ดอกเข็มขาว
|
|
« เมื่อ: 11-05-2006, 08:53 » |
|
อ่านเจอเห็นว่าให้ข้อคิดดี เลยนำมาฝากคะ
ถ้าใครอ่านแล้วก็ขออภัยด้วยนะคะ
ลูกชายนักธุรกิจใหญ่มีชื่อเสียงระดับประเทศคนหนึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษากลับมาจากเมืองนอก ยังไม่ทันทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็ถูกผู้เป็นแม่ขอร้องให้บวชเรียนเสียก่อน เพื่อเห็นแก่แม่..บัณฑิตใหม่หมาดๆจากเมืองนอกจึงบวชอย่างเสียไม่ได้ เมื่อบวชที่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯแห่งหนึ่งเสร็จแล้ว ผู้เป็นแม่จึงพาไปฝากให้จำพรรษาอยู่กับพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่งที่วัดป่าแถวภาคอีสาน พระหนุ่มการศึกษาสูงมาจากตระกูลผู้ดีมีแต่ความสุขสบาย เมื่อมาอยู่วัดป่ากว่าจะปรับตัวได้จึงใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แต่ก็นั่นแหละกว่าจะนิ่งก็ทำเอาพระร่วมวัดหลายรูปพลอยระอาใจไปตามๆกัน ปัญหาที่ทำให้พระทั้งวัดเหนื่อยหน่ายจนนึกระอาก็เพราะพระใหม่มีนิสัยชอบจับผิด และชอบอวดรู้ยกหู ชูหางตัวเองอยู่เป็นประจำ วันแรกที่มาอยู่วัดป่าก็นึกเหยียดพระเจ้าถิ่นทั้งหลายว่าไม่ ได้รับการศึกษาสูงเหมือนอย่างตน ออกบิณฑบาตได้อาหารท้องถิ่นมาก็ทำท่าว่าจะฉันไม่ลง เห็นที่วัดใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดแทนไฟฟ้าก็วิพากษ์วิจารณ์เสียเป็นการใหญ่หาว่าล้าสมัยไม่รู้จักใช้เทคโนโลยี่ ตอนหัวค่ำมีการทำวัตรสวดมนต์เย็นก็บ่นว่าท่านรองเจ้าอาวาสทำวัตรนานเหลือเกินกว่าจะสิ้นสุดยุติได้ก็นั่งจนขาเป็นเหน็บชา ครั้นพอถึงเวรตัวเองล้างห้องน้ำเข้าบ้างก็ทำท่าจะล้างอย่างขอไปทีล้างไปบ่นไป ประเภทจบปริญญาโทมาจากเมืองนอกต้องมาเข้าเวรล้างห้องน้ำร่วมกับใครก็ไม่รู้ โอ้ชีวิต! ความสำรวยหยิบโหย่งทำให้พระใหม่ไม่พอใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ถือดีว่าตัวเองมีชาติตระกูลสูง มีการศึกษาสูงกว่าใครในวัดนั้น ผิวพรรณก็ดูสะอาดสะอ้านชวนเจริญศรัทธากว่าพระรูปไหนทั้งหมด มองตัวเองเปรียบกับพระรูปอื่นแล้วช่างรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าทุกประตู นึกแล้วก็ยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจกลับเข้ากุฏิเมื่อไหร่ก็เอาปากกามาขีดเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทินนับถอยหลังรอวันสึกด้วยใจจดจ่อ อยู่มาได้พักใหญ่พระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็สังเกตเห็นว่าท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งนี้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ซ้ำนานๆครั้งจะออกมาให้โอวาทกับลูกศิษย์เสียทีหนึ่ง วันๆไม่เห็นท่านทำอะไรเอาแต่กวาดใบไม้ เก็บขยะ ซักผ้าเอง (เณรน้อยก็มีไม่รู้จักใช้) สอนก็ไม่สอน การบริหารวัดก็มอบให้ท่านรองเจ้าอาวาสเป็นคนจัดการไปเสียทุกอย่าง เห็นแล้ว เลยนึกร้อนวิชาเสนอให้ปรับโน่นลดนี่สารพัดที่ตัวเองเห็นว่าไม่เข้าท่าล้าสมัย รวมทั้งให้เสนอให้วัดใช้ไฟฟ้าแทนตะเกียงด้วยอีกข้อหนึ่งเพราะตนเห็นว่ายุคสมัยก้าวไกลมามากแล้วไม่ควรจะทำตนเป็นคนหลังเขาให้คนอื่น เขาดูถูก อีกหนึ่งในข้อวิจารณ์จุดด้อยของวัดทั้งหลายเหล่านั้นพระใหม่เสนอให้ หลวงพ่อเจ้าอาวาสมีปฏิสัมพันธ์กับพระลูกวัดให้มากขึ้นกว่านี้ สอนให้มากขึ้นเทศน์ให้มากขึ้น และแนะนำว่าคนระดับผู้บริหารไม่ควรจะทำงานอย่างการซักจีวรเองเป็นต้นด้วยตนเอง ควรจะกระจายอำนาจมอบงานให้คนอื่นทำดีกว่า เย็นวันนั้นเป็นวันพระสิบห้าค่ำหลวงพ่อเจ้าอาวาสมานั่งทำวัตรที่โบสถ์ธรรมชาติกลางลานทรายด้วยท่านไม่ลืมที่จะหยิบข้อเสนอแนะจากพระใหม่มาอ่านให้พระหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายฟัง แต่ท่านไม่บอกว่าพระรูปไหนเป็นคนเขียน อ่านจบแล้วหลวงพ่อก็ยิ้มอย่างมีเมตตาพลางหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แล้วชี้ให้ภิกษุหนุ่มสามเณรน้อยทั้งหลายดูหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งที่นอนอยู่ใต้ม้าหินอ่อนตัวหนึ่งจากใต้ต้นอโศกที่อยู่ใกล้ๆ เธอทั้งหลายเห็นหมาขี้เรือนตัวนั้นหรือไม่ เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันเป็นขี้เรื้อน คันไปทั้งตัว
ฉันเห็นมันวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน เดี๋ยวก็วิ่งไปนอนตรงนั้นเดี๋ยวก็ย้ายมานอนตรง นี้อยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้นานเพราะมันคัน
แต่พวกเธอรู้ไหม เจ้าหมาตัวนั้นน่ะมันไปนอนที่ไหนมันก็นึกด่าสถานที่นั้นอยู่ ในใจ หาว่าแต่ละที่ไม่ได้ดั่งใจตัวเองสักอย่าง นอนที่ไหนก็ไม่หายคัน สถานที่เหล่านั้นช่างสกปรกสิ้นดี คิดอย่างนี้แล้วมันจึงวิ่งหาที่ที่ตัวเองนอนแล้วจะไม่คัน แต่หาเท่าไหร่มันก็หาไม่พบสักที เลยต้องวิ่งไปทางนี้ทางโน้นอยู่ทั้งวัน เจ้าหมาโง่ตัวนั้นมันหารู้สักนิดไม่ว่า เจ้าสาเหตุแห่งอาการคันนั้นหาใช่เกิดจากสถานที่เหล่านั้นแต่อย่างใดไม่แต่สาเหตุแห่งอาการคันอยู่ที่โรคของตัวมันเองนั่นต่างหาก พูดจบแล้วหลวงพ่อก็วางไมโครโฟนลงเป็นสัญญาณให้รู้ว่า ได้เวลาภาวนาหลังการทำวัตร สวดมนต์เย็นแล้วขณะที่ทุกรูปนั่งหลับตาภาวนาอย่างสงบนั้น ในใจของพระใหม่กลับร้อนเร่าผิดปกติ นอกสงบแต่ในวุ่นวาย นึกอย่างไรก็มองเห็นตัวเองไม่ต่างไปจากหมาขี้เรื้อนที่หลวงพ่อชี้ให้ดู
ยิ่งนั่งสมาธินานๆ ยิ่งคันคะเยอในหัวใจ ทั้งอายทั้งสมเพชตัวเอง นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาพระใหม่อดีตนักเรียนนอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากคนพูดมากกลายเป็นคนพูดน้อย จากคนที่หยิ่งยโสกลายเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน
จากคนที่ชอบจับผิดคนอื่นกลายเป็นคนที่หันมาจับผิดตัวเอง
เมื่อออกพรรษาแล้วโยมแม่มาขอให้ลาสิกขาเพื่อกลับไปสืบต่อธุรกิจจากครอบครัวท่านก็ยังไม่ยอมสึก "อาตมาเป็นหมาขี้เรื้อนขออยู่รักษาโรคจนกว่าจะหายคันกับครูบาอาจารย์ที่นี่อีกสักหนึ่งพรรษา"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภูพาน
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 11-05-2006, 09:39 » |
|
ขอบคุณสำหรับข้อเขียนครับ ที่ไม่ระบุชื่อผู้คนที่เกี่ยวข้อง มันไม่สำคัญแหละว่า ผู้นั้นจะเป็นใคร หมาขี้เรื้อนตัวนั้น ไม่รู้ตัวเองจริงๆ เมื่อไหร่จะรู้ตัวหนอว่า.... ข้านี้เองแหละคือตัวปัญหาของชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน" หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด ~ คาลิล ยิบราน
|
|
|
narong
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 11-05-2006, 10:15 » |
|
นึกถึงพุทธนิกายเซน ที่เปรียบเทียบสิ่งแวดล้อมกับความคิดของมนุษย์โดยใช้ปรัชญา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
|
|
|
Prometheus, The Titan
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 11-05-2006, 10:18 » |
|
จรรโลงใจได้ดีจริงๆครับ
แต่ก็หยั่งว่าครับ หมาขี้เรื้อนที่จะรู้ตัวได้ มันหายากเสียนี่กะไร
แถมประเทศไทยดันมีอยู่เยอะอีกแน่ะ (ไม่แน่ว่า ผมก็อาจจะเคยเป็นนะ หมาขี้เรื้อนเนี่ย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Only the brave enjoy noble and glorious death. - Dyonysus
|
|
|
GN-001 Exia
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 11-05-2006, 11:30 » |
|
ให้ข้อคิดดีครับ... คนเราไม่ชอบโทษตัวเองครับเอาแต่โทษสิ่งรอบข้างจนไม่ได้ดูว่าตัวเองมีอะไรผิดปกติ
ขอคารวะหนึ่งจอกใหญ่ๆครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
|
|
|
Ang`sumaLin
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 11-05-2006, 11:51 » |
|
อ่านแล้วประทับใจจังค่ะ
รู้สึกว่าอาการคันๆ ที่นั่งเกาๆ จะทุเลาเบาบางลงไปได้นิดนึง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 11-05-2006, 15:46 » |
|
ในยุคสมัยที่ระบบทุนนิยมไร้พรมแดนกำลังครอบงำสังคมอยู่ อาการคัน แบบหมาขี้เรื้อน ยากที่จะเยียวยา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
|
|
|
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 11-05-2006, 15:47 » |
|
[/color]
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2006, 15:48 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ »
|
บันทึกการเข้า
|
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
|
|
|
ป้าแจ๋วแหวว
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 11-05-2006, 16:01 » |
|
ขอบคุณลุงถึกสำหรับบทความดีๆค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cha_srt
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-05-2006, 16:51 » |
|
ขอบคุณครับที่นำมาให้อ่าน อย่างน้อย พระใหม่ก็ยังพิจรณาตัวเองได้ถึงรู้ว่าเป็นหมาขี้เรื้อน แต่จะมีซักกี่คนที่จะมองเห็นตัวเอง และมีอีกหลาย ๆ คนมีอำนาจบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอานาจที่มาจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นเงินตรา สิ่งเหล่านี้มันคอยที่ ดึงลึกผ่านจุด ๆ นั้นที่สามารถมองย้อมกลับมาหาตัวเองได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 11-05-2006, 17:47 » |
|
ถ้างั้นพวกบ้าอำนาจ วาสนา เกิดชาติหน้า ต้องเกิดเป็น หมาขี้เรื้อนแหงมๆเลย ทุกวันนี้ก้อเกิดอาการทุรนทุราย คล้ายๆกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
ดอกเข็มขาว
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 12-05-2006, 08:29 » |
|
ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความคิดเห็นคะ
คิดดูซิคะ ดิฉันนำบทความนี้มาให้อ่านยังไม่ทันข้ามวัน
ตัวดิฉันก็เป็นเสียเอง ส่งบทความนี้เมื่อตอนเช้า
ตอนกลางวันออกไปซื้อของกันข้างนอก กลับเข้า
ที่ทำงาน เราก็ว่าเลยว่าใครปรับแอร์ เพราะร้อนไม่ได้คิดเลยว่า
ตัวเองออกไปข้างนอกอากาศร้อนกว่าข้างใน แอร์เย็นไม่ทันใจ
เนี่ยยังไม่ทันข้ามวันก็เป็นเหมือนกันคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|