ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 09:21
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==“มาร์ค-หมัก” ดีเบตวิสัยทัศน์ศีลธรรมการเมือง ที่วัดสวนแก้ว== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==“มาร์ค-หมัก” ดีเบตวิสัยทัศน์ศีลธรรมการเมือง ที่วัดสวนแก้ว==  (อ่าน 1640 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 26-11-2007, 05:40 »

ที่เว็บกรุงเทพธุรกิจลงแต่ของอภิสิทธิ์ ไม่มีของสมัคร ไปเจอที่เดลินิวส์มีแต่สมัคร แต่ของอภิสิทธิ์มีนิดเดียว
ก็เลยตัดสินใจเอาของกรุงเทพธุรกิจ กับของเดลินิวส์เฉพาะส่วนบทสมัครมาลงนะครับ 
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระพยอมสวดการเมือง'น้ำเน่า' ต้องเติมออกซิเจน-ให้ดีขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com/2007/11/25/WW10_WW10_news.php?newsid=205565
25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 14:41:00

พระพยอม สวดการเมือง “น้ำเน่า” จึงต้องเติม ออกซิเจน เชิญ “มาร์ค-หมัก” ดีเบต วิสัยทัศน์ ศีลธรรมการเมือง
อ้อน ขอทีวีสาธารณะ กระตุ้นคุณธรรม “อภิสิทธิ์” เอาใจ ตั้งเป็นที่ปรึกษาแผ่นดิน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี มูลนิธิสวนแก้ว ร่วมกับหนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน
จัดสัมมนาวาระพิเศษ เรื่อง การเมืองเรื่องศีลธรรม ดำเนินรายการโดย พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ)
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เสวนาร่วมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสมัคร สุนทรเวช
หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งการเสวนาได้แบ่งคนละช่วงเวลา ภาคเช้าพระพยอม เสวนากับนายอภิสิทธิ์ ส่วนภาคบ่าย
เป็นของนายสมัคร ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งญาติโยมที่มาฟังธรรมเทศนาจากพระพยอม
รวมทั้งส่วนหนึ่งเป็นพวกผู้สนับสนุนแต่ละพรรคการเมือง โดยในช่วงเช้ามีประชาชนมาร่วมฟังการเสวนากว่า 1,000 คน

พระพยอม กล่าวเปิดเวทีเสวนาว่า มีหลายคนบ่นว่าการเมืองแย่ การเมืองน้ำเน่า อาตมาขอถามว่าหากมีน้ำเน่าที่ไหน
การเติมอากาศเข้าไปให้ดีขึ้น สมควรทำหรือไม่ ส่วนที่มีบางคนบอกว่าพระพยอมไม่ควรจัดงานเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์
แต่ถ้าจัดงานแล้วทำให้ดีขึ้น จะเสียหายตรงไหน ซึ่งทางวัดสวนแก้วก็ได้ทำมานานกว่า 19 ปีแล้ว ความรู้การเมืองเป็น
ปัญหาชนิดหนึ่ง ถ้าชาวบ้านโง่ เลือกนักการเมืองแบบไม่มีถ่วงดุล เช่น พื้นที่ภาคเหนือเป็นของพรรคไทยรักไทย
ส่วนพื้นที่ภาคใต้ เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนี้เวลาเขาโกงลำไย เราไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ 10 ที่เขาจะไป
ตรวจสอบได้อย่างไร การจัดงานครั้งนี้ก็เหมือนกับการเอาออกซิเจนมาเต็มน้ำจะได้สะอาดขึ้น และเอาน้ำดีมาเต็ม
ให้การเมืองดีขึ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่การเมืองในปัจจุบันต้องการมากที่สุดคือ เรื่อง คุณธรรม ถ้าไม่ให้องค์กรทางศาสนาทำให้
การเมืองมีคุณธรรม แล้วจะให้ใครทำ องค์กรทางศาสนาไม่สามารถกระตุ้นให้คุณธรรมเข้ามาสู่การเมือง หมายความว่า
บ้านเมืองละเลยเรื่อง พื้นฐานที่สำคัญที่สุด ตนขอย้ำว่านโยบายวาระประชาชน เพราะเป็นนโยบายที่ทำขึ้นโดยประชาชน
และเพื่อประชาชน และยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมตั้งแต่ตั้ง การทำ
นโยบายใครก็ทำได้ แต่คนทำไม่มีคุณธรรม ไม่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ยึดแต่ผลประโยชน์พวงพ้อง
สิ่งดีๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นกับประเทศ สำหรับวาระประชาชนของพรรคประชาธิปัตย์ มีทั้งหมด 4 เรื่อง คือ

1.ฟื้นฟูประชาธิปไตย 2.แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ 3.พัฒนาคน และ 4.แก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

โดยในเรื่องการการฟื้นฟูประชาธิปไตยนั้น ไม่ได้หมายความแค่การเลือกตั้งหยุดแค่การเลือกตั้ง การฟื้นฟูไม่ใช่เรื่อง
การเลือกตั้งเสียงข้างมากน้อย การเลือก ตั้งที่จะมาถึงต้องรณรงค์ไม่ให้ซื้อสิทธิ์ขายเสียง

พระพยอม ได้สอบถามว่า ที่ผ่านมามีกรณีพระประพฤติผิดเช่น เสพเมถุน ใช้กระดูกเด็กป่นทำจตุคาม จะคุ้มครองศาสนา
จากคนเหล่านั้นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หน้าที่ทำนุบำรุงศาสนาต้องส่งเสริมให้เข้าใจ ถ้าคนที่มาอาศัยวงการ
ศาสนาหากินทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งเป็นความผิดต่อแผ่นดินต้องลงโทษทางอาญา มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง นอกจาก
พ้นผ้าเหลือง ต้องตามติดไปลงโทษด้วย พระพยอมได้ถามอีกว่า หากให้สัญญาต่อประชาชนเป็นกรณีพิเศษต่อหน้า
พระพยอมจะสัญญาอะไรต่อประชาชนบ้าง นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ต้องกราบเรียนพระคุณท่าน ผมสัญญา
ไม่ได้เดี๋ยวกกต.จะเล่นงาน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำการเมืองมีหลักคือไม่ต้อง สัญญาหรือท้าสาบาน ทุกคำพูดผมต้องรับผิดชอบ

พระพยอม ซักอีกว่า หากเวทีนี้มีนักการเมืองเรียงกันหลายพรรค มีนายสมัครอยู่ด้วยอยากจะพูดอะไรสัก 2-3 คำหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ก่อนอื่นต้องยกมือไหว้ท่านเพราะเป็นผู้อาวุโส เมื่อถึงช่วงนี้มีประชาชนที่มาฟังตะโกนหยอกล้อว่า
นายสมัครไม่รับไหว้ พระพยอมพูดตัดบทว่า หากไม่รับไหว้ก็กองไว้ตรงนั้นแหละ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ได้แต่ยิ้มๆก่อนกล่าว
อีกว่า แต่คราวที่ท่านไม่รับไหว้เพราะบอกไม่เห็น แต่คราวนี้ถ้าบอกไม่เห็นไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งควรเสนอ
ทางเลือก เสนออนาคตให้ประชาชนตัดสินใจ จากวันนี้ใกล้ถึงเลือกตั้ง มาตกลงกันว่าควรทำการเมืองให้ถูกต้อง
อย่าใส่ร้ายป้ายสี อย่าซื้อเสียง มาแข่งบอกประชาชนว่าจะทำอะไรให้กับประชาชน ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด มาแลกเปลี่ยน
ความเห็นกัน วันนี้เหลือเวลาอีก 1 เดือนยังไม่สาย อยากจะชวนหัวหน้าพรรคพลังประชาชนมาพูดคุยกัน

จากนั้นพระพยอมได้สอบถามถึงแนวทางให้ประชาชนลดละอบายมุข ปัญหา เด็กเร่ร่อน ปัญหาเด็กขายบริการ ยาเสพติด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวโดยภาพรวมว่า ที่สำคัญที่สุด คือรณรงค์ค่านิยมที่ดีให้เด็กเยาวชน ที่ผ่านมาหลายฝ่ายคิด แต่สิ่งที่
ี่ี่ทำไม่ตรงไม่เข้าเป้า เช่นเวลามีโฆษณาหนัง ก็เซ็นเซอร์ แต่คนดูก็ดูออกเพราะฉะนั้นควรณรงค์มากกว่านี้ รวมทั้ง ชักชวน
เยาวชนเข้ามาทำกิจกรรม อาทิ เล่นกีฬา ทำกิจกรรมเพื่อสังคมส่วนรวม ส่วนปัญหา เด็กเร่ร่อนและขายบริการปัญหา
ส่วนหนึ่งก็คือขาดผู้ปกครองดูแล แต่ส่วนหนึ่งก็โยงมากับเรื่องการศึกษา เราสร้างความกดดันให้กับเด็กในการเรียนรู้
ทำดีมากเกินไปทำให้เกิดการต่อต้าน เด็กต้องแสวงหาความสนุก คึกคะนอง เพราะฉะนั้นควรปรับหลักสูตรให้เด็กมีกิจกรรม
เพื่อลดปัญหาดังกล่าว โรงเรียนเอาเหตุการณ์ปัจจุบันที่เป็นข่าวมาเป็นวิชา แทนที่จะเรียนในตำรา อย่างน้อยทุกวันๆละ
ครึ่งชั่วโมง ให้เด็กเอาข่าวที่สะท้อนให้เห็นสังคมแต่ละด้านมาเล่น และถกเถียง วิจารณ์ว่าข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะอะไร
ทำอย่างไรให้ชีวิตดีขึ้น และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวจะทำอย่างไรให้อยู่ได้

จากนั้นพระพยอมเสนอว่าจะมีทีวีให้พระนำเสนอช่วยบรรยายแก้ปัญหาให้เยาวชนสักช่องหรือไม่ รวมทั้งอาตมาขอเป็น
ที่ปรึกษาเรื่องอบายมุข นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ให้มาเป็นที่ปรึกษาประจำพรรค แต่จะให้เป็นที่ปรึกษาของแผ่นดิน
ส่วนเรื่องสื่อต้องจัดสรรสำคัญช่อง ต่าง ๆ เช่น 11 9 7 5 3 ทีไอทีวี ต้องจัดสรรเวลา คนที่ดูอยู่แล้วก็ต้องจัดสรรเวลา
เป็นแนว ทางมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน นำเสนอสื่อรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว ช่วงท้ายได
้เปิดโอกาสให้ประชาชนส่งคำถาม โดยพระพยอมออกตัวว่าห้ามถาม เชิงแตกแยก อาทิ จริงไหมที่ท่านจิ๋วเป็นโซ่สนิมขึ้น
ที่น่าสนใจมีคนถามถึงอนาคตวันข้างหน้า จะมีการปฏิวัติอีกหรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้หากพูดถึงต้องพูดถึงไปเรื่องนิติรัฐด้วยซึ่งการปฏิวัติทุกครั้ง ที่นำมาเป็นเหตุคือข้อกล่าวหา
คอร์รัปชั่น ยืนยันการป้องกันการปฏิวัติต้องมีรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ และเป็นประชาธิปไตย คือเปิดโอกาสให้ประชาชน
ตรวจสอบ และรับรู้ทุกขั้นตอน อย่างโปร่งใส ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันชัดเจนว่าการทำงานทางการเมืองจะไม่
สมานฉันท์กับความไม่ถูกต้องไม่ใช่ว่าทำผิดแล้วให้ลืมๆกันไปแล้วมาอ้างความสมานฉันท์ ไม่ใช่โจรแล้วจะมาอ้างเป็นพระ ความสมานฉันท์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่แนวทางนี้ รวมทั้งนักการเมืองต้องมีคุณธรรมถ้านักการเมืองไม่มีคุณธรรม
ก็จะทำให้การเมืองไม่พัฒนาและการฟื้นฟูประชาธิปไตยก็ไม่ก้าวหน้า

ต่อข้อถามเรื่องของหวยที่มีบางพรรคการเมืองอ้างว่าเพื่อให้มีทุนการศึกษา การยกเลิกทำให้เด็กขาดทุนการศึดษา
ซึ่งข้อเท็จจริง ทุนการศึกษารัฐบาลปัจจุบันได้จัดทุนให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นที่อ้างเรื่องหวยตนเกรงว่า
จะไม่จบ เพราะบอกให้รัฐทำเอง เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะเกิดพนันบอลอีกตามมาอีกไม่จบ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 26-11-2007, 05:44 »

"สมัคร"ขึ้นเสวนาลานธรรม ยกตนเป็นอะแซหวุ่นกี้
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา 16:42 น.
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=147095&NewsType=1&Template=1
   
วันที่ 25 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงบ่ายของเวทีเสวนาเรื่อง “การเมืองเรื่องศีลธรรม”   ดำเนินรายการโดย พระราชธรรมนิเทศ
หรือ พระพยอม กัลป์ยาโณ  เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้เชิญนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนมาร่วมรวยการ โดยมีกองเชียร์มาร่วมฟังการเสวนากว่า 1,500 คน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ นายสมัคร จะเดินทางมาถึงมีกองเชียร์พรรคพลังประชาชนจำนวนมารอฟังการเสวนาจนเต็มลานธรรม
จึงทำให้ก่อนการเสวนา พระพะยอม ได้ตกลงกติกาห้ามผู้มารับฟังโห่ไล่ ใช้คำพูดกระโกนคำว่าออกไป หรือไล่ผู้สนับสนุนจาก
พรรคอื่นออกจากลานธรรม เพราะ พระพะยอม จะใช้โอกาสนี้ในการเติมเต็มน้ำดีให้กับการเมือง
 
นายสมัคร กล่าวว่า การที่มีการท้าทายให้ตนออกดีเบตกับพรรคอื่น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่มาต่อล้อต่อเถียงกัน แต่ต่างคนต่างพูดก็ได้
มาวันนี้มีคนต้องการตรวจสอบว่า นายสมัคร จะเหมาะสมถือหางเสือประเทศนี้ได้หรือไม่ มีคนพวกหนึ่งบอกว่าไม่ได้ ซึ่งไม่มีเหตุผล
บางคนบอกว่าคนที่เป็นนายกต้องมีศีลธรรม เป็นคนดี แต่ตนยืนยันว่าตนเป็นคนดีอะไรไม่ได้  แม้ว่าตนจะเคยเป็นลูกศิษย์วัด บ้านอยู่
บางลำพู  อยู่ข้างวัดและอยู่กับวัดมาตลอด แต่ตนยังไม่ได้บวช เพราะไม่มีเวลาบวช  เนื่องจากทำงานการเมืองมานานถึง 42 ปี
จึงไม่มีเวลา แต่เสร็จภารกิจนี้แล้วถึงจะได้บวช   ทีผ่านมาได้ ศึกษาหลักของศาสนาพุทธมาพอสมควร คนไทยสนใจศาสนาน้อยลง แต่คนต่างชาติสนใจมากขึ้นเพราะมีคนมาบวชและศึกษาพร้อมทั้งพิมพ์คำสอนเป็นภาษาอังกฤษ  ประเทศไทยเป็นศาสนาพุธแต่ไม่
บรรจุศาสนาไว้ในรัฐธรรมนูญ แถมออกมาด่าพระอีกต่างหากว่าไม่สอนประชาชนให้อยู่ในครรลองครองธรรม ตนเป็นคนหนึ่ง
ที่ต้องการให้มีการบรรจุศาสนาพุทธไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะมีประชาชนกว่า 95 % นับถือศาสนาพุทธ
 
“ช่วงที่ผมไม่พูดก็มีการออกมาด่า มีการออกมาพูดว่าผมพูดจาสามหาว แค่คนหนังสือพิมพ์รุม เพราะมีคนสั่งให้ทำก็เท่านั้น มันถามไม่หยุด
เราก็ตอบให้หยุด แต่หลังจากนั้นก็ออกมารุมด่า โดยเฉพาะการ์ตูนของหนังพิมพ์ไทยรัฐ กับ ไทยโพสต์ ออกมารุมด่าผม เอาให้รู้เส้น
เห็นสันดานกันไปเลย แต่คุณรู้หรือไม่ ทำไมถึงออกมาด่าผม  เพราะรู้ว่าท่าทางจะสู้ไอ้คนนี้ไม่ได้ถึงออกมาด่า” นายสมัคร 
 
เมื่อพระพะยอมถามว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะมีนโยบายแก้ไขปัญหาเรื่องพระนอกรีต อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ถ้าจับได้ว่าเล่น
ผู้หญิงเสพเมถุนก็ต้องให้ติดตะราง 3 ปี หากพระเล่นหวยถ้าเห็นว่าใบ้หวยหรือเขียนหวยจริงต้องจำคุก 6 เดือน ส่วนคำว่า เสพเมถุน 
เป็นคำในพุทธศาสนา มีการใช้คำนี้กันทั่วไป แต่พอเอามาใช้กับผู้สื่อข่าว ก็จะเอากันให้ตาย ไม่รู้ว่าวันนี้ผู้สื่อข่าวมาหรือเปล่าแต่วันนี้
จบแล้วไม่อยากฟื้นฝอย  ถึงขนาดสมคมออกแถลงการณ์ชี้แจงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าว แต่อยากถามว่าวันนี้ประชาชนต้องการ
ให้สมาคมนี้เข้ามาบริหารบ้านเมืองหรือเปล่า หรืออยากให้นักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศขอถามหน่อยสมาคมคุณมีเบอร์หรือไม่
แต่ผมนายสมัคร เบอร์ 12

พระพะยอมถามว่าหากนายสมัครได้ตั้งรัฐบาลจะดูแลเด็กที่หนีออกจากบ้านแล้วมาขายตัว ออกล่าแต้มอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า
เรื่องในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการอบรมเลี้ยงดูคนในครอบครัวไม่ให้สูบบุรี เที่ยวผู้หญิง และเล่นการพนันพ่อแม่ผมมีลูก
9 คน ก็สอนกันมาอย่างนี้ตลอด ครอบครัวผมตั้งแต่คุณปู่คุณย่าไม่มีใครสัมเลเทเมา   “ผมเหล้าไม่กิน บุรีไม่สูบ ผู้หญิงไม่เที่ยว
ไม่เล่นการพนัน แต่ชอบซื้อลอตเตอร์รี่ งวดละใบสองใบ”
 
ในตอนท้ายพระพะยอม ถามว่า หากนายอภิสิทธิ์ อยู่บนเวทีนี้ด้วยอยากจะพูดอะไรบ้าง นายสมัคร กล่าวว่า ตนไม่อยากไปดีเบต
เพราะพฤติกรรมคนเลือกตั้งแตกต่างกัน  19 เม.ย.49 ตนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.แต่พอ ถึง 19 ก.ย.49 ผมถูกปฎิวัติด้วยอำนาจทหาร
การที่ไม่อยากนั่งเวทีเดียวกันกับนายอภิสิทธ์เกรงว่าจะอดพูดกระทบกระทั่งกันไม่ได้อาจดูไม่สุภาพแต่ขอเสนอง่ายๆ ใครชอบปฏิวัต
ิก็เลือกนั้นไป แต่ใครไมชอบปฏิวัติก็เลือกพรรคพลังประชาชน
 
“ผมเปรียบเหมือนอะแซหวุ่นกี้ ทำนายทายทักเจ้าพระยาจักรกรี ตอนที่นายอภิสิทธ์ ขึ้นอภิปรายในสภาผมก็บอกว่าให้รักษาตัวให้ดี
จะได้เป็นผู้นำประเทศ แต่เขากลับมาว่าผมเป็นยาหมดอายุ ผมก็ตอกกลับไปว่าเขาเป็นมะม่วงจำบ่ม ชิงสุกก่อนห่าม ผมก็เสียใจ
แต่การเมืองเมื่อขึ้นเวทีแล้วก็ต้องแย็บกันคนละหมัด” นายสมัคร กล่าว

ในช่วงสุดทายนายสมัคร ยังกล่าวด้วยว่า หากผลการเลือกตั้งออกมาพรรคพลังประชาชนได้ 230 ที่นั่ง นายบรรหาร ศิลปาชา
ได้ 30 ที่นั่ง ถ้านายบรรหารไปรวมกับทางโน้นเขาก็ไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี มาทางพลังประชาชนตนก็ไม่ให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตนกับนายบรรหารทำงานการเมืองด้วยกันมานาน ดังนั้นหากนายบรรหารมาทำงานกับตนจะไม่สบายกว่าหรือ และอยากรู้ว่า
ใครเป็นคนบอกว่านายกสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ การเลือกตั้งผู้ชนะได้เป็นผู้บริหารบ้านเมือง หากพลังประชาชนจะมา
แก้รัฐธรรมนูญที่ใช้ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับเดิมทำไว้ดีแล้ว แต่มาปฏิวัติและจะเอาให้เขาตายทั้งครอบครัว และบอกว่าคดี
อยู่ในชั้นศาล ไม่มีทาง เพราะเป็นได้แค่พวกแก๊งค์ข้างถนนเท่านั้น
 
จากนั้น พระพะยอม ให้สัมภาษณ์ หลังการเสวนา ว่า การจัดเสวนาครั้งนี้เพื่อเป็นการกดดันว่านักการเมืองต้องปฏิบัติตามในสิ่งที่
สัญญากับประชาชนไว้โดนเฉพาะเรื่องศีลธรรม เมื่อถามว่านักการเมืองในปัจจุบันมีศีลธรรมพอหรือยัง พระพะยอม กล่าวว่า ยัง
ต้องอบรมฝึกฝนอีก เพราะบางพรรค ไม่พูดเรื่องศีลธรรมเลยชูนโยบายเฉพาะเรื่องการแก้ไปปัญหาเศรษฐกิจการเมือง และทหาร
จึงอยากให้นักการเมืองเห็นอันตรายที่เน้นแต่เศรษฐกิจ แต่ไม่แตะศีลธรรม ทำให้เกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ ต่างชาติไม่พอใจ
ตัดความช่วยเหลือ คนเดือดร้อนคือชาวไร่ ชาวนา ทั้งนี้ประชาชนต้องพึ่งตนเองให้มาก จะมัวคิดพึ่งแต่นักการเมือง 100 % ไม่ได้
เพราะนักการเมือง 1-2 ปี ก็ต้องมีการเลือกตั้งกันใหม่ เราประชาชนอย่าทำตัวเป็นเหมือนลูกนกที่อ้าปากแดง หาอาหารไม่เป็น
ต้องรอพวกนักการเมืองมาป้อนอย่างเดียว
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #2 เมื่อ: 26-11-2007, 06:14 »

ที่ลิงค์นี้เขามีบันทึกการถ่ายทอดสดจากวัดสวนแก้วนะครับ

รอบเช้า : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
http://www.mvnews.net/comment1.php?idnews=51

ถ้าจะโหลดไฟล์อยู่ที่นี่ครับ (ประมาณ 188 MB)
http://www.mvnews.net/video/tun 25-11-50.wmv

...

รอบบ่าย : นายสมัคร สุนทรเวช
http://www.mvnews.net/comment4.php?idnews=19

ถ้าจะโหลดไฟล์อยู่ที่นี่นะครับ (ประมาณ 137 MB)
http://www.mvnews.net/video/sm25-11-50.wmv
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 26-11-2007, 09:58 »

"แต่เขากลับมาว่าผมเป็นยาหมดอายุ"

เมื่อเช้าฟังอภิสิทธิ์ ทาง fm 101

อภิสิทธิ์บอกว่าไม่เคยพูดประโยคนี้ และไม่ตอบโต้

สมัครพูดปดต่อหน้าพระอีกแล้ว

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 26-11-2007, 10:05 »

สมัครตะแบง อะครับคำพูด "ยาหมดอายุ"

น่าจะเป็น เทพไท-องอาจ อะไรกลุ่มนี้ ที่แซวกลับ
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 26-11-2007, 10:11 »

"เพราะเป็นได้แค่พวกแก๊งค์ข้างถนนเท่านั้น"

เท่ากับสมัคร ปิดประตูสมานฉันท์โดยสิ้นเชิง

ไม่ต่างกับคนในครอบครัวชินวัตร ที่ออกมาขู่อาฆาต

*** แล้วลูกพรรคพปชอย่าโม้เชียวว่าพรรคมีนโยบายสมานฉันท์

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #6 เมื่อ: 26-11-2007, 10:16 »

ลุงหมัก แจ๋วจริง ๆ ....พอพูดในวัด ก็บอกเป็นเด็กวัด....เมื่อก่อน เห็น เคยคุยโม้ ไม่ใช่เหรอ ว่า เป็น ลูกเจ้า ฯ ลูกพระยา.....

ไปได้เรื่อย ๆ จริง ๆ ......ออกมาเล่านิยายตามฟอร์ม
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 26-11-2007, 12:36 »

ปชป.โต้ 'สมัคร' 'มะม่วงบ่มแก๊ส' ดีกว่า 'ชมพู่เน่า'

นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกศูนย์อำนวยการสำนักเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่เปรียบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นมะม่วงบ่มแก๊ส เพราะเข้าใจว่านายอภิสิทธิ์ว่าเป็นยาหมดอายุก่อน ว่า คำพูดที่ว่านายสมัครเป็นยาหมดอายุนั้นเป็นคำพูดของตน ซึ่งแถลงไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

'นายสมัครอาจมีความจำคลาดเคลื่อนหรือต้องการโยนความผิดให้นายอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตามคิดว่า มะม่วงบ่มแก๊ส ก็ยังดีกว่า ชมพู่เน่า' นายเทพไท กล่าว

ทั้งนี้ นายเทพไท กล่าวถึงกรณีกทม.การเก็บป้ายหาเสียงของพรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่า ในส่วนของพรรคก็กังวลในเรื่องนี้  ถึงแม้ว่าไม่ใช่หน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง แต่ถือว่าผู้บริหารของกทม.มาจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้ประสานไปยัง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. และทราบว่าไม่มีนโยบายที่จะเก็บป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง ทั้งนี้ขอให้ข้อสังเกตว่าที่ป้ายถูกเก็บ อาจจะเป็นเพราะป้ายเหล่านั้นไปติดตั้งในพื้นที่ต้องห้าม

มติชน
วันที่ 26 พฤจิกายน 2550 เวลา 11:59:47 น.

โกหกกลางวัดแล้วหมักเอ๊ย  อะแซหวุ่นกี้ ตามัวๆหรือหลง ๆ ลืม ๆ
บันทึกการเข้า

ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-11-2007, 12:58 »

หมักเอ๋ย เน่าสนิท

บวชยังไม่บวชเลยยยยยยยย

แล้วว่าตนมีศีลธรรม เด็กวัด วัด โพ ไซ ดอน ป่าววะ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #9 เมื่อ: 26-11-2007, 13:10 »

เขาอุตส่าห์ยุติประเด็นเรื่องนี้ตอนลงประชามติรัฐธรรมนูญ หมักเมถุนยังอุตส่าห์ขุดเรื่องบรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติมาหาเสียงอีก จอมฉวยโอกาสจริง ๆ
บันทึกการเข้า
varada
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,193



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 26-11-2007, 13:57 »

ฟังดูแล้วไม่เห็นมีอะไรเป็นรูปเป็นร่างชัดเจน
ดีแต่ตีฝีปากกับขายของเก่าไปเรื่อยๆ
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 26-11-2007, 16:45 »





เหอ เหอ สมัคร นี่ก็ศิษย์เก่า ปชป. หลักสูตร ปลัดประเทศ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2007, 16:59 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #12 เมื่อ: 26-11-2007, 16:57 »

ปชป.โต้ 'สมัคร' 'มะม่วงบ่มแก๊ส' ดีกว่า 'ชมพู่เน่า'

นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกศูนย์อำนวยการสำนักเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่เปรียบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นมะม่วงบ่มแก๊ส เพราะเข้าใจว่านายอภิสิทธิ์ว่าเป็นยาหมดอายุก่อน ว่า คำพูดที่ว่านายสมัครเป็นยาหมดอายุนั้นเป็นคำพูดของตน ซึ่งแถลงไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

  'นายสมัครอาจมีความจำคลาดเคลื่อนหรือต้องการโยนความผิดให้นายอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตามคิดว่า มะม่วงบ่มแก๊ส ก็ยังดีกว่า ชมพู่เน่า' นายเทพไท กล่าว

ทั้งนี้ นายเทพไท กล่าวถึงกรณีกทม.การเก็บป้ายหาเสียงของพรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่า ในส่วนของพรรคก็กังวลในเรื่องนี้  ถึงแม้ว่าไม่ใช่หน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง แต่ถือว่าผู้บริหารของกทม.มาจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้ประสานไปยัง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. และทราบว่าไม่มีนโยบายที่จะเก็บป้ายหาเสียงของพรรคการเมือง ทั้งนี้ขอให้ข้อสังเกตว่าที่ป้ายถูกเก็บ อาจจะเป็นเพราะป้ายเหล่านั้นไปติดตั้งในพื้นที่ต้องห้าม

มติชน
วันที่ 26 พฤจิกายน 2550 เวลา 11:59:47 น.

โกหกกลางวัดแล้วหมักเอ๊ย  อะแซหวุ่นกี้ ตามัวๆหรือหลง ๆ ลืม ๆ



ถ้า'หมัก เมถุน' มี'หิริโอตัปปะ' ในใจ
จะเข้าใจคำพูดทำนองนั้น คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะไม่พูดหรอก.....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2007, 17:01 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ลักลั่นย้อนแย้ง
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #13 เมื่อ: 26-11-2007, 17:13 »

ผมพิ่งเข้าใจ คำโบราณ ที่ว่า แก่มะพร้าว ห้าวมะละกอ ก็วันนี้ละครับ   เห็นสภากาแฟแถวบ้าน เอะอะก็ท่านทักษิณ ท่านสมัคร ยกยอมันเข้าไป ฟังแล้วขนลุกครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: