ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
16-04-2024, 22:00
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==ปชป.ออกมาโต้ป้ายหาเสียง พปช.บิดเบือนข้อมูลหนี้ครัวเรือน== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==ปชป.ออกมาโต้ป้ายหาเสียง พปช.บิดเบือนข้อมูลหนี้ครัวเรือน==  (อ่าน 2040 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 16-12-2007, 16:55 »

ปชป. ออกมาโต้ป้ายหาเสียง พปช. ที่ว่า  “เลือกพรรคผิดเพิ่มหนี้ให้ครอบครัว เลือกพรรคถูกเพิ่มเงินในกระเป๋า”
สงสัยคนคิดคอนเซปต์หาเสียงให้ พปช. คงลืมไปว่ารัฐบาลไหนที่ก่อหนี้ให้ประชาชนทั้งประเทศ 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปชป.ทิ้งไพ่ชูภาพ “มาร์ค” ซื่อสัตย์เหมาะนั่งนายกฯ
โดย ผู้จัดการออนไลน์    16 ธันวาคม 2550 12:10 น.
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000148908
   
       ปชป.ปรับกลยุทธ์ทิ้งไพ่ช่วงโค้งสุดท้าย ชู “มาร์ค” นายกฯ ซื่อสัตย์ แก้วิกฤตชาติ เลือก ปชป.ยกทีม
ทวงถามดาบอาญาสิทธิ์ กกต.เร่งแจกใบเหลือง-แดงพวกท้าทาย กม.เลือกตั้ง พร้อมงัดข้อมูลจับโกหก พปช.
ต้นตอเพิ่มหนี้ครัวเรือน-บัตรเครดิต

       
       วันนี้ (16 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
การหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย พรรคประชาธิปัตย์จะใช้กลยุทธขึ้นป้ายหาเสียงไปทั่วประเทศ 2 รูปแบบ
คือ ป้ายแรก จะเป็นการชูภาพความชื่อสัตย์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ในการที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้สโลแกนว่า “เลือกนายกฯ ที่ซื่อสัตย์ เลือกประชาธิปัตย์ยกทีม”
และป้ายที่ 2 จะเน้นในเรื่องของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ภายใต้คำขวัญว่า “เลือกอภิสิทธิ์แก้วิกฤตชาติ
เลือกประชาธิปัตย์ยกทีม”

       
       นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้อำนาจอาญาสิทธิ์เด็ดขาดในการแจก
ใบเหลือง ใบแดงให้กับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากขณะนี้มีนักการเมืองบางพรรคเคลื่อนไหวท้าทาย
อำนาจ กกต.ด้วยการแจกซีดีทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดที่ประจักษ์แล้ว ส่วนเนื้อหาจะเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่ถือว่าเป็นการแจกทรัพย์สิน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย เรื่องนี้สามารถหาหลักฐานได้ง่ายกว่าการซื้อเสียงเพราะ
มีพยานรู้เห็นจำนวนมาก และมีเหตุอัยนควรเชื่อที่สามารถแจกใบเหลือง ใบแดงได้ โดย กกต.ควรเร่งตัดสิน
โดยเร็วก่อนวันที่ 23 ธันวาคม 2550 เพราะหากพิจารณาหลังเลือกตั้งอาจมีข้อโต้แย้งต่อผลการเลือกตั้ง
และจะกระทบต่อการตั้งรัฐบาลตามมา




ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้พรรคพลังประชาชน
หยุดบิดเบือนข้อเท็จจริงและหลอกลวงประชาชน เกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การขึ้นป้ายหาเสียงว่า

“เลือกพรรคผิดเพิ่มหนี้ให้ครอบครัว เลือกพรรคถูกเพิ่มเงินในกระเป๋า”

ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าหากไม่เลือกพรรคพลังประชาชนแล้ว
จะเป็นหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

       
       “ในช่วงปี 45-49 รัฐบาลทักษิณมีการสร้างหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 40 จากจำนวน
ตัวเลข 82,485 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มเป็น 116,585 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งถือเป็นอัตราสูงมากที่สุด
เป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้อัตราการเพิ่มหนี้ของบัตรเครดิตในช่วงเดียวกันจากจำนวนหนี้บัตรเครดิต
อยู่ที่ตัวเลข 41,018 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171,005 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 425 ผมคิดว่าการบิดเบือน
ข้อเท็จจริงลักษณะนี้ควรยุติได้แล้ว เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

โดยช่วงโค้งสุดท้ายควรหาเสียงด้วยการให้ข้อเท็จจริงทางด้านเศรษฐกิจกับประชาชนดีกว่า”
นายกรณ์ กล่าว พร้อมกับนำสถิติตัวเลขหนี้ครัวเรือน และหนี้บัตรเครดิต มาประกอบการแถลงข่าวด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2007, 17:10 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 16-12-2007, 17:03 »

และถึงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จะถูกโจมตีว่าใส่เกียร์ว่างไม่ยอมทำงาน
แต่อย่างน้อยที่สุดในรัฐบาลนี้ หนี้ประชาชนก็เริ่มลดลงเป็นครั้งแรก
ในรอบหลายปีที่ผ่านมาครับ

การที่รัฐบาลทักษิณสร้างภาพเศรษฐกิจเกินจริง และส่งเสริมการใช้จ่าย
แบบไม่จำกัด ปล่อยให้บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล หาลูกค้าโดยไม่ควบคุม
เงินส่วนใหญ่จ่ายไปกับค่าบริการความสนุก ความสบาย
สุดท้ายเหลือไว้แต่หนี้ก้อนโต ต้องมาก้มหน้าก้มตาใช้หนี้กันทั้งประเทศ 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

สถิติฯเผยหนี้ครัวเรือนพุ่ง1.16แสนบาท
http://www2.nesac.go.th/document/show12.php?did=07040089

    สำนักงานสถิติฯ เผยผลสำรวจหนี้สินครัวเรือน แนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องยอดเฉลี่ยเพิ่มเป็น 1.16 แสน
จาก 1.04 แสนบาทต่อครัวเรือนในรอบ 2 ปี ชี้หนี้สินต่อรายได้ลดลงจาก 7 เท่า ในปี 2547 เหลือ 6.6 เท่า
ในปี 2549 เผยรายจ่ายครัวเรือนไทยด้านอุปโภคบริโภคกิน-ดื่มสูงลิ่ว ขณะที่ใช้จ่ายเพื่อการศึกษาเพียง 2%
 
    นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยผลสำรวจ
ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ.2549 ซึ่งได้เก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2549 ซึ่งได้สำรวจครัวเรือนตัวอย่างทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งในเขตและนอกเขตเทศบาล จำนวน 5.2 หมื่นครัวเรือน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานสถิติฯ ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจเบื้องต้น โดยการประมวลผลข้อมูลสำรวจในช่วง
6 เดือนแรกไปแล้ว ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่าในปี 2549 ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 17,787 บาท โดยรายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการทำงาน คือเป็น 72.7% ประกอบด้วยค่าจ้างเงินเดือน 40% กำไรสุทธิ
จากการประกอบธุรกิจ 20.4% และจากการทำการเกษตร 12.3% ส่วนรายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการทำงานที่สำคัญ
ได้แก่ รายได้ในรูปสวัสดิการ เงินช่วยเหลือจากรัฐหรือบุคคลอื่นนอกครัวเรือน เป็นต้น

    ส่วนในด้านรายจ่ายของครัวเรือนพบว่าครัวเรือนทั่วประเทศ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 14,311 บาท ค่าใช้จ่าย
ส่วนใหญ่ หรือ 88.7% เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคและบริโภค โดยเป็นค่าใช่จ่ายเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม
และยาสูบ 32.1% รองลงมาเป็นค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน 21.7% ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับยานพาหนะ
และการเดินทาง 18% การสื่อสาร 3.5% ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา 2% และค่ารักษาพยาบาล 2.1%

    นางธนนุช ระบุว่า สำหรับหนี้สินครัวเรือนพบว่าในปี 2549 ครัวเรือนส่วนบุคคลในประเทศไทยเกินกว่าครึ่งหนึ่ง
หรือ 64.4% มีหนี้สิน โดยมีหนี้สินเฉลี่ย 116,585 บาทต่อครัวเรือน โดยส่วนใหญ่หรือ 64.7% เป็นหนี้ที่นำมา
ใช้จ่ายในครัวเรือน เช่น หนี้เพื่อการซื้อบ้านและที่ดิน 33.7% หนี้การอุปโภคและการบริโภค 27.6% และใช้ใน
การศึกษาเพียง 3.4% เท่านั้น ส่วนหนี้ที่เหลือเป็นหนี้ที่ใช้ในการทำธุรกิจ (18.3%) และใช้ทำการเกษตร (14.2%)
โดยหากเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงต่อปี ของรายได้และค่าใช้จ่ายครัวเรือนทั่วประเทศ จะพบว่า ผลสำรวจ
ในปี 2549 รายได้และค่าใช้จ่ายต่างเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับปี 2547 โดยรายได้เพิ่มจากเดือนละ 14,963 บาท
ในปี 2547 เป็นเดือนละ 17,787 บาท ในปี 2549 หรือเพิ่มขึ้น 9% ส่วนรายจ่ายเพิ่มจากเดือนละ 12,297 บาท
เป็นเดือนละ 14,311 บาทใน 2549 หรือเพิ่มขึ้น 7.6%
 
 
    ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาภาวะการเป็นหนี้ของครัวเรือนจะเห็นว่ามีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากอัตราร้อยละของครัวเรือน
ที่เป็นหนี้ลดลงจาก 66.4% ในปี 2547 มาอยู่ที่ 64.4% ในปี 2549 ขณะที่หนี้สินต่อรายได้ก็ลดลงจาก 7 เท่า
ในปี 2547 เหลือ 6.6 เท่าในปี 2549

    อย่างไรก็ตาม มูลค่าหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนยังมีแนวโน้มสูงขึ้น จาก 104,571 บาทต่อครัวเรือนในปี 2547
เป็น 116,585 บาทต่อครัวเรือนในปี 2549 หรือเพิ่มขึ้น 5.6% หลังจากที่ในปี 2547 เทียบกับปี 2545
หนี้สินเฉลี่ยครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตรา 12.6% หรือเพิ่มจาก 82,485 บาทต่อครัวเรือนในปี 2545 เป็น 104,571 บาท
ต่อครัวเรือนในปี 2547


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2007, 17:09 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #2 เมื่อ: 16-12-2007, 17:38 »

2537 หนี้สินเฉลี่ย 31,387
3539 หนี้สินเฉลี่ย 52,001
2541 หนี้สินเฉลี่ย 69,674
2542 หนี้สินเฉลี่ย 71,713
2543 หนี้สินเฉลี่ย 68,405
2544 หนี้สินเฉลี่ย 68,279
2545 หนี้สินเฉลี่ย 82,485
2547 หนี้สินเฉลี่ย 104,571
2549 หนี้สินเฉลี่ย 116,585
2550 (6 เดือนแรก) หนี้สินเฉลี่ย 113,389
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2007, 18:07 โดย solidus » บันทึกการเข้า
truly
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 253


« ตอบ #3 เมื่อ: 16-12-2007, 17:59 »

ก็มัวแต่มาแถลงเป็นตัวเลข เป็นตาราง
พวกรากหญ้าเขาไม่สนใจหรอก..

สู้แบบของ พปช.ไม่ได้ ฟังง่าย ฟังแล้วเคลิ้ม ถึงโกหกก็ไม่เป็นไร..
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #4 เมื่อ: 16-12-2007, 18:39 »

2537 หนี้สินเฉลี่ย 31,387
3539 หนี้สินเฉลี่ย 52,001
2541 หนี้สินเฉลี่ย 69,674
2542 หนี้สินเฉลี่ย 71,713
2543 หนี้สินเฉลี่ย 68,405
2544 หนี้สินเฉลี่ย 68,279
2545 หนี้สินเฉลี่ย 82,485
2547 หนี้สินเฉลี่ย 104,571
2549 หนี้สินเฉลี่ย 116,585
2550 (6 เดือนแรก) หนี้สินเฉลี่ย 113,389

2537 หนี้สินเฉลี่ย 31,387  <- รัฐบาลชวน 1

3539 หนี้สินเฉลี่ย 52,001  <- รัฐบาลบรรหาร

2541 หนี้สินเฉลี่ย 69,674
2542 หนี้สินเฉลี่ย 71,713  <- รัฐบาลชวน 2
2543 หนี้สินเฉลี่ย 68,405

2544 หนี้สินเฉลี่ย 68,279
2545 หนี้สินเฉลี่ย 82,485  <- รัฐบาลทักษิณ 1
2547 หนี้สินเฉลี่ย 104,571

2549 หนี้สินเฉลี่ย 116,585 <- รัฐบาลทักษิณ 2 (ดำรงตำแหน่งจนถึง 19 กันยา 49 รวม 3 ไตรมาศ)

2550 (6 เดือนแรก) หนี้สินเฉลี่ย 113,389 <- รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #5 เมื่อ: 16-12-2007, 18:43 »

ก็มัวแต่มาแถลงเป็นตัวเลข เป็นตาราง
พวกรากหญ้าเขาไม่สนใจหรอก..

สู้แบบของ พปช.ไม่ได้ ฟังง่าย ฟังแล้วเคลิ้ม ถึงโกหกก็ไม่เป็นไร..

ครับคุณ truly

เอาตารางมาแถลงก็ยังดีนะครับ
เพราะที่ผ่านมาไม่ยอมแถลงเลย
ปล่อยให้เขามั่วข้อมูลฝ่ายเดียว
แบบนั้นจะไปชนะได้ยังไง 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #6 เมื่อ: 16-12-2007, 18:45 »

ครับคุณ truly

เอาตารางมาแถลงก็ยังดีนะครับ
เพราะที่ผ่านมาไม่ยอมแถลงเลย
ปล่อยให้เขามั่วข้อมูลฝ่ายเดียว
แบบนั้นจะไปชนะได้ยังไง 
กรณีชาวบ้านทั่วไป ผมว่าทำเป็นกราฟมันจะเห็นชัดเจนได้มากกว่าตารางนะครับ

บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #7 เมื่อ: 16-12-2007, 19:32 »

ชัดเจนเลยครับคุณ solidus 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #8 เมื่อ: 16-12-2007, 19:35 »

อันนี้ข่าวเก่าจากการสำรวจช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 ครับ
มีวิจารณ์จากคนของ สนง.สถิติแห่งชาติ ด้วยว่าเงินกองทุนหมู่บ้าน
ตั้งแต่รัฐบาบทักษิณ 1 เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านเป็นหนี้มากขึ้น

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปิดสถิติหนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง
ค่านิยมเปลี่ยนคนไทยใช้เงินมือเติบ
http://www.chiangmainews.co.th/viewnews.php?id=5987&lyo=0

         สำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ เงินหมู่บ้านทำหนี้ครัวเรือนพุ่ง  แฉเหตุเพาะเชื้อชาวบ้านใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
เผยตัวเลขหนี้ประชาชนเพิ่มจากปี 47 ถึง 6.4 %

         นายสือ ล้ออุทัย เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมนำข้อมูลรายได้ รายจ่าย
และหนี้สินของครัวเรือนไทย ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 49 ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินภาวะเศรษฐกิจและสังคมไทยก่อนที่จะเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่
และประชาชนทั่วไปรับทราบ เบื้องต้นพบว่า ครัวเรือนไทยมีหนี้สินเฉลี่ย 118,434 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มจาก
ปี 47 ในอัตรา 6.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มที่ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 47 ที่ขยายตัวจาก
ปี 45 สูงถึง 12.6%
       
         ทั้งนี้ช่วงการสำรวจในปี 47 พบว่ามีเม็ดเงินจากโครงการกองทุนหมู่บ้านของรัฐบาลชุดก่อนประมาณ
7-8 หมื่นล้านบาท ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า โดยส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน
เพื่อประกอบอาชีพ และใช้จ่ายอย่างอื่นที่บรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งบางส่วนก็นำไปใช้ในทางที่ดี แต่บางราย
กู้ไปใช้ลักษณะฟุ่มเฟือย เช่น ซื้อโทรศัพท์มือถือ จนทำให้ครัวเรือนทั่วประเทศมีหนี้สินปรับตัวสูงมาก ซึ่งเป็น
ระดับที่ทุกฝ่ายกังวลมาก

         เชื่อว่าสาเหตุ ที่หนี้สินครัวเรือนไทยในปี 49 มีการเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ชะลอตัวลง เพราะระยะหลัง ๆ
รัฐบาลมีโครงการในลักษณะที่ส่งเสริมให้ประชาชนได้กู้เงิน ลดน้อยลงไม่เหมือนกับช่วงที่มาเป็นรัฐบาลชุดก่อน
เข้ามาทำงานใหม่ ๆ ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการควบคุมการใช้จ่ายบัตรเครดิต”
     
         อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลชุดใหม่มีโครงการใหม่ ๆ ที่เน้นการนำเงินลงสู่ชนบทเพื่อให้ประชาชนได้กู้ยืม
หรือโครงการเช่าซื้อบ้าน ก็เป็นห่วงว่าอาจทำให้หนี้สินครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก เพราะช่วงนี้อัตราดอกเบี้ย
เงินกู้ก็อยู่ในระดับที่สูงไม่เหมือนกับช่วงก่อนปี 47 ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
         
         ตามหลักการสำรวจ หนี้ครัวเรือนในทุก ๆ เดือนพบว่า ในไตรมาส 1 และ 2 ของทุกปีประชาชนจะมี
หนี้สินมาก โดยมีปัจจัยจากเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และช่วงเปิดเทอมภาคเรียน จนทำให้บางส่วนต้อง
กู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายในการท่องเที่ยว หรือค่าเทอมให้บุตรหลาน ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 หนี้สินครัวเรือนจะลดลง
       
         สำหรับรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยเดือนละ 17,122 บาท เพิ่มจากปี 47 อัตรา 7% พบว่ารายได้ 70.7%
มาจากการทำงาน ซึ่งครัวเรือนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยสูงสุดในประเทศ
32,284 บาทต่อเดือน รองลงมาได้แก่ ภาคกลาง 18,665 บาท ภาคใต้17,303 บาท ภาคเหนือ 12,432 บาท
และอีสาน มีรายได้ต่ำสุดเพียง 11,528 บาท  ขณะที่รายจ่ายของครัวเรือนเฉลี่ยเดือนละ 14,640 บาท
หรือคิดเป็น 85.5% ของรายได้ เพิ่มขึ้นจากปี 47 ประมาณ 9.1%
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #9 เมื่อ: 16-12-2007, 19:48 »

ย้อนกลับไปอีกครับ สนง.สถิติแห่งชาติสำรวจข้อมูลเมื่อปี 2547
โดยสำรวจครัวเรือนถึง 46,600 ครัวเรือนทั่วประเทศ

ผลออกมาเหมือนกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เรื่องภาวะหนี้ของประชาชน
สถิติยับเยินแบบนี้ตั้งแต่ที่ว่า "สี่ปีซ่อม" แต่ยังพีอาร์ชนะเลือกตั้งได้
แม้แต่ในเขตเมือง เพราะประชาชนยังให้เครดิตไทยรักไทย ก็เลย
ยังไม่รับฟังข้อมูลพวกนี้ แต่ตอนนี้ผมว่าส่วนหนึ่งรับฟังแล้ว

และ "คนที่บริหารอยู่ในพลังประชาชน" (ล้อป้ายโฆษณาอีกอันเสียเลย) 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ประจาน'ทักษิโณมิกส์'! ITCชี้หนี้ครัวเรือนท่วม
http://www.ftawatch.org/news/view.php?id=3180

สำนักงานสถิติแห่งชาติประจาน 'ทักษิโณมิกส์' ครัวเรือนอดอยาก เกษตรกรมีรายได้ 100 แต่ต้องจ่าย 101.2
แถมยังมีหนี้สินเพิ่มร้อยละ 20.7 จากปีที่แล้ว

แม้รายได้โดยรวมจะเพิ่ม แต่กลับเพิ่มในอัตราที่ต่ำกว่ารายจ่าย ขณะที่คนอีสานใช้จ่ายมากกว่าลงทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้แถลงรายงาน
ผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ปี 2547 ซึ่งจัดทำเป็นประจำทุก 2 ปี ใช้ครัวเรือนส่วนบุคคล
ตัวอย่างทั่วประเทศ 46,600 ครัวเรือน โดยแบ่งเป็น 12 กลุ่ม ทำการเก็บข้อมูลเดือนละกลุ่มตั้งแต่ ม.ค.-ธ.ค. 2547
ผลการสำรวจในส่วนรายได้ ค่าใช้จ่ายและหนี้สินของครัวเรือน พบว่า

ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 14,963 บาท มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 12,297 บาท หรือร้อยละ 82.2 ของรายได้

เมื่อแยกตามภูมิภาคต่างๆ พบว่า

- ครัวเรือนของกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดโดยรอบมีรายได้เฉลี่ย 28,135 บาท มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 21,716 บาท
  หรือร้อยละ 77.2 ของรายได้
- ครัวเรือนภาคกลาง มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 16,355 บาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 13,270 บาท หรือร้อยละ 81.1 ของรายได้
- ครัวเรือนภาคเหนือมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,885 บาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 9,361 บาท หรือร้อยละ 86 ของรายได้
- ครัวเรือนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,139 บาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 8,484 บาท หรือร้อยละ 83.7 ของรายได้
- ภาคใต้มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 14,469 บาท ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 12,891 บาท หรือร้อยละ 89.1 ของรายได้

เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกันระหว่างภาคต่างๆ พบว่า

รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนในกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดรอบกรุงเทพฯ สูงกว่าภาคอื่นมากคือ 28,135 บาทต่อเดือน
ตามมาด้วยภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลำดับ

"ครัวเรือนในทุกภาคมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย ไม่รวมค่าใช้จ่ายเพื่อการเก็บออมหรือสะสมทุน เช่น ซื้อหรือเช่าซื้อบ้าน
ที่ดิน และของมีค่าต่างๆ โดยเฉพาะครัวเรือนในกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดรอบกรุงเทพฯ มีสัดส่วนของเงินรายได้ที่เหลือจ่าย สำหรับนำไปชำระหนี้และเพื่อการเก็บออมในปี 2547 มากที่สุดคือร้อยละ 23 ส่วนครัวเรือนภาคใต้มีรายได้เหลือจากการใช้จ่าย
ในสัดส่วนที่ต่ำที่สุด คือร้อยละ 11 ซึ่งมีสภาพใกล้เคียงกับปี 2545" รายงานระบุ

ในส่วนหนี้สินครัวเรือนทั่วประเทศในปี 2547 มีหนี้สินเฉลี่ย 104,571 บาทต่อครัวเรือน แบ่งเป็น

หนึ่ง หนี้สินเพื่อการใช้จ่ายในครัวเรือน 68,747 บาท หรือร้อยละ 65.8 แยกเป็นสองส่วนคือ
      หนี้สินที่เกิดจากการซื้อ/เช่าซื้อบ้านและที่ดิน 38,140 บาท หรือร้อยละ 36.5
      และค่าใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภค 30,607 บาท หรือร้อยละ 29.3
สอง หนี้สินที่กู้มาเพื่อทำธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตร 15,888 บาท หรือร้อยละ 15.2
สาม หนี้สินที่กู้มาเพื่อทำการเกษตร 16,952 บาท หรือร้อยละ 16.2
และที่เหลือเป็นหนี้สินอื่นๆ 2,984 บาท หรือร้อยละ 2.8


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากพิจารณาเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม
พบว่าค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ทำธุรกิจและใช้ทำการเกษตรซึ่งเป็นการผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็นร้อยละ 34.8
กลับน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 38.5

เมื่อพิจารณาตามภาคต่างๆ พบว่า

ครัวเรือนกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงกว่าภาคอื่นมาก คือ 155,622 บาท
รองลงมาเป็นครัวเรือนภาคกลาง 115,184 บาท ภาคเหนือ 94,893 บาท ภาคใต้ 92,126 บาท
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 83,278 บาท

รายงานยังได้เปรียบเทียบรายได้ค่าใช้จ่ายและหนี้สินครัวเรือนในปี 2547 กับปี 2545 ด้วยว่า
รายได้เฉลี่ยครัวเรือนโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 13,736 บาทในปี 2545 เป็น 14,963 บาทในปี 2547
หรือเพิ่มในอัตราร้อยละ 4.4 ต่อปี โดยรายได้เพิ่มมาจากทุกแหล่ง ทั้งจากค่าจ้างและเงินเดือน
กำไรจากการเกษตร กำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่การเกษตร และรายได้จากแหล่งอื่นๆ

ขณะเดียวกันครัวเรือนก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 10,889 บาทในปี 2545 เป็น 12,297 บาท
ในปี 2547 หรือเพิ่มในอัตราร้อยละ 6.3 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้

"เมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่าครัวเรือนเกือบทุกภาคต่างก็มีรายได้และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ กล่าวคือครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ในอัตราร้อยละ 4-8 ในขณะที่การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 6-10 ต่อปี ยกเว้นครัวเรือน
ในกรุงเทพมหานครและ 3 จังหวัดที่มีรายได้ลดลงร้อยละ 0.2 แต่มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ต่อปี"
รายงานระบุ

ทั้งนี้ รายละเอียดแต่ละภาคได้แก่

ภาคกลางรายได้เฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 7.6 แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 8.7
ภาคเหนือรายได้เฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 6.9 แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 9.9
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือรายได้เฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 4.5 แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 6
และภาคใต้รายได้เฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 7.6 แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มร้อยละ 9.8

สำหรับหนี้สินครัวเรือนโดยรวมทั่วประเทศเมื่อเทียบกับปี 2545 เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 12.6 ต่อปี
หนี้สินที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนทั้งการซื้อหรือเช่าซื้อบ้านหรือที่ดิน
และเพื่อใช้ทำการเกษตร เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคพบว่าครัวเรือนเกือบทุกภาคมีหนี้สินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
ยกเว้นครัวเรือนในกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดรอบกรุงเทพฯ ที่มีหนี้สินลดลงเล็กน้อยคือลดลงร้อยละ 0.7 ต่อปี
ทั้งนี้ ภาคเหนือมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 28.4 ต่อปี ตามมาด้วยภาคกลางร้อยละ 22.9
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 12.3 และภาคใต้ร้อยละ 10

สุดท้ายรายงานยังได้แยกให้เห็นสถิติตามกลุ่มสถานะทางเศรษฐกิจซึ่งกำหนดตามอาชีพและการทำงาน
ของผู้มีรายได้สูงสุดในครัวเรือน พบว่า ในปี 2547 ครัวเรือนทุกกลุ่มมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปี 2545
โดยเฉพาะครัวเรือนคนงานเกษตรมีรายได้เพิ่มมากกว่ากลุ่มอื่น คือเพิ่มร้อยละ 8.4 ต่อปี ส่วนครัวเรือนเกษตร
ที่ถือครองที่ดิน ลูกจ้างที่ปฏิบัติงานวิชาชีพ นักบริหาร และนักวิชาการ และคนงานผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการผลิต
รวมทั้งครัวเรือนที่ไม่ได้ปฏิบัติงานเชิงเศรษฐกิจ มีรายได้เพิ่มร้อยละ 4-6 ต่อปี ส่วนครัวเรือนนักธุรกิจที่ไม่ทำ
การเกษตร คนงานทั่วไป และเสมียน พนักงานขายและให้บริการรายได้ เพิ่มต่ำกว่าร้อยละ 4

สำหรับค่าใช้จ่ายนั้นพบว่าครัวเรือนทุกกลุ่มมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่าปี 2545 เช่นกัน โดยครัวเรือนเกือบทุกกลุ่ม
มีการใช้จ่ายเพิ่มในอัตราที่สูงกว่ารายได้ อาทิ คนงานเกษตรที่มีรายได้เพิ่มมากที่สุดกลับมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่ม
ร้อยละ 9.4 ต่อปี ยกเว้นครัวเรือนลูกจ้างปฏิบัติงานวิชาชีพนักวิชาการ และนักบริหารเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น
ที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า

"สำหรับความพอเพียงของรายได้ในการใช้จ่ายนั้น ครัวเรือนเกือบทุกกลุ่มมีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย
ยกเว้นครัวเรือนคนงานเกษตรเพียงกลุ่มเดียวที่มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย โดยจ่ายมากกว่ารายได้
เพียงร้อยละ 1 เท่านั้น" รายงานระบุ

สำหรับหนี้สินครัวเรือนนั้นทุกกลุ่มมีหนี้สินเพิ่มขึ้นจากปี 2545 โดยเฉพาะครัวเรือนลูกจ้างปฏิบัติงานในกระบวนการผลิต
มีหนี้สินต่อครัวเรือนเพิ่มมากกว่ากลุ่มอื่นคือประมาณร้อยละ 36.7 ต่อปี ขณะที่ครัวเรือนถือครองที่ดินทำการเกษตรและ
เช่าที่ดิน ครัวเรือนคนงานเกษตร และคนงานทั่วไป และครัวเรือนที่ไม่ปฏิบัติงานเชิงเศรษฐกิจมีหนี้สินเพิ่มขึ้นร้อยละ
20-22 ส่วนครัวเรือนกลุ่มอื่นๆ มีหนี้สินเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำกว่าร้อยละ 14 ต่อปี

ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะตัวเลขของคนงานเกษตรได้แก่

รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มร้อยละ 8.4 ต่อปี
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 ต่อปี
หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 ต่อปี
และอัตราร้อยละของค่าใช้จ่ายต่อรายได้เป็น ร้อยละ 101.2
ขณะที่ในปี 2545 มีอัตราที่ใกล้เคียงกันคือร้อยละ 99.3
แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรโดยรวมแล้วมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย

แหล่งข่าวกล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า อัตราตรงนี้เกินกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าครัวเรือน
ของเกษตรกรนั้นรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ซึ่งตัวเลขตรงนี้แสดงเฉพาะรายจ่ายที่เป็นค่าอุปโภคบริโภค
เท่านั้นยังไม่รวมเรื่องหนี้สินของเขา ซึ่งแสดงแยกไว้ต่างหากที่ร้อยละ 20.7 ตัวอย่างการเก็บข้อมูล
คือหากต้องผ่อนสินค้าชิ้นหนึ่งเดือนละพันบาท โดยแยกเป็นเงินต้น 900 บาท ดอกเบี้ย 100 บาท
เราก็จะเก็บตัวเลขดอกเบี้ยมาเป็นค่าใช้จ่ายของครัวเรือน ส่วนเงินต้นจะถูกคิดเป็นหนี้สินของครัวเรือน
ซึ่งตัวเลขตรงนี้เป็นเพียงการคำนวณหาค่ากลางเท่านั้น ตัวเลขจริงบางครัวเรือนอาจมีรายได้พอรายจ่าย
ครึ่งหนึ่งแล้วอีกครึ่งอาจจะไม่พอก็ได้ สถิติที่ออกมาก็เพื่อหาค่ากลางมาดูสภาพของครัวเรือนเท่านั้น

เมื่อถามถึงหนี้สินในส่วนของผู้ใช้แรงงานเกษตรกร หรือคนทำงานระดับล่างที่มีตัวเลขสูงมาก
แหล่งข่าวชี้แจงว่า เป็นการเก็บรวบรวมตัวเลขเงินกู้ทั้งในและนอกระบบ และเวลานี้รัฐบาลมีนโยบาย
หลายอย่าง เช่น กองทุนหมู่บ้านให้กับชาวบ้านตรงนี้ต้องนับเป็นเงินกู้เพราะรัฐบาลไม่ได้ให้ฟรี
ต้องหามาใช้คืนภายหลัง นอกจากนี้ยังมีบัตรเครดิตการ์ดให้คนใช้อีกมากมาย
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #10 เมื่อ: 16-12-2007, 20:31 »

ปัญหา คือ การอธิบาย ด้วยวิธีง่าย ๆ ใช้คำง่าย ๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจ นี่มันยากมากครับ....
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #11 เมื่อ: 16-12-2007, 21:00 »

ปัญหา คือ การอธิบาย ด้วยวิธีง่าย ๆ ใช้คำง่าย ๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจ นี่มันยากมากครับ....



ทำเป็นกราฟประกอบข้อความอาจดูได้ง่ายขึ้น .. อีกแบบอาจทำเป็นแผนภูมิภาพ
เหนือสิ่งอื่นใดอาจต้องใช้ธรรมะ ชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายเกินตัวไม่ดี
ดังนั้นใครที่ส่งเสริมให้คนอื่นใช้จ่ายเกินตัว ก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกัน
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #12 เมื่อ: 16-12-2007, 21:28 »

ถ้า ปชป ออกป้ายหาเสียงประกบคู่กับ พปช โดยเอากราฟการเพิ่มลดของหนี้ในช่วง ปชป กับ ทรท เป็นรัฐบาล คงฮา 
บันทึกการเข้า
Pig.Army
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 374


Anti พาล-มิต


« ตอบ #13 เมื่อ: 18-12-2007, 01:58 »

เหรอ?
.
.
พปช. ก็พูดถูกแล้วนี่น่า
.
.
ไม่ต้องไปยก กราฟ ให้มันเมื่อยหรอกครับ
.
.
เอากระตังค์ขึ้นมาดูว่าตอน ปชป. ได้ เป็น รัฐบาล กะ ทรท. ได้เป็น ตอนไหนมีตังค์ใช้เยอะกว่า....
บันทึกการเข้า

  สงสัยจะดัง เลยมีคนเอาชื่อไปแอบอ้าง  ตัวจริงเสียงจริงมีคนเดียวน่ะครับ ถ้าพิมพ์แล้ว ไม่จุดเยอะๆ......ไม่ใช่ผมน่ะครับ

 (ขออภัยในบางประโยค อาจจะรุนแรงและแทงใจดำไปหน่อย)
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #14 เมื่อ: 18-12-2007, 02:31 »

เหรอ?
.
.
พปช. ก็พูดถูกแล้วนี่น่า
.
.
ไม่ต้องไปยก กราฟ ให้มันเมื่อยหรอกครับ
.
.
เอากระตังค์ขึ้นมาดูว่าตอน ปชป. ได้ เป็น รัฐบาล กะ ทรท. ได้เป็น ตอนไหนมีตังค์ใช้เยอะกว่า....

เอากระตังค์ใครขึ้นมาดูล่ะ ถ้ากระตังค์ของเหลี่ยมและญาติๆ ก็คงเยอะกว่า
สงสัยในป้ายเขียนตกไปบางคำ
ที่ถูกต้องเป็น

เลือกถูก.. เพิ่มเงินในกระเป๋าเหลี่ยม
พลังประชาชน.. ถนัดสร้างรายได้ให้ญาติๆ ของเรา(คนอื่นไม่เกี่ยว)


บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #15 เมื่อ: 18-12-2007, 02:44 »

Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,388


ปีหนูใหญ่ ไทยรวมพลัง!


ดูรายละเอียด ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
   
   
Re: ==ปชป.ออกมาโต้ป้ายหาเสียง พปช.บิดเบือนข้อมูลหนี้ครัวเรือน==
« ตอบ #14 เมื่อ: วันนี้ เวลา 01:31 »
   
ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง
อ้างจาก: Pig.Army ที่ วันนี้ เวลา 00:58
เหรอ?
.
.
พปช. ก็พูดถูกแล้วนี่น่า
.
.
ไม่ต้องไปยก กราฟ ให้มันเมื่อยหรอกครับ
.
.
เอากระตังค์ขึ้นมาดูว่าตอน ปชป. ได้ เป็น รัฐบาล กะ ทรท. ได้เป็น ตอนไหนมีตังค์ใช้เยอะกว่า....

เอากระตังค์ใครขึ้นมาดูล่ะ ถ้ากระตังค์ของเหลี่ยมและญาติๆ ก็คงเยอะกว่า
สงสัยในป้ายเขียนตกไปบางคำ
ที่ถูกต้องเป็น

เลือกถูก.. เพิ่มเงินในกระเป๋าเหลี่ยม
พลังประชาชน.. ถนัดสร้างรายได้ให้ญาติๆ ของเรา(คนอื่นไม่เกี่ยว)

เลือกถูก.. เพิ่มเงินในกระเป๋าเหลี่ยม
พลังประชาชน.. ถนัดสร้างรายได้ให้ญาติๆ ของเรา(คนอื่นไม่เกี่ยว)

โค้งสุดท้ายต้องเล่นกันแบบนี้ อย่าไปยกตัวเลขกับสถิติให้ชาวบ้าน
ฟังเลยครับ.....เอิ้กกกกก
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #16 เมื่อ: 18-12-2007, 02:48 »

เหรอ?
.
.
พปช. ก็พูดถูกแล้วนี่น่า
.
.
ไม่ต้องไปยก กราฟ ให้มันเมื่อยหรอกครับ
.
.
เอากระตังค์ขึ้นมาดูว่าตอน ปชป. ได้ เป็น รัฐบาล กะ ทรท. ได้เป็น ตอนไหนมีตังค์ใช้เยอะกว่า....

ตรรกะ ควายๆ จริงๆ
บันทึกการเข้า
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 18-12-2007, 03:57 »

เอาโปสเตอร์พรรคหนึ่งมาฝาก


* thaksinposter.gif (22.69 KB, 640x480 - ดู 509 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 18-12-2007, 04:00 »

อีกอันหนึ่ง ...


* courtposter.gif (21.38 KB, 640x480 - ดู 328 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #19 เมื่อ: 18-12-2007, 09:46 »

ว่าแต่ใครกันน้า เคยบอกว่า "หนี้ คือ โอกาส" ??? 
บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #20 เมื่อ: 18-12-2007, 17:31 »

เหรอ?
พปช. ก็พูดถูกแล้วนี่น่า
ไม่ต้องไปยก กราฟ ให้มันเมื่อยหรอกครับ
เอากระตังค์ขึ้นมาดูว่าตอน ปชป. ได้ เป็น รัฐบาล กะ ทรท. ได้เป็น ตอนไหนมีตังค์ใช้เยอะกว่า....

โดยมีสาเหตุมาจาก ปชป.ไม่มีนโยบายแจกเงิน
แต่ ทรท.แจกเงินผ่านกองทุนหมู่้บ้านหรือครับ 

..คิดง่ายดีเรื่องมีตังค์ใช้ ..
แต่เคยคิดไหมว่ามันดีกับประเทศชาติหรือเปล่า? 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #21 เมื่อ: 18-12-2007, 17:33 »

เอาโปสเตอร์พรรคหนึ่งมาฝาก



ชอบป้ายนี้มากครับ น่าเอาไปเผยแพร่จริงๆ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #22 เมื่อ: 18-12-2007, 18:13 »

เหรอ?
.
.
พปช. ก็พูดถูกแล้วนี่น่า
.
.
ไม่ต้องไปยก กราฟ ให้มันเมื่อยหรอกครับ
.
.
เอากระตังค์ขึ้นมาดูว่าตอน ปชป. ได้ เป็น รัฐบาล กะ ทรท. ได้เป็น ตอนไหนมีตังค์ใช้เยอะกว่า....
ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนถ้าดูรายได้คร่าว ๆ ขอบอกว่า nonsig. 

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: