หลังจากที่นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษา "พรรคประชาธิปัตย์" ออกมาแสดงความชัดเจนในการดำเนินนโยบายหลังการเลือกตั้งของ "พรรคประชาธิปัตย์" นั้น ทำให้ภาพของการเมืองหลังการเลือกตั้งกำลังชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเค้าโครงของ "ว่าที่ รัฐบาล'50" ที่น่าจะมี "พรรคประชาธิปัตย์" เป็นแกนนำ แม้ว่าจะแพ้ "การเลือกตั้ง" 23 ธันวาคม ที่จะมาถึง...
...
...
...
จะเห็นได้ว่าเหตุและปัจจัยต่างๆ ที่มีอยู่นั้น เป็นกระจกที่สะท้อนได้อย่างชัดเจนถึง "ความโดเดี่ยว" ที่ "พรรคพลังประชาชน" กำลังเผชิญอยู่
เป็น "ความโดดเดี่ยว" เสมอมาและเสมอไป ตั้งแต่การปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 และคงเป็นสถานการณ์บังคับที่ "พรรคพลังประชาชน" มองข้ามไปอย่างปล่อยวาง เพื่อความคาดหวังที่จะได้เป็นฝ่ายค้านที่มากเหลือด้วยอำนาจการต่อรอง
แล้วจะแปลกอันใดเล่าที่ "พรรคประชาธิปัตย์" ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้ง จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล !!!
***********************************************
สนใจอ่านฉบับเต็ม เชิญตามลิงค์ด้านล่างไปได้เลยนะครับ
http://www.oknation.net/blog/plagud/2007/11/19/entry-ลิ้งค์ที่ให้มา ไปไม่ได้ค่ะ ก็อปมาไม่ครบมั้ง
มีการประเมินเอาไว้ว่า ถ้า กกต.ฝีมือด้อย จับไม่ได้ไล่ไม่ทันกับการใช้เงินซื้อเสียงในรูปแบบต่างๆ พวกปล้นชาติอาจได้เสียงมามากพอควร เพราะรู้กลไกในการเอาเงินตบหัวประชาชนที่ยังโง่เขลาได้ดี
และมีการประเมินเอาไว้อีกว่า ถ้าพวกปล้นชาติดันซื้อเสียงจนชนะและได้จัดตั้งรัฐบาล ประเทศพินาศแน่นอน ถึงจะไม่มีการปฎิวัติรัฐประหารซ้ำอีก แต่ประเทศจะต้องพังด้วยสาเหตุความแตกแยกขั้นรุนแรงสูงสุด และความยุติธรรมที่จะถูกละเมิด น่าจะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งสัมภเวสีหลายร้อยตัว ออกกฎหมายยกเลิกการเอาผิดทรราชที่ปล้นชาติไปแล้ว กระบวนการยุติธรรมคงถูกคุกคามจนหมดสภาพ และประเทศจะถูกปล้นอย่างรุนแรงที่สุดเพื่อถอนทุนคืน
ดังนั้น การโดดเดี่ยวพวกปล้นชาติ จึงเป็นทัศนคติของคนที่อยากเห็นชาติเดินหน้าต่อไปได้
นึกภาพไม่ออกเลย ว่าถ้ามีนายกรัฐมนตรีปาก***จมูกหมู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มีลูกเป็นอันธพาล รองนายกรัฐมนตรีชื่อตู่โสโครก บ้านเมืองจะไปทางไหน
ลองคิดดู