ทำไมไม่ไปแสดงเลือด "รักชาติ" ที่ 3 จังหวัดใต้บ้างนะ ภาคใต้จะได้สงบสุขเสียที

ชายฉกรรจ์ บุกปีนพานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เผารัฐธรรมนูญ แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟไว้ได้ ผบก.น. 6 เข้าเจรจายังไม่เป็นผล ยืนยันขออยู่ต่อ 3 วัน

วันนี้(11 พ.ย.)เมื่อเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุมีชายปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้านบนบริเวณพาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชาย 2 คน คนแรกแต่งกายเสื้อเชิตสีดำกางเกงสแลกสีดำ ทราบชื่อภายหลังคือนายบุญสิน หยกเพชร เป็นหัวหน้ากลุ่มธรรมาธิปไตย อีกคนแต่งกายด้วยชุดนักรบโบราณ มีผ้าโผกหัวสีแดง เสื้อยันต์แบบนักรบสีแดงและนุ่งโจงกระเบน ทราบชื่อภายหลังคือนายองอาจ วิจิตรานนท์ ฉายานักรบองค์ดำ โดยทั้ง 2 คนได้นำเครื่องขยายเสียงขึ้นไปบริเวณด้านบนด้วยและพยายามกล่าวปราศรัยเรียกร้องให้ล้มเลิกการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นเขียนด้วยเผด็จการทหาร

กระทั่งเวลา 19.30 น. ทั้งคู่ได้ใช้ผ้าชุบน้ำมันจุดไฟเผาพานรัฐธรรมนูญด้านบน เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยต้องใช้น้ำฉีดประมาณ 5 นาทีจึงดับไฟได้ ต่อมา พล.ต.ต. อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น. 6 พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รองผบก.น.6 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.สำราญราษฎร์ เข้าเจรจาต่อทั้งคู่ แต่ยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยทั้งคู่ยืนยันว่าจะอยู่บนพานรัฐธรรมนูญเป็นเวลา 3 วันและในระหว่างนั้นจะไม่ลงไปโดยเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเบาะลมมาเตรียมการไว้ด้านล่างหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาแก่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนแล้ว 2 ข้อหา คือ เตรียมการเพื่อเผา และวางเพลิงเผาทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะปีนขึ้นไปบริเวณดังกล่าวได้นำรถยี่ห้อมิซูบิชิ สีขาวหมายเลยทะเบียน บจ. 725 จ.พะเยา มาขับวนเวียนอยู่บริเวณโดยรอบ โดยภายในรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงและท้ายกระบะมีทินเนอร์ 6 แกลลอน เศษยางรถ 15 ชิ้น ลูกยาง 15 ชิ้น เทียนไข 20 แท่ง ดอกไม้จันทร์ 2 ห่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปไว้ที่สน.สำราญราษฎร์แล้ว อย่างไรก็ตามตลอดเวลาทั้งคู่ยังได้ปราศรัยโดยเรียกร้องให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกนอกบริเวณโดยให้มาอยู่บริเวณริมฟุตบาทฝั่งตรงข้ามโดยรอบ ซึ่งสื่อมวลชนที่มาทำข่าวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต่อมามีนายวันชัย จงจรุงหิรัญสมาชิกกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ได้เดินเข้าไปบริเวณดังกล่าวและบันทึกภาพโดยอ้างตัวเป็นสื่อมวลชน จากนั้นพล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิตย์ รองผบช.น.ได้บอกกับนายวันชัย ให้ออกมายืนฝั่งตรงข้าม เนื่องจากเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ แต่นายวันชัย ไม่ยอมพร้อมอ้างว่าเป็นสื่อมวลชนและมีสิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเชิญตัวนายวันชัย ออกไปหลายครั้ง จนเกิดการโต้เถียงกันแต่นายวันชัย ก็ยืนกรานไม่ออกไป จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอุ้มตัวนายวันชัย ออกไป โดยมีการยื้อยุดจากกลุ่มคนวันเสาร์ฯ ที่กรูเข้าไปและอ้างว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และตำรวจได้อุ้มตัวนายวันชัย ไปไว้ยังหน้าร้านเมธาวาลัยศรแดง โดยกลุ่มคนวันเสาร์ฯตามไปอย่างกระชั้นชิด

และเมื่อไปถึงตำรวจพยายามอธิบายว่าพื้นที่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานแต่นายวันชัย ยืนยันว่าไม่มีใครบอก ซึ่งในที่สุดตำรวจได้ปล่อยตัวนายวันชัยไป จากนั้นกลุ่มคนวันเสาร์ฯได้ไปรวมตัวกันที่ข้างโรงเรียนสตรีวิทยาและกล่าวประนามการทำงานของตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุ ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน จับกุมขุมขังโดยมิชอบและหากผู้ใดมีกล้องคงถูกจับกุมทั้งหมด

เสียดายเงินภาษีชาวบ้านจริงๆ เวรกรรม ช่วยไปแสดงเลือดรักชาติที่ 3 จังหวัดภาคใต้หน่อยได้ไหม ภาคใต้จะได้
สงบสุขเสียที