ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 19:28
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  วันนี้ งานรำลึก14ตุลา มีสองงาน?? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
วันนี้ งานรำลึก14ตุลา มีสองงาน??  (อ่าน 1164 ครั้ง)
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« เมื่อ: 15-10-2007, 02:27 »

ผมไปงานที่ อนุสาวรีย์14ตุลา ไม่ยักรู้ว่าเขามีอีกงานนึง 
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #1 เมื่อ: 15-10-2007, 02:29 »

รำลึก 14 ตุลา : เฟ้นหาอุดมการณ์ 14 ตุลา เจอแต่ ปชต.อันสับสน   
 





เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 50 โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มธ. ร่วมกับกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 40 และคนเดือนตุลาไม่เอาเผด็จการ จัดงานรำลึก 34 ปี 14 ตุลา



กิจกรรมเริ่มต้นขึ้น ด้วยการอ่านแถลงการณ์และบทกวี พร้อมทั้งแสดงละครล้อเลียน ณ บริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีผู้เข้าร่วม อาทิ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.เหวง โตจิราการ นายเกรียงกมล เลาหะไพโรจน์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข

 




โดยละครล้อเลียนนั้น ได้เสียดสีอดีตคนเดือนตุลา โดยมีคนสวมหน้ากากเป็นนายธีรยุทธ บุญมี นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน และนายประพันธ์ คูณมี และทำพิธีจุดธูปอัญเชิญดวงวิญญาณจอมพลถนอม กิตติขจร เพื่อคารวะขอขมาที่เคยขับไล่ในสมัยเหตุการณ์ 14 ตุลา โดยมีบุคคลที่สวมหน้ากากนายธีรยุทธ เป็นผู้นำในการทำพิธีดังกล่าว และช่วงท้าย ได้ให้คนสวมหน้ากาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ยืนให้อดีตแกนนำคนเดือนตุลาก้มลงเลียรองเท้าทหารพร้อมทั้งตะโกนว่า เผด็จการจงเจริญ

 

ถัดจากนั้น เป็นการอภิปรายเนื่องในโอกาส 34 ปี 14 ตุลา ในหัวข้อ “เจตนารมณ์ 14 ตุลา กับสถานการณ์ปัจจุบัน” ผู้ร่วมอภิปราย อาทิ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ปี 2519, วิจิตร ศรีสังข์ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังธรรม มธ. และอดีตนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2517, ณัฐวุฒิ วัชรกุลดิลก อดีตกรรมการสหพันธ์นักศึกษาเสรีแห่งประเทศไทย, นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ ผู้ช่วยบรรณาธิการเครือนชั่นกรุ๊ป อดีตสมาชิกวงดนตรีต้นกล้า และสมาชิกสภาองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2517 ดำเนินรายการโดย จรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตผู้ก่อตั้งสภาหน้าโดม มธ. และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ล่าสุดเพิ่งถูกถอดถอนไปหลังเข้าร่วมกิจกรรมต้านรัฐประหาร

 

วิจิตร ศรีสังข์ กล่าวว่า อุดมการณ์ 14 ตุลา เป็นเรื่องต้องการรัฐธรรมนูญ ต้องการให้ประชาชนเข้ามามีอำนาจตัดสินใจการบริหารประเทศ และไม่ต้องการรัฐทหาร ไม่ต้องการให้ทหารใช้อาวุธมายึดอำนาจ เพราะมันก็คือการปล้นประเทศชาติ เท่านั้นเองคือสิ่งที่คิดกันเมื่อ 14 ตุลา ถ้าเทียบกับสถานการณ์ทุกวันนี้ สถานการณ์มันซับซ้อนมากขึ้นว่า เราต้องการรัฐธรรมนูญแบบไหน

 

“บางที คนอย่างคุณคำนูณ (สิทธิสมาน) หรือประพันธ์ (คูณมี) เขาอาจเข้าใจว่า กำลังสู้กับเผด็จการอยู่ก็ได้”

 

วิจิตรกล่าวว่า ทุกวันนี้เราได้ยินคำว่า ‘อำมาตยาธิปไตย’ ซึ่งเข้าใจว่าชาวบ้านร้อยละ 90 ไม่เข้าใจว่ามันแปลความหมายว่าอะไร แต่ที่จะพูดถึงประเด็นนี้คือ ก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา ก็มี ‘อำมาตยาธิปไตย’เหมือนกัน เพราะไม่เชื่อว่าพลังนักศึกษาอย่างเดียวจะไปล้มจอมพลถนอม จอมพลประภาสได้

 

มาวันนี้ จึงมีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลายกันไปหมด แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ ประชาชนที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ ล้มอำมาตยาธิปไตย มีจำนวนน้อยลงทุกที

 

“ปัญหาคือ ทำอย่างไรที่จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีโอกาสเข้าร่วมมากกว่านี้ ซึ่งผมคิดว่ามันต้องเป็นเรื่องของพรรคการเมืองอยู่ดี

 

“พูดกันอย่างนี้แล้วกันว่า ปี 2519 พรรคประชาธิปัตย์ทำท่าจะเติบโต ตอนนั้นมี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้า เขาก็ทุบทิ้ง มาวันนี้ พรรคไทยรักไทยทำท่าจะเติบโต ก็ถูกทุบทิ้ง”

 

ต่อเรื่องพรรคการเมืองนั้น วิจิตรกล่าวว่า พรรคการเมืองบ้านเราจะเป็นรัฐบาลผสมที่แข็งแรงไม่ได้ ประเทศไทยมีอำนาจรัฐบาลซ้อนรัฐบาลอยู่ตลอด แล้วเทวดาที่ไหนก็บริหารประเทศไมได้ ไม่มีอีกแล้ว ต้องเข้าไปทำความเข้าใจให้เห็นว่า ปัญหาที่ว่า ‘อำมาตยาธิปไตย’ คืออะไรให้คนเขาเข้าใจ

 

เขาย้ำพร้อมกับถามทิ้งท้ายไว้ว่า เจตนารมณ์ 14 ตุลา คืออยากได้รัฐธรรมนูญ ไม่ชอบรัฐทหาร ไม่อยากให้ทหารปฏิวัติ แล้วตอนนี้ เราต้องการรัฐธรรมนูญแบบไหน ประชาธิปไตยแบบไหนที่ประชาชนต้องการ

 

ด้านจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า การเรียกหาเสรีภาพ ใช้เวลามานานมาก ตั้งแต่ปี 2490 มาจนปี 2516 ก็ใช้เวลาตั้ง 26 ปีที่เมืองไทยอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร มีการร่างรัฐธรรมนูญครั้งละนานๆ หลายปี แล้วก็ใช้ฉบับละสั้นมากๆ ก่อนจะมีการยึดอำนาจอีก

 

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าวว่า การปกครองแบบเผด็จการทหารที่ยาวนานสร้างปัญหากับประเทศมาก แล้วก็รับเอาแนวคิดประชาธิปไตยมา ผ่านทางปัญญาชนไทย มีการเรียกร้องเสรีภาพทางวิชาการผ่านทางมหาวิทยาลัย มีการเรียกร้องเกี่ยวกับปากท้องของประชาชน เช่น ประท้วงการขึ้นค่ารถเมล์ และการเคลื่อนไหวอีกหลายๆ อย่าง นั่นคือ เป็นสภาพที่ไม่พอใจเผด็จการที่สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การเรียกร้องเคลื่อนไหวต่างๆ  ไม่ทรงพลัง จนกระทั่งมีการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ และผู้เรียกร้องถูกจับเป็น 13 กบฏ

 

“ประเด็นใหญ่ที่ขมวดให้คนมารวมกันได้คือการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ”

 

จาตุรนต์กล่าวว่า แม้แรงผลักดันรัฐธรรมนูญ จะมาจากความไม่พอใจในการใช้อำนาจบาตรใหญ่ การทำอะไรที่นอกกฎหมาย แต่เรายังมีสิ่งที่พัฒนาความคิดกันไม่ชัดเจนนัก ว่าที่แท้แล้ว เราต้องการเรียกร้องรัฐธรรมนูญไปทำไม และแม้ว่าผู้ไปยื่นเรียกร้องรัฐธรรมนูญที่ถูกจับไปด้วยนั้นจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม แต่ความหมายสำคัญของการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ คือการปกครองโดยนิติรัฐ นิติธรรม ซึ่งประเทศไทยไม่มี

 

เขากล่าวว่า มาถึงวันนี้ เจตนารมณ์ 14 ตุลา อยู่ในสถานะที่ถูกอธิบายแบบสับสน คนกลุ่มหนึ่งอาจจะมีคำอธิบายแบบหนึ่ง แล้วก็เชื่อว่าไม่สับสน แต่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ตีความว่า ขอให้ได้ต่อต้านรัฐบาล

 

“และบางกลุ่ม เลยเถิดไปว่า ถ้ารัฐบาลไม่ดี นโยบายไม่ดี ก็รับไม่ได้ และข้าขอเป็นผู้ตัดสิน แล้วไปร่วมกับเผด็จการ” จาตุรนต์กล่าว

 

จาตุรนต์กล่าวต่อไปว่า ความคิดที่ว่า ‘ยอมไม่ได้ ข้าขอเป็นผู้ตัดสิน’ คือการไม่ยอมรับในระบอบรัฐธรรมนูญ บอกว่าคนส่วนหนึ่งสามารถตัดสินประเทศได้ ทหารมายึดก็ไม่เสียหายอะไร จะมาจากเผด็จการก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งการพูดแบบนี้คือการไม่ยอมรับระบอบประชาธิปไตย ไม่ยอมให้ประเทศเป็นนิติรัฐ วิธีคิดเช่นนี้ นอกจากทำให้เจตนารมณ์เดือนตุลาสับสนแล้ว ยังทำให้ความหมายของคนเดือนตุลาเกือบจะหาคำนิยามไม่ได้

 

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยตั้งคำถามว่า ทำไมคนจำนวนมากย้ายข้างไปสนับสนุนเผด็จการ คนเดือนตุลาจำนวนไม่น้อย ปัญญาชนจำนวนมาก ได้ย้ายข้างไปสนับสนุนเผด็จการ ในทางการเมืองผมถือว่าน่าเสียใจอย่างที่สุดที่ปัญญาชนผู้เคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย หันไปสนับสนุนเผด็จการ แถมยังอ้างว่าเป็นคนเดือนตุลา

 

จาตุรนต์กล่าวว่า คนจำนวนหนึ่งคิดว่า ถ้ามีรัฐบาลที่ทุจริต ไม่มีจริยธรรม ก็เอาคนดีมาปกครอง จะล้มรัฐธรรมนูญก็ได้ แล้วรัฐธรรมนูญใหม่จะดีหรือไม่ดีก็เป็นเรื่องคนเขียน ทั้งนี้บ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่นั้น เป็นเรื่อง ‘ระบบการปกครอง’ แต่คนไทยจำนวนมากเหลือเกินในประเทศไทยไม่ให้ความสำคัญกับระบบ ระบอบ แต่ไปเน้นที่ตัวบุคคล ไปเน้นในสิ่งที่เป็นนามธรรม

 

เขาได้เสนอทิ้งท้ายว่า คงต้องมาถกถึงเจตนารมณ์ 14 ตุลา แล้วสร้างองค์ความรู้ใหม่ สร้างกติกาว่า อะไรคือระบอบรัฐธรรมนูญ นิติรัฐคืออะไร นิติธรรมคืออะไร เสรีภาพคืออะไร เสรีภาพสื่อคืออะไร ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ระบบพรรคการเมืองสำคัญแค่ไหน

 

เขาเสนอว่า สังคมไทยต้องรวบรวมคนที่คิดอะไรได้ ปัญญาชน มารวมกัน ดีกว่าจะให้สังคมไทยเรียนรู้จากประสบการณ์ทางตรงที่ใช้เวลายาวนาน เหมือนสมัยปี 2490 ที่ต้องใช้เวลาถึง 26 ปี ให้ความเลวร้ายสะสมถึงเกิด 14 ตุลา ขึ้นมา แล้วสังคมเรา ถ้าให้คมช.ยึดอำนาจไปห้าปีสิบปี ทุกคนคงเรียนรู้กันหมดว่ามันเลวร้ายจริงๆ แต่เวลานี้ ปัญญาชนย้ายข้างไป

 

“รากฐานความคิดมันไม่แน่น ที่ผมเสนอคือ มาช่วยกันคิด สร้างความเข้าใจ อย่าปล่อยให้สังคมไทยเรียนรู้ทางตรงจนใช้เวลานานถึงสิบปีกว่าจะมาเรียนรู้ว่า เผด็จการมันเลวร้ายจริงๆ จะทำอย่างไรให้มันมีทางลัด แทนที่จะผ่านประสบการณ์ทางตรงที่ใช้เวลายาว ก็ต้องมาเร่งสร้างองค์ความรู้” จาตุรนต์กล่าว

 

นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว เจตนารมณ์ 14 ตุลา ไม่ชัดเจน เราไม่เคยพูดเรื่องหลักการ มีแต่อารมณ์ เราจึงไม่เคยมีหลักการเรื่องประชาธิปไตย จึงไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร มีแต่การพูดเพื่อโก้เก๋ที่เรียกร้องเสรีภาพ แต่เป็นเสรีภาพของตัวเองเท่านั้นเอง

 

“ดังนั้น ประชาธิปไตยของสังคมไทย ก็เป็นของคนมีสตางค์และมีอำนาจ” นิธินันท์กล่าว

 

นิธินันท์กล่าวว่า การจะทำความเข้าใจหลักการของประชาธิปไตย ต้องไม่ลืมสองหลักใหญ่ของเจตนารมณ์ 14 ตุลา คือหลักประชาธิปไตย และหลักนิติรัฐ

 

ในเรื่องหลักประชาธิปไตยนั้น คือหลักของประชาชน อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ที่จะใช้ปกครองตัวเอง ดังนั้น ประชาธิปไตยจึงนำไปสู่ความเสมอภาค, เป็นการปกครองโดยเสียงส่วนใหญ่ที่เคารพเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ปิดปากคนส่วนน้อย และไม่ใช่เสียงส่วนน้อยที่ไปกระทืบคนที่คิดไม่ตรงกัน

เพราะการเคารพเสียงส่วนน้อย นำไปสู่การตรวจสอบ

 

“สิ่งที่เราต้องทำต่อไป แทนที่จะมารำลึกวีรชน เราต้องมาแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงหลักการอย่างจริงจังเสียทีว่า ประชาธิปไตยคืออะไร” นิธินันท์กล่าว

 

ในเรื่องหลักนิติรัฐนั้น คือการปกครองโดยกฎหมาย กฎหมายต้องประกันสิทธิขั้นพื้นฐาน และมีองค์กรตรวจสอบถ่วงดุล สิทธิขั้นพื้นฐานคือสิทธิพลเมืองที่รัฐให้การรับรอง เป็นหลักประกันความเสมอภาค คำถามคือ เรามีจริงเหรอ

 

นิธินันท์ตั้งคำถามว่า ประเทศไทยมีอะไรบ้างนอกจากเปลี่ยนหน้าคนปกครอง พร้อมทั้งเรียกร้องกับสื่อ ไม่เว้นสื่อที่นิธินันท์สังกัดอยู่ว่า ต้องสร้างความเข้าใจในเรื่องประชาธิปไตย ทำความเข้าใจให้มากไปกว่าการเดินขบวนขับไล่รัฐบาล ที่ผ่านมา หากคนมีอำนาจไม่ไล่กันเอง ประชาชนก็ไม่มีทางชนะ แล้วสิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำลงไป ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศเลย นอกจากความฉิบหาย

 

ด้านณัฐวุฒิ วัชรกุลดิลก อดีตกรรมการสหพันธ์นักศึกษาเสรีแห่งประเทศไทย เล่าถึงเพื่อนคนเดือนตุลา ที่ไปเข้าร่วมกับเวทีพันธมิตรว่า รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องมาทะเลาะกับพรรคพวกที่ไปสนับสนุนรัฐประหาร

 

เขากล่าวว่า เราต้องเจาะลึกสังคมไทยพอสมควร สังคมไทยเป็นสังคมที่ปากว่าตาขยิบ กายกับใจไม่ตรงกัน เป็นสังคมแห่งอารมณ์ ไม่มีหลักการ ไม่มีเหตุผล นอกจากนี้ สังคมไทยยังใช้วีรบุรุษเปลืองอีกด้วย

 
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=9915&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

งานนี้รู้สึกจะเป็นประเภทพวกประชาธิปไตยไม่จริงนะ เพราะงานที่อนุสาวรีย์  เจอทั้งอภิสิทธิ์ พ่อใหญ่สมเกียรติ อาจารย์เนาวรัตน์ และอีกเยอะแยะ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #2 เมื่อ: 15-10-2007, 02:38 »

ปชช.-องค์กร ปชต.ร่วมงานรำลึกวีรชน 14 ตุลา คึกคัก
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2550 11:28 น.
 
 
       งานรำลึกและปาฐกถา 14 ตุลา ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 หรือบริเวณสี่แยกคอกวัว ได้มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 34 รูป หน้าอนุสรณ์สถาน และมีตัวแทนจากองค์กรประชาธิปไตยมาวางมาลา รวมทั้งมีญาติวีรชน 14 ตุลา และประชาชนทั่วไปมาร่วมเพื่อรำลึกถึงวีรชน
        โดยหลังจากนี้จะมีการเริ่มพิธีทางศาสนา ทั้งศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม และจะมีการกล่าวสดุดีวีรชนประชาธิปไตย โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตัวแทนญาติวีรชน ตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตัวแทนชาวบ้านปกป้องเพื่อสิทธิชุมชน ตัวแทนนิสิต นักศึกษา และต่อด้วยกิจกรรมปาฐกถาเรื่อง "ระบบทักษิณสู่รัฐประหาร 19 กันยา 2549 วิกฤติประชาธิปไตยไทย"
 
 
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000121554

เขาไปงานนี้กันทั้งนั้น ไอ้งานข้างบนนะอะไร้ 
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 15-10-2007, 03:27 »

งานแก้เกี้ยว คงไม่กล้าไปสี่แยกคอกวัวครับ
บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #4 เมื่อ: 15-10-2007, 11:46 »

คำเตือน

แกนนำที่ไปชุมนุมที่'ธรรมศาสตร์'วันนั้นคือแกนนำ'ม๊อบไข่แม้ว'ที่ก่อการจลาจล
ทำลายทรัพย์สินของรัฐบาลและประชาชน ระหว่างทางไปชุมนุมประท้วงหน้าบ้านพักประธานองคมนตรี..
ดังนั้น ท่านจะต้องใช้วิจารณญาณและหลักกาลามสูตรของท่าน ในการรับฟังและเชื่อ...

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 15-10-2007, 12:29 »

คำเตือน

แกนนำที่ไปชุมนุมที่'ธรรมศาสตร์'วันนั้นคือแกนนำ'ม๊อบไข่แม้ว'ที่ก่อการจลาจล
ทำลายทรัพย์สินของรัฐบาลและประชาชน ระหว่างทางไปชุมนุมประท้วงหน้าบ้านพักประธานองคมนตรี..
ดังนั้น ท่านจะต้องใช้วิจารณญาณและหลักกาลามสูตรของท่าน ในการรับฟังและเชื่อ...


สำเนาถูกต้อง

ลงชื่อ Aloha007
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 15-10-2007, 18:31 »

อย่าอ้างความเป็นคนเดือนตุลาพร่ำเพรื่อ..มันน่าเบื่อรู้มั๊ย
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 185 , 05:07:23 น

http://www.oknation.net/blog/canthai/2007/10/06/entry-1

คุณอ็อฟ อโลฮ่า หรือ คุณ "โอม อมฤต"  น่าจะลองเขียนบทความเล็ก ๆ ถึงปรากฎการณ์ "ชิงความเป็นคนเดือนตุลา" ดูซักตั้ง

เพราะ"คุณแคน สาลิกา" เขียนว่า "คนเดือนตุลา...ตายแล้ว"

คืนนี้จะลองใช้สมาธิเขียนเรื่องนี้อีกที

อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งมาแอบอ้างว่า "เดือนตุลาของข้า ใครอย่าแตะ"

แค่เค้าจัดเสวนา ที่สี่แยกคอกวัว ก็น่าจะรู้ว่าทำไมพวกที่ มธ. ไม่กล้าไปสี่แยกคอกวัว

เพราะหัวข้อปาฐกถาบอกว่า...""ระบบทักษิณสู่รัฐประหาร 19 กันยา 2549 วิกฤติประชาธิปไตยไทย"

พวกสาวกไข่แม้ว คงไม่มีที่ยืนและที่นั่งตลอดจนที่มุงดู
บันทึกการเข้า

Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 15-10-2007, 20:24 »

อย่าอ้างความเป็นคนเดือนตุลาพร่ำเพรื่อ..มันน่าเบื่อรู้มั๊ย
Posted by Canไทเมือง , ผู้อ่าน : 185 , 05:07:23 น

http://www.oknation.net/blog/canthai/2007/10/06/entry-1

คุณอ็อฟ อโลฮ่า หรือ คุณ "โอม อมฤต"  น่าจะลองเขียนบทความเล็ก ๆ ถึงปรากฎการณ์ "ชิงความเป็นคนเดือนตุลา" ดูซักตั้ง

เพราะ"คุณแคน สาลิกา" เขียนว่า "คนเดือนตุลา...ตายแล้ว"

คืนนี้จะลองใช้สมาธิเขียนเรื่องนี้อีกที

อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งมาแอบอ้างว่า "เดือนตุลาของข้า ใครอย่าแตะ"

แค่เค้าจัดเสวนา ที่สี่แยกคอกวัว ก็น่าจะรู้ว่าทำไมพวกที่ มธ. ไม่กล้าไปสี่แยกคอกวัว

เพราะหัวข้อปาฐกถาบอกว่า...""ระบบทักษิณสู่รัฐประหาร 19 กันยา 2549 วิกฤติประชาธิปไตยไทย"

พวกสาวกไข่แม้ว คงไม่มีที่ยืนและที่นั่งตลอดจนที่มุงดู


ไว้มีเวลาจะพยายามดูครับ ขอข้อมูลอีกหน่อย
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #8 เมื่อ: 15-10-2007, 20:46 »

เดี๋ยวผมอ่านปาฐกถาของทุกปีอีกรอบนึง

ไม่น่าเกินสองสามวันนี้ ผมจะลองเขียนดู
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 15-10-2007, 21:17 »

ในกลุ่มบล็อค โอเคเนชั่น มี"ข้อมูล" ที่พอจะหาได้

ช่วงนี้ข้อมูลและข้อคิด จากกรณี "ตุลารำลึก" มีให้อ่านหลากหลาย

มีทั้งสายไม่เอาพลังประชาชน ( อ่านของคุณ แคน สาลิกา จากเนชั่นสุดสัปดาห์ในบล็อคคุณ Nity )กลุ่ม "แรงคิด" ที่ทำเว็บ 6 ตุลา ( สายอ.สังสิต - ประสาร มฤคพิทักษ์) กลุ่มศิลปินเพื่อชีวิตสายคาราวาน

สายลิ่วล้อสมัครพรรคพลังประชาชน กลุ่มเว็บประชาไท นั่นไงครับ กลุ่มนปก. หมอเหวง หมอสันต์ คลองเตย อ.จรัล วิสา-บักตุ๊

และสายกลาง ๆ ประเภท คุณหมอพลเดช ปิ่นประทีป รมช. กระทรวงพัฒนาสังคมฯ
( สายหมอประเวศ - สาธารณะสุข สสส. หรือสาย อ.เสน่ห์ ประธานกรรมการสิทธิ์ )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2007, 21:23 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #10 เมื่อ: 15-10-2007, 22:32 »

คนเดือนตุลา ตัวจริงอยู่ที่ไหน??
Posted by amalit1990 , ผู้อ่าน : 3 , 22:25:37 น.   
 พิมพ์หน้านี้



เมื่อวานนี้ที่ทราบกันว่าผมไปงาน รำลึก14ตุลา

ผมพึ่งมาทราบว่ามันมีสองงาน หรืออาจมากกว่านี้

คืองานที่คณะศิลปะศาสตร์ ธรรมศาสตร์ โดยกลุ่มหลักอยู่ที่กลุ่ม นปก หรือ นปช ในปัจจุบัน และนายจาตุรณน์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย

และงานที่หลัก คือที่สี่แยกคอกวัว หรือ อนุสาวรีย์14ตุลา ซึ่งจัดทุกปี

ซึ่งงานหลังนี้ผมได้ไปร่วมงาน และเขียนไว้ในอันที่แล้ว

จากการเท่าที่มองดูแล้วงานหลักนี้ มีผู้มีชื่อเสียงไปร่วมเยอะกว่า ในสายของคนไม่เอาทักษิณ

แต่การแยกกันของอดีตเหล่าคนเดือนตุลา นั้นไม่ว่าจะแยกในด้านความคิดหรืออุดมการณ์

จากการมองดูอยู่รอบนอก คือการแตกแยกกันในด้านการเมืองเป็นสำคัญ

และเนื่องจากสาเหตุที่เด่นๆ เลยคือ เรื่องทักษิณ และเผด็จการ

คนเดือนตุลาหลายคน มีความรู้สึกรวมในการ ไม่ต้องการระบบรวมอำนาจ

และคนเดือนตุลาหลายคน ที่ไม่ยอมรับในระบบ รวมอำนาจประยุกต์ หรือเผด็จการทุนนิยม

และอีกหลายๆคน ที่ไม่ยอมรับทักษิณ หรืออีกส่วนหนึ่งที่ยอมรับทักษิณ และทำงานกับทักษิณ

แต่ก็มีอีกบางกลุ่มซึ่งตัดสิ้นแล้วทุกสิ่ง

ซึ่งคนหลายคนในนี้ จะแสดงออกทางด้านข้อเขียน ข้อคิดเห็น

หรืออาจจะออกมาในการแสดงออกต่างๆ

หากมองเข้าไปแล้วในความแตกต่างๆ เราจะมองเห็นความขัดแย้งกันมานานแล้วของแต่ละกลุ่ม

ดูได้จากข้อเขียนของอาจารย์หลายๆท่าน เช่นอาจารย์เสกสรรค์ อาจารย์ธงชัย และคนอื่นๆ

เนื่องจากความแตกต่างทางด้านต่างๆ

ผมจึงมองเห็นว่าคนกลุ่มนี้บางคนยังเกาะความเป็นตุลาของตนอย่างเหนียวแน่น

เพื่อความได้เปรียบในการนำเสนอของตนเอง

ทั้งที่บางคนแล้วอุดมการณ์มิได้ออกนำมาใช้นานแล้ว

แต่ความเป็นตุลา ก็สามารถนำมาใช้ในการอ้างประชาธิปไตยให้ตนเองได้เสมอ

กับอีกคนบางกลุ่มซึ่งแสดงให้เห็นท่าทีประนีประนอมกับรัฐบาลเผด็จการ เพราะต้องการความประชาธิปไตยมากกว่า

แต่กลับโดนคำว่าคนตุลา รัดคอให้กลายเป็นคนอีกกลับกลอก โดยคนอีกกลุ่มนึงที่เเสวงประโยชน์จากคำว่าตุลา

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่บางคนอยากลบอัตลักษณ์คนเกือนตุลาของตนเสีย

เพราะมีบางกลุ่มบางคนนำเอาคำว่าเดือนตุลา มาใช้เสีย โดยตามจริงตนไม่ได้รักประชาธิปไตยเท่าเมื่อก่อนอีกแล้ว

คำว่าคนตุลานี้ อย่าได้หวงแหนมันมากนักเลย

เพราะคนปัจจุบันมันก็จำไม่ได้หรอกเพราะวันนี้เป็นวันอะไร

ขนาดคนตุลายังแบ่งเป็นสองพวก

แล้วคนประชาธิปไตยจริงๆจะอยู่ตรงไหน
 
http://www.oknation.net/blog/amalit1990/2007/10/15/entry-1
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 15-10-2007, 22:40 »

เดี๋ยวผมนั่งสมาธิ แล้วจะลอง...

ประชาธิปไตยเป็นของฉัน...เผด็จการ เป็นของเธอ...อิ อิ

 
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: