==วิเคราะห์ประวัติการดำรงตำแหน่งการเมืองของคุณสมัคร (ขุดกระทู้มาสรุป)==

[jerasak]

(ข้อความเพิ่มเติมใหม่ 17 ก.ย. 51)
ตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม ปีก่อน ผมได้ทำข้อมูลวิเคราะห์
ประวัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของคุณสมัครไว้ในกระทู้นี้

ว่าส่วนใหญ่แล้ว ที่ผ่านมาคุณสมัครมักอยู่ในตำแหน่งได้แค่ไม่กี่เดือน

...

ในที่สุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 51 คุณสมัครก็ถูกศาลพิพากษาให้ต้อง
พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของไทย รวมระยะเวลาที่
ดำรงตำแหน่งได้ 7 เดือน 11 วัน (29 ม.ค. 51 - 9 ก.ย. 51)

ปัจจุบัน ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551 เ็ป็นที่แน่นอนแล้วว่า
คุณสมัครไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นสมัยที่ 2
และเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะยุติบทบาททางการเมืองโดยสิ้นเชิง
ก็เลยขุดกระทู้ขึ้นมาเพื่อปิดกระทู้อย่างสมบูรณ์นะครับ 

------------------------------------------------------------------------------------

(ความเดิม)

ตามที่ คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน มักชอบอวดอ้าง
ว่าเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมามากมาย ทั้งเคยเป็นรัฐมนตรี
หลายกระทรวง และเคยเป็นรองนายกฯ มาถึง 3 สมัย

ผมก็เลยลองสรุปประวัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของคุณสมัครดู
เอาเข้าจริง .. ได้ผลออกมาเป็นแบบนี้ครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..ข้อเท็จจริง..

เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการมา 2 กระทรวงในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์

ปี 2518 เป็น รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 2 (15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2518)
ปี 2519 เป็น รมช.กระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 3 (20 เมษายน พ.ศ.2519 - 23 กันยายน พ.ศ. 2519)

จากนั้นเริ่มได้เป็นรัฐมนตรีว่าการ

ปี 2519 เป็น รมต.กระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (8 ตุลาคม พ.ศ. 2519 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2520)
ปี 2526 เป็น รมต.กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 2 (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529)
ปี 2533 เป็น รมต.กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534)

จากนั้นก็เป็น รองนายกรัฐมนตรี

ปี 2535 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร (7 เมษายน พ.ศ. 2535 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535)
ปี 2538 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)
ปี 2539 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..สรุปได้ว่า..

ตอนเป็น รัฐมนตรีช่วย ใน 2 กระทรวง ได้นั่งเก้าอี้ เป็นระยะสั้น (มากๆ) คือ

ปี 2518 ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ถึง 1 เดือน (รัฐบาลแถลงนโยบายไม่ผ่าน)
ปี 2519 ได้เป็น รมช.มหาดไทย ประมาณ 5 เดือน (เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19)

ต่อมาเป็น รัฐมนตรีว่าการ ใน 2 กระทรวง คือ มหาดไทย (1 สมัย) กับ คมนาคม (2 สมัย)

ปี 2519 ได้เป็น รมต.มหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ ประมาณ 1 ปี (ถูก พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐประหารซ้ำ)
ปี 2526 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม รวมประมาณ 3 ปี 4 เดือน (เท่าอายุ ครม.)
ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ (โดน รสช. รัฐประหาร)

ต่อมาเป็น รองนายกรัฐมนตรี 3 สมัย

ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ (เกิด พฤษภาทมิฬ)
ปี 2538 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล นายบรรหาร รวมประมาณ 1 ปี 4 เดือน (เท่าอายุรัฐบาล)
ปี 2539 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต รวม 11 เดือนเศษๆ (เท่าอายุรัฐบาล)

...

เห็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจที่ว่า คุณสมัคร เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย
แต่เมื่อนึกถึงผลงานแล้วนึกไม่ออก เพราะแต่ละตำแหน่งส่วนใหญ่เคยนั่งในเวลาสั้นๆ

ที่เป็นชิ้นเป็นอันคงมีเพียงครั้งเดียวคือ ตำแหน่ง รมต.คมนาคม สมัยรัฐบาล เปรม 2
แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่านั่งอยู่ 3 ปีกว่ามีผลงานอะไรนะครับ (คงมีแต่ผมไม่ทราบ  )

..จะสรุปว่าคุณสมัครโชคร้ายในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้..

แต่การที่คุณสมัครอ้างอิงตลอดเวลาว่าเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย
ทำนองยกตนข่มคนอื่นว่าตนมีคุณวุฒิ มีประสบการณ์สูงส่งหนักหนา

ถ้าประวัติการดำรงตำแหน่งเป็นแบบนี้ก็อย่านำมาคุยคงจะดีกว่า 

[Cherub Rock]

ได้นั่งตำแหน่งมากมาย แต่ทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

เหมือนศูนย์หน้าไร้สกอร์ ยิงทิ้งยิงขว้าง
เพื่อนร่วมทีมเอือมระอา เพราะใช้โอกาสเปลือง

[jerasak]

ถ้าจะอ้างอิงกันแบบแฟร์ๆ ผมคิดว่าประวัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของคุณสมัครน่าจะเหลือแค่นี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปี 2519 ได้เป็น รมต.มหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ ประมาณ 1 ปี <- เป็นแค่รัฐบาลรักษาการไม่รู้ว่าควรนับไหม?
...
ปี 2526 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม รวมประมาณ 3 ปี 4 เดือน <- เป็นชิ้นเป็นอันที่สุดแล้ว
...
ปี 2538 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล นายบรรหาร รวมประมาณ 1 ปี 4 เดือน
ปี 2539 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต รวม 11 เดือนเศษๆ

+

ปี 2543 เป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2543 - 2547) รวม 4 ปีเต็ม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคุณสมัครเคยมีผลงานอะไรมาบ้าง

[จุกบี้]

รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2518)
รมช.กระทรวงมหาดไทย           (20 เมษายน พ.ศ.2519 - 23 กันยายน พ.ศ. 2519)

รมต.กระทรวงมหาดไทย           ( 8 ตุลาคม พ.ศ. 2519 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2520)
รมต.กระทรวงคมนาคม             (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529)
รมต.กระทรวงคมนาคม             (9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534)

รองนายกรัฐมนตรี                   (7 เมษายน พ.ศ. 2535 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535)
รองนายกรัฐมนตรี                   (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)
รองนายกรัฐมนตรี                   (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)

นึกว่ากำลังอ่านประวัติคนสมัครงานในเวบหางานอยู่ซะอีก???

เริ่มงานปีไหนก็สิ้นสุดปีนั้น..โดยระบุสาเหตุ"เข้าแก๊งค์ไหน หัวหน้าตายหมด"
ประสบการณ์อย่างละปีสองปีแบบนี้ ถ้าอยากได้งานก็น่าจะลองไปสอบเอาคะแนน
TOEIC มาเพิ่มซักหน่อยอะคะ จะทำให้ท่านดูมีความสามารถขึ้นมาอีกนิด(เผื่อได้งานๆ )

[สี่หามสามแห่]

อะไรกัน

ประวัติ ความสามารถของสมัคร ออกจะสูงส่ง

ไม่เชื่อ ถามคนในราชดำเนิน ดูสิคร้าบบบบ   

[jerasak]

นึกว่ากำลังอ่านประวัติคนสมัครงานในเวบหางานอยู่ซะอีก???

เริ่มงานปีไหนก็สิ้นสุดปีนั้น..โดยระบุสาเหตุ"เข้าแก๊งค์ไหน หัวหน้าตายหมด"
ประสบการณ์อย่างละปีสองปีแบบนี้ ถ้าอยากได้งานก็น่าจะลองไปสอบเอาคะแนน
TOEIC มาเพิ่มซักหน่อยอะคะ จะทำให้ท่านดูมีความสามารถขึ้นมาอีกนิด(เผื่อได้งานๆ )

เพิ่งสังเกตว่า เข้าไปร่วมกับ ครม. ไหนก็มีอันเป็นไปทุกราย จริงๆ ด้วย (ยกเว้นป๋าเปรมที่ดวงแข็ง)

ปี 2518 ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ถึง 1 เดือน <- แถลงนโยบายไม่ผ่าน มรว.เสนีย์ ต้องลาออก
ปี 2519 ได้เป็น รมช.มหาดไทย ประมาณ 5 เดือน <- เพิ่งเป็นรัฐบาลไม่นาน มรว.เสนีย์โดนรัฐประหาร

ปี 2519 ได้เป็น รมต.มหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ ประมาณ 1 ปี <- เป็นรัฐบาลรักษาการ นายธานินทร์ยังโดนรัฐประหารซ้ำ
ปี 2526 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม รวมประมาณ 3 ปี 4 เดือน <- ป๋าเปรมดวงแข็งจริงๆ 
ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ <- พล.อ.ชาติชาย โดนรัฐประหาร

ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ <- พล.อ.สุจินดา เจอพฤษภาทมิฬ ต้องลาออก
ปี 2538 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล นายบรรหาร รวมประมาณ 1 ปี 4 เดือน <- อยู่ได้ปีเดียว นายบรรหารต้องยุบสภา
ปี 2539 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต รวม 11 เดือนเศษๆ <- อยู่ได้ไม่ครบปี พล.อ.ชวลิต ต้องลาออกอีกราย

...
ปี 2551 นี้รอดูว่าถ้านายสมัครได้เป็น นายกฯ นอมินี จะเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้ารัฐบาลตัวจริง 

[น้องแบ๊งค์เองครับ]

 

[นายเกตุ]

ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ (โดน รสช. รัฐประหาร)
ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ (เกิด พฤษภาทมิฬ)

อะไรกันปี 2533 โดนรสช รัฐประหาร

แล้วปี2535 ยังมาร่วมกับสุจินดา ที่รัฐประหารตัวมันเองนี่นะ

ไหงมันมาอยู่พปช ที่พรรคนี้เขามีนโยบายขับไล่เผด็จการได้ไงนี่

เชื่อแล้วละว่าฝนตกขี้หมูไหลจริงๆ

[เพื่อนร่วมชาติ]

อย่าลืมตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพฯสิครับ

ปัจจุบันผลงานแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือซื้อรถดับเพลิง   

[ปรมาจารย์เจได]

ผมไปแก้ไขประวัติสมัครเรียบร้อยแระครับคุณจีฯ
ในไร้สาระนุกรม ในหมวดตำแหน่งสำคัญทางการเมีย

เชิญตามไปชมครับ

http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%81_%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A3#.E0.B8.95.E0.B8.B3.E0.B9.81.E0.B8.AB.E0.B8.99.E0.B9.88.E0.B8.87.E0.B8.AA.E0.B8.B3.E0.B8.84.E0.B8.B1.E0.B8.8D.E0.B8.97.E0.B8.B2.E0.B8.87.E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B9.80.E0.B8.A1.E0.B8.B5.E0.B8.A2

 

[jerasak]

ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ (โดน รสช. รัฐประหาร)
ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ (เกิด พฤษภาทมิฬ)

อะไรกันปี 2533 โดนรสช รัฐประหาร

แล้วปี2535 ยังมาร่วมกับสุจินดา ที่รัฐประหารตัวมันเองนี่นะ

ไหงมันมาอยู่พปช ที่พรรคนี้เขามีนโยบายขับไล่เผด็จการได้ไงนี่

เชื่อแล้วละว่าฝนตกขี้หมูไหลจริงๆ

ความจริงโดนรัฐประหารปี 34 ครับ แต่คุณสมัครรับตำแหน่ง ธันวาคม 2533

คุณสมัคร เข้ารับตำแหน่ง ในรัฐบาลชาติชาย หลังจากที่เกิดกระแสข่าวการทุจริต
ใน ครม.ชาติชาย 1 (ครม. คณะที่ 45) และพรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากรัฐบาล
พล.อ.ชาติชาย ลาออกแล้วได้รับเลือกกลับมาเป็นนายกฯ อีก

พอ พล.อ.ชาติชาย ตั้งรัฐบาลใหม่ เป็น ครม. คณะที่ 46 มีคุณสมัครเข้าร่วมด้วย
ในเดือน ธันวาคม 2533 อยู่มาได้ถึง กุมภาพันธ์ 2534 ก็โดน รสช. รัฐประหาร

หลังจากนั้นมีรัฐบาลอานันท์มารักษาการ เพื่อจัดการเลือกตั้ง พอเลือกตั้งเสร็จ
คุณสมัครก็ไปเข้าร่วมรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เกิดกรณีพรรคเทพ-พรรคมาร

แต่พอถึงปี 2550 คุณสมัครกลับเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร เหตุผลคงไม่มีอะไร
นอกจากประเมินฐานเสียงแล้วว่าต่อต้านคราวนี้จะได้เป็นรัฐบาลนั่นเอง
ที่สำคัญตัวคุณสมัครจะมีโอกาสได้เป็นนายกฯ แบบฟลุ๊กๆ 

[jerasak]

ผมไปแก้ไขประวัติสมัครเรียบร้อยแระครับคุณจีฯ
ในไร้สาระนุกรม ในหมวดตำแหน่งสำคัญทางการเมีย

เชิญตามไปชมครับ

http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%81_%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A3#.E0.B8.95.E0.B8.B3.E0.B9.81.E0.B8.AB.E0.B8.99.E0.B9.88.E0.B8.87.E0.B8.AA.E0.B8.B3.E0.B8.84.E0.B8.B1.E0.B8.8D.E0.B8.97.E0.B8.B2.E0.B8.87.E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B9.80.E0.B8.A1.E0.B8.B5.E0.B8.A2

 

BASE ON TRUE STORY 

[ปรมาจารย์เจได]

ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปดู ไปดูใหม่อีกรอบนะครับ

ผมไปเพิ่มหมวดผลงานเด็ดสุดจ๊าบระหว่างเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทยมหานคร

กับรูปถ่ายที่ว่าด้วย "หมักฉายแววเป็นนายกขอคนอีสานมานานแว้วว.."


http://th.uncyclopedia.info/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%81

[jerasak]

ล่าสุด แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน ยังอ้างอิงอยู่เลยครับ
ว่าคุณสมัครเคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีคมนาคมมาตั้ง 2 สมัย
อ้างว่าสมัยรัฐบาลชาติชาย เป็นรมต.คมนาคม ช่วงปี 2533-34

แต่ไม่บอกว่าเป็นแค่ 2เดือนกว่า ธ.ค.33 - ก.พ.34
ประเทศไทยเรานี้ เอาข้อมูลมาเล่นกันสนุนสนานจริงๆ 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
"หมัก"ฉุน"เติ้ง" เขี่ยทิ้ง ชท.แน่ ลั่นควบเก้าอี้นายกฯ-ว่าการคมนาคม
โดย ผู้จัดการออนไลน์    29 ธันวาคม 2550 07:06 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000154910
      
ส่อชัด"พลังแม้ว"เลือก"เพื่อแผ่นดิน"พรรคเดียว เขี่ยทิ้ง"ชาติไทย" อ้าง"หัวหน้าหมัก"รับไม่ได้"
บรรหาร"จับขั้วต่อรองร่วมรัฐบาล แถมตั้งเงื่อนไขเสียดแทงให้จงรักภักดี ลั่นนั่งควบทั้งเก้าอี้
นายกฯ-รมว.คมนาคม
       
       แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชนเปิดเผยว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้มีความเป็นไปได้สูง
ที่พรรคพลังประชาชนจะโดดเดี่ยวพรรคชาติไทยไม่ให้เข้าร่วมรัฐบาล เนื่องจากนายสมัคร สุนทรเวช
หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ไม่พอใจพฤติกรรมของนายบรรหารที่พยายามจับขั้วการเมืองเพื่อต่อรอง
การเข้าร่วมรัฐบาล โดยนายสมัครเคยบอกกับคนใกล้ชิดว่าไม่ต้องการพรรคชาติไทย ไม่สน ไม่เอา
อีกทั้งเมื่อเห็นการกระทำของนายบรรหารที่ยื่นเงื่อนไขที่ว่าต้องจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ทำให้นายสมัครรับไม่ได้ เพราะเป็นการกล่าวหาว่านายสมัครไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
       
       แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลจะมีนายสมัคร นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแน่นอน
ร่วมทั้งมีความเป็นได้สูงที่จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เนื่องจากนายสมัคร
มีความถนัดในด้านคมนาคม และเคยดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนด้วย(ในรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
ช่วงปี 2526-2529 และรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ 2533-2534)

[แอ่นแอ๊น]

ถ้าจำไม่ผิด ตอนอยู่คมนาคมสมัยป๋า น่าจะทำเรื่องทางด่วนมังคะ

ตอนนั้นมีข้อเสนอว่า จะให้ทำรถไฟฟ้า หรือทำทางด่วน

ไปๆ มาๆ เลือกทางด่วน

แล้วก็มีนิยาย ริงโรด ใยแมงมุม บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่แกชอบถนน 

โปรดสังเกตว่า เส้นทางที่เป็นทางด่วนจริงๆ แล้วคือ เส้นทางที่ควรจะเป็นรถไฟฟ้าอ่ะ

สมัยเด็กๆ ได้ฟังเทปขายยาของแกบ่อย เพราะที่บ้านเค้าซื้อมาฟังเอามัน

ชื่นชมกันเป็นอันมากว่า จำตัวเลขเก่ง ตอนหลังถึงรู้ว่า พูดแต่ละที มันไม่เหมือนกัน

แถมมีอินเตอร์เน็ตดาวโหลดเอกสารได้เป็นว่าเล่น แกเลยไม่กล้าเล่นมุขจำตัวเลขแม่นอีก

[Sweet Chin Music]

ล่าสุด แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชาชน ยังอ้างอิงอยู่เลยครับ
ว่าคุณสมัครเคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีคมนาคมมาตั้ง 2 สมัย
อ้างว่าสมัยรัฐบาลชาติชาย เป็นรมต.คมนาคม ช่วงปี 2533-34

แต่ไม่บอกว่าเป็นแค่ 2เดือนกว่า ธ.ค.33 - ก.พ.34
ประเทศไทยเรานี้ เอาข้อมูลมาเล่นกันสนุนสนานจริงๆ 


ไม่แปลกครับคุณจีฯ

การพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว หรือการบอกข้อมูลมั่วๆ

เป็นเรื่องที่ถนัดและทำจนเป็นปกติแล้ว สำหรับคนของพรรคนู้น

[ใบไม้ทะเล]

อย่างงี้เขาเรียกว่า จับฉ่าย ป่าวค่ะ 

[LunaticBomberman]

ขอนอกเรื่องหน่อยครับ

พี่จีพอมีประวัติของ กกต. ชุดนี้มั้ยครับ?
อยากทราบน่ะครับ

[jerasak]

ถ้าจำไม่ผิด ตอนอยู่คมนาคมสมัยป๋า น่าจะทำเรื่องทางด่วนมังคะ

ตอนนั้นมีข้อเสนอว่า จะให้ทำรถไฟฟ้า หรือทำทางด่วน
ไปๆ มาๆ เลือกทางด่วน
แล้วก็มีนิยาย ริงโรด ใยแมงมุม บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่แกชอบถนน 

โปรดสังเกตว่า เส้นทางที่เป็นทางด่วนจริงๆ แล้วคือ เส้นทางที่ควรจะเป็นรถไฟฟ้าอ่ะ
สมัยเด็กๆ ได้ฟังเทปขายยาของแกบ่อย เพราะที่บ้านเค้าซื้อมาฟังเอามัน
ชื่นชมกันเป็นอันมากว่า จำตัวเลขเก่ง ตอนหลังถึงรู้ว่า พูดแต่ละที มันไม่เหมือนกัน
แถมมีอินเตอร์เน็ตดาวโหลดเอกสารได้เป็นว่าเล่น แกเลยไม่กล้าเล่นมุขจำตัวเลขแม่นอีก

เรื่องการทำทางด่วนที่มีคนอ้างว่าสมัครเป็นคนทำ
ผมลองตรวจสอบเรื่องเงื่อนเวลาแล้วไม่ตรงนะครับ
...

ประเทศไทยมีการวางแผนแก้ไขปัญหาการจราจรของเมืองหลวง
มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2513 เป็นประเทศแรกในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
และนับเป็นอันดับสามของเอเชีย รองจากญี่ปุ่นและฮ่องกง โดยมีการ
ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมันนีมาทำการศึกษา

ต่อมามีการก่อตั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยขึ้นในปี พ.ศ. 2515
เพื่อก่อสร้างทางด่วนและระบบขนส่งมวลชนโดยทางด่วนสายแรกคือ
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1)

ระหว่างนั้นคุณสมัครยังทำงานอยู่ฝ่ายขาย บริษัท John Deere Thailand
และลาออกไปเป็น เจ้าหน้าที่ฝ่าย ปชส. สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล
ประจำประเทศไทย พร้อมกับลงการเมืองท้องถิ่นเป็นสมาชิกสภาเทศบาล
กรุงเทพมหานคร

...

ทางพิเศษเฉลิมมหานคร 2 สายแล้วเสร็จ ไปก่อนที่คุณสมัครจะได้เป็น
รมต.คมนาคม ในรัฐบาล เปรม 2 โดยคุณสมัครเข้ารับตำแหน่ง รมต.
เมื่อ 30 เมษายน 2526 ขณะที่ทางด่วนเปิดใช้ไปแล้วคือ

- สายดินแดง-ท่าเรือ ระยะทาง 8.9 กิโลเมตร เปิดใช้ตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2524
- สายบางนา-ท่าเรือ ระยะทาง 7.9 กิโลเมตร เปิดใช้ตั้งแต่ 17 มกราคม 2526

เหลืออยู่สายเดียวที่มีการก่อสร้างระหว่างคุณสมัครเป็น รมต.คมนาคม
คือ สายดาวคะนอง-ท่าเรือ ระยะทางรวม 10.3 กิโลเมตร ซึ่งในนั้น
มีสะพานพระราม 9 อยู่ด้วย โดยเริ่มทำการก่อสร้าง สะพานพระราม 9
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2527

อย่างไรก็ตามคุณสมัครพ้นตำแหน่งไปตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2529
พร้อมกับการสิ้นสุดของ ครม. คณะที่ 43 ของไทย

ขณะที่การสร้างทางด่วนสายดาวคะนอง-ท่าเรือ และสะพานพระราม 9
มาเสร็จเรียบร้อยเปิดใช้ได้ในวันที่ 5 ธันวาคม 2530

..ซึ่งเป็นเวลาอีกกว่า 1 ปี หลังจากคุณสมัครพ้นตำแหน่งไปแล้ว..

ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐบาลเปรม 3 (5 สิงหาคม 2529 - 3 สิงหาคม 2531)
และมี รมต.คมนาคม ชื่อ บรรหาร ศิลปอาชา
ดังนั้นถ้าจะเหมาว่าทางด่วนเป็นผลงานคุณสมัครก็ไม่เต็มปากนักหรอกครับ 

[jerasak]

ขอนอกเรื่องหน่อยครับ

พี่จีพอมีประวัติของ กกต. ชุดนี้มั้ยครับ?
อยากทราบน่ะครับ

คุ้นๆ ว่ามีคนที่นี่เคยทำเป็นกระทู้เอาไว้นะครับ
แต่ถ้าผมค้นเจอจะส่งให้ทางหลังไมค์ก็แล้วกัน 

[แอ่นแอ๊น]

ม่ายเป็นไรค่ะ เด๋วเค้าก็อ้างว่า ริงโรดเป็นไอเดียแก รวมถึงโรคัลโรด ตึกฝักถั่ว บลาๆๆ ด้วย

สรุปแล้ว อะไรก็ได้ ขอให้คนงง มึนๆ เข้าไว้ อิอิ 

[พรรณชมพู]

น่าจะวิเคราะหผลงานด้วย

เพราะมีผลงานดีเด่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมต.มหาดไทย สมัยนายธานินทร์ ได้เกิดเหตุระเบิดหน้าพระที่นั่งขณะทรงประทับอยู่ และเหตุรถจักรยานยนต์ชนพุ่งรถพระที่นั่ง  นายสมัครได้กล่าววาทะอันลือลั่นไว้ ในการปฎิเสธที่จะลาออกเพื่อรับผิดชอบ

ผลงานครั้งนั้น พิสูจน์ตัวตนของนายสมัครไว้นานแล้ว 

[ปุถุชน]

ตามที่ คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน มักชอบอวดอ้าง
ว่าเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมามากมาย ทั้งเคยเป็นรัฐมนตรี
หลายกระทรวง และเคยเป็นรองนายกฯ มาถึง 3 สมัย

ผมก็เลยลองสรุปประวัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของคุณสมัครดู
ในที่สุดได้ผลออกมาเป็นแบบนี้ครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการมา 2 กระทรวงในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์

ปี 2518 เป็น รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 2 (15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2518)
ปี 2519 เป็น รมช.กระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 3 (20 เมษายน พ.ศ.2519 - 23 กันยายน พ.ศ. 2519)

จากนั้นเริ่มได้เป็นรัฐมนตรีว่าการ

ปี 2519 เป็น รมต.กระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (8 ตุลาคม พ.ศ. 2519 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2520)
ปี 2526 เป็น รมต.กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 2 (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529)
ปี 2533 เป็น รมต.กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534)

จากนั้นก็เป็น รองนายกรัฐมนตรี

ปี 2535 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร (7 เมษายน พ.ศ. 2535 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535)
ปี 2538 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)
ปี 2539 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุปได้ว่า ตอนเป็น รัฐมนตรีช่วย ใน 2 กระทรวง ได้นั่งเก้าอี้ เป็นระยะสั้น (มากๆ) คือ

ปี 2518 ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ถึง 1 เดือน (รัฐบาลแถลงนโยบายไม่ผ่าน)
ปี 2519 ได้เป็น รมช.มหาดไทย ประมาณ 5 เดือน (เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19)

ต่อมาเป็น รัฐมนตรีว่าการ ใน 2 กระทรวง คือ มหาดไทย (1 สมัย) กับ คมนาคม (2 สมัย)

ปี 2519 ได้เป็น รมต.มหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ ประมาณ 1 ปี (ถูก พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐประหารซ้ำ)
ปี 2526 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม รวมประมาณ 3 ปี 4 เดือน (เท่าอายุ ครม.)
ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ (โดน รสช. รัฐประหาร)

ต่อมาเป็น รองนายกรัฐมนตรี 3 สมัย

ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ (เกิด พฤษภาทมิฬ)
ปี 2538 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล นายบรรหาร รวมประมาณ 1 ปี 4 เดือน (เท่าอายุรัฐบาล)
ปี 2539 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต รวม 11 เดือนเศษๆ (เท่าอายุรัฐบาล)

...

เห็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจที่ว่า คุณสมัคร เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย
แต่เมื่อนึกถึงผลงานแล้วนึกไม่ออก เพราะแต่ละตำแหน่งส่วนใหญ่เคยนั่งในเวลาสั้นๆ

ที่เป็นชิ้นเป็นอันคงมีเพียงครั้งเดียวคือ ตำแหน่ง รมต.คมนาคม สมัยรัฐบาล เปรม 2
แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่านั่งอยู่ 3 ปีกว่ามีผลงานอะไรนะครับ (คงไม่แต่ผมไม่ทราบ  )

..จะสรุปว่าคุณสมัครโชคร้ายในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้..

แต่การที่คุณสมัครอ้างอิงตลอดเวลาว่าเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย
ทำนองยกตนข่มคนอื่นว่าตนมีคุณวุฒิมีประสบการณ์สูงส่งหนักหนา
ถ้าประวัติการดำรงตำแหน่งเป็นแบบนี้ก็อย่านำมาคุยคงจะดีกว่า 

ถ้าเปรียบเทียบกับคุณบรรหาร ศิลปอาชา...
สรุปสั้น ๆว่า คุณบรรหารได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีด้วย'คุณค่า'ของตัวเอง
ไม่ได้เป็น'ตัวประกอบ'ให้ครบคณะรัฐมนตรี หรือ 'นายกฯตัวแทนเชิด'.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[GuoJia]

มีประวัติพรรคประชากรไทย สมัยสมัครเป็นหัวพรรคไหมครับ
เช่น เลือกตั้งครั้งไหน ได้ ส.ส. เท่าไร

[ปุถุชน]

ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ (โดน รสช. รัฐประหาร)
ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ (เกิด พฤษภาทมิฬ)

อะไรกันปี 2533 โดนรสช รัฐประหาร

แล้วปี2535 ยังมาร่วมกับสุจินดา ที่รัฐประหารตัวมันเองนี่นะ

ไหงมันมาอยู่พปช ที่พรรคนี้เขามีนโยบายขับไล่เผด็จการได้ไงนี่

เชื่อแล้วละว่าฝนตกขี้หมูไหลจริงๆ

อะไรกันปี 2533 โดนรสช รัฐประหาร

แล้วปี2535 ยังมาร่วมกับสุจินดา ที่รัฐประหารตัวมันเองนี่นะ....
คนมี'อุดมการณ์'เข้ากับทุกคน.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[LunaticBomberman]

ถ้าอ้างอิงตามข้อมูลของพี่จี แบบนี้จะมาเป็นนายกฯ ได้ไง ผลงานที่เป็็นรูปธรรมจริงๆ ไม่มีซักชิ้นเลยอ่า 

เซ็งจอจ! ถ้าได้นายกฯแบบนี้มา

[jerasak]

มีประวัติพรรคประชากรไทย สมัยสมัครเป็นหัวพรรคไหมครับ
เช่น เลือกตั้งครั้งไหน ได้ ส.ส. เท่าไร

เอาเท่าที่ค้นหาได้นะครับ.. นับกันตั้งแต่คุณสมัครเริ่มเป็น สส.ประชาธิปัตย์ ก็แล้วกัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเลือกตั้ง 26 มกราคม 2518 กำหนดให้มี ส.ส.ทั่วประเทศได้ 269 คน พื้นที่ กทม. มี 26 ที่นั่ง
พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้ 23 จาก 26 ที่นั่ง และได้ สส.
ทั้งประเทศ 72 ที่นั่ง นายสมัคร สุนทรเวช ขณะนั้นลงสมัคร สส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์
และชนะการเลือกตั้งได้เป็น สส.กรุงเทพฯ ครั้งแรก  ในครั้งนี้ สส.กรุงเทพฯ จากพรรคอื่นๆ
มีเพียง นายประทวน รมยานนท์ และ พ.อ.ประกอบ ประยูรโภคราช จากพรรคชาติไทย
และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม 3 คนเท่านั้น

การเลือกตั้ง 4 เมษายน 2519 มี ส.ส.ได้ 279 คน ประชาธิปัตย์ได้ สส. กรุงเทพฯ ครบทุกเขต
และได้ สส. รวมทั้งประเทศ 114 ที่นั่ง  ขณะที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคมสอบตก
นายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์สมัยที่ 2 แม้จะได้รับคะแนนเสียงมากมายทำให้
มรว.เสนีย์ หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกฯ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายทะเลาะแตกแยกกันเองในพรรค จนกระทั่ง
มรว.เสนีย์ ถูกขนานนามว่า “ฤษีเลี้ยงลิง” และในที่สุดเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และมีสิ่งที่ไม่คาดคิด
เกิดขึ้นคือ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รมต.กลาโหม ที่เป็นทหารเรือเกษียณอายุ กลับก่อรัฐประหาร

การเลือกตั้ง 22 เมษายน 2522 มี ส.ส.ได้ 301 คน และ กทม.มี สส.ได้ 32 คน นายสมัครแยกตัวจาก
ประชาธิปัตย์ ตั้งพรรคประชากรไทย ได้ ส.ส. ในเขตกรุงเทพฯ ถึง 29 ที่นั่ง และได้ สส.จากต่างจังหวัด
มาอีก 3 ที่นั่ง รวมเป็น 32 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์เหลือ สส. กรุงเทพฯ คนเดียวคือ พ.อ.ถนัด คอมันตร์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกิจสังคมเหลือ ส.ส. 2 คน คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ และนายเกษม ศิริสัมพันธ์

การเลือกตั้ง 18 เมษายน 2526 ส.ส.มี 324 คน ส.ส.กทม.เพิ่มเป็น 36 คน พรรคประชากรไทย ยังคง
ได้รับความนิยมได้ ส.ส.กรุงเทพฯ ถึง 24 ที่นั่ง และได้ สส.รวมทั้งประเทศ 36 ที่นั่ง ขณะที่ประชาธิปัตย์
ได้ สส. ในกรุงเทพ 8 ที่นั่ง เลือกตั้งครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เป็น สส.ประชาธิปัตย์ สมัยแรก

การเลือกตั้ง 27 กรกฎาคม 2529 ส.ส. 347 คน ประชากรไทยได้ สส.ทั้งประเทศ 24 ที่นั่ง เป็น สส.
พื้นที่กรุงเทพฯ 16 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ได้ สส.ทั่วประเทศ 100 ที่นั่งเป็น สส.กรุงเทพฯ 16 ที่นั่ง

การเลือกตั้ง 24 กรกฎาคม 2531 มี ส.ส. 357 คน กทม.มี ส.ส.เพิ่มเป็น 37 คน พล.ต.จำลองก่อตั้ง
พรรคพลังธรรม ได้ สส. ในกรุงเทพฯ 10 ที่นั่ง ประชากรไทย ได้ สส.กรุงเทพฯ 19 ที่นั่ง จากที่ได้
ทั้งประเทศ 37 ที่นั่ง โดยมีปวีณา หงสกุลเป็น สส. กรุงเทพฯ หน้าใหม่ ประชาธิปัตย์ได้ สส.กรุงเทพฯ
เพียง 5 ที่นั่ง จากที่ได้ทั้งประเทศ 48 ที่นั่ง ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม แยกมาตั้งพรรคมวลชนได้ สส.ทั้งหมด
5 ที่นั่ง (ในจำนวนนี้ไม่ทราบว่าเป็น สส.กรุงเทพฯ กี่ที่นั่ง)

การเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2535 หลัง รสช.ยึดอำนาจ มี ส.ส.ได้ 360 คน พรรคพลังธรรม ได้ สส. กทม.
รวม 35 คนจากทั้งหมด 38 คน ส่วนประชากรไทยและประชาธิปัตย์เกือบสูญพันธุ์ โดยประชากรไทย
เหลือ สส.กรุงเทพฯ เพียง 2 คน คือ นายสมัครและนางลลิตา ฤกษ์สำราญ และได้ สส.ทั่วประเทศ 7 คน
ส่วนประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ในเขตกรุงเทพฯ และภาคกลาง เพียงคนเดียวคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ที่เป็น สส.หน้าใหม่ลงสมัครเป็นครั้งแรก

การเลือกตั้ง 13 กันยายน 2535 หลังพฤษภาทมิฬ พรรคพลังธรรมยังครองพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ 23 ที่นั่ง
จาก 35 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์กลับมาได้ สส.กรุงเทพฯ 9 ที่นั่ง และได้ สส. ทั่วประเทศรวม 79 เสียง
ขณะที่พรรคประชากรไทยเหลือ สส. เพียงคนเดียวคือ นายสมัคร สุนทรเวช

การเลือกตั้ง 2 กรกฎาคม 2538 มี สส.ได้ 391 คน หารายละเอียดยังไม่ได้แต่รู้ว่าพรรคพลังธรรมยังคงครองพื้นที่ กทม.
ประชาธิปัตย์ได้ สส.กรุงเทพฯ 7 ที่นั่ง และได้ทั้งประเทศ 86 ที่นั่ง แต่ยังน้อยกว่าชาติไทยที่ได้ตั้งรัฐบาล
ยังหาจำนวน สส.ประชากรไทยไม่เจอ แต่นายสมัครเข้าร่วม ครม.บรรหาร ด้วยในตำแหน่งรองนายกฯ
และพบชื่อ สส. แล้วอีก 2 คนคือ นายสุมิตร สุนทรเวช น้องชายนายสมัคร และ นางปวีณา หงสกุล
ในครั้งนี้ พรรคมวลชน ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ 3 ที่นั่ง ได้ร่วมรัฐบาล รตอ.เฉลิมได้เป็นรัฐมนตรี

17 พฤศจิกายน 2539 มี สส.ได้ ส.ส. 393 คน ประชาธิปัตย์กลับมาครองพื้นที่ กทม.หลังจากทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา
โดยได้ สส.กทม. 29 ที่นั่ง ชนะพรรคพลังธรรมเกือบทุกเขต ครั้งนั้นพรรคประชากรไทยได้ สส.รวม 18 ที่นั่ง โดยได้ผู้สมัคร
กลุ่มปากน้ำ ของนายวัฒนา อัศวเหม มาสมทบ สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังเช็คจำนวน สส.ไม่ได้ แต่มี พบรายชื่อ สส.แล้ว
คือ นายสมัคร สุนทรเวช นางลลิตา ฤกษ์สำราญ นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ นายสุมิตร สุนทรเวช สำหรับนางปวีณา หงสกุล
ไปลงสมัครในสังกัดพรรคชาติพัฒนา ยังคงได้เป็น สส.กรุงเทพฯ ส่วนพรรคมวลชน เหลือ สส. 2 ที่นั่ง ยังคงได้ร่วมรัฐบาล
และ รตอ.เฉลิม ยังได้เป็น รัฐมนตรี

ในปี 2540 หลัง พล.อ.ชวลิตลาออก เกิดกรณีกลุ่มงูเห่า สส. ประชากรไทย ที่ได้รับเลือกตั้งมา
เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2539 รวม 12 คน แยกตัวจากพรรคไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลชวน 2

ในปี 2543 นายสมัคร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามผู้สมัครอิสระ
และในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ มา เช่น ในปี 2544 , 2548 พรรคประชากรไทยก็ไม่เคยมี ส.ส.อีกเลย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แก้ไขเพิ่มเติมไปอีกหน่อย จากที่คุณ Anthony ทักท้วงมานะครับ 

[Sweet Chin Music]

ขออนุญาติเอาไปใส่ในบล้อกของผมนะครับ

[Can ไทเมือง]

วันเสาร์ ที่ 1 ธันวาคม 2550
ย้อนรอยความแค้น ป๋าหมาก VS ป๋าเปรม
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 436 , 20:19:18 น. 

http://www.oknation.net/blog/canthai/2007/12/01/entry-2

วันอาทิตย์ ที่ 2 ธันวาคม 2550
ย้อนรอยความขัดแย้ง ป๋าหมากVSป๋าเปรม ( 2 )
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 296 , 14:44:50 น.   

http://www.oknation.net/blog/canthai/2007/12/02/entry-1

ก็ไม่มีอะไร แค่ป๋าเปรมสั่งสอบสวน "เด็กสมัคร" ในกรณีทุจริตรพช. สมัยนายสมัครดูแลเรื่องพวกนี้

นอกจากนั้น ก่อน รัฐบาลหอยเน่าจะถูกถีบลงจากอำนาจ ตลอดเวลาก็ขัดแย้งกับกลุ่มยังเติร์ก ซึ่งมี พล.ต.จำลองศรีเมืองเป็นหัวขบวน
แน่นอนว่า...จปร. 7 ล้วนแล้วแต่ "เด็กป๋า" ทั้งรุ่น

[jerasak]

ขออนุญาติเอาไปใส่ในบล้อกของผมนะครับ

ได้ครับ.. เอามาลงที่นี่ก็อยากให้มีคนเอาไปเผยแพร่อยู่แล้ว

ผมแก้ไขเพิ่มเติมไปอีกนิดหน่อยจากที่ลงไว้ตอนแรกนะครับ
ไว้จะตามไปอ่านที่บล็อกคุณ liverpudlian ด้วยก็แล้วกัน  

[jerasak]

เมื่อคืนนี้ประมาณ 4 ทุ่ม.. ลองเอาไปตั้งกระทู้ที่ประชาไทครับ 

==วิเคราะห์ประวัติการทำงานอันยาวนานของคุณสมัคร==
http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=632489#633477

ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ที่ประชาไท ก็ไม่มีคนเก่งๆ แล้วเหมือนกัน
เหลือแต่ระดับที่ปกป้องแกนนำกลุ่มทักษิณไม่ได้
คุยกันตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนนี้ หาใครโพสช่วยคุณสมัครไม่ได้เลย 

[jerasak]

ถึงขนาด คุณหนูดี สมาชิกประชาไทคนนึง เอาข้อความที่ผมตอบกระทู้
ไปตั้งกระทู้ใหม่ ทำนองขอเสียงสนับสนุนว่าผม "ไม่ค่อยฉลาด" อีกด้วย

พี่ๆ มาดูกัน ความไม่ค่อยฉลาดนักของนักโพสนาม jerasak 5 5 5
http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=633350

คุณหนูดีอาจลืมนึกไป ว่าทำแบบนั้นเท่ากับช่วยโปรโมทกระทู้ให้ผม 

[Anthony]

เอาเท่าที่ค้นหาได้นะครับ.. นับกันตั้งแต่คุณสมัครเริ่มเป็น สส.ประชาธิปัตย์ ก็แล้วกัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเลือกตั้ง 26 มกราคม 2518 กำหนดให้มี ส.ส.ทั่วประเทศได้ 269 คน พื้นที่ กทม. มี 26 ที่นั่ง
พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้ 23 จาก 26 ที่นั่ง และได้ สส.
ทั้งประเทศ 72 ที่นั่ง นายสมัคร สุนทรเวช ขณะนั้นลงสมัคร สส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์
และชนะการเลือกตั้งได้เป็น สส.กรุงเทพฯ ครั้งแรก  ในครั้งนี้ สส.กรุงเทพฯ จากพรรคอื่นๆ
มีเพียง นายประทวน รมยานนท์ และ พ.อ.ประกอบ ประยูรโภคราช จากพรรคชาติไทย
และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคม 3 คนเท่านั้น

การเลือกตั้ง 4 เมษายน 2519 มี ส.ส.ได้ 279 คน ประชาธิปัตย์ได้ สส. กรุงเทพฯ ครบทุกเขต
และได้ สส. รวมทั้งประเทศ 114 ที่นั่ง  ขณะที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคมสอบตก
นายสมัคร สุนทรเวช ได้เป็น สส.พรรคประชาธิปัตย์สมัยที่ 2 แม้จะได้รับคะแนนเสียงมากมายทำให้
มรว.เสนีย์ หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกฯ แต่ก็เกิดเรื่องวุ่นวายทะเลาะแตกแยกกันเองในพรรค จนกระทั่ง
มรว.เสนีย์ ถูกขนานนามว่า “ฤษีเลี้ยงลิง” และในที่สุดเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และมีสิ่งที่ไม่คาดคิด
เกิดขึ้นคือ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รมต.กลาโหม ที่เป็นทหารเรือเกษียณอายุ กลับก่อรัฐประหาร

การเลือกตั้ง 22 เมษายน 2522 มี ส.ส.ได้ 301 คน และ กทม.มี สส.ได้ 32 คน นายสมัครแยกตัวจาก
ประชาธิปัตย์ ตั้งพรรคประชากรไทย ได้ ส.ส. ในเขตกรุงเทพฯ ถึง 29 ที่นั่ง และได้ สส.จากต่างจังหวัด
มาอีก 3 ที่นั่ง รวมเป็น 32 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์เหลือ สส. กรุงเทพฯ คนเดียวคือ พ.อ.ถนัด คอมันตร์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกิจสังคมเหลือ ส.ส. 2 คน คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ และนายเกษม ศิริสัมพันธ์

การเลือกตั้ง 18 เมษายน 2526 ส.ส.มี 324 คน ส.ส.กทม.เพิ่มเป็น 36 คน พรรคประชากรไทย ยังคง
ได้รับความนิยมได้ ส.ส.กรุงเทพฯ ถึง 24 ที่นั่ง และได้ สส.รวมทั้งประเทศ 36 ที่นั่ง ขณะที่ประชาธิปัตย์
ได้ สส. ในกรุงเทพ 8 ที่นั่ง เลือกตั้งครั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้เป็น สส.ประชาธิปัตย์ สมัยแรก

การเลือกตั้ง 27 กรกฎาคม 2529 ส.ส. 347 คน ประชากรไทยได้ สส.ทั้งประเทศ 24 ที่นั่ง เป็น สส.
พื้นที่กรุงเทพฯ 16 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ได้ สส.ทั่วประเทศ 100 ที่นั่งเป็น สส.กรุงเทพฯ 16 ที่นั่ง

การเลือกตั้ง 24 กรกฎาคม 2531 มี ส.ส. 357 คน กทม.มี ส.ส.เพิ่มเป็น 37 คน พล.ต.จำลองก่อตั้ง
พรรคพลังธรรม ได้ สส. ในกรุงเทพฯ 10 ที่นั่ง ประชากรไทย ได้ สส.กรุงเทพฯ 19 ที่นั่ง จากที่ได้
ทั้งประเทศ 37 ที่นั่ง โดยมีปวีณา หงสกุลเป็น สส. กรุงเทพฯ หน้าใหม่ ประชาธิปัตย์ได้ สส.กรุงเทพฯ
เพียง 5 ที่นั่ง จากที่ได้ทั้งประเทศ 48 ที่นั่ง ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม แยกมาตั้งพรรคมวลชนได้ สส.ทั้งหมด
5 ที่นั่ง (ในจำนวนนี้ไม่ทราบว่าเป็น สส.กรุงเทพฯ กี่ที่นั่ง)

การเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2535 หลัง รสช.ยึดอำนาจ มี ส.ส.ได้ 360 คน พรรคพลังธรรม ได้ สส. กทม.
รวม 35 คนจากทั้งหมด 38 คน ส่วนประชากรไทยและประชาธิปัตย์เกือบสูญพันธุ์ โดยประชากรไทย
เหลือ สส.กรุงเทพฯ เพียง 2 คน คือ นายสมัครและนางลลิตา ฤกษ์สำราญ และได้ สส.ทั่วประเทศ 7 คน
ส่วนประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ในเขตกรุงเทพฯ และภาคกลาง เพียงคนเดียวคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ที่เป็น สส.หน้าใหม่ลงสมัครเป็นครั้งแรก

การเลือกตั้ง 13 กันยายน 2535 หลังพฤษภาทมิฬ พรรคพลังธรรมยังครองพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ 23 ที่นั่ง
จาก 35 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์กลับมาได้ สส.กรุงเทพฯ 9 ที่นั่ง และได้ สส. ทั่วประเทศรวม 79 เสียง
ขณะที่พรรคประชากรไทยเหลือ สส. เพียงคนเดียวคือ นายสมัคร สุนทรเวช

การเลือกตั้ง 2 กรกฎาคม 2538 หารายละเอียดยังไม่ได้แต่รู้ว่าพรรคพลังธรรมยังคงครองพื้นที่ กทม.
ประชาธิปัตย์ได้ สส.กรุงเทพฯ 7 ที่นั่ง และได้ทั้งประเทศ 86 ที่นั่ง แต่ยังน้อยกว่าชาติไทยที่ได้ตั้งรัฐบาล
ยังหาจำนวน สส.ประชากรไทยไม่เจอ แต่นายสมัครเข้าร่วม ครม.บรรหาร ด้วยในตำแหน่งรองนายกฯ

17 พฤศจิกายน 2539 ประชาธิปัตย์กลับมาครองพื้นที่ กทม.หลังจากทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง
ได้ สส.กทม. 29 ที่นั่ง ชนะพรรคพลังธรรมเกือบทุกเขต ครั้งนั้นพรรคประชากรไทยได้ สส.รวม 18 ที่นั่ง
โดยที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ สส. 2 คน คือ นายสมัคร สุนทรเวช และนางลลิตา ฤกษ์สำราญ

ในปี 2540 หลัง พล.อ.ชวลิตลาออก เกิดกรณีกลุ่มงูเห่า สส. ประชากรไทย ที่ได้รับเลือกตั้งมา
เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2539 รวม 12 คน แยกตัวจากพรรคไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลชวน 2

ในปี 2543 นายสมัคร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามผู้สมัครอิสระ
และในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ มา เช่น ในปี 2544 , 2548 พรรคประชากรไทยก็ไม่เคยมี ส.ส.อีกเลย

ผมจำได้ว่า ปี 2539 ประชากรไทย มีอีกสองคนนะครับ คือ คุณ ห้างทอง ธรรมวัฒนะ(ต่อมาเสียชีวิต) และ คุณ สุมิตร สุนทรเวช(น้องชายคุณสมัคร) ขอยืนยัน

[Anthony]

ตามที่ คุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน มักชอบอวดอ้าง
ว่าเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมามากมาย ทั้งเคยเป็นรัฐมนตรี
หลายกระทรวง และเคยเป็นรองนายกฯ มาถึง 3 สมัย

ผมก็เลยลองสรุปประวัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของคุณสมัครดู
เอาเข้าจริง .. ได้ผลออกมาเป็นแบบนี้ครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..ข้อเท็จจริง..

เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการมา 2 กระทรวงในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์

ปี 2518 เป็น รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 2 (15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2518)
ปี 2519 เป็น รมช.กระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 3 (20 เมษายน พ.ศ.2519 - 23 กันยายน พ.ศ. 2519)

จากนั้นเริ่มได้เป็นรัฐมนตรีว่าการ

ปี 2519 เป็น รมต.กระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ กรัยวิเชียร (8 ตุลาคม พ.ศ. 2519 - 19 ตุลาคม พ.ศ. 2520)
ปี 2526 เป็น รมต.กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ 2 (30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529)
ปี 2533 เป็น รมต.กระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (9 ธันวาคม พ.ศ. 2533 - 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534)

จากนั้นก็เป็น รองนายกรัฐมนตรี

ปี 2535 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร (7 เมษายน พ.ศ. 2535 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2535)
ปี 2538 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)
ปี 2539 เป็น รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..สรุปได้ว่า..

ตอนเป็น รัฐมนตรีช่วย ใน 2 กระทรวง ได้นั่งเก้าอี้ เป็นระยะสั้น (มากๆ) คือ

ปี 2518 ได้เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ถึง 1 เดือน (รัฐบาลแถลงนโยบายไม่ผ่าน)
ปี 2519 ได้เป็น รมช.มหาดไทย ประมาณ 5 เดือน (เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา 19)

ต่อมาเป็น รัฐมนตรีว่าการ ใน 2 กระทรวง คือ มหาดไทย (1 สมัย) กับ คมนาคม (2 สมัย)

ปี 2519 ได้เป็น รมต.มหาดไทย ในรัฐบาล นายธานินทร์ ประมาณ 1 ปี (ถูก พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ รัฐประหารซ้ำ)
ปี 2526 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม รวมประมาณ 3 ปี 4 เดือน (เท่าอายุ ครม.)
ปี 2533 ได้เป็น รมต.คมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย เพียง 2 เดือนเศษ (โดน รสช. รัฐประหาร)

ต่อมาเป็น รองนายกรัฐมนตรี 3 สมัย

ปี 2535 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา เพียง 1 เดือนเศษๆ (เกิด พฤษภาทมิฬ)
ปี 2538 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล นายบรรหาร รวมประมาณ 1 ปี 4 เดือน (เท่าอายุรัฐบาล)
ปี 2539 ได้เป็น รองนายกฯ ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต รวม 11 เดือนเศษๆ (เท่าอายุรัฐบาล)

...

เห็นแบบนี้ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจที่ว่า คุณสมัคร เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย
แต่เมื่อนึกถึงผลงานแล้วนึกไม่ออก เพราะแต่ละตำแหน่งส่วนใหญ่เคยนั่งในเวลาสั้นๆ

ที่เป็นชิ้นเป็นอันคงมีเพียงครั้งเดียวคือ ตำแหน่ง รมต.คมนาคม สมัยรัฐบาล เปรม 2
แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่านั่งอยู่ 3 ปีกว่ามีผลงานอะไรนะครับ (คงมีแต่ผมไม่ทราบ  )

..จะสรุปว่าคุณสมัครโชคร้ายในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ได้..

แต่การที่คุณสมัครอ้างอิงตลอดเวลาว่าเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมามากมาย
ทำนองยกตนข่มคนอื่นว่าตนมีคุณวุฒิ มีประสบการณ์สูงส่งหนักหนา
ถ้าประวัติการดำรงตำแหน่งเป็นแบบนี้ก็อย่านำมาคุยคงจะดีกว่า 

ผลงานในฐานะ รมว.คมนาคมที่จำได้ คือ รับเงินสิงคโปร์มาแล้วเตะถ่วงการก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่า
ผลงานในฐานะรองนายก สมัยบรรหาร คือ การก่อสร้างดอนเมืองโทลล์เวย์

[หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ]

ใช่นายสมัคร คนนี้หรือเปล่า  ที่อาสาเข้าไปไกล่เกลี่ย เรื่องภายในครอบครัวของนายห้างทอง  พอนายห้าง ทอง ยิงตัวตาย ตัวเองหายจ้อย    ใครรู้ช่วยบอกหน่อย จนบ้านเค้าแตกแสลกขาด  ท่านหมักทำตัวเป็นผู้จัดการมรดก ที่ดีเจงๆ 

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

"บ้านแตก สาแหรก ขาด" ก็เพราะ หมักหมูกบานเสพเมถุนนั่นแหละครับ
เข้าใจได้ถูกต้องแล้ว
   ดึงนายห้างทองลงเล่นการเมือง เขมือบเงินเขาไปไม่รู้เท่าไหร่เท่าไหร่.....เอิ้กกกกก
 

[cameronDZ]

ถ้าไม่มองกันอย่าง "อคติ" เกินไป

นายสมัคร ก็มีผลงานที่โดดเด่นมาก ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลเผด็จการหอย 6 ตุลา 19 นะครับ

เป็น "สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์" ที่ขึ้นชั้นจาก รมช. มหาดไทย ได้อย่างยิ่งใหญ่ สง่างาม
ในขณะที่ เพื่อน รมต. คนอื่น ๆ เช่น นายชวน หลีกภัย, นายดำรง ลัทธพิพัฒน์, นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ต้องหนีหัวซุกหัวซุน

นายสมัคร ในตำแหน่ง รมต.มหาดไทย คนนี้แหละ
ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญยิ่ง ในรัฐบาลหอย
ผลงาน มากมาย ที่นายสมัคร ได้ฝากไว้ต่อสังคมไทย ในช่วงยุคนี้
แม้จะอยู่ในตำแหน่งแค่ 1 ปี
สังคมไทย ต้องจดจำไว้ชั่วลูกชั่วหลาน เลยทีเดียว

การทำงานในตำแหน่ง รมต. มหาดไทย ยุค 6 ตุลา 19
นี่แหละครับ "ผลงาน" ชิ้นโบแดง ของนายสมัคร

หรือใครจะเถียงว่า ครั้งนั้น
นายสมัคร ไม่ได้สร้าง "ผลงาน" อะไรไว้เลย

[jerasak]

ผมจำได้ว่า ปี 2539 ประชากรไทย มีอีกสองคนนะครับ คือ คุณ ห้างทอง ธรรมวัฒนะ(ต่อมาเสียชีวิต) และ คุณ สุมิตร สุนทรเวช(น้องชายคุณสมัคร) ขอยืนยัน

ขอบคุณครับคุณ Anthony

ตรวจสอบแล้วมีชื่อของคุณห้างทอง กับคุณสุมิตรอยู่ด้วยจริงๆ ครับ
โชคดีว่าในปี 2539 สามารถค้นรายชื่อได้เพราะเกี่ยวข้องกับกรณี
กลุ่มงูเห่า 12 คน ในขณะที่ประชากรไทยมี สส. ทั้งหมด 18 คน

ตอนนี้ผมได้รายชื่อครบ 18 คนแล้ว คงเอาไปใส่วิกิพีเดียด้วยครับ 

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

นี่ไงผลงานชิ้นโบว์แดงของหมัก
รายชื่อหนังสือต้องห้าม (ปัจจุบันยังไม่มีการยกเลิก)

ประกาศกระทรวงมหาดไทย

เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามผู้ใดมีไว้ครอบครอง

 

      ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเอกสารสิ่งพิมพ์ต่อไปนี้ เป็นเอกสารสิ่งพิมพ์ซึ่งเสนอข่าวสาร บทความ และข้อเขียนแสดงความคิดเห็นอันส่อไปในทางก่อให้เกิดความแตกแยกความสามัคคีในชาติ หรือชี้นำผู้อ่านให้เกิดความนิยมเลื่อมใสในลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน คือ

1. การเมืองเรื่องของประชาชน เขียนโดย แนวร่วมประชาชาติกันทรารมย์
2. เก้าอี้ป่า เขียนโดย เก้าอี้ป่า
3. การ์ตูนปฏิวัติจากจีนใหม่ หญิงแดง จดหมาย ขนไก่ กองทหาร เขียนโดย หวาซาน หลิวจี้อิ่ว
4. การปฏิวัติของจีน เขียนโดย กองบรรณาธิการ สังคมศาสตร์ปริทัศน์
5. การศึกษาปฏิวัติประชาชนลาว เขียนโดย ไกรสร พรหมวิหาร
6. ก่อนไปสู่ภูเขา แปลโดย สถาพร ศรีสัจจัง
7. กาพย์กลอนเหมาเจ๋อตุง แปลโดย ประไพ วิเศษธานี
8. เข้าโรงเรียน เขียนโดย กวั่นหวา
9. ข้อขัดแย้งระหว่างสหภาพโซเวียต กับ จีน เขียนโดย กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เหยินหมิน ยึเป้า และกองบรรณาธิการนิตยสารหงฉี
10. คติพจน์ประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่สำนักพิมพ์ต่างประเทศ ปักกิ่ง และสุนทรการพิมพ์ หจก.จรัลสนิทวงศ์ บางพลัด กรุงเทพมหานคร
11. คัมภีร์นักปฏิวัติ เขียนโดย กลุ่มอิสานปฏิวัติ
12. คาร์ลมาร์กซ์ ผู้สร้างทฤษฎีนิรันดร เขียนโดย วิตาลี ไวกอดสกี
13. ความชัดเจนทางประวัติศาสตร์ของเผด็จการ ชนชั้นกรรมาชีพ ไม่ปรากฏผู้เขียน แต่พิมพ์ที่สุวิทย์การพิมพ์ ซอยอรรถสิทธ์ สาธรใต้ กรุงเทพฯ
14. เคียงข้างกันสร้างสรรค์โลก เขียนโดย แสงเสรี
15. ความคิดของเหมาเจ๋อตุง เขียนโดย สุรัฐ โรจนวรรณ
16. โจวเอินไหล ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่วัชรินทร์การพิมพ์ 364 ถนนพระสุเมรุ กรุงเทพฯ
17. จะวิเคราะห์ชนชั้นในชนบทอย่างไร เขียนโดย กลุ่มเยาวชนรับใช้ชาติ
18. จากโฮจิมินห์ ถึง เปลื้อง วรรณศรี เขียนโดย สุชาติ สวัสดิ์ศรี
19. จรยุทธ-ใต้ดิน เขียนโดย ตะวันฉาย
20. จีนคอมมิวนิสต์ เขียนโดย สนอง วิริยะผล
21. จิตใจปฏิวัติ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
22. จีนแผ่นดินแห่งการปฏิวัติตลอดกาล เขียนโดย Jan Myrdal & Gun Kessle
23. ลัทธิสังคมนิยมแบบเพ้อฝันและแบบวิทยาศาสตร์ แปลโดย อุทิศและโยธิน
24. ลัทธิวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์ เขียนโดย ตะวันฉาย
25. ลัทธิเลนิน กับลัทธิแก้สมัยใหม่ เขียนโดย ชมรม 13
26. ลัทธิเลนินจงเจริญ เขียนโดย กองบรรณาธิการนิตยสารหงฉี
27. ลัทธิมาร์กซ์-เลนิน ว่าด้วยทฤษฎีสังคมนิยมที่เป็นวิทยาศาสตร์ แปลโดย ศูทร ศรีประชา
28. ว่าด้วยรากฐานทางสังคมกลุ่มหลินเปียวที่ค้านพรรค เขียนโดย เหยาเหวินหยวน
29. วิจารณ์คำแถลงของพรรคคอมมิวนิสต์อเมริกา กระจกส่องพวกลัทธิแก้ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่ธเนศ วรการพิมพ์ 489 ถนนบำรุงเมือง กรุงเทพฯ
30. วิพากษ์ลัทธิแก้ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่ สมชายการพิมพ์ 270/77 ซอยวิมลสรกิจ บางยี่ขัน กรุงเทพมหานคร
31. วิวัฒนาการความคิดสังคมนิยม เขียนโดย ชาญ กรัสนัยปุระ
32. ว่าด้วยรัฐบาลรวม เขียนโดย เหมาเจ๋อตุง
33. วิเคราะห์การต่อสู้ของพรรคลาวด๋อง เขียนโดย ธีรยุทธ บุญมี
34. วิวัฒนาการของมาร์กซิสม์ เขียนโดย น.ชญานุตม์
35. วัฒนธรรมจีนใหม่ เขียนโดย ไจ๋เปียน
36. วี.ไอ.เลนิน-รัฐ เขียนโดย ชมรมหนังสือแสงดาว
37. วีรบุรุษสู้รบ เขียนโดย สหพันธ์นิสิตนักศึกษาอีสานแห่งประเทศไทย
38. ว่าด้วยประชาธิปไตยรวมศูนย์ แปลโดย เศรษฐวัฒน์ ผดุงรัฐ
39. ลัทธิวัตถุนิยมวิภาษ และวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ เขียนโดย โจเซพ สตาลิน ประกาย สุชีวิน แปล
40. ภาวะของศิลปะใต้ระบอบเผด็จการฟาสซีสม์ เขียนโดย จิตติน ธรรมชาติ
41. หลักลัทธิเลนิน เขียนโดย บำรุง ไพรัชวาที
42. หนทางการปฏิวัติไทย ไม่ปรากฏผู้แต่ง และไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์
43. 50 ปี พรรคคอมมิวนิสต์คิวบา 50 ปี สหพันธ์สตรีคิวบา ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง แต่พิมพ์ที่ ประจักษ์การพิมพ์ กรุงเทพฯ
44. เดินทางทัพทางไกลไปกับประธานเหมา เขียนโดย เฉินชางเฟิ่ง
45. เดินทางไกลครั้งที่ 2 เขียนโดย เหยิน จางหลิน
46. หยางกึนซือวีรชนอมตะ เขียนโดย ว่างเฮา
47. เหมาเจ๋อตุง ผู้นำจีนใหม่ เขียนโดย เทิด ประชาธรรม
48. นอร์แมน เบทูน แปลโดย ศรีนรา
49. บนเส้นทางไปสู่สังคมนิยมจีน เขียนโดย ธีรยุทธ บุญมี
50. บทกวีเพื่อผู้ถูกกดขี่ เขียนโดย วิทยากร เชียงกูล
51. คาร์ลมาร์กซ์ ค่าจ้าง ราคา และกำไร แปลโดย ประสาท ลีลาเธียร
52. บันทึกของไพ่ฉวิน ม่านเทียนเสื่อ แปลโดย แจ่ม จรัสแสง
53. ประวัติศาสตร์ 30 ปี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขียนโดย หูเฉียวมุ เจอดจำรัสแปล
54. ถังเหล่ยเวียดนาม เขียนโดย อุดร ทองน้อย
55. ทหารน้อยจางก่า เขียนโดย สีกวงเย่า
56. แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ เขียนโดย คาร์ล มาร์กซ์ เฟรเดอริค เองเกลส์
57. บทวิเคราะห์วรรณกรรมยุคศักดินา เขียนโดย จิตร ภูมิศักดิ์
58. ปัญหาลัทธิเลนินในยุคของเรา เขียนโดย ชมรม ดาวรุ่ง
59. แนวร่วมปลดแอกของโฮจิมินห์ เขียนโดย บัณฑูร เวชสาร
60. นิพนธ์ปรัชญา 4 เรื่องของประธานเหมาเจ๋อตุง แปลโดย ชมรมหนังสือรวงข้าว
61. แนวทางแห่งการต่อสู้ แนวทางแห่งชัยชนะ เขียนโดย กลุ่มพลังชน
62. นักศึกษาจีนแนวหน้าของขบวนการปฏิวัติสังคม แปลโดย เทิด ธงธรรม วรรณา พรประเสริฐ
63. ด้วยเลือดและชีวิต เขียนโดย จิตร ภูมิศักดิ์
64. แนวร่วมเอกภาพเพื่อการปลดแอกแห่งชาติ เขียนโดย ชมรมหนังสืออิสรภาพ
65. ทฤษฎีการเมืองว่าด้วยเศรษฐศาสตร์การเมือง สำหรับชนชั้นกรรมาชีพ แปลโดย เมธี เอี่ยมเจริญ
66. ชีวทัศน์หนุ่มสาว ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่บริษัทบพิธการพิมพ์ 70 ถนนราชบพิธ กรุงเทพมหานคร
67. ชีวทัศน์เยาวชน ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน และไม่ปรากฏที่พิมพ์
68. ชาวนาไทยกับการเปลี่ยนแปลง แปลโดย สุเทพ สุนทรเภสัช
69. เช กูวารา นายแพทย์นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ เขียนโดย ศรีอุบล
70. ชีวิตในคอมมูน เขียนโดย สันติสุข
71. ชนกรรมาชีพทั่วโลก จงสามัคคีกันคัดค้านศัตรูร่วมกับเรา เขียนโดย สำนักพิมพ์เข็มทิศ
72. ซ้ายทารก เขียนโดย วี.ไอ.เลนิน
73. สืบทอดภารกิจปฏิวัติ เขียนโดย ชมรมดาวรุ่ง
74. สุนทรพจน์ของประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง แต่พิมพ์ที่ศรีเพ็ชรการพิมพ์ 169/120 ตรอกวัดดีดวด บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
75. สงครามปฏิวัติ เขียนโดย ชมรมดาวรุ่ง
76. สงครามกองโจรของ เช กูวารา แปลโดย ฤตินันทน์
77. สรรนิพนธ์ โฮจิมินห์ แปลโดย วารินทร์ สินสูงสุด ปารวดี วรุณจิต
78. เสียงร้องของประชาชน แปลโดย จิรนันท์ พิตรปรีชา
79. สงครามยืดเยื้อ เขียนโดย เหมาเจ๋อตุง
80. สรรนิพนธ์เลนิน คอมมิวนิสต์ปีกซ้าย โรคไร้เดียงสา แปลโดย นพคุณ ศิริประเสริฐ
81. สรรนิพนธ์เลนิน เพื่อคนจนในชนบท แปลโดย พัลลภา ปั้นงาม
82. สงครามอุโมงค์ เขียนโดย เจ๋อเหมย ปี้เหลย
83. สตรีกับภารกิจแห่งการปฏิวัติ เขียนโดย จินดา ไชยโยทยาน
84. ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่ ต่อสู้กับคลื่นลม ไม่ปรากฏผู้เขียน และไม่ปรากฏที่พิมพ์
85. ระลึกคอมมูนปารีสครบร้อยปี เขียนโดย ชมรมหนังสือตะวันแดง
86. ศัพทานุกรมปรัชญา เขียนโดย เมธี เอี่ยมเจริญ
87. สาธารณรัฐประชาชนจีน แปลโดย ถ่องแท้ รจนาสัณห์
88. เมาเซตุง เขียนโดย ศิรวิทย์
89. ยูโกสลาเวีย เป็นสังคมนิยมจริงหรือ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
90. ปัญหาปฏิวัติประเทศไทย เขียนโดย กลุ่มชนภูเขา
91. เอกสารสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศครั้งที่ 10 ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เขียนโดย กลุ่มเยาวชนรักชาติ
92. โฉมหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ไทย เขียนโดย สายใย เทอดชูธรรม
93. พระเจ้าอยู่ที่ไหน เขียนโดย นายผี
94. พระสงฆ์ลาวกับการปฏิวัติ เขียนโดย คำตัน
95. แล้วเราก็ปฏิวัติ ไม่ปรากฏผู้เขียน แต่พิมพ์ที่ เจริญวิทย์การพิมพ์ บ้านพานถม กรุงเทพมหานคร
96. รัฐกับการปฏิวัติ เขียนโดย วี.ไอ.เลนิน
97. เลนินจักรวรรดินิยมชั้นสูงสุดของทุนนิยม แปลโดย ประสาท ลีลาเธียร
98. ว่าด้วยปัญหาที่ดินและชาวนาของประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ปรากฏผู้เขียน และไม่ปรากฏที่พิมพ์
99. วีรสตรีจีนปฏิวัติหลิวหูหลาน แปลโดย วีรจิตร
100. อัลเยนเด้วีรปฏิวัติ เขียนโดย สูรย์ พลังไทย

      อาศัยอำนาจตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 43 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519 ข้อ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่าเอกสารสิ่งพิมพ์ รวม 100 ฉบับ ตามรายชื่อข้างต้นซึ่งต้องห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ครอบครอง

ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม 2520

สมัคร สุนทรเวช

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

[ลูกหินฮะ๛]

ถ้าไม่มองกันอย่าง "อคติ" เกินไป

การทำงานในตำแหน่ง รมต. มหาดไทย ยุค 6 ตุลา 19
นี่แหละครับ "ผลงาน" ชิ้นโบแดง ของนายสมัคร

หรือใครจะเถียงว่า ครั้งนั้น
นายสมัคร ไม่ได้สร้าง "ผลงาน" อะไรไว้เลย

ก   ริ๊ ด.  ด.   ด.    ด.     ด ม่  า  ย     จ   ริ๊   ง   ง


เมื่อช้าว ดูช่อง 3 ลุงหมักของลูกหิน..
ยังทำ อาหาร โชว์ อยู่ เร๊ยยยย
แล้วจะ ม่ายมี .. ผลงาน... เด่น ชัด ด๊ายย ยไง?
 
แต่โหวงเฮ้ง ..ในทีวี... เนี่ย...อืมม  ! ?  




 

[ลูกหินฮะ๛]

  ฮือๆ..ๆ..ๆๆ แ ด ร๊ ก..๐ (ชิม) จนเกลี๊ยง หม้อ..
ยังเอา น้ำปลา เติม อีก.... ดูเอา หล่ะกันฮะ 

อืมม..ถ้า บริหารประเทศ ..หล่ะก็..
โปรดติดตาม ตอนต่อไป..@#! 

[Bo.]

ผลงานของหมัก เมถุน ที่เราไม่ลืมเลยคือ
ผู้จัดการกองมรดก ซึ่งผลก็อย่างที่เราเห็น ๆ กันอยู่

[ปุถุชน]

หนังสือพวกนี้ 'หมอเลี๊ยบ' 'หมอมิงค์' และ จาตุรนต์ ฯลฯ
เวลานี้ คงไม่อยากอ่านหรอก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

[jerasak]

ถ้าไม่มองกันอย่าง "อคติ" เกินไป

นายสมัคร ก็มีผลงานที่โดดเด่นมาก ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลเผด็จการหอย 6 ตุลา 19 นะครับ

เป็น "สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์" ที่ขึ้นชั้นจาก รมช. มหาดไทย ได้อย่างยิ่งใหญ่ สง่างาม
ในขณะที่ เพื่อน รมต. คนอื่น ๆ เช่น นายชวน หลีกภัย, นายดำรง ลัทธพิพัฒน์, นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ต้องหนีหัวซุกหัวซุน

นายสมัคร ในตำแหน่ง รมต.มหาดไทย คนนี้แหละ
ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญยิ่ง ในรัฐบาลหอย
ผลงาน มากมาย ที่นายสมัคร ได้ฝากไว้ต่อสังคมไทย ในช่วงยุคนี้
แม้จะอยู่ในตำแหน่งแค่ 1 ปี
สังคมไทย ต้องจดจำไว้ชั่วลูกชั่วหลาน เลยทีเดียว

การทำงานในตำแหน่ง รมต. มหาดไทย ยุค 6 ตุลา 19
นี่แหละครับ "ผลงาน" ชิ้นโบแดง ของนายสมัคร

หรือใครจะเถียงว่า ครั้งนั้น
นายสมัคร ไม่ได้สร้าง "ผลงาน" อะไรไว้เลย

อยากทราบผลงานในตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยของคุณสมัครจริงๆ
คุณ HoangThuyLinhFanClub พอจะขยายให้ทราบได้ไหมครับ 

[LunaticBomberman]

นี่ไงผลงานชิ้นโบว์แดงของหมัก
รายชื่อหนังสือต้องห้าม (ปัจจุบันยังไม่มีการยกเลิก)

ประกาศกระทรวงมหาดไทย

เรื่อง กำหนดชื่อเอกสารและสิ่งพิมพ์ที่ห้ามผู้ใดมีไว้ครอบครอง

 

      ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเอกสารสิ่งพิมพ์ต่อไปนี้ เป็นเอกสารสิ่งพิมพ์ซึ่งเสนอข่าวสาร บทความ และข้อเขียนแสดงความคิดเห็นอันส่อไปในทางก่อให้เกิดความแตกแยกความสามัคคีในชาติ หรือชี้นำผู้อ่านให้เกิดความนิยมเลื่อมใสในลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน คือ

1. การเมืองเรื่องของประชาชน เขียนโดย แนวร่วมประชาชาติกันทรารมย์
2. เก้าอี้ป่า เขียนโดย เก้าอี้ป่า
3. การ์ตูนปฏิวัติจากจีนใหม่ หญิงแดง จดหมาย ขนไก่ กองทหาร เขียนโดย หวาซาน หลิวจี้อิ่ว
4. การปฏิวัติของจีน เขียนโดย กองบรรณาธิการ สังคมศาสตร์ปริทัศน์
5. การศึกษาปฏิวัติประชาชนลาว เขียนโดย ไกรสร พรหมวิหาร
6. ก่อนไปสู่ภูเขา แปลโดย สถาพร ศรีสัจจัง
7. กาพย์กลอนเหมาเจ๋อตุง แปลโดย ประไพ วิเศษธานี
8. เข้าโรงเรียน เขียนโดย กวั่นหวา
9. ข้อขัดแย้งระหว่างสหภาพโซเวียต กับ จีน เขียนโดย กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เหยินหมิน ยึเป้า และกองบรรณาธิการนิตยสารหงฉี
10. คติพจน์ประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่สำนักพิมพ์ต่างประเทศ ปักกิ่ง และสุนทรการพิมพ์ หจก.จรัลสนิทวงศ์ บางพลัด กรุงเทพมหานคร
11. คัมภีร์นักปฏิวัติ เขียนโดย กลุ่มอิสานปฏิวัติ
12. คาร์ลมาร์กซ์ ผู้สร้างทฤษฎีนิรันดร เขียนโดย วิตาลี ไวกอดสกี
13. ความชัดเจนทางประวัติศาสตร์ของเผด็จการ ชนชั้นกรรมาชีพ ไม่ปรากฏผู้เขียน แต่พิมพ์ที่สุวิทย์การพิมพ์ ซอยอรรถสิทธ์ สาธรใต้ กรุงเทพฯ
14. เคียงข้างกันสร้างสรรค์โลก เขียนโดย แสงเสรี
15. ความคิดของเหมาเจ๋อตุง เขียนโดย สุรัฐ โรจนวรรณ
16. โจวเอินไหล ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่วัชรินทร์การพิมพ์ 364 ถนนพระสุเมรุ กรุงเทพฯ
17. จะวิเคราะห์ชนชั้นในชนบทอย่างไร เขียนโดย กลุ่มเยาวชนรับใช้ชาติ
18. จากโฮจิมินห์ ถึง เปลื้อง วรรณศรี เขียนโดย สุชาติ สวัสดิ์ศรี
19. จรยุทธ-ใต้ดิน เขียนโดย ตะวันฉาย
20. จีนคอมมิวนิสต์ เขียนโดย สนอง วิริยะผล
21. จิตใจปฏิวัติ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
22. จีนแผ่นดินแห่งการปฏิวัติตลอดกาล เขียนโดย Jan Myrdal & Gun Kessle
23. ลัทธิสังคมนิยมแบบเพ้อฝันและแบบวิทยาศาสตร์ แปลโดย อุทิศและโยธิน
24. ลัทธิวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์ เขียนโดย ตะวันฉาย
25. ลัทธิเลนิน กับลัทธิแก้สมัยใหม่ เขียนโดย ชมรม 13
26. ลัทธิเลนินจงเจริญ เขียนโดย กองบรรณาธิการนิตยสารหงฉี
27. ลัทธิมาร์กซ์-เลนิน ว่าด้วยทฤษฎีสังคมนิยมที่เป็นวิทยาศาสตร์ แปลโดย ศูทร ศรีประชา
28. ว่าด้วยรากฐานทางสังคมกลุ่มหลินเปียวที่ค้านพรรค เขียนโดย เหยาเหวินหยวน
29. วิจารณ์คำแถลงของพรรคคอมมิวนิสต์อเมริกา กระจกส่องพวกลัทธิแก้ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่ธเนศ วรการพิมพ์ 489 ถนนบำรุงเมือง กรุงเทพฯ
30. วิพากษ์ลัทธิแก้ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่ สมชายการพิมพ์ 270/77 ซอยวิมลสรกิจ บางยี่ขัน กรุงเทพมหานคร
31. วิวัฒนาการความคิดสังคมนิยม เขียนโดย ชาญ กรัสนัยปุระ
32. ว่าด้วยรัฐบาลรวม เขียนโดย เหมาเจ๋อตุง
33. วิเคราะห์การต่อสู้ของพรรคลาวด๋อง เขียนโดย ธีรยุทธ บุญมี
34. วิวัฒนาการของมาร์กซิสม์ เขียนโดย น.ชญานุตม์
35. วัฒนธรรมจีนใหม่ เขียนโดย ไจ๋เปียน
36. วี.ไอ.เลนิน-รัฐ เขียนโดย ชมรมหนังสือแสงดาว
37. วีรบุรุษสู้รบ เขียนโดย สหพันธ์นิสิตนักศึกษาอีสานแห่งประเทศไทย
38. ว่าด้วยประชาธิปไตยรวมศูนย์ แปลโดย เศรษฐวัฒน์ ผดุงรัฐ
39. ลัทธิวัตถุนิยมวิภาษ และวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ เขียนโดย โจเซพ สตาลิน ประกาย สุชีวิน แปล
40. ภาวะของศิลปะใต้ระบอบเผด็จการฟาสซีสม์ เขียนโดย จิตติน ธรรมชาติ
41. หลักลัทธิเลนิน เขียนโดย บำรุง ไพรัชวาที
42. หนทางการปฏิวัติไทย ไม่ปรากฏผู้แต่ง และไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์
43. 50 ปี พรรคคอมมิวนิสต์คิวบา 50 ปี สหพันธ์สตรีคิวบา ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง แต่พิมพ์ที่ ประจักษ์การพิมพ์ กรุงเทพฯ
44. เดินทางทัพทางไกลไปกับประธานเหมา เขียนโดย เฉินชางเฟิ่ง
45. เดินทางไกลครั้งที่ 2 เขียนโดย เหยิน จางหลิน
46. หยางกึนซือวีรชนอมตะ เขียนโดย ว่างเฮา
47. เหมาเจ๋อตุง ผู้นำจีนใหม่ เขียนโดย เทิด ประชาธรรม
48. นอร์แมน เบทูน แปลโดย ศรีนรา
49. บนเส้นทางไปสู่สังคมนิยมจีน เขียนโดย ธีรยุทธ บุญมี
50. บทกวีเพื่อผู้ถูกกดขี่ เขียนโดย วิทยากร เชียงกูล
51. คาร์ลมาร์กซ์ ค่าจ้าง ราคา และกำไร แปลโดย ประสาท ลีลาเธียร
52. บันทึกของไพ่ฉวิน ม่านเทียนเสื่อ แปลโดย แจ่ม จรัสแสง
53. ประวัติศาสตร์ 30 ปี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เขียนโดย หูเฉียวมุ เจอดจำรัสแปล
54. ถังเหล่ยเวียดนาม เขียนโดย อุดร ทองน้อย
55. ทหารน้อยจางก่า เขียนโดย สีกวงเย่า
56. แถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์ เขียนโดย คาร์ล มาร์กซ์ เฟรเดอริค เองเกลส์
57. บทวิเคราะห์วรรณกรรมยุคศักดินา เขียนโดย จิตร ภูมิศักดิ์
58. ปัญหาลัทธิเลนินในยุคของเรา เขียนโดย ชมรม ดาวรุ่ง
59. แนวร่วมปลดแอกของโฮจิมินห์ เขียนโดย บัณฑูร เวชสาร
60. นิพนธ์ปรัชญา 4 เรื่องของประธานเหมาเจ๋อตุง แปลโดย ชมรมหนังสือรวงข้าว
61. แนวทางแห่งการต่อสู้ แนวทางแห่งชัยชนะ เขียนโดย กลุ่มพลังชน
62. นักศึกษาจีนแนวหน้าของขบวนการปฏิวัติสังคม แปลโดย เทิด ธงธรรม วรรณา พรประเสริฐ
63. ด้วยเลือดและชีวิต เขียนโดย จิตร ภูมิศักดิ์
64. แนวร่วมเอกภาพเพื่อการปลดแอกแห่งชาติ เขียนโดย ชมรมหนังสืออิสรภาพ
65. ทฤษฎีการเมืองว่าด้วยเศรษฐศาสตร์การเมือง สำหรับชนชั้นกรรมาชีพ แปลโดย เมธี เอี่ยมเจริญ
66. ชีวทัศน์หนุ่มสาว ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ที่บริษัทบพิธการพิมพ์ 70 ถนนราชบพิธ กรุงเทพมหานคร
67. ชีวทัศน์เยาวชน ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน และไม่ปรากฏที่พิมพ์
68. ชาวนาไทยกับการเปลี่ยนแปลง แปลโดย สุเทพ สุนทรเภสัช
69. เช กูวารา นายแพทย์นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ เขียนโดย ศรีอุบล
70. ชีวิตในคอมมูน เขียนโดย สันติสุข
71. ชนกรรมาชีพทั่วโลก จงสามัคคีกันคัดค้านศัตรูร่วมกับเรา เขียนโดย สำนักพิมพ์เข็มทิศ
72. ซ้ายทารก เขียนโดย วี.ไอ.เลนิน
73. สืบทอดภารกิจปฏิวัติ เขียนโดย ชมรมดาวรุ่ง
74. สุนทรพจน์ของประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง แต่พิมพ์ที่ศรีเพ็ชรการพิมพ์ 169/120 ตรอกวัดดีดวด บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
75. สงครามปฏิวัติ เขียนโดย ชมรมดาวรุ่ง
76. สงครามกองโจรของ เช กูวารา แปลโดย ฤตินันทน์
77. สรรนิพนธ์ โฮจิมินห์ แปลโดย วารินทร์ สินสูงสุด ปารวดี วรุณจิต
78. เสียงร้องของประชาชน แปลโดย จิรนันท์ พิตรปรีชา
79. สงครามยืดเยื้อ เขียนโดย เหมาเจ๋อตุง
80. สรรนิพนธ์เลนิน คอมมิวนิสต์ปีกซ้าย โรคไร้เดียงสา แปลโดย นพคุณ ศิริประเสริฐ
81. สรรนิพนธ์เลนิน เพื่อคนจนในชนบท แปลโดย พัลลภา ปั้นงาม
82. สงครามอุโมงค์ เขียนโดย เจ๋อเหมย ปี้เหลย
83. สตรีกับภารกิจแห่งการปฏิวัติ เขียนโดย จินดา ไชยโยทยาน
84. ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่ ต่อสู้กับคลื่นลม ไม่ปรากฏผู้เขียน และไม่ปรากฏที่พิมพ์
85. ระลึกคอมมูนปารีสครบร้อยปี เขียนโดย ชมรมหนังสือตะวันแดง
86. ศัพทานุกรมปรัชญา เขียนโดย เมธี เอี่ยมเจริญ
87. สาธารณรัฐประชาชนจีน แปลโดย ถ่องแท้ รจนาสัณห์
88. เมาเซตุง เขียนโดย ศิรวิทย์
89. ยูโกสลาเวีย เป็นสังคมนิยมจริงหรือ ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่พิมพ์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
90. ปัญหาปฏิวัติประเทศไทย เขียนโดย กลุ่มชนภูเขา
91. เอกสารสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศครั้งที่ 10 ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เขียนโดย กลุ่มเยาวชนรักชาติ
92. โฉมหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ไทย เขียนโดย สายใย เทอดชูธรรม
93. พระเจ้าอยู่ที่ไหน เขียนโดย นายผี
94. พระสงฆ์ลาวกับการปฏิวัติ เขียนโดย คำตัน
95. แล้วเราก็ปฏิวัติ ไม่ปรากฏผู้เขียน แต่พิมพ์ที่ เจริญวิทย์การพิมพ์ บ้านพานถม กรุงเทพมหานคร
96. รัฐกับการปฏิวัติ เขียนโดย วี.ไอ.เลนิน
97. เลนินจักรวรรดินิยมชั้นสูงสุดของทุนนิยม แปลโดย ประสาท ลีลาเธียร
98. ว่าด้วยปัญหาที่ดินและชาวนาของประธานเหมาเจ๋อตุง ไม่ปรากฏผู้เขียน และไม่ปรากฏที่พิมพ์
99. วีรสตรีจีนปฏิวัติหลิวหูหลาน แปลโดย วีรจิตร
100. อัลเยนเด้วีรปฏิวัติ เขียนโดย สูรย์ พลังไทย

      อาศัยอำนาจตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 43 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2519 ข้อ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่าเอกสารสิ่งพิมพ์ รวม 100 ฉบับ ตามรายชื่อข้างต้นซึ่งต้องห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ครอบครอง

ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม 2520

สมัคร สุนทรเวช

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

หนังสือน่าอ่านทั้งนั้นเลยอ่ะ อยากหามาอ่านซักเล่มจัง 

[(ลุง)ถึก สไลเดอร์]

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ต้องขวนขวายไปหามาอ่านให้ได้ ส่วนมากจะได้อ่าน
หรือผ่านสายตามาแล้วเกือบทั้งสิ้น
  ก่อนหน้านี้
  ขนาดของ ยาขอบ ก็ยังโดนห้ามไป 1 เรื่อง
  เป็นนิทานสนุกสนาน"มหาดเล็กเลี้ยงม้า"อะไรทำนองนี้แหละครับ พรรคพวกที่เป็นตำรวจ
เคยเอามาให้อ่าน แล้วถามผมว่า มันเป็นเรื่องที่น่าต้องห้ามตรงไหน
  ผมบอกเพียงแต่ว่า  อ่านแล้วก็ขำดีวะี......เอิ้กกกกก
 

[cameronDZ]

อยากทราบผลงานในตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยของคุณสมัครจริงๆ
คุณ HoangThuyLinhFanClub พอจะขยายให้ทราบได้ไหมครับ 

เอาจากความจำ เท่าที่จำได้ก่อน ก็แล้วกันนะครับ
จริง ๆ ผมมีหนังสือ "สันดานรัฐมนตรี ป.ม." ที่ "ทหารเก่า" (เปิดเผยนามปากกาในตอนนี้ ก็ได้ว่า คือ สละ ลิขิตกุล นักหนังสือพิมพ์เก่า คู่บารมี อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์) บรรยาย ผลงาน ป๋าหมาก ไว้ค่อนข้างละเอียด
และ รายงานประจำปี สมาคมนักข่าว ประมาณปี 21 -22 ที่ก็บันทึกเรื่องราวของ ป๋าหมาก ไว้มากเหมือนกัน

แต่ไม่รู้เอาไปซุกไว้มุมไหนของบ้าน ยังหาไม่เจอ
 

ผลงาน แจ๋ว ๆ ยุคนั้น ก็อาทิเช่น

1. เป็นแม่งานใหญ่ในการก่อตั้งโรงพยาบาลพระยุพราช ทั่วประเทศ
จริง ๆ ข้อนี้ ถ้าขยายความไป อาจจะหมิ่นเหม่ไปหน่อย แต่พูดกลาง ๆ ไว้ว่า โรงพยาบาลพระยุพราช เลือกสร้างในเขตพื้นที่ "สีแดง" หรือ "สีชมพู" เป็นหลัก
ป๋าหมาก แกออกงาน ถ่ายทอดพิธีเปิด แทบจะทุกที่

2. ควบคุมการอ่านหนังสือของคนไทย โดยการออกประกาศ "หนังสือต้องห้าม" ซึ่งมีผู้โพสต์รายละเอียดไปแล้ว

3. ควบคุมเสรีภาพสื่อมวลชน ป๋าหมาก ในตำแหน่ง รมต.มหาดไทย ได้สั่งปิดหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ มากมาย หลายครั้ง หลายวาระ เป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีประเทศไทยมา รายละเอียด จำนวน นสพ.ที่ถูกสั่งปิด - ระยะเวลา ถ้าหาข้อมูลมาได้ จะนำมาบอกในภายหลังครับ

4. ใช้อำนาจตามตำแหน่ง รมต.มหาดไทย ที่ควบคุมกรมตำรวจ สั่งจับกุมกวาดล้าง ผู้กระทำผิดตามข้อหา "ภัยสังคม" ซึ่งจะถูกจับกุมคุมขัง ได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาลยุติธรรม มีผู้ถูกจับกุมในข้อหานี้ หลายพันคน
ซึ่งโดยเนื้อแท้ของกฎหมายนี้ ออกมาก็เพื่อจะกวาดล้าง "ฝ่ายซ้าย" นั่นเอง
แต่โดยความเป็นจริง คนที่ถูกจับ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกไว้ผมยาว พับแขนเสื้อ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เสียมากกว่า หรือไม่ก็เป็นพวกขี้เมา กลับบ้านไม่ทันเคอร์ฟิว เพราะพวกฝ่ายซ้ายจริง ๆ หนีเข้าป่า ไม่อยู่ให้จับแล้ว

5. ไม่สามารถให้ความคุ้มครองความปลอดภัย พระราชวงศ์ ตามหน้าที่ รมต.มหาดไทยได้
โดยในตอนนั้น เกิดเหตุระเบิดใกล้บริเวณที่รถยนต์พระที่นั่งเสด็จผ่าน ที่ จ.ยะลา
เมื่อมีผู้สอบถามว่า เกิดเหตุระเบิดกับพระราชวงศ์เช่นนี้ รมต.มหาดไทย จะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่

ป๋าหมาก ผู้ "ปากเป็นเอก" ได้กล่าวมธุรสวาจาตอบไปว่า
ถ้าอย่างนั้น ใครอยากให้ รมต. ออก ก็เอาระเบิดไปวางใกล้ ๆ ขบวนเสด็จ ทุกทีสิ

วาจานี้ ทำให้ทหารและประชาชนส่วนใหญ่ โกรธจนตัวสั่น และเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ พล.ร.อ สงัด ชลออยู่ ปฏิวัตซ้ำ ไล่รัฐบาลหอย ออกไป

อิ อิ จำได้เท่านี้ เอาเท่านี้ ก่อนละกันครับ

[Albert Einsteins]

5. ไม่สามารถให้ความคุ้มครองความปลอดภัย พระราชวงศ์ ตามหน้าที่ รมต.มหาดไทยได้
โดยในตอนนั้น เกิดเหตุระเบิดใกล้บริเวณที่รถยนต์พระที่นั่งเสด็จผ่าน ที่ จ.ยะลา
เมื่อมีผู้สอบถามว่า เกิดเหตุระเบิดกับพระราชวงศ์เช่นนี้ รมต.มหาดไทย จะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่

ป๋าหมาก ผู้ "ปากเป็นเอก" ได้กล่าวมธุรสวาจาตอบไปว่า
ถ้าอย่างนั้น ใครอยากให้ รมต. ออก ก็เอาระเบิดไปวางใกล้ ๆ ขบวนเสด็จ ทุกทีสิ


หากเป็นเรื่องจริง
อ้ายหมัก มรึงนี่เชี่ยจริงๆ ระวังมรึงจะไม่ตายดี
ขอให้มรึงติดคุกหัวโต ตายในคุก

 

[ชัย คุรุ เทวา โอม]

เอาสองรูปพอ ใครมันปลุกปั่น ขอให้มันชิบหาย

[แอ่นแอ๊น]

5. ไม่สามารถให้ความคุ้มครองความปลอดภัย พระราชวงศ์ ตามหน้าที่ รมต.มหาดไทยได้
โดยในตอนนั้น เกิดเหตุระเบิดใกล้บริเวณที่รถยนต์พระที่นั่งเสด็จผ่าน ที่ จ.ยะลา
เมื่อมีผู้สอบถามว่า เกิดเหตุระเบิดกับพระราชวงศ์เช่นนี้ รมต.มหาดไทย จะต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่

ป๋าหมาก ผู้ "ปากเป็นเอก" ได้กล่าวมธุรสวาจาตอบไปว่า
ถ้าอย่างนั้น ใครอยากให้ รมต. ออก ก็เอาระเบิดไปวางใกล้ ๆ ขบวนเสด็จ ทุกทีสิ


หากเป็นเรื่องจริง
อ้ายหมัก มรึงนี่เชี่ยจริงๆ ระวังมรึงจะไม่ตายดี
ขอให้มรึงติดคุกหัวโต

 

ไฮไลท์ตรงที่หมักแสดงความจงรักภักดี