(ลุง)ถึก สไลเดอร์
|
 |
« เมื่อ: 17-10-2007, 16:24 » |
|
กองทัพอากาศไทย ตัดสินใจซื้อเครื่องบินขับไล่่Gripen.จากประเทศสวีเดน 6ลำ ในราคา 3.7 พันล้านโครน(18.5พันล้านบาท)......เอิ้กกกกก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
|
|
|
::วิญญาณห้อง2::
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 17-10-2007, 16:55 » |
|
ดูกันต่อไป ถ้าสมเหตุสมผล ก็ไม่น่ามีปัญหา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
--------this is the world------- 
|
|
|
|
|
Gamobank
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 17-10-2007, 19:03 » |
|
เปิดประสิทธิภาพตัวเลือกเครื่องบินใหม่ทอ. ตอนที่ 1: JAS-39 Gripen
เปิดประสิทธิภาพตัวเลือกเครื่องบินใหม่ทอ. ตอนที่ 1: JAS-39 Gripen
--------------------------------------------------------------------------------
*หมายเหตุ: บทความนี้ผมจะแนะนำให้รู้จักตัวเลือกเครื่องบินขับไล่ใหม่ของไทยอย่างละเอียด โดยแบ่งเป็น 3 ตอนรวม 3 แบบครับ
สวีเดนมีประวัติการสร้างเครื่องบินที่โดดเด่นมานาน โดยเครื่องบินมักจะติดตั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยในแต่ละยุด
การออกแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตลอดจนถึงความหลากหลายในการติดอาวุธ JAS - 39 "Gripen"
นั้นก็เป็นเครื่องบินอีกหนึ่งแบบที่สวีเดนผลิตเพื่อทดแทน JA-37 Viggen ของสวีเดนเอง และหวังที่จะส่งออกขายทั่วโลก Gripen
มีความอ่อนตัวสูงในการปฏิบัติการ เพราะสามารถวิ่งขึ้นได้จาก Runway ยาว 800 เมตร
และลงจอดบนถนนหลวงที่มีความยาวเพียง 500 เมตร ต้องการเจ้าหน้าที่สนับสนุนภาคพื้นดินเพียงแค่ 5 คน
ก็สามารถทำให้ Gripen บินได้อย่างสบายแล้ว Gripen มีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการที่ต่ำกว่าเครื่องบินแบบอื่น ๆ
รวมถึงสามารถใช้อาวุธได้หลากหลาย มีความเร็วสูงสุด 1.4 มัคที่ระดับน้ำทะเล และ 2 มัคที่ความสูงที่สูงกว่า
ระบบเรด้าห์และเครื่องยนต์
Gripen ใช้เรด้าห์พิสัยไกลของ Ericsson รุ่น PS-05/A ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับเป้าหมายได้ทั้งอากาศและพื้น
ใช้เครื่องยนต์ Volvo RM12 ซึ่งปรับปรุงมาจากเครื่องยนต์ General Electric F-404-400 ที่ติดตั้งใน F/A-18 ของสหรัฐ
ระบบอาวุธ
Gripen มีตำบลติดอาวุธ (Hard Point) ทั้งหมด 10 ตำบล ติดอาวุธได้ทั้งค่ายยุโรปและสหรัฐประกอบด้วย
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ AIM-9L
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ IRIS-T
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยปานกลาง AIM-120C
-ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยปานกลาง Meteor
-ขีปนาวุธอากาศสู่พื้น AGM-65 Maverick
-ขีปนาวุธอากาศสู่พื้นต่อต้านเรือรบ RBS-15F
-ระเบิดธรรมดา ระเบิด Cluster bomb และระเบิดนำวิธีด้วยเลเซอร์
(Gripen สามารถติดอาวุธทั้งหมดที่มีใช้อยู่ในกองทัพอากาศไทยได้)
ระบบ Data Link
สวีเดนซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อเครื่องบินในฝูงเป็นเครือข่าย โดยก่อนบินนักบินสามารถใส่โปรแกรมการบิน
ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนกับทั้งเครื่องบินด้วยกันเองและภาคพื้น ในระหว่างปฏิบัติภารกิจเป็นหมู่ Gripen
สามารถเปิดเรด้าห์เพียงเครื่องเดียวเพื่อลดการตรวจจับแต่สามารถส่งข้อมูลของเป้าหมายให้เครื่องบินอื่น ๆ ในหมู่บินได
้ ดังนั้นเครื่องบินที่ไม่ได้เปิดเรด้าห์จึงสามารถเข้าโจมตีได้โดยที่ถูกตรวจจับได้ยากและข้าศึกไม่รู้ตัว ซึ่งระบบนี้สวีเดนเป็นชาติแรกที่พัฒนาซึ่งคล้ายกับระบบที่ติดตั้งในเครื่องบิน F-22 ของสหรัฐ
ข้อดีข้อเสีย
-ข้อดี
นอกจากข้อดีที่กล่าวมาแล้วก่อนหน้า Gripen เสนอข้อเสนอที่ดูแล้ว "น่าซื้อ" ที่สุดในบรรดาเครื่องบิน 3 แบบดังนี้
-สวีเดนเสนอJAS 39 จำนวน 12เครื่องคิดเป็นเงิน โดยประมาณ 34,680 ล้านบาท และมีของแถมอีกมากมาย คือเครื่องบินแบบให้ฟรีๆ 3 ลำรวมมูลค่า 4.648.14ล้าบาท
ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ ท.บและท.ร.ต้องการให้ท.อ.ต้องการมีไว้ประจำการ เป็นอย่างยิ่ง
แต่ไม่สมารถจัดหาได้เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงมาก คือ เครื่อง ERIEYE
ซึ่งเป็นเครื่องบินใช้สำหรับ ค้นหา/สอดแนม ลาดตะเวนหาข่าว ตรวจจับเรือดำน้ำ
ถ่ายภาพทางอากาศ โดยทางสวีเดนเสนอเครื่อง ERIEYE จำนวน2เครื่อง แต่เนื่องเครื่องลำนี้สร้างโดยเทคโนโลยีชั้นสูง
จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทางสวีเดนเห็นความจำเป็น ในการฝึก จึงแถมเครื่องบิน SAAB 340 ให้อีก1เครื่อง
ไว้สำหรับฝึกโดยไม่จำเป็นต้องนำเครื่อง ERIEYEมาฝึกจริง นอกจากนี้จะให้ระบบสถานนีภาคพื้นดิน
รับสัญญาณถ่ายทอดจากเครื่อง ERIEYE อีก 3 สถานี (GROUND BASED STATION) รวมมูลค่า 504ล้านบาท
- สวีเดนเสนอช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์ แบบฟรีๆรวมมูลค่า 5.857.74 ล้านบาท
ให้จรวดต่อต้านผิวน้ำ RBS จำนวน12นัด รวมมูลค่า 504 ล้านบาท โดยยุทโธปกรณ์ แบบให้เปล่าทั้ง3รายการ คือ1.เครื่อง ERIEYE 2 ลำ,เครื่องบิน SAAB 1ลำ รวมเป็น3ลำ GROUND BASED STATION อีก3สถาน ี 2.จรวดต่อต้านผิวน้ำ RBS จำนวน12นัด 3. ช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์ รวมมูลค่าทั้งสิ้นหลายหมื่นล้านบาท -ให้ความช่วยเหลือพิเศษอีก3รายการทียังไม่สามารถประเมินราคาได้ อีก3รายการคือ 1.การฝึกนักบินและช่างเทคนิกของการซ่อมบำรุงโดยยินดีให้นักบินและช่างเทคนิคเข้าถึงฐานขอมูลทั้งหมดของเครื่องJAS39
ทั้งหมดโดยสวีเดนไม่เคยเปิดเผยมาก่อน 2.ทุนฝึกอบรมสำหรับเครื่อง JAS39 จำนวน 100 คนในระยะเวลาอบรมที่สวีเดน 1ปี 3.ทุนการศึกษาปริญญาโทในสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน200 ทุนในระยะเวลา 5ป ี ซึ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนนายเรืออากาศไทยที่จบการศึกษาแล้วไปศึกษาที่มหาวิทยาลัย ของสวีเดนได้ถึง200คน -ขอเสนอทั้งหมดนี้สวีเดนแจ้งว่า เป็นขอเสนอพิเศษสำหรับวโรกาสพิเศษที่ราชวงศ์และรัฐบาลสวีเดนมอบให้เฉพาะไทย
ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสวยราชสมบัติ ครองราชย์มา 60 ปี ในปีพ.ศ.2549
อันจะเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ใกล้ชิดราชวงศ์ไทยและสวีเดนยิ่งขึ้น
และทั้งหมดเป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐไม่มีนายหน้าเข้ามาเกี่ยวข้อง
ข้อเสนอเหล่านี้เป็นข้อเสนอที่พลิกประวัติศาสตร์วงการการบินทางทหารของโลกเลยทีเดียว
-ข้อเสีย
-ในจำนวนเครื่องบิน 3 แบบที่เป็นตัวเลือกของทอ.ไทยนั้น Gripen มีขนาดเล็กที่สุด
โดยสามารถบรรทุกอาวุธไปได้ 5.3 ตัน มีพิสัยบินทำการรบ (บินไปโจมตีแล้วกลับฐาน) ไกล 800 กิโลเมตร
พิสัยบินไกลสุด 3000 กิโลเมตร และเป็นธรรมดาที่เครื่องบินจากค่ายยุโรปจะมีอะไหล่ที่ค่อนข้างแพงซักนึดซึ่งอาจจะเป็นปัญหาได้
-ที่น่าห่วงอีกอย่างคือการสนับสนุนอะไหล่ เพราะปัจจุบันมีเพียง 4 ชาติเท่านั้นที่ใช้ Gripen คือ สวีเดน (185 เครื่อง)
แอฟริกาใต้ (28 เครื่อง) เช็ค (12 เครื่อง) และฮังการี (14 เครื่อง)
ซึ่งดูแล้วน้อยกว่าเป้าหมายของบริษัท Gripen International
ที่มีเป้าหมายที่จะขายให้ได้ประมาณ 200 เครื่องนอกสวีเดน แต่ทาง Gripen International
ก็พยายามมองหาลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบัน Gripen เข้าแข่งขันในโครงการการจัดหาในหลาย ๆ ประเทศ
เช่น บราซิล (คู่แข่ง Su-35) อินเดีย (คู่แข่ง Rafale, F-16, F/A-18, MiG-29) และเสนอขายให้โปแลนด์ เดนมาร์ค ออสเตรีย
-Gripen เป็นเครื่องบินที่แม้จะประสิทธิภาพสูงมาก แต่ก็เป็นเครื่องบินในเชิงรับ
ซึ่งแตกต่างจาก Su-30 อย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าเราซื้อ Gripen จริงก็หมายความว่าเรายังใช้ยุทธศาสตร์ "อุดแล้วโยน" ต่อไป
แต่ก็มิได้หมายความว่าเราจะทำได้แค่รออยู่ในบ้านแต่อย่างเดียว เพราะถ้าประจำการเครื่องบินลำนี้ที่กองบิน 7 สุราษฐ์แล้ว
เราก็มีความสามารถที่จะโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนทางใต้ได้พอประมาณทีเดียว
ภาคผนวก: ทำไมสวีเดนจึงอยากให้ไทยเป็นลูกค้ามากขนาดนี้
เหตุผลหลัก ๆ ที่ผมพอจะสรุปได้จากความเห็นส่วนตัวของผมมีดังนี้
1. สวีเดนต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดต่างประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดเอเชีย
2.สวีเดนต้องการเปิดตลาดอาวุธในไทยและในภูมิภาคนี้ที่มีความต้องการอาวุธใหม่ ๆ สูงมาก
3. Gripen ไม่เคยออกรบ ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าในอนาคตเชื่อถือได้นั้นก็คือการซ้อมรบ โดยไทยนั้นซ้อมรบกับประเทศเจ้าพ่อสงครามอย่างอเมริกาและประเทศไฮเทคอย่างสิงคโปร์อยู่เป็นประจำ (Cobra Gold และ Cope Tiger)
ดังนั้นถ้ามีชื่อ Gripen อยู่ในการซ้อมรบและมีข้อมูลว่าสามารถยิงเครื่องบินอย่าง F-15 F-16 F/A-18 ตกได้ในการซ้อมแล้ว
ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นอย่างมากให้กับลูกค้าในอนาคต
เอารายละเอียดมาฝากครับ
Bloggang.com : weblog for you and your gang
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 17-10-2007, 20:14 » |
|
เค้าไปลองขับกันมาตั้งหลายเดือนก่อนแล้ว ทำเป็นตื่นเต้นไปด้าย นี่ถ้าส่งอีกล็อตเข้ามาครบสิบสองลำ ก็จะมีประดับฝูงปลาชะโดไทย ด้วยนะ เท่จริงๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gamobank
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 17-10-2007, 20:22 » |
|
เค้าไปลองขับกันมาตั้งหลายเดือนก่อนแล้ว ทำเป็นตื่นเต้นไปด้าย นี่ถ้าส่งอีกล็อตเข้ามาครบสิบสองลำ ก็จะมีประดับฝูงปลาชะโดไทย ด้วยนะ เท่จริงๆ  6 ลำมาถึงเรียบร้อยแล้ว
โมโหที่เจ้านายไม่ได้งาบค่าคอมมิชชั่นม้างงง
ถามจริงเหอะนายเป็นคนไทยหรือเปล่า ฮ้าาา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 17-10-2007, 20:58 » |
|
เงินหมื่นล้าน เอามาใช้ในด้านการศึกษา
การแพทย์ และอื่นๆได้หลายอย่าง
ดันเอามาใช้การทำลายล้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990
|
|
|
Gamobank
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 17-10-2007, 21:02 » |
|
ประเทศเราจำเป็นต้องสร้างความเข็มแข็งในเชิงรับไม่ใช่เชิงรุก
รั้วบ้านจำเป็นต้องแข็งแรงตามความจำเป็นไม่งั้นขโมยขึ้นบ้าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 17-10-2007, 21:15 » |
|
เงินหมื่นล้าน เอามาใช้ในด้านการศึกษา
การแพทย์ และอื่นๆได้หลายอย่าง
ดันเอามาใช้การทำลายล้าง
ก็จริงของคุณ amalit1990 ว่าเหมือนกันนะครับ แต่ทว่าเรื่องนี้
ขอให้ซื้อ-ขายกันจริง ก็พอใจแล้วครับ เพราะซื้อหามาไว้ป้องกันชาติ
ดูอย่างประเทศสิงคโปร์สิครับ ประเทศเป็นเกาะ เท่าๆๆ.....ภูเก็ต
ทำไมเล่นซื้อ F 18 หล่ะครับคุณ แถมมายืมสนามบินของประเทศไทย
ไว้ฝึกหัดนักบินของเขาด้วย สงสัยจังว่าไทยจะเป็นม้าอารีย์ ไปหรือปล่าวครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
Gamobank
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 17-10-2007, 21:18 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 17-10-2007, 21:25 » |
|
มีเครื่องบินรบก็ต้องมีขีปนาวุธ และขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 17-10-2007, 21:45 » |
|
ท่านท้าวมีความเห็นว่า
ในบรรดาตัวเลือกของเครื่องบินหลายๆแบบที่นำเสนอเข้ามานั้น ถ้าเราลองดูสิ่งที่เรียกว่า ยุคของเครื่องบินขับไล่
เราจะพบว่า เครื่องบินแต่ละแบบนั้นมียุคที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร
โดยเครื่องบินรบที่ทำการตลาดอยู่ในยุคปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในยุคที่ 4-4.5 ยังไม่มีเครื่องในยุคที่ 5 ออกมาขายในตลาด
มันแตกต่างกันยังไง?
ยุคของเครื่องบินขับไล่นั้น เค้าวัดกันที่ความร่วมสมัยของเทคโนโลยีที่ปรากฏอยู่ในเครื่องบินนั้น โดยแบ่งได้ดังนี้
ครื่องบินขับไล่ยุคที่ 1 (1945 - 1955)
ยุคที่ 1 ของเครื่องบินขับไล่เริ่มขึ้นพร้อม ๆ กับการกำเนิดของเครื่องบินรบไอพ่นแบบแรกของโลกคือ Me 262 เครื่องบินในยุคนี้มีอาวุธหลักคือปืนกลอากาศและปืนใหญ่อากาศ ระเบิดธรรมดาและกระเปาะจรวดเหมือนกับเครื่องบินในยุคสงครามโลก มีความเร็วต่ำกว่าเสียง ที่พิเศษกว่าเครื่องบินในยุคสงครามโลกก็คือส่วนใหญ่เครื่องบินมีปีกลู่หลังซึ่งให้ประสิทธิภาพทางการบินดีกว่าในย่านความเร็วที่สูงขึ้น
ตัวอย่างของเครื่องบินในยุคนี้ได้แก่ Me 262, F-84, F-86, MiG-15, MiG-17
ซึ่งเครื่องที่น่าสนใจที่สุดก็คือ F-86 และ MiG-15 ที่สร้างชื่อในยุทธเวหาเหนือน่านฟ้าเกาหลีในสงครามเกาหลีนั้นเอง
ครื่องบินขับไล่ยุคที่ 2 (1955 - 1960)
เครื่องบินในยุคนี้มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือการเปลี่ยนอาวุธหลักจากปืนกลอากาศมาเป็นจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศอย่าง AIM-9 หรือ AA-2 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแนวทางและหลักนิยมในการรบติดพันไปเลยทีเดียว นอกจากนี้เครื่องบินในยุคนี้ยังเริ่มติดตั้งเรด้าห์ และสามารทำความเร็วเหนื่อเสียงได้ นอกจากนั้นเรายังเริ่มเห็นแผนแบบของปีกแบบ Delta Wing ที่ให้ประสิทธิภาพในการบินที่ความเร็วเหนือเสียง
ตัวอย่างของเครื่องบินในยุคนี้ได้แก่ เครื่องบินในชุด "Century Series" ของสหรัฐคือ F-100, F-101, F-102, F-104, F-105, F-106, MiG-19, MiG-21, Su-11, Hawker Hunter, Mirage-III, J-35 Darken เป็นต้น
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 3 (1960 - 1970)
เครื่องบินยุคนี้เริ่มติดตั้งจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Semi-active เช่น AIM-7 Sparrow โดยเครื่องนั้นเริ่มต้นในการมีคุณสมบัติ Multi-role หรือในภาษาไทยว่าพหุบทบาท โดยรวมความสามารถในการโจมตีทั้งภาคอากาศและภาคพื้นดินเข้าไว้ด้วยกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเครื่องบินในยุคสงครามเวียดนามอย่าง F-4, F-5, MiG-23, MiG-25, Su-22, Harrier, Mirage F.1, Super Etendard, J-8 II เป็นต้น
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 (1970 - 1990)
เครื่องบินในยุคนี้แทบทั้งหมดยังประจำการอยู่ในปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติการเป็น Multi-Role ที่สมบูรณ์ สามารถใช้อาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยกลางแบบ Active Radar เช่น AIM-120 ได้ ส่วนใหญ่แล้วเครื่องในยุคนี้จะเน้นที่ประสิทธิภาพในการรบมากกว่าความเร็ว
ตัวอย่างของเครื่องบินในยุคนี้คือ F-15, F-16, F/A-18, AV-8B, MiG-29, MiG-31, Su-27, Tornado, Mirage-2000, J-10, F-2 (JSADF), LCA (Indian AF), JA-37 Viggen
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 (1990 - 2000)
เครื่องบินในยุคนี้เป็นกำลังหลักของกองทัพอากาศทั่วโลกอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคุณสมบัติส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับเครื่องในยุคที่ 4 เพิ่งแต่เพิ่มระบบ avionic ที่ทันสมัยขึ้น ปรับปรุงความอ่อนตัวในการปฏิบัติภารกิจให้ทำภารกิจได้หลากหลายขึ้น และมีคุณสมบัติตรวจจับได้ยาก (Stealth) ในระดับจำกัด
เครื่องบินที่อยู่ในยุคนี้ได้แก่ F/A-18 E/F, Su-30, Rafale และ Eurofighter
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 (2000 and Onward)
เครื่องบินในยุคนี้คือเครื่องบินขับไล่ที่เราจะเห็นไปอีกอย่างน้อย 20 - 30 ปี โดยคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีคือเทคโนโลยี Stealth ระบบ Data link (ระบบการกระจายข้อมูลระหว่างเครื่อง) รวมถึง Super Thrust (ระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ต้องใช้สันดาบท้าย) เครื่องบินจะเป็นระบบอิเล็กทรอนิคล้วน ๆ
ในปัจจุบันมีเครื่องบินยุคที่ 5 เพียง 2 แบบคือ F-22 และ F-35 แต่รัสเซียได้ประกาศมาแล้วว่าเครื่องบินยุคที่ 5 ของตนกำลังพัฒนาและอาจจะพร้อมขึ้นบินในอีก 3 - 4 ปีนี้
(ข้อมูลจาก Sky Man Military Blog)
จะเห็นได้ว่า ในบรรดาตัวเลือกของกองทัพอากาศที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะประกอบไปด้วย F-16 C/D Su-30MK และ Gripen ทั้ง F-16C/D และ Gripen ต่างเป็นเครื่องบินในยุคที่ 4 ในขณะที่ Su-30MK นั้นเป็นเครื่องในยุคที่ 4.5
ถ้าใครเอา Su-30MK ไปวัดพลังกับ Gripen และ F-16 C/D แล้วมันว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ท่านท้าวจะขอด่าให้เปิง เพราะว่ามันเอามาวัดกันไม่ได้ มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เหมือนเอานักมวยเฮฟวี่เวทกับฟลายเวทมาตะบันหน้ากันคนละที มวยฟลายเวทมันก็ตายซิครับ
มันต้องดูภารกิจในการใช้งาน
Su-30MK เป็นเครื่องบินรบหลากภารกิจ แต่งานถนัดของมันคือ ขับไล่โจมตี เจาะทะลวงน่าฟ้าข้าศึกแล้วไปถล่มเป้าหมาย ด้วยครื่องยนต์เทอร์โบแฟนคู่ให้แรงขับสูงสุด 55,000 ปอนด์ต่อตารางฟุต ความเร็วสูงสุดกว่า มัค 2 สามารถแบกอาวุธไปถล่มบ้านแม่ใครก็ได้ถึง 55,000 ปอนด์ แต่.....ด้วยประสิทธิภาพขนาดนี้ สิ่งที่ต้องแลกมาคือ อัตราการบริโภคน้ำมันจำนวนมหาศาล รวมกับค่าบำรุงรักษาราคาแพงหูฉี่ และเครื่องยนต์ที่มีอายุการใช้งานสั้นกว่าเครื่องบินอื่นๆ ที่สำคัญคือ การซื้อ SU-30 MK จะต้องดูด้วยว่า โรงงานใดเป็นผู้ประกอบให้ ถ้าเป็นโรงงานในเครือของ ซุคฮอยที่รัสเซีย ก็จะได้เครื่องบินมาตรฐานแบบหนึ่ง แต่ถ้าประกอบที่โรงงานอื่นที่ซุคฮอยว่าจ้าง เช่น โรงงานฮินดูสถานแอโรนอติคของอินเดีย ก็จะได้อีกมาตรฐานหนึ่ง(มาเลเซียได้เครื่องประกอบจากที่นี่ และกำลังปวดหัวกับ มิก29 ที่เคยประกอบจากโรงงานนี้) ที่แย่ที่สุดคือ อาจจะได้เครื่องที่ประกอบจากโรงงานเชนยางของจีน
F-16 C/D อาจจะเป็นเครื่องคุ้นเคยของนักบินไทย เพราะนักบินไทยเคยบินกับ F-16 A/B และ F-16 ADF (F-16 ชุดล่าสุดที่ส่งมาจากสหรัฐอเมริกา) ซึ่งมีระบบการบินพื้นฐานที่ค้ลายกัน แต่ท่านท้าวจะบอกว่า มันไม่เหมือนกัน ข้างนอกน่ะใช่ F-16 แต่ข้างในน่ะคนละเรื่อง F-16 A/B ของไทยเป็นเครื่องบิน F-16 Block 10-12 ซึ่งเป็นลอตที่มีการจำหน่ายไปทั่วโลกลอตแรกๆของโรงงานเจอเนอรัลไดนามิกส์ (ปัจจุบันขายกิจการบริษัท ลอคฮีตมาติน) ซึ่งระบบเอวิออนิกส์หรือระบบอิเลคทรอนิกส์การบินยังมีระบบอะนาลอกอยู่เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ F-16 C/D นั้นระบบเอวิออนิกส์ทั้งหมดเป็นระบบดิจิตอล มันก็เหมือนคุณขับวีออสรุ่นเจ กับ รุ่นเอสน่ะ ความหรูหราของอุปกรณ์มันต่างกัน F-16 C/D อาจจะดีในแง่ของความคุ้นเคยและมาตรฐานของการผลิตที่มีคุณภาพตามแบบ เมดอิน ยูเอสเอ แต่ด้วยราคาที่ไม่ถูกเลย เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและกำลังจะเป็นเครื่องบินที่ตกรุ่นแล้ว มันก็ไม่น่จะซื้อ เพราะเทคโนโลยีของเครื่องบินในตระกูล F-16 กำลังจะถึงทางตัน มันไม่มีอะไรใหม่ เพราะอมเริกาก็กำลังให้ความสนใจกับ F-35 JSF ตัวใหม่ที่กำลังจะเข้าประจำการมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ รอซื้อมือสองมาใช้งานน่าจะคุ้มค่ากว่าเยอะ
Gripen ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่ แต่สายการวิวัฒนาการของเครื่องบินจากบริษัท Saab นั้นไม่ใหม่เลย บริษัทนี้ผลิตเครื่องบินให้กับกองทัพอากาศสวีเดนมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นตระกูลคือ ดราเกน วิกเกน มาจนถึงตัวล่าุสุดนี้คือ กริเปน ถ้าถามว่าเจ้าเครื่องบินรบตัวนี้มีอะไรใหม่ ท่านท้าวขอบอกว่า ไม่มีอะไรใหม่หรอก เพราะแผนแบบส่วนใหญ่ มันก็มีอยู่ในเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 แบบอื่นๆอยู่แล้ว โดยเฉพาะเครื่องยนต์นั้น ที่ลงไว้ว่าเป็นเครื่องยนต์ Volvo Aero RM12 นั้น จริงๆแล้วมันคือเครื่องยนต์ GE F404 ที่มีอยู่ใน FA-18 C/D แต่ถ้าถามท่านท้าวว่า Gripen มีอะไรดี ท่านท้าวขอบอกว่า เป็นเครื่องบินที่มีระบบการบำรุงรักษาที่ราคาถูกมาก ที่สำคัญมันใช้เวลาสั้นมากๆในการเตรียมเครื่องขึ้นบิน สามารถบินขึ้นลงจากถนนธรรมดาๆท่ไม่มีการเตรียมการอะไรพิเศษ นอกจากหาจราจรมาโบกรถไม่ให้ชนกับเครื่องบินเท่านั้น ส่วนการปฏิบัติการรบนั้น ท่านท้าวว่าก็ไม่ต่างอะไรจาก F-16 C/D มันก็ไอ้ครือๆกันน่ะแหล่ะ
กองทัพอากาสคงอยากลองของใหม่ นักบินไทยคงอยากควบสาวสวีเดน คงเบื่อสาวมะกันเต็มที แต่ที่แน่ๆคงไม่อยากควบสาวรัสเซีย เพราะคงหาได้ไม่ยากแถวๆย่านรัชดา สาวสวีเดนนางนี้ จะดีหรือไม่ คงไม่ต้องเอาไปวัดกับ Su-30 ของมาเลย์หรอก มันคนละรุ่นกัน ส่ง F-16 A/B ของไทยกว่าครึ่งร้อยไปอัดกะแม่ง มันยิงร่วงหมดได้ให้รู้ไป จะบอกให้ว่า ในภูมิภาคอาเซียน พี่ไทยครองครองเครื่องบินรบมากเป็นอันดับสองรองจากเวียดนาม แต่ดันมีเครื่องบินรบที่บินได้จริงๆ เยอะกว่าเวียดนามอักโขนัก ซิบอกให้
ปล สิงคโปร์ไม่มีเอฟ 18 ครับ แต่มันมี F-15 ST ซึ่งเป็นสุดยอดเครื่องบินขับไล่ที่สหรัฐยอมขายให้ชาติพันธมิตร F-18 น่ะ แค่นางงามตกรอบ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2007, 21:47 โดย ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 17-10-2007, 22:27 » |
|
^ ^ ^ ^ ^ คุณ'ท้าวฯ' มีความรอบรู้จัง.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
ScaRECroW
|
 |
« ตอบ #17 เมื่อ: 18-10-2007, 07:53 » |
|
Data Link ไม่ใช่สวีเดนพัฒนาชาติแรก อเมริกาตะหาก แต่มันไม่ขายให้ประเทศนอกกลุ่มเนโต้ ยกเว้นอิสราเอล ระบบ Link16 งัย http://en.wikipedia.org/wiki/Link_16
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
|
Limmy
|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-10-2007, 15:26 » |
|
โดยส่วนตัวอยากให้ซื้อ Yukikaze มากกว่าครับ ผมชอบระบบ AI ดู ๆ ไปแล้วน่าจะเป็น บ. ขับไล่รุ่นที่ 6.5 ตามข้อมูลอันแน่นปึ๊กของท่านท้าวฯ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #20 เมื่อ: 18-10-2007, 19:50 » |
|
 รัฐบาลเผด็จการทหารไทยเค้าต่อรองราคากันเก่งเนอะ เค้าขายกันราคาตั้ง 67,244,000 USD ประมาณ 2,200 ล้านบาท หกลำตั้ง 13,200 บาท รัฐบาลไทยซื้อถูกกว่าราคาปกติ อื้อเยยยยยหงะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 18-10-2007, 20:41 » |
|
ทอ.แจงซื้อบินรบสวีเดน แถม5ลำออปชันเพียบ โพสต์ทูเดย์ ทอ.เปิดแถลงเหตุ ซื้อเครื่องบินรบสวีเดนเพราะของแถมอื้อ
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.แถลงชี้แจง การตัดสินใจซื้อเครื่องบินขับไล่ Gipren JAS-39 จากประเทศสวีเดนกว่า 3.4 หมื่นล้าน เพื่อมาทดแทนเครื่องบินเอฟ 5 E/F ที่ประจำการที่ จ.สุราษฎ์ธานี เนื่องจากสวีเดนจะให้เครื่องบินแถม เพิ่ม 5 ลำพร้อมรหัสต้นแบบของเครื่องบินดังกล่าวและทุนการศึกษาอีกหลายรายการ
ทั้งนี้ เครื่องบินที่แถมให้ ประกอบไปด้วย เครื่องบินเตือนภัย หรือ แอร์บอร์น เออรี่ วอร์นนิง จำนวน 2 ลำติดขีปนาวุธโจมตี อาร์บีเอส 15 รวมทั้งเครื่องบินซาร์ป 340 ติดเรดาห์แอร์รี่อายส์ จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินซาร์ปเปล่า 1 ลำ
นอกจากนี้ สวีเดนยังให้รหัสข้อมูลต้นแบบที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของอากาศยาน และระบบอาวุธ โดย ทอ.จะนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาในอนาคตของกองทัพ ซึ่งบริษัทอื่นไม่ได้มอบรหัสดังกล่าวให้ รวมทั้งยังให้ทุนพิเศษเพิ่มเติมแก่ช่างสรรพาวุธและช่างอิเล็กทรอนิกส์ของ ทอ.ด้วย
เครื่องบินที่สวีเดนแถมให้ เป็นเครื่องบินใช้แล้วแต่ยังไม่มาก โดย มีจำนวนบินเหลือถึง 5 หมื่น ชม. ซึ่งสามารถนำไปช่วยงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ด้วย รวมทั้งระบบเรดาร์แอร์รี่อายส์ที่ติดตั้งในเครื่องบินซาร์ป 340 นับว่ามีประสิทธิภาพ มาก สามารถจับเป้าหมายได้ทั้ง ทางเรือและทางอากาศพร้อมกัน ถือเป็นเทคโนโลยีสำคัญ พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวแม้จะใช้งบสูงถึง 3.4 หมื่นล้าน แต่จะแบ่งการใช้จ่ายงบประมาณออกเป็น 2 ระยะ เพื่อจัดหาเครื่องบินให้ครบ 1 ฝูงบินหรือไม่น้อยกว่า 16 เครื่อง แต่เนื่องจากราคาเครื่องบินขับไล่ทุกประเภทในขณะนี้มีราคาสูงขึ้นมาก จึงจำเป็นต้องจัดหาระยะแรกก่อนจำนวน 6 เครื่องในวงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=198105โถ ที่แท้ซื้อราคานี้เพราะจะเอาของแถม นึกว่าการตลาดแบบนี้ใช้ได้กะ ไฮโซหญิงแก่ไทยที่ชอบเดินห้างช้อปปิ้งนะเนี่ย ไม่ยักรู้ว่าผบ.ทอ.ก็นิสัย เป็นหญิงแก่ติดช้อปปิ้งห้างกะเค้าด้วย ซื้อแพงกว่าราคาตั้งห้าหกพันล้าน เห็นแล้วเสียดายจัง น่าจะเอามาปล่อยกู้พม่าอีก 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ScaRECroW
|
 |
« ตอบ #23 เมื่อ: 18-10-2007, 20:47 » |
|
ไอ้ตดเอ๊ย ในกบาลมีแต่แก๊สจริง ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #24 เมื่อ: 18-10-2007, 21:23 » |
|
รู้แล้วทำไมแพง มันต้องต่างกันที่ออปชั่น แอร์ วิทยุ เทป แม็ก เกียร์ออโต้ พวงมาลัยเพาเวอร์ แน่เรยยยย ถึงราคาแพงกว่าชาวบ้านตั้งสามสี่สิบเปอร์เซ็นต์ แหมนักบินเป็นเด็กแว้นซ์เก่านะเอง ถึงอยากโก้กว่าชาวบ้าน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: 18-10-2007, 21:41 » |
|
ทอ.แจงซื้อบินรบสวีเดน แถม5ลำออปชันเพียบ โพสต์ทูเดย์ ทอ.เปิดแถลงเหตุ ซื้อเครื่องบินรบสวีเดนเพราะของแถมอื้อ
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.แถลงชี้แจง การตัดสินใจซื้อเครื่องบินขับไล่ Gipren JAS-39 จากประเทศสวีเดนกว่า 3.4 หมื่นล้าน เพื่อมาทดแทนเครื่องบินเอฟ 5 E/F ที่ประจำการที่ จ.สุราษฎ์ธานี เนื่องจากสวีเดนจะให้เครื่องบินแถม เพิ่ม 5 ลำพร้อมรหัสต้นแบบของเครื่องบินดังกล่าวและทุนการศึกษาอีกหลายรายการ
ทั้งนี้ เครื่องบินที่แถมให้ ประกอบไปด้วย เครื่องบินเตือนภัย หรือ แอร์บอร์น เออรี่ วอร์นนิง จำนวน 2 ลำติดขีปนาวุธโจมตี อาร์บีเอส 15 รวมทั้งเครื่องบินซาร์ป 340 ติดเรดาห์แอร์รี่อายส์ จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินซาร์ปเปล่า 1 ลำ
นอกจากนี้ สวีเดนยังให้รหัสข้อมูลต้นแบบที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญของอากาศยาน และระบบอาวุธ โดย ทอ.จะนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาในอนาคตของกองทัพ ซึ่งบริษัทอื่นไม่ได้มอบรหัสดังกล่าวให้ รวมทั้งยังให้ทุนพิเศษเพิ่มเติมแก่ช่างสรรพาวุธและช่างอิเล็กทรอนิกส์ของ ทอ.ด้วย
เครื่องบินที่สวีเดนแถมให้ เป็นเครื่องบินใช้แล้วแต่ยังไม่มาก โดย มีจำนวนบินเหลือถึง 5 หมื่น ชม. ซึ่งสามารถนำไปช่วยงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ด้วย รวมทั้งระบบเรดาร์แอร์รี่อายส์ที่ติดตั้งในเครื่องบินซาร์ป 340 นับว่ามีประสิทธิภาพ มาก สามารถจับเป้าหมายได้ทั้ง ทางเรือและทางอากาศพร้อมกัน ถือเป็นเทคโนโลยีสำคัญ พล.อ.อ.ชลิต กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวแม้จะใช้งบสูงถึง 3.4 หมื่นล้าน แต่จะแบ่งการใช้จ่ายงบประมาณออกเป็น 2 ระยะ เพื่อจัดหาเครื่องบินให้ครบ 1 ฝูงบินหรือไม่น้อยกว่า 16 เครื่อง แต่เนื่องจากราคาเครื่องบินขับไล่ทุกประเภทในขณะนี้มีราคาสูงขึ้นมาก จึงจำเป็นต้องจัดหาระยะแรกก่อนจำนวน 6 เครื่องในวงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=198105โถ ที่แท้ซื้อราคานี้เพราะจะเอาของแถม นึกว่าการตลาดแบบนี้ใช้ได้กะ ไฮโซหญิงแก่ไทยที่ชอบเดินห้างช้อปปิ้งนะเนี่ย ไม่ยักรู้ว่าผบ.ทอ.ก็นิสัย เป็นหญิงแก่ติดช้อปปิ้งห้างกะเค้าด้วย ซื้อแพงกว่าราคาตั้งห้าหกพันล้าน เห็นแล้วเสียดายจัง น่าจะเอามาปล่อยกู้พม่าอีก  เฮ้อ แถแบบไร้ปัญญาอีก ไปซื้อเครื่องบินจากอเมริกา แม่งของแถมไม่มีเลย ราคาค่อนข้างสูงอีกต่างหาก
ทางไทยต้องการเครื่องที่ทำงานคล้ายๆเครื่องบินเอแวค มานานแล้ว และทางสวีเดนก็แถม ERIEYES มาให้ด้วยสอง แถมขีปนาวุธอีกบานเบอะ แถมเป็นเทคโนโลยีนอกนาโต้ด้วย ไทยมีโอกาสได้รับเทคโนโลยีแบบไม่กั๊กเหมือนเอฟสิบหกแน่ รัฐบาลเผด็จการทหารไทยเค้าต่อรองราคากันเก่งเนอะ เค้าขายกันราคาตั้ง 67,244,000 USD ประมาณ 2,200 ล้านบาท หกลำตั้ง 13,200 บาท รัฐบาลไทยซื้อถูกกว่าราคาปกติ อื้อเยยยยยหงะ  เรื่องข้อเสนอดีๆและราคานั้น สวีเดนเค้าพร้อมใจที่จะให้ตั้งแต่สมัยพ่อเหลี่ยมของแถยังเป็นรัฐบาลอยู่เลยครับ เพราะถือเป็นโอกาสอันดี ในวโรกาสที่ในหลวงครองราชย์ครบหกสิบปี
แต่พ่อเหลี่ยมของแถได้ปัดข้อเสนอนี้ไปครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะข้อนี้หรือเปล่า
อ่อ มีอีกข้อนะ มันเป็นการซื้อขายผ่านรัฐต่อรัฐ หน้าเหลี่ยมอาจอดค่าคอม เลยไม่เอา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 18-10-2007, 21:44 » |
|
เดี๋ยวนี้ขายเครื่องบินกันบนเว็บแล้วเหรอเนี่ย แบบนี้เอฟ 5 เก่ากองทัพน่าจะเอาไปโพสต์ในอีเบย์มั่ง เลหลัง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
Gamobank
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 18-10-2007, 21:53 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
 |
« ตอบ #28 เมื่อ: 18-10-2007, 22:06 » |
|
 ไอ้ www.cas2.com นี่ขายตั้งแต่ 2 ล้อจ่ายตลาดจนถึงเครื่องบินรบเลยเร๊อะ อ่านภาษาสวีเดนม่ายออก 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #29 เมื่อ: 18-10-2007, 22:07 » |
|
แหม ระดับรัฐบาลเผด็จการทหารมันก็ต้องซื้อออกห้างดิ จะมาซื้อเครื่องบินเกย์มาร์เก็ตที่เอามาเสนอขายทางอิน เตอร์เน็ตให้เสื่อมศักดิ์ศรีได้ไง เดี๋ยวต้องมาเจอคนทวง ความรุ่งเรืองและศักดิ์ศรีของเรากลับคืนมาอีก ก็ซื้อมัน ราคาเสี่ยแพงกว่าราคากุ๊ยห้าหกพันล้านเอง แค่ของแถม เป็นเครื่องบินมือสองเอ่อต้องเรียกว่า เครื่องบินผู้บริหาร ใช้ ไมล์ต่ำสิ อีกห้าลำก็คุ้มแล้วไม่โง่หรอกน่า เอามาจอด ให้เด็กๆ ดูในงานวันเด็ก ใครมันจะรู้ว่าเป็นเครื่องมือสอง http://www.cas2.com/Jas39Gripen.htm
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
GN-001 Exia
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: 18-10-2007, 22:16 » |
|
ซื้อ F15 อีเกิลไปเล้ย...
F-22 Raptor ก็ดี....
ซื้อเข้าไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: 19-10-2007, 13:10 » |
|
โรงงานสรรพอาวุธของเรา มีความสามารถทางเทคโนโลยีระดับไหนครับ..?
อันนี้รับจ้างประกอบยังดี..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
 |
« ตอบ #32 เมื่อ: 19-10-2007, 21:26 » |
|
เรื่องนี้ทำท่าจะกลายเป็นเรื่อง "กลับไม่ได้ไปไม่ถึง"
เป็นประเพณีนิยมแบบไทยๆอีกแล้ว ของดีๆหรือสิ่งดีๆไม่เคยตกถึงมือประชาชน
ทำไมเราต้องจ่ายแพงทุกที 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
PastelSalad
|
 |
« ตอบ #33 เมื่อ: 20-10-2007, 05:04 » |
|
ยินดีที่ได้ตกลงการสั่งซื้อมาได้ในราคาที่ถูกพอสมควรครับ
ในดีลนี้ทั้งหมด ผมชอบของแถมเป็นทุน 200 ทุนที่สุด
เพราะเราจะได้บุคคลากรมาพึ่งพาตนเอง ซึ่งตรงนี้ประเมินค่ามิได้
ว่าแต่ว่า จรวดลูกละ 40 ล้านเลยหรือครับ
เฮ้ย เดี๋ยวผมเขียนระบบนำร่องให้ แล้วขอลดราคาได้มั้ย
นี่ถ้าบ้านเราทำเองได้ ประหยัดไปเยอะเลยนะครับเนี่ย เงินเดือนนักวิทยาศาสตร์อย่างผม ถูกกว่าผู้จัดการเซเว่นอีก ทำไม่เกินสิบปีก็น่าจะทำได้ แถมได้พัฒนาภาคอุตสาหกรรมอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #34 เมื่อ: 20-10-2007, 07:32 » |
|
ยินดีที่ได้ตกลงการสั่งซื้อมาได้ในราคาที่ถูกพอสมควรครับ
เฮ้ย อ่านไงเป็นถูกคับเนี่ย ของอีตานายหน้าเกรย์มาร์เก็ตที่ประกาศขายนั่น ตกลำละ 2,200 ล้านบาท แล้วยังมีรีเบต ราคาปกติ ไม่ใช่ ราคาพิเศษ ซะด้วย หกลำ ก็ 13,200 ล้านบาท สิบสองลำ 26,400 ล้านบาท แบบยังไม่ต่อรองและ คิดรีเบต ส่วนของรัฐบาลเผด็จการทหารคุณธรรมเก๊นั่น หกลำ 19,000 ล้านบาท สิบสอง ลำ 34,000 ล้านบาท ทั้งชุดแพงกว่า 7,600 ล้านบาท มันคุ้มของแถมมือสอง มั้ยนั่น เอ้า คิด คิด 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ScaRECroW
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: 20-10-2007, 08:49 » |
|
ซื้อเครื่องบิน ไม่ได้ซื้อรถยนต์ รถยนต์น่ะ เอาวอลโว่ ไปเข้าอู่ไหนก็ซ่อมได้ ดีไม่ดีมากน้อยกว่ากันเท่านั้น แต่ ซื้อเครื่องบินรบ batch แรกเนี่ย ค่าใช้จ่ายสูงมาก เพราะต้องซื้อหมดทุกอย่าง
Hardware - เครื่องบิน - อะไหล่ต่าง ๆ เช่น ส่วนที่เกี่ยวกับตัวเครื่องตั้งแต่หัวเครื่องถึงน็อตล้อ, อะไหล่เครื่องยนต์, อะไหล่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อะไหล่ระบบอาวุธ - อุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น เยอะมาก - วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ สำหรับการซ่อมบำรุง Software - ระบบควบคุมการบิน, ระบบนำร่อง - ระบบอาวุธ - ระบบป้องกันตนเอง - ระบบตรวจซ่อม Peopleware - การฝึกอบรม นบ., ช่างเครื่องยนต์, ช่างอิเล็กทรอนิกส์, ช่างระบบอาวุธ
ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ก็เหมือนกับตอนที่ซื้อ F-5E/F ฝูงแรก ค่าใช้จ่ายก็เยอะมากในสมัยนั้น แต่พอซื้อฝูงที่สอง ค่าใช้จ่ายหลายอย่างก็ลดลงไป เพราะส่วนที่เป็น Infrastructure มีครบหมดแล้ว
ก็เช่นเดียวกับกรณีซื้อ F-16A/B ฝูงแรก พอซื้อฝูงที่2 ก็เป็นแบบเดียวกัน
ทุกประเทศที่ซื้อเครื่องบิน batch แรก ก็เจอแบบนี้เหมือนกัน อเมริกาที่ผลิคเครื่องบินเอง ก็เจอในช่วงแรกราคาเฉลี่ยต่อลำจะแพงมาก เพราะมันมีเงินส่วนลงทุนที่จริงๆ แล้วสูงกว่าราคาเครื่องบินเพียว ๆ เสียอีก ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะต้องถูกบวกเข้าไปในราคาขาย เครื่องบินพัฒนาแต่ละแบบใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี บางแบบ เกือบ 10 ปี เงินที่ใช้ไปในช่วงนี้ มันต้องถูกบวกรวมเข้าไปในราคาเครื่องเพราะมันเป็นต้นทุน
ยกตัวอย่าง Raptor ราคาที่ประกอบจริง ๆ น่าจะสักประมาณ 10-30 ล้านดอลล่าร์ แต่ที่ Lockheed ขายให้รัฐบาลอเมริกันมันมากกว่านั้นเท่าตัวเป็นอย่างน้อย
แล้วที่สำคัญต้อง สต๊อกอะไหล่เริ่มต้นด้วย สาเหตุที่สิงคโปร์ให้ F-16A/B เพราะว่ามันไม่คุ้มที่จะต้องแบกสต๊อกอะไหล่อีกหนึ่งระบบ เพื่อเครื่องบินที่มีไม่ถึง 10 ลำ อะไรอย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นจะไปเอาราคาที่ขายต่อลำขาดตัวนั้น มานับไม่ได้ ถ้าจะเอามานับก็ได้ด้วยเหตุผลเดียวคือ มุ่งทำลาย โจมตี โดยปราศจากความรู้ หรือถ้ามีความรู้ก็จงใจเลือกเฉพาะข้อมูลส่วนที่ตอบสนองสันดานชั่วของตนเองได้ เอามาเปิดเผยก็ไม่ว่ากัน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2007, 08:51 โดย ScaRECroW »
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #36 เมื่อ: 20-10-2007, 09:45 » |
|
^ ^ เวลาเสนอราคามาตรฐานสากลโลก เค้าจะมี Base Price ตัวเปล่าๆ และ Options แปะมาให้ จำเป็นใช้อะไรตรงไหนก็แจงรายละเอียดมาเป็นหาง ว่าว ไม่ใช่เสนอมาก้อนเดียวแล้วบอกโน่นแถมนี่แถม แต่แพงกว่า Base Price โคตร แบบว่าหมกๆ มาเป็นก้อนเดียวไง ตรวจสอบยากดี ไม่เคยจัด ซื้ออะไรมั่งเลยเหรอ งั้นจะรู้มั้ยเนี่ยว่ารีเบตคืออะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ScaRECroW
|
 |
« ตอบ #37 เมื่อ: 20-10-2007, 09:49 » |
|
^ ^ เอาไอ้ที่ว่าราคารีเบตน่ะมาแถกแจกแจงให้ละเอียดซะทีสิว่า มันมีมันไม่มีอะไรบ้าง อย่ามัวแต่ตดอยู่
ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร บอกมาว่ารู้แค่นี้ ราคาเครื่องรุ่นเก่า 150 เครื่อง เฉลี่ยเครื่องละ 2000 กว่าล้านบาทน่ะ มันคนละเรื่องกับราคาเครื่องใหม่ 6 เครื่อง เนี่ยจากข่าวเดียวกัน ถ้าอ่านแล้วเข้าใจเฉพาะตรงรีเบต ก็ไม่ว่ากัน ก็ตดต่อไปเถอะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2007, 09:54 โดย ScaRECroW »
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: 20-10-2007, 10:03 » |
|
^ ^ Regular price of one fighter is about 67 244 000 USD now at rebate prices. Thomas Persson Cell phone +46-707-602119 Stockholm Swedenโทรเลย โทรเลย ได้คำตอบแล้วมาบอกกันมั่งนะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ScaRECroW
|
 |
« ตอบ #39 เมื่อ: 20-10-2007, 10:07 » |
|
It is possible to buy long term contracts for spare parts, education, pilot training and additional Weapon Systems from SAAB if aircrafts are purchase.
อ้าวเฮ้ยทำไมไม่อ่านตรงนี้ด้วยล่ะ อ๋อ ถ้าเอามาอ่านเด๊วจะเข้าใจละสิว่า ถ้าซื้อจากไอ้คนนี้ ของพวกนี้เขาขายแยก
เวรละ แล้วถ้าซื้อจากไอ้คนนี้ จะได้ล้อด้วยไหมเนี่ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: 20-10-2007, 10:10 » |
|
^ ^ Regular price of one fighter is about 67 244 000 USD now at rebate prices. Thomas Persson Cell phone +46-707-602119 Stockholm Swedenโทรเลย โทรเลย ได้คำตอบแล้วมาบอกกันมั่งนะ  อย่าแถสิครับ รู้น้อยแต่มาโชว์พาวแล้วเที่ยวด่าคนอื่นจินตนาการน้ำแตกตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกับคนอื่นแต่ตัวเองมีส่วนที่ไม่เหมือนคนอื่นก็คือความปัญญาอ่อนของตัวเอง แก่แล้วนะครับ น่าจะคิดได้ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: 20-10-2007, 10:10 » |
|
ขายแยกเป็นออปชั่นก็เป็นการเสนอราคาแบบมาตรฐานโลกอยู่แล้ว เวลาซื้อรถเค้าแถมพาไปสอบใบขับขี่ด้วยเหรอ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: 20-10-2007, 10:19 » |
|
เฮ้ย อ่านไงเป็นถูกคับเนี่ย ของอีตานายหน้าเกรย์มาร์เก็ตที่ประกาศขายนั่น ตกลำละ 2,200 ล้านบาท แล้วยังมีรีเบต ราคาปกติ ไม่ใช่ ราคาพิเศษ ซะด้วย หกลำ ก็ 13,200 ล้านบาท สิบสองลำ 26,400 ล้านบาท แบบยังไม่ต่อรองและ คิดรีเบต ส่วนของรัฐบาลเผด็จการทหารคุณธรรมเก๊นั่น หกลำ 19,000 ล้านบาท สิบสอง ลำ 34,000 ล้านบาท ทั้งชุดแพงกว่า 7,600 ล้านบาท มันคุ้มของแถมมือสอง มั้ยนั่น เอ้า คิด คิด  แถครับ เกรย์มาร์เก็ต มันไม่มีอะไรพ่วงด้วย เครื่องเพียวๆ ส่วนรัฐบาลเผด็จการ ซื้อแพงกว่าเจ็ดพันล้าน แต่ได้ทุนอบรม200ทุน ขีปนาวุธต่างๆ เครื่องบินติด ERIEYES สองลำ และไม่ติด ERIEYES 1 ลำไว้ซ้อม กราวน์สเตชั่น 3 สถานี และอะไรต่างๆอีกเยอะแยะ อย่าแถแบบไม่มีแก่นสารสิครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ScaRECroW
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: 20-10-2007, 10:39 » |
|
แถครับ เกรย์มาร์เก็ต มันไม่มีอะไรพ่วงด้วย เครื่องเพียวๆ
ส่วนรัฐบาลเผด็จการ ซื้อแพงกว่าเจ็ดพันล้าน
แต่ได้ทุนอบรม200ทุน ขีปนาวุธต่างๆ เครื่องบินติด ERIEYES สองลำ และไม่ติด ERIEYES 1 ลำไว้ซ้อม กราวน์สเตชั่น 3 สถานี และอะไรต่างๆอีกเยอะแยะ
อย่าแถแบบไม่มีแก่นสารสิครับ
มันเป็นสันดานครับ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาเพราะโชคช่วยซะด้วย บ่มเพาะมาอย่างพากเพียรเชียวนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่? ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: 20-10-2007, 10:59 » |
|
เอ็นจีโอ-สื่อสวีเดนโวยรัฐบาลขายเครื่องขับไล่'กริฟเฟน' รัฐบาลไทยซึ่งเป็นเผด็ ขณะที่ชอบอ้างว่าวางตัวเป้นกลาง เว็บไซต์สารานุกรมดังระบุราคาแค่ลำละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม12 ลำ มูลค่า 20,000 ล้าน แต่ไทยซื้อมูลค่ากว่า 34,000 ล้าน ทอ.แจงไม่มีค่านายหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมว่า หนังสือพิมพ์'ดิ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮรัลด์ ทรีบูน'รายงานเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมว่า กรณีที่ทางกาสวีเดนเตรียมขายเครื่องบินรบเอนกประสงค์ กริฟเฟน ให้กับกองทัพอากาศไทยกำลังกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในสวีเดน เพราะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน หลังจากที่มีการประกาศความตกลงที่จะซื้อขายดังกล่าวกันในสวีเดนเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เสียงคัดค้านเป็นเพราะเห็นว่ารัฐบาลไทยในเวลานี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
ทั้งนี้นายโอลา แมตต์สัน เลขาธิการสมาคมสันติและการรอมชอมแห่งสวีเดน (เอสพีเอเอส) ระบุว่า รัฐบาลสวีเดนไม่ควรขายอาวุธให้กับประเทศไทยที่เป็นประเทศเผด็จการทหาร ในขณะที่นายแจน โอเอล แอนเดอร์สสัน ผู้อำนวยการโครงการสถาบันกิจการระหว่างประเทศ ที่เป็นสถาบันทางวิชาการอิสระของสวีเดน ชี้ว่าการที่สวีเดน ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง ยึดถือแนวทางเป็นกลางมายาวนาน กลับมาผลักดันกิจการขายอาวุธระหว่างประเทศ นอกจากจะทำให้การดำรงความเป็นกลางยุ่งยากขึ้นแล้วยังทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศที่ส่งเสริมเสรีภาพ สันติภาพไม่ได้รับการเชื่อถืออีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวระบุด้วยว่าจากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์วิกิพีเดีย ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า กริฟเฟน หรือ กริฟฟิน เป็นเครื่องบินรบแบบอเนกประสงค์ สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลายภารกิจ ทั้งประจันบาน, โจมตี (ด้วยจรวดจากอากาศสู่อากาศ) และ เครื่องบินตรวจการณ์ ขณะนี้มีประจำการอยู่ในกองทัพอากาศของ 4 ประเทศ ประกอบด้วย สวีเดน, แอฟริกาใต้, ฮังการี และสาธารณรัฐเชค โดยจนถึงเดือนกันยายนปี 2549 ที่ผ่านมามีการสร้างเสร็จและส่งมอบแล้วรวม 184 ลำ ยังมีคำสั่งซื้อคงค้างอยู่อีก 232
วิกิพีเดีย ระบุว่าราคาขายต่อลำไว้ว่า อยู่ที่ 25 ล้านดอลลาร์ในปี 2541 และ 45-50 ล้านดอลลาร์ในปี 2549 ซึ่งหากเป็นไปตามนั้น มูลค่าของเครื่องบินดังกล่าวที่ทางการไทยจัดซื้อรวม 12 ลำจะเท่ากับเพียง 600 ล้านดอลลาร์ หรือราว 20,400 ล้านบาท (ที่อัตราแลกเปลี่ยน 34 บาทต่อดอลลาร์) ขณะที่กองทัพอากาศของไทยระบุจะซื้อเครื่องดังกล่าวตากสวีเดนสูงถึง 34,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่า เครื่องบินกริฟเฟน มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น คือ เจเอเอส 39เอ, เจเอเอส 39บี, เจเอเอส39ซี, เจเอเอส 39ดี และ เจเอเอส 39อี/เอฟ และวิกิพีเดียไม่ได้ระบุแต่อย่างใดว่า ราคาต่อหน่วยดังกล่าวเป็นราคาของรุ่นใด ในขณะที่ทางกองทัพอากาศไทยระบุว่าจะจัดซื้อเครื่องบินกริฟเฟนรุ่น เจเอเอส 39ซี/ดี (เครื่องบินรบในสมรรถนะเดียวกับเครื่องบินรบของนาโต้ ที่มีที่นั่งเดี่ยวและ 2 ที่นั่ง)
น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองเจ้ากรมกิจการพลเรือน และรองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนเอฟ 5 อีเอฟ ซึ่งกองทัพอากาศมีข้อสรุปที่จะซื้อเครื่องบินกริฟเฟนของสวีเดน ว่า ขณะนี้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ยังไม่มีการลงนามเซ็นสัญญาอะไรกับทางสวีเดน เพราะการจัดซื้อครั้งนี้ดำเนินการด้วยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล ดังนั้น ขั้นตอนต่อไปกองทัพอากาศจะเสนอโครงการไปยังกระทรวงกลาโหมเพื่อพิจารณาเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินกริฟเฟนเข้าประจำการ ส่วนขั้นตอนการลงนามอยู่ที่รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นผู้ลงนามหรือจะให้กองทัพอากาศลงนามสัญญาก็ได้ ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไปตามระเบียบ
รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า สำหรับการจัดซื้อของกองทัพอากาศครั้งนี้เป็นการของบประมาณประจำปี 2551 ตามปกติที่กองทัพอากาศจะได้รับการพิจารณา ไม่ใช่เป็นงบพิเศษเพื่ออนุมัติจัดซื้อ แต่เป็นการเกลี่ยงบประมาณในโครงการต่างๆของกองทัพอากาศ ซึ่งเราได็ดำเนินการคัดเลือกโครงการที่มีความเร่งด่วนและระงับโครงการบางอย่างที่จะเสนอของบประมาณในปี 2552 ออกไป เพราะกองทัพอากาศมีความจำเป็นที่จะต้องจัดซื้อเครื่องบินขับไล่มาทดแทนเครื่องบินเอฟ 5 ที่จะปลดประจำการไป ทั้งนี้ การจัดซื้อเครื่องบินกริฟเฟนนี้ เราดำเนินการด้วยเงินงบประมาณไม่มีการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือบาร์เตอร์เทรดตามนโยบายเดิมของรัฐบาลที่ผ่านมา รวมทั้งไม่มีค่าขายหน้าหรือค่าคอมมิสชั่นใด เพราะเป็นการจัดซื้อด้วยวิธีแบบรัฐต่อรัฐ
"เหตุผลสำคัญที่กองทัพอากาศเลือกที่จะซื้อเครื่องบินกริฟเฟน เพราะกองทัพอากาศพิจารณาอย่างรอบด้าน และสวีเดนมีข้อเสนอให้กับเราแบบเต็มออฟชั่น สิ่งสำคัญที่สุดคือสวีเดนมอบซอล์ทโครตเดต้า ซึ่งเป็นรหัสข้อมูลเครื่องให้กับเราไว้เพื่อพัฒนาระบบได้เองในอนาคต ซึ่งไม่มีประเทศใดมอบรหัสตัวนี้ให้กับไทย บ่งบอกถึงความจริงใจ รวมถึงการสนับสุนนหลังการขายสวีเดนที่ดีมาก ซึ่งกองทัพอากาศแทบไม่จำเป็นที่จะต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม"รองโฆษกกองทัพอากาศกล่าว
น.อ.มณฑล กล่าวว่า ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์ว่ากองทัพอากาศใช้เหตุผลที่ซื้อเครื่องบินกริฟเฟน เพราะอ้างข้อกฎหมายที่สหรัฐไม่ขายอาวุธให้กับประเทศรัฐประหารนั้น ซึ่งวันที่แถลงข่าวมีสื่อมวลชนถามประเด็นนี้ ผู้บัญชาการทหารทหารอากาศไม่ได้ระบุว่าเหตุผลที่ซื้อเครื่องบินกริฟเฟนด้วยเหตุผลข้างต้น ท่านชี้แจงชัดเจนว่าการซื้อเครื่องบินเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางทีเรามีเงินที่จะซื้อ แต่ประเทศผู้ขายเขาไม่ยอมขายให้ก็ได้ โดยเฉพาะระบบอาวุธ ซึ่งหากเราซื้อเครื่องบินรบ แต่ติดปัญหาที่ไม่ได้อาวุธตามต้องการ ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก เพราะเราจะไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุด และผู้บัญชาการทหารอากาศก็ยืนยันชัดเจนว่า เครื่องบินกริฟเฟนสมรรถะการรบไม่ได้ด้อยกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นที่พิจารณาเลย และเหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์ของเรามากที่สุด ซึ่งเราส่งนายทหารระดับสูงของกองทัพไปทดลองขับเครื่องบินทั้ง 3 รุ่น คือ เครื่องบินเอฟ 16 ซีดี เครื่องบินซู 30 และเครื่องบินกริฟเฟน ซึ่งสมรรถะของเครื่องบินกริฟเฟนไม่ได้ด้อยกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นเลย
'เครื่องบินทุกรุ่นเป็นเครื่องบินที่ดี แต่อะไรคือสิ่งที่ดีและเหมาะสมที่สุด เครื่องบินเอฟ 16 ซีดีของสหรัฐก็ดี แต่ติดปัญหาบางอย่างที่กล่าวมา ยกตัวอย่างมีประเทศหนึ่งที่เล็กขอซื้อเครื่องบินเอฟ 16 แต่เขาไม่แถมระบบอาวุธที่ดีและทันสมัยให้ ด้วยเหตุผลประเทศนี้คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธที่หนักและทันสมัย แต่เมื่อมีประเทศหนึ่งที่ใหญ่กว่ากลับให้อาวุธที่ดีและทันสมัย มากกว่าประเทศที่เล็ก อย่างนี้กถือว่าไม่แฟร์กลับประเทศผู้ซื้อ ขณะที่เครื่องบินซู 30 ก็เป็นเครื่องที่ดี แต่มีปัญหาที่เครื่องบินชนิดนี้ลำใหญ่ใช้น้ำมันจำนวนมาก ดังนั้น ในอนาคตเราจะรับปัญหาตรงนี้ได้หรือไม่ หากไม่มีเงินเติมน้ำมันก็เท่ากับเสียเปล่า ซึ่งเครื่องบินกริฟเฟนเป็นเครื่องที่เล็ก และทันสมัยมีความคล่องตัวสูง ด้วยราคาขนาดนี้ถือว่าดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดกับกองทัพไทย ที่สำคัญคือออฟชั่นที่เขาเสนอให้เรา ซึ่งดีกว่าข้อเสนอของประเทศอื่น'รองโฆษกกองทัพอากาศกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของ'มติชน ออนไลน์'พบว่า เครื่องบินกริฟเฟ็น เป็นเครื่องบินรบผลิตโดยบริษัท'Saab'โดยบริษัทนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ทำสัญญาและรับผิดชอบด้านการ,การตลาด และคอยโฆษณาสนับสนุนเครื่องบินรุ่นนี้ทั่วโลกด้วย มีการผลิต'ตั้งแต่เมื่อปี 1996 และโดยถูกใช้ในสวีเดนและขายให้แก่บางประเทศ เช่น แอฟริกาใต้,ฮังการี และสาธารณรัฐเชก
เครื่องบิน'กริฟเฟ็น'เป็นเครื่องบินประเภทนักบินคู่ มีสมรรถภาพถูกออกแบบให้เป็นเครื่องบินที่มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และความคล่องตัวในการบิน และสวีเดนได้เลือกที่จะพัฒนาเครื่องบินกริฟเฟ็น แทนการซื้อเครื่องบินเอฟ 16 จากประเทศดังๆ โดยสมรรถภาพหนึ่งที่น่าสนใจของเครื่องบินสวีเดนรุ่นนี้ก็คือ สามารถลงจอดบนทางหลวง(ตามยุทธศาสตร์ด้านกลาโหมของสวีเดน)และสามารถเติมน้ำมัน หรือติดอาวุธใหม่ได้ภายใน 10 นาที ซึ่งใช้เจ้าหน้าที่ทหารจำนวนไม่มากนัก ที่สามารถใช้รถบรรทุกเข้าทำการเติมน้ำมันหรือติดอาวุธดังกล่าวให้แก่เครื่องบินลำนี้ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=7810&catid=1มีคนเอามาฝาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
jerasak
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: 20-10-2007, 13:56 » |
|
ยินดีที่ได้ตกลงการสั่งซื้อมาได้ในราคาที่ถูกพอสมควรครับ
ในดีลนี้ทั้งหมด ผมชอบของแถมเป็นทุน 200 ทุนที่สุด เพราะเราจะได้บุคคลากรมาพึ่งพาตนเอง ซึ่งตรงนี้ประเมินค่ามิได้
ว่าแต่ว่า จรวดลูกละ 40 ล้านเลยหรือครับ เฮ้ย เดี๋ยวผมเขียนระบบนำร่องให้ แล้วขอลดราคาได้มั้ย นี่ถ้าบ้านเราทำเองได้ ประหยัดไปเยอะเลยนะครับเนี่ย เงินเดือนนักวิทยาศาสตร์อย่างผม ถูกกว่าผู้จัดการเซเว่นอีก ทำไม่เกินสิบปีก็น่าจะทำได้ แถมได้พัฒนาภาคอุตสาหกรรมอีก
"เหตุผลสำคัญที่กองทัพอากาศเลือกที่จะซื้อเครื่องบินกริฟเฟน เพราะกองทัพอากาศพิจารณาอย่างรอบด้าน และสวีเดนมีข้อเสนอให้กับเราแบบเต็มออฟชั่น สิ่งสำคัญที่สุดคือสวีเดนมอบซอล์ทโครตเดต้า ซึ่งเป็นรหัสข้อมูลเครื่องให้กับเราไว้เพื่อพัฒนาระบบได้เองในอนาคต ซึ่งไม่มีประเทศใดมอบรหัสตัวนี้ให้กับไทย บ่งบอกถึงความจริงใจ รวมถึงการสนับสุนนหลังการขายสวีเดนที่ดีมาก ซึ่งกองทัพอากาศแทบไม่จำเป็นที่จะต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม"รองโฆษกกองทัพอากาศกล่าว
เขียนระบบเองโดยไม่มีข้อมูลพื้นฐานคงไม่ทันกินนะครับ แต่เห็นว่าทางสวีเดนให้ source code มาด้วย (ผมเดาคำจากในข่าวที่ใช้ว่า "ซอล์ทโครตเดต้า") ซึ่งต่อไปเราก็สามารถพัฒนาระบบต่อได้เอง ต่อไปไม่แน่ว่าคุณ PastelSalad อาจได้ไปช่วยพัฒนาระบบนะครับ เอาวุฒิสมัครเข้ากองทัพไปเลย แต่ถ้าจะไม่เป็นทหารแล้วไปรับงานแบบเป็น out source ของกองทัพคงยังไม่มีให้เห็นนะผมว่า เพราะกองทัพคงไม่กล้าเสี่ยงอะไรแบบนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
 |
« ตอบ #48 เมื่อ: 20-10-2007, 14:59 » |
|
????????????????? ???????????????????????? ?????????????????????????????? ????????????????????????????????????? ????????????????? ?????????? ????????????????????????????????????????????? ???????????? ????????????????????????????????? ????????????????????????? ?????????? ????????????????????????????????????????
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|