ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 19:36
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ความมั่นคงของชาติและเสถียรภาพ สำคัญกว่า การเลือกตั้ง (รู้สึกคล้ายๆ 31 ส.ค. 49) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ความมั่นคงของชาติและเสถียรภาพ สำคัญกว่า การเลือกตั้ง (รู้สึกคล้ายๆ 31 ส.ค. 49)  (อ่าน 1319 ครั้ง)
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 07-11-2007, 20:18 »

ความรู้สึกผม คล้ายๆเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2549
http://forum.serithai.net/index.php?topic=6654.0

ทั้งนี้เนื่องจากความวุ่นวาย ยังไม่ทันจะเริ่มอะไร นักเลือกตั้งก็ขายตัวกันวุ่นแล้ว มันสามารถทำนายได้อย่างไม่ยากเย็นว่า หากปล่อยการเลือกตั้งพิกลพิการแบบนี้ต่อไป ประเทศนี้จะตกอยู่ในอันตราย

เพราะมันพิสูจน์แล้วว่า การมีการเลือกตั้ง ไม่ได้หมายความว่าจะมีความเป็นประชาธิปไตย



P.S. My favourite currencies ---> 人民币, 日本円, CAD, AUD

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2007, 20:32 โดย ผ่าทางตัน » บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #1 เมื่อ: 07-11-2007, 20:59 »

ประชาธิปไตยคนจนมันก็เป็นอย่างนี้ [6 พ.ย. 50 - 19:10]
 
ในที่สุด ประชาธิปไตยที่ล้มลุกคลุกคลานของไทย ก็คลานออกมาจนถึง ปลายอุโมงค์แล้ว วันพรุ่งนี้ 7 พฤศจิกายน ก็จะเริ่มต้นเปิดรับสมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนใน 8 กลุ่มจังหวัดเป็นวันแรก จากนั้นวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน ก็จะเปิดรับสมัครส.ส.เขตทุกอย่างกำลังเดินหน้าตามกรอบเวลา สู่การเลือกตั้งทั่วไปวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม

ไม่มีใครรู้ เลือกตั้งไปแล้ว อนาคตของเราคนไทยและประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

เพราะประชาธิปไตยที่เรากำลังเดินไปอยู่นี้ เป็นระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านการ “ผ่าตัดดัดแปลงยีน” จาก “ยีนประชาธิปไตยดั้งเดิม” ให้เพี้ยนไปจากสากลทั่วไป โดยการใส่“ยีนเผด็จการ”และ“ยีนที่สร้างความอ่อนแอให้กับ ระบอบประชาธิปไตยไทย” เข้าไปด้วย ทำให้รัฐบาลมี อายุสั้นและอยู่ไม่นาน

ประชาธิปไตยแบบนี้ เป็นประชาธิปไตยที่อยู่กันด้วยเงิน เป็นหลัก

เริ่มตั้งแต่การรวมกลุ่มของอดีตส.ส.โดยมีนายทุนกระเป๋าหนักที่มีผลประโยชน์ใน ธุรกิจการเมืองเป็นผู้สนับสนุน แล้วตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาหรือไม่ก็มีนายทุนนักธุรกิจ เข้าไปซื้อกลุ่มการเมืองที่รวมกลุ่มกันเพื่อรอนายทุน แล้วตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา

จากนั้น พรรคการเมืองเหล่านี้ก็ต้องลงทุนซื้อ อดีต ส.ส.เข้ามาสังกัดพรรค เพื่อแสดงพลังว่ามีฐานเสียงอดีต ส.ส.เขตอยู่ในมือมาก เริ่มตั้งแต่การขายชื่อก่อน แค่มีชื่อว่ารวมกลุ่มอยู่ในพรรคโน้นพรรคนี้ ก็มีเงินมัดจำล่วงหน้า 5 แสน-1 ล้านบาทแล้ว

การเข้าสังกัดพรรค ยังมีข้อตกลงต่อว่า ถ้าลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคแล้ว ก็จะได้รับเงินสนับสนุนตั้งแต่ 20-30 ล้านบาท

อดีต ส.ส.เหล่านี้ เมื่อได้ลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่แล้วก็จะนำเงินที่ได้มานี้แหละแบ่งส่วนหนึ่งไปซื้อเสียงประชาชน ผ่านทางหัวคะแนน ซึ่งมีรายชื่อประชาชนในแต่ละเขตมาแสดงเหมือนเซลส์แมนขายของ แต่นี่เป็น เซลส์แมนขายเสียง การซื้อขายเสียง มักจะซื้อขายกันยกบ้าน ไม่มีการแยกขาย

ดังนั้น ผมจึงไม่แปลกในที่ ครส. หรือ คณะกรรมการดำเนินการตามวาระ แห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ของท่าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ออกมาระบุเมื่อวันก่อนว่า มีเงินนอกระบบสะพัดกว่า 20,000 ล้านบาท ในการซื้อเสียง

แม้แต่ คุณประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ก็ออกมาระบุว่าเริ่มมีการซื้อเสียงด้วยวิธีการใหม่ๆ เช่น ให้บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ, ให้ซื้อหวยฟรี, การใช้หนี้แทน ล่าสุด คุณประพันธ์บอกว่า มีข้อมูลจากจังหวัดมหาสารคามแจ้งว่า มีกลุ่มนักการเมืองเก่าแจกเงินกำนันผู้ใหญ่บ้านหัวละ 5,000 บาท

การซื้อเสียงในเมืองไทยวันนี้ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตราบใด ที่เรายังไม่มีการพัฒนาประชาธิปไตยแบบครบวงจร โดย “สร้างชนชั้นกลาง” ให้มีมากขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นตัวกลั่นกรอง

ผมอยาก แบ่งประชาธิปไตย ออกเป็น 2 ระดับ

ประชาธิปไตยระดับที่ดีที่สุด ก็คือ ประชาธิปไตยที่มี “ชนชั้นกลาง” มากที่สุด คนกลุ่มนี้มีความรู้ มีฐานะมั่นคงพอสมควร จะไม่มีการขายเสียง และไม่กล้าขาย ประชาธิปไตยในสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ที่เจริญจนไม่รู้ว่าการขายเสียงคืออะไร ก็เพราะมีประชาชนฐานรากส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางนั่นเอง

ประชาธิปไตยที่แย่ที่สุด ก็คือ ประชาธิปไตยที่ผู้มีสิทธิออกเสียงส่วนใหญ่เป็น คนยากจน ไม่ค่อยมีสิทธิมีเสียง การศึกษาไม่สูง การขายเสียงในคนกลุ่มนี้จึงสูง รวมทั้ง การใช้ “นโยบายประชานิยม” ในการหาเสียงด้วย


แต่การขายเสียงที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือ “การขายเสียงของ ส.ส.ในสภา” ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ว่ากันว่า มีการเตรียมเงินก้อนใหญ่อีกก้อนเพื่อ “ซื้อเสียง ส.ส.สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี” เมื่อซื้อเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้ ก็ซื้อประเทศได้ อนาคตประเทศไทยดูแล้วก็ว้าเหว่จริงๆนะครับพ่อแม่พี่น้อง.

“ลม เปลี่ยนทิศ”
 

http://thairath.co.th/news.php?section=society03&content=67108

เพราะบ้านเราเป็นประชาธิปไตยแต่เปลือก  ดูพวกนักการเมืองน้ำเน่าแล้วก็นะ 

แต่ถ้าไม่เป็นประชาธิปไตยที่ล้มลุกคลุกคลานแบบนี้ ก็อาจจะเจอเผด็จการแบบปากีสถานต่อเนื่องมาอีกสามสี่สิบปี ก็ได้ค่ะ



 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 07-11-2007, 21:04 »

กรณีนี้ ลม เปลี่ยนทิศ ลืมนึกถึง INDIA ไปประเทศหนึ่ง

คนจนของอินเดียมีมากกว่า 700 ล้านคน แต่ทำไมผู้นำอินเดีย นักการเมืองอินเดีย จึงมีสปิริตมากกว่า? ทำไมอินเดียจึงไม่โกงแบบมโหฬาร?? ทำไมอินเดียจึงมีความละอายมากกว่า?? ก็ไม่ต้องปฏิวัติรัฐประหาร

มันไม่เกี่ยวกับความจน แต่มันเกี่ยวกัับ "วัฒนธรรมไทย" ซึ่งไม่ได้เน้นย้ำเรื่องการหวงแหนในศักดิ์ศรีเท่าที่ควรมากกว่า !!


ไม่มีใครอยาก แต่ควรมีใครมาทำอะไรสักอย่างเพื่อป้องกันวิกฤติก่อนที่มันจะเกิด เดี๋ยวนี้ !!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2007, 21:07 โดย ผ่าทางตัน » บันทึกการเข้า

aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #3 เมื่อ: 07-11-2007, 21:11 »

พูดถึงอินเดียแล้ว ก็ให้สงสัยอย่างหนึ่งว่า การแบ่งชนชั้นวรรณะของประเทศนี้อยู่ในสภาพอย่างไร

ตอนนี้ "ชินเดีย" ไปโลดแล้ว ตามมาตรฐานสากลแบบทุนนิยม (สามานย์ Question)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2007, 19:27 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
แอบอ่าน ซุ่มเงียบ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 249


stand, fight, live or die for what?


« ตอบ #4 เมื่อ: 07-11-2007, 21:35 »

ปัญหาใหญ่ อยู่ที่ โครงสร้างของสังคมไทยมันผิดทิศผิดทางมานานแล้ว 
การเกิดประชาธิปไตยของไทย มาจากข้างบนลงมาข้างล่าง  ไม่ใช่จากข้างล่างขึ้นไปข้างบน เหมือนประเทศอื่นๆ
ระบบอุปถัมภ์ จึงยังคงรับใช้ผู้มีอำนาจอย่างซื่อสัตย์มาทุกยุคสมัย
การจัดสรรทรัพยากรของประเทศนี้ก็เป็นไป เพียงเพื่อคนที่มีอำนาจในการต่อรองเท่านั้น

ไม่มีใครกล้าไปแตะหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเก่าเหล่านี้หรอกครับ เพราะรู้อยู่ว่าจะต้องพบกับจุดจบอย่างไร
ผมถึงไม่อยากจะต่อว่านายสุรยุทธ์็ให้มากนัก ที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้แต่ประคองตัวอย่างเดียว
ไม่มีใครอยากจะเอาตัวเองไปโดนบูชายัญหรอก ไม่ได้ประโยชน์อะไร มีแต่ตายเปล่า ตัวอย่างมีให้เห็นๆกันอยู่แต่ไหนแต่ไรแล้ว

แต่ยังไงเราก็คงต้องยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยแล้วก็ค่อยๆหาทางแก้ปัญหากันไปแบบไทยๆ
เพราะระบอบประชาธิปไตย เป็นเพียงหนทางเดียว ที่จะให้คนทุกระดับชั้นมีที่ยืนอยู่ในสังคมได้ตามสถานะของตน

บันทึกการเข้า

IF YOU DON'T STAND FOR SOMETHING, YOU MIGHT FALL FOR ANYTHING.
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 07-11-2007, 21:44 »

ปัญหาใหญ่ อยู่ที่ โครงสร้างของสังคมไทยมันผิดทิศผิดทางมานานแล้ว 
การเกิดประชาธิปไตยของไทย มาจากข้างบนลงมาข้างล่าง  ไม่ใช่จากข้างล่างขึ้นไปข้างบน เหมือนประเทศอื่นๆ
ระบบอุปถัมภ์ จึงยังคงรับใช้ผู้มีอำนาจอย่างซื่อสัตย์มาทุกยุคสมัย
การจัดสรรทรัพยากรของประเทศนี้ก็เป็นไป เพียงเพื่อคนที่มีอำนาจในการต่อรองเท่านั้น

ไม่มีใครกล้าไปแตะหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเก่าเหล่านี้หรอกครับ เพราะรู้อยู่ว่าจะต้องพบกับจุดจบอย่างไร
ผมถึงไม่อยากจะต่อว่านายสุรยุทธ์็ให้มากนัก ที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้แต่ประคองตัวอย่างเดียว
ไม่มีใครอยากจะเอาตัวเองไปโดนบูชายัญหรอก ไม่ได้ประโยชน์อะไร มีแต่ตายเปล่า ตัวอย่างมีให้เห็นๆกันอยู่แต่ไหนแต่ไรแล้ว

แต่ยังไงเราก็คงต้องยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยแล้วก็ค่อยๆหาทางแก้ปัญหากันไปแบบไทยๆ
เพราะระบอบประชาธิปไตย เป็นเพียงหนทางเดียว ที่จะให้คนทุกระดับชั้นมีที่ยืนอยู่ในสังคมได้ตามสถานะของตน



เราสามารถยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยได้ เห็นด้วยครับ ไม่เถียง   แต่ไม่ใช่ด้วยการเลือกตั้งที่รู้ๆกันอยู่ว่า เลือกไปแล้วไม่ได้อะไร ซ้ำร้ายจะสร้างความวุ่นวายตามมาอีก เพราะคุณกำลังเอาการเลือกตั้งไปฟอกคนผิด !! อันตรายอยู่ตรงนี้     มันไม่ควรจะมีการเลือกตั้งในสภาวะวิกฤติแบบนี้
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 07-11-2007, 21:52 »

การเมืองนอกสภา นักวิชาการ ผู้นำทางจิตวิญญาณ ประชาชน สื่อมวลชนต้องออกมาแสดงตัว

ยึดช่องทางสื่อสารให้ได้มากที่สุด อย่าให้นักการเมืองหรือรัฐบาลฝ่ายเดียวยึดพื้นที่สื่อ

การตรวจสอบในทุกเรื่องต้องละเอียดและรุนแรงขึ้น เร่งสปีดให้ได้เหมือนคราวไล่ทักษิณ

นั่นคือการให้ความรู้ และรู้เท่าทันนักการเมือง แยกคำว่าเสถียรภาพทางการเมืองให้ออกจากการชุมนุมประท้วง

พูดง่าย ๆ ถ้าประชาชนนอกสภาเสียงดัง สื่อเห่ามาก ๆ "โจรก็ไม่กล้าปล้น" ครับ
บันทึกการเข้า

goolnw
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 460


new goolnw


« ตอบ #7 เมื่อ: 07-11-2007, 21:55 »

ประชาธิปไตยง่ายและเข้าใจมากที่สุด คือ ยอมรับเสียงข้างมาก จบครับ
นอกนั้นถ้าจินตนาการเอาว่าอย่างงี้ควรอย่างงี้ไม่ควร รู้สึกว่าจะไม่ใช่
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/goolnw
Goolnw ชอบสมัคร รักทักษิณ
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #8 เมื่อ: 07-11-2007, 21:59 »

ถ้าจะพูดถึงสถาณการณ์ตอนนี้คงต้องนึกถึงเพลง "กลับไม่ได้ไปไม่ถึง"

พยายามเข้าใจเจตนารมณ์คุณจขกท.แต่หากรัฐบาลนี้ไม่รีบจัดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ทั้งที่ยังไม่พร้อม

สายตาของนักลงทุนจากต่างประเทศ และรัฐบาลที่บูชาประชาธิปไตยจ๋าแบบสุดโต่งจะกดดันรัฐบาลนี้ขนาดไหน

หากใครจะโทษ "วัฒนธรรมไทย"มาเป็นจำเลยของประชาธิไตยที่ไม่ไปไหน และยังยักแย่ยักยัน จนตราบเท่าทุกวันนี้

คงต้องขุดกระดูกบรรพบุรุษของทุกคนมาต่อว่าต่อขานมังคะ

"มองไปข้างหน้าดีกว่าต่อว่าอดีต"
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-11-2007, 22:03 »

ประชาธิปไตยง่ายและเข้าใจมากที่สุด คือ ยอมรับเสียงข้างมาก จบครับ
นอกนั้นถ้าจินตนาการเอาว่าอย่างงี้ควรอย่างงี้ไม่ควร รู้สึกว่าจะไม่ใช่
ู^
^
^
นี่ไง นี่แค่ตัวอย่างเบสิกๆ ของผลลัพธ์ที่ประเทศนี้กำลังจะเดินไปสู่ ด้วยการเลือกตั้ง !! เห็นกันจะๆ



ก็มองไปข้างหน้าแล้วไง ถึงได้บอกไงว่ามีไปทำไม การมองไปข้างหน้าต้องไม่พยายามสะกดจิตตัวเองด้วยนะ  เราเตือนคุณแล้ว !!
บันทึกการเข้า

ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258



« ตอบ #10 เมื่อ: 07-11-2007, 23:12 »

อืม....ท่านท้าวก็เห็นด้วยนะ จะมีเลือกตั้งไปทำไม

ซึ่ง่บางคนเค้าไม่อยากให้มี เพราะกลัวโดนเจ้ากรรมนายเวรมาเอาคืน

อันนี้ท่านท้าวไม่รู้นะ ลองจับยามสี่ตา มาดูแล้ว โหงวเฮ้งเฉียดนรก

โดนแน่ๆ ไม่รอดหรอก

อันนี้กรรมใครกรรมมัน ท่านท้าวไม่เกี่ยวนะ

มาว่าเรื่องเลือกตั้งดีกว่า

ท่านท้าวก็จับยามสามตาสี่ตาห้าตาไปจนตาโหลแล้วเนี่ย

ดูๆแล้ว ฝ่ายยื้อกับฝ่ายอยากคงฟาดและฟันกันไปสุดฤทธิ์

ถ้ามีล้มกระดานเลือกตั้งกัน ก็อย่าตกใจ มีโอกาสเป็นไปได้สูง

คงได้เลือกกันอีกหลายรอบ ถือว่าทำ เวิร์คชอป แล้วกันนะ ทั้งคนจัดและคนเลือก

คดียุบพรรครอบสองก็คงจะมีให้เห็น แต่งานนี้ เค้ารอให้ยุบนะ ก็อย่าโง่ไปยุบเค้าแล้วกัน ฮ่าฮ่าฮ่า

ท่านท้าวเห็นแล้วก็เบื่อ กว่าจะได้ตั้งรัฐบาลคงจะพ้นปีใหม่ไปจนวาเลนไทน์

พรรคไหนจะดูดปากกับพรรคไหน จ๊วบๆๆๆ ก็ว่ากันไป ตลกการเมือง มีให้ดูก็ดูซะ

ขนาดปลาไหลกับจระเข้ยังผสมพันธุ์กันได้ เอ่อเนอะ จระเข้กับปลาไหล ออกมาเป็นตัวอะไรคิดเอา

มังกร น้อยไง พี่น้อง น่ารักน่าชังเชียว

ส่วน พรรคแมงสาป พรรคแมงดา พรรคเห็บหมาทั้งหลายที่แตกกระจายไปนั่น

นึกว่าจะผสมพันธุ์กันเดือนสิบสอง น้ำหนองล้นตลิ่งนี่ ก็ไม่เท่าไหร่ ไม่เห็นมีอะไรน่าตกใจ

ส่วนนายกเลือก(จัด)ตั้งนี่ คงไม่พ้น หนุ่มน้อยหน้ามนคนขยันแน่นอน ท่านท้าวฟันธง

ท่านท้าวเห็นประชาธิปไตยแบบใบบอกแบบนี้แล้วเซ็งอ่ะ น่าเบื่อ ไร้สีสัน ทนกันได้ไงอ่ะ

แต่เอาเหอะ ท่านท้าวไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เพราะพ้นสภาพมนุษย์ไปนานโขแล้ว

เป็น โอปปาติกะเว้ย หนังกำลังดัง เกิดอมตะน่ะ ไปดูกันซะ ถ้าห่วยก็อย่าว่ากัน อุดหนุนหนังไทย

วันก่อนท่านท้าวส่องตาไปเจอ คุณชูวิทย์ กำลังโชว์การกินอาหารวิตถาร

เลยนึกพิเรนท์เอาว่า ถ้าคุณชูวิทย์เป็นหัวหน้าพรรคซักพรรคนึง คงจะมันส์

ให้คุณ ชูวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรค

ให้ อาจารย์ เฉลิมชัย เป็นรองหัวหน้าพรรค

ให้ซูโม่ตู้ จรัสพงษ์ เป็นรองหัวหน้าพรรค

เอาคุณ วิกรม กรมดิษฐ์ เป็นเลขาพรรค

เอาคุณ สรยุทธ์ เป็นโฆษกพรรค

แล้วจับมานั่งแถลงนโยบายพรรคด้วยกัน


รับรองมันส์โคตรๆ


ไม่ต้องไปหาทอล์กโชว์ที่ไหนอีกแล้ว แค่ฟังแถลงนโยบาย ก็มันส์สุดๆแล้วพี่น้อง

ชื่อพรรคอะไรดีล่ะ

พรรคไทยหรรษา นโยบาย เปิดอ่างเสรี ฟรีถนนรัชดา คาสิโนเอื้ออาทร วี๊ดวิ้ววววว

พรรคปรมัตถ์ ใช้สัญญลักษณ์เปลวเพลิงแปดแฉกแทนมรรคทั้งแปดพวยพุ่งสู่วรรค์ มันดูแล้วมีพลัง มีพลังยิ่งใหญ่ ใหญ่มากๆๆๆ

พรรคไร่ส้ม หมดสภาพบริษัทจำกัด เลยต้องมาทำพรรคการเมือง

พรรคอมตะนิรันด์กาลบานตะไทไม่มีวันตายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์....กกต คงให้ตั้งชื่อนี้

พรรคชนชั้นกลาง นโยบาย เราจะปกป้องภาษีของชนชั้นกลาง ใครเสียภาษีมาก มีสิทธิทางการเมืองมาก ทำไมล่ะ ทีบริษัทจำกัด คนถือหนึ่งหุ้น กับ ถือล้านหุ้น ก็เจ้าของบริษัทเหมือนกัน แต่มันก็ยังโหวตได้ไม่เท่ากันเลย ฮ่าฮ่าฮ่า คนไทยมีหกสิบล้านคน ได้เสียงคนละหนึ่งเสียง  ใครเสียภาษีปีละเท่าไหร่เอาคูณคะแนนเสียงไป ได้จำนวนสิทธิทางการเมืองเท่านั้น ทุนนิยมเสรีนิยม สุดๆเลยพี่น้อง

โอเค พล่ามพอแระ ท่านท้าวกลับวิมานหล่ะ

อยู่บนสวรรค์ แสนหฤหรรษ์ ดูหมากัดกัน สนุกจริงเอย ฮ่าฮ่าฮ่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2007, 23:16 โดย ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ » บันทึกการเข้า
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #11 เมื่อ: 07-11-2007, 23:19 »

ก็พวกมันตั้งหลายพรรคหลายพันธุ์บังคับให้ต้องยักคิ้วหลิ่วตาตาม



ไม่ทำก็อิ๊บอ๋าย คริ คริ
บันทึกการเข้า
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #12 เมื่อ: 07-11-2007, 23:23 »

ลืมบอกทั่นท้าวสถิตย์อยู่บนซาหวันนั่นดีแล้ว


อย่ามาเกลือกกลั้วกับสาปมนุษย์เลยเหม็นตายชัก





 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: