ถ้าไม่มีกรณีการขับไล่และดำเนินคดีต่อทักษิณ .. ประชาชน รัฐบาลและตุลาการของหลายประเทศ
คงจะไม่ตื่นตัว ไม่กล้า หรือกล้าๆกลัวที่จะขับไล่และดำเนินคดีต่ออดีตผู้นำที่กระทำความผิด เช่น
๑. อดีตนายกฯหญิงของบังคลาเทศ นาง Khaleda Zia ที่เพิ่งจะถูกจับกุมดำเนินคดีหลายข้อหา
http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/south_asia/6975340.stm๒. อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปินส์ นาย Joseph Estrada ที่เพิ่งจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตด้วย
ข้อหาคอร์รัปชั่นหลังจากการไต่สวนเป็นเวลานานถึง ๖ ปี
http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/1063976.stm๓. อดีตประธานาธิบดีของเปรู นาย Alberto Fujimori ที่เพิ่งถูกศาลของประเทศชิลีตัดสินให้ส่ง
ผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่ประเทศเปรู ในข้อหาคอร์รัปชั่น และข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน
http://news.bbc.co.uk/2/hi/americas/7008302.stm๔. UN จะพิจารณาออกกฏการตามอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการคอร์รัปชั่น
๕. ธนาคารในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จะออกมาตรการตรวจสอบเงินฝากจากการคอร์รัปชั่น
ฯลฯ
กรณีจริยธรรมของนักการเมือง
นายกฯญี่ปุ่นและคณะรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นต้องลาออกทั้งคณะเนื่องจากความสั่นคลอน
จากกรณีการฆ่าตัวตายของอดีตรัฐมนตรีเกษตร เนื่องจากความละอายเรื่องการรับเงินใต้โต๊ะ
และล่าสุด ประชาชนพม่ากล้าที่จะต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารที่ EU, UN และสหรัฐ บอยคอตพม่า
แต่ทักษิณกลับคบค้าและให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลเผด็จการทหารของพม่าอย่างออกนอกหน้าโดย
ไม่สนใจการตำหนิและห้ามปรามจากองค์การสิทธิมนุษยชน และนานาประเทศทั่วโลก

จะเห็นได้ว่า หลังจากที่เกิดกรณีของทักษิณ ทั่วโลกต่างตระหนักถึงภัยร้ายของการคอร์รัปชั่น
และกำลังจะสร้างกฏการปราบปรามให้มีประสิทธิผล
และ
โลกต้องขอบคุณทักษิณ ที่เป็นผู้จุดประกายเรื่องจริยธรรมและคุณธรรม 
...