ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 18:08
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  <<อริสมันต์ จะทำให้กทม เป็น World class Destination.เท่านคร.ปารีส >>เชื่อ.ป่ะ? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
<<อริสมันต์ จะทำให้กทม เป็น World class Destination.เท่านคร.ปารีส >>เชื่อ.ป่ะ?  (อ่าน 2782 ครั้ง)
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« เมื่อ: 16-12-2007, 14:44 »

เลือก อริสมันต์..แล้ว

   นายอริสมันต์ กล่าวว่า จะทำให้กรุงเทพฯ เป็น World class Destination ทำให้ กทม.เป็นมหานครเทียบเท่านครปารีส ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของประเทศเป็นหลักโดยเน้นจุดแข็งของเราที่มีการบริการที่ดี คนมีมนุษยสัมพันธ์และมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ดังนั้น เราจะสร้างหอพลังแผ่นดิน หรือ King Tower และ eye of Angle ที่พระราม 8 และปรับปรุงฝั่งธนฯ เป็นโอทอปการท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงอู่เรือพระราชพิธี สร้างอะควาเลียมปลาน้ำจืด และทำให้คลองบางกอกน้อยเป็นสายน้ำวัฒนธรรม

บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
goolnw
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 460


new goolnw


« ตอบ #1 เมื่อ: 16-12-2007, 15:12 »

ก็ตอนแรกหนังที่เฉินหลงเล่นเข้าจะมาถ่ายที่เมืองไทยแล้ว แต่เกิด
รัฐประหารซะก่อนเลยไปถ่ายที่ปารีส คิดดูละกันครับว่า เขามองขนาด
ไหน แล้วเราเสียโอกาศขนาดไหนทำไหมจะทำไม่ได้ละ  ที่ทำไม่ได้
ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกก็มีแต่คนคิดว่าทำไม่ได้ พอจะได้แล้วก็พยายาม
หาทางไม่ให้ตัวเองเสียหน้า ผมไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้นะแต่นิสัย
คนไทย(มั้ง)เป็นยังงั้นจริงๆ
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/goolnw
Goolnw ชอบสมัคร รักทักษิณ
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 16-12-2007, 15:18 »

ก็ตอนแรกหนังที่เฉินหลงเล่นเข้าจะมาถ่ายที่เมืองไทยแล้ว แต่เกิด
รัฐประหารซะก่อนเลยไปถ่ายที่ปารีส คิดดูละกันครับว่า เขามองขนาด
ไหน แล้วเราเสียโอกาศขนาดไหนทำไหมจะทำไม่ได้ละ  ที่ทำไม่ได้
ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกก็มีแต่คนคิดว่าทำไม่ได้ พอจะได้แล้วก็พยายาม
หาทางไม่ให้ตัวเองเสียหน้า ผมไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้นะแต่นิสัย
คนไทย(มั้ง)เป็นยังงั้นจริงๆ

linkinpark  avenged sevenfold  beyonce  avril lavigne ฯลฯ  <<<<< พวกนี้มีหัวใจรักและฝักใฝ่ ในเผด็จการครับ  เลยมาเล่นคอนเสริต ในประเทศไทย   


เพิ่มเติม

ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน
แดนเซล วอชิงตัน


เรื่องเฉินหลงมาไทย นั้น ก็มานี่ครับ แต่มาโปรโมรต หนังไม่ใช่หรอ ถ่ายหนังอะไรนั่น  ยังไม่ได้ยินเลยนะ

ฝากๆให้บทสัมภาส   http://forums.popcornfor2.com/index.php?showtopic=20888   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2007, 16:07 โดย หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ » บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #3 เมื่อ: 16-12-2007, 15:51 »

ก็ตอนแรกหนังที่เฉินหลงเล่นเข้าจะมาถ่ายที่เมืองไทยแล้ว แต่เกิด
รัฐประหารซะก่อนเลยไปถ่ายที่ปารีส คิดดูละกันครับว่า เขามองขนาด
ไหน แล้วเราเสียโอกาศขนาดไหนทำไหมจะทำไม่ได้ละ  ที่ทำไม่ได้
ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกก็มีแต่คนคิดว่าทำไม่ได้ พอจะได้แล้วก็พยายาม
หาทางไม่ให้ตัวเองเสียหน้า ผมไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้นะแต่นิสัย
คนไทย(มั้ง)เป็นยังงั้นจริงๆ
(ขอบพระคุณ ท่านพี่ กรูเตฟ  .. ที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ..ม่ายว่าลูกหิน)

อืมม..  พี่เฉินหลง ..เขา คงลืมไป 
 ว่า วันนั้น..  พี่แรมโบ้ (ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน).. เขาก็ยังอยู่
แรมโบ้  ยังม่ายกลัว ทหาร .. ประชาชนไทย เลยอุ่นใจ

เอ.. ว่าแต่ว่า ถ้าเลือก พี่อริสมันต์ ..แล้ว
เขาจะทำฉากให้ พี่เฉินหลงด๊วยหรือฮะ ?
 

..
ว่าไปแล้ว ช่วง..เผด็จการครองเมือง..
ที่เมืองไทย เขาฮิต.. เจ็ท ลี ..มากกว่า นา

เจ็ท ลี:(กล่าว )ท่านทักษิณ ..หายหัวไปไหน?





 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2007, 16:46 โดย ลูกหินฮะ๛ » บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
varada
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,193



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 16-12-2007, 16:44 »

กลัวจะเป็นการคิดโปรเจคหาเรื่องแดร๊ก แบบสุวรรณภูมิอีกหน่ะสิ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #5 เมื่อ: 16-12-2007, 17:19 »

เลือก อริสมันต์..แล้ว

   นายอริสมันต์ กล่าวว่า จะทำให้กรุงเทพฯ เป็น World class Destination ทำให้ กทม.เป็นมหานครเทียบเท่านครปารีส ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของประเทศเป็นหลักโดยเน้นจุดแข็งของเราที่มีการบริการที่ดี คนมีมนุษยสัมพันธ์และมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ดังนั้น เราจะสร้างหอพลังแผ่นดิน หรือ King Tower และ eye of Angle ที่พระราม 8 และปรับปรุงฝั่งธนฯ เป็นโอทอปการท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงอู่เรือพระราชพิธี สร้างอะควาเลียมปลาน้ำจืด และทำให้คลองบางกอกน้อยเป็นสายน้ำวัฒนธรรม


ก็เป็นไอเดียที่ดีครับ แต่ทำไมเพิ่งมาพูด?
ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าเพิ่งคิดได้เมื่อวาน

ที่สำคัญทำไมต้องให้พลังประชาชนมาทำ
เลือกพรรคอื่นเขาก็ทำได้เหมือนกันครับ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ลับ ลวง พราง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 945



« ตอบ #6 เมื่อ: 16-12-2007, 18:01 »

แค่กรุงเทพเมืองแฟชั่น ยังเหลวไม่เป็นท่า
บันทึกการเข้า

"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #7 เมื่อ: 16-12-2007, 19:23 »

ต้องเข้ามาบอกน้องกี้เค้าหน่อย ก่อนที่จะออกทะเล

วันนี้ นั่งดูน้องกี้ทางช่อง 3 ก็ต้องขอชมว่า ควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก ผิดกับหัวหน้าพรรคว่ะ น่าจะเอาไปตัดคอทิ้งนัก แต่ก็ยังอุตส่าห์พยายามจะพูดเรื่อง สปก 4-01 ให้ได้ แผ่นเสียงตกร่องจริงๆนะ คนพรรคนี้นี่ จนเค้าเคลียร์กันไปหมดแล้ว ยังเก็บเอามาพูดอีก เพ้อเจ้อไม่หยุดหย่อน แต่เอาละ มาดูสิ่งที่น้องกี้พยายามนำเสนอกันดีกว่า

น้องพยายามนำเสนอว่า จะพยายามทำเมืองหลวงของเรานี้ให้เป็นเมืองหลวงที่เทียบได้กับปารีสกับ ลอนด้อน ว๊าวววววว ว่าเข้าไปนั่นเลยนะ น้องกี้บอกว่า ปารีสมีคนเข้าไปเที่ยวถึง 79 ล้านคน แต่ของ กทม มีแค่ 13 ล้าน ดังนั้น น้องกี้ก็อยากจะเพิ่มศักยภาพ กทม ให้เท่าหรือใกล้เคียงกับปารีสให้ได้

คืองี้นะ น้องกี้นะ จะเอา กทม ไปเปรียบกับปารีสในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวนั้น ไม่ได้แน่ๆ เพราะ ......

1 เงื่อนไขการท่องเที่ยวของชาวยุโรปนั้น ไปเที่ยวปารีส มันก็ไม่ต่างกันนักกับการที่คน กทม ไปเที่ยวอยุธยา มันง่ายขนาดนั้นนั่นแหละ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรกันมากมาย แค่จัดกระเป๋า เตรียมพาสปอร์ต แล้วเดินทางได้เลย

2 ถ้าจะเข้ามาเที่ยวเอเซีย มันไม่ใช่เรื่อง่ายเหมือนเที่ยวในยุโรป เพราะอย่างแรกเลยคือ แพง แพงกว่ามาก แพงกว่าเห็นๆ คนยุโรปไม่ใช่คนมีเงินเหมือนอย่างที่เราคิดกัน กว่าจะมากันได้ เขาต้องวางแผนกันเกือบครึ่งปี ไม่ใช่นึกอยากจะมา ก็มากันได้ง่ายๆเหมือนอย่างไปปารีส

ดังนั้น การที่เมืองปารีสจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวถึง 79 ล้านคนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และการที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวบ้านเราเพียง 13 ล้านคน ก็ถือว่ามากโขอยู่แล้ว ดังนั้น ก่อนที่จะออกทะเลไปมากกว่านี้ น้องกี้น่าจะหยุดเล่นเรื่องนี้ได้แล้ว อายเค้านะ

ประการสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวที่บอกว่า 13 ล้านคนนั้น มันคือจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ ใน 1 ปี ไม่ใช่จำนวนนักท่องเที่ยวเฉพาะ กทม

อ้าว .... มีตั้ง 13 ล้านเชียวเหรอ ไหงเป็นงั้นล่ะ เพราะเมื่อปี่สองปีก่อน ยังไม่ถึง 10 ล้านเลยอ้ะ แล้วปีนี้มันเป็น 13 ล้านไปได้ยังงัยล่ะเนี่ย การปฏิวัติไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลงเลยเหรอ แล้วที่ออกมาโจมตีกันล่ะว่า ปฏิวัติ ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง แล้วมันยังงัยกันล่ะเนี่ย ฉันละงง

ไม่ต้องตอบก็ได้นะ น้องกี้ นะ ฉันรู้ว่า เธอน่ะ เบลอ แล้วละ เบลอจนเอ๋อ ไปแล้ว

จากคุณ : มนัญยา

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6013727/P6013727.html

    
บันทึกการเข้า
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #8 เมื่อ: 16-12-2007, 19:33 »

เลือก อริสมันต์..แล้ว

   นายอริสมันต์ กล่าวว่า จะทำให้กรุงเทพฯ เป็น World class Destination ทำให้ กทม.เป็นมหานครเทียบเท่านครปารีส ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของประเทศเป็นหลักโดยเน้นจุดแข็งของเราที่มีการบริการที่ดี คนมีมนุษยสัมพันธ์และมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ดังนั้น เราจะสร้างหอพลังแผ่นดิน หรือ King Tower และ eye of Angle ที่พระราม 8 และปรับปรุงฝั่งธนฯ เป็นโอทอปการท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงอู่เรือพระราชพิธี สร้างอะควาเลียมปลาน้ำจืด และทำให้คลองบางกอกน้อยเป็นสายน้ำวัฒนธรรม



เอิ๊กๆๆๆ  ช่วงนี้แมงโม้เยอะจังงงงงงงง


บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
truly
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 253


« ตอบ #9 เมื่อ: 16-12-2007, 21:03 »

เดี๋ยวคนอีสานเขาจะน้อยใจนะพี่กี้
อุตส่าห์เชียร์พรรคของพี่เป็นพิเศษ
แต่พี่ดันจะมาทุ่มงบมหาศาลแถวกทม.นี่...
แล้วโยนเศษฟาง 2-3 เส้นไปให้พวกนั้นเหรอ...
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #10 เมื่อ: 17-12-2007, 02:26 »


มาดูผลงานด้านท่องเที่ยวที่ผ่านมา...
 


ปี2546...
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=18/Nov/2546&news_id=79234&cat_id=600
อ้างถึง
แม้วหน้าบาน80เศรษฐีโลก ประเดิมบัตรไทยแลนด์อีลิท

18 พฤศจิกายน 2546    กองบรรณาธิการ

"แม้ว" ประเดิมขาย "ไทยแลนด์อีลิทการ์ด" ใบละล้านให้ 80 มหาเศรษฐี คนดังระดับโลก อดีตนายกญี่ปุ่นนำทีมนักธุรกิจ ประธานไชน่ายูนิคอม-ซิตี้กรุ๊ปนำร่องตัวแทนจีน

    ประธานฟาวเท่นแคปิตอลจีอี   เยอรมัน ยูโรเปี้ยนเครดิตจากอังกฤษ ลุยเป้าปีแรก 1 แสนคน 5 ปี ครบ 1 ล้านคน รายได้ 1 ล้านล้านบาท ระดมทูต-ไฮโซเปิดตัวอลังการ
    แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยแลนด์  พริวิเลจ  คาร์ด  จำกัด ผู้บริหารโครงการ "บัตรไทยแลนด์อีลิท" บัตรสมาชิกท่องเที่ยวระดับสูงของไทยบัตรแรกของโลก  เปิดเผยว่าในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้มอบบัตรไทยแลนด์อีลิทแก่มหาเศรษฐีและบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก  80  คนแรกที่เข้าเป็นสมาชิก  โดยเตรียมงานเลี้ยงรับรองพร้อมมีคณะรัฐมนตรี  ทูตานุทูต และบุคคลระดับสูงของไทยร่วมต้อนรับและเป็นสักขีพยาน พร้อมเปิดตัวบัตรไทยแลนด์อีลิทอย่างเป็นทางการ

3 ปีผ่านไป...
http://parcy.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=42830
อ้างถึง
          บัตรอีลิท เป็นหนึ่งในโครงการที่เกิดขึ้นในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2546 ซึ่งในครั้งนั้น “ทักษิณ” ต้องการหาแม่เหล็กที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยว นักธุรกิจกระเป๋าหนักทั้งหลายให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และมาใช้จ่ายแบบ ชั่วชีวิตในประเทศไทย
          ด้วยการแลกกับการดูแลอย่างดีจากรัฐบาลไทย ตั้งแต่ก้าวลงจากเครื่องบิน และตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในประเทศ ก็จะได้รับการดูแลอย่างดีเหมือนกับเป็นแขกของประเทศ
          แนวคิดดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ขณะนั้น จุฑามาศ ศิริวรรณ นั่งในตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. โดย ททท.ได้เข้ามารับผิดชอบโครงการนี้ และตั้งบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด หรือ ทีพีซี ขึ้นเพื่อบริหารบัตรดังกล่าว ด้วยทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท ซึ่ง ททท.ได้ชำระทุนจดทะเบียนไปแล้วครึ่งหนึ่ง หรือ 500 ล้านบาท
          ทั้งนี้ ทีพีซี ได้ตั้งราคาบัตรนี้ไว้ที่ 1 ล้านบาทต่อใบสำหรับบุคคลธรรมดา และใบละ 2 ล้านบาทสำหรับนิติบุคคล โดยแลกกับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเข้าประเทศไทยโดยผ่านช่องตรวจพิเศษไม่ต้องรอคิว เหมือนกับนักท่องเที่ยวรายอื่น มีรถลีมูซีนให้บริการตลอดเวลา และในช่วงแรกยังมีแนวคิดว่าจะมีรถตำรวจนำด้วย แต่แนวคิดนี้ถูกคัดค้านจากหลายฝ่ายทำให้ต้องยกเลิกไป การให้สิทธิสมาชิกใช้บริการสปา และสนามกอลฟ์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตลอดอายุสมาชิก หรือจนกว่าจะตายไปนั่นเอง
          ในช่วงแรก รัฐบาลตั้งเป้าฝันหวานว่าจะขายบัตรดังกล่าวให้ได้ 1 ล้านใบ 1 ล้านสมาชิก ใน 5 ปีแรก นั่นหมายความว่าประเทศไทยจะมีเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่ยังไม่เคยมีรัฐบาลใดทำได้ และยังไม่นับรวมไปถึงเงินค่าใช้จ่ายที่สมาชิกบัตรอีลิท จะต้องใช้ในช่วงที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยอีกเป็นจำนวนมาก
          รัฐบาลและ ททท.ฝันว่าโครงการนี้จะต้อง ได้รับความสนใจ และมียอดขายเกิดขึ้นจำนวนมาก และจะกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ เวิลด์ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ทำให้ ทีพีซี วางแผนจะลงทุนสร้างคลับเฮาส์สำหรับสมาชิกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเป็นที่พบปะสังสรรค์ระหว่างสมาชิกด้วยกันอีก รวมถึงสนามกอล์ฟ และโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อให้บริการสมาชิก อย่างสวยหรู
          แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะโครงการนี้ไม่สามารถสร้างยอดสมาชิกได้อย่างที่ฝันไว้ เนื่องจากโครงการนี้ไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างมากนัก รวมถึงยังไม่มีความอลังการอย่างที่รัฐบาลต้องการให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลต้อนรับลูกค้าที่ว่าจะต้องทำให้ได้เหมือนกับราชา ก็ไม่สามารถทำได้ สิทธิประโยชน์ในการลงทุนต่างๆ ของสมาชิกบัตรก็ไม่ได้แตกต่างจากนักลงทุนทั่วๆ ไปเท่าใดนัก ทำให้สมาชิกบัตรไม่สามารถเป็นไฮโซได้อย่างที่คิดไว้
          สิ่งที่ดูไฮโซมากที่สุดของบัตรนี้ เงินเดือนพนักงานทีพีซีนั้นสูงกว่าบริษัทเอกชนมากมายนัก ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของทีพีซีนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
          ปัจจุบันนี้ บัตรอีลิท สามารถทำยอดจำหน่ายได้เพียง 1.7 พันใบเท่านั้น ขณะที่เป้าขายในปี 2549 จะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนใบแล้ว แม้ว่าทางทีพีซีจะเปลี่ยนผู้บริหารมาหลายต่อหลายคน แต่ทุกอย่างก็ไม่ดีขึ้น ยอดขายยังคงล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง
          แม้ว่าผู้บริหารทีพีซีออกมาให้ข่าวว่าได้ปรับลดยอดสมาชิกจาก 1 ล้านใบ เหลือเพียงหลักหมื่นใบ ด้วยถ้อยคำที่แสนสวยหรูว่าเพื่อที่จะได้ดูแลลูกค้าให้ได้อย่างทั่วถึง แต่เป้าดังกล่าวก็เป็นไปได้แค่ความฝัน ในขณะเดียวกัน บริษัทก็มีรายจ่ายอย่างต่อเนื่อง จากการเข้าไปบริการสนามกอล์ฟ และสปา ของสมาชิกบัตร โดยไม่ได้มีการนำเงินมาลงทุนเหมือนกับที่รัฐบาลคิดเอาไว้
          และเมื่อบริการของบัตรอีลิท ไม่อีลิท เหมือนอย่างที่โฆษณาไว้อย่างสวยหรู สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อฝ่ายบริหารทีพีซี ประกาศขายบัตรอีลิท ในราคาเพียง 3 แสนบาทเท่านั้น สำหรับตลาดครอบครัวที่มีเงื่อนไขว่า เพียงสมาชิกคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ถือบัตรอยู่แล้ว สมาชิกในครอบครัวก็สามารถซื้อบัตรอีลิทได้ในราคา 3 แสนบาทเท่านั้น
          ราคา 3 แสนบาทเพื่อแลกกับอายุบัตรตลอดชีพ และบริการสมาชิกจะได้รับนั้น ถือว่าคุ้มค่ามากเหลือเกิน เพราะหากเทียบกับราคาสมาชิกสนามกอล์ฟ เกรดเอ ของเมืองไทยแล้ว บัตรอีลิทยังมีราคาค่าตัวต่ำกว่ามาก
          ราคาค่าสมาชิกทั้ง 1 ล้านบาท และ 3 แสนบาทนั้น กลายเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นสิงค์โปร์ ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ต่างต้องการซื้อบัตรนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากระยะทางเดินทางมาเมืองไทยนั้นแสนง่าย เมื่อแลกกับการเข้าไปเล่นกอล์ฟ และเข้าคอร์สสปาแบบไม่จำกัด ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก และคนที่เสียเปรียบมากสุดคือ ทีพีซี ที่ต้องตามไปจ่ายค่าใช้บริการของสมาชิกบัตร แบบไม่หยุดหย่อน
          ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ขณะนี้ ทีพีซี เหลือเงินสดอยู่ในมือเพียง 500 ล้านบาทเท่านั้น จากรายได้ที่เก็บจากค่าสมาชิกไว้มากถึง 1.7 พันล้านบาท ลองเปรียบเทียบดูก็จะรู้ว่า คุ้มค่าหรือไม่ และเมื่อดูในรายละเอียดด้านการเงินนับแต่ก่อตั้งในปี 2546 บริษัทยังประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2546 ขาดทุน 136 ล้านบาท ปี 2547 ขาดทุน 251 ล้านบาท ปี 2548 ขาดทุนประมาณ 500 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2549 ก็จะขาดทุนเช่นเดียวกัน
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาเอกชนหลายรายในวงการท่องเที่ยวยืนยันว่า โครงการนี้ทำให้ ตายก็ไม่ได้กำไร เพราะสิทธิประโยชน์ผูกพันมากเกินไป และไม่มีข้อกำหนดในเรื่องของค่าใช้จ่ายว่าสมาชิกต้องเข้ามาใช้จ่ายอะไรบ้าง จะมีก็แต่เราจะให้อะไรกับเขาบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นความเสียเปรียบของประเทศไทยอย่างมาก เพราะทุกอย่างได้ทำสัญญาอย่างชัดเจนว่าลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไร ตลอดอายุการใช้งาน หรือตลอดอายุขัย
          นอกจากนี้ กฎระเบียบต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างกรณีที่สมาชิกส่วนใหญ่ยังต้องการกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดิน 1 ไร่ ซึ่งเดิมทีทีพีซีเคยประกาศว่าพร้อมเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาซื้อได้หากลง ทุนในประเทศไทย 40 ล้านบาท แต่ในที่สุดก็ยังติดขัดในข้อกฎหมาย ทำให้ต้องยกเลิกแผนนี้ไปในที่สุด ทำให้ความน่าเชื่อถือของบัตรนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
          ล่าสุด ทีพีซี ได้ปรับเปลี่ยนแพ็กเกจใหม่เป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.อีลิท โมเมนต์ ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นการให้บริการด้านการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เช่น การเล่นกอล์ฟ การให้บริการสปาชั้นนำ การใช้บริการท่าเรือยอชต์ เป็นต้น 2.อีลิทลิฟวิง เป็นการเน้นการให้บริการทางด้านการรักษาโรค หรือผู้ที่ต้องการพักนานวัน(ลองสเตย์) การมาเพื่อศัลยกรรมสวยงาม ทำฟัน ทำเลสิก ฯลฯ 3.อีลิท คอนเนกชัน เป็นการประสานด้านการลงทุนในประเทศไทยให้กับสมาชิกบัตร ซึ่งจะมีการติดต่อหรือนัดหมายกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่สมาชิกบัตร แต่ทั้ง 3 แพ็กเกจก็ยังไม่สามารถสร้างยอดขายได้มากนัก
          จะเห็นได้ว่า โครงการบัตรอีลิทนั้นไม่ได้ช่วยให้ประเทศไทยมีหน้ามีตา หรือได้รับประโยชน์จากสมาชิกบัตรเท่าใดนัก แต่หากจะยกเลิกก็คงต้องมารอดูว่า สมาชิกกว่า 1 พันรายที่มีอยู่นั้นจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่ เพราะประเทศไทยไปผิดสัญญาในเรื่องของอายุบัตรเองเรื่องนี้คงต้องรอดูต่อไป ว่า รัฐบาลนี้จะแก้ "ขยะใต้พรม" ของรัฐบาลทักษิณได้แค่ไหน--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #11 เมื่อ: 17-12-2007, 02:46 »

สี่ปีก่อนบอก Talk of the World...
ปีนี้บอก World class Destination...

เหอๆๆๆ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 17-12-2007, 10:25 »

สมองมันไม่ต่างจากสมองไอ้หูกางหรอกครับ

ซวยจริงๆครับ ประเทศนี้มีแต่พวกจมูกหมู สมองหมา ปัญญาควาย แถมชั่วอีกต่างหาก แล้วบอกจะมาเป็นตัวแทนประชาชน
บันทึกการเข้า

.
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #13 เมื่อ: 17-12-2007, 13:36 »

ก็ตอนแรกหนังที่เฉินหลงเล่นเข้าจะมาถ่ายที่เมืองไทยแล้ว แต่เกิด
รัฐประหารซะก่อนเลยไปถ่ายที่ปารีส คิดดูละกันครับว่า เขามองขนาด
ไหน แล้วเราเสียโอกาศขนาดไหนทำไหมจะทำไม่ได้ละ  ที่ทำไม่ได้
ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกก็มีแต่คนคิดว่าทำไม่ได้ พอจะได้แล้วก็พยายาม
หาทางไม่ให้ตัวเองเสียหน้า ผมไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้นะแต่นิสัย
คนไทย(มั้ง)เป็นยังงั้นจริงๆ
^
^
^
^
หน้าแหก   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2007, 14:02 โดย ไร้นาม......... » บันทึกการเข้า
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #14 เมื่อ: 17-12-2007, 19:23 »

เลือก อริสมันต์..แล้ว

 นายอริสมันต์ กล่าวว่า จะทำให้กรุงเทพฯ เป็น World class Destination ทำให้ กทม.เป็นมหานครเทียบเท่านครปารีส

เชื่อ..ป่ะ?!

*    ม่ายเชื่อ .....  !!

     จะทำให้  บางกอก  บ้านเราเป็น ปารีส   เนี่ยยยนะ .........................

     สั้น ๆ ง่าย ๆ  ค่ะ
      >>  เพ้อเจ้อ  +  ฟุ้งซ่าน   <<     
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #15 เมื่อ: 18-12-2007, 18:30 »

สมัยไอ้หมักหาเสียงผู้ว่า กทม

มันเคยพ่นว่า

จะทำกรุงเทพให้เป็นศูนย์กลางการประชุมของโลก

โดยจะสร้างที่ประชุมขนาดใหญ่ไว้

แล้วไหนล่ะ

เห็นแต่งาบโครงการขยะ กะรถดับเพลิง
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
.
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #16 เมื่อ: 18-12-2007, 19:13 »

ทำไมไม่ทำให้กรุงเทพเป็นกรุงเทพหละครับ  ไอที่มันวิบัติ อัปรีกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะไปกระแดะตามกระแสนิยมต่างชาติหรอกเหรอ  คนจะเป็นนักการเมือง ทำไมสมองมันมีน้อยนิดจัง ไอที่มีอยู่หัดเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สักหน่อยเถอะ  แก่ขึ้นเยอะนะอริสมัน สงสัยจะนอนฝันเปียกมาหลายคือน
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #17 เมื่อ: 18-12-2007, 20:15 »

สมัยไอ้หมักหาเสียงผู้ว่า กทม

มันเคยพ่นว่า

จะทำกรุงเทพให้เป็นศูนย์กลางการประชุมของโลก
โดยจะสร้างที่ประชุมขนาดใหญ่ไว้
แล้วไหนล่ะ

เห็นแต่งาบโครงการขยะ กะรถดับเพลิง


มีโครงการนี้ด้วยหรือครับ ยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวไปใหญ่..

ขนาดอดีตผู้ว่าพิจิตต ที่นึกไม่ค่อยออกว่ามีผลงานอะไร
อย่างน้อยยังปลูกต้นไม้เอาไว้เต็มกรุงเทพ

ที่สำคัญทำเขื่อนกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้
ถึง 50 กิโลเมตรจากโครงการทั้งหมด 80 กิโลเมตร
ยุคสมัครไม่ได้ทำต่อเลย เพิ่งมาทำต่อสมัยอภิรักษ์

ของคุณสมัครเห็นมีโครงการเดียวคือทำที่จอดรถเอาไว้
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครน่ะครับ
เคยเห็นอ้างเอาไว้แค่เรื่องเดียวจริงๆ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #18 เมื่อ: 18-12-2007, 20:45 »

มีโครงการนี้ด้วยหรือครับ ยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวไปใหญ่..

ขนาดอดีตผู้ว่าพิจิตต ที่นึกไม่ค่อยออกว่ามีผลงานอะไร
อย่างน้อยยังปลูกต้นไม้เอาไว้เต็มกรุงเทพ

ที่สำคัญทำเขื่อนกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้
ถึง 50 กิโลเมตรจากโครงการทั้งหมด 80 กิโลเมตร
ยุคสมัครไม่ได้ทำต่อเลย เพิ่งมาทำต่อสมัยอภิรักษ์

ของคุณสมัครเห็นมีโครงการเดียวคือทำที่จอดรถเอาไว้
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครน่ะครับ
เคยเห็นอ้างเอาไว้แค่เรื่องเดียวจริงๆ 

คอนเฟิร์มครับว่าจริง
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
ลูกหินฮะ๛
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,099


เสียเข็มขัด อย่าเสียกุงเกง


« ตอบ #19 เมื่อ: 23-12-2007, 23:30 »

" ผมไม่ได้ แพ้.!  ที่แพ้..ผมแพ้เทคนิค ตุกติก..
ผมทำงานหนักทุกรูปแบบ ! ..หนักมากขนาดไหน? ใครๆ.. ก้อเห็น "

 


อาจจะเจ็บและอาย ... เพราะใจไม่เจียม
ภายในใจไหม้เกรียม...ด้วยไฟรักแผดเผา
ใครจะเป็นเหมือนเรา..แอบรักเค้าอยู่ข้างเดียว

-----------------------------------------------------------------------

 
  คนกรุงเทพฯ มันขี้โกง..ม๊างงง??



บันทึกการเข้า

  ... ... ... 
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 23-12-2007, 23:42 »

แต่ได้บรู๊คมาแทนนี่ดิ ดีใจแทนกบดีกว่า จะได้แต่งซะที บรู๊คจะได้มีข้อวอแวมาอ้างไม่แต่งอีก
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 23-12-2007, 23:54 »

" ผมไม่ได้ แพ้.!  ที่แพ้..ผมแพ้เทคนิค ตุกติก..
ผมทำงานหนักทุกรูปแบบ ! ..หนักมากขนาดไหน? ใครๆ.. ก้อเห็น "

 


อาจจะเจ็บและอาย ... เพราะใจไม่เจียม
ภายในใจไหม้เกรียม...ด้วยไฟรักแผดเผา
ใครจะเป็นเหมือนเรา..แอบรักเค้าอยู่ข้างเดียว

-----------------------------------------------------------------------

 
  คนกรุงเทพฯ มันขี้โกง..ม๊างงง??





  

บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


varada
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,193



เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 23-12-2007, 23:55 »

ร่วงไปอีกหนึ่ง
บันทึกการเข้า
phutorn connection
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 263



« ตอบ #23 เมื่อ: 24-12-2007, 16:52 »

อุตสาหกรรมไอทีวิกฤตหนัก ยักษ์ใหญ่ ไอบีเอ็ม-ไมโครซอฟท์ ขนทุนไปเวียดนาม เหตุภาครัฐไม่ส่งเสริม ทำบริษัทไทย

แหล่งข่าววงการไอที กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมไอที โดยเฉพาะสาขาซอฟต์ แวร์ และการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เอง ถือว่าไทยยังล้าหลังผู้ประกอบการจากต่างชาติ โดยจะเห็นว่ามีบริษัทคนไทยที่ดำเนินกิจการดังกล่าวไม่ถึง 5 ราย ซึ่ง แต่ละรายล้วนเป็นรายย่อย ส่งผลให้ไทยจำเป็นต้องจ้างบริษัทจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย มารับผิดชอบโครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน

สาเหตุสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมไอทีไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง เนื่องจากภาครัฐไม่มีนโยบายในการส่งเสริมอุตสาห กรรมด้านนี้ หากเปรียบเทียบกับประเทศเวียดนามที่ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติไปตั้งฐานการผ ลิตอุปกรณ์ไอทีในประเทศ ซึ่งมีการจูงใจเพื่อมุ่งให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ต่างจากประเทศไทยที่ภาครัฐไม่มีความชัดเจนด้านกฎหมาย หรือแม้ แต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้บริษัทระดับโลกอย่างไอบีเอ็ม และไมโครซอฟท์ ไม่สนใจที่จะลงทุนในไทย อีก

“ข้อเสียนี้จะส่งผลให้ไทยล้าหลังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้ใน 2-3 ปี ไทยจะล้าหลังประเทศอื่นๆ เช่น พม่า และอินโดนีเซีย” แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการตั้งสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า แต่ส่วนใหญ่ จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมแอนิเมชัน หรือซอฟต์แวร์ระบบเปิด (โอเพนซอร์ส) แต่โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมไอที ทั้งหมดยังไม่ดีขึ้นชัดเจน จึงต้องการให้ ตั้งสำนักงานเพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้าน ไอทีเพิ่มมากขึ้นอีก และมีการดำเนินงานเช่นเดียวกับซิป้า

แหล่งที่มา โพสทูเดย์

ข่าวเก่าเมื่อต้นปีที่แล้ว เอามาให้ทาสทักกี้มาชื่นชม 
บันทึกการเข้า

หลังจาก วาทะ"บกพร่องโดยสุจริต"ของอาชญากรหนีคดี ประชาชนได้ให้โอกาส แต่ไม่เคยได้ให้อภัยคนคนนี้

หลายคนบอกว่าสิ่งที่ทักษิณทำก็เหมือนนักธุรกิจคนอื่นๆนั่นแหละ ไม่ว่าหนีภาษี ซุกหุ้น ซื้อนักการเมืองเป็นพวก แต่สิ่งที่คนเหล่านั้นลืมมองคือ ทักษิณมีอำนาจ นอกเหนือจากเงินทองในขณะที่นักธุรกิจคนอื่นไม่มี อำนาจที่สามารถชี้เป็นชี้ตายข้าราชการ อำนาจในการใช้กฏหมาย อำนาจในการตรากฏหมาย แต่สิ่งที่ทักษิณมีเหมือนนักธุรกิจคนอื่น คือ ความโลภ เมื่อความโลภรวมกับอำนาจ และสิ่งที่ทำร้ายทักษิณในปัจจุบันคือ ความโลภนี่เอง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: