ปุถุชน
|
|
« เมื่อ: 22-09-2007, 19:46 » |
|
ปปช.จ่อลงดาบสอง สอบ'อารีย์' ถือหุ้นเกิน 5% สมัยเป็นรมช.ศึกษา 22 กันยายน พ.ศ. 2550 17:30:00 "วิชัย" เผยป.ป.ช.หากมีข้อสงสัย "อารีย์" เคยถือครองหุ้นเกิน 5% สมัยเป็น รมช.ศึกษาฯ สามารถนำเรื่องเข้าที่ประชุมใหญ่หยิบยกมาไต่สวนได้ ด้าน"วิชา" เผยต้องพิจารณราในข้อกฎหมายอีกครั้ง กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่า นายอารีย์ วงศ์อาระยะ รมว.มหาดไทย อาจจะถือหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่เป็น รมช.ศึกษา ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า บัญชีทรัพย์สินที่ ป.ป.ช.เพิ่งตรวจสอบไปนั้น เป็นช่วงที่นายอารีย์ เป็น รมว.มหาดไทย เท่านั้น ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินสมัยรัฐบาลเก่านั้น ก็ยังต้องทยอยตรวจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากมีการยื่นในช่วงที่ ป.ป.ช. เว้นวรรคการทำงานไป 2 ปี ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการ หากมีข้อสงสัย ป.ป.ช.สามารถหยิบยกมาไต่สวนได้ โดยจะมีผู้ร้องหรือไม่ก็ได้ โดยจะใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มาตรา 66 ที่ได้แก้ไขไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเป็นการถือครองหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ในสมัยเป็น รมช.ศึกษาจริง ก็จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุม ป.ป.ช. เพื่อหารือในข้อกฎหมายอีกครั้ง ด้าน นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนั้น จะต้องมีการตรวจสอบระหว่างบัญชีเก่าและบัญชีใหม่ของนายอารีย์ แต่เบื้องต้น การถือครองหุ้นในสมัยเป็น รมช.ศึกษานั้น ถือว่า นายอารีย์ ได้พ้นจากตำแหน่งนั้นไปแล้ว ซึ่งจะต้องพิจารณาในข้อกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/22/WW10_WW10_news.php?newsid=185120 รัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ 3 คน ไม่โปร่งใส ถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็น ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่ไม่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 เพราะมี"บทเฉพาะกาล" ไม่บังคับใช้รัฐมนตรีชุดนี้....
รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย อ้างว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะมี"บทเฉพาะกาล" และ ต้องการรับใช้ชาติ(?)ต่อไปอีก... รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ อ้างว่ารัฐมนตรีว่าการพาณิชย์บอกว่าไม่จำเป็นต้องลาออก และ มี"งาน"ต้องทำอีกมาก..... รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอที ลาออก แม้ว่าจะไม่ผิดกฎหมาย เพราะมี"บทเฉพาะกาล" แต่ รัฐมนตรีต้องมี"มาตราฐาน" และเป็น"ตัวอย่าง" สูงกว่าประชาชนทั่วไป.....สองรัฐมนตรีไม่กระทำผิด เพราะกลัวผิดกฎหมาย... รัฐมนตรีฯไอที ไม่กระทำผิดกฎหมาย ด้วยจิตสำนึก ด้วยคุณธรรม.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 22-09-2007, 19:49 » |
|
จริยธรรมมมมมมมม ข๊ากกกกก ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 22-09-2007, 19:57 » |
|
'อลงกรณ์'แถลงจี้'อารีย์-อรนุช' สละเก้าอี้รัฐมนตรี 22 กันยายน พ.ศ. 2550 12:41:00 รองหัวหน้าปชป. แถลงจี้'อารีย์-อรนุช' ลาออกจากตำแหน่งตาม รมว.ไอทีซี เพื่อสร้างบรรทัดฐานการเมือง เจ้ากระทรวงมหาดไทย ยืนยันไม่ลาออก ย้ำเจตนารมณ์บริสุทธิ์ เดินหน้าทำงานต่อกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงผลการพิจารณากรณีการถือครองหุ้นของรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พบว่ารัฐมนตรี 3 คน ได้ถือครองหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จำหน่ายได้ และถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ทั้งนี้ ประกอบด้วยรัฐมนตรี 3 คน คือ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที นางอรนุช โอสถานนท์ รมช.พาณิชย์ และนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทยโดยที่รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ไม่ได้โอนหุ้นให้แก่นิติบุคคลที่มีอำนาจจัดการกองทุนส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สิน ซึ่งเดิมตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ได้กำหนดให้รัฐมนตรีที่ถือหุ้นเกินกฎหมายกำหนด แล้วไม่โอนให้นิติบุคคลที่กฎหมายกำหนดจัดการแทน ความเป็นรัฐมนตรีจะต้องสิ้นสุดลง แต่หลังจากรัฐธรรมนูญดังกล่าวสิ้นสุดลงและใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มิให้นำบทบัญญัติเรื่องให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงในกรณีที่รัฐมนตรีถือหุ้นเกินกฎหมายกำหนดมาใช้บังคับ ในวันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดังนั้น ความเป็นรัฐมนตรีของบุคคลทั้ง 3 จึงไม่สิ้นสุดลง ซึ่งป.ป.ช.ระบุว่าแม้การกระทำของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนไม่ครบองค์ประกอบความผิด แต่ก็ปรากฏว่ามีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้บางคน คือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีต รมว.คลังและรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือครองหุ้นในบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5 ได้โอนหุ้นไปให้นิติบุคคลจัดการแทน แต่รัฐมนตรีทั้ง 3 คน ไม่ได้ดำเนินการเช่นเดียวกัน จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อหลักการในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม ปรากฏว่า นายสิทธิชัย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้นั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องควรที่รัฐมนตรีอีก 2 ท่านจะแสดงสปิริตลาออกเพื่อสร้างมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองใหม่ การมีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีจะอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้และข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่ามีรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลปัจจุบันถือหุ้นบริษัทเกิน 5 % และได้โอนหุ้นให้กับนิติบุคคลที่มีอำนาจจัดการกองทุนส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินตามพรบ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นรัฐมนตรี พ.ศ.2543 นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันยังได้เห็นชอบกับร่างพรบ.ว่าด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกับผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of interest)ซึ่งแสดงว่า รัฐมนตรีทุกคนต้องทราบดีถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายความขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวม พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคได้กำหนดแนวนโยบายให้รัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนต้องแสดงบัญชีข้อมูลธุรกิจของตนเองครอบครัว และบุคคลอื่นที่ถือครองทรัพย์สินแทนตนต่อสาธารณชนทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้และป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ทางการเมือง ไม่เห็นด้วยที่นายอารีย์อ้างว่าเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้งปลายปีนี้และนายกรัฐมนตรีอยากให้ทำงานต่อ เพราะกรณีดังกล่าวเป็นปัญหาเฉพาะตัวซึ่งแม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่มีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแต่ก็เข้าข่ายการกระทำผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย พรบ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นรัฐมนตรี พ.ศ.2543 นายอารีย์ไม่ควรเบี่ยงเบนการแสดงความรับผิดชอบโดยอ้างเหตุผลดังกล่าวเพราะผู้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีต้องมีมาตรฐานจริยธรรมเหนือกว่ามาตรฐานของตัวบทกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อว่านายอารีย์ จะทบทวนการตัดสินใจอีกครั้งหนึ่งภายในสุดสัปดาห์นี้และ ขอให้นายอารีย์ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าบริษัทที่รัฐมนตรีมหาดไทยถือหุ้นทำสัญญาซื้อขายสินค้ากับกระทรวงมหาดไทย ขณะที่นายอารีย์ ดำรงตำแหน่งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร "อารีย์" ย้ำไม่ทิ้งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.กระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้ว่าถือหุ้นในบริษัทเกิน 5 เปออร์เซ็นต์เป็นการขัดต่อกฎหมาย โดยเขาระบุว่า ตนไม่พูดอีกแล้ว พูดอย่างไรก็เป็นไปอย่างนั้น จะไม่ต่อความยาวสาวความยืด ยืนยันไม่ลาออกจากตำแหน่ง เพราะตนทำถูกต้อง และเจตนารมณ์ก็บริสุทธิ์
" ผมมาเป็นรัฐมนตรีเพราะผมถูกเชิญมานะครับ ผมไม่อยากจะเป็น ผมทำงานให้ประเทศชาติและยังมีเรื่องของกฏหมายเช่นร่าง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ ที่จะเป็นประโยนช์ต่อประเทศชาติที่กำลังทำอยู่จะไม่พูดอีก" เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกดดันให้ลาออก นายอารีย์ กล่าว่าปล่อยให้พูดไป ใครจะพูดอะไรก็พูดไป เมื่อถามต่อว่าได้พูดกับนายกรัฐมนตรี หรือยัง นายอารีย์ กล่าวว่า เรียนท่านแล้วท่านก็ไม่ว่าอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพลักษณ์รัฐบาลเป็นอย่างไร นายอารีย์ กล่าวว่า ก็ดีไม่มีปัญหา ตนจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/22/WW10_WW10_news.php?newsid=185067 ขอให้นายอารีย์ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าบริษัทที่รัฐมนตรีมหาดไทยถือหุ้นทำสัญญาซื้อขายสินค้ากับกระทรวงมหาดไทย ขณะที่นายอารีย์ ดำรงตำแหน่งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กระทรวงมหาดไทยซื้อสินค้าจากปลา"ปุ้มปุ่ย" ของสุรินทร์ โตทับเที่ยง ที่รมว.อารีย์ถือหุ้นเกิน 5 %...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
meriwa
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 22-09-2007, 21:08 » |
|
อยู่มาก็ครึ่งปี ท่าทางงานจะเยอะจริงๆ แล้วนี่อีกไม่กี่เดือนมันจะเสร็จเหรอ งานที่ค้างอยู่ ถ้าไม่เสร็จ มันไม่ขออยู่ต่อหรือนี่ เฮ้อ แบบนี้แล้วจะไปว่าใครเค้าได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตน อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่น อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่น อย่างเต็มที่
...คำคมขงเบ้ง
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 23-09-2007, 14:14 » |
|
'อรนุช โอสถานนท์'ประกาศลาออกรมช.พาณิชย์แล้ว 23 กันยายน พ.ศ. 2550 14:04:00 (เบื้องต้น) รมช.พาณิชย์ประกาศทิ้งเก้าอี้แล้วเมื่อบ่ายที่ผ่านมา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : จากการประกาศลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอทีซี ของนายสิทธิชัย โภไคยอุดม หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ระบุมีการถือหุ้นเกิน 5% ส่งผลให้เกิดแรงกดดันไปยังอีก 2 รัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ที่ตกอยู่ในสถานะเดียวกัน อย่างไรก็ตาม แม้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550จะมีบทเฉพาะกาล ไม่สามารถใช้บังคับกับรัฐมนตรีชุดนี้ได้ก็ตาม แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และขัดต่อหลักการในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม ป.ป.ช.จึงมีมติให้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามสมควรต่อไป โดยเมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา นางอรนุช โอสถานนท์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ ร.ร.ปริ๊นซ์เซส หลานหลวง ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง รมช.พาณิชย์แล้ว http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/23/WW10_WW10_news.php?newsid=185191
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 23-09-2007, 14:36 » |
|
คราวนี้ก็เหลือแต่ นายอารีย์ วงศ์อาระยะ อดีตรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลเหลี่ยม ส่วนอีก 2 ท่านก็แสดงมาตรฐานที่สูงกว่ารัฐบาลเหลี่ยมไปเรียบร้อยแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
An.mkII
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 23-09-2007, 14:54 » |
|
จะเอาอะไร...กะพวก "ไร้อาระยะ"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 23-09-2007, 17:22 » |
|
'อรนุช โอสถานนท์' ประกาศทิ้งเก้าอี้รมช.พาณิชย์ ยื่นใบลา 29 ก.ย. 23 กันยายน พ.ศ. 2550 14:04:00 รมช.พาณิชย์ ประกาศทิ้งเก้าอี้แล้ว จะยื่นใบลาออกพร้อมชี้แจ้งเหตุผลต่อนายกฯ ทันทีกลับจากเวทียูเอ็น 29 ก.ย. ด้าน"อารีย์"เปิดบ้านยังยื้อ อ้างให้นายกฯตัดสิน กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ที่โรงแรมรอยัล ปริ๊สเซส หลานหลวง เมื่อ 14.00 น.ที่ผ่านมา นางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว
โดยระบุว่า ไม่ต้องการเห็นความแตกแยกทางความคิดภายในสังคม และไม่สบายใจต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของการถือครองหุ้นเกินร้อยละ 5 แม้ว่าทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะระบุว่าไม่ผิดกฎหมายก็ตาม โดยจะยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 29 กันยายนนี้ พร้อมจะชี้แจงต่อ นายกรัฐมนตรีรับทราบด้วยทันทีเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ นางอรนุช เป็นรัฐมนตรีคนที่ 2 ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังประสบปัญหากรณีเดียวกับ นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ซึ่งได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา ..................................................................................................................................................................................... "อารีย์" เสียงแข็งไม่ทิ้งเก้าอี้ ให้นายกฯตัดสินใจ
ขณะที่ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วันนี้เปิดบ้านพักย่านลาดพร้าว 41 ให้สื่อมวลชนเข้าสัมภาษณ์ และยังคงยืนยันว่า ไม่รู้สึกกดดันกระแสข่าวที่เกิดขึ้น แม้จะมีรัฐมนตรีลาออกไปแล้ว และไม่ติดใจที่มีรัฐมนตรีบางคน เรียกร้องถึงจริยธรรม จะรอให้นายกรัฐมนตรีตัดสินเท่านั้น http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/23/WW10_WW10_news.php?newsid=185191 นายอารยะ(?) จะทน อดกลั้น การวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมนาน หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หรือ สามเดือน.... นายกฯสุรยุทธ์ จะเป็น"โล่ห์"ให้รัฐมนตรีคนนี้หรือไม่.............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 23-09-2007, 17:31 » |
|
ตอนนี้ ที่มีปัญหาทั้งหมด 3 คน...ก็เหลือเพียงหน่อเดียวแล้ว....จะด้านไปถึงไหน คอยติดตามกันครับ.....
จริง ๆ อารีย์ น่าจะลาออกตั้งแต่ ลูกชายไปสมัคร พรรคปล้นชาติแล้ว...ก็รู้ ๆ อยู่...ว่า รัฐบาล กับ พรรคปล้นชาติ มีแนวคิดต่างกันสุดขั้ว.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 23-09-2007, 17:37 » |
|
โพลล์ระบุคนกรุง-ปริมณฑลอยากให้ 3 รมต.ถือหุ้นเกิน 5% ทิ้งเก้าอี้ 23 กันยายน พ.ศ. 2550 12:31:00 เอแบคโพลล์ ระบุ ปชช.ต้องการนักการเมืองทั้งเก่ง สุจริต แก้ปัญหาได้รวดเร็ว ไม่ต้องรวย พร้อมเรียกร้องให้ 3 รมต.ที่ถือหุ้นเกินร้อยละ 5 ลาออก เหตุกระทบภาพลักษณ์ด้านคุณธรรมของรัฐบาล กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไรต่อคุณสมบัติของนักการเมืองระดับชาติ และต่อ 3 รัฐมนตรีหลังคำแถลงของ ป.ป.ช. เรื่องการถือหุ้นเกินร้อยละ 5 ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือบริษัท :กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล" จำนวนทั้งสิ้น 1,464 ตัวอย่าง ซึ่งดำเนินโครงการสำรวจในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน 2550 ..................................................................................................................................................................................... สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของ 3 รัฐมนตรี ภายหลัง ป.ป.ช.ออกมาระบุว่ามีการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทเกินกว่าร้อยละ 5 นั้น ดร.นพดล กล่าวว่า ประชาชนร้อยละ 46.2 ระบุควรตัดสินใจลาออก ในขณะที่ร้อยละ 28.8 ระบุควรทำงานต่อไป และร้อยละ 25.0 ไม่ระบุความคิดเห็น ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 48.5 ระบุการถือหุ้นของ 3 รัฐมนตรีดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านคุณธรรมของรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 35.9 ระบุไม่มีผลกระทบ และร้อยละ 15.6 ไม่ระบุความคิดเห็น http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/23/WW10_WW10_news.php?newsid=185179
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 23-09-2007, 17:40 » |
|
ตอนนี้ ที่มีปัญหาทั้งหมด 3 คน...ก็เหลือเพียงหน่อเดียวแล้ว....จะด้านไปถึงไหน คอยติดตามกันครับ.....
จริง ๆ อารีย์ น่าจะลาออกตั้งแต่ ลูกชายไปสมัคร พรรคปล้นชาติแล้ว...ก็รู้ ๆ อยู่...ว่า รัฐบาล กับ พรรคปล้นชาติ มีแนวคิดต่างกันสุดขั้ว.....
นายกฯ"ขอนไม้" ไม่มีความคิดเห็นอย่างคุณ 55555 หรอก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 23-09-2007, 20:01 » |
|
ตอนนี้สาวกเหลี่ยมคงจะสับสนไม่รู้จะชมหรือด่าดีคร้าบบพี่น้อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 23-09-2007, 20:18 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2007, 22:52 โดย nammatum »
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 24-09-2007, 15:19 » |
|
ซึ้ง น้ำตาซึม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจาก จ.สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม และ นครสรรค์ ประมาณ 500 คน มาชุมนุมที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กำลังใจ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย ที่ถูกกระแสกดดันให้ลาออก จากเหตุ ป.ป.ช.ติงถึงความไม่เหมาะสมกรณีถือหุ้นเกินกว่า 5% โดยเจ้าตัวลั่นไม่ยอมลาออก *********** จริยธรรมเข้าตา อะไรของเค้าน๊า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอกราช
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 24-09-2007, 17:07 » |
|
ช่วยหน่อยครับ! ไม่รู้ว่ามันมีอะไรมาบังตา ทำให้มองไม่เห็น คุณธรรมและจริยธรรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 24-09-2007, 17:19 » |
|
ออกไปเถอะ ลุงอารีย์เอ๊ย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 24-09-2007, 17:35 » |
|
'สิทธิชัย' กร้าวอยู่ต่อก็เสียหมา เชื่อ อารีย์ ดื้อได้ไม่นาน โดยทีมข่าว INN News 24 กันยายน 2550 16:55:38 น. รมว.ไอซีที ย้ำ บรรทัดฐานการเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ถ้ากลับคำรับตำแหน่งอีกครั้งจะเสียหมาอย่างรุนแรง เชื่อ นายอารีย์ ดื้อแพ่งได้อีกไม่นาน ต้องลาออก นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ หรือ ไอซีที ให้สัมภาณ์พิเศษกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ย้ำถึงกรณีลาออกจากตำแหน่งว่า ได้คิดดีแล้ว ถึงแม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่การสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองถือเป็นสิ่ง สำคัญ ส่วนจะกลับมารับตำแหน่งอีกครั้งหรือไม่ หากนายกรัฐมนตรีขอร้อง รมว.ไอซีที กล่าวว่าตนได้พูด ชัดเจนแล้ว หากกลับคำพูด ก็ถือเป็นการเสียหมาอย่างรุนแรง ส่วนกรณี นายอารีย์ วงศ์อารยะ ยังยืนยันจะไม่ลาออก โดยอ้างข้อกฎหมายไม่ได้ห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์นั้น รมว.ไอซีทีเชื่อว่า สุดท้ายคงต้องลาออก เพราะทนกระแสกดดันได้ยาก********** เอาอีก ๆ ๆ ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
kumtong
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 24-09-2007, 20:41 » |
|
เห็นอาการ นายอารี แล้ว นึกถึงสามหนา เหมือนกันมาก คนอะไรเป็นคนใหญ่คนโต แต่ไร้ศักดิ์ศรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 24-09-2007, 20:44 » |
|
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
หมวด 13 จริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
มาตรา 280 เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามหมวดนี้ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจหน้าที่เสนอแนะหรือให้คำแนะนำในการจัดทำ หรือปรับปรุงประมวลจริยธรรมตาม มาตรา279 วรรคหนึ่ง และส่งเสริมให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีจิตสำนึกในด้านจริยธรรม รวมทั้งมีหน้าที่รายงานการกระทำที่มีการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม เพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบในการบังคับการให้เป็นไป ตามประมวลจริยธรรมดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมตาม มาตรา279 วรรคสาม ในกรณีที่การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมมีลักษณะร้ายแรง หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการดำเนินการของผู้รับผิดชอบจะไม่เป็นไปด้วยความเป็นธรรม ผู้ตรวจการแผ่นดินจะไต่สวนและเปิดเผยผลการไต่สวนต่อสาธารณะก็ได้http://www.kodmhai.com/m1/m1-1/N279-280.html********************* เห็นชอบแล้วด้วยประการทั้งปวง ที่จะเอามาประจานต่อสาธารณะ ต่อไป
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2007, 20:46 โดย soco »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 25-09-2007, 11:44 » |
|
ผู้ตรวจการรัฐสภา ขู่ยื่น ปปช.ถอด 'อารีย์'พ้นตำแหน่งชี้ขัดจริยธรรม 25 กันยายน พ.ศ. 2550 08:09:00 "ปราโมทย์" ชี้ขัดจริยธรรมการเมือง ยก"หม่อมอุ๋ย" โอนหุ้นก่อนรับตำแหน่ง ระบุรธน.ให้อำนาจถอดถอนได้ เผยรอดูท่าทีนายกฯ ถ้าเพิกเฉย พร้อมทำรายงานส่ง ครม. ซ้ำประจานต่อสังคม กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายปราโมทย์ โชติมงคล ผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์พิเศษ"เครือเนชั่น" ถึงภารกิจของผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ได้ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินฯ ดูแลมาตรฐานจริยธรรมของข้าราชการการเมืองทั้งหมด ตั้งแต่ คณะรัฐมนตรี ส.ส.และ ส.ว. รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น ส.จ. อบจ. และ อบต. โดยเรามีหน้าที่ตรวจสอบว่า แต่ละองค์กรได้ออกกฎเกณฑ์จริยธรรมขององค์กรหรือไม่ และมีการฝ่าฝืนหรือไม่ หากพบว่าหน่วยงานไหนมีความผิดเราก็จะทำเรื่องรายงาน ครม. รัฐสภา สภาท้องถิ่น และที่สำคัญคือฟ้องต่อประชาชน ประจานให้ประชาชนทราบ หรือหากมีการฝ่าฝืนจริยธรรมต้องถือว่าเป็นความผิดวินัย และถ้าเข้าขั้นร้ายแรงต้องรายงานไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเป็นเหตุในการยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย ไม่แจ้งรายการถือหุ้นเกินกว่า 5 เปอร์เซนต์ แต่รัฐธรรมนูญไม่กำหนดว่าต้องพ้นจากตำแหน่ง นายปราโมทย์ กล่าวว่า รัฐมนตรีมีสถานะที่อยู่เหนือกว่าคนธรรมดา สังคมคาดหวังบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่ดีจากรัฐมนตรี ดังนั้นรัฐมนตรีจะคิดแบบคนธรรมดาไม่ได้ "กรณีจะลาออกหรือไม่นั้นเป็นสิทธิส่วนตัวที่จะคิด แต่ถ้าเป็นประเทศที่มีความโปร่งใสเขาจะถือเรื่องนี้มาก ยกตัวอย่างในญี่ปุ่นรัฐมนตรีของเขาถูกกล่าวหาในเรื่องเกี่ยวกับจริยธรรม รัฐมนตรีลาออก นายกรัฐมนตรีของเขาก็ลาออกด้วย หรือนายกรัฐมนตรี เลือกรัฐมนตรีมาใช้งาน 2-3 คนแต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาร่วมงานกับเขาเลย นายกฯก็ลาออกทันที เพราะรู้สึกละอาย เรื่องนี้เป็นเรื่องความรู้สึก สำนึกในใจของคนที่ต้องรู้สึกว่าเมื่อเกิดความไม่ดีก็ต้องรับผิดชอบ ถึงแม้กฎหมายจะไม่เอาผิด แต่คนที่เป็นผู้นำระดับสูงในสังคมต้องเข้าใจในเรื่องนี้ อย่างกรณีของนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที ใช้เวลาเพียง 2 นาทีก็ตัดสินใจได้ หรือนางอรนุช โอสถานนท์ รมช.พาณิชย์ ก็ลาออก เหลือแต่นายอารีย์ บอกไม่ออก ต้องถามว่าประชาชนคิดว่าควรหรือไม่ควร" นายปราโมทย์ ระบุ ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายอารีย์ จะเป็นงานแรกหรือไม่ที่ผู้ตรวจการฯจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายปราโมทย์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลดำเนินการเองได้ เราก็ไม่ต้องเข้าไป แต่ถ้ารัฐบาลไม่ดูแล หรือดำเนินการอย่างที่ไม่ควรจะเป็น เราก็อาศัยอำนาจตาม ม.244 ม.279 และ ม.280 ของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในการเข้าไปตรวจสอบ ส่วนที่นายอารีย์ เคยอ้างว่านายกฯเองก็บอกว่าไม่ต้องออก เราก็ต้องไปพิจารณาข้อแนะนำของนายกฯ ประกอบกับพฤติกรรมของรัฐมนตรี ถ้าวินิจฉัยแล้วเห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะรายงานต่อรัฐสภา และรายงานให้ประชาชนทราบถึงพฤติกรรม และถ้าเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงก็ยื่นให้ป.ป.ช.ถอดถอนออกจากตำแหน่ง " เราจะรอให้นายกฯ กลับมาปลายเดือนนี้ ก็จะรอดูว่าท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้เพราะท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ถ้าปล่อยปละละเลย หรือดูแลแล้วไม่เป็นอย่างที่ควรจะเป็น ไม่เหมาะสม เราก็จะนำเรื่องมาวินิจฉัยเพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรี แต่ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรงเราจะรายต่อป.ป.ช.ถือว่าฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง เพราะจริยธรรมไม่ใช่กฎหมาย แต่เป็นความคิดที่รู้สึกว่าควรหรือไม่ควร นอกจากนี้เราจะฟ้องกับประชาชนด้วย ถ้าเพิกเฉยเราก็ต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ เพราะเกี่ยวข้องกับจริยธรรม และแม้ไม่มีกรอบเวลาบังคับให้เราต้องทำแต่เรื่องนี้เราจะทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม" ผู้ตรวจการแผ่นดินฯ กล่าว http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/25/WW10_WW10_news.php?newsid=185427 "อารีย์" จะเลียนแบบ "สามหนา ห้าห่วง" หรือไม่ อย่าลืมว่าคณะกรรมการ ปปช. สามารถนำกรณีถือหุ้นเกิน 5% ระหว่างดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาฯ รัฐบาลทักษิณ มาพิจารณาใหม่ได้.... ปล. มีข่าวว่า พล.อ.สนธิฯ เป็น"ลูกเขย" นายอารีย์ นี้ด้วย.....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2007, 11:47 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
Şiłąncē Mőbiuş
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 25-09-2007, 19:42 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.” . “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
|
|
|
THE THIRD WAY
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 25-09-2007, 19:51 » |
|
สิทธิชัย หัวใจเธอมันน่ากราบ อรนุช หัวใจเธอกลับลำทัน อารีย์ คือต้นเหตุแห่งหายนะของสุรยุทธ์ อาเมน................
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 25-09-2007, 21:12 » |
|
บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยื่นบัญชีกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อ 14 มีนาคม 2548ทรัพย์สินมากกว่า (น้อยกว่า) หนี้สิน 96,090,156.10http://www.nccc.go.th/asset/show/1Out14March48/out_aree.pdf******************************************************** บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยื่นบัญชีกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 9 ตุลาคม 2549ทรัพย์สินมากกว่า (น้อยกว่า) หนี้สิน 136,467,537.99http://www.nccc.go.th/asset/shownewgov/in9oct2549/aree.pdf******************************************************** ปีกว่า ๆ แกไปรวยอะไรมา ใครพอทราบมั่งครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 25-09-2007, 21:56 » |
|
เลขที่โฉนดที่ดิน/นส.3/นส.3ก ที่ตั้ง เนื้อที่ (ไร่-งาน-ตรว.) 5.2 ฉ. 167304 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 10-3-22 25,932,000.00http://www.nccc.go.th/asset/shownewgov/in9oct2549/aree.pdfไปนั่งอ่านอีกรอบ งอกมาจากที่ผืนนี้ แปลงสวยสุด ราคาดี โผล่มาทีเดียวโดด ๆ ก็ยังงงอยู่ดี ว่า แกเอาเงินที่แกรวยมาจากไหนไปซื้อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Gamobank
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 25-09-2007, 22:09 » |
|
จริยธรรมของนักการเมืองไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้งควรมีมาตรฐานเดียวกัน
ที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้และเข้าชื่อถอดถอนได้หากเห็นว่าปฎิบัติมิชอบ
อำนาจทั้งปวงอยู่ในมือประชาชนที่จะไม่เพิกเฉยให้ใครผู้ใดทำการแบบสองมาตรฐาน
มิเช่นนั้นจะเป็นเยี่ยงอย่างที่กระทำกันโดยอ้างวิธีที่เคยปฎิบัติเพื่อสืบทอดวงจรอุบาทว์
แบบกฎหมายวิธีพิจารณาความของบางประเทศที่ใช้แง่ประเพณีนิยมมาแอบอ้างเพื่อหาความชอบธรรมให้กับตัวเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลับ ลวง พราง
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 25-09-2007, 22:21 » |
|
เหอ เหอ อัปรีย์ ไร้อารยะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
|
|
|
|
เอกราช
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 25-09-2007, 23:26 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สภาพดินฟ้าอากาศที่ได้เปรียบมิสู้มีชัยภูมิที่มั่นคง ชัยภูมิที่เป็นเลิศมิอาจเทียบได้กับความมีน้ำหนึ่งใจเดียวของผู้คน
|
|
|
ดอกฟ้ากับหมาวัด
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 25-09-2007, 23:37 » |
|
ในที่สุด....ก็ต้านทานกระแสสังคมที่เกิดขึ้นไม่ได้
เพราะจากการที่มวลชนเข็ดขยาดวิธีปฎิบัติในรัฐบาลยุคมารครองเมือง
ชอบแล้ว ที่ยอมไขก๊อกลาออกไป ดีกว่าที่ต้องถูกพิพากษาจากสังคม
หวังว่าเรื่องนี้คงเป็นแนวความคิดและบรรทัดฐานทางสังคม ที่ดีต่อไปในอนาคต
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ
น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
|
|
|
THE THIRD WAY
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 26-09-2007, 08:22 » |
|
ช้าไปหน่อย แต่กลับลำทัน
[/color][/size]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 26-09-2007, 09:25 » |
|
ทนกระแสกดดันไม่ไหว มท.1 ประกาศลาออกแล้ว [26 ก.ย. 50 - 09:17] นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดแถลงข่าวลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วันนี้ (26 ก.ย.) ที่บ้านเปิดบ้านพัก ซอยลาดพร้าว โดยระบุ ว่า ตนขอรับผิดชอบในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของตนทำไป เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่เขาได้ทำไปโดยตนไม่ทราบ แต่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงขอลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และจะยื่นหนังสือลาออก ในวันที่ 1 ต.ค. เมื่อนายกรัฐมนตรีกลับมา ส่วนกรณีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยนั้น นายอารีย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาว่าใครเหมาะสมดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ส่วนผบ.ทบ.จะมาดำรงตำแหน่งนี้ ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจาก ผบ.ทบ.รู้ทุกอย่างในกระทรวงมหาดไทย http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=62438
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 26-09-2007, 09:58 » |
|
เอาคนมาให้กำลังใจแบบที่แม้วและสมุนชอบทำ ก็ได้โดนไล่ไปแบบแม้วนั่นแหละ(เผลอๆจะเจอคุกเหมือนสมุนแม้วทั้งหลายด้วย)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 26-09-2007, 11:17 » |
|
เอาคนมาให้กำลังใจแบบที่แม้วและสมุนชอบทำ ก็ได้โดนไล่ไปแบบแม้วนั่นแหละ(เผลอๆจะเจอคุกเหมือนสมุนแม้วทั้งหลายด้วย)
เมื่อวานนี้ยัง"ปากแข็ง ขาสั่น" กับพวก"หน้าม้า" กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ้างว่า นายกฯยืนยันให้ทำหน้าที่ต่อไป โดยบอกว่ามาด้วยกัน ก็ต้องไปด้วยกัน...... "ผู้ที่สามารถจะให้ออกได้ คือนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว การแสดงความคิดเห็นไปมา อาจจะทำให้เกิดการสับสน"อารีย์" พยายามหลอกตัวเอง ไม่เชื่อว่า ข่าวสารในยุคนี้ก้าวไกล รวดเร็ว นาฑีต่อนาฑี รวมทั้งในประเทศไทยด้วย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2007, 11:19 โดย ปุถุชน »
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 26-09-2007, 15:14 » |
|
เจอดาบแรกยังไม่ยอม
เจอดาบสองถึงเลยถึงคราว
....ยังบอกตัวเองไม่ผิดอยู่ดี
เหมือนจริงๆ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 27-09-2007, 00:24 » |
|
ถอดใจประกาศลาออกเสียแล้วนี่ครับ พอดีเพิ่งไปเห็นข่าวมัวแต่ตามเรื่องประท้วงในพม่า น่าเสียดายโอกาส ถ้าลาออกเสียตั้งแต่ต้นก็จะสง่างามมากกว่านี้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 'อารีย์'ประกาศทิ้งเก้าอี้'มท.1' สมัชชาปชช.ยื่นซ้ำสอบซุกหุ้น http://www.bangkokbiznews.com/2007/09/26/WW10_WW10_news.php?newsid=186099 26 กันยายน พ.ศ. 2550 09:59:00
'อารีย์' เปิดบ้านแถลงลาออกแล้ว หลังเผชิญแรงกดดันกรณีถือหุ้นเกิน5% ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ขณะที่ สมัชชาประชาชนฯ เข้ายื่น ป.ป.ช.สอบซ้ำซุกหุ้น
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : บ้านพักที่ซอยลาดพร้าว 41 เวลา 09.00 น. นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย เปิดบ้านแถลงพร้อมรัฐมนตรีช่วยทั้งสอง และข้าราชการระดับสูงของมหาดไทย ต่อกองทัพสื่อมวลชน โดยยืนยันประกาศลาออก และมีผลในวันที่ 1 ต.ค.
ทั้งนี้ จะยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 1 ต.ค.ต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมกับขอโทษ และระบุว่าพร้อมรับผิดชอบ ในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ทำไป
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตนมีหุ้นจริงจำนวน 30,000 หุ้นในบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล แต่เมื่อคิด เป็นมูลค่าแล้วไม่ถึง 1% จากการตรวจสอบการเซ็นสัญญาการจัดซื้อจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อนำไปมอบให้กับราษฎร ผู้ประสบภัยกับเจ้าหน้าที่มีการจัดซื้อ 2 ครั้ง ราคาไม่เกิน 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ขอเรียนว่าการจัดซื้อดังกล่าวตนไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องของอธิบดีกรมการปกครองกับบริษัท ในฐานะที่ตนมา ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย และในฐานะเป็นกรรมการ ป.ป.ช. โดยตำแหน่ง ยินดีจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าจะลาออก ตนขอโทษไม่ได้ตั้งใจ แต่กฎหมายย่อมเป็นกฎหมายและขอรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไป
ทั้งนี้ นายอารีย์ ได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ระบุว่านายอารีย์ ถื อ หุ้นในธุรกิจเกิน 5% แม้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ถือว่าไม่เหมาะสม ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐมนตรี 2 คน ได้ประกาศลาออกไปแล้ว ในกรณีเดียวกัน
ทั้งนี้ นายอารีย์ มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดตาม มาตรา 100 ของกฎหมาย ป.ป.ช. เนื่องจาก การตรวจสอบรายการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงมหาดไทยช่วงเดือน ม.ค.2549 - ส.ค.2550 พบว่า กรมการปกครอง ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชนทั้งหมด 615 สัญญา วงเงิน 3,751 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการทำสัญญาจัดซื้อกับบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด(มหาชน) 3 รายการ จำนวน 6 ล้านบาท ในช่วงปี 2549
บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด(มหาชน) มีนายอารีย์ ถือหุ้นอยู่จำนวน 30,000 หุ้น มูลค่า 3 แสนบาท
นอกจากนี้การทำสัญญาซื้อขายกับกรมการปกครอง 3 ครั้งได้แก่
1.ซื้อผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง วงเงิน 1.5 ล้านบาท 2.ซื้ออาหารกระป๋องประเภทข้าวกระป๋องขนาด 150 กรัม จำนวน 1,250 หีบ วงเงิน 1.5 ล้านบาท 3.ใบสั่งซื้อข้าวกระป๋องรวม 7 รายการ วงเงิน 3 ล้านบาท สองในสามครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเมื่อตรวจสอบการทำสัญญาจัดซื้อในช่วงปี 2545-2549 ก็ไม่พบว่า กรมการปกครอง ทำสัญญาซื้ออาหารจากบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ยังเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ตรังชัวร์ จำกัด ที่นายอารีย์ ถือหุ้นอยู่ 2 ล้านหุ้น มูลค่า 20 ล้านบาทด้วย
ดังนั้น การที่นายอารีย์ ถือหุ้นอยู่ในบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ตรังชัวร์ จำกัด นอกจากจะเป็นการถือหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 100 ของกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่เข้าเป็นสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าที่รัฐผู้นั้นมีอำนาจในการกำกับ ดูแลอยู่ หากเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 100 จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สมัชชาประชาชน เข้ายื่น ป.ป.ช.สอบ"อารีย์" ซุกหุ้น
เมื่อวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ทันตแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนประมาณ 40 คน ได้เดินเท้าจากบริเวณหน้ารัฐสภา มายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.ผ่านกองรับเรื่องร้องเรียน เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กรณีที่มีการซุกหุ้นและถือหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
นายศุภผล กล่าวว่า ต้องการให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนและดำเนินคดีอาญากับนายอารีย์จนถึงที่สุด แม้ว่านายอารีย์ จะประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม เพราะถือว่าความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว ทั้งการซุกหุ้นและถือหุ้นเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งหุ้นที่นายอารีย์ถือครองอยู่ในบริษัท 2 แห่ง คือ บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ตรังชัวร์ จำกัด นั้น ก็เป็นบริษัทในเครือกันเอง
อีกทั้ง บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ยังเข้าไปเป็นคู่สัญญากับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยมีการทำสัญญา 3 รายการ วงเงิน 6 ล้านบาท จึงถือว่านายอารีย์มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแท้จริง
ดังนั้นจึงต้องการให้ ป.ป.ช.ดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และหากเป็นไปได้ขอให้มีการสอบสวนและส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เพราะมีความชัดเจนว่านายอารีย์ ได้ปกปิดการถือครองหุ้นมาตั้งแต่สมัยเป็น รมช.ศึกษาธิการ อย่างไรก็ตามในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ตนจะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการตรวจสอบคุณธรรม และจริยธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไป
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2007, 00:26 โดย jerasak »
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 27-09-2007, 02:25 » |
|
ปล. มีข่าวว่า พล.อ.สนธิฯ เป็น"ลูกเขย" นายอารีย์ นี้ด้วย..... ท่าน ปุถุชน แม่นบ่ WOW! WOW! WOW! อเมซิ่ง!___ค.ร.ม.ช. ข้อความโดย: SIMONE วันก่อนนั้น ได้ชม ได้ฟังจาก ASTV1. ว่าอย่างนั้น จึงต้องใช้คำว่า "มีข่าวว่า......" ครับ ในข่าวระบุชื่อเมียคนหนึ่งด้วย......
เมื่อสักครู่นี้ ASTV1 ได้รายงานข่าวว่า "อารีย์" ปฎิเสธว่า "ไม่จริง" ครับ.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 27-09-2007, 04:54 » |
|
ปล. มีข่าวว่า พล.อ.สนธิฯ เป็น"ลูกเขย" นายอารีย์ นี้ด้วย..... ท่าน ปุถุชน แม่นบ่ WOW! WOW! WOW! อเมซิ่ง!___ค.ร.ม.ช. ข้อความโดย: SIMONE เมื่อสักครู่นี้ ASTV1 ได้รายงานข่าวว่า "อารีย์" ปฎิเสธว่า "ไม่จริง" ครับ.....หมายถึงปฏิเสธเลือก พล.อ.สนธิ เป็นลูกเขยใช่ไหมครับ .. ข่าวจาก นสพ.แนวหน้า ก็ลงพร้อมกับข่าวลาออกครับ http://www.naewna.com/news.asp?ID=76710-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ลาออก : อิริยาบถของ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ระหว่างแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง รมว. มหาดไทย โดยอ้างเพื่อ แสดงความรับผิดชอบแทนลูกน้อง กรณีกรมการปกครองลงนามจัดซื้อจัดจ้างบริษัทผู้ผลิตปลากระป๋อง "ปุ้มปุ้ย" โดยไม่รู้ตัวมาก่อนว่า มีหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าว... ด่ายับใส่ร้ายลูกสาวเป็นกิ๊กบังผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการที่มีกระแสข่าวบุตรสาวมีความสัมพันธ์กับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช.นั้น นายอารีย์ กล่าวว่า เป็นความเลวร้าย ครอบครัวของตนต้นตระกูลไม่เคยทำเสียชื่อเสียงเลย บรรพบุรุษได้รักษามาตลอด ถ้าตนไปทำเช่นนั้นจะไม่ใช่ตน ต้องเป็นพวกข้างถนน ซึ่งลูกสาวของตนก็เรียนอยู่ที่เมืองนอก ยังไม่ได้กลับไม่ได้อยู่ที่นี้ ส่วนอีกคนเพิ่งกลับจากนอกกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดลไม่ได้มีอะไรเลย เพราะฉะนั้นคนที่กล่าวหาตนขอบอกว่า มันบาปในทางศาสนาถือเป็นการใส่ร้ายกันอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เป็นจริง ส่วนการที่นายกฯจะมานั่งควบตำแหน่งรมว.มหาดไทยด้วยนั้น นายอารีย์ กล่าวว่า ตนก็ดีใจเพราะท่านรู้รายละเอียดทั้งหมด เช่นปัญหาภาคใต้ ส่วนข่าวที่ว่าพล.อ.สนธิ จะมานั่งรมว.มหาดไทยนั้น ตนไม่ขอออกความเห็น แต่ตอนนี้เริ่มมีการเล่นข่าวแล้วว่าเป็นแผนที่ พล.อ.สนธิ จะเข้ามาเสียบตำแหน่ง มท.1 เพื่อคุมเลือกตั้งแทน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.= == นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 27-09-2007, 09:15 » |
|
ถ้าแกลาออก ไปซะตั้งแต่ อาทิตย์ที่แล้ว....ก็คงดูดีขึ้นเยอะเลย...ผู้คนคงให้อภัยแก หมดแล้ว....นี่ต้องรอให้สังคมกดดัน...ไม่น่าเลยจริง ๆ ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|