รักนี้มอบเสมอ

[อธิฏฐาน]

ทิวาลาลับแล้ว...................แสงสุรีย์
คืนค่ำดวงรัชนี...................กระจ่างฟ้า
ดาวกะพริบราวมี...............แสนโกฎิ…ดวงเอย
ระยิบระยับหล้า..................ดั่งแก้วรัตติกาล

ครืนครืนเสียงคลื่นไล้.............โลมทราย
ฟองฟู่ยังคืนคลาย...................พักบ้าง
ทะเลร่ำเพียงหมาย................เซาะฝั่ง
ซาสาดยังแรมร้าง................ห่อนได้คืนหวน

ลำนาวาฝ่าข้าม......................ผืนธาร
พายุหมายรอนราญ.................คว่ำเจ้า
หวังเคียงฝั่งคอยกาล...............ดลช่วย
หนาวเหน็บบางคืนเศร้า.........เมฆนั้นเมียงมอง

เรือประมงกลับแล้ว................คืนเรือน
เสียงกู่ดังใครเยือน................เรียกร้อง
ขอพักผ่อนตนเตือน............ยามหลับ....นาพ่อ
เพียงรุ่งเครื่องยนต์ก้อง.........ออกแล้วหาปลา

วันแลคืนเทียบได้...................เวลา
วนสลับดังนาฬิกา...............เคลื่อนแล้ว
พบมีพรากยังพา..............หทัยสุข....พี่เอย
คงห่วงยามคลาดแคล้ว........รักนี้มอบเสมอ

[อธิฏฐาน]

ปลายวสันต์คราร่ำไห้...................อำลา
หนาวเหน็บเหมันต์ครา.................เริ่มต้น
พระพายพัดนำพา................ไหมหมอก...มาเอย
เมฆหม่นทึมเทาล้น..............สลับล้วนละอองฝน

[paper punch]

เพราะจับใจ..
 

[อธิฏฐาน]

แพรหมอกเยือนย่างเข้า..........เหมันต์
วสันต์หลั่งบอกลากัน..............ก่อนลี้
ตะแบกม่วงรอวัน..................โรยร่วง
ดินโอบดอกน้อยนี้.............อุ่นเอื้อเพียงสมร

[อธิฏฐาน]

พวงผกาน้ำตาไหลบ่าแก้ม
กลีบอ่อนบางยิ้มแย้มเลือนแรมหาย
ร่วงละลิ่วแล้วหล่นปะปนทราย
เหลียวแลใครรอบกายคล้ายไม่มี

สายวสันต์พร่างพรมดังถมร่าง
แรกอรุณน้ำค้างกลีบบางคลี่
สายบ่ายโศกตะวันเผาเศร้าฤดี
ดอกไม้รอราตรีชั่วชีวัน

แสงรวีลับเหลี่ยมภูเยี่ยมฟ้า
สกุณาคืนคอนก่อนค่ำนั้น
หริ่งเรไรกรีดเสียงสำเนียงประชัน
ดาวล้อมจันทร์เคียงข้างเหมือนอย่างเคย

คอยคะนึงถึงใครยามใกล้ค่ำ
ร่ายกลอนกานท์ลำนำนัยคำเผย
หลับตาลงส่งใจใช่ละเลย
ลมรำเพยกระซิบเขาว่าเรารอ

[komyen]

กระซิบเสียงเพียงแผ่วให้แว่วหวาน
กระซิบผ่านลมพลิ้วที่หวิวไหว
ฝากเสียงหรีดกรีดกริ่งหริ่งเรไร
ฝากดวงใจไปด้ายช่วยรับที

ซับน้ำตาผกามาลย์ไหลผ่านแก้ม
รับรอยแย้มยิ้มใสด้วยใจพี่
ชื่นน้ำค้างพร่างฟ้าในราตรี
ชื่นใจนี้แม้มีใจตอบใจมา

หวานแหววมั้ย

[THE THIRD WAY]

ว่าดวงตา คือหน้าต่าง ของดวงใจ
แล้วทำไม กับดวงตา ที่ฉันฝัน
ไม่ซื่อตรง กับดวงใจ ที่ผูกพัน
ดวงตาฉัน จึงมืดมน ล้นดวงใจ

[อธิฏฐาน]

กระซิบเสียงเพียงแผ่วให้แว่วหวาน
กระซิบผ่านลมพลิ้วที่หวิวไหว
ฝากเสียงหรีดกรีดกริ่งหริ่งเรไร
ฝากดวงใจไปด้ายช่วยรับที

ซับน้ำตาผกามาลย์ไหลผ่านแก้ม
รับรอยแย้มยิ้มใสด้วยใจพี่
ชื่นน้ำค้างพร่างฟ้าในราตรี
ชื่นใจนี้แม้มีใจตอบใจมา

หวานแหววมั้ย

ยินถ้อยเสียงกระซิบแผ่วเจื้อยแจ้วหวาน
มธุพจน์กังวานดั่งธารไหล
ยามราตรีหรีดร่ำฤๅคำใคร
พระพายพัดดวงใจมอบใครกัน

มาซับน้ำจากตาผการ่ำ
สายฝนพรำสั่งฟ้าลาวสันต์
พลิ้วลมผ่าวเหน็บหนาวคราวเหมันต์
ร้อยดวงใจผูกพันดังสัญญา


หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าเลยค่ะลุงคม

[อธิฏฐาน]

ว่าดวงตา คือหน้าต่าง ของดวงใจ
แล้วทำไม กับดวงตา ที่ฉันฝัน
ไม่ซื่อตรง กับดวงใจ ที่ผูกพัน
ดวงตาฉัน จึงมืดมน ล้นดวงใจ

เมื่อหน้าต่างดวงใจเปิดไว้ท่า
เมื่อหน้าต่างดวงตาสบตาใช่
เมื่อหน้าต่างความรักเอ่ยทักใคร
แล้วหน้าต่างบานไหนยิ้มให้กัน

[paper punch]

เจ้าเมฆน้อย  ลอยล่อง  ท่องนภา
น้ำค้างมา  ส่งยิ้มให้  ในวันเช้า
ลมหนาวผ่าน  แอบกระซิบ รักแผ่วเบา
โอ้ใจเรา ความสุขนี้ ช่างดีจริง..
 

[อธิฏฐาน]

เจ้าเมฆน้อย  ลอยล่อง  ท่องนภา
น้ำค้างมา  ส่งยิ้มให้  ในวันเช้า
ลมหนาวผ่าน  แอบกระซิบ รักแผ่วเบา
โอ้ใจเรา ความสุขนี้ ช่างดีจริง..
 

หยดน้ำค้างดั่งดาวยามเช้าสาง
รอระเหยเลือนลางอยู่อย่างนั้น
ไม่อาจเผยความงามยามตะวัน
จับยอดหญ้าเคียงขวัญทุกวันไป

[komyen]

โอ้ละหนอดึกแล้วน้องแก้วพี่
ดึกคืนนี้คงฝันรำพันหา
แต่แรมวันว้าเหว่ทุกเวลา
อยากพบหน้าแนบนวลรัญจวนใจ

ดูดวงเดือนเคลื่อนลอยคล้อยหลังเมฆ
คืนวิเวกคอยหวังยังหวามไหว
โอ้ดึกดื่นคืนนี้ไม่มีใคร
นั่งอาบไล้ละอองจันทร์ฝันคนเดียว

เขียนด่าไอ้หมักแล้ว เขียนหวานๆดูมั่ง

[อธิฏฐาน]

โอ้ละหนอดึกแล้วน้องแก้วพี่
ดึกคืนนี้คงฝันรำพันหา
แต่แรมวันว้าเหว่ทุกเวลา
อยากพบหน้าแนบนวลรัญจวนใจ

ดูดวงเดือนเคลื่อนลอยคล้อยหลังเมฆ
คืนวิเวกคอยหวังยังหวามไหว
โอ้ดึกดื่นคืนนี้ไม่มีใคร
นั่งอาบไล้ละอองจันทร์ฝันคนเดียว

เขียนด่าไอ้หมักแล้ว เขียนหวานๆดูมั่ง

โอ้ละหนอดวงเดือนยามเคลื่อนคล้อย
ใจล่องลอยไปไกลดวงใจเอ๋ย
ดาริกากะพริบพร่างเหมือนอย่างเคย
ลมรำเพยเหน็บหนาวพัดผ่าวกาย

ครั้นจันทร์แรมลาล่วงจากห้วงฟ้า
คล้ายบางใครอำลาหลบหน้าหาย
นั่งมองจันทร์ส่วนเสี้ยวอย่างเดียวดาย
สายวสันต์เริ่มคลายดังสายใจ


เขียนด่าหมัก ไม่กลัวหรือคะคุณลุงคม

[komyen]

เมื่อดวงเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลับล่วง
เหลือดาวดวงห่วงฟ้าคราใกล้สาง
ผ่านค่อนดึกนึกถึงคนึงนาง
หนาวน้ำค้างพร่างฟ้าในราตรี

ยังคิดถึงคนึงหาใช่ลาหาย
ห่างเพียงกายหมายใจไม่หลีกหนี
นับดวงจันทร์ผันเวียนเปลี่ยนรวี
รอวันที่พี่จะกลับรับขวัญเธอ

หวานมั้ย เดี๋ยวจะเขียนด่าไอ้หมักซะหน่อย ไม่ได้เข้ามาหลายวัน

[อธิฏฐาน]

เมื่อดวงเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลับล่วง
เหลือดาวดวงห่วงฟ้าคราใกล้สาง
ผ่านค่อนดึกนึกถึงคนึงนาง
หนาวน้ำค้างพร่างฟ้าในราตรี

ยังคิดถึงคนึงหาใช่ลาหาย
ห่างเพียงกายหมายใจไม่หลีกหนี
นับดวงจันทร์ผันเวียนเปลี่ยนรวี
รอวันที่พี่จะกลับรับขวัญเธอ

หวานมั้ย เดี๋ยวจะเขียนด่าไอ้หมักซะหน่อย ไม่ได้เข้ามาหลายวัน

เดือนดวงเดิมดั่งเสี้ยว..........เคียวคอย
ยามเคลื่อนดังโคมลอย.........ละล่องฟ้า
แสงจันทร์ส่องใจพลอย.........พาสงบ
ดาวระยิบเหนือทุ่งหญ้า......รุ่งแจ้งแสงสลาย

[อธิฏฐาน]

เมื่อดวงเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลับล่วง
เหลือดาวดวงห่วงฟ้าคราใกล้สาง
ผ่านค่อนดึกนึกถึงคนึงนาง
หนาวน้ำค้างพร่างฟ้าในราตรี

ยังคิดถึงคนึงหาใช่ลาหาย
ห่างเพียงกายหมายใจไม่หลีกหนี
นับดวงจันทร์ผันเวียนเปลี่ยนรวี
รอวันที่พี่จะกลับรับขวัญเธอ

หวานมั้ย เดี๋ยวจะเขียนด่าไอ้หมักซะหน่อย ไม่ได้เข้ามาหลายวัน

มองดวงเดือนเคลื่อนคล้อย..............อำลา
หนาวเหน็บเหมันต์ครา..................จากเจ้า
ดาราร่วงจากนภา........................แสงวาบ
ยามหลับตาพาเศร้า....................จิตนั้นคนึงหา

[เล่าปี๋]

  แหมเข้ามาอ่านแล้ว เพราะดีจังครับคุณ อธิฏฐาน

แหะๆน่าอิจฉาจัง  เพราะผมเป็นแค่เพียงกลอนประตู  ขอบคุณครับ 

[อธิฏฐาน]

  แหมเข้ามาอ่านแล้ว เพราะดีจังครับคุณ อธิฏฐาน

แหะๆน่าอิจฉาจัง  เพราะผมเป็นแค่เพียงกลอนประตู  ขอบคุณครับ 

กลอนประตูยังรักษาความปลอดภัยได้ค่ะ

[อธิฏฐาน]

ลมเหมันต์เย้าหยอกดวงดอกหญ้า
สายวสันต์ล่ำลาฟากฟ้าหนาว
ท้องนภาพร่างเพชรเกลื่อนเกล็ดดาว
วาบวิบวาวพร่ำพ้อร่ำรอใคร

เสียงเรไรหริ่งหรีดร้องหวีดหวิว
ใบไม้ร่วงลอยลิ่วปลิดปลิวใหม่
เพลงธันวาฯขับขานกังวานใจ
ดังร่ำไรศกผ่านครบกาลปี

เกลียวคลื่นสาดหาดทรายมุ่งหมายชื่น
ท้องทะเลตาตื่นตามคลื่นนี้
ไร้หลับไหลลับลาแม้นาที
เทียบหทัยนารีคราพี่ไกล

แรมบุหลันลอยเลื่อนเยี่ยมเยือนฟ้า
รายล้อมด้วยดาริกานภาใหญ่
น้ำค้างพรำเพียงโสมชะโลมใจ
แรกอรุณรางใหม่จักไกลกัน

นอนนิทราฝันไกลถึงใครหนึ่ง
เช้าบ่ายเย็นคำนึงรำพึงมั่น
คิดถึงเรามีไหมในสักวัน
ฤๅเยื่อใยผูกพันแค่ฝันนวล

[อธิฏฐาน]

ปลายธันวาสุดสิ้น........................กาลสุกร
ปีชวดขอคำพร............................แห่งฟ้า
วอนทวยเทพอาทร...............ไทยชาติ...เราเอย
พรพิสุทธิ์ประทานหล้า...........ปกป้องชาวสยาม

ความทุกข์โศกห่างร้าง.................ลาไกล
จนยากแลโพยภัย.......................สร่างสิ้น
ประสบสุขหวังใด....................สำเร็จ...ผลนา
เดนศัตรูแดดิ้น.....................พ่ายแพ้กระโจนหนี

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกเกล้า....................กรุณา
สินทรัพย์เกียรติยศมา................กอรปเกื้อ
มีพลังก่อเดชา..........................ตลอดชีพ
เปรมจิตใจอะเคื้อ...................สว่างแจ้งปัญญา

พระสยามเทวาธิราชเจ้า.............องค์อินทร์
ทรงห่วงผืนธรณินทร์…………............นี่นี้
จงปกปักชีวิน......................อันพิสุทธิ์...นาพ่อ
แคล้วคลาดไฟฟอนลี้................ตราบไร้รวีฉาย

[อธิฏฐาน]

ส.ค.ส. ๒๕๕๑

สักวาทิวาอุษาสาง
หยดน้ำค้างดั่งดาวยามเช้าชื่น
วารปีใหม่ดลท่านสุขทุกวันคืน
ทั้งยามหลับแลตื่นล้วนรื่นรมย์

ปรารถนาสิ่งใดสมใจคิด
ความเยาว์วัยสถิตเป็นปฐม
มิตรล้อมรายระรื่นและชื่นชม
ความทุกข์ตรมเลือนสลายจากกายเอย

[THE THIRD WAY]

ความตั้งใจ ปีใหม่นี้ มีอยู่ว่า
รักของข้า คงสดใส ไม่หม่นหมอง
เพราะเป็นรัก ครั้งสุดท้าย ที่หมายปอง
ได้โปรดเถิด นวลน้อง รักสำคัญ

แม้นว่า ชาติหน้า ถ้ามี
ไม่แน่ว่า ข้านี้ ไปที่นั่น
ขอเพียงแค่ ชาตินี้ ได้รักกัน
ขอนรก แลสวรรค์ เป็นพยาน

หากข้า ผิดสัญญา ฟ้าได้โปรด
ได้ลงโทษ ให้สาสม ที่อาจหาญ
ผิดต่อฟ้า ผิดต่อดิน คนสามานย์
อย่าได้พาน พบรัก ทุกชาติไป

เพราะข้านี้ รักเจ้า ด้วยดวงจิต
หรือสวรรค์ ลิขิต มาแต่ไหน
หากเจ้าผิด ข้านั้น พร้อมอภัย
บอกแล้วไง เพราะรักเจ้า ด้วยรักจริง

[อธิฏฐาน]

ความตั้งใจ ปีใหม่นี้ มีอยู่ว่า
รักของข้า คงสดใส ไม่หม่นหมอง
เพราะเป็นรัก ครั้งสุดท้าย ที่หมายปอง
ได้โปรดเถิด นวลน้อง รักสำคัญ

แม้นว่า ชาติหน้า ถ้ามี
ไม่แน่ว่า ข้านี้ ไปที่นั่น
ขอเพียงแค่ ชาตินี้ ได้รักกัน
ขอนรก แลสวรรค์ เป็นพยาน

หากข้า ผิดสัญญา ฟ้าได้โปรด
ได้ลงโทษ ให้สาสม ที่อาจหาญ
ผิดต่อฟ้า ผิดต่อดิน คนสามานย์
อย่าได้พาน พบรัก ทุกชาติไป

เพราะข้านี้ รักเจ้า ด้วยดวงจิต
หรือสวรรค์ ลิขิต มาแต่ไหน
หากเจ้าผิด ข้านั้น พร้อมอภัย
บอกแล้วไง เพราะรักเจ้า ด้วยรักจริง

ความตั้งใจล้ำค่าประดาสิ่ง
หากเจอรักแท้จริงอย่านิ่งเฉย
กระซิบบอกเบาเบาอย่าเศร้าเลย
กาลเวลาจงเผยและเอ่ยคำ

หากใครผิดสัญญาฟ้าลงโทษ
วชิราพิโรธแสงมืดคล้ำ
ให้คนลวงรับทราบและหลาบจำ
กฏแห่งกรรมจริงแท้พ่ายแพ้ตน


สวัสดีค่ะคุณ THE THIRD WAY

[THE THIRD WAY]

ถ้า คิดถึงใคร แล้วถึงฆาต
พี่คงขาด ใจตาย แน่นักหนา
เพราะรัก และคิดถึง ทุกเวลา
หรือฟ้า ไม่เมตตา คนรักจริง

จะทรมาน ให้ตาย ไปต่อหน้า
ก็ไม่ว่า เพราะพี่ รักน้องหญิง
รักนี้ มอบเสมอ ด้วยใจจริง
โปรดอย่าทิ้ง ให้ทดท้อ ทรมาน

สวัสดีครับคุณอธิฏฐาน

[อธิฏฐาน]

ความคิดถึงส่งไปยามใกล้ค่ำ
พร้อมลำนำเพลงหวานผ่านทิวสน
คลื่นทะเลมิหลับไหลดังใจคน
ยามค่ำคืนฝืนทนสายฝนพรำ

สายลมครวญรับขวัญพระจันทร์ฉาย
แสงดาวพรายหริ่งหรีดเสียงกรีดร่ำ
หัวใจเอยช้ำทราบมิหลาบจำ
หลงคอยคำจนท้อทรมา


สวัสดีค่ะคุณ THE THIRD WAY