูกดำเนินคดีไปเท่านั้นเอง
มีใครผิดอีก..ถูกฟ้องหรือไม่.. เป็นอีกเรื่อง 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 15-01-2008, 18:50 »

อ่านแล้วก็เท่ากับคุณ snowflake ยอมรับ
ว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชาชน

*เท่ากับผิดจริงตามที่คุณ Q ตั้งกระทู้*

จะไปอ้างทำไมว่ามีใครทำเหมือนกันบ้าง
ใครโดนฟ้องก็ถูกดำเนินคดีไปเท่านั้นเอง
มีใครผิดอีก..ถูกฟ้องหรือไม่.. เป็นอีกเรื่อง 

เรื่องยุบพรรค และการเลือกตั้งที่มีข้อกังขา คงมีอีกหลายภาค
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 18-01-2008, 15:45 »



เรื่องยุบพรรค และการเลือกตั้งที่มีข้อกังขา คงมีอีกหลายภาค

สส.พปช. อยากถูกยุบ ก็ข้องแวะกับทักษิณและครอบครัวให้มากๆ

ได้ตังส์สนับสนุนจากพรรค แต่พรรคจะลุ่มๆดอนๆ ใช้การไม่ได้อีกพรรคหนึ่ง

ทำงานครับ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องประชาชนจะตัดสินเอง หลังจากเริ่มทำงานต่อไป
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 18-01-2008, 17:46 »



ศาลยกคำร้องรวดเลือกตั้งล่วงหน้าโมฆะ-พปช.เป็นนอมินี

 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2551 17:35 น.
 
 
   
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 
 
 
       ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ฟ้องการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะ โดยระบุ กกต.ทำตามหน้าที่ ขณะที่รอลุ้นอีกคดี “พรรคพลังประชาชน” เป็นนอมินีไทยรักไทย ไม่มีสิทธิส่งผู้สมัคร ส.ส.เวลา 16.00 น.ล่าสุดศาลได้ยกคำร้องทุกประเด็น
       
       วันนี้(18 ม.ค.)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง โดยนายจรัส พวงมณี นายกำธร โพธิ์สุวัฒนากุล และนายดิเรก อิงคนินันท์ มีคำสั่งยกคำร้องคดี ที่นายสราวุท ทองเพ็ญ โฆษกพรรคความหวังใหม่ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 3 พรรคความหวังใหม่ ยื่นฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลวินิจฉัยมีคำสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15-16 ธันวาคม เนื่องจากเห็นว่า กกต.ออกประกาศกำหนดวันเวลาเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 ให้เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงตั้งหน้า ณ ที่เลือกกลางตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น.มิชอบด้วยกฎหมาย
       
       โดยศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามคำร้องคำคัดค้านแล้วฟังได้ว่า กกต.เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มีอำนาจหน้าที่ควบคุมดำเนินการจัดการเลือกตั้ง และสนับสนุนการสรรหา ส.ส.และ ส.ว. รวมทั้งการออกเสียงประชามติให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ม.235 วรรค 1 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ม. 10 (1) ที่ให้ กกต. ออกระเบียบและประกาศ ตามแก่ความจำเป็นให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ. 2550 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศง 2550 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2550 รวมทั้งการออกเสียงการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ ม.236(1) พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.ฯ ม. 10 (2) โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2550 ได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป พ.ศ. 2550 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2550 กำหนดการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปในวันที่ 23 ธันวาคม 2550
       
       โดยผู้ร้องเป็นผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 3 พรรคความหวังใหม่ ต่อมาวันที่ 26 ตุลาคม 2550 กกต.ผู้คัดค้านได้ออกประกาศกำหนดวันและเวลาการเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง โดยประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550
       
       คดีมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง ตามวันเวลาดังกล่าวทั่วราชอาณาจักรเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ฯ ม.95 วรรค 1 บัญญัติว่า ในกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับคำสั่งจากทางราชการไปปฎิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้งที่ตนต้องใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งหรือวันเลือกตั้งไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้ง ให้ขอใช้สิทธิการลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งต่อ กกต. วรรค 2 บัญญัติว่าเมื่อ กกต.ประจำเขตเลือกตั้งหรือผู้ที่ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้ง มอบหมาย ให้ตรวจสอบการมีสิทธิเลือกตั้งของผู้แจ้งความประสงค์ตามวรรค 1 แล้ว ถ้าเห้นว่าถูกต้องให้กำหนดที่เลือกตั้งกลางที่ผู้นั้นจะใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งและแจ้งให้ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ผู้นั้นมีชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทราบ และหมายเหตุสถานที่ที่ผู้นั้นจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเอกสารที่เกี่ยวข้อง และวรรค 3 กำหนดว่าหลักเกณฑ์และวิธีการในการลงคะแนนเลือกตั้งตามวรรค 1 สถานที่และจำนวนที่เลือกตั้งกลาง และวันที่กำหนดให้มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่ กกต.ประกาศ
       
       โดยศาลเห็นว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฯ ม. 95 วรรค 1-3 เป็นการกำหนดขั้นตอนให้ กกต.จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมด้วยการออกระเบียบและประกาศซึ่ง กรณีที่ กกต.ออกประกาศกำหนดวันและเวลาการเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางวันที่ 15-16 ธันวาคม 2550 กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 17.00 น. จึงเป็นการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ม. 95 ที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว และเมื่อประกาศดังกล่าวได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 นั้น ก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.ฯ ม.5 ดังนั้นการที่ กกต.ผู้คัดค้าน ออกประกาศกำหนดวันเวลาเลือกตั้งล่วงหน้า ดังกล่าวนั้นก็ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
       
       นายสราวุท กล่าวว่า น้อมรับคำสั่งของศาลเพราะถือเป็นที่สุดแล้ว ศาลเห็นว่า กกต.มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า แต่มีอำนาจแล้วการจัดการเลือกตั้งจะเป็นตามกฎหมายหรือไม่นั้น ตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาอีกคดีหนึ่ง ให้วินิจฉัยพฤติการณ์จัดการเลือกตั้งที่อนุญาติให้บุคคลเข้าไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ไม่มีการสอบสวนว่ามีความจำเป็นตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หรือไม่ โดยอนุญาตให้ทุกคนที่ไปกรอกรายละเอียดและสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้เลย ซึ่งเห็นว่าไม่เป็นด้วยความบริสุทธ์ ยุติธรรม ตามบทบัญญัติของกฎหมายหรือไม่ โดยคดีนี้ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 21 มกราคม
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฟังคำสั่งวันนี้นายสราวุท เดินทางมาฟังคำสั่งด้วยตัวเองพร้อมกับ นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ขณะที่ทางฝ่าย กกต.ผู้คัดค้านมีนายณัฐศักดิ์ สุวรรณทวีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายคดี กกต.เป็นตัวแทนเข้าร่วมรับฟัง โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจมาร่วมรับฟังด้วย
       
       อย่างไรก็ดี ยังมีอีกคดีสำคัญที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ของพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องใน 4 ประเด็น คือ พรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย และ นายสมัคร เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย รวมทั้งในประเด็นที่ให้การเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเป็นโมฆะ โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 16.00
       น.
       
       ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษาในคดีของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยสรุปว่า ประเด็นแรก ที่ผู้ฟ้อง ฟ้องพรรคพลงประชาชนว่า เป็นนอมินี ไม่มีสิทธิส่งส.ส.ในนามพรรคพลังประชาชน ทั้งระบบสัดส่วนและระบบเขต และเรื่องที่ฟ้องว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค เป็นตัวแทน ไม่มีสิทธิลงนามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ศาลเห็นว่า เรื่องนอมินี ไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง แต่อยู่ในเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ จึงให้ยกคำร้อง ส่วนเรื่องที่ฟ้องขอให้ศาล พิพากษาการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ชอบด้วยกฏหมาย และให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า รวมทั้งให้เพิกถอนการนับคะแนนนั้น ศาลเห็นว่า ผู้ร้องไม่มีอำนาจในการร้อง เนื่องจากมาร้องภายหลังมีการเลือกตั้งไปแล้ว
       
       ส่วนเรื่องที่ฟ้องให้ศาลมีการพิพากษาในการแจกจ่ายวีซีดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ของพรรคพลังประชาชน เป็นการผิดกฏหมายหรือไม่นั้น ศาลเห็นว่า เป็นอำนาจของกกต.ที่จะวินิจฉัย ไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง โดยสรุปยกคำร้องทุกประเด็น
       
       ควาบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

 
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 18-01-2008, 17:49 »




ตกลงให้กกต. พิจารณาว่าจะส่งเรื่องต่อไปตามกระบวนการหรือไม่?


ศาลรัฐธรรมนูญครับ..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 19-01-2008, 18:29 »



เล่นพลาดเอง ทำผิด ถูกยุบพรรค อย่าไปโทษพรรคอื่นนะครับ 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 24-01-2008, 18:41 »



รายงานพิเศษ : “พปช.” กับ “ชัยชนะ” ที่เกิดจาก...?
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000009256
 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 มกราคม 2551 11:57 น.
 
 

   
 
บรรหาร ศิลปอาชา หน.พรรคชาติไทย อ้าง ร่วม รบ.กับ พปช.เป็นการทำเพื่อชาติ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าได้ ด้านสุวิทย์ คุณกิตติ หน.พรรคเพื่อแผ่นดิน บอก เข้าร่วม รบ.เพื่อความสมานฉันท์  http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886905

 
(แฟ้มภาพ)พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตัวจักรสำคัญที่ช่วยให้พรรค พปช.ได้จัดตั้ง รบ.ในวันนี้ หลังช่วยหาเสียงให้ พปช.ผ่านวีซีดี
http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886906

 
วีซีดีที่ทักษิณช่วยหาเสียงให้พรรคพลังประชาชน ซึ่งมีการแจกจ่ายอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งยันเลือกตั้งซ่อม แต่ กกต.ก็ยังไม่มีมติในเรื่องนี้
 http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886907

 
วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่าย ปชช.ต้านคอร์รัปชั่น ยื่นเรื่องพร้อมวีซีดีทักษิณให้ กกต.เอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณและ พปช.ตั้งแต่ 11 ธ.ค.ป่านนี้ยังสอบไม่เสร็จ  http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886908

 
ต้องลุ้น อนุ กก.สอบกรณีวีซีดีทักษิณที่ไพฑูรย์ เนติโพธิ์เป็น ปธ.จะสรุปซ้ำรอยที่เคยสรุปว่าหลักฐานไม่พอฟังว่านางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร แม่ยายทักษิณทำผิด กม.เลือกตั้งฐานแจกเสื้อแก่ม็อบคาราวานคนจนหรือไม่  http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886909

 
กกต.ใจดีให้ ยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ถูกร้องคดีทุจริตที่เชียงราย ได้เข้าสภาก่อน อ้าง สอยทีหลังได้
http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886910
 
ประเด็น พปช.เป็นนอมินี ทรท.ยังไร้คำตอบต่อไปว่าการส่งผู้สมัครของ พปช.ควรเป็นโมฆะหรือไม่ หลังศาลฎีกาฯ ยกคำร้องนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ โดยบอก ศาลไม่มีอำนาจพิจารณา   http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=886911

 
 
  อมรรัตน์ ล้อถิรธร...รายงาน
       
       
       ถ้า “ชัยชนะ” คือเครื่องยืนยันความสำเร็จ วันนี้ต้องถือว่า “พรรคพลังประชาชน(พปช.)” ที่รู้กันดีว่าเป็นนอมินีของไทยรักไทย ได้เดินมาสู่ความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลสมใจแล้ว ...ได้ ปธ.สภาที่เป็นถึงมือขวาของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง “ยงยุทธ ติยะไพรัช” แล้ว และใกล้จะได้นายกฯ ที่ชื่อ “สมัคร สุนทรเวช” ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกเองกับมือให้มาเป็น หน.พรรค พปช.ด้วย ...แม้ ปชช.จำนวนมากในประเทศนี้จะไม่พอใจกับความสำเร็จของ พปช.ในวันนี้ เพราะการกระทำหลายสิ่งของ พปช. ยังคาใจว่าต้องถูกยุบพรรค-ต้องถูกตัดสิทธิในการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่ แต่ใครจะทำอะไรได้ ในเมื่อผู้มีหน้าที่ยังไม่ทำอะไร ...บางที ชัยชนะของ พปช.ครั้งนี้อาจไม่ได้มาจากความสามารถของตนเอง แต่มาจาก “ความล้มเหลว” ของบางองค์กรก็เป็นได้
       
        คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายงานพิเศษ  http://www.managerradio.com/radio/DetailRadio.asp?program_no=1011&mmsID=1011/1011-1348.wma&program_ID=11778
       
       ก่อนจะพูดถึงความสำเร็จและชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในวันนี้ คงต้องย้อนไปดูจุดจบของพรรคไทยรักไทยกันอีกครั้ง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดดับของพรรคไทยรักไทยก็คือจุดเกิดของพรรคพลังประชาชน โดยพรรคไทยรักไทยดับเพราะดันไปจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อ 2 เม.ย.49 จึงได้ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเมื่อวันที่ 30 พ.ค.50
       
       “ผู้ถูกร้องที่ 1 (พรรคไทยรักไทย) เป็นพรรคการเมือง อันเป็นสถาบันหลักในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ย่อมต้องมีภาระหน้าที่ในการผดุงไว้ซึ่งหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย คือ การที่ประชาชนต้องมีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศที่แสดงออกในการเลือกตั้ง แต่ผู้ถูกร้องที่ 1 กลับทำให้การเลือกตั้ง ส.ส.อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 เป็นเพียงแบบวิธีที่จะนำไปสู่การผูกขาดอำนาจทางการเมืองของผู้ถูกร้องที่ 1 เท่านั้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 มิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่ผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้ง ส.ส.อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง (ปี 2544 และ 2548) ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่ากฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด”
       
       
       “ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขถ้วนหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือไปจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จนยากที่จะหาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบ หรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง พฤติการณ์ของผู้ถูกร้องที่ 1 ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 ไม่อาจดำรงความเป็นพรรคการเมืองที่จะสร้างสรรค์และจรรโลงความชอบธรรมทางการเมืองแก่ระบอบการปกครองของประเทศโดยรวมอีกต่อไป กรณีจึงมีเหตุอันควรยุบพรรคผู้ถูกร้องที่ 1” ตุลาการรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรค ทรท.
       
       การที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบเพราะกระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ไม่เพียงทำให้สังคมเปี่ยมไปด้วยความหวังว่า ในการเลือกตั้งครั้งใหม่คงจะมีพรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะคงไม่มีพรรคใดกล้าทำเช่นพรรคไทยรักไทยอีก ขณะเดียวกันน่าจะเป็นโอกาสดีให้นักการเมืองรุ่นใหม่หรือเลือดใหม่ได้เข้ามาทดแทนเลือดเก่าบ้าง
       
       แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นดังคิด เพราะแม้พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบและกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่แทนที่ 111 คนดังกล่าวจะเก็บตัวเงียบๆ ไม่ยุ่งการเมืองเช่นเดียวกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่เคยเก็บตัวระหว่างถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี กลับปรากฏว่า แกนนำหลายคนใน 111 อดีต กก.บห.ไทยรักไทย ต่างกระจายแทรกซึมเข้าไปมีส่วนสำคัญในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเล็กพรรคน้อยต่างๆ โดยเฉพาะใน”พรรคพลังประชาชน”ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับเองผ่านวีซีดีว่าเป็นพรรคนอมินีของพรรคไทยรักไทย แถม พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่สนว่าตนจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วยการหาเสียงให้พรรคพลังประชาชนอย่างหน้าตาเฉย
       
       “...ผมก็เลยบอกกับ ส.ส.พรรคไทยรักไทยทั้งหลายที่พรรคถูกยุบ ก็บอกว่า ถ้าเรารักประชาชน เราห่วงประเทศชาติ เรามารวมตัวกันเถอะ เพราะประชาชนเข้าใจเรา และรู้ดีว่าเราถูกกระทำ เขาก็เรียกมารวมตัวกันและมารวมตัวกันตั้งพรรคใหม่ชื่อพรรคพลังประชาชน ชื่อดีครับ เพราะเราจะต้องขอพลังจากพี่น้องประชาชน เพื่อจะเอาความมั่งคั่งของประเทศกลับคืนมา...สิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาก็คือพี่น้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องซึ่งยังมีปัญหาในชีวิต ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่ การเมืองมีความเข้มแข็ง แต่นั่นแหละครับมันเป็นจุดที่บางคนเขาอยากเห็นว่า ถ้าการเมืองอ่อนแอเขาได้ประโยชน์ ก็เลยอยากเห็นการเมืองบ้านเมืองของเราอ่อนแอ...แต่พี่น้องประชาชนจะต้องเอาพลังประชาชนสอนให้เขารู้เลยว่า การเมืองจะอ่อนแอไม่ได้ เพราะประชาชนจะอ่อนแอ เพราะฉะนั้นจะเลือกพรรคเดียวเนี่ยให้ดู พี่น้องเลือกพลังประชาชนให้ดู และมันจะเป็นพลังประชาชนนั่นแหละครับที่นำสิ่งที่พี่น้องเคยมีความสุขกลับคืนมา และที่สำคัญ เมื่อความยุติธรรมกลับคืนสังคมไทย ผมจะกลับไปอยู่กับพี่น้องประชาชน จะไปหาพี่น้องประชาชน ก็ขอฝากพรรคพลังประชาชนและผู้สมัครพรรคพลังประชาชนทุกคนด้วยครับ”
       
       วีซีดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณยอมรับว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณได้อ้อนขอคะแนนประชาชนให้เลือกผู้สมัครพรรคพลังประชาชนนั้น ไม่เพียงถูกแจกจ่ายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานที่เป็นฐานเสียงของพรรคไทยรักไทยเดิม แต่วีซีดีดังกล่าวยังมีการผลิตออกมาหลายชุดหลายเวอร์ชั่น และไม่ได้มีแค่ภาษากลาง แต่มีภาษาถิ่นด้วย
       
       “วันนี้พี่น้องครับ ส.ส.พรรคไทยรักไทยเก่า เขาไปรวมตั๋ว(ตัว)กัน ไปอยู่พรรคใหม่จื้อ(ชื่อ)ว่าพรรคพลังประชาชน จื้อจะดี แปลว่าพลังของประชาชน เพราะฉะนั้นผมก็เลยอยากจะบอกปี้น้องว่า สิ่งดีงามที่ปี้(พี่)น้องเคยได้ฮับ(รับ)ทั้งหลาย สิ่งที่ปี้น้องเคยชื่นชอบไทยรักไทยทั้งหลาย วันนี้ได้แปรสภาพมาเป็นพรรคพลังประชาชน ถ้าปี้น้องจ้วย(ช่วย)กันออกแฮง(แรง)ลงคะแนนให้พรรคพลังประชาชนกู้(ทุก)เขตกู้เบอร์ ปี้น้องจะได้เห็นว่าพรรคพลังประชาชนจะเป็นพรรคของปี้น้องประชาชนอย่างแท้จริง และจะนำสิ่งที่ดีงามที่เคยได้ฮับกลับคืนมาหมด และผมก็จะได้มีโอกาสจะปิ๊ก(กลับ)มาอยู่กับปี้น้อง ถ้าบ่าอั้น(ถ้าไม่อย่างนั้น)เขาจะแกล้งผมต่อไป ก็วันนี้ผมคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้น 1 ปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นฝันร้ายของประเทศไทย เป็นฝันร้ายของปี้น้อง แต่ว่าฝันร้ายพวกนี้มันจะหายไปทันที ถ้าปี้น้องจ้วยกันลงคะแนนให้พรรคพลังประชาชน ได้มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้อง ผมขอฝากพรรคพลังประชาชนด้วยนะครับ”
       
       
       วีซีดีทักษิณนับเป็น “ตัวจักร” สำคัญที่ทำให้พรรคพลังประชาชนได้คะแนนนำในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. และสิ่งที่เอื้อให้วีซีดีทักษิณแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง ก็คือ การที่ กกต.ไม่จริงจังพอที่จะจัดการระงับวีซีดีดังกล่าว เพราะขนาดนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ได้นำวีซีดีทักษิณยื่นให้ กกต.ตรวจสอบเพื่อเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคพลังประชาชนตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.(ก่อนวันเลือกตั้ง 12 วัน) ซึ่งหาก กกต.รีบตรวจสอบ ก็น่าจะได้ข้อสรุปตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้วว่า การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งข้อใดบ้าง(อย่างน้อยก็มาตรา 97 ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ห้าม”ผู้ใด”ชี้นำให้เลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง) รวมถึงประเด็นพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ยอมรับเองนั้น จะส่งผลถึงขั้น กกต.ต้องเสนอยุบพรรคพลังประชาชนหรือไม่
       
       แต่ กกต.ก็หาได้ออกอาการเร่งรีบตรวจสอบไม่ สังเกตได้จาก กกต.สั่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว มีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ (ที่เคยเป็น ปธ.อนุ กก.สอบแม่ยาย พ.ต.ท.ทักษิณแจกเสื้อให้ม็อบคาราวานคนจน แล้วสรุปว่าหลักฐานฟังไม่ชัดว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง) เป็นประธาน โดยให้เวลาสอบนานถึง 1 เดือน และทั้งๆ ที่ 1 เดือนก็น่าจะเป็นเวลาที่นานเกินไปแล้ว กลับปรากฏว่า เมื่อครบกำหนด ผลสอบก็ยังไม่แล้วเสร็จ โดยอนุกรรมการฯ ได้ขอขยายเวลาสอบต่ออีก 15 วัน ซึ่งน่าจะครบกำหนดในวันที่ 27 ม.ค.นี้
       
       แต่ล่าสุด วันนี้ (22 ม.ค.)นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย บอกว่า อนุกรรมการที่สอบเรื่องวีซีดี พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่ามีพยานจำนวนมาก การสอบคงเสร็จไม่ทันวันที่ 27 ม.ค. นายสมชัยยังบอกด้วยว่า สามารถขยายเวลาสอบสวนได้ และไม่ใช่เรื่องที่ต้องเร่งพิจารณาหรือทำตามกระแสแต่อย่างใด เพราะหากเกิดความผิดพลาด กกต.ต้องรับผิดชอบภายหลัง!?!
       
       การทำงานที่ล่าช้าของ กกต.ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ได้มีส่วนช่วยให้วีซีดีทักษิณสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มที่ในการเรียกคะแนนจากผู้ที่รักทักษิณให้เลือกพรรคพลังประชาชนได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วชนิดที่ไม่มีอุปสรรคหรือข้อกฎหมายใดใดมาขวางกั้นได้ ดีไม่ดีประชาชนบางคนอาจคิดว่าวีซีดีนั้นคือสิ่งที่ถูกกฎหมายเสียด้วยซ้ำ เพราะไม่เห็น กกต.จะทำอะไร
       
       นอกจาก “ทักษิณและวีซีดีทักษิณ” จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคพลังประชาชนประสบชัยชนะและได้เป็นรัฐบาลสมใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะ กกต.ยังทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ กกต.ก็ยังไม่ได้ทำความจริงให้ปรากฏ ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และอาจส่งผลสะเทือนถึงขั้นยุบพรรคพลังประชาชนได้เช่นกัน จึงเท่ากับเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งให้พรรคพลังประชาชนนอมินีของพรรคไทยรักไทยผงาดกลับมามีอำนาจได้อีกครั้ง
       
       ไม่ว่าจะเป็นกรณี “ปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัย” ซึ่งคงยังไม่ลืมว่า นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน ถูก กกต.เพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ฐานเป็นสมาชิกพรรคมากกว่า 1 พรรค โดยทางพรรคพลังประชาชนอ้างว่านายสิทธิชัยเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชนด้วย โดยมีใบสมัครที่มีลายมือนายสิทธิชัยเป็นเครื่องยืนยัน แต่ภายหลังศาลฎีกาได้สั่งให้ กกต.คืนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งแก่นายสิทธิชัย เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่า ลายมือที่เขียนในใบสมัครสมาชิกพรรคพลังประชาชนไม่น่าจะใช่ลายมือนายสิทธิชัยตามที่พรรคพลังประชาชนอ้าง กกต.จึงได้มีมติ (เมื่อ 11 ธ.ค.) ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีพรรคพลังประชาชนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฐานปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัย แต่จนบัดนี้ไม่ทราบว่าเรื่องดำเนินไปถึงไหนแล้ว?
       
       รวมทั้งกรณีที่ กกต.ได้มีมติตั้งอนุกรรมการขึ้นมาสอบเรื่องปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัยว่าจะถึงขั้นต้องเสนอยุบพรรคพลังประชาชนหรือไม่ โดยมีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธานนั้น บัดนี้เวลาผ่านมา 1 เดือนกว่าแล้ว เรื่องก็ยังเงียบ!
       
       นอกจากกรณีวีซีดีทักษิณ และกรณีปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัยที่ กกต.ยังไม่ทำอะไรให้ปรากฏ จึงส่งผลเป็นคุณแก่พรรคพลังประชาชนนั้น ยังมีอีก 1 กรณีที่ไม่เพียงเกี่ยวพันกับการทุจริตเลือกตั้งของพรรคพลังประชาชน แต่ยังอาจส่งผลถึงขั้นถูกยุบพรรคได้ แต่ กกต.ก็ยังไม่ได้ทำความจริงให้ปรากฏอีกเช่นกัน
       
       นั่นคือ “ทุจริตเลือกตั้งที่เชียงราย” ที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน ถูกผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยร้องต่อ กกต.ว่าซื้อเสียงผ่านกำนัน โดยจากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจสันติบาล พบว่า มีหลักฐานเป็นวีซีดีบันทึกการเดินทางและการพบกันของนายยงยุทธและกำนันเชียงราย 10 คนไว้ทั้งหมด ซึ่งหากพบว่า นายยงยุทธกระทำผิดจริง โทษอาจไม่ใช่แค่โดนใบแดง แต่อาจถึงขั้นยุบพรรคได้ เพราะนายยงยุทธเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
       
       แต่นอกจาก กกต.จะยังไม่ทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏต่อสาธารณชนแล้ว กกต.ยังใจดีประกาศรับรองผลเลือกตั้งให้นายยงยุทธได้เข้าสภา โดยอ้างว่า ถ้านายยงยุทธผิด ก็สามารถสอยทีหลังได้ ก็คงต้องติดตามว่า กกต.จะกล้าสอยดังที่ปากว่าหรือไม่ ในเมื่อวันนี้ (22 ม.ค.) นายยงยุทธเป็นถึงประธานสภาและประธานรัฐสภาไปแล้ว และมีประเด็นที่ต้องติดตามเพิ่มด้วยว่า การที่นายยงยุทธ ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว (21 ม.ค.) เพื่อนั่งตำแหน่งประธานสภา จะส่งผลเป็นการ “ตัดตอนความผิด” กรณีทุจริตเชียงรายไม่ให้ถึงพรรค เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกยุบพรรคหรือไม่?
       
       ทั้ง 3 เรื่อง 3 กรณี “วีซีดีทักษิณ-ปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัย-ทุจริตเชียงราย” ที่พรรคพลังประชาชนเสี่ยงต่อการถูกยุบพรรค คงต้องดูว่า กกต.ชุดนี้ ชุดอภิชาต สุขัคคานนท์ จะทำงานสมกับที่ประชาชนคาดหวัง หลังผิดหวังกับ กกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ หรือไม่ หรือจะยกประโยชน์ให้จำเลยไป ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว!?!
       
       ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากพรรคพลังประชาชนจะได้ประโยชน์จากการทำงานที่ล่าช้าของ กกต.ชุดนี้แล้ว ทางพรรคฯ ยังได้ประโยชน์จาก”คำวินิจฉัยของศาลฎีกาฯ”ในบางกรณีด้วย โดยเฉพาะประเด็น”พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย”จึงไม่อาจส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้ ซึ่งนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร้องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาเรื่องนี้ ทำเอาพรรคพลังประชาชนเกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ กลัวความผิดถึงขนาดต้องเลื่อนการประกาศจัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรคออกไปเป็นหลังวันที่ศาลตัดสิน (ศาลตัดสิน 18 ม.ค./6 พรรคประกาศจัดตั้งรัฐบาล 19 ม.ค.) แต่ในที่สุด ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง ได้มีคำสั่งคดีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยว่า “ศาลฯ ไม่มีอำนาจพิจารณา”!?!
       
       สรุปว่า ไม่ใช่พรรคพลังประชาชนไม่ผิดหรือไม่ได้เป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย แต่ศาลฯ ไม่มีอำนาจชี้ พรรคพลังประชาชนจึงได้ประโยชน์ไปอีกตามเคย นี่ยังไม่รวมประเด็นที่นายไชยวัฒน์ร้องศาลฎีกาฯ ว่า พรรคพลังประชาชนนำซีดีปราศรัยของอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ไปแจกจ่ายให้ประชาชน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ศาลฯ มีคำสั่งยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่า คำร้องดังกล่าวเป็นการคัดค้านการเลือกตั้ง ดังนั้นผู้ที่จะร้องต่อศาลฎีกาฯ ได้ก็คือ กกต.
       
       คำวินิจฉัยของศาลฎีกาฯ แม้ไม่มีใครสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า จากคำวินิจฉัยดังกล่าว ทำให้หลายคนอดรู้สึกไม่ได้ว่า ทำไมปัญหาบ้านเมืองที่สังคมต้องการคำตอบถึงต้องพบกับทางตัน ไม่ใช่เพราะด้วยประโยค 2-3 ประโยคเหล่านี้หรือ “ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้อง - “ศาลฯ ไม่มีอำนาจชี้” สุดท้ายก็เลยต้องยกประโยชน์ให้จำเลยอย่างพรรคพลังประชาชนไป
       
       เมื่อยังไม่มีใครหรือศาลไหนชี้ความผิดพรรคพลังประชาชนได้ ความหวังสุดท้ายของพรรคฯ ก็คือ การจัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรค เพื่อโดดเดี่ยวพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว ซึ่งในที่สุด พรรคพลังประชาชนก็ทำได้สำเร็จ เพราะนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เจ้าของวลีที่ว่า “จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่นับถือมา 30 ปีผิดหวัง” เกิดเปลี่ยนแปลงจุดยืนขึ้นมากะทันหัน โดยบอกเหตุผลที่ยินดีเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า “...ที่ตัดสินใจเพราะเราเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เราต้องมีรัฐบาล จะปล่อยให้สุญญากาศเกิดขึ้นไม่ได้ และรัฐบาลต้องมีความมั่นคง ไม่ใช่ตั้งไปแล้วปริ่มน้ำก็อยู่ไม่ยืด...”
       
       ขณะที่ทางพรรคเพื่อแผ่นดินของนายสุวิทย์ คุณกิตติ ที่เคยปฏิเสธตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่า พรรคไม่ได้เป็นนอมินีของใคร ก็เผยเหตุผลของพรรคที่ยินดีเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า “เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วหลังเกิดสุญญากาศทางการเมือง รวมทั้งเพื่อสร้างความสมานฉันท์และยุติปัญหาความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความรุนแรง”!?!
       
       ส่วนพรรคเล็กอีก 3 พรรค “รวมใจไทยชาติพัฒนา-ประชาราช-มัชฌิมาธิปไตย” ไม่ต้องพูดถึง เพราะได้ประกาศเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนตั้งแต่ไก่โห่แล้ว โดยให้เหตุผลเป็นเสียงเดียวกันว่า “ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนที่มีฉันทามติแล้วว่าเลือกให้พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล”
       
       ...ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นพฤติการณ์ของพรรคการเมือง 5 พรรคที่อยากเป็นรัฐบาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกผลประโยชน์ที่พรรคพลังประชาชนได้จากวีซีดีทักษิณ-จากกรณีทุจริตเชียงราย-จากความเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ที่ กกต.ยังทำอะไรไม่ได้ และประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้ เราจึงได้เห็นรัฐบาลผสม 6 พรรค 315 เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสง่างามในสายตาของ 6 พรรคร่วมรัฐบาล คือ มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้มีชนักติดหลังกรณีทุจริตเชียงราย เป็นประธานสภาและประธานรัฐสภา และจะมีนายกฯ ที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช ผู้ที่มีชนักติดหลังเช่นกันจากการถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาฐานหมิ่นประมาทอดีตรองผู้ว่าฯ กทม.
       
       ป่านนี้ ผู้ที่กำลังยิ้มไม่ยอมหุบกับชัยชนะของพรรคพลังประชาชนในครั้งนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”!!
 
 
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: