ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 20:51
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ** ระบอบการปกครองแนวใหม่ที่เหมาะสมกับประเทศไทย... ** 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8
** ระบอบการปกครองแนวใหม่ที่เหมาะสมกับประเทศไทย... **  (อ่าน 38589 ครั้ง)
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #300 เมื่อ: 23-10-2007, 14:14 »

นอกเรื่องนิดหน่อย

วันนี้เปิดทีวีดูข่าว เห็นฉากสัมภาษณ์คุณหมักหมู

เห็นแล้วนึกขึ้นได้อย่างนึง ว่าไม่ค่อยได้คิดถึง

วิชาเหิ้ยศาสตร์ (ศัพท์เสธ.แดง) ซักเท่าไหร่เลย


จริงๆ อยากให้ผู้มีความชำนาญเหิ้ยศาสตร์ขั้นเทพประมาณคุณหมัก ช่วยวิเคราะห์หาจุดอ่อนระบบนี้ (ประมาณแฟรงค์ อาเบคเนล กลับใจช่วย FBI ใน Catch Me If You Can)
เราก็จะได้ระบบที่ทนทานมากๆ เลยครับ

บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #301 เมื่อ: 23-10-2007, 15:59 »




ผมว่า ระบอบ หมายรวามถึงวิถีชีวิตของสังคมที่ไม่มีระบบชัดเจนด้วยครับ

มันไปโยงกับความคิด ความเชื่อ พื้นฐานทางวัฒนธรรม และที่สำคัญ บรรทัดฐานต่างๆในสังคม..

อย่างในอเมริกา ก็เริ่มจากการประกาศอิสรภาพ เน้นเสรีภาพ และความเท่าเทียม เป็นพื้นฐาน..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2007, 16:45 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #302 เมื่อ: 23-10-2007, 16:49 »


นอกเรื่องนิดหน่อย

วันนี้เปิดทีวีดูข่าว เห็นฉากสัมภาษณ์คุณหมักหมู

เห็นแล้วนึกขึ้นได้อย่างนึง ว่าไม่ค่อยได้คิดถึง

วิชาเหิ้ยศาสตร์ (ศัพท์เสธ.แดง) ซักเท่าไหร่เลย


จริงๆ อยากให้ผู้มีความชำนาญเหิ้ยศาสตร์ขั้นเทพประมาณคุณหมัก ช่วยวิเคราะห์หาจุดอ่อนระบบนี้ (ประมาณแฟรงค์ อาเบคเนล กลับใจช่วย FBI ใน Catch Me If You Can)
เราก็จะได้ระบบที่ทนทานมากๆ เลยครับ



ระบบที่ดีคือภูมิคุ้มกัน ที่ฉลาดและแยกแยะเชื้อโรคได้ และเป็นที่เชื่อถือยอมรับของคนในสังคม

แต่ก็อันตรายหากเป็นอะไรที่ซับซ้อน เพราะการแอบแฝงต่างๆก็ทำได้ง่ายเหมือนกัน

ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับคน จะยั่งยืนได้ด้วยคุณภาพคนเท่านั้น ผู้นำที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2007, 14:13 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #303 เมื่อ: 24-10-2007, 14:28 »

ระบบที่ดีคือภูมิคุ้มกัน ที่ฉลาดและแยกแยะเชื้อโรคได้ และเป็นที่เชื่อถือยอมรับของคนในสังคม

แต่ก็อันตรายหากเป็นอะไรที่ซับซ้อน เพราะการแอบแฝงต่างๆก็ทำได้ง่ายเหมือนกัน

ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับคน จะยั่งยืนได้ด้วยคุณภาพคนเท่านั้น ผู้นำที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้...


ระบบที่ใหญ่ยักษ์อย่างการปกครองมนุษย์มันมีความซับซ้อนเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้วครับ

สิ่งที่ต่างกันระหว่างระบอบที่ใช้ในการบริหารคือ มันมีความซับซ้อนแบบไม่ชัดแจ้ง (implicit) หรือซับซ้อนแบบชัดแจ้ง (explicit)

ความซับซ้อนแบบไม่ชัดแจ้ง คือ ระบบที่มีลักษณะภายนอกดูง่าย จัดการภายนอกง่าย แต่ความซับซ้อนจะตกไปอยู่ในการจัดการภายใน อย่างเช่นระบอบรัฐสภาตอนนี้ครับ ภายนอกดูง่ายๆ คือเลือกผู้แทนตามภุมิศาสตร์ แล้วก็ให้ผู้บริหารเป็นกลุ่มพรรคที่ได้เสียงมากสุด ไปบริหารภายในกันเอง ซึ่งการบริหารภายในนี้เองเป็นเรื่องที่วุ่นวายมากมาย ต้องแลกเปลี่ยนกันด้วยผลประโยชน์และเล่นเกมอำนาจกัน ระบบพวกนี้จะต้องการคนที่เข้าไปจัดการภายใน คือ นักการเมือง นั่นเองครับ (และเป็นต้นกำเนิดวิชาเหิ้ยศาสตร์ เพราะภายในมันวุ่นวายมาก)

ในขณะที่ระบบแบบชัดแจ้ง คือระบบที่มีการแสดงส่วนประกอบภายในมาอย่างชัดเจน ทำให้การจัดการจากภายนอกนั้นเชื่อมกับส่วนภายในโดยตรง  การบริหารจากภายนอกจึงดูเหมือนจะวุ่นวาย แต่จริงๆแล้วทั้งระบบจะโปร่งใสเห็นง่ายกว่าครับ และนี่คือการที่ผมบอกว่า ระบบที่ผมเสนอไม่ต้องอาศัยนักการเมืองแบบเก่า

ยกอุปมาให้อีกอย่าง คือ ระบบการแพทย์แผนจีน กับการแพทย์ตะวันตกครับ

การแพทย์แผนจีนจะมีลักษณะ implicit คือจะมีการนิยามการจัดการภายนอกที่ง่ายๆ มา คือ หยินและหยาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม เวลาจะรักษาก็ทำการวิเคราะห์สมดุลย์หยินหยาง แล้วก็แก้ตรงหยินหยาง  ซึ่งไปส่งผลกับภายในอย่างไร ไม่เป็นเรื่องแน่ชัด แต่ไม่ได้บอกว่าจะรักษาไม่ได้นะครับ อาจจะได้ผลก็ได้ เพราะหยินหยางอาจเป็นการสื่อระบบภายในอย่างหนึ่ง แต่ภายในเกิดอะไรขึ้นจริงๆ นั้น เราไม่รู้

ในขณะที่การแพทย์แผนตะวันตกจะมีลักษณะ explicit คือ แยกส่วนกันออกมาชัดๆ เลย ว่าตรงไหนทำอะไร กลไกเป็นอย่างไร เป็นรูปธรรม เมื่อร่างกายเกิดมีปัญหา ก็จะวิเคราะห์หาอวัยวะที่ผิดปกติ และทำการพุ่งเป้ารักษาเป็นส่วนๆ ไป ซึ่งจะทำให้เห็นได้ชัดเจนกว่า แต่จะมีข้อเสียคือ การรักษาอาจพุ่งเป้าตรงเกินไป ไม่ได้พิจารณาภาพรวม (นี่คือสาเหตุที่บางกรณี แผนจีนจะรักษาได้ดีกว่า)

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบแบบ explicit ครับ เพราะเรื่องการเมือง ควรโปร่งใสและควบคุมได้หมดจากภายนอก
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #304 เมื่อ: 24-10-2007, 14:44 »




บางอย่งทำอย่างไรก็มองเห็นไม่ได้ครับ กำปั้นทุบดิน ก็คนตาบอด ใจบอดจะมองอะไรไม่เห็น..

ยกตัวอย่างความรัก กับความนิยมต่างกัน แม้เราวัดค่าด้วยการสัมภาษณ์กก็หาค่าสัมพัทธ์เปรียบเทียบกันได้ยาก..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #305 เมื่อ: 24-10-2007, 14:51 »


ส่วนระบบที่ซับซ้อน ยกตัวอย่างเช่น เครดิตการ์ด การให้สินเชื่อ

ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคต ตราบเท่าที่มันอยู่ในระบบใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์จะคิดได้..

แต่ก็เห็นด้วยว่า อาจจะมองเชิงกลไก แล้วพยายามจัดระบบใหม่ แบบรีเอนยิเนียริ่งได้

ก็ต้องดูว่าใช้หลักการ และเป้าหมายหลักที่สุดอะไร เป็นตัวนำทางและกำนดกรอบเวลาครับ

อ้อ ต้องประเมินความเป็นไปได้และความเสี่ยงในแผนและวิธีการด้วย..เช่นเดียวกัน เพราะเหตุที่ว่ามันเป็นเชิงกลไก ย่อมประเมินได้


ส่วนที่ไม่เป็นเชิงกลไก เป็นเชิงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ อาจจะต้องดูจากเหตุการณ์จริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2007, 15:09 โดย ********Q******** » บันทึกการเข้า

PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #306 เมื่อ: 24-10-2007, 15:06 »

ตอนนี้ขอติดประเด็นเรื่องมหาดไทย (Internal Affairs) ไปก่อนนะครับ ยังไม่ได้ไปศึกษาเลยว่า นอกจากทำบัตรแล้วมีหน้าที่อะไรอีกบ้าง

วันนี้ขอแสดงผลึกเรื่องสื่อก่อน



สื่อในระบอบประชาธิปไตยตามหน้าที่

ก่อนอื่นเราต้องพิจารณาคำว่าสื่อก่อน สื่อในที่นี้ คือ สื่อสารมวลชน (mass media) และสามารถแบ่งย่อยได้หลายประเภทตามวัตุถุประสงค์

  • 1. การสื่อสารทางการตลาด (โฆษณาขายของ สร้างภาพลักษณ์ทางธุรกิจ)
  • 2. การโฆษณาชวนเชื่อ (สร้างภาพลักษณ์องค์กร หรือปลูกฝังแนวคิดใดๆ ให้คนหมู่มาก)
  • 3. เพื่อการศึกษา
  • 4. เพื่อการบันเทิง
  • 5. การรายงานข่าว (เรื่องทั่วๆ ไป)
  • 6. การสื่อสารทางการเมือง (ข่าวเกี่ยวกับรัฐ และผู้ที่เป็นตัวแทนถือครองอำนาจรัฐ ที่เป็นข้อเท็จจริง)
  • 7. การประชาสัมพันธ์ (พยายามแจ้งเรื่องที่ต้องการบอกให้คนรู้ โดยอาจเป็นเรื่องที่ผู้รับสารไม่จำเป็นต้องรู้)
  • 8. การประกาศสาธารณะ (ประกาศเรื่องที่ผู้รับสารจำเป็นต้องรู้ โดยผู้ส่งสารจะเป็น รัฐหรือองค์กรของรัฐ)

จะเห็นได้ว่า จุดประสงค์ของสื่อนั้นมีหลากหลายออกไป ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ตามแนวคิดของระบอบตามหน้าที่ จะพบว่าไม่มีหน้าที่ที่เป็นเนื้อเดียวกัน (homogeneous) ในขณะที่คำว่า "เสรีภาพของสื่อ" เป็นการหมายถึงสื่อในแง่ที่เป็นเครื่องมือตรวจสอบและคานอำนาจรัฐเท่านั้น นั่นคือ ในความหมายที่ 6 7 และ 8

ดังนั้น จึงไม่น่าจะสามารถแยกสื่อออกเป็นกลุ่มภารกิจหนึ่งได้

เมื่อวิเคราะห์จากธรรมชาติของสื่อ จะพบว่า แต่ละกลุ่มย่อยของสื่อ จะเป็นแค่กลุ่มย่อยหนึ่งของกลุ่มภารกิจอื่น เพียงแต่ทำหน้าที่ของกลุ่มภารกิจนั้นโดยอาศัย "สื่อ" (medium) เช่น โทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต หนังสือ หนังสือพิมพ์ เป็นเครื่องมือเท่านั้น ดังนั้น สื่อสารมวลชนจึงน่าจะจัดเป็น "เครื่องมือ" ในการทำภารกิจ มากกว่า "กลุ่มภารกิจ"

เช่น ธุรกิจสื่อสารมวลชน สามารถอยู่ในกลุ่มพาณิชย์ และอุตสาหกรรม สื่อเพื่อการศึกษา อยู่ในกลุ่มการศึกษา สื่อเพื่อการบันเทิง อยู่ในกลุ่มศิลปะและนันทนาการ

ซึ่งการควบคุมสื่อในแง่เหล่านี้ จะเป็นหน้าที่ของกลุ่มที่เป็นผู้ใช้ ร่วมกันกับกลุ่มภารกิจที่ถือเป็นหน่วยภารกิจสนับสนุน (ศีลธรรม มั่นคง ยุติธรรม ฯลฯ) และหน่วยที่ควบคุมจัดการตัวสื่อ (สารสนเทศและการสื่อสาร)

ส่วนสื่อประชาสัมพันธ์ของรัฐ จะเป็นเครื่องมือของรัฐ ที่อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี  (กรมประชาสัมพันธ์)


สิ่งที่ควรแยกออกมาเป็นอิสระจากรัฐ คือ สื่อในข้อที่ 6 การสื่อสารทางการเมือง

ซึ่งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับสื่่อที่ทำหน้าที่สื่อสารทางการเมืองเมื่อมีการละเมิดระหว่างกัน จะกระทำผ่านศาล

โดยหากรัฐเป็นจำเลย จำเลยที่หนึ่งจะเป็นคณะบริหารของกระทรวงที่ละเมิดสื่อ จำเลยที่สองเป็นรัฐบาล
หากสื่อเป็นจำเลย จำเลยที่หนึ่งจะเป็นผู้ผลิตรายการสื่อที่ละเมิด จำเลยที่สองจะเป็นบริษัทที่จัดช่องทางให้รายการดังกล่าวเผยแพร่




มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ?








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2007, 15:09 โดย PastelSalad » บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #307 เมื่อ: 24-10-2007, 15:11 »

ส่วนระบบที่ซับซ้อน ยกตัวอย่างเช่น เครดิตการ์ด การให้สินเชื่อ

ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคต ตราบเท่าที่มันอยู่ในระบบใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์จะคิดได้..

แต่ก็เห็นด้วยว่า อาจจะมองเชิงกลไก แล้วพยายามจัดระบบใหม่ แบบรีเอนยิเนียริ่งได้

ก็ต้องดูว่าใช้หลักการ และเป้าหมายหลักที่สุดอะไร เป็นตัวนำทางและกำนดกรอบเวลาครับ

อ้อ ต้องประเมินความเป็นไปได้และความเสี่ยงในแผนและวิธีการด้วย..เช่นเดียวกัน เพราะเหตุที่ว่ามันเป็นเชิงกลไก ย่อมประเมินได้


ส่วนที่ไม่เป็นเชิงกลไก เป็นเชิงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ อาจจะต้องดูจากเหตุการณ์จริง



ใช่ครับ

เมื่อสังคมความรู้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ เราก็จะมีเครื่องมือในการมองระบบได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ระบบทางการเมือง

และนั่นจะเป็นวิวัฒนาการ ที่จะพัฒนาระบบให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ 


แต่อย่างที่คุณคิวว่าคือ จะต้องประเมินความเสี่ยง และใช้ความรอบคอบอย่างสูงด้วย เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ 
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #308 เมื่อ: 24-10-2007, 15:17 »



คิดว่าควรคิดต่อไปครับ..

สมาชิกท่านอื่นๆ คงจะมาแจมร่วมคิด ร่วมทักท้วงและร่วมเสนอได้ครับ..
 
บันทึกการเข้า

PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #309 เมื่อ: 24-10-2007, 15:24 »


คิดว่าควรคิดต่อไปครับ..

สมาชิกท่านอื่นๆ คงจะมาแจมร่วมคิด ร่วมทักท้วงและร่วมเสนอได้ครับ..
 

ตอนนี้่ที่ไม่มีความเห็นกัน อาจจะเพราะยังไล่อ่านไม่หมด หรือกำลังเรียบเรียงความคิดอยู่ก็ได้ครับ

กำลังใจตอนนี้คือเลข thread view ครับ ทำให้รู้ว่า ไม่ได้พูดกับตัวเองอยู่


คุณคิวด้วย ติดตามตลอดเลย ขอบคุณครับ 
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #310 เมื่อ: 24-10-2007, 15:51 »


ใช่ครับ

เมื่อสังคมความรู้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ เราก็จะมีเครื่องมือในการมองระบบได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ระบบทางการเมือง

และนั่นจะเป็นวิวัฒนาการ ที่จะพัฒนาระบบให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ 


แต่อย่างที่คุณคิวว่าคือ จะต้องประเมินความเสี่ยง และใช้ความรอบคอบอย่างสูงด้วย เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ฉะนั้นต้องคิดอ่านให้รอบคอบทุกบริบทด้วยครับ ต้องก้าวพร้อมๆกันครับ.......ไม่ต้องเยอะคนหรอก...........เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
แต่ผมเชื่อว่าตราบใดที่นำเสนออย่างสร้างสรรค์ แนวคิดที่เกิดประโยชน์ ก้าวหน้าคงต้องชมกันครับ ผมมอบตำแหน่ง จขกท.คงได้เป็น"ผู้นำแนวคิดทางการเมืองแนวใหม่"
นำความเจริญมาสู่บ้านเมืองอีกท่านหนึ่งในสังคมไทยเราครับ..ไม่เชื่อก็รอดูครับ....ต้องมีใครนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นแน่แท้(ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #311 เมื่อ: 24-10-2007, 17:26 »

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ฉะนั้นต้องคิดอ่านให้รอบคอบทุกบริบทด้วยครับ ต้องก้าวพร้อมๆกันครับ.......ไม่ต้องเยอะคนหรอก...........เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
แต่ผมเชื่อว่าตราบใดที่นำเสนออย่างสร้างสรรค์ แนวคิดที่เกิดประโยชน์ ก้าวหน้าคงต้องชมกันครับ ผมมอบตำแหน่ง จขกท.คงได้เป็น"ผู้นำแนวคิดทางการเมืองแนวใหม่"
นำความเจริญมาสู่บ้านเมืองอีกท่านหนึ่งในสังคมไทยเราครับ..ไม่เชื่อก็รอดูครับ....ต้องมีใครนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นแน่แท้(ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)

ตังค์ไม่ได้ แต่แรงบันดาลใจตอนนี้คือ สภาพแวดล้อมครับ

พอดีผมอยู่แถวอนุสาวรีย์ชัย ออกไปกินข้าวหรือกลับจากไปเรียนทีไร ก็จะเจอกับเหตุการณ์สะเทือนใจมากมายครับ ตั้งแต่ขอทาน เด็ก แม่ ผู้ใหญ่ คนแก่ พิการบ้างไม่พิการบ้าง มีตั้งแต่ขอเฉยๆ ยกมือไหว้ประหลกๆ เล่นเครื่องดนตรีแบบไม่มีแรงจะเล่น ไม่ก็ขายของเล็กๆน้อยๆ มาลัย ลูกอม ยายผอมแกร็นนั่งกลางแดดร้อนเปรี้ยงๆ ไม่ก็คนขายของแผงเล็กๆ พวกสร้อยพวกรากไม้สมุนไพร ที่เห็นแล้วน่าจะกำไรไม่เกินอันละสิบบาท (ทั้งแผงมีไม่ถึงสิบอัน) เห็นแล้วอยากทำอะไรสักอย่าง

ส่วนหนึ่งก็เป็นขอทานมืออาชีพ ที่เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านละครับ แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ถ้าบ้านเราพัฒนาดีจริงๆ ต่อให้เขาอพยพเข้ามา เขาก็คงมีงานดีๆ ทำกว่านี้ (เหมือนพวกเม็กซิกันในอเมริกา)

ในเมืองก็เรื่องหนึ่ง นอกเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง เวลานั่งรถไฟ ลองมองดูชุมชนริมทางรถไฟ เพิงสังกะสีเล็กๆ มีตายายนั่งเหม่อ วัยรุ่นนั่งจับกลุ่มดูดบุหรี่กลางวัน ไม่ทำงาน เด็กเล็กๆ เดินตามรางรถไฟ เด็กพวกนี้โตมาไม่รู้จะเป็นยังไง ในเมื่อยังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น

ตามชนบทก็มีตายายโดนลูกหลานทิ้งเข้ามาทำงานในเมือง อยู่อดๆ อยากๆ หาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ทำ ยังชีพไปวันๆ



ผมอยากเปลี่ยนสังคมเราครับ ผมอยากให้ภาพพวกนี้ลดลง จนถึงกับหายไปในที่สุด

อาสาสมัครและคนที่พยายามแก้ไขเรื่องพวกนี้ ก็น่าเห็นใจ เพราะแก้กันที่ปลายเหตุเท่าที่จะทำได้ ต่อให้เราช่วยยายคนนี้ได้ แต่ถ้าเศรษฐกิจและการกระจายโอกาสยังเป็นแบบนี้ ต่อไปที่ตรงนี้ก็จะมีคนอื่นๆ มานั่งอีก ไม่จบไม่สิ้น จะมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ

ผมถึงอยากจะหาทางแก้ไขที่ต้นเหตุไงครับ อยากจะเปลี่ยนระบบ ให้คนที่อยากแก้ไข เข้ามามีอำนาจในการทำงานที่ต้นเหตุจริงๆ ไม่ใช่ให้ผู้มีอำนาจมาทะเลาะกันเรื่องผลประโยชน์บ้าๆ บอๆ จะแบ่งผลประโยชน์ก็ไปทำในบริษัทหรืออะไรของเมิงโน่น ไม่ใช่มาทำในส่วนการบริหารบ้านเมือง ที่มีคนหลายล้านคนหวังพึ่งพาอยู่



ถ้าไอเดียพวกเราทำให้ประเทศดีขึ้นได้ ก็คุ้มเกินคุ้ม กับพลังสมองที่เสียไปเพียงน้อยนิดครับ 

บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #312 เมื่อ: 24-10-2007, 21:11 »

ผมเคยเชื่อว่าการที่คิดจะทำอะไรที่เป็นเรื่องส่วนรวมนั้นยากเย็นแสนเข็นครับ
ต้องมีตำแหน่งหน้าที่การงาน ดี มีสวัสดิการ มีเงิน มีทอง มีหน้าตาในสังคมแล้วถึงจะทำได้
ปัจจุบันผมคิดว่าหากจะทำอะไรหรือคิดจะทำอะไรที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมได้แล้วทำเถอะครับ
เริ่มจากการคุยกันในวงสนทนา แล้วส่งตรงไปยัง นโยบายหรือสร้างมันขึ้นมาแล้วผลักดันช่วยกัน
จากความคิดวงเล็กๆ นำไปสู่กาเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่..แม้เราเป็นแค่"พลเมือง"ธรรมดา Laughing
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
arya
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #313 เมื่อ: 25-10-2007, 14:40 »

ตามมาดูครับ โพสต์ยาวๆไปสองครั้ง เผอิญเป็นมือใหม่ เลยล้มทั้งสองครั้ง
ขอสั้นๆว่า ยินดีด้วย อบอุ่น และที่นี่อุ่นหนาฝาคั่งดี เป็นกระทู้พิเศษ

อย่าเพิ่งหยุดนะครับ
http://aryaforum.freeforums.org/
อารยา
บันทึกการเข้า
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #314 เมื่อ: 25-10-2007, 15:15 »

ตามมาดูครับ โพสต์ยาวๆไปสองครั้ง เผอิญเป็นมือใหม่ เลยล้มทั้งสองครั้ง
ขอสั้นๆว่า ยินดีด้วย อบอุ่น และที่นี่อุ่นหนาฝาคั่งดี เป็นกระทู้พิเศษ

อย่าเพิ่งหยุดนะครับ
http://aryaforum.freeforums.org/
อารยา


โอ้โห อาจารย์อารยามาให้กำลังใจถึงที่นี่เลยหรือครับ ขอบคุณมากครับ 

จะพยายามต่่อไปเรื่อยๆครับ ตอนนี้ทุกๆ คนช่วยกันจนความคิดเริ่มตกผลึกมากขึ้นแล้วครับ
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #315 เมื่อ: 25-10-2007, 17:18 »

 

ยอวาทีสักหน่อยนะครับ.



กระทุ้แนวนี้ ดูดีกว่ากระทู้ ประเภทจับผิด กระทู้ข่าวลือมาก

เพราะต้องใช้สมองในการคิด พวกชอบแถไถบิดเบือนจะไม่ชอบคิดอะไรกว้างๆลึกๆมากนัก

มักแอบคัดข้อความจากที่ใดมาถกเถียงโดยจับแพะชนแกะ มาแปะนอกเรื่อง..เหมือนภายเรือในอ่าง เพราะคิดว่าออกจากกะลาแล้ว แต่จริงๆอยู่ในอ่าง..
บันทึกการเข้า

Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #316 เมื่อ: 25-10-2007, 17:30 »

โอ้โห อาจารย์อารยามาให้กำลังใจถึงที่นี่เลยหรือครับ ขอบคุณมากครับ 

จะพยายามต่่อไปเรื่อยๆครับ ตอนนี้ทุกๆ คนช่วยกันจนความคิดเริ่มตกผลึกมากขึ้นแล้วครับ

ยินดีต้อนรับท่านอาจารย์อารยาครับสู่เสรีไทยในเวปบอร์ดครับ
แลกเปลี่ยนตามแต่ท่านจะว่างหรือจะให้ความรู้ก็จักเป็นพระคุณยิ่ง
ผมขอเป็นลูกศิษย์ท่าน....เพื่อเรียนรู้จากท่าน
ไปสู่การพัฒนาการเมืองของเราด้วยคนครับ Mr. Green
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #317 เมื่อ: 25-10-2007, 21:06 »

ตอนนี้เราจะมาพยายามตีประเด็นปลีกย่อยในเรื่องการแบ่งกลุ่มนะครับ

เมื่อพิจารณาจากโมเดลการบริหารที่ว่ามาแล้ว กลุ่มภารกิจแต่ละกลุ่มจะต้องมีดัชนี้ชี้วัดประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โดยไม่สามารถใช้ดัชนีของกลุ่มอื่นๆ มาแทนได้ และถ้าหากกลุ่มใดมีหลายดัชนี ดัชนีเหล่านั้นจะต้องอยู่ในบริบทเดียวกัน 

ซึ่งเราจะเริ่มต้นโดยเริ่มแบ่งตามกระทรวงๆ ไปก่อนนะครับ (ตามที่ อ. จิรศักดิ์เสนอมา)

ปัจจุบันเรามีกระทรวงต่างๆ ดังนี้

  •    1. กระทรวงกลาโหม (อ่านว่า กะ-ลา-โม๋ ) 
  •    2. กระทรวงการคลัง
  •    3. กระทรวงการต่างประเทศ
  •    4. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  •    5. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
  •    6. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  •    7. กระทรวงคมนาคม
  •    8. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  •    9. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
  •   10. กระทรวงพลังงาน
  •   11. กระทรวงพาณิชย์
  •   12. กระทรวงมหาดไทย
  •   13. กระทรวงยุติธรรม
  •   14. กระทรวงแรงงาน
  •   15. กระทรวงวัฒนธรรม
  •   16. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  •   17. กระทรวงศึกษาธิการ
  •   18. กระทรวงสาธารณสุข
  •   19. กระทรวงอุตสาหกรรม

ซึ่งเมื่อผมพิจารณาคร่าวๆ โดยอาศัยพื้นฐานนิยามกลุ่มภารกิจจากโมเดลการบริหารแบบร่วมมือกัน จะมีบางกระทรวงสามารถเป็นกลุ่มภารกิจได้เลย ในขณะที่บางกระทรวงก็หั่นหรือรวมกัน

  •    1. กระทรวงกลาโหม >> กลุ่มความมั่นคง (รวมตชด.)

  •    2. กระทรวงการคลัง >> กลุ่มการคลังและการควบคุมเศรษฐกิจ (กลุ่มพิเศษ ตามในโมเดล)

  •    3. กระทรวงการต่างประเทศ >> ไม่ใช่กลุ่ม (กำลังเรียบเรียง)

  •    4. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  >> ควรแยกออกจากกันเป็นกลุ่มธุรกิจการบริการ และกลุ่มกีฬา   

  •    5. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ >> เป็นกลุ่มสวัสดิการและสิทธิมนุษยชน (Welfare) (วัดดัชนีคุณภาพชีวิต)

  •    6. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ >> เป็นกลุ่มเกษตรกรรม ส่วนสหกรณ์แยกเป็นโครงสร้างพิเศษ (สำนักงาน) ไม่ใช่กลุ่มภารกิจ

  •    7. กระทรวงคมนาคม >> กลุ่มคมนาคมและการขนส่ง (ไม่ใช่ธุรกิจขนส่ง แต่เป็นประสิทธิภาพในเครือข่ายขนส่ง)

  •    8. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม >> แยกเป็นกลุ่มทรัพยากรธรรมชาติ (วัดประสิทธิภาพการนำทรัพยากรมาใช้) และกลุ่มสิ่งแวดล้อม (วัดคุณภาพชีวมณฑล)

  •    9. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร >> เป็นกลุ่มโทรคมนาคม (เป็นการจัดการระบบโทรคมนาคม (รวมอินเตอร์เน็ต) ส่วนด้านเทคโนโลยีโอนไปไว้วิทยาศาสตร์)

  •   10. กระทรวงพลังงาน >> กลุ่มพลังงาน (วัดประสิทธิภาพการจัดการพลังงาน)

  •   11. กระทรวงพาณิชย์ >> กลุ่มพาณิชย์

  •   12. กระทรวงมหาดไทย >> แยกเป็น กลุ่มความมั่นคงภายใน (ตำรวจ และงานบรรเทาสาธารณภัย) และกลุ่มการปกครองส่วนท้องถิ่น (กำลังเรียบเรียง)

  •   13. กระทรวงยุติธรรม >> กลุ่มงานยุติธรรม (รวมตำรวจ)

  •   14. กระทรวงแรงงาน >> กลุ่มแรงงาน

  •   15. กระทรวงวัฒนธรรม >> แยกเป็นกลุ่มศาสนาและจริยธรรม กับกลุ่มศิลปะและนันทนาการ (ไม่ใช้คำว่าบันเทิง เพราะบันเทิงอาจไม่สร้างสรรค์)

  •   16. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี >> กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วัดประสิทธิภาพการสร้างองค์ความรู้ ทั้งจากงานวิจัย อุปกรณ์ และบุคลากร)

  •   17. กระทรวงศึกษาธิการ >> กลุ่มงานการศึกษา

  •   18. กระทรวงสาธารณสุข >> กลุ่มสาธารณสุข

  •   19. กระทรวงอุตสาหกรรม >> กลุ่มอุตสาหกรรม

ที่ต้องเพิ่มเติม คือ

  • กลุ่มวิศวกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน (engineering and infrastructure) ซึ่งวัดประสิทธิภาพเป็นความสามารถในการพึ่งพาตนเองทางวิศวกรรมและการออกแบบ
  • ...

กลุ่มงานที่ไม่จัดเป็นกลุ่มภารกิจ


ซึ่งนี่เป็นแนวคิดของผมเพียงคนเดียว ซึ่งบางเรื่องก็ไม่มีความรู้เลย  เสนอมาเพื่อให้พอเห็นเป็นแนวทางเริ่มต้นเท่านั้น เพื่อให้เห็นภาพระบบชัดเจนขึ้น ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด หรืออาจไม่เป็นตามนี้เลยก็ได้

การแบ่งกลุ่มหากจะทำจริงๆ ต้องอาศัยคณะกรรมการเป็นสภาจากผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาอาชีพช่วยกันวิเคราะห์ตามแนวโมเดลการบริหาร



ใครนึกอะไรออกบอกได้ จะเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ (หรือเอาออก) ให้ครับ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2007, 21:25 โดย PastelSalad » บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #318 เมื่อ: 25-10-2007, 21:44 »

โคตรเยอะ

 

จัดเลือกตั้งกันขี้แตก



ด้วยความที่มันเยอะมาก เผลอๆ อาจเกิน 25 ซึ่งเป็นตัวเลขจำนวนสมาชิกที่มากที่สุดที่คณะกรรมการเรื่องใดๆ จะรับได้

จึงน่าจะมีความวุ่นวายในการบริหารพอควร สมมติมีกระทรวง ก. เสนอนโยบายมาเรื่องหนึ่ง การจะเอานโยบายนี้มาเสนอในสภาบริหารเลย เพื่อหากลุ่มของกระทรวงที่คิดว่าได้ผลกระทบเพื่อจัดตั้ง taskforce คงทำได้ยากและวุ่นวาย


ผมจึงคิดว่า น่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการ convener (นึกคำไทยไม่ออก) คล้ายๆ สภาเล็กๆ ที่มีหน้าที่ในการประเมินกลุ่มภารกิจที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหนึ่งๆ ไว้ก่อน โดยไม่จำเป็นต้องเสนอกับสภาบริหารใหญ่ทั้งสภา หลังจากได้รายชื่อกระทรวงที่เกี่ยวข้องแล้ว ค่อยทำรายงานชี้แจงนโยบายอย่างย่อไปให้กระทรวงอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในรายชื่อเกี่ยวข้อง ว่ากระทรวงนั้นๆ อยากเข้าร่วมด้วยหรือเปล่า วิธ๊นี้จะประหยัดเวลาได้มาก ตามหลักการของ regulatory negotiation ครับ
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #319 เมื่อ: 26-10-2007, 23:13 »

ตอนนี้นอกจากเรื่องมหาดไทยกับต่างประเทศที่ค้างไว้ ก็ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรต่อดีแล้วครับ

ใครมีประเด็นอะไรอยากเสนอหรืออยากพูดคุยกันอีกบ้าง ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะที่สุดที่จะเสนอเลยครับ



ว่างๆ ตอนนี้ผมก็กำลังพยายามเรียบเรียงเนื้อความที่คุยกันได้ทั้งหมด เป็นเอกสารสั้นๆ กระชับๆ นำไปเผยแพร่ต่อไป

ว่าแต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ห้องสมุดกลางม.ผม ส่วนของสาขาสังคม ปิดซ่อมระบบแอร์ทั้งชั้นหนึ่งเดือน

แถมห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ ก็มีจัดประชุมแมวอะไรไม่รู้ ปิดหนึ่งสัปดาห์ ไม่รู้ทำไมต้องมาประชุมกันในห้องสมุด -__-

เลยหาตัวอย่างวิทยานิพนธ์สาขารัฐศาสตร์มาอ่านเป็นแนวไม่ได้เลย

ตอนนี้สนใจ การเมืองภาคประชาชนในประเทศไทย ของอ.เสกสรรค์ อยู่ ไม่ทราบว่าใครพอมีเป็นเวอร์ชั่นดิจิตอลบ้างครับ
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #320 เมื่อ: 27-10-2007, 00:14 »




ผมว่าระบบทุนนิยม เป็นระบบที่เย็นชาไปครับ

ถึงแม้พ่วงการตลาดเข้าไปแล้ว มันก็ดูยังไม่เป็นมิตร

ทุนนิยมแก้ปัญหาของตัวเองไม่ตกครับ

ยิ่งเอามาใช้ในประเทศไทย ยิ่งปัญหามากแบบไทยๆ

สังคมไทยขาดอะไรทราบไหมครับ?
บันทึกการเข้า

Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #321 เมื่อ: 27-10-2007, 00:26 »

สังคมไทยขาดผู้นำดีที่มีจิตสำนึก


โชคดีที่ได้พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมจากพ่อหลวงของพวกเรา



ประเทศชาติถึงอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงวันนี้



ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง



ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #322 เมื่อ: 27-10-2007, 01:26 »

มาเสริมให้ เผื่อจะไม่ออกทะเล

ภาระกิจ "สื่อ" มีอยู่ 4 ประการ

1. ให้ข้อมูลข่าวสาร ( อาจรวมถึงงานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ )
2. ให้ความบันเทิง
3. ให้การศึกษา
4. เป็นตัวแทนของประชาชนตรวจสอบรัฐบาล ( หมาเฝ้าบ้าน )
บันทึกการเข้า

PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #323 เมื่อ: 27-10-2007, 11:04 »

สังคมไทยขาดผู้นำดีที่มีจิตสำนึก


โชคดีที่ได้พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมจากพ่อหลวงของพวกเรา



ประเทศชาติถึงอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงวันนี้



ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง



ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ



ตรงประเด็นเลยครับ

ถ้าบ้านเราไม่มีพระองค์ท่าน ป่านนี้เป็นเหมือนฟิลิปปินส์ไม่ก็อินโดนิเชียไปแล้วครับ

อ้างถึง
มาเสริมให้ เผื่อจะไม่ออกทะเล

ภาระกิจ "สื่อ" มีอยู่ 4 ประการ

1. ให้ข้อมูลข่าวสาร ( อาจรวมถึงงานโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ )
2. ให้ความบันเทิง
3. ให้การศึกษา
4. เป็นตัวแทนของประชาชนตรวจสอบรัฐบาล ( หมาเฝ้าบ้าน )

ขอบคุณครับ

เพราะฉะนั้น สื่อจึงไม่น่าจะเป็นกลุ่มภารกิจไงครับ
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #324 เมื่อ: 27-10-2007, 14:58 »

ยาวมากครับ อ่านไม่หมด

เอาเป็นว่า ผมไม่ค่อยยึดติดกับรูปแบบ จะเลือกตั้ง ปฏิวัติ อะไรผมไม่สน ขอให้แต่ละส่วนทำตามหน้าที่ อย่าซิกแซ็ก มีเป้าหมาย มีความซื่อสัตย์ รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร โดยเฉพาะผู้มีอำนาจสำคัญที่สุด

เพราะมันพิสูจน์แล้วอะว่า จะรูปแบบไหน คนที่มันเข้ามาแล้วมาทำมาหารับประทาน นอกจากประเทศจะไม่ไปไหน เช้าชามเย็นชามแล้ว ก็ยังสึกกร่อนด้วย ยิ่งเป็นยุคไร้พรมแดนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จัดระเบียบโลก ยังไงก็ฉิบหายครับ

เมื่อวานผมเปิดดูช่อง Channel News Asia ตอน 4 ทุ่ม มีเทปบันทึกภาพ Lee Kwan Yew ( 李光耀 ) ไปปาฐกถาที่ INSEAD ฝรั่งเศส เสียดายดูไม่จบเพราะง่วง แต่ที่แน่ๆได้เห็นวิสัยทัศน์ของคนๆนี้ แม้จะเกลียดมัน แต่ต้องนับถือมันจริงๆว่า มันทำให้โปโตกยิ่งใหญ่ถึงขนาดมาเขมือบทวยแลนด์ คนตัวเล็กสมองใหญ่เขมือบคนตัวใหญ่สมองเล็ก มันเก่งว่ะ !! แล้วมันตอบคำถามแต่ละอันแบบว่า ฝรั่งต้องทึ่งหรือหงายหลังไปเลย (ซึ่งต่างจากไอ้เหลี่ยม สำเนียงทุเรศของไอ้นี่ ฝรั่งไม่รู้เลยว่ามันพูดอะไร หรือฟังออกก็มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทึ่ง)  มันแสดงให้เห็นครับว่า หากผู้มีอำนาจ(หัว)มันจริงใจ ซื่อสัตย์ ทำเพื่อชาติ ประชาชน(ผู้ตาม)มันก็ไปแนวทางเดียวกัน



"แมวสีขาวหรือสีดำไม่สำคัญ จับหนูได้คือแมวที่ดี"
不管白猫黑猫,抓住老鼠是好猫!
บันทึกการเข้า

PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #325 เมื่อ: 27-10-2007, 17:16 »

ยาวมากครับ อ่านไม่หมด

เอาเป็นว่า ผมไม่ค่อยยึดติดกับรูปแบบ จะเลือกตั้ง ปฏิวัติ อะไรผมไม่สน ขอให้แต่ละส่วนทำตามหน้าที่ อย่าซิกแซ็ก มีเป้าหมาย มีความซื่อสัตย์ รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร โดยเฉพาะผู้มีอำนาจสำคัญที่สุด

เพราะมันพิสูจน์แล้วอะว่า จะรูปแบบไหน คนที่มันเข้ามาแล้วมาทำมาหารับประทาน นอกจากประเทศจะไม่ไปไหน เช้าชามเย็นชามแล้ว ก็ยังสึกกร่อนด้วย ยิ่งเป็นยุคไร้พรมแดนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จัดระเบียบโลก ยังไงก็ฉิบหายครับ




แนวคิดแบบที่คุณผ่าฯ ว่ามา ถ้าจะเอาให้สุดโต่ง ต้องอ้างถึงแนวคิดของท่านพุทธทาสครับ คือระบอบ "เผด็จการโดยธรรม"

ซึ่งผมเห็นด้วยเป็นที่สุด เพราะถ้าให้อำนาจกับคนดีได้สูงสุด ก็จะสามารถปกครองได้อย่างเป็นธรรม และนำความเจริญ


แต่แนวคิดนี้เป็นแค่อุดมคติครับ ในทางปฏิบัติจริง ไม่สามารถทำได้ เพราะ

1. เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่า คนที่มาปกครองเป็นคนดี
2. คนที่เลือกมา ไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้จากทุกฝ่าย (สังคมไทยใหญ่กว่าสิงคโปร์มาก) *

ดังนั้น การพิจารณาถึงวิธีการเพื่อให้ได้คนดีจริงๆ มาปกครองประเทศ จึงเป็นเรื่องสำคัญครับ

ซึ่งในที่นี้ ผมเสนอไปแล้วว่า ระบอบประชาธิปไตยเป็นวิธีที่ล้มเหลว สำหรับประเทศเรา

จึงต้องมาหาวิธีการใหม่ไงครับ

ถ้าคุณผ่าฯ สนใจ ลองไล่อ่านตามสารบัญที่ผมทำไว้ให้ก็ได้ครับ ค่อยๆ อ่านเรื่อยๆ แล้วสนทนากันเรื่อยเปื่อยไปพลางๆ 




*ที่องค์ภูมิพลเป็นที่ยอมรับจากพสกนิกรได้ เพราะท่าน "อยู่เหนือ" การเมืองครับ ถ้าดึงพระองค์ท่านลงมาเกี่ยวกับการเมืองเมื่อไหร่ สถานะจะเปลี่ยนทันที
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #326 เมื่อ: 27-10-2007, 18:12 »


ประเด็นเรื่องงานการต่างประเทศ

ก่อนอื่นมาดูโครงสร้างของกระทรวงการต่างประเทศกันก่อน

กระทรวงการต่างประเทศประกอบไปด้วยหน่วยงานต่อไปนี้

    * สำนักงานรัฐมนตรี
    * สำนักงานปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
    * กรมการกงสุล
    * กรมพิธีการทูต
    * กรมวิเทศสหการ
    * กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (*1)
    * กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย (*2)
    * กรมสารนิเทศ
    * กรมองค์การระหว่างประเทศ
    * กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้    * กรมอาเซียน    * กรมเอเซียตะวันออก    * กรมเอเซียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา    * กรมยุโรป


จะเห็นได้ว่า ลักษณะร่วมอย่างเดียวของโครงสร้างนี้ คือ ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งไม่น่าจะถือเป็นดัชนี้ชี้วัดสำหรับกลุ่มภารกิจได้ เพราะความสัมพันธ์กับต่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในด้านต่างๆ และความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเท่านั้น และที่สำคัญ หน้าที่หลักๆ กระทรวงการต่างประเทศ คือ เป็นผู้ดำเนินพิธีการและประสานงานเท่านั้น ในขณะที่การตกลงต่างๆ นั้นเกิดขึ้นโดยผู้บริหารกระทรวงอื่นๆ เช่น การค้า การทหาร


ดังนั้น ผมจึงเสนอว่า งานต่างประเทศ ควรตั้งเป็นสำนักงานของรัฐบาลต่างหาก ไม่ควรมาจากการเลือกตั้ง โดยมีผู้บริหารส่วนหนึ่ง มาจากกลุ่มภารกิจอื่นๆ (ซึ่งอาจกำหนดให้มีที่มาจากสภาภารกิจ) เช่น เกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ ความมั่นคง เป็นต้น เพื่อเป็นที่ปรึกษาและผู้สอดส่องดูแลผลประโยชน์ของประเทศในด้านต่างๆ โดยผู้บริหารสำนักงานการต่างประเทศ (รมต.การต่างประเทศ) อาจมาจากการแต่งตั้งโดยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง

กล่าวคือ อำนาจในการตัดสินใจในนโยบายต่างประเทศเรื่องหนึ่งๆ จะมาจากผู้บริหารกลุ่มภารกิจที่เกี่ยวข้องเท่านั้น สำนักงานการต่างประเทศ เป็นเพียงผู้ประสานงาน

ส่วนการแต่งตั้งเอกอัครราชฑูตหรือผู้ดูแลสถานกงสุลนั้น ก็ให้ทำตามประเพณีของการต่างประเทศที่ทำกันมาโดยปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง


ในเรื่องของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สามารถให้อำนาจกับ กลุ่มการคลังและการควบคุมเศรษฐกิจโดยตรง เช่นเดียวกับเรื่องกฏหมายและสนธิสัญญา สามารถให้มีผู้ดูแลจากกลุ่มงานยุติธรรมได้ โดยการตกลงสนธิสัญญา ทำร่วมกับกลุ่มภารกิจที่เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญานั้นๆ


ซึ่งข้อดีของการกระจายอำนาจทางนโยบายต่างประเทศดังกล่าว คือ ประเทศจะไม่ถูก "ตีตรา" ว่าเป็นฝ่ายโน้นหรือฝ่ายนี้ และต่างประเทศจะทำการล็อบบี้ผู้มีอำนาจของไทยได้ยาก

ข้อเสียคือ เนื่องจากเราไม่มีหมูไปให้ (เนื่องจากจะไม่มีกลุ่มภารกิจใดยอมเสียประโยชน์อย่างรุนแรงจากการตกลงกับต่างประเทศ) ทำให้อาจจะได้แมวยาก


พูดอีกอย่างคือ นโยบายที่ทำกับต่างประเทศได้ จะเป็นลักษณะพึ่งพาร่วมกัน (mutual profit) เท่านั้น จะไม่สามารถเป็นนโยบายแบบได้อย่างเสียอย่าง





...
ซึ่งนี่เป็นความเห็นผม ผู้ซึ่งไม่มีความรู้ในงานต่างประเทศใดๆ เลยทั้งสิ้น นั่งอ่านหนังสือแล้วมั่วเอา

ใครมีประสบการณ์หรือความเห็นอื่นๆ ช่วยแก้ไขหรือโต้แย้ง จะเป็นพระคุณมากเลยครับ








บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #327 เมื่อ: 28-10-2007, 05:09 »

แนวความคิดทางการเมืองรูปแบบต่างๆ



ปัจจัยต่อระบบ



จุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของรัฐ  อันนี้เอามาเปรียบเทียบกันดูครับ ว่าแต่ละประเทศ รัฐมีเป้าหมายอย่างไร

การเมืองการปกครองของจีน
ในระบอบการปกครองของจีนพรรคคอมมิวนิสต์จะเป็นผู้กำหนดนโยบายทุกด้านให้รัฐบาลไปปฏิบัติ (รัฐบาลจึงไม่ใช่องค์กรกำหนดนโยบาย) โดยจีนมีนโยบายภายในที่สำคัญ ดังนี้
1 เน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเปิดประเทศเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และกำหนดเป้าหมายให้ GDP เพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าตัว และทำให้จีนสร้างความกินดีอยู่ดี “เสี่ยวคาง” แก่คนจีนในระดับเดียวกับประเทศที่กำลังพัฒนาในระดับกลาง ภายในปี 2563 (ค.ศ. 2020) ในขณะเดียวกัน ก็ต้องแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของระดับการพัฒนาระหว่างภาคตะวันออกกับภาคตะวันตก ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาการเมือง สังคม ความแตกแยกของชนชาติที่รุนแรง จึงได้กำหนดให้พัฒนาภาคตะวันตกไปในเวลาเดียวกันด้วย
2 จีนเน้นการปฏิรูปทางการเมืองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะเดียวกัน เพื่อลดกระแสกดดันการเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนประเมินแล้วว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในระยะ 10 ปีข้างหน้า นายเจียง เจ๋อหมิน อดีตประธานาธิบดีจีน จึงได้เสนอหลักการ 3 ตัวแทนขึ้นมาและบรรจุลงไปในธรรมนูญของพรรค หลักการ 3 ตัวแทน จะสามารถลดแรงกดดันของกลุ่มนายทุนใหม่และนักวิชาการเรื่องปฏิรูปการเมืองได้ โดยพรรคคอมมิวนิสต์เปิดกว้างให้คนเหล่านี้เข้าไปมีส่วนร่วมในพรรคและการบริหารประเทศได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ จีนได้เริ่มปล่อยให้การปกครองระดับท้องถิ่นในระดับตำบลและเมือง (อำเภอ) มีการเลือกตั้งโดยอิสระแล้วตั้งแต่ปี 2538
หลักการสามตัวแทนได้กำหนดให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นตัวแทนใน 3 ด้าน คือ
(1) ด้านการผลิต โดยดูแลการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
(2) ด้านวัฒนธรรม โดยดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีของจีน และนำวัฒนธรรมอื่นที่ดี
มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ
(3) เปิดให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นตัวแทนของประชาชนทุกชนชั้น
กล่าวคือ ได้เปิดให้กลุ่มนายทุนและนักธุรกิจ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่
พรรคกำหนดเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค และมีส่วนร่วมทางการเมืองเพิ่มขึ้น
ถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพรรคจากตัวแทนเชิงปฏิวัติ หรือตัวแทน
ของชนชั้นแรงงาน เป็นตัวแทนเชิงบริหาร หรือตัวแทนของประชาชนทุกชน
http://www.mfa.go.th/web/2386.php?id=63

----------------------------------------------------------------------------------------
จุดมุ่งหมายแห่งรัฐในรัฐธรรมนูญอเมริกา
1)เพื่อสถาปนาความยุติธรรม
2)เพื่อความสงบสุขภายใน
3)เพื่อให้ประเทศปลอดภัยจากการรุกราน
4)เพื่อส่งเสริมความผาสุกของราษฏร           
 5) เพื่อคงไว้ซึ่งเสรีภาพ
http://e-book.ram.edu/e-book/p/PS103/ps103-5.pdf

----------------------------------------------------------------------------------------
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย (มาตรา 26-69)
หมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ (มาตรา75-87)

1 ความมั่นคงของรัฐ
2 การบริหารราชการแผ่นดิน
3 ศาสนา สังคมสาธารณสุข การศึกษา และวัฒนธรรม
4 กฏหมายและการยุติธรรม
5 การต่างประเทศ
6 เศรษฐกิจ
7 ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
8 วิทยาศาสตร์ ทรัพย์สินทางปัญญาและพลังงาน
9 การมีส่วนร่วมของประชาชน
http://www.parliament.go.th/parcy/sapa_db/sapa13-upload/13-20070827163114_1.pdf

------------------------------------------------------------------------------------------
Functionalistic Democracy in a Nutshell
แนวคิดพื้นฐาน
- สลายโครงสร้างรัฐสภาและรัฐบาลรวมศูนย์แบบเดิม
- ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งตามความรู้ ความถนัดและอาชีพของตนเอง โดย
    ตั้งกลุ่มภารกิจ (functional groups) ตามองค์ความรู้ที่ใช้ในการบริหารประเทศ
   ให้ประชาชนสมัครเข้ากลุ่มภารกิจตามเกณฑ์ และใช้สิทธิเลือกผู้แทนได้ตามกลุ่มภารกิตที่ตนสังกัด
- ผู้แทนของแต่ละกลุ่ม จะเข้าไปทำหน้าที่นิติบัญญัติและบริหาร ตามโควต้าของแต่ละกลุ่ม
.....

ผมคิดว่าเราควรกำหนดเป้าหมายให้ได้ก่อนครับ ว่ารัฐจะทำอะไรบ้าง ประชาชนมีสิทธิ หน้าที่ อะไรบ้าง แค่ไหนอย่างไร
เอาปัญหาเป็นตัวตั้ง  ไม่งั้นมันจะเกิดการสิ้นเปลืองมาก  อะไรที่ให้ภาคเอกชน หรือประชาชนทำได้ก็ควรปล่อยให้ทำ
ภาครัฐก็แค่ดูแลความยุติธรรม  และไม่ให้ขัดกับกฏหมายของประเทศก็น่าจะพอ

เป็นไปได้ระบบราชการควรลดหน่วยงานให้น้อยลงก็น่าจะดี  ควรเน้นเรื่องการกระจายอำนาจให้มาก
ตอนนี้ระบบยังมีลักษณะของการรวมอำนาจอยู่  มันจะเหมือนกับตำรวจหรือเปล่า ที่มีอำนาจจับกุม สืบสวน สอบสวน แล้วนี่ยังมีอำนาจตัดสินเองอีก ผมว่าอันตรายนะ

ถ้าว่างๆ (อีกแล้ว  ) ผมจะพยายามทำโครงสร้างระบบการปกครองตามรัฐธรรมนูญ 2550 ให้ดูครับเพื่อเอามาเปรียบเทียบกับระบบ Functionalistic Democracy in a Nutshell
เพื่อจะได้เห็นจุดบกพร่องของแต่ละระบบ 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2007, 21:37 โดย meriwa » บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #328 เมื่อ: 29-10-2007, 01:43 »



อยากรู้วิธีสร้างหรือคัดเลือกคนดี

ผมเสนอแนะให้ทดลองบริหารโรงเรียน

หรือโรงพยาบาลดูครับ

แต่คงต้องเป็นเอกชน..

ส่วนเรื่องต่างประเทศ

เล่นเว็บบอร์ดไปหลายแห่งก็ได้แง่คิดเหมือนกัน
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #329 เมื่อ: 30-10-2007, 14:49 »



ถ้าหากเจ้าของกระทู้มีแนวทาสรุปได้ ก็อย่าลืมเอามาเล่าต่อนะครับ..
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #330 เมื่อ: 30-10-2007, 14:53 »



เอ้อ ผมเอาลิงค์กระทู้ผมมาเสริมแนวทางที่คิดว่าเป็นไปได้ให้ดีกว่า

การผลักดันให้การเมืองไทยดีขึ้น..  ********Q********  41  221

http://forum.serithai.net/index.php?topic=17747.0

การเมือง เป็นเพียงโอกาสและใบเบิกทาง ของจริงต้องทำงานเท่านั้น..  ********Q********  18  193

http://forum.serithai.net/index.php?topic=17691.0
บันทึกการเข้า

sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #331 เมื่อ: 30-10-2007, 21:07 »

โอย อ่านไม่ไหว ปวดลูกกะตา ขอเสนอแบบคนโง่ๆ บ้าง (อย่าเอาไปทำจริงนา)

1) ทำไมไม่เลิกผู้แทนไปเสียเลย ให้ประชาชนออกเสียงผ่านตู้ ATM, SMS etc  จะได้หมดปัญหา (หรือสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นหว่า)
2) ส่วนรัฐมนตรี + กระทรวง ก็ไม่ต้องมีแล้ว จ้าง MIT พัฒนาระบบ expert system สักระบบ จ้างนักออกแบบโมเดลเก่งๆ ออกแบบโมเดลประเทศไทยให้แล้วให้ข้าราชการคอยป้อนแฟ็กเตอร์ต่างๆ เข้าไป แล้วให้ระบบมันตัดสินใจเรื่องต่างๆ ให้  คอมพิวเตอร์สมัยนี้ไม่น่าจะโง่กว่ารัฐมนตรีที่เรามีอยู่ไปได้
3) นักรัฐศาสตร์ชั้นนำของเมืองไทยออกแบบระบบมาหลายสิบปี แต่ล้มเหลว (ยอมรับความจริงเหอะ) ไม่ลองจ้าง system engineer หรือบริษัท consult ชั้นนำออกแบบให้ใหม่ดูบ้าง อย่างน้อยก็ไม่แย่กว่าเดิมไปได้หรอก กำหนด requirement ให้เขา เขียน use case ให้ครบ (ศรีธนนชัยมันเยอะ) กำหนดออกมาเป็นรัฐธรรมนูญแบบใหม่เลย แล้วออก patch มาทุกๆ ปี อย่ามานั่งร่างใหม่ทุก 10 ปีอย่างนี้
บันทึกการเข้า
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #332 เมื่อ: 31-10-2007, 19:27 »

ฝากคุณPastelSaladเจ้าของกระทู้นำความเห็นคุณSleeplessไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ด่วนครับ
ถ้าท่านsleeplessคิดว่าเป็นความคิดแบบโง่ๆ...............ผมขอเป็นคนโง่ๆตามแบบฉบับที่ท่านว่าอีกคน
ทุกจินตนาการหรือความคิดย่อมมีทางเป็นไปได้เสมอครับ..
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #333 เมื่อ: 03-11-2007, 23:35 »




พาสต้าหายไปซุ่มตัวที่ไหนหนอ มาคิดต่อให้ตกผลึกดิ ครับ.. 
บันทึกการเข้า

PastelSalad
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 183



« ตอบ #334 เมื่อ: 04-11-2007, 16:16 »

หายไปนานครับ พอดีช่วงเพิ่งเปิดเทอม


พอเปิดเทอมแล้วก็กลับเข้าสู่โลกของสายอาชีพเช่นเดิม ไม่รู้ว่าจะมีเนื้อที่หน่วยประมวลผลของสมองเหลือพอที่จะมาสำเร็จความใคร่ทางความคิดกับเรื่องการเมืองไทยอีกหรือเปล่า




จะพยายามแล้วกันครับ ยังไม่อยากปล่อยให้ความคิดมันตาย



ปล. ความเห็นคุณ sleepless จะอ่านให้ขำ ก็ขำครับ จะอ่านหาสาระ ผมว่าก็มีสาระพอประมาณ เดี๋ยวจะลองคิดในแง่คุณเล่นๆ ดู
บันทึกการเข้า


ใจเย็นๆ แล้วมานั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ด้วยกันก่อนดีกว่าครับ
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #335 เมื่อ: 05-11-2007, 11:47 »

ปล. ความเห็นคุณ sleepless จะอ่านให้ขำ ก็ขำครับ จะอ่านหาสาระ ผมว่าก็มีสาระพอประมาณ เดี๋ยวจะลองคิดในแง่คุณเล่นๆ ดู

ฮิฮิ ความจริงไอ้ระบบ expert system ที่ว่าเนี่ย ผมเอาไอเดียมาจากสารคดีระบบจำลองสถานการณ์การรบในสงครามที่อมริกามันใช้
ผมว่าถ้าคุณ PastelSalad จะทำวิทยานิพนธ์สร้างโมเดลประเทศไทยขึ้นมาสักอันก็น่าจะดี ไม่ต้องให้สมบูรณ์แบบหรอก แค่ 20% ก็น่าจะบริหารประเทศได้ดีกว่านายก+รัฐมนตรีที่เรามีอยู่แน่ๆ
ประชุม ครม แต่ละครั้งก็เปิดเครื่อง (ไม่ต้องขนาดเครื่องราคา 900 ล้านเหมือนของสำนักประกันสังคมก็น่าจะได้) ให้ข้าราชการคอยป้อน agenda แล้วให้เครื่องมันตัดสินใจเรื่องต่างๆ ให้
หากใช้ระบบดังว่า ยังขาดอย่างเดียว คือขาดคนไปคอยตัดริบบิ้นเปิดงาน อย่าลืมช่วยคิดเผื่อเรื่องนี้ด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #336 เมื่อ: 05-11-2007, 13:59 »

ฮิฮิ ความจริงไอ้ระบบ expert system ที่ว่าเนี่ย ผมเอาไอเดียมาจากสารคดีระบบจำลองสถานการณ์การรบในสงครามที่อมริกามันใช้
ผมว่าถ้าคุณ PastelSalad จะทำวิทยานิพนธ์สร้างโมเดลประเทศไทยขึ้นมาสักอันก็น่าจะดี ไม่ต้องให้สมบูรณ์แบบหรอก แค่ 20% ก็น่าจะบริหารประเทศได้ดีกว่านายก+รัฐมนตรีที่เรามีอยู่แน่ๆ
ประชุม ครม แต่ละครั้งก็เปิดเครื่อง (ไม่ต้องขนาดเครื่องราคา 900 ล้านเหมือนของสำนักประกันสังคมก็น่าจะได้) ให้ข้าราชการคอยป้อน agenda แล้วให้เครื่องมันตัดสินใจเรื่องต่างๆ ให้
หากใช้ระบบดังว่า ยังขาดอย่างเดียว คือขาดคนไปคอยตัดริบบิ้นเปิดงาน อย่าลืมช่วยคิดเผื่อเรื่องนี้ด้วยนะครับ

มาเอาใจช่วยThailand Model มีอะไรให้ร่วมมือกรุณาแจ้งด้วยครับ..
ตอนนี้ผมกำลังลงมือทำงาน Election monitoring Processและเก็บข้อมูล Buriram Model
งานเขียนหลายงานอาจสอดคล้องกัน หากหลอมรวมความคิดหลายๆท่านครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2007, 14:04 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #337 เมื่อ: 05-11-2007, 16:50 »

EXPERT SYSTEM FOR THE NATIONAL ECONOMY MODEL SIMULATIONS
http://www.doiserbia.nbs.bg.ac.yu/(A(mrRA2gL8xwEkAAAAZjQ2ZDZhNzMtNzY4NC00ZDk5LThlNDgtYzgwNDY2MTU0N2Nh9-O1kICLBdY-J3FvcvV6j21xMWs1))/ft.aspx?id=0354-02430202247R
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #338 เมื่อ: 11-11-2007, 21:36 »




ระบบที่ดีมั่นต้อง กลั่นกรองปัญหาทุกประเภทที่รู้แน่ๆอยู่ก่อน ออกไปได้มากทึ่สุด


เรื่องคนต้องใช้คนเก่งๆมาช่วยตามระบบ หลักการและเหตุผล ป้องกันพวกเจ้าหลักการแต่ไม่ยอมทำงาน


อาศัยฉวยโอกาสทางการเมือง มาทุกยุคทุกสมัย
 
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #339 เมื่อ: 11-11-2007, 23:57 »



ส่งกระทู้มาให้อ่านเพิ่มเติมครับ

ไทยควรเป็นแม่แบบ "ประชาธิปไตยแบบพอเพียง" เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง  (อ่าน 578 ครั้ง)

 http://forum.serithai.net/index.php?topic=8307.0
บันทึกการเข้า

********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #340 เมื่อ: 15-11-2007, 17:57 »


 


พาสต้า ฝ่ายนวัตกรรม เสรีไทย

อย่าทิ้งร้างกระทู้นะ มารณรงค์ต่อครับ..
บันทึกการเข้า

Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #341 เมื่อ: 02-07-2008, 19:14 »

เมื่อกี้แวะไปเยี่ยม weopenmind ของลุงแคนอ่านกระทู้ของคุณ999... :

เลยได้โอกาสขออนุญาตทุกท่านขุดกระทู้ขึ้นมาอ่านเผื่อจะได้มีไอเดียดีๆมาเสริมช่วงรอยต่อ
ระหว่างพันธมิตรฯทำอะไรไม่ได้มากอาจเชิญพวกเราเสวนาในประเด็นนี้ต่อเราท่านว่าไงครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2008, 19:29 โดย Scorpio6 » บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
เอกราช
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 826


กับคนที่ไร้ซึ่งจริยธรรม ยังจะสามารถสมาคมด้วยหรือ


« ตอบ #342 เมื่อ: 02-07-2008, 20:27 »

เมื่อกี้แวะไปเยี่ยม weopenmind ของลุงแคนอ่านกระทู้ของคุณ999... :

เลยได้โอกาสขออนุญาตทุกท่านขุดกระทู้ขึ้นมาอ่านเผื่อจะได้มีไอเดียดีๆมาเสริมช่วงรอยต่อ
ระหว่างพันธมิตรฯทำอะไรไม่ได้มากอาจเชิญพวกเราเสวนาในประเด็นนี้ต่อเราท่านว่าไงครับ
เห็นด้วยครับ
คุณScorpio6
ผมว่าขึ้นกระทู้ใหม่จะดีกว่าครับ

 
บันทึกการเข้า

สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง
ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
天时不如地利,地利不如人和
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #343 เมื่อ: 03-07-2008, 07:54 »

กระทู้ยาวมาก ๆ...อ่านไม่หมด แต่ได้อ่านคร่าว ๆ ในช่วงแรก ๆ เกี่ยวกับเกษตรกรที่ไม่มีความรู้หรืออะไรสักอย่าง

รู้สึกขัดใจอย่างบอกไม่ถูก ...ผมถือว่าคนที่ไม่มีความรู้ ไม่ใช่คนโง่นะครับ แต่เป็นคนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา

โอกาสทางการศึกษาเกิดขึ้นได้ โดยการกระจายความเจริญ กระจายรายได้ไปสู่ชนบท รวมทั้งการให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการศึกษาของภาครัฐ


การศึกษาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างประชาชนที่มีคุณภาพเพื่อมาเลือกผู้แทนที่มีคุณภาพ


ผมชื่นชม ปชป ยุคนี้หลายอย่าง โดยเฉพาะตัวหัวหน้าพรรคที่โดนโจมตีมาตลอดเรื่องความสามารถและบทบาทของผู้นำ ....แต่กับการศึกษา ต้องยอมรับว่า หัวหน้า ปชป ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และมีผลงานในเรื่องนี้อย่างเด่นชัด

ไม่เฉพาะคนในชนบทที่ต้องการคุณภาพด้านการศึกษาเพิ่มขึ้น คนเมืองเองก็เช่นกัน

ถ้ายังดูละครน้ำเน่าที่พระเอกนางเอกวัน ๆ ไม่ได้ทำงานอะไร    ฟังเพลงเศร้าโศรกอกหักรักหวานของวัยทีน(ที่แต่งโดยคนแก่ ๆ)
ดูเกมส์โชว์ ตลก วาไรตี้ แล้วเข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมาอ่านข่าวครูลวนลามศิษย์ แวะไปอ่านซ้อเจ็ด หรือนั่งฟังนายกฯโรคจิตพล่ามไปวัน ๆ

ก็คือคนไม่มีการศึกษาพอ ๆ กัน

บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
ฮูลิแกน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 234



« ตอบ #344 เมื่อ: 03-07-2008, 08:56 »

.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-07-2008, 09:03 โดย ฮูลิแกน » บันทึกการเข้า

ชาตินิยมแบบคับแคบผมไม่ชอบ แต่พวกเพ้อเจ้อบ้าทฤษฎี ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน
บทความของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จาก ค.คน ฉบับเมษายน 2550
ฮูลิแกน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 234



« ตอบ #345 เมื่อ: 03-07-2008, 08:58 »

รู้แต่ว่า แนวทางที่อยู่บนสมมติฐานที่เชื่อว่า เป็ด 1 ตัว เฝ้าบ้านแทนหมา 1 ตัวได้ หรือไถนาแทนวัว 1 ตัวได้
หรือตีราคาเป็ด 10 ตัว เหนือกว่าวัว 1 ตัว
เป็นสมมติฐานที่โคตรห่วย
บันทึกการเข้า

ชาตินิยมแบบคับแคบผมไม่ชอบ แต่พวกเพ้อเจ้อบ้าทฤษฎี ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน
บทความของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จาก ค.คน ฉบับเมษายน 2550
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #346 เมื่อ: 07-09-2008, 06:45 »

ระยะ 2-3 เดือนมานี้ มีสมาชิกใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเป็นพันราย
คงมีจำนวนมากที่ไม่เคยอ่านกระทู้นี้

ประกอบกับกระแสการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ ถูกจับตา
ก็เลยตัดสินใจขุดกระทู้นี้ขึ้นมาให้ทบทวนกัน

ผมว่าแนวคิดในกระทู้นี้ หลายอย่างคล้ายการเมืองใหม่
ไม่รู้่เจ้าของกระทู้ นำไปเสนอแกนนำพันธมิตรหรือเปล่า
แต่ดูดีๆ กระทู้นี้รายละเอียดมากกว่าการเมืองใหม่เยอะ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
istyle
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 853



« ตอบ #347 เมื่อ: 07-09-2008, 23:50 »

ขออนุญาติขุดครับ

ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมาร่วมกันสร้างการเมืองใหม่

แล้วนำเสนอออกไปสู่"โลกภายนอก(กะลา)"

ขอเสนอนิดนึงครับว่า ถ้าทำเป็นรูปแบบการ์ตูนอ่านง่ายๆ

จะดีกว่า แบบรธน50 ที่มาเป็นปึกๆ ไม่มีใครอ่านหรอกอย่างนั้น
บันทึกการเข้า
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #348 เมื่อ: 08-09-2008, 00:09 »

กระทู้ยาวจังเลย แต่จะพยายามอ่านให้หมดครับ แต่ถ้าใครมีสรุป ยิ่งดีครับ แบบวิเคาะห์กันเสร็จเรียบร้อยแล้วอ่ะครับ  อิิอิ
บันทึกการเข้า
chaturant
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 499



« ตอบ #349 เมื่อ: 08-09-2008, 00:15 »

การเมืองใหม่ของ พธม. คล้ายกับแนวคิดในเสรีไทย มากเลย ผมว่า นี้ใช้ได้เลยน่ะครับ ไอหมักออกแล้ว เราต้องร่วมกัน ปฏิิวัติการเมืองใหม่อีกซักครั้ง  แปลว่าเสรีไทยนี้คิดมาก่อนอีกน่ะเนี้ย ฮาๆ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 6 [7] 8
    กระโดดไป: