ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 01:59
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ห้องสาธารณะ  |  ** ขายชาติไหม? * กฟผ. ถือหุ้นโรงไฟฟ้าราชบุรีไม่ถึง 50% * 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
** ขายชาติไหม? * กฟผ. ถือหุ้นโรงไฟฟ้าราชบุรีไม่ถึง 50% *  (อ่าน 9070 ครั้ง)
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #50 เมื่อ: 24-05-2006, 02:15 »

ถ้าจำไม่ผิด ช่วงปี ๒๕๔๐ ที่โดนพิษต้มยำกุ้ง

ประเทศอยู่ในภาวะถังแตก .. ช่วงนั้น โรงไฟฟ้าราชบุรีกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง

นายทนง พิทยะ ต้องวิ่งหาเงินกู้ จนต้องออกจดหมาย ๑๔ สิงหา ให้ไอเอ็มเอฟ

ยอมรับสภาพการแปรรูปขายสมบัติของชาติ



ด้วยสภาวะถังแตก .. รัฐบาลชวน๒ จึงต้องขายโรงไฟฟ้าราชบุรี

...
บันทึกการเข้า
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #51 เมื่อ: 24-05-2006, 08:25 »

โรงกลั่นน้ำมันระยองกำลังจะเข้าตลาด คุณว้าข้องใจอะไรกับหุ้นตัวนี้อีกไหม ผมจะได้ไปถามโบรเกอร์มาให้

โรงกลั่นระยองมีที่มายังไง ผมอ่านจากเอกสารที่ธนาคารได้ครับ ก่อนจองหุ้น รับทราบแล้ว

เดี่ยวผมจะลองยุให้ยายเพิ้ง (ศัพท์ของ killer)  เอา ratch ออกจากตลาดบ้าง  เพราะเริ่มต้นมาจาก กฟผ. ไม่ใช่การลงทุนสร้างใหม่

ย้ำ  Ratch  ไม่ใช่การลงทุนใหม่  เกิดจาก กฟผ. แล้วขายไปทำไม  เงินกู้ได้อยู่แล้ว กฟผ. เก่งจะตายไปเรื่องใช้หนี้

ดูซิว่ายายเพิ้งจะกล้าทุบหม้อข้าวพวกแมงสาปไหม  หรือก็แค่พวกเสียผลประโยชน์
บันทึกการเข้า
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #52 เมื่อ: 24-05-2006, 08:29 »

:D1.ติดเพดาลหนี้สาธารณะของประเทศครับ

2.การระดมทุนจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ครับ

3.การเจริญเติบโตขององค์กรจะสูงกว่ากู้มาก

4.ทุน10 +กู้10=20 ถ้าสัดส่วนทุน/หนี้=1:1 กว่าจะขยายกิจการเป็น30ได้ หลายปี และยังมีภาระต้องจ่ายดอกอีก

5.ถ้าระดมทุน กิจการขยายเป็น 30 หรือ40 หรือ 50 ได้ในเวลาไม่นาน


อยากให้พวกที่บอกว่า การแปรรูป กฟผ. แค่ 25% เป็นการขายสมบัติชาติมาอ่านคำตอบคุณจัง
บันทึกการเข้า
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #53 เมื่อ: 28-05-2006, 09:57 »

:D1.ติดเพดาลหนี้สาธารณะของประเทศครับ

2.การระดมทุนจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ครับ

3.การเจริญเติบโตขององค์กรจะสูงกว่ากู้มาก

4.ทุน10 +กู้10=20 ถ้าสัดส่วนทุน/หนี้=1:1 กว่าจะขยายกิจการเป็น30ได้ หลายปี และยังมีภาระต้องจ่ายดอกอีก

5.ถ้าระดมทุน กิจการขยายเป็น 30 หรือ40 หรือ 50 ได้ในเวลาไม่นาน


อยากให้พวกที่บอกว่า การแปรรูป กฟผ. แค่ 25% เป็นการขายสมบัติชาติมาอ่านคำตอบคุณจัง

ผมเข้าใจคุณนะ คุณว้า ว่ากำลังสื่อถึงอะไร แต่ กฟผ. ไม่จำเป็นต้องแปรรูปในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้คนหรือนายทุนใหญ่ๆเข้ามาถือครอง กฟผ.แปรรูปเฉพาะรูปแบบองค์กรก็พอแล้วครับ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #54 เมื่อ: 29-05-2006, 07:57 »

:D1.ติดเพดาลหนี้สาธารณะของประเทศครับ

2.การระดมทุนจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินปันผล ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ครับ

3.การเจริญเติบโตขององค์กรจะสูงกว่ากู้มาก

4.ทุน10 +กู้10=20 ถ้าสัดส่วนทุน/หนี้=1:1 กว่าจะขยายกิจการเป็น30ได้ หลายปี และยังมีภาระต้องจ่ายดอกอีก

5.ถ้าระดมทุน กิจการขยายเป็น 30 หรือ40 หรือ 50 ได้ในเวลาไม่นาน


อยากให้พวกที่บอกว่า การแปรรูป กฟผ. แค่ 25% เป็นการขายสมบัติชาติมาอ่านคำตอบคุณจัง

ผมเข้าใจคุณนะ คุณว้า ว่ากำลังสื่อถึงอะไร แต่ กฟผ. ไม่จำเป็นต้องแปรรูปในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้คนหรือนายทุนใหญ่ๆเข้ามาถือครอง กฟผ.แปรรูปเฉพาะรูปแบบองค์กรก็พอแล้วครับ

เรื่องนี้คงเป็นความเห็นของคุณ  แต่การระดมทุนเพียง 25%  แล้วให้ต่างชาติถือแค่ 30% ของ 25% อีกที

มองกี่มุมก็ไม่เห็นทางที่นายทุนใหญ่จะมายึดกฟผ. ได้

ถ้าจะย้อนถามว่า แล้วทำไมไม่กู้ละ

ก็ต้องถามกลับแล้วทำไมที โรงไฟฟ้าราชบุรี ไม่กู้ละ  เอาไปขายทำไม แล้วตอนนี้ กฟผ. เหลือหุ้นแค่ 45% ด้วย 

และชัดเจนอยู่แล้วว่า โรงไฟฟ้าราชบุรี คือ สินทรัพย์ของกฟผ. มาก่อน   ไม่ใช่การสร้างโรงงานใหม่
บันทึกการเข้า
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #55 เมื่อ: 29-05-2006, 22:35 »

คุณได้อ่านที่ผมตอบไป7-8กระทู้ด่านบนหรือยังเนี่ย

อ้างจาก: อะไรว้า ที่ 15-05-2006, 17:30
สรุปแล้วก็ตอบไม่ได้  ทำไมต้องขาย ราชบุรี ทั้งๆ ที่เริ่มต้นมาจาก กฟผ. ไม่ใช่การสร้างใหม่

ใบ้แดก ไปตามๆ กัน


ก่อนตอบคำถามที่คุณว้าถามต่อเนื่องจากกระทู้ด้านบน ผมต้องบอกออกตัวนิดนึง ตอนแรกกะว่าจะไม่ตอบเพราะตอบไปเยอะแล้ว
เรื่องผู้ถือหุ้น ผมอธิบายคร่าวๆแล้วจากกระทู้ด้านบน ส่วนคุณว้าถามว่าทำไมต้องขายในเมื่อเป้นของ กฝผ.อยู่แล้ว ขอให้คุณว้าเข้าใจว่ามันไม่ขายชาติเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับทรัพยากรบางอย่างที่ถูกประท้วงเช่น เขื่อนหรือป่าไม่ต่างๆนะครับ ส่วนที่ถามว่าขาย ratch ไปทำไม?
คำตอบก็คือ เป็นเรื่องของการกระจายความเสี่ยง โดยการให้ratch ช่วยผลืตไฟฟ้าส่งขายแก่ กฟผ.และกฟภ. โดยที่ กฟผ.ไม่ต้องลงทุนในเรื่องน้ำมัและก๊าซต่างๆเพี่ยงผู้เดียว ต้องเข้าใจก่อนว่าการผลิตไฟฟ้าจำเป้นต้องใช้น้ำมันในการผลิตใช่ไหมครับ แล้วน้ำมันบางส่วนก็ต้องซื้อใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ก็มาถึงคำว่า ราคาผันผวน คุณ ว้ารู้ล่วงหน้าไหมครับว่าราคาน้ำมันจะขึ้นพรวดๆแบบนี้ การสต๊อกน้ำมันในการผลิตไฟฟ้าก็ต้องมี ถ้าสต๊อกแล้วราคาตกก็กลายเป้นต้นทุนสูงถ้าสต๊อกแล้วน้ำมันแพงก้กลายเป้นต้นทุนต่ำ เราจะบอกว่า กฟผ.กำไรดี ratch ที่เป้นลูกถ้าไม่แปรรูปก็จะดีกำไรเยอะขึ้นถูกไหม? คำตอบคือถูก แต่ถูกครึ่งเดียว เพราะเรามองว่าราคาน้ำมันที่แพงไปแล้ว เลยทำกำไรให้ กฟผ.มากขึ้น เพราะกฟผ.สต๊อกน้ำมันไว้แล้ว และราคาน้ำมันสูงขึ้นจึงเข้าหลักต้ำทุนต่ำลง แต่ถ้าราคาน้ำมันมันลดลงละ ผลจะต่างกัน แล้วratch ที่มีผู้ถือหุ้นหลายรายก็จะช่วยแบ่งเบาผลต่างของต้นทุนที่สูงขึ้น ก็จะทำให้ กฝผ.ไม่ต้องสูญเสียผลประโยชน์บางอย่าง

ผมอธิบายแบบชาวบ้านๆให้คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องได้เข้าใจแถ้จะเอาแบบเน้นๆใช้คำวิชาการผมคงต้องตามนักลงทุนมาตอบแทน แต่ที่ตอบไปหวังว่าคุณว้าคงมองเห้นภาพชัดเจนมากขึ้นนะครับ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #56 เมื่อ: 30-05-2006, 08:35 »

คุณได้อ่านที่ผมตอบไป7-8กระทู้ด่านบนหรือยังเนี่ย

อ้างจาก: อะไรว้า ที่ 15-05-2006, 17:30
สรุปแล้วก็ตอบไม่ได้  ทำไมต้องขาย ราชบุรี ทั้งๆ ที่เริ่มต้นมาจาก กฟผ. ไม่ใช่การสร้างใหม่

ใบ้แดก ไปตามๆ กัน


ก่อนตอบคำถามที่คุณว้าถามต่อเนื่องจากกระทู้ด้านบน ผมต้องบอกออกตัวนิดนึง ตอนแรกกะว่าจะไม่ตอบเพราะตอบไปเยอะแล้ว
เรื่องผู้ถือหุ้น ผมอธิบายคร่าวๆแล้วจากกระทู้ด้านบน ส่วนคุณว้าถามว่าทำไมต้องขายในเมื่อเป้นของ กฝผ.อยู่แล้ว ขอให้คุณว้าเข้าใจว่ามันไม่ขายชาติเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับทรัพยากรบางอย่างที่ถูกประท้วงเช่น เขื่อนหรือป่าไม่ต่างๆนะครับ ส่วนที่ถามว่าขาย ratch ไปทำไม?
คำตอบก็คือ เป็นเรื่องของการกระจายความเสี่ยง โดยการให้ratch ช่วยผลืตไฟฟ้าส่งขายแก่ กฟผ.และกฟภ. โดยที่ กฟผ.ไม่ต้องลงทุนในเรื่องน้ำมัและก๊าซต่างๆเพี่ยงผู้เดียว ต้องเข้าใจก่อนว่าการผลิตไฟฟ้าจำเป้นต้องใช้น้ำมันในการผลิตใช่ไหมครับ แล้วน้ำมันบางส่วนก็ต้องซื้อใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ก็มาถึงคำว่า ราคาผันผวน คุณ ว้ารู้ล่วงหน้าไหมครับว่าราคาน้ำมันจะขึ้นพรวดๆแบบนี้ การสต๊อกน้ำมันในการผลิตไฟฟ้าก็ต้องมี ถ้าสต๊อกแล้วราคาตกก็กลายเป้นต้นทุนสูงถ้าสต๊อกแล้วน้ำมันแพงก้กลายเป้นต้นทุนต่ำ เราจะบอกว่า กฟผ.กำไรดี ratch ที่เป้นลูกถ้าไม่แปรรูปก็จะดีกำไรเยอะขึ้นถูกไหม? คำตอบคือถูก แต่ถูกครึ่งเดียว เพราะเรามองว่าราคาน้ำมันที่แพงไปแล้ว เลยทำกำไรให้ กฟผ.มากขึ้น เพราะกฟผ.สต๊อกน้ำมันไว้แล้ว และราคาน้ำมันสูงขึ้นจึงเข้าหลักต้ำทุนต่ำลง แต่ถ้าราคาน้ำมันมันลดลงละ ผลจะต่างกัน แล้วratch ที่มีผู้ถือหุ้นหลายรายก็จะช่วยแบ่งเบาผลต่างของต้นทุนที่สูงขึ้น ก็จะทำให้ กฝผ.ไม่ต้องสูญเสียผลประโยชน์บางอย่าง

ผมอธิบายแบบชาวบ้านๆให้คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องได้เข้าใจแถ้จะเอาแบบเน้นๆใช้คำวิชาการผมคงต้องตามนักลงทุนมาตอบแทน แต่ที่ตอบไปหวังว่าคุณว้าคงมองเห้นภาพชัดเจนมากขึ้นนะครับ

คุณตอบมาก็ดีอะนะ 

แต่ลองเอาตรรกะของคุณไปอธิบายให้พวกทำลายชาติโดยไม่ยอมให้มีการขายหุ้นแค่ 25% ของกฟผ. เพื่อกระจายความเสี่ยงเหมือนกับที่คุณอ้างกับ ratch

ลองเอาไปอธิบายดูดิ

ไม่ถูกด่าด้วยคำว่า "ขายชาติ" "ขายสมบัติชาติ" หรือ "ขายหุ้นให้นายทุนมายึดไฟฟ้า"  แสดงว่าพระดี
บันทึกการเข้า
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #57 เมื่อ: 30-05-2006, 09:28 »

ปชป. แบ่งขายโรงไฟฟ้าราชบุรี 1 โรง

ส่วน ทรท. ขาย กฟผ. แบบเหมาเข่ง ..

ขายโรงไฟฟ้าทุกโรง ขายรวมที่ดินเวรคืน และขายรวมระบบสายส่งทั่วประเทศ
 Money in mouth Money in mouth Money in mouth
บันทึกการเข้า
ปีกซ้ายตัวจี๊ด(ล่ำจัง)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 140



« ตอบ #58 เมื่อ: 30-05-2006, 10:27 »

คุณสมชายสายชล  ขยายความได้ดีครับ

บันทึกการเข้า
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #59 เมื่อ: 30-05-2006, 14:18 »

การกระจายหุ้นเพียง 25%  อำนาจส่วนใหญ่ยังอยู่ที่รัฐ

ประโยชน์ที่เกิดขึ้นทำให้มีช่องทางเพิ่มอีกทางหนึ่งในการระดมทุนลดความเสี่ยง เช่นเดียวกับกรณีกระจายหุ้นของ ratch

ซึ่ง ratch ไม่ควรปล่อยให้ กฟผ. ถือหุ้นแค่ 45% คงต้องไปดูว่าใครทำให้เหลือแค่ 45%

แต่ก็น่าจะรู้ว่าเป็นใครที่เรียน ม.7
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #60 เมื่อ: 01-06-2006, 00:52 »

เรื่องขายหุ้น กฟผ. ประเด็นที่คัดค้านกันไม่ใช่เรื่องรัฐยังถือหุ้นใหญ่หรือเปล่า แต่อยู่ที่ "จำเป็น" ต้องเข้าตลาดหุ้นหรือเปล่า
และควรแล้วหรือที่เอาผลประโยชน์จากเขื่อนของรัฐ และสายส่งไฟฟ้าที่เวนคืนที่ดินประชาชนนับหมื่นกิโลเมตรไปขายรวมด้วย

ส่วนเรื่อง กฟผ. ถือหุ้น ratch 45% ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอำนาจบริหารเด็ดขาด
---------------------------------------------------------------------------------
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2548

  1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย            652,500,000 หุ้น  (45.00%)
  2. กลุ่มบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)              217,400,000 หุ้น  (14.99%)
  3. สำนักงานประกันสังคม                              42,025,600 หุ้น  ( 2.90%)
  4. ธนาคารออมสิน                                       38,000,000 หุ้น  ( 2.62%)
  5. อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวร์รันส์      20,798,600 หุ้น  ( 1.43%)
  6. เชส นอมินีส์ ลิมิเต็ด                                  19,299,690 หุ้น  ( 1.33%)
  7. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน กฟผ.           18,286,800 หุ้น  ( 1.26%)
  8. Investor Bank and Trust Company           15,051,799 หุ้น  ( 1.04%)
  9. เอชเอสบีซี กรุ๊ป                                       13,189,200 หุ้น  ( 0.91%)
10. สเตท สตรีท แบงก์ แอนด์ ทรัสต์ คัมปานี       11,258,000 หุ้น  ( 0.78%)

รวมจำนวนหุ้นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก   1,047,809,689 หุ้น  (72.26%)


ข้อมูลจาก : เว็บไซด์ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
http://www.ratch.co.th/th/main_prf.htm?mnl=th/menu_th_pf_frame.htm&ctl=th/prf_shrehdr_th_content.htm
---------------------------------------------------------------------------------

จะเห็นว่าด้วยโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ratch แม้ กฟผ. ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด
สังเกตว่าต่อให้รวมหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ถึง 10 เข้าด้วยกันก็จะมีหุ้นเพียง 27.46%

หรือหากผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 คือ บ้านปู ต้องการลงทุนครอบงำกิจการ ratch โดยสามารถซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่น
นอกจากรายใหญ่ 10 ราย ก็ยังมีหุ้นรวมเพียง 14.99+27.74 = 42.73% และต่อให้รวมหุ้น AIA เข้ามาอีกก็ยังเป็น 44.16%
ซึ่งน้อยกว่า กฟผ. จึงอาจกล่าวได้ว่า กฟผ. ยังมีอำนาจบริหารแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด..

การนำโรงไฟฟ้าราชบุรีเข้าตลาดหุ้นครั้งนั้น เกิดขึ้นเนื่องจาก กฟผ. ต้องการนำเงินที่ได้ไปขยายระบบสายส่งไฟฟ้า
ในระหว่างเกิดวิกฤตเศรษฐกิจซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยขณะนั้นไม่สะดวกอย่างยิ่งในการค้ำประกันเงินกู้
โดยที่ระบบสายส่งไฟฟ้าเป็นภาระหน้าที่ของ กฟผ. ต้องลงทุนเอง 100% โดยตรง  ในขณะที่ระบบผลิตไฟฟ้าเป็นกิจการ
ที่สามารถให้เอกชนลงทุนได้ 100% อยู่แล้ว  กฟผ. จึงไม่จำเป็นต้องรักษาสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด เพียงรักษาอำนาจ
การบริหารกิจการไว้ก็พอ


และท้ายที่สุดแล้วเงินที่ กฟผ. ได้รับจาก ratch ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาจากการขายหุ้นเพิ่มทุน
จขกท. บอกแต่เพียงว่า กฟผ. ได้รับเงินจากการเพิ่มทุน 16,000 ล้านบาท แต่ไม่ได้บอก
ว่าในนั้นรวมเงินเพิ่มทุนจาก กฟผ. เองไว้ด้วยกว่า 7,000 ล้านบาท

เงินส่วนใหญ่มาจาก บมจ. ราชบุรีโฮลดิ้ง กู้เงินธนาคารไทย 8 แห่งรวม 44,000 ล้าน และได้จากหุ้นเพิ่มทุนให้เอกชน
จริงๆ เพียงไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท การแปรรูป ratch จึงทำให้ กฟผ. ได้รับเงินไปขยายระบบสายส่งไฟฟ้าที่ต้องลงทุน
100% เป็นเงินมากกว่า 50,000 ล้านบาท และยังคงรักษาอำนาจการบริหารใน ratch ได้ด้วย..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-06-2006, 14:32 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #61 เมื่อ: 01-06-2006, 08:09 »

"จะเห็นว่าด้วยโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ratch แม้ กฟผ. ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด "

อ่านแล้วอยากหัวเราะเป็นภาษากานา

จะแถก็ให้มันเนียนหน่อย พวก ม.7 and แก็งค์กู้ซาก ก็งี้  อะไรที่เป็นของพวกตัวเองทำ บอกดีหมด

มันต้อง 50 เปอร์เซนต์ขึ้นไปเฟ้ย เช่น 50.01%   ถึงจะเรียกว่า "มีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด"

แถไหม  เอาให้เนียนกว่านี้
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #62 เมื่อ: 01-06-2006, 08:45 »

"จะเห็นว่าด้วยโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ratch แม้ กฟผ. ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด "

อ่านแล้วอยากหัวเราะเป็นภาษากานา

จะแถก็ให้มันเนียนหน่อย พวก ม.7 and แก็งค์กู้ซาก ก็งี้  อะไรที่เป็นของพวกตัวเองทำ บอกดีหมด

มันต้อง 50 เปอร์เซนต์ขึ้นไปเฟ้ย เช่น 50.01%   ถึงจะเรียกว่า "มีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด"

แถไหม  เอาให้เนียนกว่านี้

บรรยายตั้งยาวยังอ่านไม่เข้าใจ ที่แท้ก็เผยตัวแล้วว่าเป็นพวกฝักใฝ่ภาษาต่างชาติ
เอาเข้าไป.. ดูซิจะไปได้อีกกี่น้ำ..

มาสังเกตเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า หุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ถึง 10 รวมกันมีเพียง 27.46%
ต่อให้เอามารวมกันหมดก็ยังน้อยกว่าหุ้น กฟผ. แบบสุดกู่  ต้องหาหุ้นจากรายย่อยอีกกว่า 20%
ถึงจะมากกว่า กฟผ. ซึ่งคิดว่าเป็นไปได้ง่ายๆ หรือ..

และต้องไม่ลืมว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ อันดับ 3 และ 4 คือ สำนักงานประกันสังคม และธนาคารออมสิน
ถือเป็นหน่วยงานภาครัฐ เมื่อรวมหุ้น กฟผ. กับ สำนักงานประกันสังคม และธนาคารออมสินจะได้
45+2.90+2.62 = 50.52% มากกว่า 50.01% อีก พอใจหรือยัง?

หมายความว่าหุ้นภาครัฐทั้งหมด ซึ่งเป็นฐานอำนาจบริหาร ratch ของ กฟผ. มีสัดส่วนเกินครึ่งอยู่แล้ว
เป็นการแสดงว่า กฟผ. สามารถรักษาอำนาจบริหารจัดการใน ratch ไว้ได้อย่างมั่นคง แม้จะถือหุ้น 45%
และในการแปรรูปยังได้เงินอีก 5 หมื่นกว่าล้านไปขยายระบบสายส่งที่ กฟผ. เป็นเจ้าของ 100% อีกด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2006, 11:10 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
พังเภา
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #63 เมื่อ: 01-06-2006, 11:42 »

คุณอะไรว้า ตอบไ ด้อะไรว้า อย่างคุณ นี้ ไม่เรียกว่าแถ แล้ว แต่ปลาหมอเรียก พี่
บันทึกการเข้า
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #64 เมื่อ: 02-06-2006, 13:10 »

โถ  ยังอุตสาห์แถไปได้ เอาหน่วยงานรัฐมารวมกันได้เกิน 50%

แล้วตอนแรกไหงบอกละว่า 45% มีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด

ลื่นไหลไปได้เรื่อยๆ นะ

ที่การไฟฟ้ารัฐถืออยู่ตั้ง 75%  ทำท่าจะเป็นจะตาย

พวกค้านกฟผ. เข้าตลาดหุ้น ตอบได้ไหมละ โรงไฟฟ้าราชบุรีนะ "จำเป็น"  แค่ไหนต้องเข้าตลาดหุ้น

กู้ก็ได้นี่ เพราะ กฟผ. แจ๋วอยู่แล้ว

ทำไมต้องเข้าตลาดหุ้น

โรงไฟฟ้าราชบุรี  กฟผ. ถือ 45%  ไม่เป็นไร 
กฟผ. จะเข้าตลาด       ถือ 75%  จะเป็นจะตาย

รักชาติ 2 มาตรฐานหรือ 

หรือว่า ถ้าตรงข้ามพวกตัวเอง ทำอะไร ผิดหมด

บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #65 เมื่อ: 02-06-2006, 18:26 »

โถ  ยังอุตสาห์แถไปได้ เอาหน่วยงานรัฐมารวมกันได้เกิน 50%

แล้วตอนแรกไหงบอกละว่า 45% มีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด

ก็ไม่ได้บอกเลยว่า 45% ไม่มีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด
อะไรว้า ลองคิดซิว่าทำยังไงผู้ถือหุ้นอื่นๆ จะมีหุ้นมากกว่า กฟผ.

และ อะไรว้า ลองคิดซิว่าถ้าหน่วยงานรัฐถือหุ้นรวมกันเกิน 50%
แล้วจะมีใครที่ไหนมีสิทธิมีเสียงใน ratch มากกว่า กฟผ. ได้อีก?

ฉะนั้นออกเสียงอะไรก็ชนะหมด ไม่เรียกว่ามีอำนาจเด็ดขาดหรือ
ทำไมเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ถ้ายังไม่เข้าใจอีกก็อย่าถามต่อเลยนะ
อายคนอื่นเขาบ้าง อะไรว้า ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2006, 18:29 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #66 เมื่อ: 02-06-2006, 18:40 »


โรงไฟฟ้าราชบุรีนะ "จำเป็น"  แค่ไหนต้องเข้าตลาดหุ้น


ความจริงตอนนั้นก็ต้องถือว่าจำเป็นเพราะ กฟผ. ต้องการเงินไปขยายสายส่งไฟฟ้า
ซึ่ง กฟผ. ต้องลงทุนเอง 100% และอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในขณะนั้น
ซึ่งอยู่ในช่วงใกล้ล้มละลายก็ไม่สะดวกจะมาค้ำประกันเงินกู้จริงๆ

และประเด็นไม่ใช่แค่พิจารณาว่า ratch จำเป็น ต้องเข้าตลาดหุ้นหรือเปล่า
เพราะความจริง กฟผ. "ไม่จำเป็น" ต้องถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเต็ม 100% อยู่แล้ว
เอกชนอื่นๆ สามารถลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าได้เองถึงไม่มาซื้อหุ้น ratch 

แต่ปัญหาจะเกิดถ้า กฟผ. ไม่สามารถขยายระบบสายส่งไฟฟ้าให้ทันเวลาต่างหาก
เป็นคนละเรื่องกับการขาย กฟผ. ที่ไม่มีเหตุผลความจำเป็นรองรับในปัจจุบัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2006, 18:43 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #67 เมื่อ: 05-06-2006, 07:54 »

สากเอ๋ย  หายาแดงทาสีข้างด้วยนะ  ยิ่งตอบยิ่งแถไปเรื่อยๆ

อ้างอิง ที่ตอบคร้งก่อนนะ

ตำราไหนสอนละว่า

ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด

อายเขานะ อย่าเอาไปบรรยายให้ใครฟัง เขาจะงงกันทั้งโลก

ตอบมาคราวนี้ ได้หัวเราะแต่เช้าอีกแล้ว


ความจริงตอนนั้นก็ต้องถือว่าจำเป็นเพราะ กฟผ. ต้องการเงินไปขยายสายส่งไฟฟ้า
ซึ่ง กฟผ. ต้องลงทุนเอง 100% และอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในขณะนั้น
ซึ่งอยู่ในช่วงใกล้ล้มละลายก็ไม่สะดวกจะมาค้ำประกันเงินกู้จริงๆ


ก๊ากๆ  บอกมาได้   กฟผ. นะเครดิตดีแค่ไหน ใครๆ ก็รู้  ไปกู้ใครๆ ก็ให้กู้เฟ้ย  นี่เป็นข้ออ้างหนึ่งของการที่ไม่อยากให้กระจายหุ้นแค่ 25%
อย่า "มั่ว" ซิ

ความจริง กฟผ. "ไม่จำเป็น" ต้องถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเต็ม 100% อยู่แล้ว

อ้าว ตกลงไม่ห่วงแล้วหรือ  ราชบุรีนะ ตั้งบนแผ่นดินไทย เวรคืนโดยกฏหมายไทย  ต้องเป็นของคนไทย 100% ดิ

จะไม่ว่าอะไรเลย  ถ้า ราชบุรี  ตั้งโดยเอกชน 100%  ซื้อที่ดินโดยเอกชน 100%

ทำไมทีการไฟฟ้าละ แค่ 25% จะเป็นจะตาย 


แต่ปัญหาจะเกิดถ้า กฟผ. ไม่สามารถขยายระบบสายส่งไฟฟ้าให้ทันเวลาต่างหาก

คน กฟผ. ว่าไง  โดนดูถูกซะแล้วว่า ไม่สามารถขยายระบบสายส่งไฟฟ้าให้ทันเวลา 






บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #68 เมื่อ: 05-06-2006, 13:47 »

ทำไม อะไรว้า ช่างเข้าใจอะไรยากอย่างนี้..?

ตามที่เคยพบเจอมา อะไรว้า กำลังพยายามป่วนด้วยวิธี  "แกล้งโง่"
ไม่ว่าครูบาอาจารย์จะสั่งสอนอธิบายขนาดไหน ก็แกล้งเป็นไม่เข้าใจ
ถามคำถามเดิมตลอด ทั้งที่เพื่อนที่เรียนด้วยกันต่างก็เข้าใจหมดแล้ว
ถ้าอาจารย์ผู้สอนพาซื่อเชื่อว่า อะไรว้า โง่จริงก็จะพยายามอธิบายซ้ำ
ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ทั้งยังสิ้นเปลืองเวลาของเพื่อนคนอื่นๆ
ที่จะได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องอื่นต่อไป..

เนื้อความเท่าที่อธิบายมาก็พอสมควรที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ไม่ยาก
แต่ถ้า อะไรว้า ยังไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็จงศึกษาพิจารณาเพิ่มเติมเอาเอง
หรือทำใจปล่อยวางเสียก็ได้ คนเราไม่ต้องเข้าใจอะไรทุกเรื่องหรอก


---------------------------------------------------------------------

ปล. กระทู้นี้ไม่มีใครเขาข้องใจแล้ว ควรหาประเด็นอื่นตั้งกระทู้ใหม่
      ดีกว่าวนเวียนแกล้งไม่รู้เรื่องอยู่กระทู้เดิมนะ อะไรว้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2006, 13:49 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #69 เมื่อ: 06-06-2006, 00:23 »

คุณ จิรศักดิพึ่งจะเข้าใจเหรอครับ ผมไม่ตอบเค้าไปนานแล้ว พุดอะไรไปเหมือนเอาหินโยนลงบ่อไม่เห้นก้นบ่อและไม่รูว่าได้ประโยชน์อะไรด้วย
คุณ ไรว้าต้องกลับไปทบทวนว่าคำตอบของคนอื่นพอจะทำให้คุณรู้เรื่องอะไรมากขึ้นแล้วละ ถามย้ำแต่25% มันไม่เกิดกระบวนความคิดอื่นๆเพราะใครมาอธิบายอะไรคถณก้25%สวนมาอย่างเดียว เป็นคนสวนหรือเปล่าเนี่ย
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #70 เมื่อ: 06-06-2006, 08:32 »

คุณ จิรศักดิพึ่งจะเข้าใจเหรอครับ ผมไม่ตอบเค้าไปนานแล้ว พุดอะไรไปเหมือนเอาหินโยนลงบ่อไม่เห้นก้นบ่อและไม่รูว่าได้ประโยชน์อะไรด้วย
คุณ ไรว้าต้องกลับไปทบทวนว่าคำตอบของคนอื่นพอจะทำให้คุณรู้เรื่องอะไรมากขึ้นแล้วละ ถามย้ำแต่25% มันไม่เกิดกระบวนความคิดอื่นๆเพราะใครมาอธิบายอะไรคถณก้25%สวนมาอย่างเดียว เป็นคนสวนหรือเปล่าเนี่ย

ก็พอรู้อยู่ล่ะครับ เห็นที่คุณ samepong พยายามอธิบายกับเขาแล้วเป็นอย่างไร
แต่จุดประสงค์จริงๆ ที่ผมมาตอบเพิ่มเติมก็เพื่อให้คนอื่นๆ ได้มาอ่าน
เผื่อว่าคนที่ยังไม่ทราบข้อมูลจะเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น

แต่เมื่อเกิดกรณี แกล้งโง่ ถามซ้ำซากก็ต้องอธิบายเพิ่มเติมให้อีกพอสมควร
ด้านหนึ่งเผื่อว่าเดิมอธิบายไว้ไม่ชัดเจน อีกด้านหนึ่งเพื่อเน้นให้เห็นว่าเมื่ออธิบายเพิ่มแล้ว
ยังมีการแกล้งโง่อยู่ทั้งที่น่าจะเข้าใจ พวกเราก็จะได้จบกระทู้นี้กันเสียทีไงครับ..
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #71 เมื่อ: 06-06-2006, 11:51 »

แหม พอมีเพื่อนมาถือหาง กะดิกดิกๆ เลยนะ

เอ้า สรุปไปเลยก็ได้ จะได้รู้ว่า คนที่เข้าใจแบบนี้ "แกล้งโง่" หรือ "โง่จริง"

กรณีโรงไฟฟ้าราชบุรี  ที่ "นาย" ตัวเองเป็นคนเอาไปขาย

1.  กฟผ. "ไม่จำเป็น" ต้องถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเต็ม 100% อยู่แล้ว  (เอาสมองส่วนไหนคิด)
2.  ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด (เอาสมองส่วนไหนคิด)
3.  กฟผ. "จำเป็น" ต้องขายเพราะ กฟผ. ต้องการเงินไปขยายสายส่งไฟฟ้า (เอาสมองส่วนไหนคิด)


กรณี กระจายหุ้น กฟผ.  25%  โดยที่เหลือ  75% รัฐยังถือหุ้น

1.  ทำไม่ได้ ห้ามขาย เป็นการขายสมบัติชาติ  เดี่ยวนายทุนมายึด  (ราชบุรีไม่กลัวโดนยึด)
2.  ถือหุ้น 75% ไม่ได้  เดี่ยวต่างชาติมาฮุป  ต้องถือ 100% (ราชบุรีไม่เป็นไรเหลือ 45% ได้)
3.  ไม่ต้องขายหุ้น กู้เงินได้ เพราะเก่ง เครดิตดี   (ราชบุรีไม่ได้ ต้องขายหุ้น)

สรุปแบบนี้  ถูกใจไหม หนูๆๆ   


ปล.  อยากตอบก็ตอบ ไม่อยากตอบก็ "ใบ้แดก" ไป  ยกเว้นแต่รับจ้างมา  ก็ต้องทำหน้าที่ใช่ไหมล่ะ  55555


บันทึกการเข้า
Bozo
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #72 เมื่อ: 06-06-2006, 21:03 »

แหม พอมีเพื่อนมาถือหาง กะดิกดิกๆ เลยนะ

เอ้า สรุปไปเลยก็ได้ จะได้รู้ว่า คนที่เข้าใจแบบนี้ "แกล้งโง่" หรือ "โง่จริง"

กรณีโรงไฟฟ้าราชบุรี  ที่ "นาย" ตัวเองเป็นคนเอาไปขาย

1.  กฟผ. "ไม่จำเป็น" ต้องถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเต็ม 100% อยู่แล้ว  (เอาสมองส่วนไหนคิด)
2.  ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด (เอาสมองส่วนไหนคิด)
3.  กฟผ. "จำเป็น" ต้องขายเพราะ กฟผ. ต้องการเงินไปขยายสายส่งไฟฟ้า (เอาสมองส่วนไหนคิด)


กรณี กระจายหุ้น กฟผ.  25%  โดยที่เหลือ  75% รัฐยังถือหุ้น

1.  ทำไม่ได้ ห้ามขาย เป็นการขายสมบัติชาติ  เดี่ยวนายทุนมายึด  (ราชบุรีไม่กลัวโดนยึด)
2.  ถือหุ้น 75% ไม่ได้  เดี่ยวต่างชาติมาฮุป  ต้องถือ 100% (ราชบุรีไม่เป็นไรเหลือ 45% ได้)
3.  ไม่ต้องขายหุ้น กู้เงินได้ เพราะเก่ง เครดิตดี   (ราชบุรีไม่ได้ ต้องขายหุ้น)

สรุปแบบนี้  ถูกใจไหม หนูๆๆ   


ปล.  อยากตอบก็ตอบ ไม่อยากตอบก็ "ใบ้แดก" ไป  ยกเว้นแต่รับจ้างมา  ก็ต้องทำหน้าที่ใช่ไหมล่ะ  55555




Something's rotten in your brain.. heyyyyy... fucking smell!!!!
บันทึกการเข้า
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #73 เมื่อ: 07-06-2006, 08:42 »

แหม พอมีเพื่อนมาถือหาง กะดิกดิกๆ เลยนะ

เอ้า สรุปไปเลยก็ได้ จะได้รู้ว่า คนที่เข้าใจแบบนี้ "แกล้งโง่" หรือ "โง่จริง"

กรณีโรงไฟฟ้าราชบุรี  ที่ "นาย" ตัวเองเป็นคนเอาไปขาย

1.  กฟผ. "ไม่จำเป็น" ต้องถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเต็ม 100% อยู่แล้ว  (เอาสมองส่วนไหนคิด)
2.  ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด (เอาสมองส่วนไหนคิด)
3.  กฟผ. "จำเป็น" ต้องขายเพราะ กฟผ. ต้องการเงินไปขยายสายส่งไฟฟ้า (เอาสมองส่วนไหนคิด)


กรณี กระจายหุ้น กฟผ.  25%  โดยที่เหลือ  75% รัฐยังถือหุ้น

1.  ทำไม่ได้ ห้ามขาย เป็นการขายสมบัติชาติ  เดี่ยวนายทุนมายึด  (ราชบุรีไม่กลัวโดนยึด)
2.  ถือหุ้น 75% ไม่ได้  เดี่ยวต่างชาติมาฮุป  ต้องถือ 100% (ราชบุรีไม่เป็นไรเหลือ 45% ได้)
3.  ไม่ต้องขายหุ้น กู้เงินได้ เพราะเก่ง เครดิตดี   (ราชบุรีไม่ได้ ต้องขายหุ้น)

สรุปแบบนี้  ถูกใจไหม หนูๆๆ   


ปล.  อยากตอบก็ตอบ ไม่อยากตอบก็ "ใบ้แดก" ไป  ยกเว้นแต่รับจ้างมา  ก็ต้องทำหน้าที่ใช่ไหมล่ะ  55555




Something's rotten in your brain.. heyyyyy... fucking smell!!!!

Really ?????   you too. 555555
บันทึกการเข้า
BoZo
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #74 เมื่อ: 07-06-2006, 08:53 »

Are you a dog?? dont' bite into the good boy (like me)... Mr. Green Mr. Green Mr. Green Go to the hole with your whippersnapper, okay??? Jerk.
บันทึกการเข้า
อะไรว้า
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #75 เมื่อ: 08-06-2006, 08:02 »

เหตุผลสู้ไม่ได้  ส่งหมาฝรั่งมาป่วนหรือไงว้า  หน้าไม่อายวะ   สมองคิดได้แค่นี้  55555
บันทึกการเข้า
BoZo
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #76 เมื่อ: 08-06-2006, 08:16 »

I'm not mha farang... thanks for snub me. thanks for snub foreigner...yes, I'm foreigner but I'm not Farang.  Mr. Green Mr. Green And i'm not A DOG. I've worked at embassy of japan. If you have a problem about tribe, call to me now 0-2259-0444, 0-2259-0725 or 0-2258-9915 Called Mister BOB. I'm waiting you.
บันทึกการเข้า
ตลก
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 686


ไปมาไร้ร่องรอย


« ตอบ #77 เมื่อ: 09-06-2006, 16:56 »

เหตุผลสู้ไม่ได้  ส่งหมาฝรั่งมาป่วนหรือไงว้า  หน้าไม่อายวะ   สมองคิดได้แค่นี้  55555


พูดจาอย่างนี้ถือว่าก้าวก่ายเชื้อชาตินะครับ เล่นอะไรอย่าลามปามให้มากนัก จะเป็นฝรั่งหรือญี่ปุ่น แล้วไม่มีสิทธิแสดงความคิดเห็นหรือไง ต้องโดนจ้างมาหรือไง ต้องเป็นหมาหรือไง -*- โทดว่ะ ซีเรียส คุยกันเรื่องประเทศตัวเอง ก็คุยไป อย่าเอาเชื้อชาติมายุ่ง ไม่งั้นก็ดรอปแป้นคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษไปเลยไป คนก็ไม่ต้องไปเรียนมันหรอก ภาษาอังกฤษน่ะ แล้วก็เลิกติดต่อกับหมาฝรั่งทุกตัวในประเทศไทยไปเลย ปิดประเทศไปเลยไอ้ทุเรศ
บันทึกการเข้า

ผ่านฟ้าแล้วเลยไปนรกเลยรึเปล่าครับ.........
กิ๊กบนเรือ บนเครื่องบิน กิ๊กบนรถ ทุกอาชีพกิ๊กกันหมดอนาคตจะเป็นไง?
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #78 เมื่อ: 09-06-2006, 18:19 »

แหม พอมีเพื่อนมาถือหาง กะดิกดิกๆ เลยนะ

เอ้า สรุปไปเลยก็ได้ จะได้รู้ว่า คนที่เข้าใจแบบนี้ "แกล้งโง่" หรือ "โง่จริง"

กรณีโรงไฟฟ้าราชบุรี  ที่ "นาย" ตัวเองเป็นคนเอาไปขาย

1.  กฟผ. "ไม่จำเป็น" ต้องถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเต็ม 100% อยู่แล้ว  (เอาสมองส่วนไหนคิด)
2.  ถือหุ้น 45% แต่ถือว่ามีอำนาจบริหารจัดการเด็ดขาด (เอาสมองส่วนไหนคิด)
3.  กฟผ. "จำเป็น" ต้องขายเพราะ กฟผ. ต้องการเงินไปขยายสายส่งไฟฟ้า (เอาสมองส่วนไหนคิด)
ตอบเป็นข้อ
1.ที่คนประท้วงเรื่อง100%หรือ25%ที่คุณว้าถามเนี่ย ผมก็บอกไปแล้วว่า ratchมีแค่โรงไฟฟ้าไม่ได้มีป่าไม้เขื่อนและสายไฟรวมถึงทรัพยากรของชาติ
2.ถือหุ้น45%+กองทุนประกันสังคม2.90%+ธนาคารออมสิน2.62%+กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ1.26ได้เป้น51.78%
ถ้า51.78%ไม่มีอำนาจเด็ดขาด คุณว้าเอาสมองส่วนที่ดีที่สุดช่วยคิดด้วยนะ
3.ถ้าคุณคิดว่าไม่สมเหตุสมผลแล้วมันควรทำอย่างไร อย่างที่ผมเคยบอกเป็นเรื่องของการกระจายความเสี่ยงอีกทาง ถ้าคุณไม่รับเหตุผลคนอื่นก็อย่ามาถามให้เสียเวลา

กรณี กระจายหุ้น กฟผ.  25%  โดยที่เหลือ  75% รัฐยังถือหุ้น
1.  ทำไม่ได้ ห้ามขาย เป็นการขายสมบัติชาติ  เดี่ยวนายทุนมายึด  (ราชบุรีไม่กลัวโดนยึด)
2.  ถือหุ้น 75% ไม่ได้  เดี่ยวต่างชาติมาฮุป  ต้องถือ 100% (ราชบุรีไม่เป็นไรเหลือ 45% ได้)
3.  ไม่ต้องขายหุ้น กู้เงินได้ เพราะเก่ง เครดิตดี   (ราชบุรีไม่ได้ ต้องขายหุ้น)

ตอบ
1.เหตุผลเดียวกับด้านบน
2.ถ้าไม่แบ่งเลยจะดีกว่าไหม ทุกวันนี้กฟผ.ก็เป้นของคนไทยทุกคนอยู่แล้วแล้วจะกระจายให้คนอื่นมาเอาไปทำไม
3.ก้เข้าเรื่องที่เคยบอกไป ตอบไปแล้วไม่รับฟังก้แสดงว่าเป้นบัวใต้น้ำแต่อาจจะจมอยุ่ในโคลนเลยนะเนี่ย

สรุปแบบนี้  ถูกใจไหม หนูๆๆ   


ปล.  อยากตอบก็ตอบ ไม่อยากตอบก็ "ใบ้แดก" ไป  ยกเว้นแต่รับจ้างมา  ก็ต้องทำหน้าที่ใช่ไหมล่ะ  55555

ปล.ไม่ได้ใบ้แดกแต่คุยกันไม่รู้เรื่องคุณว้าพูดภาษาที่ไม่ใช่คนธรรมดาจะเข้าใจได้ผมขอยอมแพ้ ตอบครั้งสุดท้ายจะไม่มาคลิกอีกแล้ว คุณชนะนะผมยอมแพ้คุณ บายๆๆ

บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: