แชมป์บาร์เทนเดอร์ประเทศไทย 2007 "เปิดมิติใหม่ของคนหลังบาร์"
1 ตุลาคม 2550 19:52 น.
ผ่านไปเรียบร้อยแล้วการแข่งขันบาร์เทนเดอร์ชิงแชมป์ประเทศไทยปี2550 (Thailand Bartender Contest 2007) ที่สร้างความครึกครื้นไปทั่วรอยัล พารากอน ฮอลล์ เมื่อเร็วๆ นี้
จัดโดยสมาคมโรงแรมไทย ร่วมกับสมาคมบาร์เทนเดอร์สากลประจำประเทศไทย และชมรมอาหารเครื่องดื่มแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 แล้ว ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาบุคลากรวงการ บาร์เทนเดอร์ ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยและพัฒนาสู่นานาชาติ ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพของโรงแรมต่อไป
กว่าจะได้แชมป์บาร์เทนเดอร์ประเทศไทยปีนี้ก็ขับเคี่ยวกันน่าดู จากจำนวนผู้แข่งขันนับร้อยคนจากทั่วประเทศ โดยแบ่งการแข่งขันหลักออกเป็น 3 ประเภท คือ คลาสสิก ผสมเครื่องดื่มค็อกเทลแฟลร์ เน้นลีลาท่าทางและม็อคเทลผสมเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์รับกระแสรณรงค์การเลิกเหล้าและพระราชบัญญัติควบคุมโฆษณาสินค้าประเภทแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นอยู่ในขณะนี้
ในที่สุดผู้ที่คว้าแชมป์ประเภทคลาสสิก คือ ชาญสมรทองคำ ประเภทแฟลร์คือ สันติชัยกิ่งจันทร์ และการแข่งขันเทรนด์ใหม่ของเครื่องดื่มวันนี้ ประเภทม็อคเทล ผู้ชนะเลิศคือเมธาสิทธิ์ แป้นแก้ว
ฐานะผู้สนับสนุนหลัก วิมลวรรณอุดมพร รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิอาจิโอฯ กล่าวว่าได้จัดอบรมให้ความรู้ทั้งเรื่องแอลกอฮอล์และการดื่มอย่างรับผิดชอบ (Responsible Drinking) รวมถึงการดื่มมาตรฐาน (Standard Drink) ที่เป็นมาตรฐานสากลใช้ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะบาร์เทนเดอร์เป็นอาชีพที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการดูแลลูกค้า เวทีนี้จึงเป็นช่องทางการพัฒนาบุคลากรของวงการบาร์เทนเดอร์ให้มีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด
"บาร์เทนเดอร์ในต่างประเทศถือว่าเป็นอาชีพมีเกียรติและมีรายได้ดีเทียบเท่าระดับผู้จัดการโรงแรมเลยทีเดียว ขณะที่บาร์เทนเดอร์กว่า3.5 แสนคนในไทย กระจายอยู่ตามผับ บาร์ โรงแรม โดยภาพรวมไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร ทั้งที่เราเก่งไม่แพ้ต่างชาติ เวทีนี้จึงจัดเพื่อยกระดับอาชีพบาร์เทนเดอร์ให้ทัดเทียมต่างประเทศ โดยพัฒนาตั้งแต่บุคลิกภาพ ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ และให้ความรู้เรื่องแอลกอฮอล์โดยเน้นจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ที่อาชีพนี้ต้องดูแลผู้ดื่มอย่างจริงจังและจริงใจ" วิมลวรรณกล่าว
ขณะที่เครื่องดื่ม"สิงคโปร์ สลิง" ของเพื่อนบ้านเราสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก เวทีการแข่งขันครั้งนี้ก็ริเริ่มให้มีการแข่งขันประเภทพิเศษ "ซิกเนเจอร์ ดริงคส์" อีกประเภทหนึ่งเพื่อสร้างสรรค์สูตรเครื่องดื่มเอกลักษณ์ของไทยเช่นเดียวกัน
โดยแชมป์ประเภท"ม็อคเทล" เมธาสิทธิ์ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานชื่อ สยามซันเซ็ท (Siam Sunset) เน้นส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น นมถั่วเหลือง นมเปรี้ยว น้ำตะไคร้ น้ำว่านหางจระเข้ น้ำองุ่นขาวน้ำแครอท ฯลฯ นำมารวมกันแล้ว...เช้ก...เช้ก...เช้ก...สีสันสดใสในโทนส้มน่าดื่มแก้กระหายยิ่งนัก เจ้าของสูตรบอกอย่างภาคภูมิใจว่า บาร์เทนเดอร์ไม่เป็นแค่คนชงเหล้า แต่เครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างม็อคเทลสูตรสมุนไพร เขาก็สามารถสร้างสรรค์อร่อยล้ำจนได้รางวัลชนะเลิศ"ม็อคเทลแก้วนี้เป็นเครื่องดื่มชีวจิตขนานดีกำลังนิยมมาก เพราะไม่มีแอลกอฮอล์ แล้วหากลูกค้าคิดจะดื่มแต่ละครั้งผมก็ขอให้เขาดื่มเพื่อความสุนทรีย์ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนที่เขารักด้วย ผมจะเน้นอย่างนี้ทุกๆ ครั้งครับ" เมธาสิทธิ์บาร์เทนเดอร์รุ่นใหม่ไฟแรงจากโรงแรมตวันนา กล่าวพร้อมรอยยิ้มปลื้ม แชมป์ประเภท"คลาสสิก" ชาญสมรบอกเล่าว่ามีประสบการณ์ทำงานกว่า 7 ปีในวงการนี้ ให้ชื่อเครื่องดื่มที่ชนะเลิศว่า "โรสเสสอาร์ เรด" สื่อถึงความรัก"ผมชอบผสมให้คนดื่มแล้วมีความสุขดูแลเขา คุยกับเขาครับ ไม่เคยเจอคนดื่มหนัก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าควรดื่มแค่ไหน" ส่วน สันติชัยแชมป์ประเภท"แฟลร์" โชว์ลีลาโยนขวดผสมเครื่องดื่มชนะเลิศชื่อ"สมุย ซันเซ็ท" สร้างสรรค์ของประกอบโชว์ด้วยตัวหนังตะลุงสื่อความสนุกจากแดนใต้บอกเล่าเส้นทางบนถนนสายนี้ว่าภาพบาร์เทนเดอร์ที่ได้ดูแลลูกค้าทั้งไทยฝรั่ง "เท่มาก" เขาจึงใฝ่ฝันในอาชีพนี้ แม้ว่าสังคมไทยยังมีสายตาแปลกๆ แต่อย่างไรเขาก็เชื่อว่าหลังบาร์มีมากกว่าแค่คนชงเหล้า
http://www.komchadluek.net/2007/10/02/s001_158260.php?news_id=158260 ทั้งที่เราเก่งไม่แพ้ต่างชาติ เวทีนี้จึงจัดเพื่อยกระดับอาชีพบาร์เทนเดอร์ให้ทัดเทียมต่างประเทศ โดยพัฒนาตั้งแต่บุคลิกภาพ ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ และให้ความรู้เรื่องแอลกอฮอล์โดยเน้นจริยธรรมในการปฏิบัติงาน ที่อาชีพนี้ต้องดูแลผู้ดื่มอย่างจริงจังและจริงใจ" วิมลวรรณกล่าว