==การโจมตีเรื่องอภิสิทธิ์หนีทหาร - ทบทวนข้อมูลเก่าๆ เมื่อปี 2542 ครับ==
jerasak:
เนื่องจากเห็น นปก. เอาเรื่องหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หนีทหาร ที่เคยเป็นข่าวในปี 2542 กลับมาเล่นซ้ำอยู่พักหนึ่ง
และหลังจากนั้นก็มีคนเอามาเล่นต่ออยู่ประปราย เป็นไปได้ว่าต่อไปอาจขุดมาเล่นกันอีก
ผมลองไปขุดข้อมูลเก่าๆ ที่เก็บไว้ดู ได้มาบ้างนิดหน่อยเป็นของ 8 ปีก่อนก็เลยเอามาลงให้อ่านทบทวนกันครับ
ก่อนอื่นขอทบทวนความจำกันเบื้องต้นก่อนนะครับ.. สนุกดีที่ตัวละครในวันนี้ ตอนนั้นก็อยู่กันครบแต่ต่างตำแหน่งกัน
ทั้ง อภิสิทธิ์ สมัคร ชวน บิ๊กจิ๋ว เสธ.หนั่น เฉลิม(และลูกๆ) ทนายนพดล หมอเปรมศักดิ์ และแม้กระทั่ง พล.อ.สุรยุทธ์
ด้านเหตุการณ์ก็มีทั้งมีเรื่อง ผิดจริยธรรม หมิ่นพระบรมฯ แถมมีเรื่องนิรโทษกรรมอีกต่างหาก (กรณีหนีทหาร) :slime_smile:
...
เรื่องราวเริ่มมาตั้งแต่ สมัยปี พ.ศ. 2542 โดยเห็นได้ว่ามีความต่อเนื่องเกี่ยวพัน กับกรณีลูกๆ เฉลิม ถูกดำเนินการสอบสวน
จากการใช้ สด.43 ปลอมสมัครเข้าเป็นนายตำรวจ และ นายเฉลิม อยู่บำรุง ขณะนั้นเป็น รองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่
พรรคฝ่ายค้านในสภาฯ มีพล.อ.ชวลิตเป็นหัวหน้าพรรค มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีนายชวน หลีกภัยเป็นนายกฯ
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ส.ขอนแก่น พรรคความหวังใหม่ ขณะนั้น ได้โจมตีว่า สส.ประชาธิปัตย์หลายคนก็ "หนีทหาร"
เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายจักรพันธุ์ ยมจินดา โฆษกกระทรวมหาดไทย ,
นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย .. ซึ่งเท่ากับเป็นการตอบโต้ในทำนอง "ข้าผิด เอ็งก็เลว"
...
ตัวหมอเปรมศักด์เองเคยถูกศาลตัดสินจำคุกคดีหมิ่นประมาทมาก่อน แล้วในครั้งนี้ได้กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์มียศร้อยตรี
แต่ไม่นำมาใช้ เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำให้ถูกนายอภิิสิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดี เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิ
ที่จะใช้หรือไม่ใช้คำนำหน้าชื่อก็ได้ ไม่ใช่การหมิ่นพระบรมฯ และต่อมาหมอเปรมก็ต้องขอขมาในเรื่องนี้ครับ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก นายชวน หลีกภัย นอกจากดำรงตำแหน่งนายกฯ ยังดำรงตำแหน่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย และขณะนั้นแสดงตัวอยู่ตรงข้าม
กับฝ่ายรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนนายนพดล ปัทมะ ขณะนั้นยังสังกัดอยู่ พรรคประชาธิปัตย์ คอยออกมาตอบโต้พรรคความหวังใหม่เป็นระยะ :slime_smile:
jerasak:
บทนี้เป็นข่าวในสยามรัฐนะครับ ลงค่อนข้างครบถ้วนเกี่ยวกับข้อกล่าวหา และหลักฐานอ้างอิงของทาง สส พรรคฝ่ายค้านครับ
แล้วเดี๋ยวจะลงบทที่เป็นข้อชี้แจงของทางกองทัพ และพรรคประชาธิปัตย์สมัยนั้นนะครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หวังใหม่หัวชนฝา อภิสิทธิ์ต้องติดคุก
สยามรัฐ : วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ .2542
ฝ่ายค้านโชว์หลักฐานยัน สด.9 ของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นของปลอม เพราะไม่เคยผ่านเกณฑ์ทหาร เป็นการแสดง
ข้อความอันเป็นเท็จในการเข้ารับราชการทหาร ถือว่าขาดคุณสมบัติตั้งแต่ต้น โทษความผิดติดคุก 3 ปี ขณะที่"บุญยัง บูชา"ยัน
อีกรอบชี้สด.9ของรัฐมนตรีไม่ใช่ของปลอม ด้านผบ.ทบ.แบ่งรับแบ่งสู้ หากปลอมก็แค่ปรับ แต่ทุกอย่างให้ดูที่เจตนา"หมอเปรม"
ยื่นฟ้อง"เสรี เตมียเวส"ฐานหมิ่นประมาทที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เตือนอย่าทำตัวเป็นผู้พิพากษาให้มากนัก
ที่พรรคความหวังใหม่ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 มี.ค.นี้ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคนำโดยนายโภคิน พลกุล
รองหัวหน้าพรรคฯ และนายลิขิต ธีระเวคินรองเลขาธิการพรรคฯ พร้อมคณะทำงานได้ประชุมพิจารณาสถานภาพการหนีทหารของ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายหลังการประชุม นายกมล บันใดเพชร หนึ่งในคณะทำงานและ
รองโฆษกพรรคฯแถลงว่า จากการตรวจสอบพบว่านายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร เท่ากับหนีทหารถือว่าผิด พ.ร.บ.
ข้าราชการทหารพ.ศ.2479 มีโทษจำคุก 3 ปี
นายกมลกล่าวว่า ตามเอกสารทางราชการในบัญชีรายชื่อของทหารกองเกินที่เรียกมาตรวจเลือกเข้ากองประจำการปี
2530 เมื่อ 7 เม.ย.30 ระบุว่านายอภิสิทธิ์ได้รับหมายเรียกไปแล้ว แต่ไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกและไม่มีการผ่อนผัน หลายคน
เข้าใจผิดว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์เข้าไปเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าได้ยศ ร.ต.แล้วจึงไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารจะ
อ้างไม่ได้ เพราะการสมัครเข้าเป็นอาจารย์นายอภิสิทธิ์จะต้องแสดงหลักฐานทางทหารเช่น สำเนาสำคัญทหารกองเกิน (สด.9)
หากอายุอยู่ระหว่างการตรวจเลือกต้องมีหลักฐานการผ่อนผัน แต่ปรากฎว่านายอภิสิทธิ์ไม่มีหลักฐานเหล่านี้ไปแสดงกับกองทัพ
ในวันสมัครเป็นอาจารย์ เพราะได้หนีทหารมาตั้งแต่ต้น
รองโฆษกพรรคความหวังใหม่ กล่าวอีกว่า ตนขอถามกองทัพว่าได้ตรวจสอบหลักฐานทางทหารอะไรบ้างถึงได้รับนายอภิ
สอทธิ์เข้าเป็นทหาร การที่กองทัพอ้างว่านายอภิสิทธิ์มีใบสด.9 แต่ทำหายจึงไปแจ้งขอออกใบแทนโดยได้ใบแทนเมื่อ 8 เม.ย.31
แต่การออกใบแทนครั้งนี้ถือว่าผิดที่ไม่คัดลอกจากใบเดิมที่ชำรุดสูญหาย ไม่ใช่การกรอกข้อความใหม่ทั้งที่ใบเดิมต้องเป็นวันที่ 4
ก.ค.29 วันที่ลงบัญชีทหารกองเกินและได้รับใบ สด.9 มา แต่เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ไม่เคยได้ใบนี้มากอ่น จึงอ้างว่าใบเดิมหาย
ขอออกใบใหม่เพื่อนำไปสมัครเป็นอาจารย์ การออกใบแทนครั้งนี้แสดงว่าได้ปกปิดความจริงที่ได้เคยหนีทหารไปก่อนหน้านี้แล้ว
นายกมล กล่าวต่อว่า การกรอกข้อความในการสมัครเป็นอาจารย์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเท็จ และถือว่าได้ปลอมเอกสารทางราชการ
และใช้เอกสารปลอมสมัครเข้ารับราชการจึงขอเรียกร้องไปยังนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ที่ได้ตอบกระทู้ในสภาว่าไม่มีนโย
บายที่จะนิรโทษกรรมการหนีทหาร จะขอดำเนินคดีกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จึงขอให้ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ด้วย การ
ออกมาเปิดเผยก็เพื่อต้องการทำความจริงให้ปรากฎ คนเราความเลวร้ายในอดีตเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้แต่สามารถทำความดีใน
อนาคตได้
"แม้นายอภิสิทธ์จะไม่มีเจตนาทำผิด แต่ถ้ายอมรับความจริงประชาชนจะให้อภัย ขอฝากบอกทางกองทัพว่ากองทัพเป็น
สถาบันหลักของชาติ หากทหารในกองทัพไม่ปกป้องกองทัพแต่ไปปกป้องนักการเมืองที่ชอบใช้อำนาจโดยไม่ชอบจะทำให้กอง
ทัพเสื่อมเสีย ขอให้กองทัพเป็นตัวของตัวเอง ทำอะไรให้ถูกต้อง ที่ผ่านมากองทัพพยายามบอกมาตลอดว่านายอภิสิทธิ์มี
ใบแทนคือ สด.9 แต่ทำไมถึงไม่เอาบัญชีทหารกองเกินที่เรียกนายอภิสิทธิ์มาตรวจเลือกออกมาให้ประชาชนดู แต่วันนี้พรรค
ความหวังใหม่นำออกมาให้ดูแล้วทางกองทัพว่าอย่างไรก็ชี้แจงออกมา ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์พรรคจะหารือ
กันอีกครั้ง" รองโฆษกพรรคความหวังใหม่กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้คณะทำงานได้นำเอกสารทุกชิ้นที่เกี่ยวกับนายอภิสิทธิ์มาแจกกับผู้สื่อข่าว เพื่อยืน
ยันว่านายอภิสิทธิ์ได้หนีทหาร นอกจากนั้นทางพรรคความหวังใหม่ยังได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายทหารยศ พล.ต.คนหนึ่งใน
กองทัพขอให้พรรคความหวังใหม่ตรวจสอบการเกณฑ์ทหารของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคน อาทิ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร
รมช.ต่างประเทศ นายอรรคพล สรสุชาติ ส.ส.กรุงเทพฯ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจักรพันธ์ ยมจินดา ส.ส.
กรุงเทพฯ ซึ่งในหนังสืออ้างว่าเมื่อตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์รอง
นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย แล้วก็ควรจะตรวจสอบบุคคลดังกล่าวด้วย เพราะทราบว่ามีลักษณะคล้ายกับนายอภิสิทธิ์ ซึ่ง
พรรคกำลังตรวจสอบอยู่
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผบ.ทบ.เปิดเผยเรื่องเอกสารการเข้ารับราชการทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า ขณะนี้
ทางกรมการสำรองทหารบกกำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งต้องตรวจสอบไปยังโรงเรียนนายร้อย จปร.ได้คำตอบมาแล้วจะได้แจ้งให้ผู้
ร้องทราบต่อไป ตอนนี้ตนยังให้คำตอบไม่ได้เพราะยังไม่ได้รับรายงาน แต่เท่าที่ทราบเป็นไปอย่างที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ คือ
เมื่อนายอภิสิทธิ์เดินทางกลับจากต่างประเทศก็ได้สมัครเข้ารับราชการโดยยังไม่ทราบแน่นอนว่ามีเอกสาร สด.43 หรือไม่ แต่ถ้า
ไม่มี สด.9 แล้วมาสมัครรับราชการทหารก็มีความผิด แต่เป็นความผิดเล็กน้อยมีโทษแค่ปรับเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไม่ไปเกณฑ์ทหารแล้วมาสมัครรับราชการทหาร ถือว่าเป็นการทดแทนกันได้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์
กล่าวว่า เมื่อพูดถึงเจตนาแล้วถือว่ามีเจตนาที่ไม่ได้หลีกเลี่ยง และตนไม่มีข้อคิดเห็นกรณีที่จะนิรโทษกรรมผู้ที่หลีกเลี่ยงการหนี
ทหาร ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีการนิรโทษกรรม ต่อข้อถามว่า กรณีของนายอภิสิทธิ์จะถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ผบ.
ทบ.ตอบว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่ต้องให้เวลาในการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อจะได้คำตอบที่ชัดเจนและถูกต้อง
พล.ต.บุญยัง บูชา ผบ.มณฑลที่ 11 กล่าวถึงใบ สด.9 ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่
ใช้เข้ารับราชการทหารเป็นของปลอมว่า เท่าที่ได้ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน เพราะไม่จำเป็นจะต้องทำปลอม
เนื่องจากเป็นเพียงแค่การมาขึ้นบัญชีเป็นทหารกองเกินเท่านั้น และเมื่อนายอภิสิทธิ์ทำหายก็สามารถไปแจ้งขอทำใหม่ได้
ไม่ได้ผิดอะไร นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ใช้เอกสารปลอมสมัครเข้ารับราชการทหารขออย่าได้ให้ข่าวบิดเบือน เขาเข้าเป็นอาจารย์สอน
โรงเรียน จปร.เอกสารทั้งหมดทางโรงเรียนเป็นผู้ตรวจสอบ และสด.9 ใหม่ทางกองทัพก็เป็นผู้ออกให้
สำหรับผลสำรวจของเอแบคโพลเรื่องผลกระทบของกองทัพในเรื่อง สด.43 พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนพยายามทำหน้าที่
ให้ดี แต่แน่นอนว่ามันต้องมีข้อบกพร่องบ้าง เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันในระดับกระทรวงกลาโหมและหารือกันว่าจะแก้ไขอย่างไร
ในส่วนของตนไม่หนักใจแต่อย่างใด
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ส.ขอนแก่น พรรคความหวังใหม่ แถลงที่ จ.ขอนแก่นว่าในวันนี้(5 มี.ค.) ตนได้ยื่นฟ้อง
พล.ต.ท.เสรี เตมียะเวส ผช.ผบ.ตร.ในข้อหาหมิ่นประมาทที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ซึ่งศาลได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องแล้ว และนัด
สืบพยานโจทก์ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ก่อนหน้านี้นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.ขอนแก่น เคยฟ้องหมิ่นประมาทศาลได้ประทับรับฟ้องแล้ว
เช่นกัน ขณะนี้นักการเมืองและข้าราชการหลายคนได้รับผลกระทบกับการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เป็นธรรมของ พล.ต.ท.เสรี จึง
ต้องพึ่งบารมีศาลเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอร้องเรียนไปถึง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผบ.ตร.น่าจะพิจารณาพฤติกรรมการทำงานของ
พล.ต.ท.เสรีบ้างชอบทำตัวเป็นผู้พิพากษาเสียเองประชาชนพึ่งพาตำรวจไม่ได้ ส่วนเรื่องใบสด.43ปลอมนั้น ตนอยากจะให้ตรวจ
สอบรัฐมนตรีลูกรัฐมนตรีและนักการเมืองบางคนโดยเฉพาะพวกที่เป็นอดีตนักเรียนนอกโดยให้สอบย้อนหลังไปอีก 10 ปี
jerasak:
ส่วนบทนี้เป็นของไทยโพสต์ในวันถัดมานะครับ มีเนื้อหาชี้แจงประเด็นต่างๆ ได้ค่อนข้างครบถ้วน และผมเองก็หาได้แค่นี้ครับ
เนื่องจากเรื่องราวเก่ามากเหลือเกิน ฮาร์ดดิสค์ตัวเก่าก็พังไปตัวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคงมีอะไรมาแบ่งกันมากกว่านี้ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บลั๊ฟ ควม.ใส่ความ "อภิสิทธิ์" ทบ.สรุปง่าย-สิ้นอายุความ
ไทยโพสต์ - วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542
ดอนเมือง - "อภิสิทธิ์" เก็บปากไม่ชี้แจงข้อหาหนีเกณฑ์ทหาร กองทัพยอมรับตีความลำบากแต่สรุป"หมดอายุความแล้ว" นายกฯ ขู่ฝ่ายค้านถ้าข้อมูลไม่จริงต้องรับผิดชอบ โฆษกรัฐบาล-มหาดไทยเต้นแจงละเอียดยิบ โต้ ควม.ตีขลุมกลุ่มนักเรียนนอก ตำรวจไล่บี้เหลิมน้อยสรุปผลสัปดาห์หน้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ชี้แจงรายละเอียดต่อเรื่องที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่าเขาหนีเกณฑ์ทหาร
และใช้เอกสารไม่ถูกต้องสมัครเข้ารับราชการโดยกล่าวเพียงว่า ทางกองทัพกำลังตรวจสอบอยู่ เขาเคยชี้แจงไปแล้วว่าไม่ได้หนีทหาร จึงต้องรอผลการตรวจสอบ และไม่มีความประสงค์จะตอบโต้ฝ่ายค้าน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นเกมการเมืองหรือไม่แล้วแต่คนจะมอง แต่ควรรอผลการตรวจสอบที่ชัดเจน หากฝ่ายค้าน
นำข้อมูลปลอมมาพูด ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน การที่ฝ่ายค้านนำมาเล่นเพื่อตอบโต้กรณีลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิมใช้ สด.43 ปลอมนั้น
เรื่องนี้ต้องแยกแยะ เพราะเป็นคนละกรณีกันซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็เข้าใจ
ฝ่ายค้านได้ออกมาระบุเมื่อวันศุกร์ว่า นายอภิสิทธิ์รับ สด.9 เมื่อปี 2529 แต่ไม่ยอมไปเกณฑ์ทหารในปี 2530 ต่อมาก็สมัครเข้ารับราชการกระทรวงกลาโหม แล้วขอออก สด.9 ใหม่แทนใบเดิมที่อ้างว่าชำรุดเสียหาย เพื่อเป็นหลักฐานในการรับราชการและได้ติดยศว่าที่ร้อยตรี
แหล่งข่าวจากกองทัพบกยอมรับว่า กองทัพบกมีเอกสารต้นขั้ว สด.9 ที่ออกให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อบรรจุเป็น
ทหารกองเกินเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2529 จริง และมีเอกสาร สด.1 ของสัสดีที่ยืนยันการรับ สด.9 ด้วย อย่างไรก็ดี แม้นายอภิสิทธิ์
ไม่มารับการตรวจเลือกและไม่ได้รับ สด.43 แต่เมื่อไปรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหมในวันที่ 7 ส.ค. 2530
ก็ถือว่ามีฐานะเป็นทหาร เท่ากับว่ามาเป็นทหารแล้ว เพียงแต่ไม่ไปแจ้งให้พ้นบัญชีคนขาดเท่านั้น ส่วนหลักฐานในการสมัคร
เข้ารับราชการ ต้องไปตรวจสอบที่กระทรวงกลาโหม ไม่ใช่โรงเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งกรมกำลังสำรองกำลังรวบรวมให้ ผบ.ทบ.
หลังจากแจ้งด้วยวาจาไปแล้วว่าไม่ได้หนีทหาร
สำหรับการที่มีข้อสงสัยว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ไปขอใบแทน สด.9 เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2531 เหตุใดจึงไม่ระบุว่าวันที่บรรจุ
เป็นทหารกองเกินคือวันที่ 4 ก.ค. 2529 ตาม สด.9 ใบเดิมนั้น แหล่งข่าวอ้างว่า ตามระเบียบไม่ต้องระบุเช่นนั้นใครมาขอขึ้นทะเบียน
หรือใบแทนวันไหนก็เป็นทหารกองเกินวันนั้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ขั้น ขั้นที่ 1 นับแต่อายุ 21 ปี จนครบ 10 ปี ขั้น 2 ต่อไป 7 ปี
ขั้น3 ต่อไปอีก 6 ปี
"กรณีคุณอภิสิทธิ์ เราพิจารณากันมากว่าผิดหรือไม่ แต่เมื่อเขามีใบ สด.9 ที่ออกให้ในครั้งแรก ก็ไม่ถือว่าฉบับต่อไป
ปลอมแปลง เพราะเป็นใบแทนได้ ขณะนี้กรณีของคุณอภิสิทธิ์จบแล้ว เพราะถ้ามีความผิด อายุความก็หมดลงแล้วเมื่อตอนที่อายุ 30 ปี"
แหล่งข่าวกล่าว
นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเรื่องนี้ว่า เพื่อความเป็นธรรม
เมื่อฝ่ายค้านร้องไปยังหน่วยงานทหาร ก็จะสั่งให้ตรวจสอบโดยละเอียด และรายงานให้ฝ่ายค้านทราบผลต่อไป แต่นายอภิสิทธิ
์เคยเป็นทหารก่อนมารับราชการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีไม่กี่คนที่จบจากต่างประเทศแล้วมารับราชการเป็นทหาร
"ผมไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้มีปัญหาอะไร เมื่อฝ่ายค้านเสนอมา ก็ต้องรอการตรวจสอบก่อน เราจะไปห้ามฝ่ายค้านไม่ได้ แต่เท่าที่
ฟังข่าว การที่ฝ่ายค้านพูดออกมาอย่างนี้เหมือนเป็นการกล่าวหาคุณอภิสิทธิ์ หากสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
การกล่าวหาว่าใช้เอกสารปลอมก็เป็นเรื่องไม่ควร ไม่ทราบว่าฝ่ายค้านไปเอาข้อมูลมาจากไหน ถ้าพูดไม่จริง ฝ่ายค้านจะต้องรับผิดชอบ"
นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ห่วงนายอภิสิทธิ์ เพราะทุกคนอยู่ใต้กฎหมาย ใครถูกผิดก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
นายจักรพันธุ์ ยมจินดา โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงพรรคความหวังใหม่จะตรวจสอบใบ สด.43 ด้วยว่า ยินดีให้ฝ่ายค้าน
ตรวจสอบ ไม่มีปัญหาอะไร และถือว่าเป็นหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน แต่ขอยืนยันว่า ได้ สด.43 มาอย่างถูกต้อง โดยได้รับหมายเรียกตัว
ไปเกณฑ์ทหารเมื่อ 4 เม.ย. 17 แต่ช่วงนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ จึงขอผ่อนผันจนเข้ารับราชการที่กรมประชาสัมพันธ์ ก็ยังขอผ่อนผัน
และลาออกเมื่อปี 23 มาทำงานสถานีโทรทัศน์ ก็ยังได้รับหมายเรียกและไปเกณฑ์ทหารที่ อ.แกลง จ.ระยอง จนขณะนี้อายุ 45 ปีแล้ว
ก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่ฝ่ายค้านจะมาตรวจสอบ อาจเป็นเพราะว่าเขาอาจไม่มีงานทำ ขณะนี้ชาวบ้านเบื่อแล้ว ขอฝากไปถึงฝ่ายค้านด้วยว่า ให้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจะดีกว่า ความจริงไม่อยากตอบโต้อะไร แต่ฝ่ายค้านเล่นไม่เลิก จึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงบ้าง
นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกระบุว่า มีปัญหาเรื่องการเกณฑ์ทหารเช่นกัน ก็ออกมาชี้แจงว่า
ได้ไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่อายุ 14 ปี เมื่ออายุครบ 17 ปี ทางก.พ.ได้ทำหนังสือรับรองกับเขตบางเขนว่า ไปศึกษาต่างประเทศตั้งแต่
7 ก.ย. 17 ในความดูแลของ ก.พ. จึงได้รับผ่อนผันการขึ้นทะเบียน เมื่อใกล้ระยะเวลาต้องคัดเลือก เขตบางเขนก็แจ้งว่า เมื่อกลับมา
ให้ไปขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน และได้ไปแจ้งเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 23 ได้ สด.9 มาเมื่ออายุ 20 ปี แล้วกลับไปศึกษาต่อ เมื่ออายุ
21 ปี ก.พ.ได้ทำเรื่องของผ่อนผันให้อีก ซึ่งก็ได้รับใบ สด.41 เมื่อปี 23 ไม่ต้องมาตรวจเลือกทหาร 3 ปีนับแต่วันมีอายุครบ 21 ปี
นายอรรคพลกล่าวว่า เมื่อจบการศึกษากลับมาปี 24 การผ่อนผันของ ก.พ.ก็สิ้นสุด แต่ได้เข้ารับราชการเป็นอาจารย์ที่คณะ
วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 24 จึงได้รับการผ่อนผันตามมาตรา 14 (5) ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร
2497 และได้ใบ สด.37 มา เมื่อลาออกจากราชการปี 25 ก็ไปคัดเลือกทหารที่เขตบางเขน จับได้ใบดำ ได้ สด.43 มาอย่างถูกต้อง
นายอรรคพลกล่าวด้วยว่า อยากให้ประชาชนตัดสินว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ เขามีเอกสารอยู่ในมือพร้อมให้
ตรวจสอบ แต่จะไม่ถ่ายเอกสารแจก เพราะไม่อยากให้ความสำคัญ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นการกระทำที่หวังผลทางการเมือง มีเจตนา
ต้องการบิดเบือนข่าวการปลอม สด.43 จึงพยายามพาดพิงไปถึงกลุ่มนักเรียนนอก
ส่วนที่ บช.น. เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบช.น. ได้เรียก พ.ต.ท.พูนศักดิ์ จิตติรัตน์ รอง ผกก.
สภ.อ.ท่าวังผา จ.น่าน และ พ.ต.อ.โฉลก กรพุกกะนะ รอง ผบก.กองคดี ที่ในอดีตเคยรักษาการแทน พล.ต.ต.ศิริพงษ์ สรรพตานนท์
อดีต ผบก.กองคดี
พ.ต.อ.โฉลก และ พ.ต.ท.พูนศักดิ์ ต่างปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่า ถูกกำชับจากผู้บังคับบัญชาห้ามให้ข่าว
และประเด็นการสอบสวนก็ไม่สามารถเปิดเผยได้
ข่าวแจ้งว่า การสอบปากคำ พ.ต.ท.พูนศักดิ์อย่างเคร่งเครียดนานถึง 6 ชั่วโมงนั้น มีประเด็นสำคัญมาก เพราะเมื่อกลางสัปดาห์
ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จงรักได้เรียก พ.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ผกก.สภ.อ.ท่าวังผา จ.น่าน อดีตรอง ผกก.3 สท. มาสอบปากคำ และมีการ
เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลายประเด็น โดยเฉพาะการรับลูกชายและผู้ใกล้ชิด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้ารับราชการ ว่า พล.ต.ต.พงศพัศ
พงษ์เจริญ ผบก.สท. สั่งให้อำนวยความสะดวกให้อย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ พ.ต.อ.สุรพลยังให้การพาดพิงถึง พ.ต.ท.พูนศักดิ์ว่า เป็นผู้ตรวจตราเอกสารของ ร.ต.ต.อาจหาญ อยู่บำรุง และ
ร.ต.ต.สงวน แกล้วกล้า จึงต้องเรียกมาสอบปากคำด้วย
พล.ต.ต.จงรักกล่าวว่า ขณะนี้สอบสวนได้ประมาณ 80% วันที่ 7 มีนาคม ได้นัดหมายนายทหารยศพันโทซึ่งเป็นอดีตสัสดีเขต
บางขุนเทียนมาสอบ เพราะลูก ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่าไปตรวจเลือกทหาร และมี น.พ.ธงชัย ไชยสิริยะสวัสดิ์ แพทย์ผู้ตรวจร่างกายให้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีหลักฐานพอที่จะเอาผิดผู้ต้องหารือยัง พล.ต.ต.จงรักกล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าคงชัดเจนมากยิ่งขึ้น
คงเห็นเป็นรูปร่างมากกว่านี้ ส่วนคำสั่งที่ให้ ร.ต.ต.อาจหาญ และ ร.ต.ต.วันเฉลิม อยู่บำรุง ออกจากราชการหลังจากที่ลาออกแล้ว
ก็ไม่มีผลต่อรูปคดี ศาลสถิตยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสินในขั้นตอนสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการตรวจเลือกทหารในครั้งนั้น 5 นาย พนักงานสอบสวนสอบปากคำไปแล้ว 3 นาย คือ
นาวาอากาศโทบุญลือ จันทร์รุ่งเรือง พ.ท.ประเสริฐ ประสพดี และ พ.อ.คเชนทร์ วงศาโรจน์ และ น.พ.ธงไชย ไชยสิริยะสวัสดิ์
จะเป็นรายสุดท้าย เนื่องจาก ร.ท.ยุทธศักดิ์ ประเสริฐสุข กรรมการอีกคนหนึ่ง เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว เพราะโดดร่มแล้วไม่กาง
ส่วนการสอบปากคำอดีตสัสดี อ.บางขุนเทียนนั้น ถือว่าเป็นพยานปากเอก เพราะจะเป็นผู้ยืนยันว่า ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม
ไปรับการเกณฑ์ทหารจริงหรือไม่ ส่วนการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนพลทั้ง 9 ปาก ต่างก็ยืนยันตรงกันว่า อำนาจหน้าที่
การตรวจสอบเอกสาร สด.43 นั้น เป็นหน้าที่โดยตรงของกองคดีและกองสารนิเทศ เมื่อถูกต้องแล้วจึงเสนอมาให้สำนักงานกำลังพล
พิจารณา การที่อดีตผู้บังคับการกองคดีโยนความผิดมาให้สำนักงานกำลังพลนั้นไม่ถูกต้อง
jerasak:
ไปเจอเพิ่มเติมมาอีกนิดหน่อยครับ คงจะหมดแค่นี้จริงๆ แล้ว บทนี้เป็นของ แนวหน้า นะครับ วันเดียวกันกับของ ไทยโพสต์ครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ชวน"ชัวร์"อภิสิทธิ"ไม่หนีทหาร
แนวหน้า - วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2542
บรรดาดาวรุ่งพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกฝ่ายค้านความหวังใหม่ขึ้นบัญชีดำสงสัย"หนีทหาร" พากันเรียงหน้าออกมาท้าทาย
ให้ตรวจสอบได้เต็มที่ ขณะเดียวกันตอกกลับฝ่ายค้านทำแต่เรื่องไร้สาระ หาประโยชน์ต่อสังคมไม่ได้ "ชวน"มั่นใจ"อภิสิทธิ์"ไม่ผิด
ด้าน"จงรัก"เตรียมสรุปสำนวนฟ้องอาญา"ลูกเหลิม"ใช้สด.43ปลอมสัปดาห์หน้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ถูกฝ่ายค้านพรรคความหวังใหม่กล่าวหา"หนีทหาร"และปลอม
ใบสำคัญทหารกองเกินหรือสด.9 ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 มีนาคมยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เคยมีเจตนา"หนีทหาร" และพร้อม
ให้ตรวจสอบได้เต็มที่
นายอภิสิทธิ์ระบุเคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า ตนเดินทางไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ เมื่อกลับมาเมืองไทย ก็สมัคร
เข้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายร้อยจปร. นำไปสู่การขึ้นทะเบียนเป็นทหารกองประจำการ ซึ่งตรงนี้ต้องถูกตรวจสอบหลักฐาน
ที่เกี่ยวข้องด้านการทหารและประวัติอย่างละเอียดอยู่แล้ว แต่เมื่อฝ่ายค้านยังข้องใจ ก็มีสิทธิขอตรวจสอบได้ ตอนนี้ทางกองทัพ
รับเรื่องไว้แล้ว ประเด็นปลีกย่อย รายละเอียดต่างๆ กองทัพคงให้ความกระจ่างต่อไป
"ผมไม่เคยมีเจตนาหนีทหาร และในบรรดาบุคคลต่างๆที่ถูกกล่าวหาอยู่ในตอนนี้ ก็มีผมคนเดียวเท่านั้นที่รับราชการทหารมาแล้ว"
นอกจากนายอภิสิทธิ์แล้ว ข่าวจากฝ่ายค้านก่อนหน้านี้ระบุกำลังตรวจสอบม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมช.ต่างประเทศ,
นายอรรคพล สรสุชาติ โฆษกรัฐบาล และนายจักรพันธุ์ ยมจินดา ส.ส.กทม. โฆษกกระทรวงมหาดไทย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นดาวรุ่ง
ของพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อสงสัย"หนีทหาร"เช่นกัน
นายอรรคพล สรสุชาติ กล่าวว่า ยินดีให้ตรวจสอบเต็มที่ ตัวเขาเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษตั้งแต่เมื่อปี 2517 ขณะอายุ
14 ปี พออายุครบ 17 ปี ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนทหาร ก็ได้ขอผ่อนผัน โดยมีหนังสือรับรองจากก.พ.ที่มีหน้าที่ดูแลนักเรียนไทย
ในต่างประเทศ ต่อมากลับเมืองไทยปี 2523 เพื่อแจ้งขึ้นทะเบียนบัญชีทหารและได้ใบสด.9 พอจบการศึกษามาปี 2524 ก็เข้า
รับราชการเป็นอาจารณ์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ขอผ่อนผันในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัย ตามมาตรา
14(5) แห่งพ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 ได้ใบสด.37 เมื่อประสงค์ลาออกจากราชการ จึงไปเกณฑ์ทหารในปี 2525
ที่เขตบางเขน และจับได้"ใบดำ"ได้ใบสด.43 มา หลังจากนั้นจึงไปทำงานภาคเอกชน หลักฐานทั้งการผ่อนผันและเกณฑ์ทหาร
มีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์
"ผมคงไม่เอาหลักฐานเหล่านี้ออกมายืนยัน เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนที่กล่าวหา แต่หากอยากดู ให้มาขอดูได้ทุกเวลา"
นายอรรคพลกล่าว พร้อมกับระบุว่า เรื่องทั้งหมดถือเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น และพยายามโยงเป็นเรื่องการเมือง เจตนาให้
ประชาชนไขว้เขว้ ทั้งที่ต่างจากกรณีลูกชายของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ที่ถูกตรวจสอบแล้วว่า
ใช้ใบ สด.43 ปลอมในการเข้ารับราชการตำรวจจริง
สำหรับกรณีที่ฝ่ายค้านกล่าวหานายอภิสิทธิ์ปลอมแปลงเอกสารสด.9 ในการเข้ารับราชการทหารนั้น นายอรรคพลชี้ว่า
นายอภิสิทธิ์ได้รับบรรจุเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยจปร.มียศร้อยตรี ทางกองทัพก็ชี้แจงแล้ว แต่หากยังติดใจอยู่ รัฐบาลพร้อม
ทำทุกอย่างให้โปร่งใส
"การกล่าวหาลอยๆ หรือพยายามสร้างภาพกลบเกลื่อนความผิดที่วินิจฉัยไปแล้ว ผมเชื่อว่า ประชาชนย่อมทราบวัตถุประสงค์นี้ดี"
ส่วนนายจักรพันธุ์ ยมจินดา ยืนยันเช่นกัน พร้อมให้ฝ่ายค้านตรวจสอบได้เลย เพราะเขาไปรับคัดเลือกทหารที่ อ.เมือง จ.ระยอง
ประมาณปี 2523 และได้รับใบสด.43 ถูกต้อง อย่างไรก็ตามถึงจะตรวจสอบยังไงก็ไม่มีผลกับเขา เพราะไม่ได้รับราชการอยู่
และอายุเขา 45 ปีแล้ว หมดอายุความ ไม่มีผลให้ต้องไปเกณฑ์ทหารใหม่
"ที่ฝ่ายค้านนำเรื่องนี้ขึ้นมา อาจเป็นเพราะไม่มีงานทำ จึงทำแต่เรื่องที่ไร้สาระทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนไปหมดแล้ว
ทีเรื่องมีสาระก็ทำไม่เป็น"
นายนพดล ปัทมะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ฝ่ายค้านควรใช้เวลาไปตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในแง่นโย
บาย และเสนอแนะปัญหา ดีกว่าจะมาขุดคุ้ยเรื่องเหล่านี้ เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร และการที่มุ่งโจมตีเฉพาะ ส.ส.
ประชาธิปัตย์ แสดงชัดถึงเกมการเมืองน้ำเน่า มุ่งแก้แค้น
"รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ไม่กลัว แต่ขอให้ฝ่ายค้านระวังจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทด้วย ถ้ากล่าวหาความเท็จ
หรือพูดคลุมเครือ นำเอกสารบางส่วนมาทำให้คนอื่นเสียหาย"
ด้านนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงท่าทีไม่กังวลเรื่องที่ฝ่ายค้านกล่าวหานาย
อภิสิทธิ์"หนีทหาร" โดยกล่าวว่า สอบถามนายอภิสิทธิ์แล้ว ได้รับคำยืนยัน ผ่านการรับราชการทหารมาอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน
แต่เมื่อฝ่ายค้านต้องการความกระจ่างชัด ตนก็ได้กำชับทางกองทัพให้ร่วมมือตรวจสอบให้เต็มที่
ขณะเดียวกันถึงแม้ลูกชายทั้ง 2 ของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะถูกให้ออกจากตำรวจ กลายเป็นนายวันเฉลิมและนาย
อาจหาญ อยู่บำรุงแล้ว ชุดสอบสวนของพล.ต.ต.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังเดินหน้าสอบเอาผิด
คดีอาญา ข้อหาใช้ สด.43 ปลอม โดยวันเดียวกันได้เรียกสอบนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในการรับทั้ง 2 เข้าเป็นตำรวจที่ผ่านมา
พล.ต.ท.จงรักให้สัมภาษณ์คาดว่า คงจะสรุปสำนวนฟ้องคดีนี้ได้ภายในสัปดาห์หน้า
Suraphan07:
ขอบพระคุณ คุณ jerasak ที่ช่วยนำมาให้อ่าน...
"การเมืองยังไงก็ยังเป็นการเมือง"
ขออนุญาตเซฟเก็บไว้ เผื่อเอาไปแปะ ให้เด็กๆ รุ่นหลังๆ
ที่ไม่ประสี ประสากับเกมส์การเมือง ได้อ่านกัน.......
คงมีเด็กพวกนั้น ขุดประเด็นนี้มาเล่นกันอีกแน่ๆครับ... :slime_hmm:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป