ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-11-2024, 22:39
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คนดีจริงใจ.หรือ.คนไร้วุฒิภาวะจริงๆ 0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คนดีจริงใจ.หรือ.คนไร้วุฒิภาวะจริงๆ  (อ่าน 1262 ครั้ง)
public limited
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


เว็บไซต์
« เมื่อ: 16-11-2007, 18:17 »

"เมื่อคืนคุณเสพเมถุนไหม?..."

วันนี้ไม่ได้มาหยาบคาย ยุ่งเรื่องส่วนตัวใคร แต่นั่นเป็นคำพูดที่ตั้งใจถ่มออกมาจาก คนระดับหัวหน้าพรรคที่อ้างว่ามีประสบการณ์แก่กล้าหลายสิบปี ...ก็แล้วเรื่องส่วนตัวแบบนี้มันเกี่ยวอะไรด้วยกับการที่ตัวเองจนตรอกต่อการให้สัมภาษณ์ในเรื่องลึกลับอีแอบในพรรคของตน พรรคที่อ้างว่ารักประชาธิปไตย เคารพมติ อีกทั้งอาสาเข้ามาบริหารงบประมาณ แก้ไขปัญหาบ้านเมือง. หากพรรคใดได้เงินสนับสนุนและเงินเดือนเมื่อเป็น ส.ส. มาจากภาษีของประชาชนนั้น เรื่องของพรรคที่ประชาชนจะเลือก จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเหมือนนการจะเลือกถอดผ้าต่อหน้าใคร !!!

การอ้างว่าเป็นคนพูดตรงกับใจ คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น แสดงถึงความจริงใจ คงไม่ใช่ลักษณะของคนดี หรือผู้นำที่ดีได้เลย หากยังขาดซึ่งการรู้จักคิดและไตร่ตรอง ความควรไม่ควร กาลเทศะ บทบาทและหน้าที่ซึ่งกันและกัน อีกทั้งการมีตรรกเปรียบเทียบที่ผิดประเด็นอย่างนี้ ย่อมแสดงถึงระดับสติปัญญาและวุฒิภาวะจริงๆ ของผู้พูดออกมา และหากประกอบกับลีลาท่าทาง ยียวน ชวนทะเลาะ โอ้อวดหลงตัวเอง ค่อนแคะ เหยียดหยามผุ้อื่น โดยไม่สำเหนียกถึงเงาตัวเองบ้างเลยนั้นเข้าไปอีก ต่อให้เป็นเด็กประถมก็คงพอดูออกว่าคนบุคคลิกเช่นนี้คือคนดีหรือไม่

เหนือไปกว่านั้นคือ บุคคลประเภทนี้มักนิยมเสพสมสมาคม อยู่ท่ามกลางพวกพ้องที่จิตใจหมกมุ่นใฝ่ต่ำ แต่เรื่องพรรค์อย่างนี้เช่นกัน จนเห็นเป็นเรื่องปกติชินชา จึงไม่ทราบว่าควรวางตัวอย่างไรในโลกภายนอก ดังที่ปรากฏข่าวว่า ในงานสัมมนาของกลุ่มพวกพ้องเดียวกัน มีการแจกเอกสารและหนังสือที่มีชื่อปกเป็นคำผวนหยาบโลนว่า "รัดทำมะนวยฉบับหัวคูณ" หนังสือเสียดสีรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ผ่านการลงประชามติ และลงพระปรมาภิไธยแล้ว !!!

นี่คงไม่ใช่เด็กๆ พูดเล่นกันตามประสาทะลึ่งให้ขบขันกันเป็นแน่ เพราะแจกจ่ายกันในงานใหญ่แวดวงของคนที่อาสาจะเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง อายุอานามล้วนบรรลุนิติภาวะกันจนหัวหงอกหัวดำแทบทั้งสิ้น

ความไม่พอใจส่วนตัว ไม่ได้เอาชนะด้วยความสะใจ ที่ได้ใช้สำบัดสำนวนหยาบโลน

บัณฑิตย่อมไม่แสดงวาจาและอากัปกิริยาเยี่ยงคนพาลที่ใจจริงๆ เต็มไปด้วยโลภะ โมหะ เคียดแค้น โกหก ก้าวร้าว ทะลึ่งหยาบคาย เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอุบาย โดยไม่รู้วุฒิและสถานะตน คือถ้าแม้แต่สมาชิกในพรรคพวกฝั่งตัวเอง ยังไม่มีสติแยกแยะความควร-ไม่ควร, ถูก-ผิด, เหมาะสมดี-ไม่ดี, ไม่รู้จักกาลเทศะ บทบาทหน้าที่ ที่ควรปฏิบัติในสถานภาพของตน แยกเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวหรือส่วนรวมไม่ได้ แล้วอย่างนี้...
      1. เราจะหวังว่าคนพวกนี้ จะทำงานใหญ่ให้สังคมในทิศทางที่ถูกที่ควร ได้อย่างไร?
      2. เราจะหวังว่าความคิดและคำพูดของคนพวกนี้ จะมีแต่ความจริงใจและเรื่องดีๆ ได้หรือ?
      3. เราจะหวังว่าชาวบ้าน ที่ชื่นชอบคนพวกนี้ จะแยกแยะเรื่องควร-ไม่ควร, ถูก-ผิด, จริง-เท็จ ได้กระนั้นหรือ?


จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอกที่เรื่องเหล่านี้จะเกิดกับกลุ่มคนพวกนี้ เพราะผู้คนที่ไม่ใช่เควี่ย เขารู้กันทั่วไปอยู่แล้วว่ากลุ่มคนพวกนี้ ขึ้นชื่อในเรื่องการซุกซ่อนจริยธรรม ศีลธรรมตกร่อง บกพร่องคุณธรรม ชั้นต่ำทางอารมณ์ นิยมความป่าเถื่อน

เมื่อเด็กลูกหลานของเราวันนี้ ยังเรียนวิชาจริยธรรม และตอบในข้อสอบได้ถูกต้องว่าแบบใดคือคนดี แล้วเราจะชื่นชมและกล้าเลือกกลุ่มคนพวกนี้เข้ามาเป็นตัวแทนสังคมประเทศชาติ ให้เราอีกครั้งหนึ่งได้หรือ? ...เพราะถ้าเด็กถาม คุณจะตอบว่าอย่างไร !!??
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2007, 21:13 โดย public limited » บันทึกการเข้า

เปิดความคิด พิชิตความไม่รู้ ต้องดู-ต้องอ่าน-ต้องฟัง และสิ่งสำคัญคือมีคุณธรรมต่อชาติบ้านเมือง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: