@#! เป็นไงหล่ะ.เห็นมั๊ย.พออาแม๊ว.แสนดี๊.ม่ายอยู่. เจอยาเสพติดเพียบ เร๊ย! @!#

[ลูกหินฮะ๛]

จากข้อมูลการจับกุมของ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด


ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2550

พบว่า สถิติการจับยาเสพติดประเภท..
เฮโรอีน มี 8 คดี ได้ผู้ต้องหา 12 คน น้ำหนักรวม 6,673 กรัม
กัญชาแห้ง มี 81 คดี ได้ผู้ต้องหา 99 คน น้ำหนักรวม 980,804.05 กรัม
ในขณะที่ยาบ้า มี 1,312 คดี ได้ผู้ต้องหา 1,907 คน จำนวนยา 3,001,354 เม็ด
และ ยาอี มี 13 คดี ได้ผู้ต้องหา 16 คน จำนวน 8,564 เม็ด 

  โอว.ว เป็นไงหล่ะ.พออาแม๊ว..ม่ายอยู่. เจอยาเสพติดเพียบ เร๊ย!



  WOW! ตอน อาแม๊ว.แสนดี๊.อยู่. ไม่มียาเสพติด...จริงๆด๊วย

ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2548

พบว่า มียาเสพน้อยมาก .. เจออย่างมาก ..เม็ดสองเม็ด ...ผู้ต้องหา ตายเกลี๊ยง  

ตัวอย่าง   "191"ทลายแก๊งยาเสพติดรายใหญ่กลางกรุง ยึดของกลางยาบ้ากว่าแสนเม็ด / วันนอร์บุกตรวจวอร์รูมปราบยาบ้าที่ปากน้ำ / มท.1พอใจผู้ว่าฯ ผู้การตำรวจสมุทรสาครที่ทำงานเชิงรุกจัดการกับยาเสพติด  /นครพนม ฆ่าตัดตอนวันเดียว 8 ศพ กำนันกับเมียโดนคนร้ายบุกยิงคาบ้าน /ปปง.-ปปส.ตรวจค้นบ้านสจ.อยุธยาตามบัญชีดำ/ผู้ว่าฯสิงห์บุรีเฉียบขาด สั่งไล่ 3 ผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง เพราะมีพฤติกรรมพัวพันการค้ายา/
"ทักษิณ"โต้ข่าวตำรวจ ฆาตกรรมคดียาบ้า 352 ศพยันไม่ใช่การวิสามัญ /นายกฯชี้คดีฆ่าตัดตอนรัฐช่วยไม่ได้ ฯลฯ
วิสามัญฆ่าตัดตอน หญิง เด็ก คนชราไม่เว้น
นับแต่นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งที่ 29/2546 เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2546 เรื่องการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด เอาชนะปัญหายาเสพติดอันเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติให้ได้อย่างรวดเร็ว ยั่งยืนถาวร ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ กระทรวงมหาดไทยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ถือเอาคำประกาศสงครามยาเสพติดของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ที่ต้องการให้ใช้มาตรการเด็ดขาดขั้นแตกหัก โดยคำพูด ของนายกรัฐมนตรีที่มีนัยความหมายถึงการจับตาย ทำให้สังคมไทยปกคลุมไปด้วยบรรยากาศความหวาดกลัวการวิสามัญฆาตกรรมของตำรวจ
เพียงแค่ 2 สัปดาห์ กลไกรัฐได้เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งหญิง เด็ก คนชรา ที่ไม่มีทางต่อสู้ไปเป็นจำนวนมาก กว่า1000 ชีวิตเพื่อสังเวยคำสั่งนี้ การฆ่าล้างแค้นตัดตอนของขบวนการค้ายาเสพติดที่อ้างกัน ในมุมมองมาร์คซิสต์เราเห็นว่าเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาความยากจนที่รัฐเผชิญ การใช้อำนาจรัฐอย่างบ้าคลั่งที่กำลังปฏิบัติการทั่วประเทศเช่นนี้ ไม่แตกต่างจากยุคเผด็จสฤษดิ์ ที่สั่งปราบปรามคอมมิวนิสต์
 

เรา..ควรทำอย่างไร ต่อไป ? .... เรื่องปัญหายา..ยาเสพติด ฮะ??..
เชิญอาแม๊ว กลับมาไวไวเถอะ..ฮะ


  อาแม๊ว.. ม่ายรัก คนไทยแล้วหรือ???   ฮือๆๆๆๆ ..  

 

[sanskritshower]

เมื่อเช้าดูเรื่องเล่าเช้านี้  ตำรวจไปจับเจ้าของต้นกระท่อมแถวหนองจอก  เห็นบอกว่าปลูกไว้กว่า200ต้น  แถมคนโดนจับยังบอกอีกว่า  แถวนี้ปลูกกันเพียบ

เค้าบอกว่าปลูกมาหลายปีแล้ว 

แสดงว่าช่วงนี้ ยาเสพย์ติดเยอะจริงๆอย่างที่ลุงลูกหินว่าจริงๆครับ  ผมขอยืนนัน  555 

[ลูกหินฮะ๛]

เมื่อเช้าดูเรื่องเล่าเช้านี้  ตำรวจไปจับเจ้าของต้นกระท่อมแถวหนองจอก  เห็นบอกว่าปลูกไว้กว่า200ต้น  แถมคนโดนจับยังบอกอีกว่า  แถวนี้ปลูกกันเพียบ

เค้าบอกว่าปลูกมาหลายปีแล้ว 

แสดงว่าช่วงนี้ ยาเสพย์ติดเยอะจริงๆอย่างที่ลุงลูกหินว่าจริงๆครับ  ผมขอยืนนัน  555 

    น่านจิฮะ

..  สมัยอาแม๊ว.ม่ายมี ยาเสพติด.. ให้เห็นเร๊ยยย.เลย.จริงจริ๊งงง..

 ( ม่ายนับที่พวกพี่ยุทธตู้เย็น ยัด เม็ด..สองเม็ด..ให้เด็ก..แล้ว ยิงหัวทิ้ง..ทันที่ )

[ปรมาจารย์เจได]

 

สมัยบรรหาร เม็ดละ 30 บาท คุณภาพเยี่ยม
สมัยลุงชวนเม็ดละ 150-170 คุณภาพปานกลาง
สมัยอาแม้วอยู่ เม็ดละ 400 คุณภาพห่วยแตกครับ

 

[Şiłąncē Mőbiuş]

สมัยบรรหาร เม็ดละ 30 บาท คุณภาพเยี่ยม
สมัยลุงชวนเม็ดละ 150-170 คุณภาพปานกลาง
สมัยอาแม้วอยู่ เม็ดละ 400 คุณภาพห่วยแตกครับ

 

  แสดงว่าเคยใช้ 

[ปรมาจารย์เจได]

แสดงว่าเคยใช้ 

 

ฟังเค้าเล่ามาอีกที

[สมปอง]

พวกลูกสมุน ไอ้แม้ว เอ้ย อาแม้ว ไปไหนหมดฮะ grianlnw เปรมิกา อยากตดแก๊สไข่เน่า

[mebeam]

ช่วยยืนยัน ตอนนั้นยุคอาแม้ว ยาบ้าหายาก ครับ ราคา400 แถมห่วยด้วยเพราะผสมเยอะ
เอเย่นรายเล็กรายใหญ่ หยุดกันหมด กลัวตาย กับ ยึดทรัพย์  เรื่องยาบ้าระบาดในโรงเรียน
หายไปเลย

   เมื่ออาทิตย์เพิ่งคุยกับเด็กเฮี้ยวๆ แถวบ้าน ฟังแล้วเศร้าเลย ตอนนี้ยาบ้ากลับมาเฟื่องฟูแล้ว
เม็ดละ 150 เอง วันๆไม่เรียน มั่วสุมแต่อยู่ในห้องน้ำโรงเรียน บอกปลอดภัยดี ตำรวจไม่เข้าไป
อย่างดีก็เจอแต่ครู  อยู่ในนั้นทั้งวัน ม4 ม 5  ส่วน พวกไม่ได้เรียน โดนจับก็ไม่กลัว เข้าบ้านฟื้นฟู
กันเดือน 2 เดือน ก็ออกมาแล้ว ต่อไปนี้ ก็คงเป็นวงจรแหละ ตัวรวจก็จับกันเพลิน ยิ่งจับยิ่งเยอะ
  เห็นตัวเลขมั๊ยครับ ปีที่แล้วเกือบ 2000 คน ถ้าจับอย่างนี้ตลอด ก็ต้อง สร้างคุกกันเพิ่มทุกปีล่ะ
ยังไม่นับค่าดูแล ค่าอาหารนักโทษอีก ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนนโยบาย เราก็ต้องเจออย่างนี้ทุกปีแหละ
ผมยังอยากได้อย่างสิงค์โปร์เลย จับเป็นยาเสพติดได้ ก็ต้องโดนโทษประหารแม้เพียงเล็กน้อย เพราะฉนั้น
ก็หัวเราะกันไปเถอะครับ   แล้วก็รับชะตากรรมสังคมที่จะตามมาให้ได้ก็แล้วกัน
ผมมีลูกชายด้วย คิดเห็นไม่ตรงกับพวกคุณแน่นอน  "ที่จะเอาผิดกับ คนที่ทำนโยบาย ทำสงครามกับยาเสพติด
แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เด็ดขาด เพื่อที่จะกำจัด ยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย"
และผมให้อภัยได้ กับข้อผิดพลาดบางประการที่มันเกิด ก็คนมันทำงานมันก็ต้องมีบ้างดูที่เจตนาครับ

  อีกอย่าง ยาบ้าตอนนั้นมันเงียบไปจริงๆ และตอนนี้มันก็กลับมาจริงๆ
ไม่ว่าใครจะว่ายังไง มันก็คงเป็นแถวบ้านคุณ แถวบ้านผมมันเป็นอย่างนี้จริงๆ

[หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ]

     อาแม้วสู้ๆ

[mebeam]

เห็นคุยกันเรื่องใบกระท่อม เลยเอานโยบาย  กำจัดยาเสพติดของพรรคมัชณิมาฯมาให้

มัชฌิมาฯเสนอให้ศึกษาประโยชน์ ใบกระท่อม เป็นพืชศก.
 20:41 น.


นายศิริ หวังบุญเกิด ผู้สมัครส.ส.เขต 6 กทม. บึงกุ่ม คันนายาว คลองสามวา และหนองจอก พรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมประชาชนเขตหนองจอกที่ปลูกใบกระท่อม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าใบกระท่อมเป็นพืชที่มีสารเสพติด แต่ในทางเป็นจริงนั้น ใบกระท่อม เป็นพืชที่ปลูกกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะทางภาคใต้ มีอยู่มากมายทั้งที่ปลูกเองและขึ้นตามธรรมชาติ ขณะที่พื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมาณฑล มีประชาชนส่วนหนึ่งนิยมบริโภค เพื่อเพราะเชื่อว่าให้พลังงาน

ขณะนี้ใบกระท่อม จัดอยู่ในยาเสพติดประเภทที่ 5 มีฤทธิ์กล่อมประสาท แต่คุณค่าทางการแพทย์ นั้น ในใบกระท่อมมีสาร “นิเทอร์ไจนีน” โดยญี่ปุ่นนำไปใช้ทางการแพทย์ เพราะมีฤทธิ์บำบัดรักษา ระงับอาการปวดของผู้ป่วย โดยผลการวิจัยพบว่าเมื่อเปรียบเทียบสาร “นิเทอร์ไจนีน” ในอัตราเท่ากันกับ “มอร์ฟีน” มีคุณภาพดีกว่ามอร์ฟีน 100 เท่า และไม่มีผลทำให้เสพติด

นายศิริกล่าวว่า“ญี่ปุ่น สกัดสาร “นิเทอร์ไจนีน” ออกจากใบกระท่อม ได้สำเร็จแล้วสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล ขณะเดียวกันผมเคยเสนอกฎหมายให้นำใบกระท่อม ออกจากพ.ร.บ.ยาเสพติด เมื่อครั้งที่เป็นส.ส.โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวยังค้างอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ตัวผมอยากให้ตระหนักถึงคุณค่าของใบกระท่อม และช่วยกันส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เรื่องนี้อย่ามองเพียงแค่เป็นโทษด้านเดียว ทั้งที่มีประโยชน์มหาศาล”
  
 http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=290726
 

[ปรมาจารย์เจได]

ช่วยยืนยัน ตอนนั้นยุคอาแม้ว ยาบ้าหายาก ครับ ราคา400 แถมห่วยด้วยเพราะผสมเยอะ
เอเย่นรายเล็กรายใหญ่ หยุดกันหมด กลัวตาย กับ ยึดทรัพย์  เรื่องยาบ้าระบาดในโรงเรียน
หายไปเลย

   เมื่ออาทิตย์เพิ่งคุยกับเด็กเฮี้ยวๆ แถวบ้าน ฟังแล้วเศร้าเลย ตอนนี้ยาบ้ากลับมาเฟื่องฟูแล้ว
เม็ดละ 150 เอง วันๆไม่เรียน มั่วสุมแต่อยู่ในห้องน้ำโรงเรียน บอกปลอดภัยดี ตำรวจไม่เข้าไป
อย่างดีก็เจอแต่ครู  อยู่ในนั้นทั้งวัน ม4 ม 5  ส่วน พวกไม่ได้เรียน โดนจับก็ไม่กลัว เข้าบ้านฟื้นฟู
กันเดือน 2 เดือน ก็ออกมาแล้ว ต่อไปนี้ ก็คงเป็นวงจรแหละ ตัวรวจก็จับกันเพลิน ยิ่งจับยิ่งเยอะ
  เห็นตัวเลขมั๊ยครับ ปีที่แล้วเกือบ 2000 คน ถ้าจับอย่างนี้ตลอด ก็ต้อง สร้างคุกกันเพิ่มทุกปีล่ะ
ยังไม่นับค่าดูแล ค่าอาหารนักโทษอีก ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนนโยบาย เราก็ต้องเจออย่างนี้ทุกปีแหละ
ผมยังอยากได้อย่างสิงค์โปร์เลย จับเป็นยาเสพติดได้ ก็ต้องโดนโทษประหารแม้เพียงเล็กน้อย เพราะฉนั้น
ก็หัวเราะกันไปเถอะครับ   แล้วก็รับชะตากรรมสังคมที่จะตามมาให้ได้ก็แล้วกัน
ผมมีลูกชายด้วย คิดเห็นไม่ตรงกับพวกคุณแน่นอน  "ที่จะเอาผิดกับ คนที่ทำนโยบาย ทำสงครามกับยาเสพติด
แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เด็ดขาด เพื่อที่จะกำจัด ยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย"
และผมให้อภัยได้ กับข้อผิดพลาดบางประการที่มันเกิด ก็คนมันทำงานมันก็ต้องมีบ้างดูที่เจตนาครับ

  อีกอย่าง ยาบ้าตอนนั้นมันเงียบไปจริงๆ และตอนนี้มันก็กลับมาจริงๆ
ไม่ว่าใครจะว่ายังไง มันก็คงเป็นแถวบ้านคุณ แถวบ้านผมมันเป็นอย่างนี้จริงๆ

โฮ่ เจอยอดคุณพ่อเข้าซะ
ลองสูบดูเหรอครับ ถึงรู้ว่ามันผสมเยอะ 

การแก้ปัญหายาบ้า ทุกรัฐบาล ทำมาโดยตลอด ผมขอยืนยัน
สมัยรัฐบาลบรรหาร ชวลิต และชวน หลีกภัย เป็นยุคที่วัยรุ่นในสมัยนั้นอย่างผมชอบมาก

บรรหาร ศิลปอาชา
สถานบันเทิงยามกลางวันเช่นลานสเก็ต หรือร้านชั้นใต้ดิน ให้บริการเด็กหัวเกรียนอย่างผมเป็นอย่างดี ขอแค่มีตังค์
ราคายาบ้าไม่แพง แทบไล่แจก
ยาบ้าเม็ดละไม่ถึงร้อย ทำท่าจะกวาดล้างอยู่พักนึง ราคายาบ้าดีดตัวขึ้นสูงขึ้น หลบซ่อนเล็กน้อย

พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
ยาบ้าเฟื่องฟูสุดขีดในรัฐบาลนี้ หัวเกรียนเข้าเธคตรึม ยาบ้าเดินขายสดๆ

นายชวน หลีกภัย
สุดยอด...แห่งยุค เธคเปิดสว่าง หัวเกรียนเข้าเธคตรึม ยาบ้าเดินขายสดๆ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
กวาดล้างยาบ้าครั้งใหญ่ แต่เอเย่นต์ตัวเป้งๆตามจังหวัดต่างๆ ยังอยู่ดีมีสุข ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ก่อนกองปราบมาจับ กองปราบยังต้องวอมาบอกให้หนีก่อน
เอาสิครับ ปาหี่แท้ๆ เรื่องปราบผู้ค้ายาบ้า

ผมขอคอนเฟิร์มว่าที่ตาย ไม่ใช่พ่อค้าครับ แพะทั้งนั้น อาศัยจะหวะนี้เข้าเช็คบิลโจทก์

ส่วนที่ยาบ้าลดลงนั้น ตำรวจท้องที่ไม่หลับหูหลับตาเหมือนเคยครับ
สรุปใจความสั้นๆว่า ถ้าอยากปราบจริงๆ สั่งตำรวจให้ได้ก็พอครับ ไม่ต้องไปทำปาหี่ยิงคน

และที่สำคัญ ในยุคนี้หาซื้อได้เช่นเดิมครับ แต่ราคาแพงมาก ไม่ทราบว่ามีใครได้กำไรจากจุดนี้หรือเปล่า

[Cherub Rock]

ยังไม่นับค่าดูแล ค่าอาหารนักโทษอีก ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนนโยบาย เราก็ต้องเจออย่างนี้ทุกปีแหละ
ผมยังอยากได้อย่างสิงค์โปร์เลย จับเป็นยาเสพติดได้ ก็ต้องโดนโทษประหารแม้เพียงเล็กน้อย เพราะฉนั้น
ก็หัวเราะกันไปเถอะครับ   แล้วก็รับชะตากรรมสังคมที่จะตามมาให้ได้ก็แล้วกัน
ผมมีลูกชายด้วย คิดเห็นไม่ตรงกับพวกคุณแน่นอน  "ที่จะเอาผิดกับ คนที่ทำนโยบาย ทำสงครามกับยาเสพติด
แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เด็ดขาด เพื่อที่จะกำจัด ยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย"
และผมให้อภัยได้ กับข้อผิดพลาดบางประการที่มันเกิด ก็คนมันทำงานมันก็ต้องมีบ้างดูที่เจตนาครับ

คิดแบบนี้ไม่ต้องมีอัยการ ไม่ต้องมีศาล
ตัดสินกันด้วยกระบอกปืน
ถ้าเมืองไทยเป็นรัฐตำรวจแบบนี้
ผมขออพยพไปอยู่ลาวดีกว่า

[Kittinunn]

บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะครับ ไอ้สัตว์

[เล่าปี๋]

ช่วยยืนยัน ตอนนั้นยุคอาแม้ว ยาบ้าหายาก ครับ ราคา400 แถมห่วยด้วยเพราะผสมเยอะ
เอเย่นรายเล็กรายใหญ่ หยุดกันหมด กลัวตาย กับ ยึดทรัพย์  เรื่องยาบ้าระบาดในโรงเรียน
หายไปเลย

   เมื่ออาทิตย์เพิ่งคุยกับเด็กเฮี้ยวๆ แถวบ้าน ฟังแล้วเศร้าเลย ตอนนี้ยาบ้ากลับมาเฟื่องฟูแล้ว
เม็ดละ 150 เอง วันๆไม่เรียน มั่วสุมแต่อยู่ในห้องน้ำโรงเรียน บอกปลอดภัยดี ตำรวจไม่เข้าไป
อย่างดีก็เจอแต่ครู  อยู่ในนั้นทั้งวัน ม4 ม 5  ส่วน พวกไม่ได้เรียน โดนจับก็ไม่กลัว เข้าบ้านฟื้นฟู
กันเดือน 2 เดือน ก็ออกมาแล้ว ต่อไปนี้ ก็คงเป็นวงจรแหละ ตัวรวจก็จับกันเพลิน ยิ่งจับยิ่งเยอะ
  เห็นตัวเลขมั๊ยครับ ปีที่แล้วเกือบ 2000 คน ถ้าจับอย่างนี้ตลอด ก็ต้อง สร้างคุกกันเพิ่มทุกปีล่ะ
ยังไม่นับค่าดูแล ค่าอาหารนักโทษอีก ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนนโยบาย เราก็ต้องเจออย่างนี้ทุกปีแหละ
ผมยังอยากได้อย่างสิงค์โปร์เลย จับเป็นยาเสพติดได้ ก็ต้องโดนโทษประหารแม้เพียงเล็กน้อย เพราะฉนั้น
ก็หัวเราะกันไปเถอะครับ   แล้วก็รับชะตากรรมสังคมที่จะตามมาให้ได้ก็แล้วกัน
ผมมีลูกชายด้วย คิดเห็นไม่ตรงกับพวกคุณแน่นอน  "ที่จะเอาผิดกับ คนที่ทำนโยบาย ทำสงครามกับยาเสพติด
แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เด็ดขาด เพื่อที่จะกำจัด ยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย"
และผมให้อภัยได้ กับข้อผิดพลาดบางประการที่มันเกิด ก็คนมันทำงานมันก็ต้องมีบ้างดูที่เจตนาครับ

  อีกอย่าง ยาบ้าตอนนั้นมันเงียบไปจริงๆ และตอนนี้มันก็กลับมาจริงๆ
ไม่ว่าใครจะว่ายังไง มันก็คงเป็นแถวบ้านคุณ แถวบ้านผมมันเป็นอย่างนี้จริงๆ

  แล้วคุณมองมุมกลับบ้างไหมว่า  ถ้าไปเจอคนเกลียดเรา
แล้วเอายาบ้ามายัดไว้ในบ้านโดยเราไม่ทราบเนี่ย  กับถ้าเจ้าหน้าที่
บางคนอยากได้เงิน จับคุณแล้วยัดเยียดยาบ้าให้คุณ  คุณจะทำอย่างไร
ผมเองก็มีลูกชาย ผมก็รักของผมเหมือนคุณ  แต่การคิดมันคนละแบบกับคุณครับ

  คิดแบบคุณน่ะคิดได้ครับ  แต่ผมไม่เห็นด้วยเลย   

 

[Cherub Rock]

ผมยังอยากได้อย่างสิงค์โปร์เลย จับเป็นยาเสพติดได้ ก็ต้องโดนโทษประหารแม้เพียงเล็กน้อย เพราะฉนั้น
ก็หัวเราะกันไปเถอะครับ   แล้วก็รับชะตากรรมสังคมที่จะตามมาให้ได้ก็แล้วกัน

อ้อ.. อยากบอกว่า โทษประหาร กับ อุ้มฆ่า มันคนละอย่างกันนะครับ

[ลูกหินฮะ๛]

ขอตัดแปะฮะ

ยุครัฐบาล ทักษิณ

• ขีดเส้นโจรใต้ ให้มอบตัวไม่มาถูกไล่ล่าจับตายแน่  

ข่าวจาก

หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
วันที่ 3 กันยายน 2546


ผบช.ภาค 9 ประกาศโจรใต้หมดเวลาแล้ว ให้โอกาสมอบตัวสู้คดี หากไม่มาจะไล่ล่าจับตายทันที ด้านรอง ผบ.ตร.รุดร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ รอง ผกก.ป.พลีชีพ ท่ามกลางประชาชนครึ่งหมื่นร่วมงานด้านอัยการยื่นฟ้อง 4 สมาชิกเจไอข้อหาหนัก ระบุร่วมกับสมาชิกขบวนการก่อการร้าย มีพฤติการณ์วางแผนระเบิดสถานทูตหลายแห่งในไทย รองอธิบดีอัยการเผย ข้อหาก่อการกบฏและเตรียมทำร้ายผู้แทนต่างชาติ หลักฐานไม่สมบูรณ์ สั่งไม่ฟ้อง และเตรียมขอตัว "อารีฟิน" จากสิงคโปร์มาดำเนินคดีในไทย ส่วนที่ภูเก็ต เตรียมมาตรการเข้มรับ "ทักษิณ" มาประชุมหัวหน้าหน่วยราชการภาคใต้ 14 จังหวัด ส่วนศาลอินโดนีเซียให้ปล่อยตัว "อาบู บาการ์ บาเชียร์" พ้นคุกเนื่องจากไม่มีหลักฐาน


อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไพศาล ตั้งใจตรง ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ไม่ว่า ขจก.จะเคลื่อนไหวเพื่อหลบซ่อนตัว หรือเพื่อตอบโต้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจตามข่าว ก็ไม่ให้ความสนใจ เพราะตำรวจมีแผนการในการปราบปรามให้สิ้นซาก หากใครมามอบตัวก็จะให้โอกาสในการต่อสู้คดี แต่หากไม่มามอบตัว ก็จะต้องถูกไล่ล่าไม่จับเป็นก็ต้องถูกจับตาย เพราะขณะนี้หมดเวลาของกลุ่มโจรก่อการร้ายแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีความพยายามของเจ้าหน้าที่โดยส่งญาติคนหนึ่งซึ่งเป็นตำรวจยศ จ่า ที่ใกล้ชิดกับ รมว. มหาดไทย เป"นพี่ของนายอัสมิน โซ๊ะสะนิ ที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มแทนนายมาหามะ แมเราะ เพื่อให้นายอัสมิน ออกมามอบตัวกับ รมว. มหาดไทย เพื่อที่จะยุติความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไพศาล ตั้งใจตรง ผบช.ภ.9 เปิดเผยว่า ไม่ว่า ขจก.จะเคลื่อนไหวเพื่อหลบซ่อนตัว หรือเพื่อตอบโต้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจตามข่าว ก็ไม่ให้ความสนใจ เพราะตำรวจมีแผนการในการปราบปรามให้สิ้นซาก หากใครมามอบตัวก็จะให้โอกาสในการต่อสู้คดี แต่หากไม่มามอบตัว ก็จะต้องถูกไล่ล่าไม่จับเป็นก็ต้องถูกจับตาย เพราะขณะนี้หมดเวลาของกลุ่มโจรก่อการร้ายแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีความพยายามของเจ้าหน้าที่โดยส่งญาติคนหนึ่งซึ่งเป็นตำรวจยศ จ่า ที่ใกล้ชิดกับ รมว. มหาดไทย เป"นพี่ของนายอัสมิน โซ๊ะสะนิ ที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มแทนนายมาหามะ แมเราะ เพื่อให้นายอัสมิน ออกมามอบตัวกับ รมว. มหาดไทย เพื่อที่จะยุติความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียในวันเดียวกันว่า ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษา นายอาบู บาการ์ บาเชียร์ ผู้นำศาสนาวัย 65 ปี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม เจไอ ถูกตั้งข้อหาเป็นกบฏคิดโค่นล้มอำนาจรัฐบาลอินโดนีเซียและตั้งรัฐอิสลาม ร่วมกันวางแผนลอบสังหารประธานาธิบดีเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี โดยระบุว่า นายบาเชียร์ พัวพันกับการโจมตีหลายครั้งในอินโดนีเซีย เช่นระเบิดโบสถ์ในวันคริสต์มาสอีฟปี 2543 ตาย 19 ศพ ระเบิดเกาะบาหลีตาย 202 ศพ และสุดท้ายระเบิดโรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงจาการ์ตา ตาย 12 ศพ

อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาได้ตัดสินจำคุกนายบาเชียร์เป็นเวลา 4 ปี ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการโค่นล้มรัฐบาลอินโดนีเซีย แม้ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ได้ว่า เป็นหัวหน้ากลุ่มเจไอ

ส่วนที่ประเทศอิรัก เมื่อเวลา 11:30 น. วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดเหตุระเบิดในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) ที่บริเวณลานจอดรถของสถานีตำรวจเขตราซาฟา ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ กองบัญชาการตำรวจ และ กระทรวงมหาดไทย แรงระเบิดทำให้รถยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปหลายคน ส่วนใหญ่เป็นตำรวจ และชาวบ้านที่ผ่านมาใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ มีอาการสาหัส 1 คน ตำรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด จนกว่าจะสอบสวนเสร็จสิ้น ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีระเบิดที่เมืองนาจาฟ เมื่อวันศุกร์สัปดาห์ที่แล้ว คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 80 ศพ รวมทั้งนายอยาตอล ลาห์ โมฮัมหมัด บากีร์ อัล-ฮาคิม นักการเมืองและนักบวชนิกายชีอะห์

[ลูกหินฮะ๛]

   คิดถึงข่าว..เก่าๆหน่ะฮะ....อิอิ

 ม่ายมีอะไรในกอไฝ่ ดอก..

[Solidus]

ว่าแต่ยายผิดอะไรที่ต้องยกโขยงไปยิงถล่มตู้เย็น

[Şiłąncē Mőbiuş]

ว่าแต่ยายผิดอะไรที่ต้องยกโขยงไปยิงถล่มตู้เย็น

เหอๆๆๆ เอา Link มาให้ดูด้วยซิครับ

แล้วอยากได้ข้อหาต่างๆของไอ้ยุทธตู้เย็นด้วยนะครับ ไม่ทราบว่ามีไม๊คร้าบบ 

[แอ่นแอ๊น]

ตัวเป้งๆ เป็นพ่อ สส อ่ะ จะจับได้ไง อยู่ในพรรคอาแม้ว

หลังจากปฏิบัติฆ่าล้างบาง ค้าจริงค้าปลอมไม่รู้ รู้แต่คู่แข่งตายหมด

ตำรวจแทบจะจับยาบ้าไม่ได้อีกเลย 

ลืมไป พ่อ สส  คนนี้ เป็นเจ้าของโรงแรมฟอกเงินด้วย

อาแม้วชอบไปนอนบ่อยๆ

ถ้ารู้ว่า โรงแรมตอนสร้างไม่มีชั้นใต้ดินอาแม้วคงไม่ไปนอน

เวลาได้ยินว่า อาแม้วไปนอนทีไร แอนก็สวดมนต์ให้อาแม้วเสมอ

สวดมนต์ให้อาแม้วกะพวก เหมานอนคนเดียวทั้งโรงแรม

[Cherub Rock]

ตัวเป้งๆ เป็นพ่อ สส อ่ะ จะจับได้ไง อยู่ในพรรคอาแม้ว

หลังจากปฏิบัติฆ่าล้างบาง ค้าจริงค้าปลอมไม่รู้ รู้แต่คู่แข่งตายหมด

ตำรวจแทบจะจับยาบ้าไม่ได้อีกเลย 

ง่ะ..

หวยบนดินมีแล้ว
ยาบ้าบนดินก็มีด้วย

[Solidus]

เหอๆๆๆ เอา Link มาให้ดูด้วยซิครับ

แล้วอยากได้ข้อหาต่างๆของไอ้ยุทธตู้เย็นด้วยนะครับ ไม่ทราบว่ามีไม๊คร้าบบ 

ศาลอยุธยารับฟ้อง'ยุทธ ตู้เย็น'กับพวกรวม 8 คน ข้อหาพยายามฆ่า-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบคดียกหน่วยคอมมานโดยิงถล่มบ้าน ตระกูล'ศตะกูรมะ' แต่2ตายายรอดตายหวุดหวิด เพราะใช้ตู้เย็นเป็นที่กำบัง โจทก์ดีใจที่คดีมีมูล เผยถูกข่มขู่ให้ถอนฟ้อง จนทนายถอนตัวไป 3 คน เจ้าของบ้านยังผวาหลบหนีไปอยู่ป่า
 
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 2248/2549 นัดพร้อมคำให้การคดียิงถล่มบ้าน นายนิสัยและนางอุดม ศตะกูรมะ โดยมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำเลยที่ 1 พร้อมพวกอีก 11 คน ตกเป็นจำเลย ประกอบด้วย ร.ต.อ.มนู เศรษฐาจินดา, พ.ต.ต.อาสาฬห์ ถมยา, ว่าที่ พ.ต.อ.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์, พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย, จ.ส.ต.จักรภพ เทพเสนา, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์, พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ, พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ, พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา และ พ.ต.ท.ปรีชา ชูตินันท์ (ยศในขณะนั้น) ปรากฏว่าจ.ส.อ.จักรภพเป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ไม่มา ศาลจึงอนุมัติออกหมายจับ
 
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานและหลักฐานที่โจทก์ยื่นให้ เห็นว่ามีมูลจึงรับฟ้อง จำเลยรวม 8 คน คือจำเลยที่ 1, 2, 3, 4, 6, 7, 11 และ 12 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 90, 91, 288, 289, 309 วรรคสอง 365 และ 157 แต่ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลย 4 คน คือ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ และ พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ เพราะไม่มีพยานหลักฐานหาหรือมูลเหตุเพียงพอที่จะรับฟ้องทางคดี หลังจากฟังคำพิจารณารับฟ้องของศาลเสร็จสิ้น นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมกลุ่มทั้งหมดได้รีบเดินทางกลับทันที

    
ศาล อยุธยารับฟ้อง'ยุทธ ตู้เย็น'กับพวกรวม 8 คน ข้อหาพยายามฆ่า-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบคดียกหน่วยคอมมานโดยิงถล่มบ้าน ตระกูล'ศตะกูรมะ' แต่2ตายายรอดตายหวุดหวิด เพราะใช้ตู้เย็นเป็นที่กำบัง โจทก์ดีใจที่คดีมีมูล เผยถูกข่มขู่ให้ถอนฟ้อง จนทนายถอนตัวไป 3 คน เจ้าของบ้านยังผวาหลบหนีไปอยู่ป่า
 
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 2248/2549 นัดพร้อมคำให้การคดียิงถล่มบ้าน นายนิสัยและนางอุดม ศตะกูรมะ โดยมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำเลยที่ 1 พร้อมพวกอีก 11 คน ตกเป็นจำเลย ประกอบด้วย ร.ต.อ.มนู เศรษฐาจินดา, พ.ต.ต.อาสาฬห์ ถมยา, ว่าที่ พ.ต.อ.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์, พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย, จ.ส.ต.จักรภพ เทพเสนา, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์, พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ, พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ, พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา และ พ.ต.ท.ปรีชา ชูตินันท์ (ยศในขณะนั้น) ปรากฏว่าจ.ส.อ.จักรภพเป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ไม่มา ศาลจึงอนุมัติออกหมายจับ
 
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานและหลักฐานที่โจทก์ยื่นให้ เห็นว่ามีมูลจึงรับฟ้อง จำเลยรวม 8 คน คือจำเลยที่ 1, 2, 3, 4, 6, 7, 11 และ 12 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 90, 91, 288, 289, 309 วรรคสอง 365 และ 157 แต่ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลย 4 คน คือ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ และ พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ เพราะไม่มีพยานหลักฐานหาหรือมูลเหตุเพียงพอที่จะรับฟ้องทางคดี หลังจากฟังคำพิจารณารับฟ้องของศาลเสร็จสิ้น นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมกลุ่มทั้งหมดได้รีบเดินทางกลับทันที
 
     
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โจทก์คดีดังกล่าวคือ นางอุดม ศตะกูรมะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มบุคคลทั้งหมดในข้อหาพยายามฆ่า บุกรุก และเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2547 เวลาก่อนเที่ยงคืน จำเลยทั้ง 12 คนกับพวกอีก 50 คน มีอาวุธปืนครบมือร่วมกันทำลายประตูรั้วบ้านเลขที่ 25/2 ม.4 ต.เชียงรากน้อย อ.บางไทร แล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านดังกล่าวประมาณ 200 นัด โดยเจตนาฆ่า แต่โจทก์และสามี (นายนิสัย ศตะกูรมะ) ที่หลบอยู่หน้าตู้เย็นขนาด 18 คิว กระสุนปืนจึงไม่ถูกโจทก์และสามี แต่ทำให้ตู้เย็นที่ใช้เป็นที่กำบังพรุนเป็นรูกระสุนนับไม่ถ้วน
 
โจทก์ระบุว่า การยิงดังกล่าวเป็นการยิงโดยไม่มีเหตุอันควร อีกทั้งจำเลยทั้งหมดกับพวกบุกรุกเข้าไปในบ้าน อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ โดยปกติสุขแล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับโจทก์และสามีให้นั่งรวมกัน แล้วจำเลยทั้งหมดกับพวกร่วมกันค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายโดยวิธีการที่ไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์และสามีได้รับความเสียหาย
 
นางอุดม ศตะกูรมะ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลรับฟ้องคดีนี้ ก่อนหน้านี้มีจดหมายส่งมาข่มขู่ที่บ้านให้ถอนฟ้อง ซึ่งตนไม่ถอนคดีเด็ดขาด ขณะนี้สามีได้ไปพักบ้านลูกสาวที่ต่างจังหวัด แต่ระยะหลังเกิดความกลัว จึงได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในป่า ไม่ยอมติดต่อกับใครนอกจากคนในครอบครัว ที่น่ากลัว คือทนายที่ทำเรื่องนี้ให้กับตนเป็นของสภาทนายความ มีจำนวน 5 คน ปรากฏว่า ทนาย 3 คนได้ถอนตัวออกไปแล้ว แต่ก็ยังดีใจที่ยังมีทนายอีก 2 คนที่ยืนยันว่าจะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ฉายาว่า 'ยุทธ ตู้เย็น'ทั้งนี้ข้ออ้างของการนำกำลังตำรวจบุกบ้านของครอบครัวศตะกูรมะนั้น อ้างว่า พัวพันการค้ายาบ้า

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=520

[Şiłąncē Mőbiuş]

ศาลอยุธยารับฟ้อง'ยุทธ ตู้เย็น'กับพวกรวม 8 คน ข้อหาพยายามฆ่า-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบคดียกหน่วยคอมมานโดยิงถล่มบ้าน ตระกูล'ศตะกูรมะ' แต่2ตายายรอดตายหวุดหวิด เพราะใช้ตู้เย็นเป็นที่กำบัง โจทก์ดีใจที่คดีมีมูล เผยถูกข่มขู่ให้ถอนฟ้อง จนทนายถอนตัวไป 3 คน เจ้าของบ้านยังผวาหลบหนีไปอยู่ป่า
 
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 2248/2549 นัดพร้อมคำให้การคดียิงถล่มบ้าน นายนิสัยและนางอุดม ศตะกูรมะ โดยมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำเลยที่ 1 พร้อมพวกอีก 11 คน ตกเป็นจำเลย ประกอบด้วย ร.ต.อ.มนู เศรษฐาจินดา, พ.ต.ต.อาสาฬห์ ถมยา, ว่าที่ พ.ต.อ.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์, พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย, จ.ส.ต.จักรภพ เทพเสนา, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์, พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ, พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ, พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา และ พ.ต.ท.ปรีชา ชูตินันท์ (ยศในขณะนั้น) ปรากฏว่าจ.ส.อ.จักรภพเป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ไม่มา ศาลจึงอนุมัติออกหมายจับ
 
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานและหลักฐานที่โจทก์ยื่นให้ เห็นว่ามีมูลจึงรับฟ้อง จำเลยรวม 8 คน คือจำเลยที่ 1, 2, 3, 4, 6, 7, 11 และ 12 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 90, 91, 288, 289, 309 วรรคสอง 365 และ 157 แต่ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลย 4 คน คือ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ และ พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ เพราะไม่มีพยานหลักฐานหาหรือมูลเหตุเพียงพอที่จะรับฟ้องทางคดี หลังจากฟังคำพิจารณารับฟ้องของศาลเสร็จสิ้น นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมกลุ่มทั้งหมดได้รีบเดินทางกลับทันที

    
ศาล อยุธยารับฟ้อง'ยุทธ ตู้เย็น'กับพวกรวม 8 คน ข้อหาพยายามฆ่า-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบคดียกหน่วยคอมมานโดยิงถล่มบ้าน ตระกูล'ศตะกูรมะ' แต่2ตายายรอดตายหวุดหวิด เพราะใช้ตู้เย็นเป็นที่กำบัง โจทก์ดีใจที่คดีมีมูล เผยถูกข่มขู่ให้ถอนฟ้อง จนทนายถอนตัวไป 3 คน เจ้าของบ้านยังผวาหลบหนีไปอยู่ป่า
 
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 2248/2549 นัดพร้อมคำให้การคดียิงถล่มบ้าน นายนิสัยและนางอุดม ศตะกูรมะ โดยมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำเลยที่ 1 พร้อมพวกอีก 11 คน ตกเป็นจำเลย ประกอบด้วย ร.ต.อ.มนู เศรษฐาจินดา, พ.ต.ต.อาสาฬห์ ถมยา, ว่าที่ พ.ต.อ.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์, พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย, จ.ส.ต.จักรภพ เทพเสนา, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์, พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ, พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ, พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธปรีดา และ พ.ต.ท.ปรีชา ชูตินันท์ (ยศในขณะนั้น) ปรากฏว่าจ.ส.อ.จักรภพเป็นจำเลยเพียงคนเดียวที่ไม่มา ศาลจึงอนุมัติออกหมายจับ
 
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานและหลักฐานที่โจทก์ยื่นให้ เห็นว่ามีมูลจึงรับฟ้อง จำเลยรวม 8 คน คือจำเลยที่ 1, 2, 3, 4, 6, 7, 11 และ 12 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 90, 91, 288, 289, 309 วรรคสอง 365 และ 157 แต่ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลย 4 คน คือ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์, พ.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ พล.ต.ต.ปานศิริ ประภาวัติ และ พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ เพราะไม่มีพยานหลักฐานหาหรือมูลเหตุเพียงพอที่จะรับฟ้องทางคดี หลังจากฟังคำพิจารณารับฟ้องของศาลเสร็จสิ้น นายยงยุทธ ติยะไพรัช พร้อมกลุ่มทั้งหมดได้รีบเดินทางกลับทันที
 
     
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โจทก์คดีดังกล่าวคือ นางอุดม ศตะกูรมะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มบุคคลทั้งหมดในข้อหาพยายามฆ่า บุกรุก และเป็นข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2547 เวลาก่อนเที่ยงคืน จำเลยทั้ง 12 คนกับพวกอีก 50 คน มีอาวุธปืนครบมือร่วมกันทำลายประตูรั้วบ้านเลขที่ 25/2 ม.4 ต.เชียงรากน้อย อ.บางไทร แล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านดังกล่าวประมาณ 200 นัด โดยเจตนาฆ่า แต่โจทก์และสามี (นายนิสัย ศตะกูรมะ) ที่หลบอยู่หน้าตู้เย็นขนาด 18 คิว กระสุนปืนจึงไม่ถูกโจทก์และสามี แต่ทำให้ตู้เย็นที่ใช้เป็นที่กำบังพรุนเป็นรูกระสุนนับไม่ถ้วน
 
โจทก์ระบุว่า การยิงดังกล่าวเป็นการยิงโดยไม่มีเหตุอันควร อีกทั้งจำเลยทั้งหมดกับพวกบุกรุกเข้าไปในบ้าน อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ โดยปกติสุขแล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับโจทก์และสามีให้นั่งรวมกัน แล้วจำเลยทั้งหมดกับพวกร่วมกันค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายโดยวิธีการที่ไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์และสามีได้รับความเสียหาย
 
นางอุดม ศตะกูรมะ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลรับฟ้องคดีนี้ ก่อนหน้านี้มีจดหมายส่งมาข่มขู่ที่บ้านให้ถอนฟ้อง ซึ่งตนไม่ถอนคดีเด็ดขาด ขณะนี้สามีได้ไปพักบ้านลูกสาวที่ต่างจังหวัด แต่ระยะหลังเกิดความกลัว จึงได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในป่า ไม่ยอมติดต่อกับใครนอกจากคนในครอบครัว ที่น่ากลัว คือทนายที่ทำเรื่องนี้ให้กับตนเป็นของสภาทนายความ มีจำนวน 5 คน ปรากฏว่า ทนาย 3 คนได้ถอนตัวออกไปแล้ว แต่ก็ยังดีใจที่ยังมีทนายอีก 2 คนที่ยืนยันว่าจะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ฉายาว่า 'ยุทธ ตู้เย็น'ทั้งนี้ข้ออ้างของการนำกำลังตำรวจบุกบ้านของครอบครัวศตะกูรมะนั้น อ้างว่า พัวพันการค้ายาบ้า

http://www.matichon.co.th/news_title.php?id=520

ขอบคุณครับ

[ริวเซย์]

ลากมาประหารเถอะครับ อยู่ไปก็หนักแผ่นดินเปล่าๆ