อ้างอิงจาก
http://www.oknation.net/blog/sorrawud/2007/09/26/entry-1วันพุธ ที่ 26 กันยายน 2550
ความผิดซ้ำซากที่หลอกลวงว่า พระมหากษัตริย์อยู่ใตัรัฐธรรมนูญ ในมุมมองทางนิติปรัชญา ตอนที่ ๑ บทนำ
Posted by พิไชยอินทรา , ผู้อ่าน : 44 , 14:54:44 น.
นับตั้งแต่ที่มีความวุ่นวายทางการเมืองอันเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการรัฐประหารเมื่อ
วันที่ ๑๙ กันยายน๒๕๔๙ได้มีความพยายามที่จะอ้างอิงถึงพระราชอำนาจแห่งพระมหากษัตริย์
์ในการกระทำทางการเมืองและการเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลากหลายรูปแบบเช่นการ
ถวายคืนพระราชอำนาจของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในขณะนั้นหรือการอ้างอิงถึงอำนาจแห่ง
พระมหากษัตริย์ของรัฐบาลชุดที่ถูกต่อต้านในการที่จะออกกฎหมายโดยไม่สนใจถึงพระ
ราชอำนาจแห่งพระมหากษัตริย์จนถึงความพยายามของนักการเมืองและนักวิชาการบาง
ท่านที่ได้พยายามเขียนหนังสือและบทความที่อธิบายอำนาจแห่งพระมหากษัตริย์ไปใน
แนวความคิดเชิงการเมืองหรือในแนวความคิดเชิงกฎหมายบัญญัติ แต่ผมก็รอแล้วรอ
เล่าที่จะหานักนิติศาสตร์ของประเทศไทยที่จะมาอธิบายกระบวนการคิดเชิงนิติปรัชญา
ของ "ความเชื่อ" ดังกล่าวมาจนถึงกระทั่งทุกวันนี้ แต่ก็ยังหานักนิติศาสตร์ผู้หนึ่งผู้ใด
มาสร้างความกระจ่างอย่างมีระบบมากพอจะมีก็แต่เพียงนักกฎหมายเชิงปฎิบัติทั้งหลาย
ที่ไปรอรับสตังก์จากผู้มีอำนาจเดิมของประเทศในการจะทำคดีต่างๆที่เกิดขึ้นกันอย่าง
สับสนอนลหม่านเหมือนการลดแลกแจกแถมของห้างสรรพสินค้าดังทั้งหลายแหล่อย่างงั้น
แหละสตุ้งสตังก์ตกหล่นกันวุ่นวาย
ผมได้พยายามสอบถามถึง "ความเชื่อ" หรือ "คำสอน" ทางกฎหมายที่ว่า
"พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" กับเพื่อนนักกฎหมายหลายท่าน
(เผื่อจะได้คำตอบอะไรที่มันมีเค้าทางด้านนิติศาสตร์มากพอ) แต่ปรากฎว่าคำตอบที่ได้
ก็เพียงแต่ว่า เขาสอนกันมาอย่างนั้น หรือไม่ก็บางคนบอกเลยไปถึงทฤษฎีอำนาจ
อธิบไตยของมองเตสกิเออร์บ้างหละ หรือไม่ก็พูดไปถึงการปฎิวัติในฝรั่งเศสโน้น ซึ่ง
หากจะพิจารณากันแบบนั้น ในความคิดเห็นของผมก็เท่ากับว่า ฝรั่งเอาอะไรมาให้
เรา เราก็คงจะต้องบอกว่าสิ่งนั้นดี โดยไม่ต้องไปพิจารณาถึงความเหมาะสมหรือ
กระบวนการคิดใดๆเลย แล้วพวกเราจะเรียนกันไปทำไมละครับ แบบนั้นเราก็ไปลอก
อะไรทุกอย่างของเขามาแล้วเอามาใช้ไปเลยให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปจะได้ไม่ต้องมานั่ง
เรียนให้มันหนักสมองกันด้วย หรือยอมยกประเทศให้พวกเข้าไปเลยดีมั้ยละครับ
แต่มีเพื่อนผมคนนึงให้คำตอบที่น่าคิดว่า ก็เพราะคณะราษฎร์ปฎิวัติไง ถึงทำให้มีการ
ปกครองโดยใช้รัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งผมคิด
เอาตามตรรกด้านนิติศาสตร์แล้วมันก็จะไปสู่ข้อสรุปว่าปากกระบอกปืนเนี่ยมันสามารถ
เปลี่ยนอะไรก็ได้เหรอ แล้วตกลงบทบัญญัติที่ว่าด้วยเจตนาตามประมวลกฎหมายแพ่ง
ไทย มาตรา ๑๖๔ ที่กล่าวถึงความเป็นโมฆียะกรรมของการแสดงเจตนาที่เกิดจากการข่มขู่
หรือการกระทำที่เป็นการป้องกันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๖๘ มันก็ไม่น่าจะ
มีได้ซิครับ เพราะมันเป็นบทบัญญัติที่ยืนยันว่า การข่มขู่บังคับด้วยอำนาจอย่างหนึ่งอย่าง
ใดนั้น ไม่ก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย หรือพูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ นักนิติศาสตร์
ไม่ยอมรับกระบวนการใดๆที่เกิดจากการใช้อำนาจข่มขู่บังคับ ดังนั้น ถ้าจะอธิบายว่า
อำนาจแห่งพระมหากษัตริย์ "จำต้อง" อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เพราะเหตุการที่คณะราษฎร
์ยึดอำนาจแล้ว นักนิติศาสตร์คงยอมรับไม่ได้หรอกครับ
เมื่อไม่ได้ข้อสรุปอะไรจากคนอื่นแล้ว ผมก็ต้องเข้ามาหาตัวเองหละว่า ในฐานะที่
ผมเป็นนักนิติศาสตร์ทางปฎิบัติที่พอจะมีประสบการณ์และความรู้พอที่จะเริ่มรวมศาสตร์
ทางคณิตศาสตร์สารสนเทศเข้ากับกระบวนการทางกฎหมายได้แล้วนั้น จะสามารถกำหนด
กระบวนการคิดทางนิติศาสตร์เพื่อแก้ปัญหา "ความลุ่มๆดอนๆทางกฎหมาย" ของประเทศ
ไทยในเรื่อง "ความเชื่อ" ที่ว่า "พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" ได้ด้วยวิธีใด
ผมก็เลยต้องกลับไปคิดว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอะไร ผมก็ได้
้ข้อสรุปว่า มันเป็นเรื่อง "แหล่งของกฎหมาย (source of law)" ไม่ใช่ปัญหาทาง
"กฎหมายบัญญัติ" ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกันกับกระบวนการคิดทาง "นิติปรัชญา"[1]
ก็เลยจำต้องไปขุดเอาตำหรับตำราสมัยเรียนปริญญาโทมาศึกษากันใหม่ (ซึ่งก็ดีเหมือน
กัน เพราะผมก็ลืมไปเยอะแล้ว) แล้วก็ไปค้นคว้าเพิ่มเติมก็เลยได้ข้อสรุปบางอย่างมา
ที่อาจจะทำให้นักนิติศาสตร์สมัยรัฐบาลชุดที่แล้วอึ้งกิมกี่และทำให้นักกฎหมายที่พูดๆ
กันตามความเชื่อนั้นต้องไปคิดกันใหม่ก็ได้ครับ
คราวนี้พอกลับมาดูเรื่องนิติปรัชญากันใหม่ ผมก็ขอยอมรับกันตรงๆเลย
ว่าผมเป็นนักนิติปรัชญาที่เชื่อในความคิดของสำนักกฎหมายประวัติศาสตร์ (historical
school of law) ที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศเยอรมันที่มีความคิดที่จะ "สังเคราะห์"
กฎหมายของประเทศเยอรมันให้ "บริสุทธิ์" หลังจากที่นักนิติปรัชญาสายกฎหมายธรรม
ชาติหรือธรรมนิยม [ตามตำราของท่านศาสตราจารย์ปรีดี เกษมทรัพย์]
(natuaral law school) ในประเทศฝรั่งเศสได้ยกร่างประมวลกฎหมายแพ่งฝรั่งเศส
สำเร็จ แต่ Friedrich Carl von Savigny นักนิติศาสตร์ชาว เยอรมันในสำนักกฎหมาย
โรมันได้โจมตีความเห็นของนักกฎหมายสายธรรมนิยมที่ชื่อ Thibaut ที่ต้องการ
ให้ประเทศเยอรมันยกร่างประมวลกฎหมายแพ่งของประเทศเยอรมันขึ้นอย่าง
รวดเร็วเหมือนประเทศฝรั่งเศส แต่ Friedrich Carl von Savigny ได้คัดค้านและวาง
หลักเกณฑ์แห่งความคิดที่จะพิจารณาและสังเคราะห์กฎหมายของประเทศ
เยอรมันด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์ จนทำให้ประเทศเยอรมันได้พัฒนาหลัก
ทางนิติศาสตร์ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ทำให้เกิดผลสำเร็จเป็นประมวลกฎหมายแพ่งของ
เยอรมันที่เป็นประมวลกฎหมายที่ดีที่สุดในโลก ถึงแม้ประมวลกฎหมาย
ของเยอรมันจะล่าช้ากว่าของฝรั่งเศสเกือบร้อยปี แต่กลับเป็นผลทำให้กระบวนการ
คิดแบบสำนักประวัติศาสตร์มีอิทธิพลต่อความคิดของนักกฎหมายที่มีชื่อเสียงหลากหลาย
คน รวมทั้งผู้พิพากษาชื่อดังในประเทศสหรัฐ(ซึ่งเป็นระบบกฎหมาย common law
ที่แตกต่างจากประเทศเยอรมันอันเป็นระบบกฎหมาย civil law) คือ OLIVER WENDELL
HOLMES[2] ซึ่งทำให้ผมนำแนวความคิดทางนิติปรัชญาของสำนักกฎหมายดังกล่าว
มาพิจารณาถึง "ความเชื่อ" ดังกล่าวซึ่งผมจะค่อยๆนำเสนอไปตามวิธีการทางความคิด
ในตอนต่อไปครับ
คราวนี้ ผมก็เลยมานั่งวิเคราะห์ความเห็นของเพื่อนผมคนที่อ้างอิงถึงการปฎิวัติ
ฝรั่งเศสที่ทำให้เกิดการริดรอนอำนาจของพระมหากษัตริย์ แล้วก็มาบอกว่า "ความเชื่อ"
ที่ว่า "พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" เป็นความคิดที่มาจากกระบวนการทาง
ความคิดของฝรั่งเศส ผมก็ไปนั่งอ่านประวัติศาสตร์ของประเทศไทย มันก็ไม่เหมือนกับ
ประเทศฝรั่งเศสที่กษัตริย์อ้างอิงอำนาจแห่งพระเจ้าเพื่อปกครองประชาชน ซึ่งอาจจะ
คล้ายกับกระบวนการคิดของหลักการในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เมื่อสิ้นกรุงศรีอยุธยา
กระบวนการคิดของระบบกษัตริย์ของไทยก็เปลี่ยนแปลงไป จากหลักของกษัตริย์
ที่เป็นเสมือนตัวแทนแห่งเทพเจ้า ตามที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย กลับเป็นการยอมรับ
พระมหากษัตริย์ในฐานะ "วีรบุรุษ" ที่เปรียบเสมือน "พระโพธิสัตว์" ที่กระทำเพื่อความสุข
ของประชาชน ซึ่งแนวความคิดนี้เห็นได้ชัดจากคำเรียกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า
อยู่หัวว่า "พระพุทธเจ้าหลวง" ผมก็เลยเห็นว่า ท่าทางคงจะไม่ใช่แนวคิดเดียวกันแล้วหละครับ
สำหรับเรื่องอำนาจแห่งพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย
กับแนวความคิดในเรื่องพระมหากษัตริย์ในประเทศยุโรปซึ่งผมจะค่อยๆพิจารณาไปตาม
แนวทางของสำนักประวัติศาสตร์นะครับ แล้วถ้าไม่เบื่อกันซะก่อนหรือมีใครมาเชิญผมไป
"ปิดปาก" ซะก่อน ก็น่าจะได้อ่านตอนที่สองกันเร็วๆนี้ครับ
บรรณานุกรม
[1] หนังสือชื่อ "ทฤษฎีกฎหมาย นิติปรัชญา"ของ รศ.สมยศ เชื้อไทย
[2] ูบทความชื่อ THE INFLUENCE OF THE GERMAN CONCEPTS OF VOLKSGEIST
AND ZEITGEIST ON THE THOUGHT AND JURISPRUDENCE OF OLIVER
WENDELL HOLMES
ต้องพูดความจริงในเรื่องนี้เสียทีว่า พระมหากษัตริย์ไทยไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ขอความจริงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทั้งหลายได้รู้ว่า กษัตริย์ของตนเองทรงเป็นผู้ปกป้อง
ประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริง