นาคราช
|
|
« ตอบ #50 เมื่อ: 25-02-2008, 09:50 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2008, 09:53 โดย นาคราช »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 27-02-2008, 06:26 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 27-02-2008, 06:43 » |
|
花猫百舌>>> อ่านว่า ฮวยเนียวแป๊ะจิ๊ >>> แปลว่า แมวลายร้อยลิ้น >>> หมายถึง โกหกพกลม 猫 ในที่นี้ให้อ่านว่า เนียว รับไปเต็ม ๆ กับคนรักแมวอย่างทั่นหมัก คนอาร้าย พูดจาเชื่อถือไม่ได้ โกหกไม่เนียนเล้ย ให้คนจับได้ทันทีซะงั้น พวกโกหกเนียนนี่ ๆ ลีลาเยอะ ที่เรียกว่า ฮวยเอี่ยแป๊ะฉุก ใส่ความจริงเข้าไปผสมสักนิด แกล้งทำเป็นบ่นสักหน่อย ยกหางตัวเองเข้าไปด้วย ที่เหลือโกหกเนื้อ ๆ ประมาณ 8.5 ส่วน กว่าคนจะจับได้ ต้องใช้เวลาสืบค้นอยู่หลายชั่วยาม แถมยังทำไม่รู้ไม่ชี้ พอกหน้าให้หนาเข้าไว้ จะได้มาลอยหน้าลอยตาอยู่หน้าบอร์ดได้อีกต่างหาก 累生累死>>> อ่านว่า หลื่อแซหลื่อซี่ >>> แปลว่า ทำงานหามรุ่มหามค่ำ >>> 累 ในที่นี้ให้อ่านว่า ลื้อ แปลว่า ก้มหน้าก้มตาทำงานงก ๆ สำนวน 累生累死 หมายถึง ทำงานหนัก ทำงานเหมือนวัวเหมือนควาย เหมาะสมที่สุดก็ต้องเจ๊วูบบบ...อุ๊ย ไม่ใช่ "เจ๊มิ่ง" คนขยัน มักจะได้ยินแค่ "หลื่อซี่" หรือ "บั่วซี่" บรรยายคนที่ต้องตรากตรำทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำ อะไรแบบนั้น叫父叫母>>> อ่านว่า เกี้ยแป่เกี้ยบ้อ >>> ถูกปรักปรำ ร้องโอคครวญด้วยความเจ็บปวด ชอกช้ำระกำใจจนต้องร้องหาพ่อหาแม่ ป่านนี้ร้องคร่ำครวญแย่แล้ว เพราะเจอฤทธิ์ "ใบแดง" จากท่านเปากกต. ไปเต็ม ๆ เลย 反来反去>>> อ่านว่า หวงไล้ฮวงขื่อ >>> แปลว่า กลับไปกลับมา >>> หมายถึง เปลี่ยนใจกลับกลอก พลิกแพลง ไม่แน่นอน โลเล ตกลงจะกลับป่าวเจ้าคะ ทั่นประธานเรือใบสี่เหลี่ยม ว่าจะกล๊าบบบ จะกลับมากี่นานแล้วเนี่ยะ ไม่แน่จริงนี่นา เปลี่ยนคนให้มาโยนหินถามทางอยู่นั่น โยนไปกี่ชั่งแล้วก็ไม่รู้ เสียดายของ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 27-02-2008, 07:34 » |
|
เยี่ยมๆครับคุณเม่ย รออ่านตั้งนานแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 27-02-2008, 09:16 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #55 เมื่อ: 28-02-2008, 08:40 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 28-02-2008, 08:51 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-02-2008, 05:29 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 05-03-2008, 18:57 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2008, 19:03 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 15-03-2008, 06:00 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 29-03-2008, 21:15 » |
|
阿妹姊在那里 ? 快快来吧 ! 我要看你的新题目...อาคุณพี่(สาว)เม่ยอยู่ที่ไหน? มาเร็วไว! ผมอยากจะดูกระทู้ใหม่ครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 31-03-2008, 08:23 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 03-04-2008, 10:23 » |
|
道高一尺,魔高一丈
ธรรมะสูงหนึ่งคืบ มารร้ายสูงหนึ่งศอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: 10-04-2008, 06:41 » |
|
问神看命>>> อ่านว่า หมึ่งซิ้งโทยเหมี่ย
>>> แปลว่า หาพระหาเจ้าหาหมอดู
>>> หมายถึง เชื่อถืองมงาย เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแทนที่จะตั้งสติ แก้ปัญหาตามสภาพ กลับเที่ยวหาพระหาเจ้าหาหมอดู หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะนะ หลงไปต่ออายุสะเดาะเคราะห์ แล้วคิดว่าจะรอดหรือ เข้าข่ายติดสินบนพระท่านนะเนี่ยะ 跋無杯>>> อ่านว่า ปัวะบ่อปวย
>>> แปลว่า ขอไม่ได้
>>> 杯 (ปวย) คือ ไม้สีแดงรูปจันทร์เสี้ยวใช้สำหรับเสี่ยงทาย หลังจากไหว้เจ้า อธิษฐานเสร็จ ชาวจีนจะเอาปวยสองซีกมาประกบกันแล้วโยนลงกับพื้น หากคว่ำทั้งสองข้าง เรียกว่า ปัวะบ่อปวย หมายถึง ไม่ราบรื่น ไม่สมหวัง สำนวนนี้แผลงเป็นขอแล้วไม่ได้ดั่งใจหมายปัวะบ่อปวย ปัวะบ่อปวย แน่ ๆ เพราะจ๊อเจ๊กอั่กไม่เลิก 白仁白鬼>>> อ่านว่า แปะหยิ่งแปะกุ้ย >>> แปลว่า โง่เง่าเต่าตุ่น >>> ความหมายคือ โง่ที่สุด เป็นคำว่ากล่าวติติงถึงคนที่คิดอะไรก็พูดออกมา ตรงไปตรงมา ไม่รู้จักคิดพิจารณาก่อนว่า อะไรควรพูดหรือไม่ควรพูด โบราณท่านสอนไว้ว่า ให้คิดก่อนพูด ไม่ใช่คิดอะไรก็พูดออกมาหมด เพราะแสดงให้เห็นถึงความไม่ฉลาด เหมือนทั่นผู้นำบางคนของประเทศสารขัณฑ์ที่พูดจาไม่สร้างสรรค์ ทำบาปเรื่องวจีทุจริตอยู่เรื่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 19-04-2008, 12:19 » |
|
上好>>> อ่านว่า เสี่ยงฮ่อ >>> แปลว่า ดีที่สุด >>> หมายถึง เยี่ยมยอด ดีเด่น家己人>>> อ่านว่า กากี่นั้ง >>> แปลว่า คนกันเอง >>> แปลตรงตัวว่า คนของตัวเอง หมายถึงญาติสนิท มิตรใกล้ชิด無相干>>> อ่านว่า บ่อเซียงกัง >>> แปลว่า ไม่เป็นไร >>> ใช้เป็นคำแสดงมารยาท แสดงน้ำใจ แสดงความห่วงใย หรือปลอบใจว่าไม่ถือหรอกขอบคุณท่านเล่าปี๋มากหลายค่ะ
เที่ยงนี้นำคำที่รู้จักกันดีมาฝากค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 19-04-2008, 16:56 » |
|
非常感谢!
加油!加油!
保重,保重。
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2008, 16:59 โดย เล่าปี๋ »
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
kann
น้องใหม่
ออฟไลน์
กระทู้: 1
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 07-05-2008, 16:59 » |
|
รบกวนหน่อยค่ะ ภาษาแต้จิ๋ว โกตั๊ก แปลว่าอะไรค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 11-05-2008, 10:15 » |
|
รบกวนหน่อยค่ะ ภาษาแต้จิ๋ว โกตั๊ก แปลว่าอะไรค่ะ
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่นะคะ ตอนแรกอ่านเป็น โกตั๊บ เสียอีก เข้าใจว่า คุณ kann หมายถึงคำว่า โกวตั๊ก ส่วนอีกคำที่มีความหมายใกล้เคียงกันคือ โกวเจ่ง ความเข้าใจส่วนตัว คิดว่าสองคำนี้มีลักษณะร่วมกันอย่างหนึ่งคือ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ถ้ามีใครบอกว่า คนนี้คนนั้นเป็นคนโกวตั๊กล่ะก็ จะคบค้าสมาคมด้วยก็ต้องทำใจหน่อย เป็นคนที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่ได้ คนที่โกวเจ่งนี่ก็จะแบบว่า ไม่ชอบสังคม ไม่ชอบสุงสิงกับใคร เปิดหนังสือของคุณสุภาณี ปิยพสุนทรา มีคำอธิบายละเอียดดังนี้ค่ะ 孤毒>>> อ่านว่า โกวตั๊ก
>>> แปลว่า โดดเดี่ยว
>>> คนที่มีลักษณะนิสัยโดดเดี่ยว ชอบอยู่ลำพังผู้เดียว ไม่ชอบยุ่งกับใคร และไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับตน คนเช่นนี้มักเป็นคนเจ้าระเบียบ ขี้หงุดหงิด เข้ากับคนอื่นไม่ได้ เล่นหัวกับใครไม่เป็น ลักษณะเหมือนหุ่นกระบอก แข็งทื่อ แล้งน้ำใจ แตะถูกนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่ยอม古证古证 >>> อ่านว่า โกวเจง โกวเจ่ง
>>> แปลว่า คร่ำครึ โบราณ
>>> 古证 (โกวเจ่ง) หมายถึง งานสืบค้นโบราณคดี วิเคราะห์ประวัติศาสตร์ เป็นงานที่ลึกลับสลับซับซ้อน ชาวจีนแต้จิ๋วยืมเอาวิชาชีพนี้ มาบรรยายลักษณะของคนที่มีนิสัยช่างวิเคราะห์ คิดอะไรสลับซับซ้อน มีแผนในใจ
>>> คำนี้ยังถูกนำมาใช้ในแง่ลบอีกด้วย แต่เปลี่ยนจากอักษร 证 ที่แปลว่า พิสูจน์ หลักฐาน ยืนยัน มาเป็น 症 ที่แปลว่า โรค ในความหมายหลังจึงเป็นคำด่า ใช้กับคนที่มีลักษณะนิสัยแปลก ๆ ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ เข้ากับผู้อื่นไม่ได้ ดุมากหากมีใครก้าวล้ำเข้ามาในกรอบที่เขาวางไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 23-05-2008, 13:31 » |
|
พี่น้องที่เคารพรัก
ข้างล่างนี้ มันแปลว่าอะหยังครับ ซ่อยข่อยแหน่่....
系统维护中 ! 目前系統正在进行系统维护,暂时无法使用。 系统将于 14:30 (GMT +8) 恢复服务。不便之处,敬请见谅。
系統維護中 ! 目前系統正在進行系統維謢,暫時無法使用。 系統將於 14:30 (GMT +8) 恢復服務。不便之處,敬請見諒。
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 23-05-2008, 13:31 » |
|
พี่น้องที่เคารพรัก
ข้างล่างนี้ มันแปลว่าอะหยังครับ ซ่อยข่อยแหน่่....
系统维护中 ! 目前系統正在进行系统维护,暂时无法使用。 系统将于 14:30 (GMT +8) 恢复服务。不便之处,敬请见谅。
系統維護中 ! 目前系統正在進行系統維謢,暫時無法使用。 系統將於 14:30 (GMT +8) 恢復服務。不便之處,敬請見諒。
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 24-05-2008, 19:41 » |
|
พี่น้องที่เคารพรัก
ข้างล่างนี้ มันแปลว่าอะหยังครับ ซ่อยข่อยแหน่่....
系统维护中 ! 目前系統正在进行系统维护,暂时无法使用。 系统将于 14:30 (GMT +8) 恢复服务。不便之处,敬请见谅。
คารวะมายังน้องท่านลาวเจียรไน แวะมาตอบเด้อ ข้อความที่ยกมา มีความหมายว่า... ขณะนี้ระบบ (system) อยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงรักษา (~ maintenance) จะไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราว ระบบจะกลับคืนสู่สภาวะปกติในเวลา 14.30 (เวลามาตรฐานกรีนิช...) ขออภัยในความไม่สะดวก คงเป็นประกาศมาทางอีเมล์จากแผนกไอที หรือหน้าห้องหน่วยซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรือตัววิ่งใต้หน้าจอโทรทัศน์ มั้งเนี่ยะ หรือระหว่างเล่นเกมส์ออนไลน์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 25-05-2008, 11:05 » |
|
คารวะมายังน้องท่านลาวเจียรไน แวะมาตอบเด้อ ข้อความที่ยกมา มีความหมายว่า... ขณะนี้ระบบ (system) อยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงรักษา (~ maintenance) จะไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราว ระบบจะกลับคืนสู่สภาวะปกติในเวลา 14.30 (เวลามาตรฐานกรีนิช...) ขออภัยในความไม่สะดวก คงเป็นประกาศมาทางอีเมล์จากแผนกไอที หรือหน้าห้องหน่วยซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรือตัววิ่งใต้หน้าจอโทรทัศน์ มั้งเนี่ยะ หรือระหว่างเล่นเกมส์ออนไลน์ ครับ ตกใจหมด นึกว่าัมันแบน หรือปิดเว็บหนีซะอีก ตอนใช้งาน มันมีภาษาไทยให้ใช้นะเว็บนั่น แต่พอมีปัญหา ก็อย่างที่เห็น งงเต๊ก ขอบคุณมากครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #80 เมื่อ: 25-05-2008, 21:54 » |
|
พี่น้องที่เคารพรัก
ข้างล่างนี้ มันแปลว่าอะหยังครับ ซ่อยข่อยแหน่่....
系统维护中 ! 目前系統正在进行系统维护,暂时无法使用。 系统将于 14:30 (GMT +8) 恢复服务。不便之处,敬请见谅。
系統維護中 ! 目前系統正在進行系統維謢,暫時無法使用。 系統將於 14:30 (GMT +8) 恢復服務。不便之處,敬請見諒。
คารวะมายังน้องท่านลาวเจียรไน แวะมาตอบเด้อ ข้อความที่ยกมา มีความหมายว่า... ขณะนี้ระบบ (system) อยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงรักษา (~ maintenance) จะไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราว ระบบจะกลับคืนสู่สภาวะปกติในเวลา 14.30 (เวลามาตรฐานกรีนิช...) ขออภัยในความไม่สะดวก คงเป็นประกาศมาทางอีเมล์จากแผนกไอที หรือหน้าห้องหน่วยซ่อมบำรุงเครื่องจักร หรือตัววิ่งใต้หน้าจอโทรทัศน์ มั้งเนี่ยะ หรือระหว่างเล่นเกมส์ออนไลน์ ขอขอบคุณ คุณพี่(สาว)เม่ย เป็นอย่างยิ่ง
ผมกำลังคิดจะตอบแล้ว แหะๆ ทำไมหน้าแตก
หมอไม่รับเย็บแผลเป็นแน่ๆ ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 21-06-2008, 07:40 » |
|
不用空城计,退不了司马懿ถ้าไม่ใช้แผนเมืองร้าง ไหนเลยจะไล่สุมาอี้ไปได้ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง สามก๊ก ที่แต่งโดยหลอกว้านจง ซึ่งเป็นคนในสมัยหมิง เป็นผลงานเลื่องชื่อหนึ่งในสี่ผลงานโบว์แดงของจีนในสมัยโบราณมีนิทานเรื่องหนึ่งว่า :
ขงเบ้งอัครเสนาบดีของจ๊กก๊กนำทหารบุกขึ้นเหนือไปตีวุยก๊ก แต่เนื่องจากใช้คนไม่เหมาะสม ทำให้สูญเสียเมืองกังตั๋งซึ่งเป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์สำคัญไป ขงเบ้งรู้สึกว่าการได้ชัยชนะในสงครามครั้งนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว จึงส่งทหารแยกสายกันไปสกัดกั้นการซุ่มโจมตีของกองทัพวุยก๊ก
เมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายลง ปรากฏว่าข้างกายของเขาเหลือเพียงทหาร ๒,๕๐๐ นายและขุนนางฝ่ายบุ๋นอีกจำนวนหนึ่ง จู่ ๆ มีม้าเร็วมารายงานว่า สุมาอี้แม่ทัพใหญ่ของวุยก๊กกรีธาทัพหนึ่งแสนห้าหมื่นคนกำลังบุกมาทางนี้ ขงเบ้งจึงขึ้นไปดูบนกำแพงเมือง เห็นเพียงฝุ่นดินลอยตลบอบอวล กองทัพของวุยก๊กกรีธาทัพมาโดยแยกกำลังทหารออกเป็นสองสาย ขงเบ้งรีบสั่งการให้เปิดประตูเมืองทั้ง ๔ ด้าน แต่ละประตูให้ทหาร ๒๐ คนแต่งตัวเป็นชาวบ้าน คอยปัดกวาดถนน ขณะเดียวกันขงเบ้งก็กำชับทุกคนว่า ถ้าหากทหารวุยก๊กมาถึง ไม่ต้องแสดงอาการตื่นตระหนก ตัวเขาเองนำเด็กรับใช้สองคนขึ้นไปจุดกำยานและนั่งดีดขิมอยู่บนกำแพง
กองทัพวุยก๊กเดินทางมาถึงใต้กำแพงเมือง เมื่อเห็นเหตุการณ์ต่างก็ไม่กล้าผลีผลามบุกเข้าไป และรีบไปรายงานสุมาอี้ สุมาอี้ทราบเรื่องก็สั่งการให้หยุดทัพทันที จากนั้นก็ไปสำรวจเหตุการณ์ที่ใต้กำแพงเมือง และเห็นขงเบ้งกำลังนั่งอยู่บนกำแพงเมืองจริง สีหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม บรรเลงขิมด้วยความสบายอกสบายใจ ภายในตัวเมืองและนอกเมืองมีชาวบ้าน ๒๐ กว่าคนก้มหน้าก้มตาปัดกวาดถนน ด้านข้างดูเหมือนไม่มีคน สุมาอี้มองดูแล้วเกิดความหวาดระแวงอย่างหนัก จึงรีบสั่งการให้ถ่ายทอดคำสั่งถอยทัพโดยด่วน
สุมาเจียวบุตรชายของสุมาอี้จึงสอบถามถึงสาเหตุ สุมาอี้บอกว่า ขงเบ้งปกติเป็นคนรอบคอบ ไม่กล้าเสี่ยงอันตราย มาบัดนี้เปิดประตูเมืองออกกว้าง ข้างในต้องมีทหารซุ่มดักอยู่เป็นแน่ ถ้าข้านำทหารบุกเข้าไป ก็ต้องหลงกลฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ว่าแล้ว สุมาอี้ก็ถอยทัพกลับไป
ขงเบ้งเห็นกองทัพวุยก๊กถอยไปไกลแล้ว อดไม่ได้ที่จะปรบมือและเปล่งเสียงหัวเราะ ขุนนางทั้งหลายจึงซักถามสาเหตุ ขงเบ้งตอบว่า ข้าหาได้ต้องการเสี่ยงอันตรายแต่อย่างใดไม่ แต่จำใจต้องทำเพราะไม่มีหนทางอื่นแล้วจริง ๆ ! ถ้าหากเราสละเมืองแล้วหนีเอาตัวรอด ก็ย่อมจะหนีไปได้ไม่ไกล สุดท้ายต้องถูกสุมาอี้จับตัวจนได้ ! ขุนนางในที่นั้นฟังแล้ว ไม่มีใครที่ไม่เคารพเลื่อมใสขงเบ้ง
ต่อมา มีคนขมวดนิทานเรื่องนี้เป็นสุภาษิตว่า ถ้าไม่ใช้แผนเมืองร้าง ไหนเลยจะไล่สุมาอี้ไปได้ อุปมาว่า ถ้าไม่มีวิธีการที่ดีก็เอาชนะฝ่ายตรงข้ามไม่ได้อ้างอิงจาก "สนุกกับสุภาษิตจีน" โดย จุไรรัตน์ อารยะกิตติพงศ์กระทู้นี้สืบเนื่องจากคุณ กาลามชน บอกว่า.... ผมว่าพันธมิตรโดนกลศึก เมืองว่าง ของสมัครมากกว่า
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28186.msg306519#msg306519ก็เลยต้องนำเรื่องนี้มาขยายความต่อ สมัยก่อน ตอนนี้ของ "สามก๊ก" อยู่ในแบบเรียนวิชาวรรณคดีสำหรับเด็กชั้นมัธยมต้น หรือประถม ด้วย ยังจำภาพวาดขงเบ้งดีดขิมอยู่บนกำแพงได้ แต่ตอนนี้ไม่รู้ยังมีให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียนกันหรือเปล่า ว่าแต่ ทั่นสมัครคิดจะเทียบชั้นกับขงเบ้งหรือเจ้าคะ ดูรูป "ขงเบ้ง" คนใหม่ที่รับบทโดยจินเฉิงอู่ดีกว่ามั้ง แต่คนที่ต้องทิ้งเมืองหนีไปอย่างรีบด่วน ข่าวล่าว่าอย่างนั้น คือ ทั่นซี่ปังหมิ่ง คนหน้าเหลี่ยมอะนะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2008, 07:52 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 21-06-2008, 08:10 » |
|
มีคนบอกว่าหมักโดนพันธมิตรบุกทำเนียบ ใช้แผนเดียวกับขงเบ้ง แต่ไม่รู้หายหัวไปนั่งตีขิมที่ไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 23-06-2008, 17:18 » |
|
空城计* อย่าบุกเข้ามานะ ข้อยจะดีดพิณให้ฟัง ... โอ้ละหนอ...ดวงเดือนเอย .... *
พี่มาเว้า เพราะฮักเจ้าสาวลำดวน โอ้ดึกแล้วหนอ พี่ขอลาล่วง ***
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2008, 09:12 โดย นาคราช »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 23-06-2008, 21:30 » |
|
空城计 哈哈..笑话。。。。。
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 28-06-2008, 16:54 » |
|
ขอคารวะสหายชาวยุทธทุกท่าน มาฮากับขิมที่คุณนาคราชจินตนาการบรรเจิดให้ลุงหมักทั้งดีดและร้องค่ะ ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ หลังจากน้องท่านเร้นกายไปเสียนาน หวังว่าสบายดีนะคะ ในที่สุด ลุงหมักก็มาดีดขิม เอ๊ยย ม่ายช่าย พับนกอยู่ในปะรำของเวทีลุยไถให้ชาวยุทธได้ดูอย่างขัดหูขัดตา หลังจากตาดูหูฟังการดวลฝีปากปะทะคารมของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐมาหลายวัน ขอมอบสำนวนนี้ให้กับ...กรณีทำอุ๊บ ๆ อิ๊บ ๆ ลับ ๆ ล่อ ๆ ยกเรื่อง "ปราสาทพระวิหาร" มาบังหน้า นี่ยังไม่นับห่อขนมเปี๊ยะที่มิได้ห่อขนมแต่ห่อตั๋วแลกเงินหลายมัด นับแล้วมีมูลค่าถึง ๒ ล้านตำลึงมามอบให้เจ้าหน้าที่ของศาลไคฟง ....บังอาจนัก "สุมาเจียวคิดอะไรใคร ๆ ก็รู้" -- คิดว่าคนเค้าไม่รู้หรือไงทั่น เง้ออออ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2008, 17:25 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 28-06-2008, 17:13 » |
|
司马昭之心路人皆知
ซือหม่าเจา(สุมาเจียว) คิดอะไรใคร ๆ ก็รู้
ในสมัยสามก๊ก เมื่อจักรพรรดิเว่ยหมิงตี้ (แคว้นวุยก๊ก) เสด็จสวรรคต เฉาฟัง(โจฮอย) ซึ่งยังเยาว์วัยอยู่ก็ขึ้นมาเป็นผู้สืบราชสมบัติต่อ โดยมีขุนนางที่ชื่อซือหม่าอี้(สุมาอี้) คอยถวายการชี้แนะเรื่องการบริหารราชกิจ จากนั้นมาอำนาจส่วนใหญ่ในแคว้นวุยก๊กจึงตกอยู่ในมือของคนตระกูลซือหม่า จักรพรรดิของวุยก๊กเป็นจักรพรรดิแต่เพียงในนามเท่านั้น
ต่อมา เมื่อสุมาอี้ถึงแก่กรรม ซือหม่าซือ(สุมาสู) บุตรชายของสุมาอี้กำจัดโจฮอยและสถาปนาเฉาเหมา(โจเมา) ซึ่งอายุได้ ๑๓ ปีเป็นจักรพรรดิแทน เมื่อสุมาสูเสียชีวิต น้องชายของเขาที่ชื่อซือหม่าเจา (สุมาเจียว) ก็ยึดกุมอำนาจในกองทัพและอำนาจบริหารราชการของวุยก๊กต่อจากเขา
หลังจากที่สุมาเจียวรวบอำนาจมาอยู่ในมือตนแต่เพียงผู้เดียวแล้วก็เกิดความทะเยอทะยานมากขึ้น และคิดตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์แทนโจเมาอยู่ทุกลมหายใจ เขาจึงพยายามกำจัดบุคคลที่เป็นเสี้ยนหนามและศัตรูทางการเมืองออกไปทีละคนสองคน เมื่อโจเมาซึ่งอายุยังน้อยทราบว่าตนเป็นเพียงจักรพรรดิ หุ่น ก็ครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าช้าเร็วคงจะถูกสุมาเจียวกำจัด จึงคิดหาทางหนีทีไล่โดยใช้วิธีโจมตีแบบสายฟ้าแลบเพื่อโค่นล้มสุมาเจียวเสียตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่ทันตั้งตัว
อยู่มาวันหนึ่ง เขาเรียกประชุมเหล่าขุนนางผู้ใหญ่ที่อยู่ฝ่ายเดียวกันแล้วบอกว่า สุมาเจียวคิดอะไรใคร ๆ ก็รู้ ข้าจะมัวแต่รอให้เขามาเหยียบย่ำทำลายไม่ได้ จึงได้เรียกทุกท่านมาประชุมเพื่อปรึกษาหารือกันวันนี้
ขุนนางหลายคนทราบดีว่าการกระทำเช่นนั้นไม่ต่างอะไรกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ จึงเตือนให้เขาอดทนต่อไปสักระยะหนึ่ง แต่โจเมาไม่เชื่อ เขาพาองครักษ์และผู้ติดตามหลายร้อยคนไปล้อมปราบสุมาเจียว โดยหารู้ไม่ว่า ในบรรดาขุนนางพวกนั้น มีขุนนางคนหนึ่งส่งข่าวให้สุมาเจียวรู้ตัวล่วงหน้าก่อนแล้ว สุมาเจียวจึงส่งทหารไปสกัดกั้นและฆ่าโจเมาทิ้ง
เราใช้สุภาษิต ซือหม่าเจียว(สุมาเจียว)คิดอะไรใครๆ ก็รู้ อุปมาถึงความทะเยอทะยานและเล่ห์สนกลอุบายต่าง ๆ ถูกคนอื่นล่วงรู้หมดแล้ว
อ้างอิง : สนุกกับสุภาษิตจีน โดย จุไรรัตน์ อารยะกิตติพงศ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #89 เมื่อ: 30-06-2008, 11:15 » |
|
แถมอีกรูปครับ..
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2008, 08:11 โดย นาคราช »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #90 เมื่อ: 03-07-2008, 05:52 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2008, 11:39 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #91 เมื่อ: 05-07-2008, 19:26 » |
|
萬事俱備,只欠東風 万事具备,只欠东风 ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา คริสต์ศักราช ๒๐๘ เฉาเชา(โจโฉ) นำไพร่พล ๘ แสนคนออกศึกสงครามด้วยตนเอง เขาคิดหาวิธีกำจัดหลิวเป้ย(เล่าปี่) และซุนเฉวียน(ซุนกวน) ในคราวเดียวกัน ห้วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญนั้นเอง จูเก๋อเหลียง(ขงเบ้ง) ถูกส่งไปเป็นทูตเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ซุนกวนยอมเข้าร่วมผนึกกำลังกันเพื่อรับมือกับโจโฉ ซุนกวนแต่งตั้งโจวอวี๋(จิวยี่) เป็น ผู้บัญชาการใหญ่ นำกำลังพล ๓ เหล่าทัพไปรับมือโจโฉ
โจโฉ(จางเฟิงอี้) จิวยี่กับขงเบ้งพิเคราะห์โดยละเอียดแล้วจึงตัดสินใจใช้แผน โจมตีด้วยไฟ โดยก่อนอื่นจิวยี่จะใช้แผน ทรมานร่างกาย จึงได้ใส่ร้ายป้ายสีหวงไก้(อุยกาย) ซึ่งเป็นแม่ทัพอาวุโสให้ถูกโบยตีจนบาดเจ็บสาหัส จากนั้นให้อุยกายลอบส่งคนไปส่งข่าวโจโฉว่าตนนั้นอดทนต่อการถูกสบประมาทต่อไปไม่ไหวแล้ว จิวยี่(เหลียงเฉาเหว่ย) ซุนกวน(จางเจิน) ทันทีที่ได้โอกาส ก็จะโดยสารเรือเสบียงเพื่อไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็ออกอุบายให้ผังถ่ง(บังทอง)แสร้งทำเป็นยอมศิโรราบและเสนอให้โจโฉใช้แผน ผูกเรือ โดยให้เหตุผลว่าถ้าเพียงแต่ใช้วงแหวนเหล็กสลักบริเวณหัวท้ายเรือน้อยใหญ่เพื่อผูกโยงเข้าเป็นลำเดียวกัน เรือก็จะไม่โยกคลอนไปมา แม่ทัพนายกองที่มาจากพื้นที่ตอนเหนือซึ่งปกติไม่คุ้นเคยกับการทำสงครามทางน้ำก็จะไม่เกิดอาการเมาเรือ โจโฉหารู้ไม่ว่านี่คือกลอุบายของฝ่ายตรงข้าม จึงหลงเชื่อและยอมทำตามเมื่อเตรียมการทุกอย่างพร้อมสรรพ จิวยี่ยืนอยู่ริมแม่น้ำคอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวภายในค่ายของโจโฉ ทันใดนั้น มีลมพายัพพัดมาปะทะหน้าวูบหนึ่ง ทำให้จิวยี่อดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ พลันนึกขึ้นได้ว่าช่วงเวลานั้นตรงกับฤดูหนาวพอดี จะมีลมพายัพพัดกรรโชกมาทุกวัน การโจมตีศัตรูด้วยไฟจำเป็นต้องอาศัยลมที่พัดมาจากทิศบูรพาจึงจะสำเร็จลงได้ ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้จะให้ทำอย่างไรดีเล่า? จิวยี่ตะเบ็งเสียงดังลั่น แล้วล้มกองกับพื้นพร้อมกระอักเลือดออกมาเมื่อขงเบ้งทราบข่าวว่าจิวยี่ไม่สบายจึงไปเยี่ยมเยียนถามไถ่อาการ เขาบอกจิวยี่ว่า ข้ามีวิธีหนึ่งรักษาท่านได้ ว่าแล้วก็หยิบพู่กันขึ้นมาเขียนอักษร ๑๖ ตัวว่า : จะตีค่ายเฉากง (โจโฉ) เตรียมใช้ไฟโจมตี ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา :「欲破曹公,宜用火攻;萬事俱備,只欠東風。」จิวยี่เห็นดังนั้นจึงหัวเราะแล้วพูดว่า ท่านทราบถึงต้นเหตุแห่งอาการเจ็บไข้ไม่สบายของข้าแล้ว เห็นควรจะรักษาอย่างไร? ขงเบ้งเข้าใจเรื่องดินฟ้าอากาศ สามารถกำหนดทิศทางลมให้เปลี่ยนไปเป็นลมบูรพาได้โดยอาศัยการสะท้อนกลับและการหักเหของบางสิ่งบางอย่าง จึงว่า ข้าเคยศึกษาวิชาเรียกลมเรียกฝน จะขอยืมลมบูรพามาให้ท่านใช้สัก ๓ วันก็แล้วกัน ทันทีที่ได้ยินขงเบ้งพูดเช่นนั้น อาการป่วยของจิวยี่ก็ทุเลาลงไปถึงเจ็ดแปดส่วน
ขงเบ้งให้คนตั้งปะรำพิธีบูชาฟ้าดินเพื่อขอยืมลม ครั้นถึงเวลายามสาม ลมบูรพาก็พัดมาจริงดังคาด จิวยี่จึงให้อุยกายแสร้งไปยอมสวามิภักดิ์กับโจโฉทันที เรือใหญ่ ๒๐ ลำซึ่งบรรทุกต้นอ้อต้นกก ฟืนแห้ง และน้ำมัน เมื่อได้ลมบูรพามาช่วย เรือก็เคลื่อนเข้าโจมตีกองทัพของโจโฉราวลูกธนูที่พุ่งจากแหล่ง หะแรก โจโฉยังหลงนึกว่าอุยกายโดยสารเรือเสบียงมาสวามิภักดิ์กับตน จนกระทั่งเรือเหล่านั้นเทียบเข้ามาใกล้ค่ายของโจโฉและเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว ซุนกวนและเล่าปี่ร่วมมือกันฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตี ผลสุดท้าย เรือรบในกองทัพของโจโฉที่ผูกโยงเข้าด้วยกันก็ถูกไฟเผาทำลายจนราบคาบ แม้แต่โจโฉเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ทุกอย่างพร้อมพรัก ขาดแต่ลมบูรพา สุภาษิตบทนี้อุปมาถึงการประกอบภารกิจใดภารกิจหนึ่ง องค์ประกอบต่าง ๆได้ตระเตรียมจนพร้อมหมดแล้ว ยังขาดก็แต่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุด อ้างอิง จาก สนุกกับสุภาษิตจีน โดย จุไรรัตน์ อารยะกิตติพงศ์ เครดิตภาพ จาก Red Cliff 《赤壁》 โดย จอห์น วู +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+ กล่าวสำหรับเหตุการณ์ในเซี่ยมล้อยุทธจักร แต่ละก๊กซึ่งไม่แน่นักว่ามีสามก๊ก ต่างก็เฝ้ารอว่า เมื่อไหร่ลมบูรพาจะพัดพามาซักที ลมหอบแรกที่ก๊กหน้าเหลี่ยมหวังไว้เมื่อหลายวันก่อน (2 ก.ค.) นอกจากจะไม่พัดมาแล้ว ที่พัดมายังกลับกลายเป็นลมพายัพพัดเข้าตัวเสียอีกนะทั่น
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2008, 19:45 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อธิฏฐาน
|
|
« ตอบ #92 เมื่อ: 05-07-2008, 19:57 » |
|
แสดงว่าลมฝนไม่เป็นใจค่ะคุณเม่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #93 เมื่อ: 09-07-2008, 13:35 » |
|
สื่อมวลชนญี่ปุ่น เสนอข่าวจ่ายสินบน 400 ล้านเยน ให้แก่ กทม.ในสมัย นาย สมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่า
คำวินิจฉัยให้แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑ ที่ ครม.มอบหมายให้นายนพดลไปลงนาม นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๙๐
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษาให้ "ใบแดง" นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ๕ ปี
และผลจากใบแดงที่นายยงยุทธเป็นกรรมการบริหารพรรคนี้ ทำให้ "พรรคพลังประชาชน" มีสิทธิ์ต้องถูกยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรค ๓๗ คนต้องถูกเว้นวรรคการเมืองไปด้วย ๕ ปี!
ผลงานอันงามหน้าที่รัฐบาลทำผิด สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติอย่างนี้ ถ้าเป็นประเทศอื่น เขา "คว้านท้อง" หนีอายไปแล้วครับ
****************** ผมว่าฉากรัฐบาลฉากนี้ เหมือน โจโฉแตกทัพเรือ มิมีผิดเพี้ยนเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #94 เมื่อ: 12-07-2008, 12:02 » |
|
แสดงว่าลมฝนไม่เป็นใจค่ะคุณเม่ย
เห็นด้วยค่ะ สวรรค์มีตา นอกจากฟ้าฝนจะไม่เป็นใจแล้ว เจอคำพิพากษาของท่านเปายุคโลกาภิวัตน์เข้าไป ตอนนี้ดิ้นกันพล่านนนน สื่อมวลชนญี่ปุ่น เสนอข่าวจ่ายสินบน 400 ล้านเยน ให้แก่ กทม.ในสมัย นาย สมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่า
คำวินิจฉัยให้แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๑ ที่ ครม.มอบหมายให้นายนพดลไปลงนาม นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๙๐
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษาให้ "ใบแดง" นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง ๕ ปี
และผลจากใบแดงที่นายยงยุทธเป็นกรรมการบริหารพรรคนี้ ทำให้ "พรรคพลังประชาชน" มีสิทธิ์ต้องถูกยุบพรรค และกรรมการบริหารพรรค ๓๗ คนต้องถูกเว้นวรรคการเมืองไปด้วย ๕ ปี!
ผลงานอันงามหน้าที่รัฐบาลทำผิด สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติอย่างนี้ ถ้าเป็นประเทศอื่น เขา "คว้านท้อง" หนีอายไปแล้วครับ
****************** ผมว่าฉากรัฐบาลฉากนี้ เหมือน โจโฉแตกทัพเรือ มิมีผิดเพี้ยนเลย หนังเข้าฉายช่วงนี้พอดี๊ พอดี เดี๋ยวต้องไปดูซักหน่อยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นาคราช
|
|
« ตอบ #95 เมื่อ: 14-07-2008, 09:38 » |
|
นายกสมัครกล่าวหาว่า ปปช.ไม่ได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์
*************************** ลองอ่านกลอนของท่านจันทร์ดูครับ
พระจันทร์ วันที่ : 13 ก.ค. 51 เวลา : 20:09 พปช.ถวายสัตย์
พิธีกรรมซ้ำซากปากเปล่า ราวกะลิงหลอกเจ้าจัดจ้าน ถวายสัตย์มากมายหมู่มาร แล้วทิ้งสัตย์สาบานหน้าวัง
ถวายสัตย์กระสือมิถือสัตย์ รัฐบาลย่อมวิบัติตามตรัสสั่ง "ต้องมีอันเป็นไป"ไม่อยู่ยัง "พลังประชาชัง"ยิ่งพังครืน!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #96 เมื่อ: 15-07-2008, 21:49 » |
|
ดูสามก๊ก-แล้วย้อนดูขุนทหารไทย! โดย เชี่ยวชวนะ 15 กรกฎาคม 2551 17:40 น. การเมืองไทยกำลังร้อนฉ่าด้วยประเด็นคอขาดบาดตายของชาติบ้านเมือง รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช นอมินีของ ทักษิณ ชินวัตร มหาเศรษฐีคนเดียวที่ทำให้ผู้คนและสถาบันหลักของชาติ แตกแยกกันอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ ชนิดที่ยากต่อการสมานฉันท์ได้อีกต่อไปแล้วด้วยเหตุและผลที่... คนเป็นนายกรัฐมนตรีมีคดีความทุจริตติดตัว แถมมีพฤติกรรมปากสุนัขไม่รับประทาน วันๆ เอาแต่แกว่งปากหาเสี้ยน ด่าคนโน้นทีคนนี้ที ไม่ใส่ใจกับการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ที่กำลังทำความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสให้กับประชาชนอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลนอมินีที่ขี้เหร่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยชุดนี้ เลยถูกพันธมิตรฯ และประชาชนต่อต้านคัดค้านอย่างหนัก ถึงขนาดผู้คนหลายแสนคนเดินขบวนกันอย่างคึกคัก ก่อนจะปักหลักพักค้างกันบนถนนราชดำเนินฯ มากว่า 50 วันแล้ว โถ..ใครในโลกนี้จะทนกับรัฐบาลขี้เหร่ ที่นายกรัฐมนตรีปากไม่เอาถ่าน แถมรัฐมนตรีแต่ละคนก็แสนห่วย..ไร้คุณภาพ รัฐมนตรีบางคนมีพฤติกรรมจาบจ้วงเบื้องสูง และเหิมเกริมเลยเถิดถึงขนาดเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยซ้ำไป ทั้งๆ ที่สื่อมวลชนเปิดโปงเผยแพร่จนรู้กันทั่วประเทศ แต่นายสมัครกลับแอ่นอกออกมาปกป้องรัฐมนตรี ที่มีพฤติกรรมเป็นอันตรายต่อเบื้องสูงหน้าตาเฉย เท่านั้นไม่พอ..นายกรัฐมนตรีผู้มีปากไว้ทำร้ายชาติ ยังดันรู้เห็นเป็นใจให้รัฐมนตรีต่างประเทศ นพดล ปัทมะ ลักลอบไปเที่ยวเซ็นแถลงการณ์ร่วมกัมพูชา -ไทย ต่อหน้ายูเนสโก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 โดยยังไม่ได้ผ่านมติ ครม.และรัฐสภาฯ ทำให้ประเทศชาติเสียอธิปไตย และเสียดินแดนให้กับต่างชาติอีกครั้งหนึ่งจนถูกประชาชนผู้รักชาติทุกสาขาอาชีพ ออกมาต่อต้านคัดค้านขยายวงกว้างออกไปจนทั่วประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีกับพรรคพวกก็หาฟังไม่ กลับนำแถลงการณ์ฯ ขายชาติดังกล่าว ไปผ่านมติ ครม.อย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะใช้สื่อของรัฐปกปิด-บิดเบือน-บิดเบน-เฉไฉ-ฯลฯ กรณีปราสาทพระวิหารอย่างน่าเกลียด โดยตัวนายกรัฐมนตรีสมัครเองได้ออกมาลอยหน้าลอยตาพล่ามว่า รัฐบาลและรัฐมนตรีของตนทำถูกต้องแล้ว การกระทำของรัฐบาลสมัครดังกล่าว ทำให้กัมพูชานำปราสาทพระวิหาร ขึ้นเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวได้สำเร็จ แต่ในที่สุด..ศาลปกครองได้ตัดสินให้คุ้มครอง มิให้แถลงการณ์ร่วมฯ มีผลบังคับใช้ และตุลาการรัฐธรรมนูญก็ตัดสินตามมาว่า แถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวเป็นสนธิสัญญา อันจะต้องให้รัฐสภาเห็นชอบก่อนไปเซ็นแถลงการณ์ร่วมฯ กับทางเขมร.. โอ้ย..นั่นเป็นแค่เศษเสี้ยวความชั่วร้าย ที่รัฐบาลนอมินีสมัครกระทำด้วยมือตนเอง จนถูกเปิดโปงแฉโพย..แถมโดนกระบวนการยุติธรรมตัดสินชี้ขาดว่า การกระนั้นดังกล่าวผิดรู้กันอื้ออึงไปทั่วประเทศแล้วครับ ที่สำคัญ..กองทัพพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันอย่างเหนียวแน่นมากว่า 50 วันบนถนนราชดำเนินฯ ได้กลายเป็นหอกปักคาอกรัฐบาลสมัคร ชนิดที่นายสมัครเองไม่มีหนทางใดจะถอนหอกออกจากอกได้เลย เฮ้อ..คอการเมืองในสภากาแฟมองปุ๊บ..ก็รู้ปั๊บเลยว่า ณ นาทีนี้..รัฐนาวานอมินีสมัครที่โคลงเคลงไปมากลางพายุซัดกระหน่ำกำลังจะอับปางลงในกี่อึดใจหน้าแล้วครับ เขียนมาถึงตรงนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่องหนึ่ง ที่บังเอิญเกี่ยวข้องกับนาวาหรือเรือขึ้นมาในทันทีทันใด ปกติผมกับครอบครัวมักดูหนังในวันหยุด พักนี้ต้องยอมรับตรงๆ ว่า ไม่ได้ดูหนังมาเกือบสามเดือนแล้วเพราะฤทธิ์การเมือง เรื่องไล่รัฐบาลห่วยแตกสมัครนั่นเอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา..ผมเลยขอแวบไปพักกายคลายใจเลี้ยวเข้าโรงหนัง หวังจะเอาหนังเรื่อง Red Cliff หรือ สามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ เป็นที่พึ่งยามเมฆฟ้าอึมครึม ท่านผู้อ่านครับ..หนังเรื่องนี้มีอะไรน่าสนใจมากมาย หากท่านได้ดู..คงต้องดูอย่างตั้งใจหน่อยนะครับ จอห์น วู ผู้กำกับจากแดนมังกร ผู้ให้กำเนิดตำนาน โหด เลว ดี และโด่งดังในฮอลลีวูดกับการกำกับภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible 2 และ Face Off หนังเรื่อง Red Cliff หรือสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในเอเชีย โดยใช้เงินไปถึง 2,800 ล้านบาท เป็นภาพยนตร์ที่ประเทศจีน ยอมให้ปิดเมืองถ่ายภาพยนตร์ยาวนานถึง 2 ปีทีเดียวเชียวนะ Red Cliff หรือ สามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อนำออกฉายต้อนรับกีฬาโอลิมปิกในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ ฝีมือกำกับชั้นพระกาฬของ จอห์น วู ทำให้หนังเรื่องสามก๊กตอนนี้เต็มไปด้วยมุมสวยในเชิงศิลปะภาพที่ปรากฏบนจอสีสันงดงามสมจริง ในขณะที่นักแสดงแต่ละคนก็คัดได้เหมาะสมเหมาะเจาะสมจริงกับบทที่ได้รับครับ จางเฟิ่งอี้ รับบทเป็น โจโฉ, เหลียงเฉา เหว่ย เป็น จิวยี่, ทาเคชิ คาเนชิโร่ เป็นขงเบ้งสุดหล่อ , ฮูจุน เป็น จูล่ง, จ้าวเหว่ย รับบท ซุนฮูหยิน, หลินจื้อหลิง นางเอก นางแบบดังของจีน สวย-ซึ้งในบท เสี่ยวเกี้ยว ฉากในภาพยนตร์ก็ยิ่งใหญ่สุดประทับใจ ชนิดที่ต้องปรบมือให้ทีมงานสร้างสรรค์ของ จอห์น วู ดังๆ ทีเดียวเชียวแหละ โดยเฉพาะผู้กำกับเลือดมังกรผู้นี้ ได้สวมวิญญาณผู้กำกับที่ อัจฉริยะ-ละเอียดอ่อน เหลือเกิน ฉากเรือรบ 2,000 ลำ ถ้าใครเคยดูสงครามเมืองทรอย ก็จะเห็นว่าเทียบชั้นไม่ด้อยกว่ามหากาพย์ของกรีก เพียงแต่หนังสามก๊กตอนนี้สงครามเรือของสองฝ่าย ยังไม่ได้รบกันนะครับ ทว่า..ฉากกองทัพโจโฉสัปยุทธ์กับกองทัพผสมของจิวยี่และขงเบ้ง มันส์..เพราะเป็นทั้งศิลปะในการรบและการแปรขบวนทัพ ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งค่ายกลพราวพราย ตามด้วยฉากพายุเกาทัณฑ์ของกองทัพจิวยี่และขงเบ้ง ระดมยิงใส่ทหารโจโฉเต็มท้องฟ้า..คนและม้าล้มคว่ำคะมำหงายต่อหน้าต่อตา ดูสมจริงเป็นธรรมชาติเหลือเกิน ฉากแม่นางเสี่ยวเกี้ยวผู้เป็นนางเอก ในบทเลิฟซีนกับจิวยี่ผู้สามี...ทำได้อ่อนหวานสวยงาม เร้าใจ แต่ไม่น่าเกลียด! ฉากการเล่นขิมโต้ตอบกันระหว่างจิวยี่กับขงเบ้ง สุดยอด..แห่งเสียงดนตรีอันมีเอกลักษณ์ของชาติจีน ปราชญ์อย่างขงเบ้งและจิวยี่ใช้เสียงขิม และท่วงทำนองเพลงสื่อสารความคิด สะท้อนความในใจถึงอีกฝ่ายหนึ่งได้ โดยไม่ต้องใช้ปากพูดจาต้าอ่วยทางการเมืองกันสักแอะเดียว เสียงขิมและคลื่นดนตรี พลานุภาพแห่งดนตรี..คือ..ภาษาที่ลึกซึ้งยิ่งใหญ่เสียนี่กระไร!!! เหล่าทหารใหญ่แต่ละคนในสามก๊ก ทั้งขุนทหารฝ่ายโจโฉ-ซุนกวน-เล่าปี่นั้น..สุดยอด จิวยี่-กวนอู-เตียวหุย-จูล่ง-ฯลฯ ล้วนเป็นทหารที่มีจิตใจกล้าหาญ และรับผิดชอบในการรบยิ่งนัก ฉากสู้รบของ จอห์น วู นั้น แม้นจะเต็มไปด้วยเลือดกระเซ็นสาดจอ แต่เขาทำได้โดยไม่รู้สึกทารุณจิตใจคนดู ทว่า..ให้ความรู้สึกระทึกราวเราอยู่ในสนามรบแห่งนั้นโดยไม่รู้ตัวครับ เห็นความเป็นผู้นำของแม่ทัพในสามก๊กแต่ละคน ในหนังเรื่อง Red Cliff หรือสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือแล้ว อดที่จะหันมามองผู้นำทหารประเทศของเราในยามนี้.... พอชมความกล้าหาญของขุนทหารในสามก๊กแล้ว อดคิดถึงบรรดาขุนทหารบางคนในบ้านเมืองเราไม่ได้... รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า..ขุนทหารไทยบางคนวันนี้ ไม่ยอมทำหน้าที่หลักของกองทัพ ที่ต้องพิทักษ์ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยชีวิตครับ แต่กลับปล่อยให้พันธมิตรฯ และประชาชน ทั้งผู้หญิง คนชรา เด็ก คนพิการ ทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยการนั่งหลังขดหลังแข็งตากแดดตากฝน ชุมนุมคัดค้านต่อต้านรัฐบาลนอมินีสมัคร ที่มีทักษิณบงการอยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่องมากว่า 50 วันแล้ว ขุนทหารบางคนที่เป็นทหารเสือพระราชาและพระราชินี หายไปไหนกันหมด? บ้างบอกว่าขุนทหารบางคนเอาแต่ตีกอล์ฟ บ้างก็เอาแต่ตามก้นนักการเมืองเลวๆ ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีแห่งความเป็นทหารกล้าของชาติ อีกทั้งมีคำถามมากมายว่า ไฉนไยขุนทหารใหญ่บางคนปล่อยปละละเลย ให้มีการโจมตีทำร้ายสถาบันหลัก ที่ประชาชนรักเคารพเทิดทูนอย่างกว้างขวางในสื่อแทบทุกชนิด แถมชาติไทยต้องเสียอธิปไตยให้กับเขมร เพราะมีคนไทยกลุ่มหนึ่งทั้งที่อยู่ในและอยู่นอกอำนาจรัฐ กระทำตนเป็นเป็นไส้ศึกให้เขมรไงล่ะครับ อืมมม...ประเทศชาติและพระมหากษัตริย์ไทยถูกย่ำยีขนาดนี้ ขุนทหารใหญ่บางคนยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อย่างหน้าตาเฉย เฮ้อ..เวรกรรมประเทศไทยจริงๆ ครับ ดูขุนทหารในหนังสามก๊กแล้ว ครานี้ต้องหันกลับมาดูขุนทหารไทย ยุค 2551 ต้องบอกว่า..ผิดหวังอย่างแรงเลยล่ะ ผมต้องขอให้ขุนทหารใหญ่บางคน รีบไปดูสามก๊ก สไตล์ จอห์น วู เผื่อจะเพิ่มขวัญและความกล้าให้สมองได้บ้าง..อ้อ..ดูโดยด่วนนะคร๊าบบบบ!!! http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000083359&Keyword=%ca%d2%c1%a1%ea%a1 ระยะนี้ ทหารหาญถูกวิพากษ์วิจารณ์กันให้แซ่ด ไม่แน่ชัดว่า บรรดาท่านขุนกำลังปฏิบัติการ "ลับ ลวง พราง" อยู่อีกหรือเปล่าหนอ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #97 เมื่อ: 16-07-2008, 07:14 » |
|
*************************** ลองอ่านกลอนของท่านจันทร์ดูครับ
พระจันทร์ วันที่ : 13 ก.ค. 51 เวลา : 20:09 พปช.ถวายสัตย์
พิธีกรรมซ้ำซากปากเปล่า ราวกะลิงหลอกเจ้าจัดจ้าน ถวายสัตย์มากมายหมู่มาร แล้วทิ้งสัตย์สาบานหน้าวัง
ถวายสัตย์กระสือมิถือสัตย์ รัฐบาลย่อมวิบัติตามตรัสสั่ง "ต้องมีอันเป็นไป"ไม่อยู่ยัง "พลังประชาชัง"ยิ่งพังครืน!
ตอนนี้แกเมาหมัดกว่าเดิม เมื่อเจอคำถาม ๓ ข้อ จากอ.จรัญ และ คำชี้แจงจากอ.วิชา เช้าวันอาทิตย์นี้ คงได้เห็นอาการของคนถูกตีแสกหน้าว่าจะเป็นฉันใดค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #98 เมื่อ: 07-08-2008, 01:07 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2008, 08:22 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
THE THIRD WAY
|
|
« ตอบ #99 เมื่อ: 07-08-2008, 08:32 » |
|
เอาภาษิตจีนมาร่วมแจมครับ *หญิงขี้เกียจกับเตียงที่อบอุ่นย่อมแยกจากกันยาก *ปัจจุบันละเลยเรื่องเล็กน้อย ภายหน้าเสียใจอย่างใหญ่หลวง *คนต้องมีกิริยาสุภาพ ดุจดอกไม้ต้องมีกลิ่นหอม *ไร้สัจจะ ถึงจะมีความสามารถก็ไร้ประโยชน์ *บุคคลเปิดช่องให้โทษะครอบงำ ยังความวิบัติให้แก่ครอบครัว * การมุสาเป็นก้าวแรกเดินเข้าสู่ประตูคุก *โกหกเพียงครั้งเดียว ถูกสงสัยตลอดกาล * อย่าอวดตนเก่งกว่าผู้อื่น โลกนี้ผู้ที่เก่งกว่าตนนั้นมีมากมาย ไม่ได้ตั้งใจว่าใครนะ..ฮึ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
|