++"ความจริงครึ่งเดียว" แบบมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่ชาวไทยทุกคนควรรู้ทัน++

[jerasak]

เมื่อวันก่อน 17 ธันวาคม 2550 คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณมาออกรายการ
"เลือกตั้ง 50 ร่วมกำหนดอนาคตไทย" ทางโทรทัศน์ ช่อง 9 อสมท.
พร้อมกับมือเศรษฐกิจพรรคต่างๆ

------------------------------------------------------------------------------------
ดูคลิปฉบับเ็ต็มได้นะครับ แต่จะยาวมากทั้งหมด 1 ชั่วโมง 21 นาที
http://hiptv.mcot.net/player/hipPlayer.php?id=13513

ถ้าจะ download ไฟล์ก็อยู่ที่ลิงค์นี้ ขนาดไฟล์ประมาณ 19 MB ครับ
mms://202.142.200.132/special/56k/specialD2007-12-17ID-13513.wmv
------------------------------------------------------------------------------------

ปรากฏว่าคุณมิ่งขวัญถูกตั้งคำถามจาก กรณ์ จาติกวณิช มือเศรษฐกิจ
ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า หนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 400% ในช่วง
การบริหารของรัฐบาลไทยรักไทย นำมาซึ่งความสุขที่ยั่งยืนหรือไม่

แล้วคุณมิ่งขวัญก็ควักเอกสารหนี้ครัวเรือน ทั้งตาราง และกราฟออกมา
นำเสนอโต้แย้งว่าการเพิ่มขึ้นของหนี้ในสมัยทักษิณ ไม่เป็นปัญหา

...

ผมฟังตัวเลขแล้วแปลกพิกล ก็เลยลองไปค้นหาว่าเอาข้อมูลมาจากไหน
ปรากฎว่าเป็นข้อมูลปี 2547 ที่ทำในสมัยทักษิณครับ และมีการใช้วิธี
มุดไปมุดมาเปลี่ยนวิธีนำเสนอไปในแต่ละกราฟ

..สุดท้ายแล้วข้อมูลออกมาดูดี ภาวะหนี้ของไทยไม่เป็นปัญหา..

เอกสารที่คุณมิ่งควักออกมา มีการทำสรุปเอาไว้อยู่ที่นี่ครับ

http://poverty.nesdb.go.th/poverty_new/doc/NESDB/wanchat_20060130073545.pdf

และผมสังเกตว่าเอกสารชุดที่ชื่อ wanchat ต่างๆ ที่ค้นเจอ
ล้วนแต่วิเคราะห์ข้อมูลในทางที่ดีทั้งสิ้น แม้แต่กับข้อมูลชุดที่ไม่ดี
บางชุดข้อมูลค้านกับ TDRI เลยก็มี
ไม่ทราบว่าใครทำ และใครเป็นคนสั่งทำเอกสารนะครับ 

[jerasak]

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าคุณมิ่งขวัญนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมราคา saleman มีระดับของค่ายโตโยต้า

มีการเลือกนำเสนอตารางและกราฟ สลับลำดับกับเอกสารต้นฉบับ
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ของการนำเสนอข้อสรุป

มีการใช้เทคนิกเร้าอารมณ์ ชูประเด็น เน้นประเด็น ได้เป็นอย่างดี

..แต่..

ในที่สุดก็เป็นเพียงการเลือกนำเสนอข้อมูล "ความจริงครึ่งเดียว"
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ในการปกปิดข้อผิดพลาด และโปรโมท
ความสำเร็จในการบริหารประเทศ ไม่ต่างกับสมัยรัฐบาลทักษิณ

[jerasak]

คุณมิ่งขวัญเปิดประเด็นโดยนำเสนอกราฟแรก ที่แสดงว่าสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ต่อเดือน
ตลอดเวลาหลายปีไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

..เพื่อลบภาพการเติบโตของหนี้ภาคครัวเรือน..
กลายเป็นว่าจริงๆ แล้วไม่ไ้ด้เพิ่มขึ้นมากมายอย่างที่ทางประชาธิปัตย์บอก 




มิ่งขวัญ : "ถ้าถามว่าจะใช้สิทธิพาดพิงไม๊นะครับ

นิดนึงผมขอโยงไปคุณกรณ์นิดนึงนะครับ
วันนี้ถ้าผมซื้อล็อตเตอรี่ผมถูกรางวัลที่ 1

ทำไมรู้ป่าวฮะ ผมกะแล้วว่าคุณกรณ์ต้องพูดถึงหนี้ครัวเรือน
ขออนุญาตใช้สิทธิพาดพิงตรงนั้นนะฮะ

เอ่อ .. ไม่รู้เป็นไงผมชอบชูอย่างนี้ให้ดูเรื่อยๆ

ท่านดูนะครับ 2537 ถึง 2547 เนี่ย
ตัวเลข สัดส่วนของหนี้ทั้งหมดต่อรายได้ต่อรายเดือนเนี่ยฮะ
ตรงนี้ก็ 10.2 , 9.9 , 9.89 , 10.6
เพราะฉะนั้น average เนี่ยดูใกล้เคียงกันนะครับ

แผ่นนี้ไม่ตื่นเต้นไปดูแผ่น 2 นี่ครับตื่นเต้นมาก"

[jerasak]

จากนั้นคุณมิ่งขวัญข้ามไปนำเสนอ กราฟที่ 3 ของชุดเอกสารก่อน
เพื่อนำเสนอว่า หนี้นอกระบบ ถูกผลักเข้ามาเป็น หนี้ในระบบ

และอธิบาย (นอกเหนือข้อมูลกราฟ) ว่าทำให้หนี้ในระบบเพิ่มขึ้น
ก็เลยทำให้เห็นเหมือนกับว่ายอดหนี้โดยรวมเพิ่มขึ้นมาก

โดยโยงไปอธิบายเปรียบเทียบกับกรณี หวยบนดิน/หวยใต้ดิน

ทั้งที่ความจริงกราฟที่ยกมาเป็นข้อมูลเปอร์เซนต์จาก "จำนวนราย"
ของผู้เป็นหนี้ ... ซึ่งไม่ได้แสดง "จำนวนเงิน" ของการเป็นหนี้
แต่คุณมิ่งขวัญเอามาพูดเป็นเรื่องของจำนวนเงินหน้าตาเฉย 



มิ่งขวัญ : "หนี้มันถูกผลักเข้ามาสู่ระบบ แต่ก่อนกู้ดอกเบี้ยแพงมาก
นอกระบบ แล้วพอผลักเข้ามาในระบบเนี่ย
เพราะฉะนั้น มันก็ดูเหมือนหนี้ในระบบจะสูงขึ้น
มันเหมือน หนี้ที่รับรู้น่ะ เหมือนหวยบนดินหวยใต้ดินน่ะครับ

อันนี้สำคัญนะครับ
แต่ถึงกระนั้น ขนาดว่าสูงก็ยังแค่ 10.6 นะฮะ
ตรงนี้ไม่เท่าไหร่

ผมย้ำนะฮะ
ไม่งั้นชาวบ้านจะเสีย ค่าดอกเบี้ย มหาศาล
อันนี้ หนี้เข้ามาอยู่ในระบบ นะครับ"

[jerasak]

ถัดมาคุณมิ่งขวัญนำเสนอตารางที่แบ่งกลุ่มคนเป็นหนี้ตามระดับความรวย
ออกเป็น 5 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีจำนวนคนเท่ากันคือกลุ่มละ 20%

โดยนำเสนอว่าหนี้ส่วนใหญ่ เป็นการกู้โดยกลุ่มคน 20% ที่รวยที่สุด
คิดเป็นจำนวนเงินถึง 60.4% ในขณะที่กลุ่มคน 20% ที่จนที่สุด
มีการกู้เงินคิดเป็นจำนวนเงินเพียง 5.7% (ตรงนี้แกพูดไม่ค่อยชัด
ตอนแรกผมได้ยินเป็น 57% แต่มาแน่ใจเมื่อเห็นตาราง)
แถมยังเน้นอีกว่า "ยิ่งรวยยิ่งกู้" สมกับเป็นตัวแทนแม้วจริงๆ 

...

..หารู้ไม่ว่าตรงนี้เป็นการแสดงจุดโหว่ของชุดข้อมูลอย่างชัดแจ้ง..
ว่ามีการเอาข้อมูลการกู้เงินของคนรวยมาผสมปนกับการกู้ของคนจน 



มิ่งขวัญ : "แผ่นต่อมา..

อันนี้ผมดูครั้งแรก ผมตกใจมาก
ถามบอกว่า เอ๊ะ ใครเป็นหนี้มากที่สุด ถ้าใน 100%
ท่านดูนะครับ อัตราเปอร์เซนต์
คนจนที่สุดเป็นหนี้อยู่ 5.7% ฮะ
คนรวยที่สุดเนี่ยไล่ขึ้นมาตามลำดับ
คนรวยที่สุดเป็นหนี้อยู่ 60.4%

ยิ่งรวยยิ่งกู้"

[jerasak]

ถัดมาคุณมิ่งขวัญข้ามไปเอากราฟแผ่นที่ 5 ของชุดข้อมูลมานำเสนอ

ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลหนี้ครัวเรือนของไทยกับประเทศอื่น
แล้วสรุปว่าไทยยังเป็นหนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว

..แต่ไม่ได้บอกความจริงว่าที่เขาเป็นหนี้ได้มากเพราะเขาเจริญแล้ว..

แถมคุณมิ่งขวัญยังนำเสนอข้อมูล ต่อเนื่องกับสัดส่วนของจำนวนเงินกู้
ในกลุ่มคนรวยคนจน ที่แม้จะมีหน่วยเป็นเปอร์เซนต์เหมือนกัน

แต่ในกราฟแผ่นนี้มันเป็นข้อมูล เปอร์เซนต์ยอดหนี้ เทียบกับ GDP

ไม่ทราบว่านำเสนอต่อกับ เปอร์เซนต์หนี้ตามฐานะกลุ่มลูกหนี้ ได้ยังไง
เพราะพูดต่อกันไปจนคนฟ้งไม่รู้ว่ามันเป็น "เปอร์เซนต์" คนละอย่างกัน 



มิ่งขวัญ : "เรื่องนี้สำคัญนะครับ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเนี่ย
เมื่อเทียบกับนานาอารยประเทศ
ท่านไปดูระบบเศรษฐกิจนะครับ

ท่านไปถามดีๆ ว่า
เอ๊ะ แล้วเค้าเป็นหนี้กันเท่าไหร่

ประเภทเลยเกินกว่า 70% นะครับ
ผมเอ่ยชื่อให้ฟังนะฮะ เกาหลี สหรัฐอเมริกา
อังกฤษ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เกิน 70 กว่า
โดยเฉพาะสิงคโปร์ 80 50 กว่า

เมืองไทยเป็นหนี้อยู่ 27.2%"

[ลูกหินฮะ๛]

++"ความจริงครึ่งเดียว" แบบมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่ชาวไทยทุกคนควรรู้ทัน++ 

 :
ครึ่งเดียว.ที่.... เป็นผู้ชาย

[jerasak]

และสุดท้ายคุณมิ่งขวัญ ก็ไปเอากราฟลำดับที่ 2 ของชุดเอกสาร
มานำเสนอเป็นข้อสรุปของภาวะหนี้ครัวเรือนทั้งหมด

ว่าความจริงแล้วเป็นการกู้เพื่อซื้อบ้าน ซื้ออสังหาริมทรัพย์
ซึ่งถือเป็นการลงทุนกับชีวิตระยะยาว (ก็เลยไม่เป็นปัญหา)

ทั้งที่ความจริงที่นำเสนอมาทั้งหมดไม่สามารถสรุปแบบนี้ได้

..เพราะ..

หนี้ส่วนใหญ่ในชุดข้อมูลเป็นหนี้ของกลุ่มคนรวย
หนี้ส่วนใหญ่ในชุดข้อมูลเป็นหนี้ซื้อบ้านซื้อที่ดิน .. ซึ่งเป็นหนี้คนรวย

แต่จำนวนคนเป็นหนี้ส่วนใหญ่คือ "คนจน"

หนี้นอกระบบแทบทั้งหมดก็เป็นหนี้ของคนจน
แม้จะมีจำนวนรายมากแต่คิดเป็นจำนวนเงินน้อย

ดังนั้นเมื่อนำเสนอหนี้ในรูป "จำนวนราย" ของลูกหนี้
จะทำให้ดูเหมือนหนี้นอกระบบถูกผลักเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนมาก
แต่ความเป็นจริงแค่จำนวนรายมากแต่คิดเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย

..การเปลี่ยนจากหนี้นอกระบบเป็นหนี้ในระบบของข้อมูลชุดนี้
แล้วสรุปว่าที่จำนวนหนี้รวมเพิ่มขึ้นเป็นเพราะหนี้นอกระบบ
ถูกผลักเข้ามาเป็นหนี้ในระบบ จึงเป็นการสรุปที่ไ่ม่ถูกต้อง..

และไม่สามารถสรุปได้เลยว่า หนี้ของคนจนไม่มีปัญหา 



มิ่งขวัญ : "สิ่งที่สำคัญที่สุดขมวดปมตรงนี้ฮะ
วันนี้เรายังเป็นหนี้ครัวเรือน
เมื่อเทียบหนี้อะไรก็แล้วแต่ยังถือว่าน้อยอยู่นะครับ

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเขาเป็นหนี้ ต้องไปดูว่าเป็นหนี้อะไร

น้ำหนักอยู่ที่หนี้เพื่อ ซื้อบ้าน ซื้ออสังหาริมทรัพย์
อันนี้เป็นการลงทุนกับชีวิตและระยะยาว

อันนี้สำคัญ อันนี้ได้อธิบายแล้วนะครับ ได้ตอบแล้ว
จะได้หายเคลียร์ไปว่าตกลงเป็นหนี้ยังไง"

[jerasak]

เมื่อคุณมิ่งขวัญนำเสนอกราฟแบบพิศดารนี้เสร็จ
..ก็มาถึงรอบของ กรณ์ จาติกวณิช.. 

---------------------------------------------------------------

กรณ์ : "คุณมิ่งขวัญ ขออนุญาตนะครับ นิดเดียวครับ

เมื่อสักครู่คุณมิ่งขวัญบอกว่า หนี้ครัวเรือนเนี่ย
ส่วนใหญ่ มันไปอยู่ที่คนรวยนะครับ
ก็คือ 60% ของหนี้อยู่ที่คนรวย
20% โดยประมาณนะครับ อยู่ที่คนจน

(20% ตรงนี้กรณ์อาจฟังมิ่งขวัญไม่ชัด หรือจำข้อมูลมาก่อนว่าคน 60% ที่จนที่สุด
 เป็นหนี้คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 20% อันนี้ไ่ม่ทราบนะครับ - jerasak)

แต่ประเด็น ที่สำคัญนะครับ มันไม่ใช่ว่าอยู่ที่ใคร
มันอยู่ที่ หนี้ที่อยู่ที่คนนั้นเนี่ย
เทียบกับรายได้ของเค้าเนี่ย
มันมากน้อยแค่ไหน

คนรวยเนี่ย กู้ได้ครับ กู้ได้เยอะด้วย
เพราะว่า เค้ามีทรัพย์สินเงินทอง
เพียงพอที่จะจ่าย เงินต้น จ่ายดอกเบี้ยได้

แต่คนจน กู้ในระดับเดียวกันไม่ได้
เพราะฉะนั้นวิธีที่จะเปรียบเทียบที่เหมาะสมเนี่ยครับ
ก็คือเปรียบเทียบกับรายได้

ซึ่งถ้าดูในแง่นี้เนี่ย คนที่รับภาระ ผู้ที่รับภาระหนักที่สุด
ในส่วนของหนี้ครัวเรือน หนี้บัตรเครดิต
ทุกประเภทของหนี้ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา
คือคนจนครับไม่ใช่คนรวย ก็ขอเรียนไว้แค่นั้น"

[jerasak]

สรุปว่าคุณมิ่งขวัญ ดั้นเมฆนำเสนอกราฟสลับไปมาเป็นอย่างดี
สมกับที่เคยเป็น saleman มืออาชีพแนวหน้าของโตโยต้า

แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถ กลบจุดโหว่ของข้อมูลชุดนี้ได้สำเร็จ

..ดังนั้นถ้าเอากราฟชุดนี้มาวางถกกันแบบชัดๆ..

โต้กับนักการเงินการธนาคารอย่าง กรณ์ จาติกวณิช
มือพีอาร์อย่างมิ่งขวัญ..ตายคาเวทีแน่นอน 

[drop]

พวกคนรวย นักธุรกิจ ก็เป็นหนี้กันทั้งนั้น เพราะไม่มีใครเอาเงินตัวเองมำทำะุรกิจ แต่เอาหลักทรพย์ ไปค้ำประกันเงินกู้มาทำธุรกิจ
แล้วเอาผลกำไร จ่ายคืนเงินกู้พร้อมดอก....ก็เงินที่ ปชช  นั่นแหละ... ราคาผู้บริโภค นะ บวกดอกเบี้ยของเงินกู้ไว้แล้ว

ก็คือ คนรวย กู้เงินมาทำธุรกิจ จึงไม่มีปัญหา ยกเว้น ธุรกิจ เจ๊ง ก็หาทางใช้หนี้ไป

แต่หนี้ครัวเรือน ที่ส่วนใหญ่ เป็นมนุษย์เงินเดือน หาเช้ากินค่ำ
ที่คิดว่าจะเอาเงินเดือนแต่ละเดือนมาใช้หนี้ บัตร...  เอาเงินบัตรหนึ่ง ไปโปะอีกบัตรหนึ่ง...แถมดอกเบี้ย ก็มหาโหดอีก
เป้น ดินพอกหางหมู....

คุณกรณ์น่าจะเอาตารางหนี้แต่ละประเภท เช่น หนี้บัตร  หนี้กู้บ้าน หนี้ซื้อรถยนต์ มาพิจารณา เปรียบเทียบ
คนรายได้เท่าไหร่ เป็นหนี้เท่าไหร่...

 

[THE THIRD WAY]

ขอบคุณครับ

[Puggi]

เจ๊ มิ่ง เค้าโชว์กึ๋น ด้าน เศรษฐกิจซะโดน ลมเปลี่ยนทิศ ณ ไทยรัฐ กระซวก ไปทีนึง



นักการตลาด ยังไงก็เก่งแต่ขายของโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้นน่ะครับ

ว่าแต่หาก ปชป ได้เป็นรัฐบาล ไม่รุ้กรณ์ กับ กอบศักดิ์ ใครจะนั่งคลัง คงงัดกันในพรรคก่อนแน่

[Cherub Rock]

คนกู้หนี้มาทำธุรกิจ กับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต
ผมว่ามันคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง

เคยดูรายการหลุมดำของพวกที่เป็นหนี้ประเภทนี้แล้วรันทดโคตรๆ



ปล.ผมลองเสิร์ชดูเดี๋ยวนี้มีชมรมลูกหนี้บัตรเครดิตกันแล้ว
เว็บไซต์เค้าคึกคักมาก น่าคิดว่าสมาชิกน่าจะมีไม่ใช่น้อยๆ
http://www.consumerthai.org/debt/about_us.shtml

[jerasak]

เจ๊ มิ่ง เค้าโชว์กึ๋น ด้าน เศรษฐกิจซะโดน ลมเปลี่ยนทิศ ณ ไทยรัฐ กระซวก ไปทีนึง

นักการตลาด ยังไงก็เก่งแต่ขายของโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้นน่ะครับ

ว่าแต่หาก ปชป ได้เป็นรัฐบาล ไม่รุ้กรณ์ กับ กอบศักดิ์ ใครจะนั่งคลัง คงงัดกันในพรรคก่อนแน่

ข่าวช่วงก่อนนี้ รมต.คลัง มีชื่อของหม่อมเต่านะครับ
ซึ่งด้วยความรู้ ประสบการณ์ คงไม่มีใครคัดค้าน

ลูกชายหม่อมเต่าก็ลง สส. ในคราวนี้ด้วย
ถ้าหม่อมเต่ามานั่งกระทรวงการคลังจริงๆ
มล.อภิมงคลคงได้ช่วยงานกระทรวงการคลัง

---

สำหรับคุณกอร์ปศักดิ์ เคย นั่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์
ถ้าคราวนี้จะขยับขึ้นเป็น รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์
ก็น่าจะโอเคนะครับ

---

สำหรับคุณกรณ์ อาจไปเป็น รัฐมนตรีช่วยคลัง ก่อน
เพราะยังไม่เคยนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อนเลย

---

แต่จัดตั้งรัฐบาลจริงจะเป็นยังไงคงยังฟันธงไม่ได้ครับ 

[chaturant]

ขอบคุณครับ ได้ความรู้อีกด้าน แต่ยังไงก็ต้อง ปชป. ครับ

[KUKKUK]

กระจ่างครับ   

จขคห  มีข้อมูล รายได้ของคนจน ที่ผ่านมาหลังใช้ นโยบาย ประชานิยม ว่าสัดส่วน หนี้ที่เพิ่ม ขึ้น ต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างไร ครับ

เน้นเฉพาะคนจนคนรากหญ้าครับ

เพราะคนชั้นกลาง กับนักธุรกิจ เค้าคงมีความสามารถเพียงพอที่จะบริหาร หนี้สิน และการลงทุนได้ แต่ชาวบ้านน่าเป็นห่วง

ชอบอ้างกันจังว่า มีหนี้เพิ่ม ให้ไปดรายได้ที่เพิ่ม ด้วย แล้วคนจน คนรากหญ้าจริง รายได้เค้าเพิ่มจริงเท่าไหร่กัน.....

[mebeam]

จะเข้ามาคุยกับคุณจีตั้งแต่ กระทู้สร้างหนี้ครัวเรือนที่แล้ว   แต่ยังไม่มีเวลา
เห็นกระทู้แก้ คุณมิ่งขวัญ  โดยคุณจี ก็เห็นโอกาสดี
 
  อยากจะบอก คุณจีว่า ผมมีความเห็นเหมือนคุณมิ่งขวัญเปี๊ยบ ก่อนที่จะรู้ว่าคุณมิ่งขวัญคิดอย่างไรเสียอีก

   ความจริงครึ่งเดียวควรเป็นกระทู้ที่แล้วตะหากล่ะครับ ที่ว่า

“ในช่วงปี 45-49 รัฐบาลทักษิณมีการสร้างหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 40 จากจำนวน
ตัวเลข 82,485 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มเป็น 116,585 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งถือเป็นอัตราสูงมากที่สุด
เป็นประวัติการณ์...
 
  ทำไมไปอ้างจำนวน เงินซะเด่น 

ลองคิดดู
 
  ถ้าจะซื้อบ้าน 1หลัง ปี 40- 43  จะเป็นหนี้เท่าไหร่  ถ้าซื้อ ปี 45-49 จะเป็นหนี้เท่าไหร่  ( แล้วช่วงไหนมีคนซื้อบ้านมากกว่ากัน  )
  ถ้าจะซื้อรถมอเตอร์ไซด์ หรือรถยนต์ ปี 40-43  กับ ซื้อปี 45 -49  ใครจะสร้างหนี้สูงกว่ากัน
  ถ้าเป็นเรือ่งอุปโคภบริโภค ก็ขอยกเรื่องน้ำมัน มันแพงขึ้นเท่าไหร่
 

  ถาม แล้วมันสมเหตุสมผล มั๊ยที่ยกเอายอดหนี้อย่างเดียว มาโชว์ ว่าคนไทยเป็นหนี้กันยอดสุงปรี๊ด
     
 แต่มีบางรายงาน เพิ่มรายได้ต่อเดือนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการเพิ่มของหนี้ครัวเรือนด้วย แต่เข้าใจยากครับ

[mebeam]

คุณมิ่งขวัญเปิดประเด็นโดยนำเสนอกราฟแรก ที่แสดงว่าสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ต่อเดือน
ตลอดเวลาหลายปีไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

..เพื่อลบภาพการเติบโตของหนี้ภาคครัวเรือน..
กลายเป็นว่าจริงๆ แล้วไม่ไ้ด้เพิ่มขึ้นมากมายอย่างที่ทางประชาธิปัตย์บอก 




ครับ ต้องข้อมูลนี้ มันแสดงให้เห็นว่าหนี้ ที่สูงขึ้น รายได้เขาก็ได้เพิ่มขึ้นด้วย  และเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นไม่มาก

จะไปเอาแต่กราฟ ยอดเงินเป็นหนี้ที่สูงขึ้น เป็นกราฟ ที่คุณจีทำไว้ในกระทู้ทีแล้วไม่ได้

ไหนคุณจีลองแย้งกราฟนี้สิครับว่ามัน แสดงข้อมูลตรงไหนไม่ตรงประเด็น

ภายภาคหน้า คุณจีได้ เห็นแน่ ที่แม่ค้าขายข้าวแกง เป็นหนี้ 120,000  เพียงซื้อมอเตอร์ไซด์คันเดียวไว้ใช้ 

[jerasak]

คุณ mebeam ครับ

ผมว่าผมชี้ประเด็นไว้อย่างชัดเจนแล้วนะครับ

ว่าข้อมูลชุดที่คุณมิ่งขวัญเอามาโชว์เป็นการ
เอาข้อมูลการกู้เงินของคนรวย กับของคนจน
มายำรวมกันครับ

ดังนั้นที่เห็นว่าหนี้สูงขึ้น รายได้ก็เพิ่มขึ้นด้วย
ไม่ได้หมายความว่าคนรวยกับคนจนมีรายได้
เพิ่มขึ้นในอัตราที่เท่ากันนะครับ

ข้อมูลของคุณมิ่งขวัญเป็นการซุกปัญหาคนจน
โดยเอาไปละลายรวมกับหนี้ของคนรวยครับ 

[jerasak]

เอาข้อมูลจากกระทู้เก่าแก่ของผมมาให้ดูก็แล้วกัน 

=="ความจริงครึ่งเดียว" แบบรัฐบาลทักษิณ ที่ชาวไทยทุกคนควรทราบ ตอนที่ 3==
http://forum.serithai.net/index.php?topic=10011.0

[jerasak]

[jerasak]

[jerasak]

[jerasak]

[jerasak]

[jerasak]

สมาชิกเก่าๆ ที่นี่ส่วนใหญ่จะเคยผ่านตากระทู้ "ความจริงครึ่งเดียวฯ" มาแล้ว

ที่เอามาลงในกระทู้นี้ซ้ำก็สำหรับคุณ mebeam และสมาชิกใหม่ๆ ครับ

---

ที่คุณ mebeam บอกว่า ..

"อยากจะบอก คุณจีว่า ผมมีความเห็นเหมือนคุณมิ่งขวัญเปี๊ยบ
 ก่อนที่จะรู้ว่าคุณมิ่งขวัญคิดอย่างไรเสียอีก"

ผมอยากจะบอกคุณ mebeam ว่า ..

"ความจริงคุณมิ่งขวัญแกไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ
 แกไปเอาข้อมูลที่คนอื่นทำเอาไว้เมื่อ 2-3 ปีก่อน
 เพียงแค่ paper เดียว เอามานำเสนอเท่านั้นเอง"

"ถ้าคุณ mebeam คิดประเด็น ตามที่คุณมิ่งขวัญ
 นำเสนอวันก่อน ได้จากตัวของคุณ mebeam เอง
 คุณ mebeam ใช้สมองมากกว่าคุณมิ่งขวัญเสียอีก" 

[Suraphan07]

ขอบพระคุณคุณ jerasak(อีกครั้งหนึ่ง) สำหรับการนำเสนอ ข้อมูล-ความจริง...
จะมีผู้ที่ฟัง"เจ้มิ่ง" แล้วนำมาวิเคราะห์ จับโกหกได้จริงๆสักกี่คน

คงต้องเหนื่อยกันอีกแน่ๆ ถ้าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาล...
ชาวบ้าน(ที่ไม่รู้เท่าทัน) คงจะเพลิดเพลินกับการ "ยืมเงินอนาคตมาใช้ " จนโงหัวไม่ขึ้น...

[mebeam]

ขอบพระคุณคุณ jerasak(อีกครั้งหนึ่ง) สำหรับการนำเสนอ ข้อมูล-ความจริง...
จะมีผู้ที่ฟัง"เจ้มิ่ง" แล้วนำมาวิเคราะห์ จับโกหกได้จริงๆสักกี่คน

คงต้องเหนื่อยกันอีกแน่ๆ ถ้าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาล...
ชาวบ้าน(ที่ไม่รู้เท่าทัน) คงจะเพลิดเพลินกับการ "ยืมเงินอนาคตมาใช้ " จนโงหัวไม่ขึ้น...

ตอนนี้ผมได้ยิน ว่าถ้า ปชป เข้ามา จะทำเรื่องกู้  มาทำนโยบายนะครับ
ได้ยินมาเต็ม 2 รูหู หลายครั้งเลย ว่า เพดานหนี้สาธารณะจาก รัฐบาลที่แล้วๆ
ยังเหลืออีกเยอะ ประเทศเรายังกู้ได้อีกบานครับ แล้วคุณ  Suraphan07 เห็นว่าไงครับ

[\(^_^)/]

ที่บอร์ด ประชาไท ลิ่วล้อเหลี่ยมฟัง เจ้ มิ่ง ยังไม่ทันจบ ต่าง ชู
เจ้ มิ่ง นั่ง "ขุนคลัง" เลยครับ แถมยกให้เป็นผู้มากอบกู้ เศรษฐกิจ ของชาติอีก...



คุณ "จี" ขยัน จัง

[drop]

ชัดเจนจริง ๆ  คุณ จี   

[Suraphan07]

ตอนนี้ผมได้ยิน ว่าถ้า ปชป เข้ามา จะทำเรื่องกู้  มาทำนโยบายนะครับ
ได้ยินมาเต็ม 2 รูหู หลายครั้งเลย ว่า เพดานหนี้สาธารณะจาก รัฐบาลที่แล้วๆ
ยังเหลืออีกเยอะ ประเทศเรายังกู้ได้อีกบานครับ แล้วคุณ  Suraphan07 เห็นว่าไงครับ

เฮ้อ ! ยังตีประเด็นของกระทู้ไม่แตกอีกหรือเนี่ยะ...

เรื่องของเรื่องคือ ไอ้พรรค ที่เอามาร์เก็ตติ้งนำการบริหาร มักจะ ...
"มั่วข้อมูล ตัวเลข-จับแพะ ชนแกะ" แหกตาชาวบ้านให้เชื่อไปวันๆ...

[Puggi]

ตอนนี้ผมได้ยิน ว่าถ้า ปชป เข้ามา จะทำเรื่องกู้  มาทำนโยบายนะครับ
ได้ยินมาเต็ม 2 รูหู หลายครั้งเลย ว่า เพดานหนี้สาธารณะจาก รัฐบาลที่แล้วๆ
ยังเหลืออีกเยอะ ประเทศเรายังกู้ได้อีกบานครับ แล้วคุณ  Suraphan07 เห็นว่าไงครับ

ขอแจม หน่อยครับ
 ก่อนอื่น  ผมเห็นด้วยกับการเป็นหนี้  หากว่า หนี้ นั้น นำมาซึ่งการทำให้เพิ่มรายได้    
 แต่สมัย เหลี่ยม  ต้องบอกว่า การเป็นหนี้นั้น หนี้ที่ก่อ นำมาซึ่งรายได้หรือเปล่า  หากดู ข้อมูล(ต้องรบกวนคุณจี)  
สมัย เหลี่ยม จีดีพี สุงเพราะ กระตุ้นการบริโภคในประเทศ เป็นหลักซึ่งไม่ยั่งยืน (แต่โดยสส่วนตัวก็ถูกต้องในตอนน้น)

 คราวนี้ มาต่อ เรื่อง ปชป จะกู้  ผมก็เห็นด้วย เพราะว่าจากที่ได้ฟัง การกู้เค้า กู้มาเพื่อลงทุน อาทิ รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่  ฯลฯ ซึ่ง ก็คือ การสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ลดต้นทุนในอนาคต  

 มาดูว่าสมัย เหลี่ยม น่ะ งบ น่ะอยู่ในส่วนลงทุน หรือว่าส่วนประชานิยมสนับสนุนการเป็นหนี้  มากกว่ากัน  พวก เหลี่ยมนี่พูดเอาดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่นตลอด
  ตาสี ตาสา หากว่า ไม่สังเกตุ ก็เฮตามอย่างเดียว แต่หากว่ารู้เรื่อง จะขำ กลิ้ง  ผมฟัง เจ๊มิ่ง พูดเรื่องเศรษฐกิจ แล้ว ผมขำ มาก เพ้อฝันจับต้องไม่ได้เลย

[jerasak]

ตอนนี้ผมได้ยิน ว่าถ้า ปชป เข้ามา จะทำเรื่องกู้  มาทำนโยบายนะครับ
ได้ยินมาเต็ม 2 รูหู หลายครั้งเลย ว่า เพดานหนี้สาธารณะจาก รัฐบาลที่แล้วๆ
ยังเหลืออีกเยอะ ประเทศเรายังกู้ได้อีกบานครับ แล้วคุณ  Suraphan07 เห็นว่าไงครับ

คุณ mebeam ครับ

ที่ว่า ปชป. จะกู้นั้นมันเป็นส่วนของหนี้สาธารณะ เป็นคนละเรื่องกับหนี้ครัวเรือนนะครับ
การที่ภาครัฐกู้เงินมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะทำให้ประเทศมีศักยภาพ
ทางการแข่งขันเพิ่มขึ้น เป็นการแก้ปัญหาให้ประเทศนะครับ ไม่ไช่การก่อปัญหา

อย่างเช่นที่ ปชป. บอกว่าจะกู้มาสร้างรถไฟรางคู่ ก็จะทำให้ค่าขนส่งโดยรวมลดลง
ซึ่งเป็นเรื่องที่ประเทศไทยมีปัญหามากที่สุด เพราะค่าขนส่งเราแพงติดอันดับโลก
ทำให้สินค้าของเราแพงทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ และสินค้านำเข้าส่งออก

ถ้าสร้างรถไฟรางคู่ คนไทยก็จะได้ใช้ของถูก คนส่งออก/นำเข้าก็จะมีกำไรมากขึ้น
แม้แต่คนทั่วไปก็จะเดินทางได้ด้วยราคาถูก ทั้งหมดจะทำให้รัฐเก็บภาษีได้มากขึ้น
ในขณะที่สามารถลดอัตราภาษีลง

...

ผลพลอยได้อื่นๆ ยังมีเช่นเป็นการกระจายความเจริญ ทำให้ไม่จำเป็นต้องกระจุกตัว
อยู่แต่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่เป็นการใช้พื้นที่ของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะที่ผ่านมาเราใช้พื้นที่ประเทศจริงๆ เพียงจุดนิดเดียวเฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น

ที่สำคัญอีกอย่างคือการสร้างรถไฟรางคู่ จะทำให้ที่ดินตลอดแนวรางรถไฟราคาสูงขึ้น
ซึ่งผมคงไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ แต่เชื่อว่ามากกว่าค่าก่อสร้างทางรถไฟแน่นอน
จุดนี้จะทำให้ประชาชนมหาศาลเกิดความมั่งคั่งขึ้นในทันทีจากที่ดินซึ่งเดิมไม่มีราคา

..และผมเชื่อมั่นว่ายังมีข้อดีอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นจากโครงการแต่ผมยังนึกไม่ออกอีกมาก..
การกู้เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ครับ 

[Cherub Rock]

ขอบพระคุณคุณ jerasak(อีกครั้งหนึ่ง) สำหรับการนำเสนอ ข้อมูล-ความจริง...
จะมีผู้ที่ฟัง"เจ้มิ่ง" แล้วนำมาวิเคราะห์ จับโกหกได้จริงๆสักกี่คน

คงต้องเหนื่อยกันอีกแน่ๆ ถ้าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาล...
ชาวบ้าน(ที่ไม่รู้เท่าทัน) คงจะเพลิดเพลินกับการ "ยืมเงินอนาคตมาใช้ " จนโงหัวไม่ขึ้น...

ตอนนี้ผมได้ยิน ว่าถ้า ปชป เข้ามา จะทำเรื่องกู้  มาทำนโยบายนะครับ
ได้ยินมาเต็ม 2 รูหู หลายครั้งเลย ว่า เพดานหนี้สาธารณะจาก รัฐบาลที่แล้วๆ
ยังเหลืออีกเยอะ ประเทศเรายังกู้ได้อีกบานครับ แล้วคุณ  Suraphan07 เห็นว่าไงครับ

กู้มาใช้
กับกู้มาลงทุน

มันไม่เหมือนกันนะ


แล้วต้นเรื่องมันอยู่ตรงป้ายหาเสียงที่โฆษณาอยู่ในรูปข้างล่างมันกำลังพูดถึงหนี้ของครอบครัว ไม่ใช่หนี้สาธารณะ
จะไหลไปถึงไหน (อิอิ รูปนี้ถ่ายมาทีเดียวใช้คุ้มจริงๆ)

[jerasak]

ผมว่าป่านนี้สมาชิกพรรคคงอยากเล่นงานคนออกไอเดียทำป้ายเจ้าปัญหา
เรื่องอื่นมีจะเสนอเยอะแยะ กลับเอาเรื่องที่พันคอตัวเองมาเล่น

โชคดีแค่ไหนที่วันก่อนทางช่อง 9 อสมท. ไม่ใช่การดีเบท 2 พรรค
ไม่งั้นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พปช. มีหวังตายคาเวทีแน่ๆ

..ตอนนี้คงหนาวๆ ร้อนๆ กันทั้งประเทศ ไม่รู้จะโดนเปิดโปงที่ไหนเมื่อไหร่..
ปลุกผีสะกิดแผลตัวเองก็เป็น ทำอะไรพิลึกจริงๆ พรรคนี้ 

----------------------------------------------------------------------------------------

ปล. ความจริงก่อนหน้านี้ Nation Channel เคยเชิญ มิ่งขวัญ ดีเบทกับ กรณ์
     แต่มิ่งขวัญถอดใจไม่รับคำเชิญไปหนหนึ่งแล้ว.. จนมาเจอกันคราวนี้ครับ

[soco]

'ปชป.'งัดป้ายหาเสียงโต้'พปช.' บิดเบือนนโยบายศก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.  นายกรณ์  จาติกวนิช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำป้ายหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีข้อความ 'เลือกพรรคผิด ซ้ำเติมประชาชน รัฐบาลไทยรักไทย หนี้บัตรเครดิตท้วมหัว ถ้วนหน้า เลือกประชาธิปัตย์ แก้วิกฤตชาติ' มาติดคู่กับป้ายของพรรคพลังประชาชนที่ระบุข้อความว่า 'เลือกผิดเพิ่มหนี้ให้ครอบครัว เลือกถูกเพิ่มเงินในกระเป๋า พรรคพลังประชาชนถนัดสร้างรายได้'  บริเวณป้ายรถประจำทางไปรษณีย์ สามเสน

ทั้งนี้ นายกรณ์ กล่าวว่า การที่พรรคพลังประชาชน ติดป้ายหาเสียงดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอ้างว่า เลือกพรรคผิดเป็นการเพิ่มหนี้ให้ครอบครัว เป็นการพยายามสื่อความหมายว่า ถ้าไม่เลือกพรรคพลังประชาชนหนี้ในครอบครัวก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงทั้งหมด

นายกรณ์ ยังได้ชี้ให้เห็นว่า การบริหารบ้านเมืองโดยพรรคไทยรักไทยในอดีตนั้น ทำให้หนี้ครัวเรือนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยในช่วงปี 2544-2548  หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น  40 กว่าเปอร์เซ็นต์  และที่น่าตกใจคือ หนี้บัตรเครดิต ในปี 2544-2549 ขยายเพิ่มขึ้น 430 เปอร์เซ็นต์   ซึ่งทำให้เห็นว่า การที่พรรคพลังประชาชนโฆษณาชวนเชื่อว่าพรรคอื่นๆ เพิ่มหนี้ให้ประชาชน เป็นการนำเสนอข้อมูลที่ไม่รับผิดชอบนโยบายของตัวเองในอดีต   

'คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ประธานคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ระบุว่า สาเหตุที่หนี้นอกระบบเพิ่มมากขึ้นเพราะการพยายามโอนหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ  ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หากดูข้อมูลจากศูนย์แก้ปัญหาหนี้ของกระทรวงการคลัง ก็จะพบว่ามีประชาชนที่ลงทะเบียนคนจนจำนวน 1.7 ล้านคน  และมีมูลค่าหนี้กว่าทั้งหมด 130,000 ล้านบาท   โดยมีการปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ ให้มาอยู่ในระบบเพียง 6 พันล้านบาทเท่านั้น และเมื่อเปรียบเทียบกัน ก็จะพบว่าหนี้นอกระบบก็ยังคงสภาพเป็นหนี้นอกระบบอยู่เช่นเดิม  ดังนั้นการที่คุณมิ่งขวัญพยายามที่จะแก้ตัวว่า หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเป็นการโอนหนี้นอกระบบมาสู่ในระบบนั้น เป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ขาดความรับผิดชอบ ผมจึงอยากเรียกร้องให้ยุติการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต' นายกรณ์ กล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=14158&catid=1

[jerasak]

โดนไปเต็มๆ แบบทันควัน .. 

คุณมิ่งขวัญมีเวลาพักหายใจยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงเลย
เหลือเวลาอีกแค่ 4 วันจะพยายามแก้ตัวต่อให้โดนซ้ำ
หรือจะทำเฉยๆ เผื่อคนจะลืมดี
ป่านนี้คนคิดทำป้าย มีชะตากรรมอย่างไรแล้วก็ไ่ม่รู้ 

[ริวเซย์]

ขอบคุณคุณจีมากครับที่ยกข้อมูลประกอบแผนภูมิทำให้มองภาพได้ชัดเจนมากขึ้น เด็ดมากครับ

กระทู้แบบนี้พวกเกรียนปั่นกระทู้ นั่งเทียน ดูโพย ไม่กล้าเข้ามาโต้แน่นอน ข้อมูลแน่นๆแบบนี้

[Puggi]

ข่าวช่วงก่อนนี้ รมต.คลัง มีชื่อของหม่อมเต่านะครับ
ซึ่งด้วยความรู้ ประสบการณ์ คงไม่มีใครคัดค้าน

ลูกชายหม่อมเต่าก็ลง สส. ในคราวนี้ด้วย
ถ้าหม่อมเต่ามานั่งกระทรวงการคลังจริงๆ
มล.อภิมงคลคงได้ช่วยงานกระทรวงการคลัง

---

สำหรับคุณกอร์ปศักดิ์ เคย นั่งรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์
ถ้าคราวนี้จะขยับขึ้นเป็น รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์
ก็น่าจะโอเคนะครับ

---

สำหรับคุณกรณ์ อาจไปเป็น รัฐมนตรีช่วยคลัง ก่อน
เพราะยังไม่เคยนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อนเลย

---

แต่จัดตั้งรัฐบาลจริงจะเป็นยังไงคงยังฟันธงไม่ได้ครับ 

ลูกหม่อมเต่า คงไม่ได้เป็น รมต หรอกครับ อายุ น่าจะยังไม่ถึง30นะ จำไม่ผิดเค้าเด็กกว่าผมปีนึง (อุ้ย เปิดเผยอายุ) เป็นสส เขตผม เขตนี้ เอาแนวทาง อาจาร์ยมารุต มาหาเสียง ดีครับ

  แต่ผมว่า หม่อมเต่า คงไม่ได้เข้ามานะครับ  พรรคนี้  คนนอก  ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หรอกครับ การเมืองภายในก็ยุ่งๆ ดีที่ว่า กัดกัน ในพรรค ไม่เปิดเผยออกสู่สาธารณะเท่าไหร่

 ส่วนตัว อยากให้ กรณ์ เป็น คลัง กอบศักดิ์ เป็นช่วยก็ไม่เลว  น่าจะเอาพวก ยุคใหม่ ขึ้นเป็นคลัง  แต่หากว่าเชิญคนนอก ผมอยากได้คนนีนะ

 บัณฑูร ล่ำซำ   ผมชอบ แนวคิด เค้าดี

[jerasak]

ลูกหม่อมเต่า คงไม่ได้เป็น รมต หรอกครับ อายุ น่าจะยังไม่ถึง30นะ จำไม่ผิดเค้าเด็กกว่าผมปีนึง (อุ้ย เปิดเผยอายุ) เป็นสส เขตผม เขตนี้ เอาแนวทาง อาจาร์ยมารุต มาหาเสียง ดีครับ

  แต่ผมว่า หม่อมเต่า คงไม่ได้เข้ามานะครับ  พรรคนี้  คนนอก  ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หรอกครับ การเมืองภายในก็ยุ่งๆ ดีที่ว่า กัดกัน ในพรรค ไม่เปิดเผยออกสู่สาธารณะเท่าไหร่

 ส่วนตัว อยากให้ กรณ์ เป็น คลัง กอบศักดิ์ เป็นช่วยก็ไม่เลว  น่าจะเอาพวก ยุคใหม่ ขึ้นเป็นคลัง  แต่หากว่าเชิญคนนอก ผมอยากได้คนนีนะ

 บัณฑูร ล่ำซำ   ผมชอบ แนวคิด เค้าดี

ก็ไ่ม่ได้คิดถึงขนาดว่าลูกหม่อมเต่าจะเป็นรัฐมนตรีหรอกครับ
เพียงแต่น่าจะได้เข้าไปช่วย ถ้าหม่อมเต่าเป็นรัฐมนตรี

และหม่อมเต่าก็ไม่ถึงกับเป็นคนนอกครับ เพราะเป็นที่ปรึกษา
ให้กับในพรรคอยู่แล้ว เพียงแต่ข่าวระยะหลังเริ่มไ่ม่ชัดเจน
ผมก็ไ่ม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้นเอง ว่าจะยังร่วมรัฐบาลไหม

สำหรับคุณบัณฑูร คิดว่าไปเชิญกันหลายรอบแล้วครับ
แต่จะมาหรือเปล่า ผมว่าโอกาสไม่มากเท่าไหร่ 

[หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ]

คนกู้หนี้มาทำธุรกิจ กับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต
ผมว่ามันคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง

เคยดูรายการหลุมดำของพวกที่เป็นหนี้ประเภทนี้แล้วรันทดโคตรๆ



ปล.ผมลองเสิร์ชดูเดี๋ยวนี้มีชมรมลูกหนี้บัตรเครดิตกันแล้ว
เว็บไซต์เค้าคึกคักมาก น่าคิดว่าสมาชิกน่าจะมีไม่ใช่น้อยๆ
http://www.consumerthai.org/debt/about_us.shtml

ต้องรบกวนคุณพี่ Cherub Rock ช่วยหาปี ที่ก่อตั้งเว็บนี้ขึ้นด้วยครับ สาเหตุคงไม่ต้องพูดถึงแล้วหละครับ 

[mebeam]

ขอแจม หน่อยครับ
 ก่อนอื่น  ผมเห็นด้วยกับการเป็นหนี้  หากว่า หนี้ นั้น นำมาซึ่งการทำให้เพิ่มรายได้    
 แต่สมัย เหลี่ยม  ต้องบอกว่า การเป็นหนี้นั้น หนี้ที่ก่อ นำมาซึ่งรายได้หรือเปล่า  หากดู ข้อมูล(ต้องรบกวนคุณจี)  
สมัย เหลี่ยม จีดีพี สุงเพราะ กระตุ้นการบริโภคในประเทศ เป็นหลักซึ่งไม่ยั่งยืน (แต่โดยสส่วนตัวก็ถูกต้องในตอนน้น)

 คราวนี้ มาต่อ เรื่อง ปชป จะกู้  ผมก็เห็นด้วย เพราะว่าจากที่ได้ฟัง การกู้เค้า กู้มาเพื่อลงทุน อาทิ รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่  ฯลฯ ซึ่ง ก็คือ การสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ลดต้นทุนในอนาคต  

 มาดูว่าสมัย เหลี่ยม น่ะ งบ น่ะอยู่ในส่วนลงทุน หรือว่าส่วนประชานิยมสนับสนุนการเป็นหนี้  มากกว่ากัน  พวก เหลี่ยมนี่พูดเอาดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่นตลอด
  ตาสี ตาสา หากว่า ไม่สังเกตุ ก็เฮตามอย่างเดียว แต่หากว่ารู้เรื่อง จะขำ กลิ้ง  ผมฟัง เจ๊มิ่ง พูดเรื่องเศรษฐกิจ แล้ว ผมขำ มาก เพ้อฝันจับต้องไม่ได้เลย

อยากจะบอก ว่าผมพอจะแยกออกครับ ว่า หนี้สาธารณะ กับ หนี้ภาคครัวเรือน

ผมผิดเองที่ไปแตะเรื่อง หนี้สาธารณะ ในกระทู้นี้  เห้นแล้วมันอยากถามนะครับ ซึ่งไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้หรอก
แล้วผมก็เห็นด้วยที่ว่า ไม่ว่ารัฐบาลไหน จะกู้มาลงทุน นะไม่ผิดหรอกครับ

แต่ที่ผม ได้ยินจากปาก ทั้งคุณ กอปศักดิ์ และคุณกรคือ  หลังจาก ที่ทางพิธีกร
ให้อธิบายนโยบาย ก็มีโครงการ ต่างๆหลุดออกมามากมาย เช่น เรียนฟรี รักษาฟรีรวมทั้งคลีนิค
แจกเงิน คนชรา กองทุนหมู่บ้านละล้าน พิธีกร ก็ถามว่า ตอนนี้ แบบเดิมเรายัง  งบไม่พอ แล้วเราจะมีเงินงบประมาณเหรอ
ผมถึงได้ยินประโยคที่จำได้แม่นเลยว่า แกตอบมาว่า ตอนนี้ เพดานหนี้สาธารณะ เรายังไม่เต็มเพดาน เรายังสามารถกู้ได้อีก
เป็นไงครับ   มันมิได้แปลว่า เรากำลังกู้มาแจก หรือ
    ส่วนเรื่องรถไฟฟ้านั้น ไม่มีใครสงสัยหรือต่อว่าเรื่องเงินกู้หรอก เพราะไม่มีทางที่เราจะมีเงิน สร้างเองหรอก  

[ล่างฟานหวิน]

พีอาร์ งานถนัด ของ เจ้มิ่ง จริงๆครับ
พูดความจริง ครึ่งเดียว
หลอกขาย ตามอาชีพ เชลล์ แมน ไม่รับผิดชอบ ครับ

[Cherub Rock]

ต้องรบกวนคุณพี่ Cherub Rock ช่วยหาปี ที่ก่อตั้งเว็บนี้ขึ้นด้วยครับ สาเหตุคงไม่ต้องพูดถึงแล้วหละครับ 

ในเว็บไม่ได้บอกแต่คิดว่าคงตั้งชมรมขึ้นมาช่วงที่เป็นข่าว 2-3 ปีนี้แหละครับ
ชูวิทย์ก็เคยออกมาเล่นประเด็นนี้ สื่อก็เสนอเรื่องนี้มาเป็นครั้งคราว

คิดว่าคงมีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเป็นแกน(เจ้าเดียวกับที่ทวง ปตท.) 
เว็บไซต์ของชมรมเค้าก็อยู่ในเว็บของมูลนิธิอีกที

[jerasak]

อยากจะบอก ว่าผมพอจะแยกออกครับ ว่า หนี้สาธารณะ กับ หนี้ภาคครัวเรือน

ผมผิดเองที่ไปแตะเรื่อง หนี้สาธารณะ ในกระทู้นี้  เห้นแล้วมันอยากถามนะครับ ซึ่งไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้หรอก
แล้วผมก็เห็นด้วยที่ว่า ไม่ว่ารัฐบาลไหน จะกู้มาลงทุน นะไม่ผิดหรอกครับ

แต่ที่ผม ได้ยินจากปาก ทั้งคุณ กอปศักดิ์ และคุณกรคือ  หลังจาก ที่ทางพิธีกร
ให้อธิบายนโยบาย ก็มีโครงการ ต่างๆหลุดออกมามากมาย เช่น เรียนฟรี รักษาฟรีรวมทั้งคลีนิค
แจกเงิน คนชรา กองทุนหมู่บ้านละล้าน พิธีกร ก็ถามว่า ตอนนี้ แบบเดิมเรายัง  งบไม่พอ แล้วเราจะมีเงินงบประมาณเหรอ
ผมถึงได้ยินประโยคที่จำได้แม่นเลยว่า แกตอบมาว่า ตอนนี้ เพดานหนี้สาธารณะ เรายังไม่เต็มเพดาน เรายังสามารถกู้ได้อีก
เป็นไงครับ   มันมิได้แปลว่า เรากำลังกู้มาแจก หรือ
    ส่วนเรื่องรถไฟฟ้านั้น ไม่มีใครสงสัยหรือต่อว่าเรื่องเงินกู้หรอก เพราะไม่มีทางที่เราจะมีเงิน สร้างเองหรอก  

ผมก็ไม่ทราบว่าที่คุณกอร์ปศักดิ์ และคุณกรณ์ ตอบเขาเข้าใจคำถามว่ายังไง
และเขาหมายถึงเรื่องอะไรที่จะต้องกู้นะครับ

แต่ถ้าคุณ mebeam อยากรู้ว่าโครงการต่างๆ เขาใช้เงินจากไหน ผมได้ยินชัดๆ
ว่ามาจากงบประมาณแผ่นดิน และในการบริหารประเทศเรื่องที่คุณ mebeam
บรรยายมาย่อมต้องจัดสรรรจากงบประมาณแผ่นดิน

คลิปนี้คือแถลง 99 วันทำได้จริงล่าสุด มีกำหนดคนรับผิดชอบและระบุงบประมาณครับ
http://www.democrat.or.th/multimedia_page/media/99day_111250.wmv

...

ที่นี้การจัดทำงบประมาณแผ่นดินมันก็มี 3 แบบ คือขาดดุล เกินดุล และสมดุล
ถ้ารัฐบาลเห็นว่าจำเป็นต้องใช้เงินแต่จัดเก็บรายได้เข้ารัฐได้ไม่พอ เขาก็จะ
จัดทำงบประมาณแบบขาดดุล ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทำได้

..และถ้าจำเป็นต้องขาดดุลก็ต้องทำ ไม่ใช่รอไปเรื่อยไม่ยอมจ่ายอะไรสักอย่าง..

การจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลก็จะต้องหาเงินมาเพิ่มให้พอ หลักๆ ก็คือการ
ออกพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งก็ออกมาโดยตลอดประวัติศาสตร์ แม้แต่รัฐบาลทักษิณ
หรือรัฐบาลพลังประชาชน (ถ้ามี) ก็ต้องมีการออกพันธบัตร แต่จะทำเท่ห์ไม่บอก
ว่าตัวเองออกพันธบัตรมันก็อีกเรื่อง

การออกพันธบัตรจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น แต่ก็มีเกณฑ์มาตรฐานว่าสามารถ
มีหนี้สาธารณะได้เท่าไหร่ที่ถือว่ายังเป็นปกติ

..ซึ่งประชาธิปัตย์ก็ได้อ้างอิงเกณฑ์มาตรฐานนั้นว่าเรายังสามารถเพิ่มได้..

ผู้รู้ทุกคนได้ฟังก็ไม่มีใครติดใจสงสัยอะไรอีก เพราะเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วครับ
หนี้สาธารณะไทยไม่มีปัญหาน่าเป็นห่วง.. ต่างกับหนี้ครัวเรือนคนยากจนครับ 

[soco]

วันนี้ไปออกเวที วิพากษ์  คุยไปคุยมา

ป้ามิ่งบอก เชียร์อภิสิทธิ์เลย

แกเลยออกเรื่อง เลข 4



กองเชียร์ พปช. คงสลบชักตาตั้งไปแล้ว

[jerasak]

วันนี้ไปออกเวที วิพากษ์  คุยไปคุยมา

ป้ามิ่งบอก เชียร์อภิสิทธิ์เลย
แกเลยออกเรื่อง เลข 4

กองเชียร์ พปช. คงสลบชักตาตั้งไปแล้ว

วันนี้ดูแกหงอยๆ แปลกๆ ผิดหูผิดตานะครับ

แถมโดนอภิสิทธิ์ถามเรื่องหนี้บัตรเครดิต
มิ่งขวัญก็ไม่กล้าตอบโต้เลยสักคำ

โดนถามย้ำเรื่องการตัดสินใจทางการเมือง
ที่สมัคร หมอเลี๊ยบ และคนอื่นๆ ไปคนละทาง
ก็อ้ำอึ้งตอบคำถามไม่ได้อีก

โดนพรรคอื่นวิจารณ์นโยบาย แถมทำท่า
หมั้นหมายกันกับ ปชป. ต่อหน้าต่อตา

จากที่คิดเป็นฝ่ายรุก กลายมาเป็นฝ่ายรับ
มาเพลี่ยงพล้ำหนักๆ เอาตอนใกล้เลือกตั้ง
ได้ข่าว ปชป.ติดป้ายตอบโต้ทั่วเมืองแล้ว 

[นทร์]

ผมว่า คุณมิ่งขวัญ แกรับ สมัคร ไม่ได้ครับ

เลยหลุด ออกมาว่า เชียร์อภิสิทธิ์

เพราะแกน่าจะรู้ว่า ถ้า สมัคร มา

สถานการณ์ต่อไปจะเป็นไปต่อยังไง

* ผมว่าดีไม่ดี ตอนเลือกตั้งแก อาจกาเบอร์ 4 ก็ได้

 

[jerasak]

ผมว่า คุณมิ่งขวัญ แกรับ สมัคร ไม่ได้ครับ

เลยหลุด ออกมาว่า เชียร์อภิสิทธิ์

เพราะแกน่าจะรู้ว่า ถ้า สมัคร มา

สถานการณ์ต่อไปจะเป็นไปต่อยังไง

* ผมว่าดีไม่ดี ตอนเลือกตั้งแก อาจกาเบอร์ 4 ก็ได้

 

วันนี้ตอนถูกถามถึงคุณสมัคร กับคุณหมอเลี๊ยบ
คุณมิ่งขวัญแกก็ทำหน้าตาแปลกๆ นะครับ
จนผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นในพรรคหรือเปล่า