ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 14:37
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ข่าวใต้ดินชาวบ้าน จากย่างกุ้งวันนี้... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ข่าวใต้ดินชาวบ้าน จากย่างกุ้งวันนี้...  (อ่าน 1336 ครั้ง)
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« เมื่อ: 11-10-2007, 11:30 »


 
11 ตุลาคม พ.ศ. 2550 00:01:00
 
นักข่าวที่เข้าไปกรุงย่างกุ้ง เพื่อรายงานสถานการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการทหารต้อง "แฝงตัว" จากการตรวจค้นของทหารและหน่วยสืบราชการลับนอกเครื่องแบบของพม่ากันค่อนข้างรอบคอบ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : แต่แม้ว่าทางการพม่าจะปิดระบบอินเทอร์เน็ต และการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ (ล่าสุดตัดระบบโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมด้วย) ก็ไม่ได้แปลว่าภาพและรายละเอียดของความเป็นไปในย่างกุ้ง จะถูกปิดบังอำพรางได้ทั้งหมด

พรรคพวกนักข่าวต่างประเทศหลายคนของผมเพิ่งจะกลับเข้ามาที่กรุงเทพฯ...ยืนยันว่าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพระสงฆ์และนักศึกษา ตลอดจนประชาชนของพม่านั้นแม้ว่าจะเผชิญกับการปราบปรามอย่างหนักและโหด***ม  แต่ก็ยังต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ ต่อไปอย่างทรหด

"เพราะคนพม่าที่ผมคุยด้วยบอกว่าพวกเขาไม่มีอะไรจะสูญเสียไปกว่านี้อีกแล้ว...ชีวิตที่ผ่านมาก็เหมือนอยู่ในนรก และหากยอมแพ้ ก็เท่ากับถอยกลับไปนรกเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความหมายแปลกแตกต่างไปจากเดิมแต่อย่างไร..." นักข่าวต่างประเทศคนหนึ่งบอกผมระหว่างการสนทนาล่าสุดเมื่อวาน

บรรยากาศที่มหาเจดีย์ชเวดากองวันนี้เงียบเหงาวังเวงอย่างน่าสลด เพราะปกตินี่คือศูนย์การพบปะเพื่อมาสักการะความศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธศาสนา แต่ทางการได้ส่งทหารมาประจำการอยู่ที่นี่เพื่อสกัดกั้นความพยายามที่จะรวมตัวกันเพื่อจุดฉนวนการประท้วงรอบใหม่

ที่นี่คือสถานที่ที่ผู้คนมากราบไหว้พระเพื่อสวดมนต์ขอความสงบแห่งชีวิต และเป็นจุดนัดพบของผู้เรียกร้องประชาธิปไตยของคนพม่าที่ต่อต้านอำนาจเบ็ดเสร็จของเผด็จการเช่นกัน

นักข่าวต่างประเทศต้องแอบซ่อนตัวเพื่อไปกระซิบกระซาบกับนักศึกษาที่ยังสามารถหลบหลีกการจับกุมของทหาร

"ผมนัดเจอกับนักศึกษาที่ร่วมประท้วงในที่ลับแห่งหนึ่งในย่างกุ้ง พูดจาต้องกระซิบกันเพราะไม่รู้ว่าพวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหน...เขาบอกผมว่าการประท้วงครั้งนี้มีการวางแผนกันค่อนข้างรอบคอบและเป็นขั้นเป็นตอน...ก่อนการเดินขบวนใหญ่ มีการประชุมลับของพระสงฆ์อาวุโสเพื่อแบ่งสรรหน้าที่และกำหนดว่าวัดไหนจะส่งพระตัวแทนมาร่วมในการเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติเท่าไร..."

พระและนักศึกษาถูกฆ่าไปเท่าไร  ถูกจับไปกี่คน

ไม่มีใครมีคำตอบที่แน่นอนได้ แต่นักข่าวต่างประเทศอีกคนหนึ่งที่เล็ดลอดเข้าไปและเพิ่งหลบออกมาจากพม่าบอกผมว่า "นักศึกษาคนหนึ่งบอกว่าอาจจะถูกยิงทิ้งไปแล้ว 200 ถึง 300 คน...ไม่นับจำนวนคนที่บาดเจ็บและที่ถูกหมกป่าโดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร...ถ้าทางการบอกว่าตาย 10 ต้องคูณด้วย 20 หรือ 30 ด้วยซ้ำไป..."

ตัวเลขทางการบอกว่าถูกจับไปกว่า 2 พันคน และปล่อยตัวออกมาแล้วกว่า 600 คน แต่แหล่งข่าวฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยบอกว่าที่ถูกจับไปกักขังเอาไว้ตามโรงเรียนและห้องขังชั่วคราวต่าง ๆ อาจจะถึง 1 หมื่นคน

นักข่าวอีกคนบอกว่าเขาบินไปถึงย่างกุ้งภายหลังจากนายพลตานฉ่วย สั่งทหารยิงทิ้งนักศึกษาและพระ

"ผมต้องปลอมเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดา...พอผมเดินเข้าไปถึงโรงแรม มีผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่งบอกผมว่าเธอเห็นภาพทหารยิงใส่พระที่ไม่มีอาวุธแล้วช็อกเหลือเกิน เพราะไม่เชื่อว่าจะเห็นภาพอย่างนี้ในโลก พ.ศ. นี้..."

ผู้คนที่ย่างกุ้งมีสีหน้าหม่นหมอง สายตาแสดงความกลัวและรันทดอย่างเห็นได้ชัด เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

"ผมรู้ว่าถ้าคนพม่าคนไหนพูดกับคนต่างประเทศอย่างผมและทำให้เกิดสงสัยว่าเป็นคนให้ข่าวกับผม เขาหรือเธอก็อาจจะถูกจับ ติดคุกหัวโตในข้อหากระทบความมั่นคงของชาติ..." เพื่อนนักข่าวคนนี้บอกผม

คนเรานั้นเมื่อถูกกดขี่ข่มเหงถึงระดับหนึ่ง ความกลัวก็แปลงเป็นความกล้า และความกล้าของจิตใจที่หล่อหลอมร่วมกันก็จะกลายเป็นความมุ่งมั่นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงประเทศชาติให้ได้...

คนพม่าหลายคนบอกนักข่าวต่างประเทศว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เหมือนเมื่อคราว 1988 ที่ต้องถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ของฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย

"ครั้งนี้ เรามีประชาคมโลกอยู่ข้างเรา...เรารู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้หลังจากที่คนพม่าอยู่ใต้การปกครองโดยระบบเผด็จการทหารมาแล้ว 45 ปี...เราไม่มีอะไรจะต้องสูญเสียมากไปกว่านี้แล้ว..."

สายฝนเทลงมากลางกรุงย่างกุ้งขณะที่นักข่าวยืนคุยกับเพื่อนพม่าโดยไม่มองหน้ากัน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองหรือทหารที่ถือปืนลาดตระเวนไปตามท้องถนนสังเกต

นักข่าวคนนั้นสังเกตว่าเพื่อนพม่าคนนั้นหลั่งน้ำตาปนกับสายฝนที่กระหน่ำลงมา

"รุ่นพ่อผมสู้จนตาย วันนี้ ผมต้องสู้เพื่อให้รุ่นลูกของผมได้ลืมตาเห็นแสงสว่างแห่งความชอบธรรมบ้าง..."นักศึกษาพม่าคนนั้นกระซิบบอกนักข่าวต่างประเทศคนนั้น

http://www.bangkokbiznews.com/2007/10/11/WW12_1238_news.php?newsid=191031

อ่านแล้วเศร้าใจครับ......เลยเอามาฝากเพื่อน ๆ
 
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #1 เมื่อ: 11-10-2007, 11:51 »

ผมอ่านแล้ว นึกถึง พฤษภาทมิฬ จริง ๆ ครับ.....มันหดหู่จริง ๆ ....นึกจะยิง ก็ ยิง
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #2 เมื่อ: 11-10-2007, 12:14 »

กางปีกหลีกบินจากเมือง
เจ้านกสีเหลืองจากไป
เจ้าบินไปสู่เสรี
บัดนีเจ้าชีวาวาย

เจ้าเหิรไปสู่ห้วงหาว
เมฆขาวถามเจ้าคือใคร
อาบปีกด้วยแสงตะวัน
เจ้าฝันถึงโลกสีใด

จงบินไปเถิดคนกล้า
ความฝันสูงค่ากว่าใด
เจ้าบินไปจากรวงรัง
ข้างหลังเขายังอาลัย

กางปีกหลีกบินจากเมือง
เจ้านกสีเหลืองจากไป
เจ้าคือวิญญาณเสรี
บัดนี้เจ้าชีวาวาย ...
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #3 เมื่อ: 11-10-2007, 13:42 »

มันก็คล้ายๆกับเหตุการณ์หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ นักศึกษา ปัญญาชน
และผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง พากันหนีตายเข้าป่า ออกไป ตปท. กระจัดกระจายกันไปเหมือนผึ้งแตกรัง
รอวันเวลาที่จะกลับมารวมตัวกันใหม่

ขอมอบขวัญและกำลังใจแด่ชาวพม่า
ผู้ที่มีจิตในในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทุกๆท่าน
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
justy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,250



« ตอบ #4 เมื่อ: 11-10-2007, 15:29 »

มันก็คล้ายๆกับเหตุการณ์หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ นักศึกษา ปัญญาชน
และผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง พากันหนีตายเข้าป่า ออกไป ตปท. กระจัดกระจายกันไปเหมือนผึ้งแตกรัง
รอวันเวลาที่จะกลับมารวมตัวกันใหม่

ขอมอบขวัญและกำลังใจแด่ชาวพม่า
ผู้ที่มีจิตในในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทุกๆท่าน


6 ตุลาฯ หนูคงยังเล็กอยู่  เหตุการณ์ครั้งนั้นจึงได้ยินแต่คำบอกเล่า

เคยดูในวีซีดี แต่มันก็งง ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น

แต่เห็นความโหดร้ายในแผ่นนั้นแล้วเคยนึกไปว่า"นี่หรือคือประเทศไทย"

สำหรับเหตุการณ์ในพม่า เราก็ได้รับรู้แค่ข่าวจากที่คนอื่นๆภาพที่หลุดออกมาน้อยมากๆ

เราชาวต่างชาติ เหมือนคนรากหญ้าที่ถูกปิดหูปิดตา  มาโดยตลอด

 แล้วสุดท้ายใครจะทำอะไรผู้นำเผด็จการพวกนี้ได้
บันทึกการเข้า

พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #5 เมื่อ: 11-10-2007, 15:55 »

สถานการณ์ในพม่า ดูเหมือนว่าพลังของประชาชนผู้ที่รักความเป็นธรรมจะพ่ายแพ้
เผด็จการทหารพม่าคงรู้ตัวดีแล้วว่า อำนาจที่ได้มาจากปลายกระบอกปืนกำลังสั่นคลอน
   การต่อสู้ของผู้ที่รักความเป็นธรรมชาวพม่ายังดำเนินต่อไป อาจจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการเคลื่อนไหวในหลายๆรูปแบบ
ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการประสานงานกับต่างประเทศมากขึ้น
   ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เผด็จการทหารพม่า ก็คงจะถูกโค่นล้มลงไปในไม่ช้า

บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #6 เมื่อ: 11-10-2007, 17:08 »

ดูจากที่นักศึกษา บอกนักข่าวแล้ว ผมว่า ยังต้องสู้กันอีกยาว.....แต่ ที่หดหู่ใจ เมื่อนึกถึง ก็ คือ คงต้องมี คนตายอีกเยอะทีเดียวครับ....เมื่อถึงวันที่ เหตุการณ์สุกงอมอีกครั้ง.....
บันทึกการเข้า
ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258



« ตอบ #7 เมื่อ: 11-10-2007, 17:16 »

ท่านท้าวว่า ตราบใดที่ ชาติมหาอำนาจอย่างจีน และไม่มหาอำนาจอย่างอาเซียนบางประเทศ

ยังไม่ถอนตัวจากผลประโยชน์และการลงทุนในพม่า สันติภาพและประชาธิปไตยจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้

อย่างดีรัฐบาลทหารก็เออออไปตามเรื่อง ไม่ก็ปล่อยนางอองซานออกมาเพ่นพ่านซักสามเดือน

พอเรื่องเงียบก็จับไปขังใหม่ แล้วก็คงปล่อยให้ตายในบ้านตัวเอง เท่านั้นเอง สำหรับอนาคตพม่า

บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #8 เมื่อ: 11-10-2007, 17:30 »

ผมว่าเผด็จการพม่าน่าจะอยู่ได้อีกไม่นานนะ

ถ้าเผด็จการแล้วเศรษฐกิจดีอย่างจีนหรือสิงคโปร์ก็พอไหว
แต่นี่มีแต่ทรุดลูกเดียว ขึ้นราคาน้ำมัน 5 เท่า เน่าเห็นๆ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
หน้า: [1]
    กระโดดไป: