ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
19-02-2025, 03:01
378,182
กระทู้ ใน
21,926
หัวข้อ โดย
9,412
สมาชิก
สมาชิกล่าสุด:
MAN4U
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)
|
ทั่วไป
|
สโมสรริมน้ำ
|
เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา* (อ่าน 2366 ครั้ง)
ปฐม
ขาประจำ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 398
เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
เมื่อ:
10-05-2006, 06:47 »
คติความเชื่อเรื่อง พระเจ้าจักรพรรดิ นั้น มีในทั้งคติพุทธและพราหมณ์ คติทางโลกและทางธรรม นัยว่า คนที่จะมาเป็นพระจักรพรรดิได้ต้องสะสมบารมีมาอย่างหนักจนปรากฏว่า มีลักษณะ 32 ประการ (อาจจะขาดบางอย่าง แตกต่างกับพระพุทธเจ้าซึ่งต้องครบ) และยังมีข้อปลีกย่อยไปอีกเช่น มี นางแก้ว ขุนคลังแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว (แต่แก้วเหล้า...ไม่เกี่ยว)
และยังมีข้อย่อยแบ่งไปอีก เช่น มีอานุภาพแผ่ไพศาลไปจนชนมหาสมุทรทั้ง 4 (กินหมดโลกว่ากันง่าย ๆ ) แต่ในคติทางโลกก็แบ่งเป็นอีกในแต่ละประเภทของ พระเจ้าจักรพรรดิ มีสี่อย่างเป็นสำคัญ ซึ่งผมจำได้อย่างเดียวคือ "พลจักรวาทิน" จักรพรรดิที่ชนะได้ในการรบ
จักรพรรดิในยุคแรก ๆ ของโลกเรานั้น มีสองพระองค์คือ จิ๋นซีฮ่องเต้และก็พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ (แต่ดูจากประวัติแล้วผมเห็นว่าไม่น่าเติมคำว่ามหาราชต่อท้าย) ในความเชื่อทางพุทธกับสิ่งที่เห็นมันค้านกับสิ่งที่เห็น
พระเจ้าจักรพรรดิ สามารถยึดครองโดยไม่ต้องรบและเมื่อเวลาต้องการดินแดนใดเพียงแต่ผินหน้าไปแล้วล้อธรรมจักรจะหมุนนำหน้าเมื่อไปถึงดินแดนนั้น ๆ พระเจ้าแผ่นดินนั้น ๆ จะยกดินแดนให้โดยดุษฏี ดังนั้น 2 องค์ดังกล่าวจึงไม่ใช่ พระเจ้าจักรพรรดิ อย่างแท้จริง เป็นเพียง พลจักรวาทิน หรือราชาธิราช เท่านั้น
ผมจะชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องควรรู้ของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นพอสังเขป เพื่อจะง่ายต่อการเล่าเรื่องต่อไป
ช่วงนี้ผมต้องศึกษาประวัติศาสตร์ของพม่าเป็นอย่างหนักเนื่องจากมีความจำเป็นบางอย่างทางการงาน (ห้ามเข้าใจว่าผมจะไปแก้แค้นแทนชาวบ้านบางระจันเป็นอันขาด) ผมถูกบังคับให้อ่านประวัติศาสตร์พม่า ในรูปแบบวิทยานิพนธ์ บทวิจารณ์ และ พงศาวดารนานาฉบับ และบางครั้งก็ต้องค้นจากข้อมูลของคนไทย ในกรณีที่มีการพาดพิงถึงกัน (โดยจำเป็น)
ในหลายฉบับ ๆ ผมพบว่า ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีความเชื่อในเรื่อง พระเจ้าจักรพรรดิ เป็นอย่างยิ่งแต่ประเทศที่จะมีอำนาจทำให้เป็นไปได้นั้นปรากฏว่ามีเพียง 2 ประเทศคือ พม่าและไทย ซึ่งจะมาในรูปแบบของคำว่า "ผู้ชนะสิบทิศ" หรือถ้าเป็นคำพูดก็จะมาในเชิง "ขอให้พระราชอำนาจของพระองค์แผ่ไปในทิศทั้งสิบ" หรือ "ให้อำนาจของพระองค์ทรงแผ่ไปในทศทิศ"
ดังนั้น คำว่า ทั้งสิบทิศ หรือ ชนะสิบทิศ นั้น จึงเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งของการก้าวไปเป็นพระเจ้าจักรพรรดิอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ในคตินี้ก็มีข้อแม้ว่า พระจักรพรรดิ นั้นต้องเป็น พุทธราชา ควบคู่ไปด้วย (ยุ่งนะครับ อยากจะเป็นอะไรทั้งทีทำไมต้องวุ่นวายขนาดนี้) พุทธราชา คือ ราชาที่นับถือศาสนาพุทธและพุทธมามกะ
ในพม่านั้น ยกย่องออกนอกหน้าสององค์คือ พระเจ้าอโนรธา และ พระเจ้าบุเรงนอง พ่อปลวกน้อยกลอยใจ (จะเด็จ แปลว่า ปลวก) องค์แรกนั้นประวัติไม่แน่ชัดแต่ทางพม่านั้นก็ได้ให้การยกย่องเป็นอย่างมาก แต่องค์หลังนั้นความนิยมทะลุปรอทแตก
ประวัติศาสตร์ของชาติพม่านั้นแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ ต่อว่าได้แม้พวกเดียวกัน ดังนั้นจะไม่แปลกใจอะไรเลยถ้าอ่านเล่มนึงชมคนนี้แต่อีกเล่มหนึ่งด่าเสีย ๆ หาย ๆ อาจเป็นเพราะประเทศพม่า มาจากคนหลายกลุ่มหลายเผ่าไม่ยอมรับกันเอง แต่ทุกฉบับจะพูดถึง บาเยงนอง ผู้นี้ไปในทางเดียวกันหมดคือเป็นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ใด ๆ ที่พม่าเคยมี... นับว่าไม่ธรรมดา
ในประวัติศาสตร์ต่าง ๆ นั้นต่างยกย่องพระเจ้าบุเรงนองด้วยสมัญญานามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตะละพะเนียเธอเจาะ . เชงดอโย หรืออะไรก็แล้วแต่ (จริง ๆ ฉายาเหล่านี้มีต่าง ๆ กันไป แต่บังเอิญว่า ผมเกิดมาเป็นคนไทยและมีใบหน้าหล่อเหลาเลยขออนุญาติที่จะแปลความหมายเล่านั้นมาให้ท่านอ่านโดยขอข้าม สมัญญานามภาษาพม่า) ซึ่งมี พระเจ้าช้างเผือก , ผู้ชนะสิบทิศ , บรมไตรจักร และที่ขาดไม่ได้คือ พระเจ้าจักรพรรดิแห่งตองอู
อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า พระเจ้าจักรพรรดิ นั้นเป็นอะไรที่ยุ่งอย่างมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องผนวกเข้าด้วยกัน ซึ่งพระองค์เองก็คงจะทราบดีในจุดนี้จึงพยายามขับภาพ พุทธราชา ออกมาให้โดดเด่น ด้วยการทำนุบำรุงพระศาสนาอย่างหนักหน่วง พระองค์ได้บูรณะวัดวาอารามต่าง ๆ โดยไม่จำกัดว่าวัดเหล่านั้นจะอยู่ในเขตของชนชาติใดซึ่งผิดแผกจากกษัตริย์พม่าในยุคก่อนและหลัง ซึ่งกษัตริย์เหล่านั้นส่วนใหญ่ถ้าเข้าเมืองไหนได้จะเผายกเมือง
ในประวัติศาสตร์ไทยเองก็กล่าวชม บุเรงนองกะยอดินนรธา มิใช่น้อย แม้ตอนรบกับไทย บุเรงนอง ก็โชว์ความเป็น พุทธราชา ของตัวเองออกมาด้วยการสร้าง เจดีย์ที่ทุ่งมะขามย่อง (หรือ ลุมพลี หว่า) ซึ่งปรากฏเป็น เจดีย์ภูเขาทองตราบจนบัดนี้ ไม่เพียงแต่เท่านี้พระองค์ทรงยังมีศรัทธาต่อ พระมหามุนี ที่เมืองยะไข่เป็นอย่างมาก ด้วยการถวายจีวรทองและเครื่องไทยธรรมนานาชนิดแต่ละชนิดล้วนแต่มีค่า
และที่สำคัญที่สุดคือ พระองค์ได้ถวายเทวรูปสัมฤทธิ์ 12 องค์ หรือที่เรียกกันในภายหลังว่า เทวรูป 12 นักษัตรเอาไว้ด้วยซึ่งเทวรูปนี้ในปัจจุบันก็เป็นที่นับถือมาก ๆ เขาเชื่อกันว่าเป็นเทวรูปที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้เพียงแต่ลูบไปที่ส่วนต่าง ๆ ของ เทวรูปแต่ละองค์
นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ตรงนี้ครับคือ ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดของ พุทธราชา เพราะเทวรูปทั้ง 12 องค์นั้น บุเรงนองเอามาจากเมืองไทยในคราวยกทัพมาตี ท่านเอาเทวรูปเหล่านั้นกลับไปดื้อ ๆ โดยมิได้ขออนุญาติใคร
ควรเรียกว่าเป็น การปล้น ดีหรือไม่ครับพ่อแม่พี่น้อง ผมเคยได้ยินว่า การถือเอาสมบัติของผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตินั้นแม้เพียงมาสกเดียวนับว่าผิดศีล แต่ถ้าเป็นพระก็เอา ปาราชิก ไปเบาะ ๆ
นี่ยังไม่นับ ข้อหา ปาณาติบาต ที่ต้องไปรับในชาติหน้าอีก ที่ผมยัดเยียดข้อหาให้องค์บุเรงนองอย่างนี้เพราะเชื่อว่า ท่านคงไม่ได้พกนุ่นมาทำศึกในการทำสงครามและเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเวลาที่ท่านโรมรันท่านคงไม่ได้เอานุ่นตีอริราชของท่านเป็นแน่แท้
สงครามต้องมีคนตาย... ดังนี้แล้วยังจะสรรหาข้อแก้ตัวอันใด
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จักรพรรดิ ในความหมายที่มีคงเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันเพราะตั้งแต่ศึกษาและอ่านมายังไม่พบอย่างแท้จริง (ผมตัดข้อจำกัดต่าง ๆ ออก ตรงนี้พูดเรื่องคติพุทธล้วน ๆ ) แม้แต่ พุทธราชา ก็หายากถึงไม่มีเลย
มันเป็นความดับเบิ้ลสแตนดาร์ดของคนสมัยโบราณ ซึ่งไม่ต่างจากนักการเมืองสมัยนี้ที่หาข้ออ้างที่ดีให้กับตน การอ้างว่าฆ่าคนเพื่อแผ่อำนาจของความเป็นกษัตริย์ออกไปนั้นถูกต้องในโบราณสมัย แต่ยังไม่เห็นว่า.... ชอบอย่างไรที่จะยกย่องผู้ฆ่า ว่า เป็น พุทธราชา หรือ พระเจ้าจักรพรรดิ
ใครมีข้อมูลช่วยผมคิดทีครับ คิดมาเกือบเดือนแล้วยังคิดไม่ตกเลย ให้ตายสิ
บันทึกการเข้า
ถ้าจะอยู่ ก็ขออยู่อย่าง เย้ยฟ้าท้าดิน
istyle
ขาประจำขั้น 2
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 853
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #1 เมื่อ:
10-05-2006, 06:57 »
32ประการที่ว่านี่ เค้าเรียกของมหาบุรุษรึเปล่าครับ
หึหึหึ คนชนะย่อมไม่ผิด จะให้เขียนประวัติศาสตร์ยังไงก็ได้ เอ็งมาเขียนด่าข้า เดี๋ยวเจอดีหรอก
เอ ว่าแต่ว่า มีการยกย่องให้เป็นพุทธราชาด้วยเหรอครับ ไม่ค่อยได้ยินเลยเนาะ ได้ยินแต่จักรพรรดิ
บันทึกการเข้า
ปฐม
ขาประจำ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 398
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #2 เมื่อ:
10-05-2006, 07:06 »
มีครับ.... เช่นในสมัยนี้เขาจะใช้เป็นว่า "ทรงประกาศองค์เป็น พุทธมามกะ และ ศาสนูปถัมภก" เป็นในเชิงนี้ครับ คำนี้จะเด่นชัดในพม่า และ ลักษณะ 32 ประการนั้น เรียกให้ตรงตามศัพท์คือ มหาปุริศลักษณะ 32 (เขียนผิด...ขออภัย บังเอิญที่บ้านใช้แต่ภาษาฝรั่งเศส สเปน อังกฤษ อิตาลี ส่วนภาษาไทยนั้นไม่ค่อยแตกฉาน)
มีลักษณะอันหนึ่งผมชอบมาก คือ ต้องมีองคชาตเร้นอยู่ในฝักเหมือนของช้างและมีสีเหมือนทองคำหรือเม็ดในปทุม
ถ้าผู้หญิงเข้ามาอ่านโปรดจินตนาการภาพตามใจนึก แต่ถ้าเป็นเด็กโปรดใช้วิจารญาณและควรมีผู้ปกครองอยู่ข้าง ๆ
บันทึกการเข้า
ถ้าจะอยู่ ก็ขออยู่อย่าง เย้ยฟ้าท้าดิน
เสลา
ขาประจำขั้น 2
ออฟไลน์
กระทู้: 514
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #3 เมื่อ:
12-05-2006, 14:14 »
คุณปฐม ว่างๆเอาเรื่องผู้ชนะสิบทิศมาคุยบ้างสิ
จับเอาเรื่องรักของจะเด็ดมาพูดก็สนุกดีนะ
ป้าเสลาจะรออ่าน
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2006, 15:52 โดย เสลา
»
บันทึกการเข้า
http://www.arunsawat.com/board
เชือกว่าว
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
ออฟไลน์
กระทู้: 171
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #4 เมื่อ:
12-05-2006, 15:11 »
สวัสดีครับพี่ปฐม ไม่ได้พบกันนาน
ผมไม่ค่อยมีข้อมูลเลยครับ เห็นด้วยกับพี่ ฆ่าคนเป็นเบือ
แต่ได้เป็นจักรพรรดิ ผมคิดว่าที่ได้นามนี้ คนเชลียร์ที่ใกล้
ชิดคงเอ่ยขึ้นมาและมีลูกคู่ช่วยเสริมก็เลยได้มา
ส่วนเรื่องผิดศีลห้าเรื่อง ฆ่าคน ก็คงทำเป็นลืมๆกันไป
เพราะบ้านเมืองสงบสุข ไม่มีใครตอแยมาก
เพราะถ้าคิดมากกันขึ้นมา อาจต้องมีสมัญญานามใหม่
เป็น "องคุลีมารุ บุเรงนอง มหาจักรพรรดิ์"
เป็นความเห็นของผมนะครับ.....
บันทึกการเข้า
เชือกว่าว
narong
ขาประจำขั้น 2
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 654
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #5 เมื่อ:
13-05-2006, 19:08 »
แล้ว นโปเลียน ถือว่าเป็นจักรพรรดิด้วยหรือเปล่าครับ!
บันทึกการเข้า
ผู้ที่ไม่สามารถจะใช้คนดี
ก็ย่อมจะใช้คนไม่ดีหรือคนเลว
ถ้าไม่เชื่อผู้ซื่อสัตย์หวังดีต่อตน
ก็จะต้องไปเชื่อคนประจบสอพลอ
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 3,015
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #6 เมื่อ:
13-05-2006, 21:09 »
คนเรามักไม่สนใจคุณธรรมหรือศีลธรรมสำหรับการกระทำที่ทำให้ตนเองได้ประโยชน์
ยิ่งได้ประโยชน์มากเท่าไหร่ คุณธรรมศีลธรรมยิ่งถูกคำนึงถึงน้อยเท่านั้น
สัจธรรมนี้ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
บันทึกการเข้า
คนไม่มี
"อุดมคติ"
ไม่ใช่
"นักการเมือง"
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
ออฟไลน์
กระทู้: 2,026
Re: เรื่องเล่าจากคลองบางหลวง * ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดจักรพรรดิกับบุเรนองกะยอดินนรธา*
«
ตอบ #7 เมื่อ:
14-05-2006, 03:52 »
อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นคนเหนือคน บ้าอำนาจจาการยุยงส่งเสริมของพวกขันที
และพวกลิ่วล้อ มีให้เห็นอยู่ทุกยุคทุกสมัย
มนุษย์บางจำพวก ยังมีความต้องการที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ยอมฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
ไม่ต้องไปมองคนอื่นไกล ดูหน้าเหลี่ยมเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
ทั่วไป
-----------------------------
=> ตะกร้าข่าว
=> ห้องสาธารณะ
=> สภากาแฟ
=> ชายคาพักใจ
=> ร้อยรักษ์กวีวรรณ
=> สโมสรริมน้ำ
-----------------------------
ด้านเทคนิค
-----------------------------
=> ปัญหาการใช้งาน
=> ห้องทดสอบ
===> ทดสอบบอร์ดย่อย
Powered by SMF 1.1.20
|
SMF © 2005, Simple Machines
|
Thai language by ThaiSMF
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 21 คำสั่ง