วสันต์ ชูธงเหลือง "เชียร์" นายกฯ ปิยะณัฐ ข้าวนอกนา ยกธงดำ "ต้าน"
ยังไม่มีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไปแถลงปิดคดีซุกหุ้นในวันที่ 18 มิถุนายน ด้วยตัวเองหรือไม่
ทว่ากระแสกดดันศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสนับสนุนให้พ.ต.ท.ทักษิณ ทำงานต่อไปยังคงเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ
ตั้งแต่นายวีระ มุสิกพงศ์ ,หมอเสม ,หมอประเวศ ,ส.ศิวรักษ์ ล่าสุด เจ้าของเบนซ์ทองหล่อ นายวสันต์ โพธิพิมพานนท์
ที่ดูเหมือนว่าออกมาเคลื่อนไหวด้วยความมั่นใจและกล้าพอที่จะขอให้ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนเวลาตัดสินคดีนายกฯ ออกไปอีก 1 ปี ...
นายวสันต์ ให้เหตุผลในการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า ได้คุยกับประชาชนและพระสงฆ์บางส่วนเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำ
ให้ประชาชนสับสนจิตใจไม่สงบจึงรณรงค์ให้คนนั่งปฎิบัติอยู่ที่บ้านเพื่อให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยจัดทำ ธง 5,000 ผืน สติกเกอร์ 1 แสนใบ พร้อมมีสโลแกนกำกับว่า
"18 มิ.ย.มีสติ ยืดเวลา พาชาติพ้นภัย" พร้อมเรียกร้องให้ศาล รัฐธรรมนูญเลื่อนการตัดสินกรณีซุกหุ้นของนายกฯออกไป 1 ปี
นายวสันต์ โพธิพิมพานนท์ อายุ 55 ปี เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอำนวยศิลป์
จบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยตามด้วยปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจาก สหรัฐอเมริกาเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการเบนซ์ทองหล่อ ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ
เขาปิ๊งไอเดีย จัดตลาดนัดคนเคยรวย สร้างความฮือฮาอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็จัดแบ่งสถานที่ขายรถเบนซ์ส่วนหนึ่งมาเปิดร้านขายส้มตำ
โดยใช้พนักงานออฟฟิศสร้างความฮือฮาอีกสักพักหนึ่ง ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้เขาบอกว่า จะเปิดร้านตำส้มตำให้รับประทานฟรี ๆ 1 วัน
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งหน้าที่ทางสังคมเช่น
กรรมการสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและที่ปรึกษาสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ปรึกษาสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
กรรมการศิษย์เก่าอำนวยศิลป์ เคยได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่นของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2540 งานอดิเรกชอบสะสมพระเครื่องและปฎิบัติธรรม
ความท้าทายขอนายวสันต์ ครั้งนี้ ทำให้ทั้งซีกส.ว.,อดีตรสสร. และส.ส. บางคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า"ไม่เห็นด้วย"
อาทินายสัก กอแสงเรือง ส.ว.กรุงเทพ ,นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ส.ว.กรุงเทพ,นายทองใบ ทองเปาด์ ส.ว.มหาสารคาม,นายวัลลภตังคณานุรักษ์,ส.ว.กรุงเทพ, นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ ส.ว.สิงห์บุรี
โดยทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญแต่ควรปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินไปตามหน้าที่จะดีกว่า
หรืออดีตสสร.สุราษฎร์ธานี อย่างนายเดโช สวะนานนท์ ออกมาเตือนว่าการเคลื่อนไหวอาจทำให้เกิดความแตกแยกของประชาชนและพาไปถึงจุดอันตรายได้ขอให้นายกรัฐมนตรีออกมายุติ
เช่นเดียวกับนายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคไทยรักไทย ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกัน เขาถึงกล่าวประชดว่า "เขาจะขายผ้าหรือ"
พร้อมติงว่าการปลุกกระแสเช่นนี้ไม่ทำให้บ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีแต่เป็นสิทธิที่จะทำให้มันสนุก ๆ ได้ คงไม่เป็นไร
แต่ไม่อยากให้เป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ซึ่งจะเป็นประเพณีต่อไป ถ้าอยากเคลื่อนไหวให้ถูกต้อง ต้องทำตามระบบเช่นออกกฎหมาย ไม่ใช่มาปักธง
ที่ผ่านมาทั้งนายวีระ, หมอเสม, หมอประเวศได้รับคำขอบคุณจากนายกฯพร้อมขอร้องให้หยุดการเคลื่อนไหวทั้งสิ้นแต่ครั้งนี้ "ไม่ใช่"
เพราะนายกฯ ออกมาพูดทำนองไม่คัดค้านว่า "เป็นประเทศประชาธิปไตยมีทั้งคนสนับสนุนและต่อต้าน
"พร้อมต่อว่าเกินเลยไปถึงปมด้อยของนายปิยะณัฐ ว่า "มองไม่เห็น ไม่รู้เรื่อง"
รวมไปถึงนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์, นายปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ต่างออกมาปกป้องนายกรัฐมนตรีพร้อมขอให้นาย ปิยะณัฐ พูดให้ชัดเจน
และกลับแรงยิ่งขึ้นเมื่อ นายเสนาะ เทียนทอง โทรศัพท์ต่อว่านาย ปิยะณัฐ ผ่านทั้งน้องชายและพ่อนายปิยะณัฐ วัชราภรณ์ อายุ 50 ปีต้น ๆ เกิดที่จังหวัดนครปฐม
เป็นบุตรของ นายสง่าวัชราภรณ์ อดีตส.ส.ศรีสะเกษหลายสมัย จบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ยึดอาชีพทนายความหาเลี้ยงชีพอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินรอยตามบิดาลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2518 สังกัดพรรคธรรมสังคม ที่จ.ศรีสะเกษ มาตั้งแต่ปี 2522,2526,2529,2531,2535/1 ,2535/2,2538,2539
ด้วยความที่เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงมีชื่อเสียงในฐานะ"ดาวสภา" จึงย้ายสังกัดแทบทุกครั้งเมื่อมีการเลือกตั้งเริ่มตั้งแต่ เสรีธรรม ชาติไทย รวมไทย กิจสังคม ก้าวหน้า เอกภาพ ความหวังใหม่
ปัจจุบันเป็นส.ส.ในแแบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทยเป็นส.ส.ที่ผ่านงานการเมืองมามากมาย
อดีตเคยเป็นเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการเลขานุ การรมว.ทบวงมหาวิทยาลัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร รมว.สาธารณสุข และรัฐมนตรีประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี
ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อปี 2540 จนมีปัญหาเรื่องสายตา
มักจะออกมาพูดจาขวางชาวบ้านเสมอเราคงไม่อยากเห็นประชาชนในบ้านเมืองลุกฮือแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการทว่าควรปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามกติกาที่วางไว้มิใช่หรือ....
ขนิษฐา วรศิริ ..../ เรียบเรียง
http://www.becnews.com/backissue/f_famous/vasan.html
