ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 22:03
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  "คุณแถ"(แก๊ส) ช่วยไปปรามพรรคพวกคุณด้วย .. แบบว่าแถ(มั่วนิ่ม)ให้ถูกจับได้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
"คุณแถ"(แก๊ส) ช่วยไปปรามพรรคพวกคุณด้วย .. แบบว่าแถ(มั่วนิ่ม)ให้ถูกจับได้  (อ่าน 3715 ครั้ง)
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« เมื่อ: 02-11-2007, 22:21 »

คนนี้ เขาหาว่าสถานี MV ถูกบล็อคในขณะที่ผมกำลังดูรายการนี้ทางเน็ต ตอน ..

"สื่อทางเลือก" .. แต่ขำกลิ้งควายกับแม้ว ที่ผู้ดำเนินรายการ เชิญสื่อทางเลือก คือ

เว็บพันทิพ และเว็บคนวันเสาร์, Saturday voice มาออกรายการ   

http://www.mvnews.net/comment4.php?idnews=7

..................................................................................................

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5980883/P5980883.html



 

...
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #1 เมื่อ: 02-11-2007, 22:33 »

ส่วนคนนี้ ไม่รู้ว่า "โง่" หรือว่า "งั่ง" .. แบบว่า ขึ้นรถไฟมาตั้งหลายปี

สักแต่ว่ามีตังต์ตีตั๋ว แต่ไม่รู้เลยว่า เงินค่าตั๋วมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง

แล้วก็โวยวายหาว่า "สหภาพโกหกเรื่อง รฟท. ไม่เคยขึ้นค่าโดยสาร" 

มิน่า ถึงได้โดนทักษิณ หลอกต้มจนเเปื่อย เป็นไก่ต้มสุก   

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5980888/P5980888.html



 

...
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 02-11-2007, 22:49 »

ตอนนี้วีระ กับ จักรภพ ก็ออกสด ที่ MV สตาร์แชเนล นี่ครับ

 

กำลังจวก กกต. เรื่องเจ๊สดจะไปดูงาน

กำลังจวกเรื่อง ปชป. เว้นพื้นที่ให้หัวหน้าพรรคอื่น

( สงสัยตกข่าว ที่ ปชป. กลับลำ มาส่งครบ 400 เขตแล้ว )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2007, 22:53 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #3 เมื่อ: 02-11-2007, 23:19 »

ส่วนคนนี้ ก็โม้เป็นตุเป็นตะ ว่า "ไอทีวี ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท" 

เท่าที่ผมเคยได้ยินมา(ถ้าผิดถูกประการใด ช่วยแย้งได้เต็มที่) ..
คนที่ประมูลได้ จะต้องจ่ายปีละประมาณ 1400 ล้านบาท แต่ไม่เคยส่งเงินค่าสัมปทาน
ได้ตามข้อตกลง สมัยรัฐบาลชวนปีู ๔๐ ผ่อนปรนให้ผ่อนจ่ายปีละ 600 ล้านบาท (โดย
ไม่ลดค่าสัมปทาน)
พอมาสมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่รู้ใครทำอีท่าไหน กลายเป็นลดค่าสัมปทาน เหลือปีละ
ร้อยกว่าล้านบาท

แล้วทำไมพวกพันทิพ ถึงได้โม้ว่า "ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท"

งงไหมครับ ท่านผู้ชม 

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5968255/P5968255.html



 

............................................................................................

ไอทีวีรอผลอุทธรณ์ ยันไม่จ่ายปีละพันล.

โพ สต์ทูเดย์ — “ไอทีวี” เมินอัยการสูงสุดวินิจฉัย คำพิพากษาศาลปกครองกลาง โต้จะรอผลอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด เผยกฎหมายให้จ่ายปีละ 100 ล้าน ไม่ใช่ 1 พันล้าน ตามที่สำนักนายกฯ ระบุ

นายรองพล เจริญพันธ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานการดำเนินการตามสัญญา เข้าร่วมงานและดำเนินการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ ถึงการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2547 ทั้งหมดในกรณีของบริษัท ไอทีวี ภายหลังที่นาย รองพลได้ขอเลื่อนแถลงจากวันที่ 9 มิถุนายน โดยอ้างว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ตอบคำถามมาชัดเจน โดยเฉพาะในมาตรา 70 (2) ของ พ.ร.บ.การตั้งศาลปกครองกลาง ปี 2542 ที่ไอทีวีอ้างว่า คำบังคับของคำพิพากษาขอให้ชะลอไว้ก่อน จนกระทั่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา

นายรองพล กล่าวว่า สำนักงานอัยการ สูงสุดได้สรุปคำตอบชัดเจนแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ว่า คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง มีผลให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2547 ทั้งหมดโดยทันที โดยไม่ต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด แม้บริษัท ไอทีวี จะขออุทธรณ์ก็ตาม ซึ่ง สปน.จะต้องเรียกผลตอบแทนที่ไอทีวีค้างอยู่ทั้งหมด โดยไอทีวีจะต้องเริ่มชำระในวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 นี้

ฝ่ายเลขานุการของที่ประชุมได้คำนวณค่าสัมปทานที่ไอทีวีจะต้องชำระให้รัฐตาม สัญญาที่เขียนไว้ใน ปีที่ 11 ถึงปีที่ 30 รวม 20 ปี เป็นเงิน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งไอทีวีค้างชำระ สำหรับจำนวนค่าปรับและผลประโยชน์ตอบแทนที่ไอทีวีค้างชำระและดอกเบี้ยไปยัง ไอทีวี จะต้องชำระรวม 2,709,749,314 บาท

เจตนารมณ์ของสัญญา ต้องการให้ไอทีวีชำระเป็นรายปี ดังนั้นไอทีวีจะต้องชำปีละ 1 พันล้านบาท คิดรวม 20 ปีเป็นเงิน 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้น สปน.จะเริ่มเรียกเก็บค่าชำระจากไอทีวี ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 ปีละ 1 พันล้านบาท โดยจะส่งหนังสือไปยังบริษัท ไอทีวี

นายรองพล กล่าวว่า ในส่วนของค่าปรับผังรายการ 10% ของรายได้ หรือค่าตอบแทนที่คิดเป็นรายวัน จากการที่ไอทีวีไปปรับผัง รายการผิดจากสัญญา ในสัญญาข้อ 11 ที่ระบุไว้ ซึ่ง สปน.คิดค่าปรับจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 รวม 75,960 ล้านบาท โดยเฉลี่ยในปีที่ 9 คิดค่าปรับ 8,460 ล้านบาท ปีที่ 10 คิด 36,500 ล้านบาท ปีที่ 11 คิด 3.1 หมื่นล้านบาท หากขยายต่อไปก็จะยิ่งคิดค่าปรับเพิ่มขึ้นอีก

ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไอทีวี กล่าวว่า บริษัทได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการฯ ว่า ไอทีวียืนยันจะยังไม่ดำเนินการตามที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำ ตัดสินของอนุญาโตตุลาการลงแต่อย่างใด เนื่องจากไอทีวียึดตามข้อกฎหมายมาตรา 70 ของ พ.ร.บ.ศาลปกครอง ที่ระบุชัดเจนว่า ให้รอการปฏิบัติจนกว่าจะถึงคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ภายหลังบริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดไปเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2549

    โดย : โพสต์ทูเดย์        วันที่ 20/06/2006

http://www.ftawatch.org/news/view.php?id=9318

 

..................................................................................................

อย่างไรก็ตาม ประมาณการผลประกอบการปี 2549 ไอทีวีมีรายได้ 2,574 ล้านบาท กำไรสุทธิ 799 ล้านบาท โดยบล.ซิกโก้ แนะนำนักลงทุนขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง โดยหลังจากศาลอ่านคำพิพากษา ราคาหุ้นไอทีวีไหลรูดลงแรง ปิดที่ราคา 6.55 บาท ลดลง 2.80 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขาย 1,737.68 ล้านบาท

ที่มา : หน้า 1 หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 9 พฤษภาคม 2549

http://www.songpak16.com/chumchon/itv2549.html

.........................................................................................................


"กำไรสุทธิ 799 ล้านบาท แล้วจะนำเงินจากไหน 2000 ล้านบาทส่งหลวง"   

หรือว่า "กำไรสุทธิ 799 ล้านบาท หลังจากหักส่งหลวง 2000 ล้านบาท"   

ผมขอแนะว่า "คุณแก๊ส" และคุณ "กาลามชน" น่าจะไปบอกพรรคพวกคุณ นะ .. ว่า

"โกหกให้เนียนหน่อย และ การมุสาบ่อยๆ ไม่ดี อาจจะทำให้ติดเป็นนิสัยและสัน_าน"

 

...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2007, 00:25 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
sensei
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721



« ตอบ #4 เมื่อ: 03-11-2007, 08:30 »

2000 ล้าน ! ? ! ? ! ?

เงินที่ส่งเข้าหลวง หรือว่า หนี้ค้างชำระกับหลวงกันแน่ครับ - ช่างหน้าด้านดีแท้เอาข้อมูลเท็จมากล่าวอ้าง...

อืม...สองพันล้าน อาจจะรวมแบงค์กงเต็กที่เผ่าส่งให้อดีตนายกฯที่เมืองนอกก็ได้มั้ง 
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #5 เมื่อ: 03-11-2007, 09:20 »

ส่วนคนนี้ ก็โม้เป็นตุเป็นตะ ว่า "ไอทีวี ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท" 

เท่าที่ผมเคยได้ยินมา(ถ้าผิดถูกประการใด ช่วยแย้งได้เต็มที่) ..
คนที่ประมูลได้ จะต้องจ่ายปีละประมาณ 1400 ล้านบาท แต่ไม่เคยส่งเงินค่าสัมปทาน
ได้ตามข้อตกลง สมัยรัฐบาลชวนปีู ๔๐ ผ่อนปรนให้ผ่อนจ่ายปีละ 600 ล้านบาท (โดย
ไม่ลดค่าสัมปทาน)
พอมาสมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่รู้ใครทำอีท่าไหน กลายเป็นลดค่าสัมปทาน เหลือปีละ
ร้อยกว่าล้านบาท

แล้วทำไมพวกพันทิพ ถึงได้โม้ว่า "ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท"

งงไหมครับ ท่านผู้ชม 
.........................................................................................................
"กำไรสุทธิ 799 ล้านบาท แล้วจะนำเงินจากไหน 2000 ล้านบาทส่งหลวง"   

หรือว่า "กำไรสุทธิ 799 ล้านบาท หลังจากหักส่งหลวง 2000 ล้านบาท"   

ผมขอแนะว่า "คุณแก๊ส" และคุณ "กาลามชน" น่าจะไปบอกพรรคพวกคุณ นะ .. ว่า

"โกหกให้เนียนหน่อย และ การมุสาบ่อยๆ ไม่ดี อาจจะทำให้ติดเป็นนิสัยและสัน_าน"

 

ไม่เพียงแค่จินตนาการจะทำน้ำแตกได้ เดี๋ยวนี้ก้าวหน้ามีนินทาน้ำแตกด้วย
แหมถ้ามีความสุขสุดยอดกะการได้นินทาข้างเดียวในสถานที่กะโหลกกะลา
เนี่ย ก็ไม่อยากจะขัดศรัทธาอยู่แล้ว ช่วยส่งเสริมให้โง่ถึงที่สุดไปเล้ย ไอทีวี
เป็นบริษัทมหาชน ทีไอทีวีเป็นหน่วยงานของรัฐ เมื่อก่อนไอทีวีต้องจ่ายค่า
สัมปทานแต่ปัจจุบันทีไอทีวีไม่ต้อง ทีไอทีวีมีรายได้จากการโฆษณาแต่ทีวี
สาธารณะไอเดียบรรเจิดนั่นใช้เงินภาษี สมองแยกไม่ออกระหว่างไอทีวีกะ
ทีไอทีวีแล้วจะนินทาน้ำแตกก็ตามใจนะจ๊ะ ไม่ขัดหรอก พวกมีปัญหาทางเพศ
เป็นพวกที่น่าสงสาร ช่วยได้ก็ช่วยจ้า ก๊าก ก๊าก ก๊าก
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #6 เมื่อ: 03-11-2007, 09:42 »

ไม่เพียงแค่จินตนาการจะทำน้ำแตกได้ เดี๋ยวนี้ก้าวหน้ามีนินทาน้ำแตกด้วย
แหมถ้ามีความสุขสุดยอดกะการได้นินทาข้างเดียวในสถานที่กะโหลกกะลา
เนี่ย ก็ไม่อยากจะขัดศรัทธาอยู่แล้ว ช่วยส่งเสริมให้โง่ถึงที่สุดไปเล้ย ไอทีวี
เป็นบริษัทมหาชน ทีไอทีวีเป็นหน่วยงานของรัฐ เมื่อก่อนไอทีวีต้องจ่ายค่า
สัมปทานแต่ปัจจุบันทีไอทีวีไม่ต้อง ทีไอทีวีมีรายได้จากการโฆษณาแต่ทีวี
สาธารณะไอเดียบรรเจิดนั่นใช้เงินภาษี สมองแยกไม่ออกระหว่างไอทีวีกะ
ทีไอทีวีแล้วจะนินทาน้ำแตกก็ตามใจนะจ๊ะ ไม่ขัดหรอก พวกมีปัญหาทางเพศ
เป็นพวกที่น่าสงสาร ช่วยได้ก็ช่วยจ้า ก๊าก ก๊าก ก๊าก

ไม่เข้าใจว่าจะไปอ้างถึงข้อความที่ 4 ทำไม ในเมื่อตอบไม่ตรงกับที่เขาถามถึง ที่เขาเขียนก็เข้าใจง่ายนะ ว่าสัมปทาน 1,400 ล้าน มีกำไร 799 ล้าน ทำไมส่งเงินเข้าหลวง 2000 ล้าน
แต่ดันไปตอบ ไอทีวีเป็นมหาชน ทีไอทีวีใช้เงินภาษี ไม่เข้าใจจริงๆครับ 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #7 เมื่อ: 03-11-2007, 10:35 »

ไม่เข้าใจว่าจะไปอ้างถึงข้อความที่ 4 ทำไม ในเมื่อตอบไม่ตรงกับที่เขาถามถึง ที่เขาเขียนก็เข้าใจง่ายนะ ว่าสัมปทาน 1,400 ล้าน มีกำไร 799 ล้าน ทำไมส่งเงินเข้าหลวง 2000 ล้าน
แต่ดันไปตอบ ไอทีวีเป็นมหาชน ทีไอทีวีใช้เงินภาษี ไม่เข้าใจจริงๆครับ 

โห ถ้าเข้าใจอะไรยากเย็นเพราะไม่ตามข่าว ก็ปิดหูปิดตานั่งจินตนาการเอา
แล้วค่อยมานั่งนินทาบอร์ดอื่นกะพรรคพวกที่นี่ก็ได้น้ำแตกเหมือนกัน ถ้าตามข่าว
ซะมั่งจะรู้ว่า ไอทีวีเป็นบริษัทมหาชน ตอนนี้ไม่ได้ทำโทรทัศน์แล้ว ทีไอทีวี เป็น
หน่วยงานของรัฐขึ้นกับกรมประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ทำแทนไอทีวี หารายได้เข้ารัฐ
จากลูกค้าเดิมและพนักงานเดิมของไอทีวี หน่วยงานรัฐไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทาน
รัฐ แต่มีรายได้จากการทำรายการและโฆษณาเข้ารัฐ กับ กฎหมายใหม่เอี่ยมที่
เพิ่งผ่านสภาไม่กี่วัน ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรทีวีแฟนตาซีสาธารณะไม่มีโฆษณามี
รายได้มาจากการเก็บภาษี ก็แสดงว่ารายได้จากโฆษณาจะหายไปหมด ไม่เข้า
ใจว่าเรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมอ่านไม่รู้เรื่อง สงสัยชอบจินตนาการแฮะ คงมันส์อะดิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2007, 10:37 โดย อยากประหยัดให้ติดแก๊ส » บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #8 เมื่อ: 03-11-2007, 12:02 »

โห ถ้าเข้าใจอะไรยากเย็นเพราะไม่ตามข่าว ก็ปิดหูปิดตานั่งจินตนาการเอา
แล้วค่อยมานั่งนินทาบอร์ดอื่นกะพรรคพวกที่นี่ก็ได้น้ำแตกเหมือนกัน ถ้าตามข่าว
ซะมั่งจะรู้ว่า ไอทีวีเป็นบริษัทมหาชน ตอนนี้ไม่ได้ทำโทรทัศน์แล้ว ทีไอทีวี เป็น
หน่วยงานของรัฐขึ้นกับกรมประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ทำแทนไอทีวี หารายได้เข้ารัฐ
จากลูกค้าเดิมและพนักงานเดิมของไอทีวี หน่วยงานรัฐไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทาน
รัฐ แต่มีรายได้จากการทำรายการและโฆษณาเข้ารัฐ กับ กฎหมายใหม่เอี่ยมที่
เพิ่งผ่านสภาไม่กี่วัน ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรทีวีแฟนตาซีสาธารณะไม่มีโฆษณามี
รายได้มาจากการเก็บภาษี ก็แสดงว่ารายได้จากโฆษณาจะหายไปหมด ไม่เข้า
ใจว่าเรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมอ่านไม่รู้เรื่อง สงสัยชอบจินตนาการแฮะ คงมันส์อะดิ

ประเด็นก็อยู่แค่ว่า เดิมเป็นเอกชน จ่ายให้รัฐก็ไม่ครบค่าสัมปทานอยู่แล้ว กำไรก็มีแค่ 799 ล้าน แล้วทำไมโม้ว่าส่งเงินเข้าหลวง 2000 ล้าน

-ไอทีวีเป็นบริษัทมหาชน ตอบไม่ตรงคำถาม 0 คะแนน
-ทีไอทีวีเป็นหน่วยงานของรัฐ ตอบไม่ตรงคำถาม 0 คะแนน
-เมื่อก่อนไอทีวีต้องจ่ายค่าสัมปทานแต่ปัจจุบันทีไอทีวีไม่ต้อง เข้าเค้าแต่ก็ไม่ได้บอกว่าส่งให้รัฐ 2000 ล้านหรือเปล่าและถ้าส่งเอามาจากไหน 2 คะแนน
-ทีไอทีวีมีรายได้จากการโฆษณาแต่ทีวีสาธารณะไอเดียบรรเจิดนั่นใช้เงินภาษี ตอบไม่ตรงคำถาม 0 คะแนน
-ไอทีวีเป็นบริษัทมหาชน ตอนนี้ไม่ได้ทำโทรทัศน์แล้ว ทีไอทีวี เป็นหน่วยงานของรัฐขึ้นกับกรมประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ทำแทนไอทีวี หารายได้เข้ารัฐจากลูกค้าเดิมและพนักงานเดิมของไอทีวี หน่วยงานรัฐไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานรัฐ แต่มีรายได้จากการทำรายการและโฆษณาเข้ารัฐ ถ้าจะหมายความว่าทีไอทีวีสามารถหาเงินเข้ารัฐได้ 2000 ล้าน แสดงว่ารายได้ที่เข้ามาต้องมีมากกว่า 2000 ล้าน เพราะต้องจ่ายค่าจ้าง ค่ารายการ ถ้ามีรายได้ขนาดนี้ทำไมตอนเป็น ไอทีวีต้องขอลดสัมปทาน แสดงว่าทักษิณโกงค่าสัมปทานใชไหม ที่สำคัญ ข้อความที่คุณสมชายยกมาจากพันทิพย์บอกว่า "ไอทีวี ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท" ไม่ใช่ทีไอทีวี ให้ 2 คะแนน
-กฎหมายใหม่เอี่ยมที่เพิ่งผ่านสภาไม่กี่วัน ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรทีวีแฟนตาซีสาธารณะไม่มีโฆษณามีรายได้มาจากการเก็บภาษี ก็แสดงว่ารายได้จากโฆษณาจะหายไปหมด ตอบไม่ตรงคำถาม 0 คะแนน
จากคะแนน สรุปได้ว่า แถจริงๆ
คุณแก๊สเลิกทำลายชาติได้แล้ว คนเข้ากลัวไม่กล้าใช้แก๊สกันเพราะคุณ เห็นหลายคนบอกว่าแก๊สมีผลต่อสมอง ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้ไปหลายคนแล้ว ผมภาวนาว่าแก๊สที่คุณใช้จะไม่ใช่ LPG ไม่งั้นคงต้องกลับไปใช้ถ่านทำกับข้าว ป่ามันจะหมดประเทศเอา
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 03-11-2007, 12:25 »

ข่าวจากคุณต๋อยไตรภพ กระมังครับ

ลอง ๆ หาในข่าวสด เห็นบอกว่าวงเงินโฆษณา ปีละ 4,000 ล้านหรือไงนี่แหละ ไม่ยืนยัน

บอกว่า ไอทีวีรับเดือนละ 100 กว่าล้าน ( ปีละประมาณ 1,000 ล้าน ) ผมเลยงง ๆ อยู่เหมือนกัน


เงินส่วนนี้แหละที่ไม่จ่าย จนรัฐบาลต้องยกเลิกสัญญา
บันทึกการเข้า

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #10 เมื่อ: 03-11-2007, 13:31 »



เวร ลองหัดดมแก๊สหน่อยดีมั้ยเนี่ย เผื่อจะฉลาดกว่านี้ กระทู้ที่เสร่อไปนินทานั่นเค้า
พูดถึง TITV ปัจจุบันนี่ ไม่ได้หมายถึงบริษัท ไอทีวี จำกัดมหาชน ที่ไปอ้างอิงกะ
ข้อมูลเก่าของ ITV จากงบก็ตรงรายได้ เพราะ TITV มีรายได้เหมือน ITV เมื่อก่อน
แต่ค่าใช้จ่าย TITV มันน้อยกว่า ITV เยอะ ก็ตรงที่ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานมหาโหด
นั่น รายได้ก็เข้ารัฐเต็มเม็ดเต็มหน่วยปีนึงเป็นเงินเท่าไหร่ก็ตามกระทู้ที่ว่า

เมื่อมาเปรียบเทียบกับ TV สาธารณะตามกฎหมายใหม่ซึ่งไม่มีรายได้ แถมยังต้อง
เอาภาษีมาจ่ายปีละร่วมๆ สองพันล้าน มันก็กลับข้างไปกลับจากได้สองพันล้านเป็น
เสียสองพันล้าน อธิบายช้า ช้า ชัด ชัด แบบนี้ยังไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าไงแล้ว ไปคุยกะ
เด็ก ป.2 ดีกว่า อธิบายง่ายกว่านี้เยอะ แถวนี้มันเก่งแต่นินทากะจินตนาการจริงๆ
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #11 เมื่อ: 03-11-2007, 15:24 »



เวร ลองหัดดมแก๊สหน่อยดีมั้ยเนี่ย เผื่อจะฉลาดกว่านี้ กระทู้ที่เสร่อไปนินทานั่นเค้า
พูดถึง TITV ปัจจุบันนี่ ไม่ได้หมายถึงบริษัท ไอทีวี จำกัดมหาชน ที่ไปอ้างอิงกะ
ข้อมูลเก่าของ ITV จากงบก็ตรงรายได้ เพราะ TITV มีรายได้เหมือน ITV เมื่อก่อน
แต่ค่าใช้จ่าย TITV มันน้อยกว่า ITV เยอะ ก็ตรงที่ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานมหาโหด
นั่น รายได้ก็เข้ารัฐเต็มเม็ดเต็มหน่วยปีนึงเป็นเงินเท่าไหร่ก็ตามกระทู้ที่ว่า

เมื่อมาเปรียบเทียบกับ TV สาธารณะตามกฎหมายใหม่ซึ่งไม่มีรายได้ แถมยังต้อง
เอาภาษีมาจ่ายปีละร่วมๆ สองพันล้าน มันก็กลับข้างไปกลับจากได้สองพันล้านเป็น
เสียสองพันล้าน อธิบายช้า ช้า ชัด ชัด แบบนี้ยังไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าไงแล้ว ไปคุยกะ
เด็ก ป.2 ดีกว่า อธิบายง่ายกว่านี้เยอะ แถวนี้มันเก่งแต่นินทากะจินตนาการจริงๆ


นั่นไงล่ะ รายได้ดีนี่ครับ แล้วทำไมขอลดค่าสัมปทาน  แล้วทำไมทักษิณถึงยอมให้ลด ก็เพราะเป็นของตระกูลตัวเองไง สุดท้ายก็คือทักษิณโกงสัมปทานรัฐเพื่อประโยชน์ครอบครัว ก็แค่นั้น
นายกที่รวยที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ไทย แต่ก็ไม่วายเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศ

ผมว่าเรื่องไอทีวี ก็แค่ไม่มีเงินทำไมถึงโม้ว่าส่งเงินให้รัฐมากมาย แต่ถ้ามีเงินทำไมโกงค่าสัมปทาน
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #12 เมื่อ: 03-11-2007, 15:38 »

ส่วนเรื่องแทนที่จะมีรายได้เข้า กลับต้องเอาภาษีไปอุดหนุนมันจะตายหรือไง
ถ้าใช้เงินให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ก็ยังดีกว่าเสียให้นักการเมืองขี้โกง
ภาษีส่วนที่จะใช้ก็เอาส่วนที่เก็บจากเหล้า บุหรี่ไม่ใช่เหรอ ขึ้นมันเยอะๆเลยภาษีพวกนี้ ประเทศจะได้เจริญสักที

ถ้าจะเอารายได้เป็นตัวตั้งก็เห็นอยู่แล้ว วันๆมีแต่เกมโชว์ ลูกทุ่ง ละคร ซีรีย์เกาหลี ญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #13 เมื่อ: 03-11-2007, 16:11 »

น่าน รู้ตัวว่าไม่ตามข่าวพ่นมั่วๆ แทนที่จะยอมรับ ไหลไปเรื่องไอทีวีกะค่าสัมปทานอีกเอ้า
กระทู้เก่าๆ เค้าพูดกันไปร้อยกว่ารอบแล้ว เรื่องต้นกำเนิดไอทีวี ฉายซ้ำช่วยพวกบ้องตื้น
ไม่ตามข่าวอีกทีก็ได้ ไอทีวีต้นกำเนิดมาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ต้อง
การขยายฐานธุรกิจ จากเดิมที่เคยทำธุรกิจทำนองนี้ คือ สหศีนิมา เอารายละเอียดไปอ่าน
แก้โง่แก้บ้าหน่อยไป๊ ไอ้ล็อคอินเฉพาะกิจ

เจตนารมณ์ในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มีที่มาจากวิกฤติการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ในปี 2535 ซึ่งผู้คนในสังคมถูกปิดหูปิดตาจากสื่อของรัฐ ทั้งวิทยุและโทรทัศน์ ทำให้ไม่สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ที่แท้จริงบนถนนราชดำเนินที่รุนแรงถึงขั้นมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

บทบาทสื่อของรัฐดังกล่าว ก่อให้เกิดแนวคิดที่ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีสถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวีแห่งใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 สถานี และต้องเป็นสถานีที่ดำรงบทบาทในการรายงานข่าวสารความเคลื่อนไหวในบ้านเมืองแบบเสรี ไม่มีองค์กรใดทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าไปมีอิทธิพลต่อการทำหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ได้

ทีโออาร์ในการยื่นขอสัมปทานในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ จึงถูกกำหนดไว้ในลักษณะที่รัดกุม อาทิ ต้องไม่มีใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สามารถควบคุมอำนาจการบริหารได้อย่างเบ็ดเสร็จ โครงสร้างการถือหุ้นจึงถูกกำหนดให้เป็นนิติบุคคลไม่ต่ำกว่า 10 ราย แต่ละรายถือหุ้นได้ไม่เกิน 10% และที่สำคัญคือเนื้อหารายการต้องนำเสนอข่าวสารและสาระ 70% มีรายการบันเทิงได้เพียง 30%

ผู้ชนะการประมูลคือกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และบริษัทในเครือคือธนาคารไทยพาณิชย์ โดยมีการเซ็นสัญญาสัมปทานในวันที่ 3 กรกฎาคม 2538 และเริ่มออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 29 มกราคม 2539

"ชายวัยกลางคนร่างสันทัด มาดเท่ อารมณ์ดี ชอบสูบไปป์เป็นนิจศีล เป็นบุคลิกของจุลจิตต์ บุณยเกตุ หรือที่ใครต่อใครมักเรียกขานสั้นๆ ว่า เจ. เจ. ที่มักพบเห็นอยู่เป็นประจำ

ด้วยคุณสมบัติของการเป็นมือประสานสิบทิศ ผสมกับประชาสัมพันธ์ชั้นเยี่ยมทำให้ชื่อเสียงของจุลจิตต์ติดอยู่บนทำเนียบของนักบริหารในองค์กรใหญ่ๆ มาตลอด นับตั้งแต่การดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไทยออยล์ รวมทั้งนั่งเป็นกรรมการขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) ในยุคสมัยหนึ่ง จนมาถึงการนั่งเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของสยามอินโฟเทนเม้นท์ เพื่อประกอบธุรกิจทีวีระบบยูเอชเอฟในนามไอทีวี

จุลจิตต์ได้ชื่อว่าเป็นกลไกสำคัญในการคว้าสัมปทานทีวีเสรีมาให้กับกลุ่มสยามทีวี ทั้งในแง่ของสายสัมพันธ์ และการที่เขาคือหนึ่งในผู้ร่างทีโออาร์ประมูล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในเวลาต่อมาจะปรากฏชื่อของจุลจิตต์ในตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารของสยามทีวี แถมพ่วงด้วยประธานกรรมการบริหารของสหศีนิมา

ช่วงชีวิตในระยะปีถึงสองปีที่ผ่านมาของจุลจิตต์จึงค่อนข้างผูกติดอยู่กับธุรกิจทางด้านมีเดีย และอินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว แม้ว่าปัจจุบันเขาจะนั่งเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการของไทยออยล์

จุลจิตต์มีความสนิทสนมเป็นอย่างดีกับ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินฯ

จุลจิตต์นับเป็น 1 ใน 2 ขุนพล ตัวแทนของสำนักงานทรัพย์สิน ที่มีสหศีนิมาเป็นหัวหอกเคียงคู่กับบรรณวิทย์ บุญญรัตน์ ที่ส่งตรงมาจากธนาคารไทยพาณิชย์ ในการนำพาสยามทีวีก้าวกระโดดเข้าสู่ธุรกิจมีเดียและอินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี ตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ"

(จากเรื่อง "จุลจิตต์ บุณยเกตุ ถึงเวลาต้องทิ้งสยามทีวี" นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2539)

จุดเด่นที่ติดตัวไอทีวีนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มออกอากาศ คือเรื่องข่าว

"ความน่าสนใจของไอทีวีไม่ได้อยู่แค่การเป็นสถานีโทรทัศน์เกิดใหม่ แต่ไอทีวีเป็นสัมปทานโทรทัศน์รายที่ 6 ของเมืองไทยเพียงช่องเดียวในรอบหลายสิบปีมานี้ จากกลไกกึ่งระบบผูกขาดของธุรกิจโทรทัศน์ของเมืองไทย ทำให้โทรทัศน์ของเมืองไทยล้วนแต่อยู่ภายใต้อำนาจของรัฐ การบริหารงานโดยเอกชนมีเพียงช่อง 3 และช่อง 7 เท่านั้น

ไอทีวียังเป็นสถานีโทรทัศน์ที่เกิดขึ้นมาท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ ความไม่พร้อมของระบบเศรษฐกิจ ที่ไม่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจของไอทีวี

ในขณะที่ไอทีวีต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์สัมปทานผูกรัดด้วยเงื่อนไขที่ว่าไอทีวีจะต้องนำเสนอเนื้อหาข่าวและสาระ 70% บันเทิง 30% ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ตรงกันข้ามกับสภาพความเป็นจริง

แต่แล้วไอทีวีก็ใช้เวลา 3 ปีเต็มกับการสร้างสถานีโทรทัศน์ขึ้นมาให้เป็นที่รู้จักด้วยสไตล์ข่าวที่แตกต่างไป ฉีกโมเดลธุรกิจโทรทัศน์ของเมืองไทย ที่ต้องว่ากันด้วยรายการบันเทิงเป็นหลัก ถึงแม้จะยังไม่สามารถครอบคลุมไปถึงรายจ่ายที่เป็นค่าสัมปทาน และดอกเบี้ยก็ตาม"

(จากเรื่อง "สายพันธุ์ใหม่ทีวีไทย ไม่มี...พระเอกขี่ม้าขาว" นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2542)

"เดิมทีไอทีวีมีผู้ถือหุ้นที่มีประสบการณ์ในด้านข่าวอยู่หลายรายทั้งไอเอ็นเอ็น หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ย และตงฮั้ว ซึ่งไตรภพ ลิมปพัทธ์ก็ถูกกำหนดให้เป็นหัวหอกในการผลิตรายการ แต่แล้วทั้ง 3 รายก็ขอถอนหุ้นออกไปในช่วงที่สถานีไอทีวีเพิ่งเปิดดำเนินการไม่นาน ประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการน้ำหมึกมาสามสิบกว่าปี และลีลาการวิเคราะห์ข่าวบนหน้าจอโทรทัศน์ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิม สุทธิชัย หยุ่น ถูกดึงมาร่วมถือหุ้น 10% กำลังสำคัญในการผลิตข่าวและสาระ 70% ให้แก่ไอทีวี

การสร้างทีมข่าวไอทีวีในช่วงแรกของไอทีวี ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากแกนนำของกลุ่มเนชั่น ที่มาพร้อมกับฐานข้อมูลและแนวคิด สุทธิชัย หยุ่น รับสมัครทีมข่าวภายในของกลุ่มเนชั่น เพื่อมาทำงานที่ไอทีวี ปรากฏมีผู้ยื่นใบสมัครและผ่านคัดเลือกประมาณ 10 คน และในจำนวนนั้นคือ เทพชัย หย่อง น้องชายของสุทธิชัย ที่เวลานั้นเป็นบรรณาธิการข่าวของเนชั่น สุภาพ คลี่ขจาย ที่ช่วงหลังเริ่มจัดรายการเนชั่นนิวส์ทอล์กคู่กับสุทธิชัย และเป็นกรรมการผู้จัดการดูแลวิทยุเนชั่น ประจักษ์ มะวงศา ก่อเขตต์ จันทเลิศรัตน์ อดีตโปรดิวเซอร์รายการเนชั่นนิวส์ทอล์ก พวกเขาเหล่านั้นยื่นใบลาออกและมาเป็นพนักงานของไอทีวี ทันทีที่ไอทีวีเริ่มแพร่ภาพออกไป

"ผมตัดจากความเป็นพนักงานตั้งแต่วันแรกที่ก้าวออกมาแล้ว และเนชั่นเองก็มีคนอยู่แค่ 10 คนเท่านั้น ทำงานหนังสือพิมพ์มาเกือบ 20 ปี มาทำทีวีผมก็ว่าท้าทายดี และบังเอิญว่าเนชั่นมีแผนกทีวีเล็กๆ อยู่แผนกหนึ่ง หลายคนเห็นว่าแคบไปก็ย้ายตามมาไอทีวี" เทพชัยเล่า

แม้ว่าหลายปีมานี้สุทธิชัย หยุ่น จะมีประสบการณ์ในการทำข่าว แต่ประสบการณ์การเป็นผู้ผลิตข่าวโทรทัศน์ ไม่เหมือนกับทำข่าวหนังสือพิมพ์ หรือรายการทอล์กโชว์ ที่ต้องอาศัยองค์ประกอบและขั้นตอนการทำงานและการผลิตที่ซับซ้อนและยุ่งยากกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่สุทธิชัย หยุ่น และคนของเนชั่นเองยังไม่เคยมีมาก่อน

อัชฌา สุวรรณปากแพรก อดีตหัวหน้าข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ที่คร่ำหวอดในการผลิตข่าวโทรทัศน์มาหลายสิบปี ถูกชักชวนมาร่วมในทีมข่าวไอทีวีตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ๆ ประสบการณ์และความเก๋าในการทำข่าวโทรทัศน์ของอัชฌา ช่วยไอทีวีได้มากในเรื่องของทั้งมุมมองข่าวและเทคนิคต่างๆ ที่จำเป็นกับการผลิตข่าวโทรทัศน์ รวมถึงการติดต่อกับสติงเกอร์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ

ภาพข่าวเครื่องบินตกที่สุราษฎร์ธานี ที่ทำให้ไอทีวีเป็นซีเอ็นเอ็นย่อยจากการได้ออกข่าวเป็นสถานีแรก ขอภาพข่าวสั้นๆ (Footage) จากช่อง 11 ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้แพร่ภาพนำมาออกในไอทีวีได้ก่อน ก็เป็นผลงานของอัชฌา ที่เป็นผู้หยิบยืมมาจากช่อง 11

นอกจากอัชฌาแล้ว ทีมข่าวของไอทีวียังจัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางของ "สื่อ" จากเกือบทุกประเภท หนังสือพิมพ์เกือบทุกค่ายของเมืองไทย เอ่ยชื่อไปมีหมด ไม่ว่าจะเป็นไทยรัฐ มติชน ฐานเศรษฐกิจ ผู้จัดการ รวมถึงผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, 5, 7, 9 สำนักข่าวแปซิฟิก และสถานีวิทยุไอเอ็นเอ็น หรือแม้แต่โปรดักชั่นเฮาส์

ทั้งหมดนี้คือส่วนผสมที่ถูกนำมาเขย่ารวมกันเป็นทีมข่าวไอทีวี "ตอนแรกคนก็สงสัยเหมือนกันว่าข่าวไอทีวีจะทำได้ดีกว่าช่องอื่นได้อย่างไร นักข่าวส่วนใหญ่ก็มาจากหนังสือพิมพ์ แต่ผมแน่ใจว่าเราต้องทำได้ดีกว่าช่องอื่น เพราะผมดูข่าวทุกคืนรู้ว่า จุดอ่อนของเขาอยู่ตรงไหน สไตล์ของเราคือการทำให้คนดูข่าวไอทีวีมีสีสัน น่าติดตาม มีการเจาะลึกมากกว่าช่องอื่นๆ บวกกับความพยายามในการเจาะลึกเรื่องต่างๆ เนื่องจากการที่เรามีเสรีภาพมากกว่าคนอื่น" ความเห็นของเทพชัย หย่อง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายข่าวของไอทีวี ที่สะท้อนความสำเร็จของข่าวไอทีวี"

(อีกตอนหนึ่งของเรื่องเดียวกัน)

เคยมีการคาดหมายว่าแนวทางการนำเสนอข่าวที่โดดเด่นของไอทีวี อาจทำให้สถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ของไทยรายนี้มีโอกาสเป็นซีเอ็นเอ็นย่อมๆ ได้ หากประเทศไทยไม่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเงินขึ้นในปี 2540 เสียก่อน

ผลพวงจากวิกฤติครั้งนี้ ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในไอทีวีตามมา

"บ่ายสามโมงตรงของวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2542 สุทธิชัย หยุ่น รองประธานกรรมการบริหารบริษัทไอทีวี จำกัด เปิดห้องประชุมฝ่ายข่าวของไอทีวี เพื่อแถลงข่าวบนชั้น 22 ของอาคารไทยพาณิชย์ปาร์คพลาซ่า ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก รวมทั้งพนักงานฝ่ายข่าวของไอทีวี

นับเป็นการตอบโต้ครั้งแรกของสุทธิชัย หลังจากมีกระแสข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ ทั้งหมดนี้ระบุถึงปัญหาความขัดแย้งภายในระหว่างสุทธิชัย และผู้บริหารไอทีวีที่มาจากธนาคารไทยพาณิชย์

เนื้อหาที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันมติชน ไทยรัฐ ผู้จัดการรายวัน และไทยโพสต์ วันที่ 25 มิถุนายน ระบุถึงความต้องการผ่าตัดโครงสร้างของประกิต ประทีปะเสน อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เพิ่งเลือกโปรแกรมเกษียณอายุก่อนกำหนด ลาออกจากแบงก์ไปหมาดๆ และถูกเลือกจากแบงก์ไทยพาณิชย์ให้มาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทไอทีวีแทนโอฬาร ไชยประวัติ

หลังมารับตำแหน่ง ประกิตได้ประกาศจะแก้ปัญหาขาดทุนของไอทีวี โดยปรับผังรายการใหม่ให้เน้นบันเทิงมากขึ้น พร้อมกับลงมือผ่าตัดโครงสร้างการบริหารงานภายในโดยยุบบอร์ดบริหารที่มีบรรณวิทย์ บุญญรัตน์ เป็นประธานกรรมการบริหาร ซึ่งเวลานี้ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้แล้ว และให้การบริหารงานอยู่ในมือของคณะกรรมการบริษัท (บอร์ดใหญ่) ซึ่งจะประกอบด้วย ผู้ถือหุ้นทั้ง 13 ราย ซึ่งประกิตให้เหตุผลกับ "สื่อมวลชน" ว่า เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ไม่ซ้ำซ้อน

การเข้ามากวาดบ้านในไอทีวีของประกิตสร้างความไม่พอใจให้กับสุทธิชัย หยุ่น อย่างมาก เพราะการยุบบอร์ดบริหารเท่ากับว่าตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารฝ่ายข่าวที่สุทธิชัยนั่งอยู่ต้องถูกยุบไปด้วย"

(จากเรื่อง "ความขัดแย้งปะทุที่ไอทีวี" นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2542)

"ตลอดการแถลงข่าวในวันนั้น สุทธิชัยตอกย้ำถึงการเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างไอทีวีของประกิต ที่มุ่งแก้ปัญหารายได้ จนก่อให้เกิดความแตกแยกและปั่นป่วนขึ้นในฝ่ายข่าวของไอทีวี และที่สำคัญจะส่งผลต่อจุดยืนของการเป็นสถานีข่าวของไอทีวีเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือไพ่ใบสำคัญที่สุทธิชัยจะอาศัยฐานเสียงจากมวลชน และฝ่ายข่าวของไอทีวี ในการต่อรองกับธนาคารไทยพาณิชย์

ในสายตาของสุทธิชัย เขาเชื่อว่า ความสำเร็จของไอทีวีมาจากการทุ่มเทของตัวเขาและทีมงานของเนชั่น ที่มาร่วมกันบุกเบิกสร้างทีมงานข่าวของไอทีวี และการเป็นสถานีข่าวของไอทีวี ก็เป็นตัวที่ทำรายได้ให้กับไอทีวี 80%

แต่เป็นการทำไม่ใช่ในลักษณะของการครอบงำแต่เป็นเพราะความทุ่มเท และเสียสละ

"ถ้าผมจะผิดก็มีอย่างเดียว คือทำงานมากไปขยันมากไป"

ความรู้สึกของสุทธิชัยต่อการกระทำของธนาคารไทยพาณิชย์ในการปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่ต่างจากประโยคที่ว่า "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล"

(เนื้อหาอีกตอนจากเรื่องเดียวกัน)

"กรรมการแบงก์มองว่าไอทีวีเป็นบริษัทในเครือที่มีความสำคัญมาก และเป็นจุดเริ่มต้น ยังอยู่ในวัยที่กำลังเจริญเติบโต อยากให้มีคนดูแลใกล้ชิด ก็เลยให้ผมไปดูแลแทน ดร.โอฬาร ดูแลให้ทุกอย่างเดินไปอย่างเรียบร้อยเพราะสัมพันธภาพของธนาคารไทยพาณิชย์กับไอทีวี ในฐานะหนึ่งก็คือผู้ถือหุ้น และในด้านหนึ่งก็คือเจ้าหนี้ จึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องดูให้ไอทีวีประสบความสำเร็จ" คำตอบของประกิต ให้สัมภาษณ์กับ "ผู้จัดการ" ที่มีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในไอทีวีนับจากนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ใช้เงินลงทุนในไอทีวี ทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 40% คิดเป็นเงิน 480 ล้านบาท บวกกับความสัมพันธ์ในฐานะของเจ้าหนี้อีก 3,000 ล้านบาท ค้ำประกันอีก 1,000 ล้านบาท รวมแล้วเกือบ 4,000 ล้านบาท

เป็นตัวเลขการลงทุนในช่วง 3 ปีที่แบงก์ไทยพาณิชย์ยังไม่ได้รับประโยชน์กลับมาเลย นายธนาคารอย่างประกิตแค่กดเครื่องคิดเลขนิดเดียวก็รู้แล้วว่า ไอทีวีมีปัญหาขาดทุน และยังมีปัญหาค่าสัมปทานก้อนใหญ่ที่เป็นเงื่อนปมใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นประกิตยังมีคำถามเกี่ยวกับโครงสร้างการบริหารงานของไอทีวีอีกมากมาย โดยเฉพาะอำนาจรองประธานกรรมการบริหาร ที่มีบทบาทมากกว่าผู้บริหารในระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่

(จากเรื่อง "ไอทีวีกับเนชั่น CONFLICT OF INTEREST" นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2542)

บทสรุปของความขัดแย้งครั้งนี้ คือธนาคารไทยพาณิชย์ได้เข้าควบคุมการบริหารงานในไอทีวีอย่างเบ็ดเสร็จ ส่วนทีมงานของเนชั่นได้ลาออกเพื่อไปจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเนชั่น แชนแนล สถานีข่าว 24 ชั่วโมง

แนวทางแก้ปัญหาไอทีวีของธนาคารไทยพาณิชย์ คือต้องขายกิจการของไอทีวีออกไป โดยมีความพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรายละเอียดในสัญญาสัมปทานก่อนขาย โดยเฉพาะประเด็นการกระจายการถือครองหุ้นไม่ต่ำกว่า 10 ราย รายละไม่เกิน 10%

"มติของคณะรัฐมนตรีของชวน หลีกภัย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2543 ที่อนุมัติให้มีการแก้ไขสัญญาร่วมการงานของไอทีวี 2 ข้อ คือ การยกเลิกสัญญาสัมปทานข้อ 1.2 ที่กำหนดให้มีผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 10 ราย และแต่ละรายถือไม่เกิน 10% ระบุว่าเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน พ.ศ.2535 และข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงเท่ากับเป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องเหล่านี้โดยตรง

ถัดจากนั้น ในวันที่ 25 เมษายน 2543 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติให้มีการแก้ไขสัญญาสัมปทานไอทีวีตามมติของคณะรัฐมนตรี ในสัญญาข้อ 1.2 และสัญญาในเรื่องของการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ลงนามโดยผู้บริหารของไอทีวี และธนาคารไทยพาณิชย์ ประกอบด้วยนพพร พงษ์เวช ในฐานะของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ศรัณย์ทร ชุติมา ผู้จัดการทั่วไปลงนามร่วมกับผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และประเด็นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาสัมปทานไอทีวีในครั้งนั้น ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลของชวน หลีกภัย ยอมให้มีการเลื่อนจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน แต่อยู่ที่การแก้ไขสัญญาในข้อ 1.2 ในเรื่องของสัดส่วนการถือหุ้นที่เปลี่ยนแปลงให้นิติบุคคลสามารถถือหุ้นได้ไม่เกิน 75%

ถัดจากนั้นในเดือนมิถุนายน ธนาคารไทยพาณิชย์ก็ได้ดึงเอากลุ่มชินคอร์ปเข้ามาซื้อหุ้นในไอทีวี ซึ่งกลุ่มชินคอร์ปได้ใช้เงินลงทุนไปในไอทีวีแล้วประมาณ 1,600 ล้านบาท แลกกับการเข้ามาถือหุ้นในไอทีวี 39% ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ได้แปลงจากหนี้เป็นทุน เหลือสัดส่วนการถือหุ้น 55% โดยสิทธิในการบริหารงานทั้งหมดเป็นของกลุ่มชินคอร์ป จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลของชวน หลีกภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือแม้แต่กลุ่มเนชั่น ได้ยอมรับในหลักการที่ว่าทีวีเสรีเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป กับข้อเท็จจริงในเรื่องภาระของสำนักงานทรัพย์สินฯ จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาการขาดทุน และทรัพย์สินที่เหลืออยู่ก็คือไอทีวี

และนี่คือที่มาของวิกฤติที่เกิดขึ้นกับไอทีวี ที่คำว่าทีวีเสรีได้ตายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง"

(จากเรื่อง "ทีวีเสรีตายไปแล้ว" นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2544)

"ทุกวันนี้ โทรทัศน์ยังเป็นสัมปทานที่ถูกผูกขาดอย่างแน่นหนา มีเพียงแค่เอกชน 2 รายเท่านั้น และโทรทัศน์ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะอนุมัติง่ายๆ กว่าไอทีวีจะเกิดขึ้นก็เลือดตาแทบกระเด็น ไม่เหมือนกับธุรกิจสื่อสาร โอกาสที่จะเปิดสัมปทานให้กับรายใหม่มีมากกว่า และสิ่งที่บุญคลีมองลึกลงไปกว่านั้นก็คือชื่อของไอทีวีเป็นแบรนด์เนม ที่ติดหูติดตาคนดูแล้ว ช่อง 3 และช่อง 7 ก็ยังไม่ได้สร้างแบรนด์เหมือนกับไอทีวี

ผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนในไอทีวีก็คือจะทำให้พอร์ตการลงทุนของชินคอร์ปดูดีขึ้น ต้องไม่ลืมว่าชินคอร์ปอเรชั่น อยู่ระหว่างขั้นตอนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแดค

การลงทุนในไอทีวีจึงเท่ากับเป็นการกระจายความเสี่ยงในเรื่องการลงทุน ไม่มุ่งเน้นธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง หรือธุรกิจสื่อสารเท่านั้น แน่นอนว่าย่อมส่งผลถึงราคาหุ้นของชินคอร์ปด้วย

ชินคอร์ปรู้ดีว่าโอกาสที่จะได้สถานีโทรทัศน์มาด้วยเงินลงทุนเท่านี้คงไม่มีอีกแล้ว หากจะรอจนถึงเปิดเสรีในปี 2006

"ลงทุนถูกวันนี้ใช้เงินแค่ 25 บาทต่อดอลลาร์ แต่อนาคตมัน 40 บาท ถ้าเราต้องรอจนถึงปี 2006 รอให้ถึงวันเปิดเสรี"

ชินคอร์ปได้ไอทีวีมาด้วยราคาถูกมาก เงินจำนวน 1,600 ล้านบาท แลกกับหุ้น 39% ที่ทำให้ชินคอร์ปกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในสถานีโทรทัศน์ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งเครือข่าย และ content"

(จากเรื่อง "ไอทีวี" จิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย? ของชินคอร์ป" นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2543)

บุญคลีที่กล่าวถึงในเนื้อหาข้างต้นคือ บุญคลี ปลั่งศิริ CEO ของชินคอร์ป

ชินคอร์ปได้ใช้เวลาลองผิดลองถูกในการบริหารไอทีวีอยู่กว่า 3 ปี ระหว่างนี้ นอกจากการนำไอทีวีเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ยังมีการผ่าตัดทีมงานข่าว และมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารระดับสูงไปหลายระลอก

จนในที่สุด แนวทางของไอทีวีก็ได้ข้อสรุปถึงทิศทางที่ชัดเจนในต้นปี 2547 ที่อนุญาโตตุลาการได้ตัดสินให้ลดค่าสัมปทานที่ไอทีวีต้องจ่ายให้รัฐจากปีละ 1,000 ล้านบาท เหลือเพียงปีละ 230 ล้านบาท และปรับสัดส่วนเนื้อหาระหว่างข่าวสารและสาระ กับรายการบันเทิง จาก 70 : 30 เป็น 50 : 50 โดยเนื้อหาในส่วนบันเทิงนั้นมีการดึงไตรภพ ลิมปพัทธ์ และกันตนา กรุ๊ป กลับเข้ามาร่วมจัดทำรายการอีกครั้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน

สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้คัดค้านคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการในครั้งนั้น และได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด

วันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาให้คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการประเด็นที่ไอทีวีได้ลดค่าสัมปทานที่ต้องจ่ายเหลือปีละ 230 ล้านบาท เป็นโมฆะ และให้ปรับผังรายการใหม่ กลับมาใช้รูปแบบเดิมคือต้องมีเนื้อหาที่เป็นข่าวสารและสาระ 70% เหลือสัดส่วนสำหรับการเสนอรายการบันเทิงเพียง 30%

เป็นคำพิพากษาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติการณ์ทางการเมืองระลอกใหญ่ ที่สังคมกำลังไม่พอใจการบริหารงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ก่อตั้งชิน คอร์ปอเรชั่น ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่อาจนำพาประเทศไปสู่ความวิบัติ

ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งของไอทีวี ที่เกิดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับวิกฤติ

.[/color]
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #14 เมื่อ: 03-11-2007, 16:50 »

 
ยอมแพ้ พูดเรื่องหนึ่ง ตอบอีกเรื่องหนึ่ง เหนื่อย ไอ้ที่อุตส่าห์แปะมาใครๆเขาก็รู้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่าทักษิณโกง รู้ว่าขาดทุนยังซื้อ จะกล้าซื้อเหรอถ้าไม่มั่นใจว่าแก้สัญญาได้ สุดท้ายอำนาจชั่วก็แพ้ความถูกต้อง สัญญาโจรเป็นโมฆะ
บันทึกการเข้า
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 03-11-2007, 17:13 »

คุยกะไอ้แก็สเน่า มันจะรู้เรื่องที่ไหน   คนอื่นเขียนก็บอกนั่งเทียน ก็แค่นั้น

สมองมันรับอะไรได้ที่ไหน  ไม่รู้แถวบ้านมันมีคนคบหรือเปล่า

สมองคงสับสนอะไรบางอย่าง  สังคมไปทางมันก็ไปทาง

คงคิดว่าเท่มั้ง ที่ทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น 
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 03-11-2007, 17:36 »

มัวแต่น้ำแตกแถวๆ ศาลากลางมอมั้ง
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #17 เมื่อ: 03-11-2007, 17:41 »

จะโง่จะตะแบงแค่พอเพียงก็พอนะ พ่อล็อคอินเฉพาะกิจ โถ แค่บอกว่าเรื่องที่แปะใครๆ ก็รู้
ก็โชว์โง่แล้ว เมื่อกี๊เพิ่งบอกหยกๆ ว่า ทำไมทักษิณถึงยอมให้ลดสัมปทาน ทักษิณให้ลดที่
ไหนกัน อนุญาโตตุลาการต่างหากที่ตัดสินให้ลดสัมปทาน ถ้าจะบอกว่าทักษิณครอบงำมัน
ก็ไร้เหตุผลสิ้นดี จะครอบงำจริงไม่ไปครอบงำสำนักปลัดสำนักนายกให้ยอมรับไม่ดีกว่าเรอะ
ให้สำนักปลัดไปฟ้องศาลปกครองได้ก็แสดงว่า การทำงานของสำนักปลัดนั่นเป็นอิสระจาก
ทักษิณที่เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ว่าทำไมถึงแก้สัญญาได้ มันตั้งแต่สมัย 2543 แล้วหวังว่า
คงไม่ตะแบงอีกนะว่าทักษิณสั่งนายกรัฐมนตรีที่ชื่อชวน ซึ่งในช่วงที่มีการงุบงิบการแก้ไข
เพิ่มเติมข้อ ๕ วรรคสี่ตั้งแต่เริ่มแรกเซ็นต์สัญญา ที่ศาลปกครองพิพากษาว่าตรงนี้ที่ผิดมัน
ก็อยู่ในสมัยที่นายกรัฐมนตรีชื่อชวนเหมือนกัน แล้วทักษิณไปเกี่ยวแต่เมื่อไหร่

มาตรงที่ว่าทำไมไทยพาณิชย์ถึงต้องอยากจะได้กำไรแบบเร่งรีบ มาปรับโครงสร้างแบบหัก
ดิบกะไอ้เหม่งกาแฟดำนั่น เพราะว่าต้มยำกุ้งมันทำแบ๊งค์ที่ชอบลงทุนเกินพอเพียงนี่ เกือบ
เจ๊งเกือบต้องเสียความเป็นเจ้าของให้แก่ต่างชาติ ยังโชคดีที่ยังทางแก้ปัญหาตรงนี้สองเรื่อง
ชัดๆ ที่ออกสื่อคือท่านเทพจิรายุทำอะไรแปลกๆ กะรัฐมนตรีคลังสมัยทักษิณเอาที่แลกหุ้น
คืนมาได้ และชินคอร์ปช่วยไปซื้อหุ้นไอทีวีที่ไม่มีกำไรอาการร่อแร่ให้ไม่ถ่วงไทยพาณิชย์
ตอนนั้น ผลที่ได้คือไทยพาณิชย์เข้มแข็งดีวันดีคืนจนเป็นธนาคารที่มีสาขามากที่สุดในไทย
ปัจจุบัน ไม่ได้สองอย่างนั่นป่านนี้เป็นธนาคารสิงคโปร์พาณิชย์ไปแล้ว รู้ไว้ซะมั่งนะจ๊ะหนูๆ 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #18 เมื่อ: 03-11-2007, 17:57 »

มัวแต่น้ำแตกแถวๆ ศาลากลางมอมั้ง
ถามจริงเหอะวะไอ้กระจอก เอ็งไม่มีความรู้การเมืองเลยซักนิดเหรอ ไอ้ที่ตอบๆ มาแต่ละวันมันไม่เห็นมีสาระ
อะไรเลย ใครเค้าเลือกเอ็งมาเป็นม็อดวะ หรือเสนอหน้าเอง ในสมองมันสงสัยมีแต่เรื่องใต้สะดือ ผู้หญิงก็ไม่
เว้น ไม่เคยโดนใครอบรมมาตั้งแต่เด็กเลยเหรอ วันๆ พ่นแต่เรื่องไร้สาระ ตัวทำบอร์ดเสื่อมจริงๆ เลยวะเนี่ย 

1   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: ส่งข่าว เว็บตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เปิดให้บริการแล้วจ๊า  เมื่อ: วันนี้ เวลา 17:39 
เวอร์จิ้น อิอิอิ
 
2   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: "คุณแถ"(แก๊ส) ช่วยไปปรามพรรคพวกคุณด้วย .. แบบว่าแถ(มั่วนิ่ม)ให้ถูกจับได้  เมื่อ: วันนี้ เวลา 17:36 
มัวแต่น้ำแตกแถวๆ ศาลากลางมอมั้ง
 
3   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: ภาษาการเมืองวันละคำ วันนี้ ขอเสนอ คำว่า  เมื่อ: วันนี้ เวลา 00:54 
เซอร์ไพร์ช
 
4   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: สนธิ ลิ้ม โดนประท้วงห้ามบวชที่วัดชนะสงคราม  เมื่อ: 31-10-2007, 19:10 
ใครจะคิดยังไง สำหรับผม การอโหสิก็เป็นเรื่องของผม
 
5   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: ถ้าผมจะด่าคุณว่าเป็นพวกอนุภรรยาทักษิณ คุณจะรู้สึกอย่างไร  เมื่อ: 31-10-2007, 18:29 
คุณไม่จำเป็นต้องถามหาวุฒิภาวะจากผม
ถึงผมจะสวมหมวกหลายใบ แต่ผมก็รู้ตัวเองดี

เป็นคนคุมบอร์ด
เป็นคนเล่นเว็บบอร์ด
เป็นคนเขียนบล็อก
เป็น ...
เป็น ...

อย่างน้อยที่สุด คงไม่จำเป็นต้องจริงจังอะไร
มันก็เป็นบทบาทสมมติ ... โอเค๊!!!

ไปดีกว่า...
ขี้เกียจเถียง เสียเวลา
 
6   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: สนธิ ลิ้ม โดนประท้วงห้ามบวชที่วัดชนะสงคราม  เมื่อ: 31-10-2007, 16:24 
เจ็บดีแท้ๆ   
 
7   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: มันยึดอำนาจแล้วนำเศรษฐกิจพอเพียงมาบังหน้า  เมื่อ: 31-10-2007, 14:57 
ขอแนะนำให้ไปเรียกสหายดอกหญ้า แล้วเอาถาดไปด้วย
เดินไปที่หน้าศาลาพระเกี้ยว แล้วโชว์ตลกล้างสมองซะ
 
8   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: คมช.ตั้งวอร์รูมสู้ ใครจะล่อ คมช. เข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง ดาหน้าเข้ามาเลยครับ  เมื่อ: 31-10-2007, 14:53 
ถ้าผมจะด่าคุณว่าเป็นพวกอนุภรรยาทักษิณ คุณจะรู้สึกอย่างไร   
 
9   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: มันยึดอำนาจแล้วนำเศรษฐกิจพอเพียงมาบังหน้า  เมื่อ: 31-10-2007, 10:27 
อ้างจาก: อยากประหยัดให้ติดแก๊ส ที่ 30-10-2007, 22:10
อ้าว... ชอบแถเป็นพวกเฮียใจเหรอ ไปตั้งพรรคแนวรั่วมาร์คซิสต์ดีกว่าไหม   
 
10   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: คมช.ตั้งวอร์รูมสู้ ใครจะล่อ คมช. เข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง ดาหน้าเข้ามาเลยครับ  เมื่อ: 31-10-2007, 10:17 
ถ้าป๋าหมากติดคุก   
 
11   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: สนธิ ลิ้ม โดนประท้วงห้ามบวชที่วัดชนะสงคราม  เมื่อ: 31-10-2007, 10:13 
อนุโมทนาครับ สิ่งที่ทำถ้าคิดว่าดีและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็สนับสนุน
 
12   ทั่วไป / ชายคาพักใจ / Re: ถึงเพื่อนๆ ที่ใช้ http://www.blogger.com อยู่ครับ  เมื่อ: 29-10-2007, 15:42 
ผมแอดตั้งนานแล้วนะพี่หนึ่ง... แต่ขี้เกียจบอก
 
13   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: คุณคิดว่า "พลังประชาชน" ด่าคมช.-รัฐบาลนี้ จะได้คะแนนเสียงเพิ่มหรือลด  เมื่อ: 28-10-2007, 01:11 
ปล่อยให้เค้าได้อยู่เพื่อให้คนอื่นเลียเถอะ อย่าถือสา   
 
14   ทั่วไป / สภากาแฟ / Re: บริหารทีมสุดยอดจริงๆเหลี่ยม เรือใบโดนเชลซีล่อไปแล้ว 2 ตุง!!!! เละแน่!!!  เมื่อ: 28-10-2007, 00:59 
สมปองอยู่ไหน 
 
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #19 เมื่อ: 03-11-2007, 18:03 »

อดไม่ได้จริงๆ แต่คงพอแล้ว

ทำไมทักษิณถึงยอมให้ลดสัมปทาน ทักษิณให้ลดที่
ไหนกัน อนุญาโตตุลาการต่างหากที่ตัดสินให้ลดสัมปทาน ถ้าจะบอกว่าทักษิณครอบงำมัน
ก็ไร้เหตุผลสิ้นดี จะครอบงำจริงไม่ไปครอบงำสำนักปลัดสำนักนายกให้ยอมรับไม่ดีกว่าเรอะ
-ก็คนมันอำนาจล้นฟ้า ก็คงคิดถ้าอนุญาโตชนะก็คงจบ แต่สำนักปลัดดันมีคนดี ไม่ก้มหัวให้อำนาจมืด ถึงเอาไปฟ้องศาล แต่ตัวเป็นนายกจะห้ามไม่ให้ฟ้องศาลมันก็น่าเกลียด บริษัทของตระกูลตัวเองนี่นะ จะโฉ่งฉ่างเกินไป จริงๆทักษิณน่าจะไปครอบงำไอทีวีจะง่ายที่สุดว่าไม่ต้องแก้สัญญา

ส่วนที่ว่าทำไมถึงแก้สัญญาได้ มันตั้งแต่สมัย 2543 แล้วหวังว่า
คงไม่ตะแบงอีกนะว่าทักษิณสั่งนายกรัฐมนตรีที่ชื่อชวน ซึ่งในช่วงที่มีการงุบงิบการแก้ไข
เพิ่มเติมข้อ ๕ วรรคสี่ตั้งแต่เริ่มแรกเซ็นต์สัญญา ที่ศาลปกครองพิพากษาว่าตรงนี้ที่ผิดมัน
ก็อยู่ในสมัยที่นายกรัฐมนตรีชื่อชวนเหมือนกัน แล้วทักษิณไปเกี่ยวแต่เมื่อไหร่
-สมัยชวนจะงุบงิบหรือไม่อย่างน้อยผลประโยชน์โดยตรงไม่ได้อยู่ที่เขา แต่สาระสำคัญของสัญญาทำไมมันต้องมาแก้สำเร็จตอนครอบครัวนายกเป็นเจ้าของก็ไม่รู้นะ ลดสัมปทาน บันเทิงเพิ่มรับค่าโฆษณา รายรับเพิ่มเนื้อๆ หุ้นขึ้นกำไรหุ้นเน้นๆ

มาตรงที่ว่าทำไมไทยพาณิชย์ถึงต้องอยากจะได้กำไรแบบเร่งรีบ มาปรับโครงสร้างแบบหัก
ดิบกะไอ้เหม่งกาแฟดำนั่น เพราะว่าต้มยำกุ้งมันทำแบ๊งค์ที่ชอบลงทุนเกินพอเพียงนี่ เกือบ
เจ๊งเกือบต้องเสียความเป็นเจ้าของให้แก่ต่างชาติ ยังโชคดีที่ยังทางแก้ปัญหาตรงนี้สองเรื่อง
ชัดๆ ที่ออกสื่อคือท่านเทพจิรายุทำอะไรแปลกๆ กะรัฐมนตรีคลังสมัยทักษิณเอาที่แลกหุ้น
คืนมาได้ และชินคอร์ปช่วยไปซื้อหุ้นไอทีวีที่ไม่มีกำไรอาการร่อแร่ให้ไม่ถ่วงไทยพาณิชย์
ตอนนั้น ผลที่ได้คือไทยพาณิชย์เข้มแข็งดีวันดีคืนจนเป็นธนาคารที่มีสาขามากที่สุดในไทย
-จะบอกว่าชินคอร์ปไปช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือไง ก็อย่างที่บอก คงมั่นใจว่าแก้สัญญาได้ และจะได้กำไรมหาศาลถึงเข้าไปซื้อ ช่วยไม่ได้เจ้าของดันเป็นนายก ไม่โกยตอนนี้จะโกยตอนไหน อย่างทักษิณลงทุนร้อยต้องกำไรล้าน ไม่งั้นบาทเดียวก็ไม่มีหลุดจากกระเป๋า

สุดท้าย อำนาจชั่วก็แพ้ความถูกต้อง สัญญาโจรเป็นโมฆะ
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #20 เมื่อ: 03-11-2007, 18:15 »

อดไม่ได้จริงๆ แต่คงพอแล้ว

ทำไมทักษิณถึงยอมให้ลดสัมปทาน ทักษิณให้ลดที่
ไหนกัน อนุญาโตตุลาการต่างหากที่ตัดสินให้ลดสัมปทาน ถ้าจะบอกว่าทักษิณครอบงำมัน
ก็ไร้เหตุผลสิ้นดี จะครอบงำจริงไม่ไปครอบงำสำนักปลัดสำนักนายกให้ยอมรับไม่ดีกว่าเรอะ
-ก็คนมันอำนาจล้นฟ้า ก็คงคิดถ้าอนุญาโตชนะก็คงจบ แต่สำนักปลัดดันมีคนดี ไม่ก้มหัวให้อำนาจมืด ถึงเอาไปฟ้องศาล แต่ตัวเป็นนายกจะห้ามไม่ให้ฟ้องศาลมันก็น่าเกลียด บริษัทของตระกูลตัวเองนี่นะ จะโฉ่งฉ่างเกินไป จริงๆทักษิณน่าจะไปครอบงำไอทีวีจะง่ายที่สุดว่าไม่ต้องแก้สัญญา

เหอ เหอ แค่นี้ก็ยอมรับแล้วว่าทักษิณไม่มีอำนาจจริง แค่สำนักปลัดเล็กๆ ยังคุมไม่ได้ ตะแบงห่วยๆ กร๊ากกกกก
ไม่ทุเรศตัวเองมั่งเหรอ ตะแบงปัญญาอ่อนแบบนี้

ส่วนที่ว่าทำไมถึงแก้สัญญาได้ มันตั้งแต่สมัย 2543 แล้วหวังว่า
คงไม่ตะแบงอีกนะว่าทักษิณสั่งนายกรัฐมนตรีที่ชื่อชวน ซึ่งในช่วงที่มีการงุบงิบการแก้ไข
เพิ่มเติมข้อ ๕ วรรคสี่ตั้งแต่เริ่มแรกเซ็นต์สัญญา ที่ศาลปกครองพิพากษาว่าตรงนี้ที่ผิดมัน
ก็อยู่ในสมัยที่นายกรัฐมนตรีชื่อชวนเหมือนกัน แล้วทักษิณไปเกี่ยวแต่เมื่อไหร่
-สมัยชวนจะงุบงิบหรือไม่อย่างน้อยผลประโยชน์โดยตรงไม่ได้อยู่ที่เขา แต่สาระสำคัญของสัญญาทำไมมันต้องมาแก้สำเร็จตอนครอบครัวนายกเป็นเจ้าของก็ไม่รู้นะ ลดสัมปทาน บันเทิงเพิ่มรับค่าโฆษณา รายรับเพิ่มเนื้อๆ หุ้นขึ้นกำไรหุ้นเน้นๆ

แก้สัญญามันสำเร็จแต่สมัยชวนแล้วไอ้หนูเอ๊ย อ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักคำว่า สัญญา เรอะ
สมัยชวนนี่คงแก้สัญญาให้นายหอกนายเหวโดยสุจริตไม่หวังอะไรเลยมั้งนั่น กร๊ากกกกก

มาตรงที่ว่าทำไมไทยพาณิชย์ถึงต้องอยากจะได้กำไรแบบเร่งรีบ มาปรับโครงสร้างแบบหัก
ดิบกะไอ้เหม่งกาแฟดำนั่น เพราะว่าต้มยำกุ้งมันทำแบ๊งค์ที่ชอบลงทุนเกินพอเพียงนี่ เกือบ
เจ๊งเกือบต้องเสียความเป็นเจ้าของให้แก่ต่างชาติ ยังโชคดีที่ยังทางแก้ปัญหาตรงนี้สองเรื่อง
ชัดๆ ที่ออกสื่อคือท่านเทพจิรายุทำอะไรแปลกๆ กะรัฐมนตรีคลังสมัยทักษิณเอาที่แลกหุ้น
คืนมาได้ และชินคอร์ปช่วยไปซื้อหุ้นไอทีวีที่ไม่มีกำไรอาการร่อแร่ให้ไม่ถ่วงไทยพาณิชย์
ตอนนั้น ผลที่ได้คือไทยพาณิชย์เข้มแข็งดีวันดีคืนจนเป็นธนาคารที่มีสาขามากที่สุดในไทย
-จะบอกว่าชินคอร์ปไปช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือไง ก็อย่างที่บอก คงมั่นใจว่าแก้สัญญาได้ และจะได้กำไรมหาศาลถึงเข้าไปซื้อ ช่วยไม่ได้เจ้าของดันเป็นนายก ไม่โกยตอนนี้จะโกยตอนไหน อย่างทักษิณลงทุนร้อยต้องกำไรล้าน ไม่งั้นบาทเดียวก็ไม่มีหลุดจากกระเป๋า

สุดท้าย อำนาจชั่วก็แพ้ความถูกต้อง สัญญาโจรเป็นโมฆะ

ไม่ลองติดตามข่าวดูหน่อยเหรอ ว่าใครจะซื้อไอทีวีตอนนี้ เจ้าของเดิมเค้าจะมาเอาไปแล้ว ตาสว่างหน่อยอย่างมโข่ง
เห้อ น็อคล็อคอินเฉพาะกิจไปอีกรายแระ เดี๋ยวหลังกระทู้นี้ก็คงหายไปจากบอร์ดถาวร ตัวจริงมันใครน้อ หน้าตัวเมียจัง
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #21 เมื่อ: 03-11-2007, 18:34 »

เหอ เหอ แค่นี้ก็ยอมรับแล้วว่าทักษิณไม่มีอำนาจจริง แค่สำนักปลัดเล็กๆ ยังคุมไม่ได้ ตะแบงห่วยๆ กร๊ากกกกก
ไม่ทุเรศตัวเองมั่งเหรอ ตะแบงปัญญาอ่อนแบบนี้

แก้สัญญามันสำเร็จแต่สมัยชวนแล้วไอ้หนูเอ๊ย อ่านภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักคำว่า สัญญา เรอะ
สมัยชวนนี่คงแก้สัญญาให้นายหอกนายเหวโดยสุจริตไม่หวังอะไรเลยมั้งนั่น กร๊ากกกกก

ไม่ลองติดตามข่าวดูหน่อยเหรอ ว่าใครจะซื้อไอทีวีตอนนี้ เจ้าของเดิมเค้าจะมาเอาไปแล้ว ตาสว่างหน่อยอย่างมโข่ง
เห้อ น็อคล็อคอินเฉพาะกิจไปอีกรายแระ เดี๋ยวหลังกระทู้นี้ก็คงหายไปจากบอร์ดถาวร ตัวจริงมันใครน้อ หน้าตัวเมียจัง

ผมไม่แถไปกับคุณแล้วล่ะ แต่ไอ้ที่ว่า น็อคล็อคอินเฉพาะกิจไปอีกรายแระ เดี๋ยวหลังกระทู้นี้ก็คงหายไปจากบอร์ดถาวร ตัวจริงมันใครน้อ หน้าตัวเมียจัง เอาเป็นว่าผมเพิ่งเข้ามาดูเว็บนี้เมื่อวานครั้งแรก แต่ต่อไปคงเข้าทุกวัน ไม่หายไปไหนหรอก แล้วจะ pm ไปรายงานตัวทุกวัน ว่าล็อคอินแล้ว
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #22 เมื่อ: 03-11-2007, 19:07 »

คนนี้ เขาหาว่าสถานี MV ถูกบล็อคในขณะที่ผมกำลังดูรายการนี้ทางเน็ต ตอน ..

"สื่อทางเลือก" .. แต่ขำกลิ้งควายกับแม้ว ที่ผู้ดำเนินรายการ เชิญสื่อทางเลือก คือ

เว็บพันทิพ และเว็บคนวันเสาร์, Saturday voice มาออกรายการ   

http://www.mvnews.net/comment4.php?idnews=7

..................................................................................................

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5980883/P5980883.html

มาถึงคิวเจ้าของกระทู้มั่ง เรื่องที่เค้าคิดว่าถูกบล็อคนั่น จริงๆ เข้าใจผิด ความจริงเป็นอย่างงี้
มันเป็นแฮกเกอร์มืออาชีพระดับอินเตอร์ ต้องการแฮกเว็บไฮ-ทักษิณซึ่งป้องกันได้ดีสุดใน
บรรดาเว็บที่ต่อต้านเผด็จการ มันเลยต้องไปแฮกเว็บอื่นเพื่อทดสอบฝีมือไปก่อน เมื่อได้ที่
แล้วก็ลุยเว็บไฮ-ทักษิณเป็นระยะๆ เพราะเว็บนี้มีข้อมูลลับที่ไม่เคยมั่วมากที่สุด ทำให้ทหาร
กลัวมาก แม้แต่ทีมงานในประเทศจะอ่อนหัด เพราะคนเก่งๆ ไม่ยอมก้มหัวให้เผด็จการ จึง
ต้องไปจ้างทีมงานนอกประเทศ ด้วยเหตุนี้ เว็บอื่นเลยล่มมั่งดีมั่ง

ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ชมที่แวะมาเยี่ยมเยียนไฮ-ทักษิณคงจะสัมผัสได้ถึงความล่าช้าในการเข้าชมจนทำให้หงุดหงิดรำคาญใจ การเปิดดูเนื้อหาช้ากว่าที่ควรจะเป็น และบางช่วงเวลาไม่สามารถเข้าชมได้ตามปกติ

นับแต่วันที่เวบไซต์ไฮ-ทักษิณได้แสดงจุดยืนอยู่ตรงกันข้ามกับเผด็จการ นำเสนอข้อมูลข่าวสารของ พตท. ทักษิณ ที่สื่อปกติไม่ยินยอมเผยแพร่ อีกทั้งตีแผ่ข้อมูลลับของคณะรัฐประหาร ทำให้เวบไซต์แห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ต้องถูกกำจัด เนื่องจากเป็นสื่อเพียงประเภทเดียวที่คณะรัฐประหารไม่สามารถควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จได้เหมือนสื่ออื่นๆ ในประเทศ

หลังการเปิดตัวเวบไซต์เพียง 2 สัปดาห์ได้มีความพยายามตอบโต้จากหน่วยงานของรัฐภายใต้คำสั่งของเผด็จการเพื่อทำลายเวบไซต์ทันที ปรากฏการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ภายในอาคารของ กสท. ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงไอซีที โดยใช้ซอฟท์แวร์โจมตีเวบไซต์ที่สามารถหาโหลดได้จากอินเตอร์เน็ท ส่งข้อมูลขยะเข้ามารบกวนเวบไซต์ เพื่อให้ผู้ชมทั่วไปไม่สามารถเข้าชมได้ตามปกติ ในระยะแรกทีมงานยังไม่มีโอกาสได้จัดเตรียมการป้องกัน จึงส่งผลให้เวบไซต์ล่มหรือไม่สามารถเข้าชมได้อยู่บ่อยครั้ง

หากผู้ชมท่านใดเป็นแฟนพันธุ์แท้ของไฮ-ทักษิณ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมตั้งแต่วันที่เปิดตัวครั้งแรก คงมีโอกาสได้อ่านข่าวการโจมตีเวบไซต์ในเดือนมีนาคมผ่านตามาบ้าง

อ่านย้อนหลัง “เบื้องหลังการโจมตี Hi-thaksin.net”

เมื่อเวบไซต์เข้าที่เข้าทาง ทีมงานได้จัดทำระบบคัดกรองข้อมูลขยะ ส่งผลให้การโจมตีด้วยซอฟแวร์ที่หาได้จากอินเตอร์เน็ทไม่สามารถสร้างความเสียหายแก่เวบไซต์ได้อีกต่อไป

เมื่อการโจมตีในประเทศไร้ผล ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไฮ-ทักษิณได้เผยแพร่เอกสารลับในการว่าจ้างการประชาสัมพันธ์เชิงลึกของ ดร.เชียงช่วง (ซึ่งเป็นที่มาของคำที่ใช้เรียกกลุ่มโพสท์ข้อความก่อกวนทางอินเตอร์เน็ท ว่าพวก 2.4 ตามลำดับหัวข้อของเอกสาร)

อ่านย้อนหลัง “แฉจะๆหลักฐานมัดคมช.ทุจริต”

ทีมงานได้รับข่าวจากแวดวงแฮกเกอร์ว่า มีการติดต่อว่าจ้างกลุ่มแฮกเกอร์ฝีมือดี เพื่อจัดตั้งทีมงานทำลายเวบไซต์ไฮ-ทักษิณ โดยมีหน่วยงานทหารในประเทศไทยให้การสนับสนุน

หลังจากได้รับข่าวนี้เพียง 2 เดือนก็ปรากฏการโจมตีจากประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาหลายสิบแห่งเข้าก่อกวนเวบไซต์ การโจมตีนั้นสามารถทะลุผ่านอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ท (Firewall) ที่ติดตั้งอยู่เข้ามาได้ ส่งผลให้ไฮ-ทักษิณติดขัดและไม่สามารถเข้าชมได้ในบางช่วงเวลา

เป็นที่แน่ชัดว่า มีการจัดตั้งทีมเพื่อโจมตีไฮ-ทักษิณ โดยหัวหน้าทีมเป็นแฮกเกอร์ชั้นเซียนจากต่างประเทศ (ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อประเทศ) ทำหน้าที่ค้นหาช่องโหว่ในเวบไซต์ และพัฒนาโปรแกรมโจมตีเพื่อทำลายไฮ-ทักษิณโดยเฉพาะ รูปแบบการโจมตีนั้นจะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเดิม ทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยหลายต่อหลายครั้งมีการทดสอบโจมตีไปยังเวบไซต์ภายในประเทศที่มีเนื้อหาต่อต้านเผด็จการ ได้แก่ คนวันเสาร์ ประชาไท พันทิพย์และเวบไซต์หนังสือพิมพ์บางฉบับ ทำให้เวบไซต์เป้าหมายแสดงสถานะผิดปกติ เช่น ใช้เวลาเข้าเวบไซต์นานกว่าปกติ ไม่สามารถเข้าสู่เวบไซต์ได้ หรือแสดงข้อความว่าฐานข้อมูลผิดพลาด เมื่อการโจมตีส่งผลจนเป็นที่พอใจแล้ว เป้าหมายจะเปลี่ยนมาเป็นไฮ-ทักษิณทันที และทำการโจมตีต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง มีการเพิ่มจำนวนผู้โจมตีจากหลักสิบเป็นหลักร้อย และทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เป็นหลักหมื่น

รูปแบบการโจมตีที่ไฮ-ทักษิณต้องเผชิญ

- ในระยะแรกเป็นการส่งข้อมูลขยะเข้าสู่เวบไซต์ ทำให้เวบไซต์ติดขัดและช้าลง (เรียกวิธีการโจมตีลักษณะนี้ว่า DDos) โดยใช้ซอฟท์แวร์ที่หาได้ทั่วไปจากอินเตอร์เน็ท ผู้โจมตีส่วนใหญ่อยู่ภายในประเทศ และมีการโจมตีบางส่วนมาจากคอมพิวเตอร์ภายในอาคารของ กสท.

- เมื่อการโจมตีภายในประเทศดูจะไร้ผล จึงมีความพยายามบล็อคเวบไซต์โดยกระทรวงไอซีที หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ในครั้งล่าสุดกลุ่มคนวันเสาร์ได้เดินทางไปประท้วงถึงหน้ากระทรวงไอซีที การบล็อคเวบไซต์จึงยุติลง

- มีการว่าจ้างแฮกเกอร์จากต่างประเทศ จัดทีมเพื่อโจมตีไฮ-ทักษิณ โดยผลงานแรกเป็นการสร้างผู้ชมเทียม เรียกดูเนื้อหาในเวบไซต์ หลายพันหน้าใน 1 วินาที

- ฝังโปรแกรมโจมตีไว้ในคอมพิวเตอร์จำนวนมาก โดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว (เรียกเครื่องที่ถูกฝังโปรแกรมลักษณะนี้ว่า zombie) แล้วสั่งโจมตีไปที่เนื้อหาสำคัญในเวบไซต์พร้อมๆ กัน เครื่องที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกา ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 30,000 เครื่อง

- สร้างไวรัสชนิดพิเศษเข้ามารบกวนการทำงานของระบบ (จัดเป็นไวรัสประเภท Worm) โดยโปรแกรมแอนตี้ไวรัสไม่สามารถตรวจจับไวรัสที่ถูกเขียนขึ้นมาโดยเฉพาะนี้ได้

- เจาะผ่านอุปกรณ์ป้องกัน (Firewall) เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างของเวบไซต์และการจัดวางเซิฟเวอร์ที่จัดเก็บเวบไซต์

- พยายามสุ่มรหัสผ่านของผู้ดูแลระบบ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลผู้ดูแลระบบตัวจริง รวมถึงทำลายข้อมูลในเวบไซต์ได้

- ค้นหาเซิฟเวอร์จัดเก็บฐานข้อมูลของไฮ-ทักษิณ แล้วส่งสคริปท์เรียกให้ระบบฐานข้อมูลทำงานอย่างหนักกว่าปกติหลายพันเท่า ทำให้เวบไซต์ช้าลงจนถึงไม่สามารถเข้าชมได้

- โจมตีไปยังเซิฟเวอร์ที่เป็นทางผ่านเข้าสู่เวบไซต์ไฮ-ทักษิณ ซึ่งการโจมตีในลักษณะนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เพราะจงใจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเป็นจำนวนมากเพียงหวังให้เป้าหมายได้รับผลกระทบไปด้วย

- ถูกค้นหาช่องโหว่เพื่อโจมตีตลอดเวลา ดังเหตุการณ์ในวันพุธที่ 10 ตุลาคม ไฮ-ทักษิณอนุญาตให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาข่าวที่ต้องการชมได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านหน้าแรกและหน้าที่สองตามลำดับ แต่เพียง 10 ชั่วโมงเท่านั้น ก็มีการโจมตีที่ถูกปรับแต่งตามช่องโหว่ที่เปิดไว้เข้าจู่โจมเวบไซต์ ทำให้การเข้าชมติดขัด สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนแสดงอาการชัดเจนที่สุดในช่วงเวลา 19.30 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีการถ่ายทอดการปราศรัยของพรรคพลังประชาชนจากสนามหลวง เหตุการณ์นั้นทางทีมงานต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกู้เวบไซต์ให้กลับมาเป็นปกติ

- ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมา หลังจากไฮ-ทักษิณได้เปิดเผยเอกสารลับ การโจมตีทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นเป็นวันต่อวัน แม้ทีมงานจะแก้ไขได้ แต่ในวันรุ่งขึ้นก็จะมีการโจมตีรูปแบบใหม่เข้ามาทันที จนทีมงานต้องกำหนดให้ผู้ชมเข้าสู่เวบไซต์จากหน้าแรก หน้าที่สอง เรียงลำดับเช่นเดิม ทั้งนี้เพื่อจำกัดความเสียหายไว้ที่ “หน้าแรก” เพียงหน้าเดียว ซึ่งผู้ชมทุกท่านคงสัมผัสได้ถึงความล่าช้าในการเข้าชม

- และในวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีทีมจู่โจมไฮ-ทักษิณ มากกว่า 1 ทีมสลับกันสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมทุกวัน

หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจถึงความรุนแรงในการโจมตีที่ไฮ-ทักษิณเผชิญอยู่ หากถูกกระทำในลักษณะเดียวกันเพียง 5 นาทีสำหรับเวบไซต์ทั่วไป และเพียง 15 - 60 นาทีสำหรับเวบไซต์ขนาดใหญ่ที่มีระบบป้องกันสูงสุดตามมาตรฐานสากล เวบไซต์เป้าหมายจะไม่สามารถใช้งานได้อีก

นอกจากปัญหาการโจมตีจากต่างประเทศแล้ว ยังมีหลายปัญหาที่มาจากหน่วยงานของรัฐและคณะทหารภายในประเทศ ดังต่อไปนี้

- ล่อลวงให้ทีมงานติดต่อกลับทางอีเมล์และโทรศัพท์

- อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไอซีที ขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับไฮ-ทักษิณ จากผู้ให้บริการเช่าและจัดวางเซิฟเวอร์ทั้งในและต่างประเทศ

- ปิดกั้นการเข้าสู่เวบไซต์ผ่านกระทรวงไอซีที ทำให้การใช้งานอินเตอร์ของผู้ให้บริการบางราย ไม่สามารถเข้าชมเวบไซต์ได้ โดยมีการแจ้งเตือนว่าเป็นเวบไซต์ไม่เหมาะสม

- ส่งกำลังทหารเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่ทำงานของไฮ-ทักษิณ โดยอ้างกฏอัยการศึก

- สั่งการผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ท ผู้ให้บริการเวบโฮสติ้งในประเทศ ให้ข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับทีมงานไฮ-ทักษิณ โดยอาศัยข้อกำหนดใน พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ ที่ระบุให้ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ 90 วัน

- ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทบางรายได้ปรับเพิ่มความเร็วอินเตอร์ให้แก่ลูกค้า โดยสร้างภาพลวงให้เห็นว่าลูกค้าได้รับความคุ้มค่าที่ได้ใช้อินเตอร์เน็ทความเร็วสูงขึ้น แต่แท้จริงแล้วความเร็วที่เพิ่มขึ้นนั้นจำกัดไว้เมื่อใช้งานภายในประเทศเท่านั้น แต่ลดความเร็วในการใช้งานอินเตอร์เน็ทต่างประเทศลงจากเดิมหลายเท่า ซึ่งผู้ชมสามารถเปรียบเทียบความเร็วในการใช้งานอินเตอร์เน็ทภายในและภายนอกประเทศได้ที่นี่

คลิ๊กเพื่อทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ทภายในประเทศ

คลิ๊กเพื่อทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ทนอกประเทศ

เนื่องจากไฮ-ทักษิณได้จัดวางเวบไซต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไว้ในต่างประเทศทั้งหมด ทำให้การเข้าชมล่าช้ากว่าเวบไซต์ภายในประเทศถึง 6 เท่า ทั้งนี้เพื่อแลกกับความปลอดภัยของเวบไซต์และทีมงาน ดังนั้นเมื่อถูกจู่โจมจึงแสดงอาการติดขัดได้อย่างชัดเจน อีกทั้งอินเตอร์เน็ทความเร็วสูงของประเทศไทยมีการปรับลดความเร็วเมื่อเข้าชมเวบไซต์ต่างประเทศ อาจพูดได้ว่าคนไทยซึ่งเป็นผู้ชมส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่เข้าชมไฮ-ทักษิณได้ยากที่สุด แม้จะติดตั้งอินเตอร์เน็ทความเร็วสูงก็ตาม

และเนื่องด้วยไฮ-ทักษิณมีทีมงานทั้งหมดเพียง 4 คนเท่านั้น ไม่มีการอำนวยความสะดวกใดๆ จากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทในประเทศไทย ไม่สามารถขอความช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เมื่อเกิดปัญหา เนื่องจากไม่สามารถแสดงตนได้ เมื่อถูกโจมตีทีมงานต้องแก้ปัญหาด้วยตนเอง เขียนโปรแกรมคัดกรองการโจมตีขึ้นเองทั้งหมด ต้องคอยเฝ้าดู บันทึกสถิติและรูปแบบการโจมตี เพื่อคิดวิธีแก้ไข ทำงานไป เรียนรู้ไป หลายครั้งต้องทำต่อเนื่องกว่า 72 ชั่วโมง มีโอกาสพักผ่อนสั้นๆ เพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น

และด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย การพัฒนาเวบไซต์จึงไม่สามารถใช้ซอฟแวร์หรือสคริปท์แจกฟรีที่มีให้โหลดทั่วไปเหมือนที่เวบไซต์อื่นๆ ใช้ได้ เพราะไม่ต้องการให้ผู้จ้องทำลายดาวน์โหลดซอฟแวร์นั้นไปศึกษาเพื่อหาช่องโหว่เล่นงานในภายหลัง การจะเพิ่มความสามารถเสริมใดๆ ให้แก่เวบไซต์ ทีมงานต้องทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เหลือช่องโหว่ใดๆ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมามีความพยายามเจาะฐานข้อมูลของเวบไซต์อย่างต่อเนื่อง

แม้ปัญหาหลังบ้านไฮ-ทักษิณจะหนักเพียงไร ทีมงานทุกคนก็ยังมุ่งมั่นที่จะแก้ไขทุกปัญหา เพื่อให้ทุกท่านสามารถเข้ามาเก็บเกี่ยวเรื่องราวที่นำเสนอในเวบไซต์ได้ ขอเพียงผู้เยียมชมอย่าเพิ่งหนีหาย เบื่อหน่ายความล่าช้าในการเข้าชมไปเสียก่อน

ทีมงานทุกคนต้องกราบขออภัยกับปัญหาหลายๆ ที่เกิดขึ้น

หากในเวบไซต์มีส่วนใดที่ไม่สะดวกใจ

หากการเข้าชมล่าช้า หรือติดขัดไปบ้าง

หากไม่สามารถเข้าชมได้ในบางช่วงเวลา

หากไม่สามารถหยิบยกหรือปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างให้เหมือนกับเวบไซต์ทั่วไปได้

ทีมงานได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะทำให้ไฮ-ทักษิณคงอยู่ เป็นเพื่อนร่วมทางที่คอยนำข้อมูลข่าวสารมานำเสนอแก่พี่น้องคนไทยไปจนกว่าพตท.ทักษิณ ชินวัตรจะกลับคืนสู่ประเทศไทย และประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประชาชนอย่างแท้จริง

เห้อ อยู่ดีๆ ก็เปิดช่องให้แปะข้อมูลของเว็บไฮทักษิณซะแระ เจ้าของกระทู้ ดีจัง 
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #23 เมื่อ: 03-11-2007, 19:14 »

ส่วนคนนี้ ไม่รู้ว่า "โง่" หรือว่า "งั่ง" .. แบบว่า ขึ้นรถไฟมาตั้งหลายปี

สักแต่ว่ามีตังต์ตีตั๋ว แต่ไม่รู้เลยว่า เงินค่าตั๋วมีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง

แล้วก็โวยวายหาว่า "สหภาพโกหกเรื่อง รฟท. ไม่เคยขึ้นค่าโดยสาร" 

มิน่า ถึงได้โดนทักษิณ หลอกต้มจนเเปื่อย เป็นไก่ต้มสุก   

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5980888/P5980888.html

สำหรับเรื่องรถไฟ ต้องขอประทานโทษด้วยนะจ๊ะ เพราะติดแก๊สไม่มี idea ในสมองเรยยย
เนื่องจากติดแก๊สยึดหลักพอเพียงอย่างสม่ำเสมอ ไปไหนมาไหนก็ใช้วิธีเดินเอา ถ้าไม่ไหว
จริงๆ ก็จำเป็นต้องขับรถสปอร์ตสองประตู ถ้าขับไม่ไหวอีกก็ต้องขึ้นเครื่องบินชั้นธุรกิจ มัน
หาโอกาสยากมากเลยที่จะได้นั่งรถไฟนั่น หวังว่าคงเข้าใจแก๊สนะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #24 เมื่อ: 03-11-2007, 19:58 »

       

โถ .. นึกว่าแน่ ที่แท้ก็ยังแถกตามฟอร์ม 

กระทู้เรื่องที่สาม ตั้งประเด็นเรื่อง "ไอทีวีส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท จริงหรือ" 

ตั้งประเด็นเรื่อง 2000 ล้านบาท .. ดันตอบเรื่อง "น้ำแตก" 

...
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #25 เมื่อ: 03-11-2007, 22:01 »

เวนกำ อธิบายรายละเอียดซะยาวเหยียด ที่มาที่ไปชัดเจน งบดุลย้อนหลังก็แปะให้
ดันอ่านรู้เรื่องแค่คำว่า "น้ำแตก" บื้อได้ใจจริงนะจ๊ะ ตัวเอง เหอ เหอ
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #26 เมื่อ: 04-11-2007, 06:02 »

คุณแถน่าจะกลับไปอ่านคำตอบที่ 3 ดูใหม่ ไอทีวีรอผลอุทธรณ์ ยันไม่จ่ายปีละพันล.


เพราะเท่าที่รู้มา ค่าสัปทานปีละประมาณ 1000 ล้านบาท  แล้วไอทีวีจะส่งเงิน

เข้ารัฐปีละ 2000 ล้านบาท จริงหรือ .. งบการเงินที่คุณนำมาแปะก็ไม่แสดงรายจ่าย

และจำนวนเงินที่นำส่งให้รัฐ

...
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #27 เมื่อ: 04-11-2007, 07:33 »

จะไปนินทาทั้งทีก็อ่านไม่ละเอียดนี่หว่า ดีนะที่ไม่ได้ไปโชว์โง่ในกระทู้เค้า เดี๋ยวเจอสวน
หน้าแตกยับเยิน มานินทาให้พวกเดียวกันที่ไม่รู้อะไรเลยในนี้ มันอ่านแล้วงงๆ ก็ร่วมด้วย
ช่วยด่าได้ ทั้งที่สมองกลวง อธิบายให้หน่อยเผื่อจะมีผู้กล้าหาญไปป่วนกระทู้เค้า จะได้
ไม่แหกมาก พยายามอธิบายเรื่องง่ายๆ ข้ามวันข้ามคืนแล้วนะเนี่ย

ทีวีช่องนี้ก็กลับทำรายได้เข้ารัฐเป็นกอบเป็นกำ เดือนละประมาณ 150-200 ล้านบาท
เป็นเงินประมาณ 2000 ล้านหรือมากกว่าต่อปี


น่าจะเข้าใจคำว่า รายได้ กับ กำไร นะว่ามันต่างกันทางบัญชี เค้าพูดถึงรายได้ เราไปเถียง
เรื่องกำไร มันคงจะจบได้หรอกนะ บัญชีเด็กๆ ยังไม่เข้า ปวช. อีกนะเนี่ย
กำไร = รายได้ - ค่าใช้จ่าย

บัญชีรายได้ และ บัญชีค่าใช้จ่าย เป็นบัญชีที่เปิดขึ้นชั่วคราว เพื่อแยกประเภทรายการให้เป็นหมวดหมู่ ก่อนที่จะโอนปิดไปบัญชีทุน หรือส่วนของเจ้าของ แทนการที่จะบันทึกไว้ในบัญชีทุน หรือส่วนของเจ้าของโดยตรง ฉะนั้นทั้งบัญชีรายได้ และบัญชีค่าใช้จ่าย จึงมีธรรมชาติเหมือนบัญชีทุน หรือส่วนของเจ้าของ


ในเมื่องบดุลนั่นแสดงรายได้ของไอทีวี ซึ่งจะไปเป็นรายได้ของทีไอทีวี เมื่อโดนยึดคืน
ส่วนค่าใช้จ่ายของ ไอทีวี กะ ทีไอทีวี มันคนละเรื่องเทียบกันไม่ได้ ข้อมูลก็ไม่มี กระทู้
นั่นก็ไม่ได้กล่าวถึง ก็เหลือตัวเลขสองพันล้านที่เป็นรายได้เข้ารัฐประมาณจากข้อมูลใน
อดีตได้ ส่วนค่าใช้จ่ายไม่รู้เว้ย งบยังไม่ออก ง่ายมากเลยนะเนี่ย ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #28 เมื่อ: 04-11-2007, 11:54 »


อ้างถึง
จะโง่จะตะแบงแค่พอเพียงก็พอนะ พ่อล็อคอินเฉพาะกิจ โถ แค่บอกว่าเรื่องที่แปะใครๆ ก็รู้
ก็โชว์โง่แล้ว เมื่อกี๊เพิ่งบอกหยกๆ ว่า ทำไมทักษิณถึงยอมให้ลดสัมปทาน ทักษิณให้ลดที่
ไหนกัน อนุญาโตตุลาการต่างหากที่ตัดสินให้ลดสัมปทาน ถ้าจะบอกว่าทักษิณครอบงำมัน
ก็ไร้เหตุผลสิ้นดี จะครอบงำจริงไม่ไปครอบงำสำนักปลัดสำนักนายกให้ยอมรับไม่ดีกว่าเรอะ
ให้สำนักปลัดไปฟ้องศาลปกครองได้ก็แสดงว่า การทำงานของสำนักปลัดนั่นเป็นอิสระจาก
ทักษิณที่เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ว่าทำไมถึงแก้สัญญาได้ มันตั้งแต่สมัย 2543 แล้วหวังว่า
คงไม่ตะแบงอีกนะว่าทักษิณสั่งนายกรัฐมนตรีที่ชื่อชวน ซึ่งในช่วงที่มีการงุบงิบการแก้ไข
เพิ่มเติมข้อ ๕ วรรคสี่ตั้งแต่เริ่มแรกเซ็นต์สัญญา ที่ศาลปกครองพิพากษาว่าตรงนี้ที่ผิดมัน
ก็อยู่ในสมัยที่นายกรัฐมนตรีชื่อชวนเหมือนกัน แล้วทักษิณไปเกี่ยวแต่เมื่อไหร่


สัญญาอะไรครับ แก้ ปี 43
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #29 เมื่อ: 04-11-2007, 14:30 »

มาถึงคิวเจ้าของกระทู้มั่ง เรื่องที่เค้าคิดว่าถูกบล็อคนั่น จริงๆ เข้าใจผิด ความจริงเป็นอย่างงี้
มันเป็นแฮกเกอร์มืออาชีพระดับอินเตอร์ ต้องการแฮกเว็บไฮ-ทักษิณซึ่งป้องกันได้ดีสุดใน
บรรดาเว็บที่ต่อต้านเผด็จการ มันเลยต้องไปแฮกเว็บอื่นเพื่อทดสอบฝีมือไปก่อน เมื่อได้ที่
แล้วก็ลุยเว็บไฮ-ทักษิณเป็นระยะๆ เพราะเว็บนี้มีข้อมูลลับที่ไม่เคยมั่วมากที่สุด ทำให้ทหาร
กลัวมาก แม้แต่ทีมงานในประเทศจะอ่อนหัด เพราะคนเก่งๆ ไม่ยอมก้มหัวให้เผด็จการ จึง
ต้องไปจ้างทีมงานนอกประเทศ ด้วยเหตุนี้ เว็บอื่นเลยล่มมั่งดีมั่ง

ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ชมที่แวะมาเยี่ยมเยียนไฮ-ทักษิณคงจะสัมผัสได้ถึงความล่าช้าในการเข้าชมจนทำให้หงุดหงิดรำคาญใจ การเปิดดูเนื้อหาช้ากว่าที่ควรจะเป็น และบางช่วงเวลาไม่สามารถเข้าชมได้ตามปกติ

นับแต่วันที่เวบไซต์ไฮ-ทักษิณได้แสดงจุดยืนอยู่ตรงกันข้ามกับเผด็จการ นำเสนอข้อมูลข่าวสารของ พตท. ทักษิณ ที่สื่อปกติไม่ยินยอมเผยแพร่ อีกทั้งตีแผ่ข้อมูลลับของคณะรัฐประหาร ทำให้เวบไซต์แห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ต้องถูกกำจัด เนื่องจากเป็นสื่อเพียงประเภทเดียวที่คณะรัฐประหารไม่สามารถควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จได้เหมือนสื่ออื่นๆ ในประเทศ

หลังการเปิดตัวเวบไซต์เพียง 2 สัปดาห์ได้มีความพยายามตอบโต้จากหน่วยงานของรัฐภายใต้คำสั่งของเผด็จการเพื่อทำลายเวบไซต์ทันที ปรากฏการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ภายในอาคารของ กสท. ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงไอซีที โดยใช้ซอฟท์แวร์โจมตีเวบไซต์ที่สามารถหาโหลดได้จากอินเตอร์เน็ท ส่งข้อมูลขยะเข้ามารบกวนเวบไซต์ เพื่อให้ผู้ชมทั่วไปไม่สามารถเข้าชมได้ตามปกติ ในระยะแรกทีมงานยังไม่มีโอกาสได้จัดเตรียมการป้องกัน จึงส่งผลให้เวบไซต์ล่มหรือไม่สามารถเข้าชมได้อยู่บ่อยครั้ง

หากผู้ชมท่านใดเป็นแฟนพันธุ์แท้ของไฮ-ทักษิณ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมตั้งแต่วันที่เปิดตัวครั้งแรก คงมีโอกาสได้อ่านข่าวการโจมตีเวบไซต์ในเดือนมีนาคมผ่านตามาบ้าง

อ่านย้อนหลัง “เบื้องหลังการโจมตี Hi-thaksin.net”

เมื่อเวบไซต์เข้าที่เข้าทาง ทีมงานได้จัดทำระบบคัดกรองข้อมูลขยะ ส่งผลให้การโจมตีด้วยซอฟแวร์ที่หาได้จากอินเตอร์เน็ทไม่สามารถสร้างความเสียหายแก่เวบไซต์ได้อีกต่อไป

เมื่อการโจมตีในประเทศไร้ผล ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ไฮ-ทักษิณได้เผยแพร่เอกสารลับในการว่าจ้างการประชาสัมพันธ์เชิงลึกของ ดร.เชียงช่วง (ซึ่งเป็นที่มาของคำที่ใช้เรียกกลุ่มโพสท์ข้อความก่อกวนทางอินเตอร์เน็ท ว่าพวก 2.4 ตามลำดับหัวข้อของเอกสาร)

อ่านย้อนหลัง “แฉจะๆหลักฐานมัดคมช.ทุจริต”

ทีมงานได้รับข่าวจากแวดวงแฮกเกอร์ว่า มีการติดต่อว่าจ้างกลุ่มแฮกเกอร์ฝีมือดี เพื่อจัดตั้งทีมงานทำลายเวบไซต์ไฮ-ทักษิณ โดยมีหน่วยงานทหารในประเทศไทยให้การสนับสนุน

หลังจากได้รับข่าวนี้เพียง 2 เดือนก็ปรากฏการโจมตีจากประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาหลายสิบแห่งเข้าก่อกวนเวบไซต์ การโจมตีนั้นสามารถทะลุผ่านอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ท (Firewall) ที่ติดตั้งอยู่เข้ามาได้ ส่งผลให้ไฮ-ทักษิณติดขัดและไม่สามารถเข้าชมได้ในบางช่วงเวลา

เป็นที่แน่ชัดว่า มีการจัดตั้งทีมเพื่อโจมตีไฮ-ทักษิณ โดยหัวหน้าทีมเป็นแฮกเกอร์ชั้นเซียนจากต่างประเทศ (ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อประเทศ) ทำหน้าที่ค้นหาช่องโหว่ในเวบไซต์ และพัฒนาโปรแกรมโจมตีเพื่อทำลายไฮ-ทักษิณโดยเฉพาะ รูปแบบการโจมตีนั้นจะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากเดิม ทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยหลายต่อหลายครั้งมีการทดสอบโจมตีไปยังเวบไซต์ภายในประเทศที่มีเนื้อหาต่อต้านเผด็จการ ได้แก่ คนวันเสาร์ ประชาไท พันทิพย์และเวบไซต์หนังสือพิมพ์บางฉบับ ทำให้เวบไซต์เป้าหมายแสดงสถานะผิดปกติ เช่น ใช้เวลาเข้าเวบไซต์นานกว่าปกติ ไม่สามารถเข้าสู่เวบไซต์ได้ หรือแสดงข้อความว่าฐานข้อมูลผิดพลาด เมื่อการโจมตีส่งผลจนเป็นที่พอใจแล้ว เป้าหมายจะเปลี่ยนมาเป็นไฮ-ทักษิณทันที และทำการโจมตีต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง มีการเพิ่มจำนวนผู้โจมตีจากหลักสิบเป็นหลักร้อย และทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ เป็นหลักหมื่น

รูปแบบการโจมตีที่ไฮ-ทักษิณต้องเผชิญ

- ในระยะแรกเป็นการส่งข้อมูลขยะเข้าสู่เวบไซต์ ทำให้เวบไซต์ติดขัดและช้าลง (เรียกวิธีการโจมตีลักษณะนี้ว่า DDos) โดยใช้ซอฟท์แวร์ที่หาได้ทั่วไปจากอินเตอร์เน็ท ผู้โจมตีส่วนใหญ่อยู่ภายในประเทศ และมีการโจมตีบางส่วนมาจากคอมพิวเตอร์ภายในอาคารของ กสท.

- เมื่อการโจมตีภายในประเทศดูจะไร้ผล จึงมีความพยายามบล็อคเวบไซต์โดยกระทรวงไอซีที หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ในครั้งล่าสุดกลุ่มคนวันเสาร์ได้เดินทางไปประท้วงถึงหน้ากระทรวงไอซีที การบล็อคเวบไซต์จึงยุติลง

- มีการว่าจ้างแฮกเกอร์จากต่างประเทศ จัดทีมเพื่อโจมตีไฮ-ทักษิณ โดยผลงานแรกเป็นการสร้างผู้ชมเทียม เรียกดูเนื้อหาในเวบไซต์ หลายพันหน้าใน 1 วินาที

- ฝังโปรแกรมโจมตีไว้ในคอมพิวเตอร์จำนวนมาก โดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว (เรียกเครื่องที่ถูกฝังโปรแกรมลักษณะนี้ว่า zombie) แล้วสั่งโจมตีไปที่เนื้อหาสำคัญในเวบไซต์พร้อมๆ กัน เครื่องที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกา ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 30,000 เครื่อง

- สร้างไวรัสชนิดพิเศษเข้ามารบกวนการทำงานของระบบ (จัดเป็นไวรัสประเภท Worm) โดยโปรแกรมแอนตี้ไวรัสไม่สามารถตรวจจับไวรัสที่ถูกเขียนขึ้นมาโดยเฉพาะนี้ได้

- เจาะผ่านอุปกรณ์ป้องกัน (Firewall) เข้ามาตรวจสอบโครงสร้างของเวบไซต์และการจัดวางเซิฟเวอร์ที่จัดเก็บเวบไซต์

- พยายามสุ่มรหัสผ่านของผู้ดูแลระบบ เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลผู้ดูแลระบบตัวจริง รวมถึงทำลายข้อมูลในเวบไซต์ได้

- ค้นหาเซิฟเวอร์จัดเก็บฐานข้อมูลของไฮ-ทักษิณ แล้วส่งสคริปท์เรียกให้ระบบฐานข้อมูลทำงานอย่างหนักกว่าปกติหลายพันเท่า ทำให้เวบไซต์ช้าลงจนถึงไม่สามารถเข้าชมได้

- โจมตีไปยังเซิฟเวอร์ที่เป็นทางผ่านเข้าสู่เวบไซต์ไฮ-ทักษิณ ซึ่งการโจมตีในลักษณะนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ เพราะจงใจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเป็นจำนวนมากเพียงหวังให้เป้าหมายได้รับผลกระทบไปด้วย

- ถูกค้นหาช่องโหว่เพื่อโจมตีตลอดเวลา ดังเหตุการณ์ในวันพุธที่ 10 ตุลาคม ไฮ-ทักษิณอนุญาตให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาข่าวที่ต้องการชมได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านหน้าแรกและหน้าที่สองตามลำดับ แต่เพียง 10 ชั่วโมงเท่านั้น ก็มีการโจมตีที่ถูกปรับแต่งตามช่องโหว่ที่เปิดไว้เข้าจู่โจมเวบไซต์ ทำให้การเข้าชมติดขัด สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนแสดงอาการชัดเจนที่สุดในช่วงเวลา 19.30 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีการถ่ายทอดการปราศรัยของพรรคพลังประชาชนจากสนามหลวง เหตุการณ์นั้นทางทีมงานต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการกู้เวบไซต์ให้กลับมาเป็นปกติ

- ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมา หลังจากไฮ-ทักษิณได้เปิดเผยเอกสารลับ การโจมตีทวีความรุนแรงและถี่ขึ้นเป็นวันต่อวัน แม้ทีมงานจะแก้ไขได้ แต่ในวันรุ่งขึ้นก็จะมีการโจมตีรูปแบบใหม่เข้ามาทันที จนทีมงานต้องกำหนดให้ผู้ชมเข้าสู่เวบไซต์จากหน้าแรก หน้าที่สอง เรียงลำดับเช่นเดิม ทั้งนี้เพื่อจำกัดความเสียหายไว้ที่ “หน้าแรก” เพียงหน้าเดียว ซึ่งผู้ชมทุกท่านคงสัมผัสได้ถึงความล่าช้าในการเข้าชม

- และในวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีทีมจู่โจมไฮ-ทักษิณ มากกว่า 1 ทีมสลับกันสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมทุกวัน

หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจถึงความรุนแรงในการโจมตีที่ไฮ-ทักษิณเผชิญอยู่ หากถูกกระทำในลักษณะเดียวกันเพียง 5 นาทีสำหรับเวบไซต์ทั่วไป และเพียง 15 - 60 นาทีสำหรับเวบไซต์ขนาดใหญ่ที่มีระบบป้องกันสูงสุดตามมาตรฐานสากล เวบไซต์เป้าหมายจะไม่สามารถใช้งานได้อีก

นอกจากปัญหาการโจมตีจากต่างประเทศแล้ว ยังมีหลายปัญหาที่มาจากหน่วยงานของรัฐและคณะทหารภายในประเทศ ดังต่อไปนี้

- ล่อลวงให้ทีมงานติดต่อกลับทางอีเมล์และโทรศัพท์

- อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไอซีที ขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับไฮ-ทักษิณ จากผู้ให้บริการเช่าและจัดวางเซิฟเวอร์ทั้งในและต่างประเทศ

- ปิดกั้นการเข้าสู่เวบไซต์ผ่านกระทรวงไอซีที ทำให้การใช้งานอินเตอร์ของผู้ให้บริการบางราย ไม่สามารถเข้าชมเวบไซต์ได้ โดยมีการแจ้งเตือนว่าเป็นเวบไซต์ไม่เหมาะสม

- ส่งกำลังทหารเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นสถานที่ทำงานของไฮ-ทักษิณ โดยอ้างกฏอัยการศึก

- สั่งการผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ท ผู้ให้บริการเวบโฮสติ้งในประเทศ ให้ข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับทีมงานไฮ-ทักษิณ โดยอาศัยข้อกำหนดใน พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐ ที่ระบุให้ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ 90 วัน

- ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทบางรายได้ปรับเพิ่มความเร็วอินเตอร์ให้แก่ลูกค้า โดยสร้างภาพลวงให้เห็นว่าลูกค้าได้รับความคุ้มค่าที่ได้ใช้อินเตอร์เน็ทความเร็วสูงขึ้น แต่แท้จริงแล้วความเร็วที่เพิ่มขึ้นนั้นจำกัดไว้เมื่อใช้งานภายในประเทศเท่านั้น แต่ลดความเร็วในการใช้งานอินเตอร์เน็ทต่างประเทศลงจากเดิมหลายเท่า ซึ่งผู้ชมสามารถเปรียบเทียบความเร็วในการใช้งานอินเตอร์เน็ทภายในและภายนอกประเทศได้ที่นี่

คลิ๊กเพื่อทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ทภายในประเทศ

คลิ๊กเพื่อทดสอบความเร็วอินเตอร์เน็ทนอกประเทศ

เนื่องจากไฮ-ทักษิณได้จัดวางเวบไซต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไว้ในต่างประเทศทั้งหมด ทำให้การเข้าชมล่าช้ากว่าเวบไซต์ภายในประเทศถึง 6 เท่า ทั้งนี้เพื่อแลกกับความปลอดภัยของเวบไซต์และทีมงาน ดังนั้นเมื่อถูกจู่โจมจึงแสดงอาการติดขัดได้อย่างชัดเจน อีกทั้งอินเตอร์เน็ทความเร็วสูงของประเทศไทยมีการปรับลดความเร็วเมื่อเข้าชมเวบไซต์ต่างประเทศ อาจพูดได้ว่าคนไทยซึ่งเป็นผู้ชมส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่เข้าชมไฮ-ทักษิณได้ยากที่สุด แม้จะติดตั้งอินเตอร์เน็ทความเร็วสูงก็ตาม

และเนื่องด้วยไฮ-ทักษิณมีทีมงานทั้งหมดเพียง 4 คนเท่านั้น ไม่มีการอำนวยความสะดวกใดๆ จากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ทในประเทศไทย ไม่สามารถขอความช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เมื่อเกิดปัญหา เนื่องจากไม่สามารถแสดงตนได้ เมื่อถูกโจมตีทีมงานต้องแก้ปัญหาด้วยตนเอง เขียนโปรแกรมคัดกรองการโจมตีขึ้นเองทั้งหมด ต้องคอยเฝ้าดู บันทึกสถิติและรูปแบบการโจมตี เพื่อคิดวิธีแก้ไข ทำงานไป เรียนรู้ไป หลายครั้งต้องทำต่อเนื่องกว่า 72 ชั่วโมง มีโอกาสพักผ่อนสั้นๆ เพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น

และด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย การพัฒนาเวบไซต์จึงไม่สามารถใช้ซอฟแวร์หรือสคริปท์แจกฟรีที่มีให้โหลดทั่วไปเหมือนที่เวบไซต์อื่นๆ ใช้ได้ เพราะไม่ต้องการให้ผู้จ้องทำลายดาวน์โหลดซอฟแวร์นั้นไปศึกษาเพื่อหาช่องโหว่เล่นงานในภายหลัง การจะเพิ่มความสามารถเสริมใดๆ ให้แก่เวบไซต์ ทีมงานต้องทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เหลือช่องโหว่ใดๆ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมามีความพยายามเจาะฐานข้อมูลของเวบไซต์อย่างต่อเนื่อง

แม้ปัญหาหลังบ้านไฮ-ทักษิณจะหนักเพียงไร ทีมงานทุกคนก็ยังมุ่งมั่นที่จะแก้ไขทุกปัญหา เพื่อให้ทุกท่านสามารถเข้ามาเก็บเกี่ยวเรื่องราวที่นำเสนอในเวบไซต์ได้ ขอเพียงผู้เยียมชมอย่าเพิ่งหนีหาย เบื่อหน่ายความล่าช้าในการเข้าชมไปเสียก่อน

ทีมงานทุกคนต้องกราบขออภัยกับปัญหาหลายๆ ที่เกิดขึ้น

หากในเวบไซต์มีส่วนใดที่ไม่สะดวกใจ

หากการเข้าชมล่าช้า หรือติดขัดไปบ้าง

หากไม่สามารถเข้าชมได้ในบางช่วงเวลา

หากไม่สามารถหยิบยกหรือปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างให้เหมือนกับเวบไซต์ทั่วไปได้

ทีมงานได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะทำให้ไฮ-ทักษิณคงอยู่ เป็นเพื่อนร่วมทางที่คอยนำข้อมูลข่าวสารมานำเสนอแก่พี่น้องคนไทยไปจนกว่าพตท.ทักษิณ ชินวัตรจะกลับคืนสู่ประเทศไทย และประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประชาชนอย่างแท้จริง

เห้อ อยู่ดีๆ ก็เปิดช่องให้แปะข้อมูลของเว็บไฮทักษิณซะแระ เจ้าของกระทู้ ดีจัง 

เด๋วนี้ ไปเชื่อพวก จินตนาการ ถึงกะเอามาแปะเลยเหรอครับ

แล้ว ไอ้ทีมาแปะ อีกอันเนี่ย มันมาจากผู้จัดการ ตอนปี 42  ปีที่ แป๊ะลิ้มยังจูบปาก กะทักษิณ อยู่ ....ตกลง ไอ้ตอนนั้น แป๊ะลิ$
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2007, 15:10 โดย 55555 » บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #30 เมื่อ: 04-11-2007, 20:18 »

จะไปนินทาทั้งทีก็อ่านไม่ละเอียดนี่หว่า ดีนะที่ไม่ได้ไปโชว์โง่ในกระทู้เค้า เดี๋ยวเจอสวน
หน้าแตกยับเยิน มานินทาให้พวกเดียวกันที่ไม่รู้อะไรเลยในนี้ มันอ่านแล้วงงๆ ก็ร่วมด้วย
ช่วยด่าได้ ทั้งที่สมองกลวง อธิบายให้หน่อยเผื่อจะมีผู้กล้าหาญไปป่วนกระทู้เค้า จะได้
ไม่แหกมาก พยายามอธิบายเรื่องง่ายๆ ข้ามวันข้ามคืนแล้วนะเนี่ย

ทีวีช่องนี้ก็กลับทำรายได้เข้ารัฐเป็นกอบเป็นกำ เดือนละประมาณ 150-200 ล้านบาท
เป็นเงินประมาณ 2000 ล้านหรือมากกว่าต่อปี


น่าจะเข้าใจคำว่า รายได้ กับ กำไร นะว่ามันต่างกันทางบัญชี เค้าพูดถึงรายได้ เราไปเถียง
เรื่องกำไร มันคงจะจบได้หรอกนะ บัญชีเด็กๆ ยังไม่เข้า ปวช. อีกนะเนี่ย
กำไร = รายได้ - ค่าใช้จ่าย

บัญชีรายได้ และ บัญชีค่าใช้จ่าย เป็นบัญชีที่เปิดขึ้นชั่วคราว เพื่อแยกประเภทรายการให้เป็นหมวดหมู่ ก่อนที่จะโอนปิดไปบัญชีทุน หรือส่วนของเจ้าของ แทนการที่จะบันทึกไว้ในบัญชีทุน หรือส่วนของเจ้าของโดยตรง ฉะนั้นทั้งบัญชีรายได้ และบัญชีค่าใช้จ่าย จึงมีธรรมชาติเหมือนบัญชีทุน หรือส่วนของเจ้าของ


ในเมื่องบดุลนั่นแสดงรายได้ของไอทีวี ซึ่งจะไปเป็นรายได้ของทีไอทีวี เมื่อโดนยึดคืน
ส่วนค่าใช้จ่ายของ ไอทีวี กะ ทีไอทีวี มันคนละเรื่องเทียบกันไม่ได้ ข้อมูลก็ไม่มี กระทู้
นั่นก็ไม่ได้กล่าวถึง ก็เหลือตัวเลขสองพันล้านที่เป็นรายได้เข้ารัฐประมาณจากข้อมูลใน
อดีตได้ ส่วนค่าใช้จ่ายไม่รู้เว้ย งบยังไม่ออก ง่ายมากเลยนะเนี่ย ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ

คุณแก๊สฯเชื่อหรือ ที่มีคนบอกว่า "ไอทีวีส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท"

ไอทีวีคงจะไม่โง่หรือใจดีที่จะส่งเงินให้หลวงปีละ 2000 ล้านบาท ในขณะที่ค่าี่สัมปทาน

ต้องจ่ายแค่ปีละ 1000 ล้านบาท

ช่วยหาหลักฐานหรือใบเสร็จมาแปะให้ดูหน่อยสิ .. ถ้ามีจริงผมจะกราบ 

ป.ล. ดูลักษณะการตอบแบบตะแบงของคุณแก๊สฯ เหมือนกับคนชื่อ "เฮ้อ" ที่เว็บพันทิพ ห้องราชดำเนิน

...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2007, 20:21 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #31 เมื่อ: 04-11-2007, 20:43 »

เงินปีละ 2,000 ล้าน เทียบกับได้สถานีของประชาชน มันต่างกันเยอะนะครับ

รัฐมีทางหาเงินจำนวนนั้น จากทีวีอีกหลายช่อง จากสัมปทานต่าง ๆ

จะว่าไป เอารายไจกภาษีบาป มาสร้างความรู้ความบันเทิงให้ประชาชน น่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

อย่าไปมองว่า เงินรายได้แค่นั้น เทียบกับความรู้ ความบันเทิงที่ไม่เป็นพิษภัย น่าจะแลกกันได้นะ

ที่สำคัญ ผลของ ทีวีสาธารณะ ก็คือ เราจะได้ปากเสียงของประชาชน ได้สำนักข่าวที่ยืนข้างประชาชนและความถูกต้อง

ก็สมควรแล้ว อย่าไปคิดแค่เรื่องรายได้เข้ารัฐ...เงินจำนวนนั้น ถือว่าเป็น "บริการสาธารณะ" น่าจะได้ประโยชน์โดยรวมมากกว่า
บันทึกการเข้า

สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #32 เมื่อ: 05-11-2007, 18:16 »

รายนี้เปิดเข้าเว็บไม่เป็น แล้วตีโพยตีพายว่าหาว่า "ถูกบล็อค"   

มิน่า ไอ้พวกลูกกระจ๊อกนักการเมืองเจอคนแปลกหน้า จิตระแวงหาว่า "ถูกทหารเอาปืน M16 จ่อหัว"

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5988700/P5988700.html



 

...
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #33 เมื่อ: 05-11-2007, 20:09 »

คุณแก๊สฯเชื่อหรือ ที่มีคนบอกว่า "ไอทีวีส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท"

ไอทีวีคงจะไม่โง่หรือใจดีที่จะส่งเงินให้หลวงปีละ 2000 ล้านบาท ในขณะที่ค่าี่สัมปทาน

ต้องจ่ายแค่ปีละ 1000 ล้านบาท

ช่วยหาหลักฐานหรือใบเสร็จมาแปะให้ดูหน่อยสิ .. ถ้ามีจริงผมจะกราบ 

ป.ล. ดูลักษณะการตอบแบบตะแบงของคุณแก๊สฯ เหมือนกับคนชื่อ "เฮ้อ" ที่เว็บพันทิพ ห้องราชดำเนิน
...



คนไรวะ ง่อชี้หายตัดแปะมาเองแท้ๆ ดันอ่านไม่รู้เรื่อง
ITV หรือ TITV หยุดจ่ายค่าสัมปทานให้แก่รัฐบาลเพราะเป็นของรัฐแล้ว
มันไปแปลว่าเป็นบริษัท ไอทีวี หรือไงวะ โธ่ ไอ้บ้า ง่อ เซ่อ ด่าไม่ถูกเรยยยย
อ่านไม่รู้เรื่องแปลไม่ถูกก็เลิกๆ เหอะ นินทาไปก็เข้าตัวเองเปล่าๆ นะจ๊ะ ถุย 
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #34 เมื่อ: 05-11-2007, 20:35 »



คนไรวะ ง่อชี้หายตัดแปะมาเองแท้ๆ ดันอ่านไม่รู้เรื่อง
ITV หรือ TITV หยุดจ่ายค่าสัมปทานให้แก่รัฐบาลเพราะเป็นของรัฐแล้ว
มันไปแปลว่าเป็นบริษัท ไอทีวี หรือไงวะ โธ่ ไอ้บ้า ง่อ เซ่อ ด่าไม่ถูกเรยยยย
อ่านไม่รู้เรื่องแปลไม่ถูกก็เลิกๆ เหอะ นินทาไปก็เข้าตัวเองเปล่าๆ นะจ๊ะ ถุย 

แถได้เก่งจริงนะ .. จะอ้าง ITV หรือ TITV มันก็พันธุ์เดียวกันนั่นแหละ

อ่านกระทู้ไม่รู้เรื่องเหรอ ที่ถามว่า "สถานีนี้ เคยส่งเงินจ่ายให้รัฐปีละ 2000 ล้านบาท จริงเหรอ"

พวกลิ่วล้อพรรคหลงหอนี่เก่งนักเรื่อง "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น"

(โกหกให้จับได้ ถ้าแน่จริงช่วยหาหลักฐานการส่งเงินเข้าหลวงของ ITV และหรือ TITV)

...

บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #35 เมื่อ: 05-11-2007, 20:50 »

แถได้เก่งจริงนะ .. จะอ้าง ITV หรือ TITV มันก็พันธุ์เดียวกันนั่นแหละ

อ่านกระทู้ไม่รู้เรื่องเหรอ ที่ถามว่า "สถานีนี้ เคยส่งเงินจ่ายให้รัฐปีละ 2000 ล้านบาท จริงเหรอ"

พวกลิ่วล้อพรรคหลงหอนี่เก่งนักเรื่อง "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น"

(โกหกให้จับได้ ถ้าแน่จริงช่วยหาหลักฐานการส่งเงินเข้าหลวงของ ITV และหรือ TITV)

  ตรูละเง็งกะความคิดมันจริงๆ วุ้ย อยู่บอร์ดการเมืองได้ไงเนี่ย โห
ไอทีวี กะ ทีไอทีวี ยังแยกไม่ออก คิดว่าพันธุ์เดียวกัน ฮือ ฮือ เสียเวลาอธิบายตั้ง
นานนนน ไอ้ตูบแถวบ้านยังคุยง่ายกว่าเลย ไปพัฒนาคุณภาพสมองหน่อยดีกว่ามั้ง

ไอทีวี มันบริษัทเอกชน ทีไอทีวี มันหน่วยงานรัฐ ทีไอทีวียังไงก็ต้องส่งเงินเข้า
หลวงอยู่แล้ว เพราะมันเป็นของหลวงโว้ย ไอ้บ้า มากราบตรีนซะดีๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2007, 20:52 โดย อยากประหยัดให้ติดแก๊ส » บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 05-11-2007, 20:58 »

ตรูละเง็งกะความคิดมันจริงๆ วุ้ย อยู่บอร์ดการเมืองได้ไงเนี่ย โห
ไอทีวี กะ ทีไอทีวี ยังแยกไม่ออก คิดว่าพันธุ์เดียวกัน ฮือ ฮือ เสียเวลาอธิบายตั้ง
นานนนน ไอ้ตูบแถวบ้านยังคุยง่ายกว่าเลย ไปพัฒนาคุณภาพสมองหน่อยดีกว่ามั้ง

ไอทีวี มันบริษัทเอกชน ทีไอทีวี มันหน่วยงานรัฐ ทีไอทีวียังไงก็ต้องส่งเงินเข้า
หลวงอยู่แล้ว เพราะมันเป็นของหลวงโว้ย ไอ้บ้า มากราบตรีนซะดีๆ


พี่แก๊สครับ ใจเย็นๆ แล้วคิดซะให้ดีๆ นะครับ ลองเรียบเรียงเหตุการดีๆนะครับ โดนยุบวันแรกครับ ว่าเป็นของรัฐตอนไหน แล้วได้รายได้ยังไง
ไอที่โวยวายว่าเก็บค่าโฆษณาไม่ได้ หมาที่ไหนมันโวยครับ เรียกร้องหาผู้บริหารให้คนมาบริหารจัดการ ใครครับ ใจเย็นๆครับพี่แก๊สใจเย็นๆ
ผมแค่มาพูดเฉยๆว่าจะไม่ยุ่งกับกระทู้นี้แล้วเชียว
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #37 เมื่อ: 05-11-2007, 20:59 »

ตรูละเง็งกะความคิดมันจริงๆ วุ้ย อยู่บอร์ดการเมืองได้ไงเนี่ย โห
ไอทีวี กะ ทีไอทีวี ยังแยกไม่ออก คิดว่าพันธุ์เดียวกัน ฮือ ฮือ เสียเวลาอธิบายตั้ง
นานนนน ไอ้ตูบแถวบ้านยังคุยง่ายกว่าเลย ไปพัฒนาคุณภาพสมองหน่อยดีกว่ามั้ง

ไอทีวี มันบริษัทเอกชน ทีไอทีวี มันหน่วยงานรัฐ ทีไอทีวียังไงก็ต้องส่งเงินเข้า
หลวงอยู่แล้ว เพราะมันเป็นของหลวงโว้ย ไอ้บ้า มากราบตรีนซะดีๆ



ใครเขาจะไปกราบตีนเหม็นๆวะกราบตีนหมาขี้เรื้อนไต้ถุนบ้านดีฝ่า
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #38 เมื่อ: 05-11-2007, 21:05 »

ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับคนแถแบบนี้ ภาษาไทยง่ายๆ คำว่า "เคย"



ตกลงว่า ไม่กล้าตอบคำถาม "เคยส่งเงินให้รัฐปีละ 2000 ล้านบาท" 

...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2007, 21:13 โดย สมชายสายชม » บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #39 เมื่อ: 05-11-2007, 21:42 »

รายได้ทีไอทีวีเดือนละ 150-200ล้าน หรือประมาณสองพันล้านต่อปี
เปลี่ยนเป็นทีไอทีวีมาไม่ถึงปี ก็เทียบบัญญัติไตรยางค์เอาสิ ว่าปีนึง
ตกเท่าไหร่ ที่ทำทีไอทีวีมาหลายเดือนนี่ รายได้มันไปไหนเหรอ จะ
หัดแถเกรียนๆ หรือไงว่าไปเข้าเอกชน เหอ เหอ มากราบตรีนดีกว่า
นะจ๊ะ อย่ามาถูไถกับต้นตำรับเลย ต้องหัดอีกเยอะไอ้น้อง ก๊าก ก๊าก
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: 05-11-2007, 21:50 »

^
^
^
อั้นแน่ยอมรับออกมาแล้วว่าเป็นต้นตำหรับแห่งการแถ เจ๋งมากเลยครับเพ่   
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 05-11-2007, 21:58 »







 

............................................................................................

อ่านใหม่ดีๆ จิ ไอทีวีส่งเงินเข้ารัฐตั้ง 2000ล้านนะครับ โอ้ ส่งเท่ากับรัฐบาลเลย โอ้โห
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #42 เมื่อ: 05-11-2007, 22:39 »

รายได้ทีไอทีวีเดือนละ 150-200ล้าน หรือประมาณสองพันล้านต่อปี
เปลี่ยนเป็นทีไอทีวีมาไม่ถึงปี ก็เทียบบัญญัติไตรยางค์เอาสิ ว่าปีนึง
ตกเท่าไหร่ ที่ทำทีไอทีวีมาหลายเดือนนี่ รายได้มันไปไหนเหรอ จะ
หัดแถเกรียนๆ หรือไงว่าไปเข้าเอกชน เหอ เหอ มากราบตรีนดีกว่า
นะจ๊ะ อย่ามาถูไถกับต้นตำรับเลย ต้องหัดอีกเยอะไอ้น้อง ก๊าก ก๊าก

ที่อ้างว่าี่ "รายได้ทีไอทีวีเดือนละ 150-200ล้าน หรือประมาณสองพันล้านต่อปี"
ไม่ได้ติดใจสงสัยเรื่องรายได้ประมาณ 2000 ล้านบาทต่อปี(ยังไม่หักรายจ่าย)

แต่สงสัยเรื่อง "ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท" น่ะ แถเอ้ยยย รู้เรื่องไหม 

...
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 05-11-2007, 23:22 »

หลุมศพนี้กว้างพอที่จะฝังอยากประหยัดให้ติดแก๊สได้หรือยังครับ กลัวว่าแกจะแถ ขึ้นมาจากหลุมอีก 555555 กร้ากกกกก


งั้นเหงาขออณุญาติเอาหลุมศพหลุมนี้ติดลายเซ็นเหงาเลยนะครับ เทพแห่งการแถ HAHAHA
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2007, 23:30 โดย หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ » บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #44 เมื่อ: 06-11-2007, 09:46 »

นับถือเล้ย....... ใครที่คุยกับนายแถ ได้นานขนาดนี้
ถามอย่างตอบอย่าง ก็มีความอดทนกันเลยจริงๆ
เป็นผมล่ะ เลิกคุยไปนานแล้ว
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #45 เมื่อ: 06-11-2007, 10:06 »

ที่อ้างว่าี่ "รายได้ทีไอทีวีเดือนละ 150-200ล้าน หรือประมาณสองพันล้านต่อปี"
ไม่ได้ติดใจสงสัยเรื่องรายได้ประมาณ 2000 ล้านบาทต่อปี(ยังไม่หักรายจ่าย)

แต่สงสัยเรื่อง "ส่งเงินเข้าหลวงปีละ 2000 ล้านบาท" น่ะ แถเอ้ยยย รู้เรื่องไหม 
...

มุกแบบนี้เค้าเรียกว่า ซื่อบื้อปราบเกรียน หรือเปล่าหว่า
คำว่าไอทีวีหรือทีไอทีวี ในกระทู้โน่นเค้าหมายถึงช่อง UHF ช่องนั้นต่างหาก ไม่ได้หมายถึงบริษัท ไอทีวี
ขี้เกียจอธิบายแล้วว่ะ มามะมากราบตรีนดีกว่าว่าง่ายๆ มาใกล้ๆ ดมคลี่ตรีนมั่งเผื่อมันจะฉลาดขึ้น ก๊าก ก๊าก
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #46 เมื่อ: 06-11-2007, 10:40 »

รายนี้ มาเต้าข่าวว่า "ให้ทหารซ้อมกาบัตร"

บัตรเลือกตั้งยังไม่ได้พิมพ์ กกต. ยังไม่ได้เปิดรับสมัคร ใครได้เบอร์อะไรก็ยังไม่รู้

แล้วมันจะซ้อมกาบัตรหาป๊ามันเหรอ   

สงสัยน่าจะเป็นพวกเดียวกับที่มาเต้าข่าวว่า "ทหารใช้ปืน M16 จ่อหัว"

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5990232/P5990232.html



 

...
บันทึกการเข้า
ton
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #47 เมื่อ: 06-11-2007, 11:07 »

รายนี้ มาเต้าข่าวว่า "ให้ทหารซ้อมกาบัตร"

บัตรเลือกตั้งยังไม่ได้พิมพ์ กกต. ยังไม่ได้เปิดรับสมัคร ใครได้เบอร์อะไรก็ยังไม่รู้

แล้วมันจะซ้อมกาบัตรหาป๊ามันเหรอ   

สงสัยน่าจะเป็นพวกเดียวกับที่มาเต้าข่าวว่า "ทหารใช้ปืน M16 จ่อหัว"

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P5990232/P5990232.html



 

...


แสดงว่าทหารสมัยนี้สู้สมัยทักษิณไม่ได้ ซ้อมเปลี่ยนกล่อง ไม่ต้องรอเบอร์ รอบัตร ซ้อมได้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2007, 11:15 โดย ton » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: