|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: 17-09-2007, 00:02 » |
|
คุณเอี้ยก้วย ส่งข่าวด้วยนะครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990 |
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #51 เมื่อ: 17-09-2007, 01:10 » |
|
ผุ้จัดการรายงานรายชื่อผู้เสียชีวิต 20รายแรกครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #52 เมื่อ: 17-09-2007, 02:11 » |
|
ข่าว APhttp://news.yahoo.com/s/ap/20070916/ap_on_re_as/thailand_plane_crash
Jet crash in Thailand's Phuket kills 88 By AUDRA ANG, Associated Press Writer
42 minutes ago
PHUKET, Thailand - A passenger plane filled with foreign tourists crashed Sunday as it tried to land in pouring rain on the island of Phuket, splitting in two and bursting into flames, officials said. At least 88 people were killed.
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
นายเบียร์
|
|
« ตอบ #53 เมื่อ: 17-09-2007, 03:44 » |
|
ครั้งสุดท้ายที่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินที่ภูเก็ตก็นานมากแล้ว 20ปีได้ละมั้ง มาครั้งนี้หวยมาออกบนเครื่องที่มีน้องที่รู้จักกันเป็นลูกเรือ หลับให้สบายนะน้อง ถ้ามีโอกาสก็อยากจะได้ยินเสียงน้องร้องเพลงอีกซักครั้ง ไปที่ไหนขอให้เจอสิ่งที่ดีนะ อีกไม่นานคงได้เจอกันใหม่...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
justy
|
|
« ตอบ #54 เมื่อ: 17-09-2007, 05:07 » |
|
เครื่องบินในประเทศลำเล็กๆ เจอพายุหน่อย เอียงซ้าย เอียงขวา น่ากลัว ถ้านักบินไม่เจ๋งจริงๆคงบินไม่ได้ นึกถึงสภาพตอนที่เรานั่งเครื่องบิน เมื่อเครื่องถึงที่จุดหมาย ไฟสีแดงยังไม่แสดงให้ปลดเข็มขัดเลย ผู้โดยสารก็ลุกขึ้นพรึ่บเตรียมหยิบข้าวหยิบของที่ใส่ไว้บนหัวที่นั่งผู้โดยสาร ช่วง ณ เวลานั้นก็อึดอัดแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว คนนั้นก็ลุก คนนี้ก็ลุก นี่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุไฟลุกไหม้ขนาดนั้น สภาพผู้โดยสารที่อยู่ข้างในจะเป็นอย่างไร คงจะเหยียบกันตายก่อน นึกถึงสภาพแล้ว น่ากลัวจริงๆ ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงไปสู่ที่สุขคติเถิด...นอนหลับฝันดีน่ะ..หลับให้สบาย  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
|
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #56 เมื่อ: 17-09-2007, 14:18 » |
|
ศูนย์ข่าวภูเก็ต- รายชื่อผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุสายการบินวันทูโก ที่ได้รับการยืนยัน 20 คนแรก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000109486 รายชื่อผู้เสียชีวิตบางส่วนที่ได้รับการยืนยันแล้ว 1.นางสาวจิรนุช สุวรรณรัตน์ 2.นายธีรยุทธ มนูรักษ์ชินากร 3.นายคฑา กาญจนสุธา ผู้พิพากษาจังหวัดภูเก็ต 4.นายปลื้มบุญ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต 5.นายเจษฎา เดชะกุล 6.นางศิริรัตน์ ทับธานี 7.นายอภิชัย พรหมพิทักษ์สกุล 8.นางสิริพัฒน์ จิตต์จำนงค์ 9.นายธนวุฒิ สายเขียว 10.นายสินชัย สายอรุณ หัวหน้าด่านศุลกากรจังหวัดภูเก็ต 11.นายชวภณ บุญมีมีชัย 12.นางสาวคณินนาจ มาศเมือง 13.นายแพทย์รัฐ รัตนพล 14.นายฉกาจ กุลวานิช ผู้พิพากษาจังหวัดพังงา 15.นางมัลลิกา โกยสิน 16.นายสัญญา พรหมอารักษ์ 17.นางบุษกร สวนเจริญ 18.นายศุภลักษณ์ เชื้ออิว 19.นายสมโภช สังคพงษ์ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดภูเก็ต 20.นายอภิชัย เรืองรอง |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #57 เมื่อ: 17-09-2007, 14:19 » |
|
หนทางข้างหน้าของ อุดม และ วันทูโก หลังโศกนาฏกรรม http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000109480 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 กันยายน 2550 07:24 น. เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เร่งช่วยผู้รอดชีวิตจากซากเครื่องบิน วัน ทู โก เหตุการณ์เครื่องบิน วันทูโก ไถลออกนอกรันเวย์ไปชนกำแพงกั้นสนามบินจนเกิดระเบิดขาดออกเป็นสองท่อนไฟลุกท่วมที่สนามบินภูเก็ต เมื่อบ่ายวันที่ 16 ก.ย. มีผู้เสียชีวิต 88 รายรวมถึงกัปตัน รอด 43 ราย สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ขณะเดียวกัน นับเป็นจุดผกผันครั้งสำคัญของ อุดม ตันติประสงค์ชัย เจ้าของสายการบินวันทูโก ที่ต้องเผชิญวิบากซ้ำกรรมซัดในธุรกิจสายการบินมาตลอดชีวิต และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะหนักที่สุด อุดม เป็นนักธุรกิจเชื้อสายจีน เริ่มต้นทำธุรกิจสายการบินแคมโบเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์ (ซีไอเอ) โดยเปิดบินเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 ระหว่างกรุงเทพฯ-พนมเปญ แต่เมื่อการเมืองในกัมพูชาเปลี่ยน เจ้าจักรพงศ์ น้องเจ้ารณฤทธิ์ได้รับการแต่งตั้งจากฮุนเซนให้ดูแลด้านคมนาคม ทำให้สายการบินของอุดม มีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ นานา กระทั่งสุดท้ายต้องปิดสายการบินแคมโบเดียฯ เมื่อวันคริสต์มาสปี 2537 จากนั้น เขากลับมาตั้งหลักใหม่พร้อมเครื่องบินในมือ 3 ลำแต่ไม่มีใบอนุญาต อุดมวิ่งเต้นจนกระทั่ง วิชิต สุรพงษ์ชัย รมว.กระทรวงคมนาคม ขณะนั้นเซ็นอนุญาตให้บินในเส้นทางที่ไม่ทับเส้นทางการบินของการบินไทย ระหว่างนั้น ดร.วิชิต ก็ถูกปลด ส่วนอุดมก็สุ่มเสี่ยงอยู่กับใบอนุญาตที่ได้รับซึ่งมีเงื่อนไขว่าอาจจะยุติได้หากรัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งสายการบินแห่งที่สอง ในระหว่างที่รอใบอนุญาตในปี 2537 นั้น อุดมได้รับการติดต่อจาก William Gatchalian เจ้าพ่อโรงงานพลาสติกของฟิลิปปินส์ ให้ร่วมหุ้นทำสายการบินใหม่ หลังรัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเสรีการบินในปี 2537 แต่สุดท้ายพอถึงเวลาเปิดบิน อุดมก็ถูกเบี้ยวข้อตกลงจากสัดส่วนการถือหุ้น 60% เหลือเพียง 38% จึงบอกเลิกรา อุดม เปิดสายการบินในประเทศ คือ โอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ เมื่อปี 2540 ทำธุรกิจการบินแบบเช่าเหมาลำไปพร้อมกับเริ่มเปิดบินจากอุบลฯ-เชียงใหม่, ขอนแก่น แต่ไม่สามารถเข้ากรุงเทพฯ ได้ เขาเดินหน้าร้องเรียนเรื่องที่ได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรม เมื่อรัฐบาลทักษิณมีนโยบายเปิดเสรีการบิน พร้อมการแจ้งเกิดของสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์ อุดมก็เปิดสายการบิน วันทูโก บินเที่ยวแรกในเดือน ธ.ค.2546 ชนกับคู่แข่งขันที่มีแบ็กหนุนหลังแข็งแกร่งอย่าง ไทยแอร์เอเชีย และ นกแอร์ ที่เปิดบินในช่วงถัดมา ซึ่งหั่นราคาสู้กันชนิดไม่มีใครยอมใคร แต่วันทูโก ก็เอาตัวรอดได้โดยมีกำไรจากยอดผู้โดยสารที่มีร่วมล้านคนในช่วงปีแรกที่เปิดบริการ ทั้งเส้นทางบินภายใน และระหว่างประเทศ โดยมีฮ่องกง เป็นตลาดหลัก ซึ่งเน้นการขายผ่านช่องทางเอเยนต์มากกว่าคอลเซ็นเตอร์ หรือตั๋วออนไลน์ อุดมวางเป้าหมายว่า จะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศจาก 1 ล้านคนในปี 2549 เป็น 3 ล้านคนในปี 2550 พร้อมเพิ่มเที่ยวบินจาก 36 เที่ยวบิน เป็น 60 เที่ยวบินในปีนี้ โดยจะขยายเส้นทางบินทั้งในและต่างประเทศ และเพิ่มเครื่องบินจาก 8 ลำ เป็น 22 ลำด้วยการเช่า ขณะเดียวกัน ก็จะขยายช่องทางจำหน่ายตั๋วไปยังร้านเซเว่นฯ และคอล เซ็นเตอร์เพิ่มมากขึ้น แต่ที่สำคัญคือโปรโมชั่นราคาพิเศษ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้า ทั้งยังปรับปรุงเรื่องความตรงต่อเวลา แก้ไขปัญหาเครื่องดีเลย์ เน้นให้บริการลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด อุดม ประกาศจะดันให้ วันทูโก เป็นโลว์คอสต์อันดับหนึ่งในปี 2550 นี้ และเตรียมพร้อมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2552 ซึ่งหากมองถึงความมุ่งมั่นสู้ไม่ถอยแล้วโอกาสที่เขาจะก้าวสู่จุดหมายคงไม่ไกลเกินฝัน หากไม่เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นกับผู้โดยสาร วันทูโก ที่สนามบินภูเก็ตขึ้นเสียก่อน เหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นสายการบินที่จริงใจดังสโลแกนที่โฆษณาหรือไม่ จากการเยียวยาผู้บาดเจ็บล้มตายร่วมร้อยชีวิตว่าได้รับการดูแลเยียวยาดีแค่ไหนเป็นสำคัญ การกอบกู้ความเชื่อมั่นของ วันทูโก จากผู้ใช้บริการซึ่งมักจะหวาดหวั่นเรื่องความปลอดภัยของสายการบินโลว์คอสต์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วคืนมาจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตของ วันทูโก และ อุดม ตันติประสงค์ชัย ในสนามธุรกิจการบินว่าเขาจะสามารถฝ่าวิกฤตความสูญเสียเพื่อก้าวไปข้างหน้า หรือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มนับถอยหลังปิดฉากอีกครั้ง |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #58 เมื่อ: 17-09-2007, 14:41 » |
|
อีกหน่วยงานที่ต้องเช้มงวดในการทำงานกรณีนี้คือ
กรมการขนส่งทางอากาศครับ..
ต้องเข้มงวดกับการตรวจสภาพทุกสายการบินที่ลงในประเทศไทยหรือออกจากประเทศไทยไป
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
|
« ตอบ #59 เมื่อ: 17-09-2007, 14:46 » |
|
ขอแสดงความไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิตทุกท่าน --------------------------------------------------------------------------------------- เมื่อเช้าฟังคุณธีระกับคุณวีณารัตน์สัมภาษณ์คุณน้อง ขาวนวล ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ คุณน้อง (อายุ 57 ปี) เดินทางกลับภูเก็ตพร้อมกับภรรยา พอเกิดเหตุ ภรรยาสลบไป (ฟังถึงตอนท้ายเข้าใจว่า ศีรษะของภรรยาคงกระแทกกับเก้าอี้) โชคดีที่คุณน้องนั่งใกล้ประตูฉุกเฉิน และมีผู้โดยสารที่เป็นฝรั่งสองคนนั่งอยู่ข้างหน้า ซึ่งผู้โดยสารสองคนนี้ได้ทำการทุบกระจกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่รอดชีวิต ก็ออกมาจากทางประตูนี้ ซึ่งเป็นทางออกทางเดียวที่มี คุณน้องให้ข้อมูลว่า ไม่มีการระเบิด แต่จะเห็นไฟค่อย ๆ ลุกไหม้จากส่วนหัวมาเรื่อย ๆ หลังจากออกมาจากประตูแล้ว ผู้โดยสารจะไถลไปตามปีกเครื่องบินก่อนกระโดดลงมา ซึ่งบริเวณปีกเครื่องบิน อยู่เหนือคูน้ำพอดี คุณน้องต้องพยายามฉุดลากภรรยาออกมาด้วย ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์คุณน้องอยู่โรงพยาบาล และแพทย์ได้เย็บบริเวณใบหูที่เกิดบาดแผล ส่วนภรรยา (อายุ 50 ปี) ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ รอฟังผลการตรวจ ทางผู้ดำเนินรายการได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่จาก "กู้ภัยกุศลธรรม" ชื่อคุณสันธาน (ขออภัยถ้าสะกดชื่อผิดนะคะ) เจ้าหน้าที่ท่านนี้บอกว่า การกู้ซากศพของผู้โดยสารที่ติดอยู่กับเก้าอี้นั้น มีความยากลำบาก เนื่องจากเซฟตี้เบลท์เป็นแบบรุ่นเก่า หมายถึงจะคาดบริเวณท้อง (รุ่นใหม่จะคาดผ่านไหล่) ในขณะที่ผู้โดยสารชาวต่างชาติจะมีรูปร่างสูงใหญ่ เมื่อถูกเซฟตี้เบลท์รัดแน่น จึงกู้ศพออกมาได้ยากกว่า  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
cameronDZ
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: 17-09-2007, 16:57 » |
|
สิ่งที่เป็นจุดบกพร่องและน่าตำหนิมาก ๆ ในเหตุการณ์นี้ คือ
ระบบปฏิบัติการป้องกันอุบัติภัยฉุกเฉินของสนามบินภูเก็ต ไม่มีมาตรฐาน หรือ จะพูดว่า "ไม่มี" เลยก็คงได้
เราคงเคยดูในข่าวต่างประเทศ เวลาเครื่องบินลงฉุกเฉิน ยางระเบิด ไฟไหม้ ไถลออกนอกรันเวย์
จะเห็นรถดับเพลิง รถกู้ภัย ของสนามบิน โผล่มาในชั่วพริบตา
แต่ที่ตามข่าว ต้องรอรถดับเพลิง และหน่วยกู้ภัยจากภายนอกถึง 30 นาที กว่าจะมาถึงสนามบิน
ซึ่งมาช้าปานนั้น ก็ช่วยอะไรใครไม่ได้ นอกจากมาฉีดน้ำดับไฟ
คนที่ติดอยู่ข้างใน สำลักควัน ออกมาไม่ได้ โดนไฟคลอกตายไปหมดแล้ว
ส่วนคนที่รอดชีวิตมาได้ ก็เพราะหนีออกมาได้เองแต่แรก ทั้งนั้น
สลดใจ แกมสังเวช ระบบปัองกันอุบัติภัย ของสนามบินเมืองไทย ครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว... |
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: 17-09-2007, 17:06 » |
|
ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด 89 ราย
ขอให้ไปสู้สุคติ...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Tropico
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: 17-09-2007, 17:21 » |
|
เคยนั่ง วันทูโก ไปเชียงใหม่ปีที่แล้ว...แถมเพิ่งจองตั๋วนกแอร์หมาดๆ...เห็นข่าวแล้วใจแป้วเลย ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้สูญเสียชีวิตทุกท่าน ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย เห็นข่าวแล้วมันเศร้า... |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
GN-001 Exia
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: 17-09-2007, 20:02 » |
|
สรุปแล้วเธอเสียชีวิตครับ...
ผมก็ได้แต่เสียใจกับพี่มัน...
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงนะครับ...
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 พวกที่เอาคำว่า "เสรีภาพ" มาบังหน้าเพื่อเบียดเบียนคนอื่นนี่มันเลวที่สุด |
|
|
|
samepong(ยุ่งแฮะ)
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: 17-09-2007, 20:54 » |
|
ไม่มีเวลา เข้าบอร์ดเลย งานยุ่งมาก
วันนี้มีเวลา เมื่อวานก็เกิดเรื่องสะเทือนใจอีก
ขอไว้อาลัยและเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตด้วยนะครับ
ปล."ชีวิตไม่เที่ยง เวลาเป็นเพียงแค่เข็มที่หมุนหลอกเราเท่านั้น วันนี้ยังหายใจ อยากทำดีอะไรก็รีบๆทำนะครับ"
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: 17-09-2007, 20:55 » |
|
สรุปแล้วเธอเสียชีวิตครับ...
ผมก็ได้แต่เสียใจกับพี่มัน...
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงนะครับ...
เสียใจ กับพี่คุณเอี้ยก้วยด้วยครับ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990 |
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: 17-09-2007, 21:03 » |
|
ขนาดเหตุสุดวิสัย ยังทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บมากขนาดนี้
ยังไม่นับเหตุเภทภัยธรรมชาติ
แล้วความขัดแย้งของมนุษย์ ก่อให้เกิดสงครามมันจะฆ่ามนุษย์ด้วยกันเสียแค่ไหน
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990 |
|
|
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: 18-09-2007, 05:44 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: 18-09-2007, 05:46 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: 18-09-2007, 05:47 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: 18-09-2007, 05:48 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: 18-09-2007, 05:49 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: 18-09-2007, 05:52 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #75 เมื่อ: 18-09-2007, 05:53 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #76 เมื่อ: 18-09-2007, 05:54 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #77 เมื่อ: 18-09-2007, 05:55 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #78 เมื่อ: 18-09-2007, 05:56 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #79 เมื่อ: 18-09-2007, 05:57 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #80 เมื่อ: 18-09-2007, 05:58 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
\(^_^)/
|
|
« ตอบ #81 เมื่อ: 18-09-2007, 05:59 » |
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อมพระมาพูด
|
|
« ตอบ #82 เมื่อ: 18-09-2007, 11:09 » |
|
ขอแสดงความเสียใจกับผู้วายชนม์ ทุกท่านครับ ทั่นเท้าหมาฯ หายไป จะอยู่ในเที่ยวบิน OG269 นี้รึเปล่าเนีย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #83 เมื่อ: 19-09-2007, 08:51 » |
|
รดดูการอ่านและวิเคราะห์กล่องดำการบิน ตลอดจนมาตรการของกรขนส่งทางอากาศของไทยที่จะพัฒนาต่อไปครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #84 เมื่อ: 04-10-2007, 16:00 » |
|
ท่านใดมีข้อมูลที่อัพทูเดทกว่านี้ขอด้วยครับส่ง'กล่องดำ'พิสูจน์27ก.ถกโลว์คอสต์ http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=22/Sep/2550&news_id=148549&cat_id=50122 กันยายน 2550 กองบรรณาธิการ "สรรเสริญ" เรียกทุกหน่วยหารือ 27 กันยา.นี้ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน แม้ "โลว์คอสต์" ไทยได้มาตรฐานก็ตาม ส่งกล่องดำไปสหรัฐแล้ว คาดได้ผลสรุปใน 1 สัปดาห์ ให้ "บริษัทประกันภัยสากล" รับหน้าเสื่อจ่ายค่าเสียหาย ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นถ้วนหน้า นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 กันยายน ว่า สัปดาห์หน้าจะนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กรมการขนส่งทางอากาศ บริษัท วิทยุการบิน จำกัด พร้อมทั้งสายการบินต่างๆ เพื่อหารือถึงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยขนส่งทางอากาศทั้งหมดเพื่อยกระดับให้มากขึ้น แม้ปัจจุบันมีมาตรฐานการตรวจสอบอยู่แล้ว และอยู่ในระดับโลก โดยแต่ละครั้งที่จะทำการบินจะตรวจสอบสภาพนักบิน เครื่องบิน หากไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะไม่ให้ทำการบินได้ก็ตาม
นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) กล่าวว่า วันที่ 21 กันยายน 2550 จะให้เจ้าหน้าที่ของกรมนำกล่องดำบันทึกข้อมูลการบินของสายการบินวันทูโกที่ประสบอุบัติเหตุไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อป้องกันการสูญหาย โดยจะนำกล่องดำไปถอดรหัสเทปบันทึกในห้องนักบินเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์
"ทันทีที่ได้ผลการถอดรหัสจะส่งให้คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุอากาศยานในราชอาณาจักรไทย ที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน วิเคราะห์ข้อมูล ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุ ซึ่งไม่ว่าผลสรุปจะออกมาอย่างไร ก็ไม่มีผลต่อการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้ญาติผู้เสียชีวิตที่มีข้อสรุปแล้วว่าจะได้รายละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท" นายชัยศักดิ์กล่าวนายชัยศักดิ์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 27 กันยายน กรมจะหารือร่วมกับ ทอท. บริษัท วิทยุการบินฯ สถาบันการบินพลเรือน และสมาคมนักบินไทย เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยการบิน โดยนำบทเรียนที่เกิดขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานในการทบทวนและสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น แม้ว่ามาตรฐานสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ในไทยยึดมาตรฐานที่สากลยอมรับ และยืนยันว่ามีความปลอดภัยเทียบเท่าสายการบินทั่วไป ส่วนการติดกล้องวงจรปิดในสนามบินทุกแห่งเพื่อบันทึกภาพการขึ้น-ลงของเครื่องบิน เห็นว่าไม่มีความจำเป็น แต่หากต้องการทำเพื่อความสบายใจก็สามารถทำได้ รายงานข่าวจากสายการบินวันทูโก แจ้งถึงความช่วยเหลือและการดูแลรับผิดชอบว่า ได้มอบเงินค่าปลงศพผู้ประสบเหตุเสียชีวิตชาวไทย จำนวน 31 ราย ส่วนกรณีทายาทและหรือผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมายของผู้ประสบเหตุเสียชีวิตไม่สะดวกเดินทางมารับค่าปลงศพด้วยตัวเองจะติดต่อทายาทโดยเร่งด่วน เพื่อส่งมอบเงินค่าปลงศพจำนวนที่เหลือ 5 รายให้ สำหรับการส่งมอบศพผู้เสียชีวิตไปแล้ว จำนวน 51 ราย ซึ่งเป็นชาวไทย 36 ราย และชาวต่างชาติ 15 ราย ส่วนที่ยังไม่สามารถดำเนินการส่งมอบได้นั้น เป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น 38 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ญาติติดต่อ และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลจากเจ้าหน้าที่ เพื่อส่งมอบให้แก่ญาติผู้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตต่อไป ด้านการชดเชยความเสียหาย ได้รับการยืนยันจากบริษัทประกันที่จะรับผิดชอบนั้นมีดังต่อไปนี้ 1.ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดสำหรับผู้ประสบอุบัติที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าที่พักของญาติผู้ประสบเหตุ ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 2.เงินทดรองฉุกเฉินเพื่อใช้จ่ายแก่ผู้ประสบอุบัติเหตุที่รอดชีวิตทุกราย รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บและกำลังรักษาตัวอยู่ ทันที 50,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งได้มอบไปแล้วจำนวน 10 ราย เป็นชาวไทย 5 ราย และชาวต่างชาติ 5 ราย ส่วนที่ยังไม่ได้มอบเป็นชาวไทย 10 ราย ชาวต่างชาติ 21 ราย รายงานข่าวแจ้งว่า ค่าทำขวัญเพื่อชดเชยแก่ผู้รอดชีวิต จะดำเนินการโดยบริษัทที่ปรึกษากฎหมายสากล จำกัด 175 อาคารสาทรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น 18 ถนนสาทรใต้ ทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0-2679-6005 โทรสาร 0-2679-6041 และ 0-2679-6042 ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัยที่มีการแต่งตั้งขึ้นในประเทศไทย ในการสรุปค่าทำขวัญเป็นรายกรณี ส่วนความคืบหน้าการจ่ายค่าสินไหมชดเชยในกรณีของผู้ประสบอุบัติเหตุซึ่งเสียชีวิต เป็นเงิน 150,000 เหรียญสหรัฐต่อราย โดยบริษัทประกันภัยจะแต่งตั้งตัวแทนดำเนินการตามกฎหมายในการชดใช้ค่าสินไหมให้แก่ผู้มีสิทธิรับผลประโยชน์ตามกฎหมายคือ บริษัทที่ปรึกษากฎหมายสากล ด้านบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) ได้มอบเช็คค่าสินไหมทดแทนให้แก่นางจาริณี ธรรมฉันธะ มารดานายธีรยุทร มนูรักษ์ชินากร ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องบินวันทูโก เป็นเงิน 220,000 บาท ตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าอาการผู้บาดเจ็บว่า ผู้ป่วยทุกรายอาการดีขึ้น มีผู้ป่วยนอนรักษาตัว 24 ราย ในโรงพยาบาล 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 1 ราย คือ น.ส.สาวิตรี เดนนี่ อายุ 41 ปี หลังผ่าตัดกระดูกขาที่หักทั้ง 2 ข้าง อาการดีขึ้น ที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 1 ราย คือ นายปริญญวิชญ์ ชูแสง อายุ 23 ปี เหลือผู้ป่วย 6 ราย เป็นคนไทย 4 ราย ต่างชาติ 2 ราย และโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 17 ราย เป็นคนไทย 5 ราย ต่างชาติ 12 ราย และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ เป็นชายชาวอังกฤษ 2 ราย ได้แก่ นายปีเตอร์ เจมส์ ฮิลล์ (Peter James Hill) อายุ 35 ปี และนายอัชลี สก็อต ฮาร์โลว์ (Ashley Scott Harrow) อายุ 27 ปี อยู่ระหว่างรอประสานเรื่องการกลับประเทศ สำหรับอาการของผู้ป่วยหนักที่นอนไอซียูที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 3 ราย ทุกรายอาการดีขึ้น โดย น.ส.อรศิลป์ แสงบุญเรือง อายุ 27 ปี ซึ่งกระดูกต้นขาหักทั้ง 2 ข้าง และผ่าตัดช่องท้องเย็บตับ ตัดม้าม แพทย์ย้ายออกไปดูแลอาการต่อในหอผู้ป่วยสามัญ คงเหลือนอนไอซียู 2 ราย ได้แก่ นายคริสโตเฟอร์ คูลลี (Mr.Chirstopher Cooley) ชาวอังกฤษ ซึ่งได้รับบาดเจ็บมีลมและเลือดคั่งในช่องปอด แพทย์ได้ถอดท่อระบายลมและเลือดจากปอดออกแล้ว หายใจเองได้ พูดคุยได้ดี และนายทิบาวด์ โจเซฟ ลาแมร์ (Mr.Thibaud Joseph Lamere) ชาวฝรั่งเศส สะโพกข้างขวาและขาซ้ายหัก ใส่เครื่องช่วยหายใจ มีภาวะไตวายเฉียบพลัน ยังคงฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมต่อ.
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2007, 16:03 โดย ********Q******** »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #85 เมื่อ: 05-10-2007, 17:02 » |
|
ผมคิดว่า ระบบความปลอดภัยในสนามบินภูเก็ตและอีกบางแห่งในไทย ต้องมีการปรับปรุงครับ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #86 เมื่อ: 05-10-2007, 17:25 » |
|
อุแหม่พูดกันไปได้ หากผมเป็นกัปตันอ่ะ ผมก็คงไม่บินเสี่ยงลงนะคร้าบบ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #87 เมื่อ: 05-10-2007, 17:32 » |
|
อุแหม่พูดกันไปได้ หากผมเป็นกัปตันอ่ะ ผมก็คงไม่บินเสี่ยงลงนะคร้าบบ กัปตันทราบข้อมูลดีอยู่แล้วครับ ไม่ต้องกังวลในประเด็นกัปตันเข้าใจคลาดเคลือน..เกี่ยวกับสนามบิน..หรอกครับ.. |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #88 เมื่อ: 06-10-2007, 01:34 » |
|
คือ ผมว่าช่วงฤดูมรสุม ผู้โดยสารเลี่ยงๆสนามบินที่ไม่ค่อยลงทุนและเข้มงวดสม่ำเสมอด้านความปลอดภัย..
ก็จะลดความเสี่ยงของตนเองได้มาก ด้วยความปรารถนาดีครับ..
นี่ก็รอดูแถลงผลเกี่ยวกับการวิเคราะห์กล่องดำของเครื่องบินที่ชนล่าสุด
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2007, 01:37 โดย ********Q******** »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #89 เมื่อ: 18-10-2007, 12:43 » |
|
ผลตรวจสอบกล่องดำชี้'วินด์เชียร์'สาเหตุวันทูโกบึ้ม http://news.buddyjob.com/crime/show_news-7771-4.htmlเบื้องต้นคณะอนุกรรมการด้านเทคนิคได้ข้อสรุปว่า เกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้เกิดลมเฉือน นักบินตัดสินใจดึงคันเร่งเพื่อบังคับให้เครื่องบินเชิดหัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่ล้อจะสัมผัสพื้นผิวรันเวย์ แต่ด้วยความแรงของลมทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัวจนลื่นไถลออกนอกรันเวย์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินวันทูโกตกที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งมีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน จะสรุปสาเหตุเบื้องต้นของเครื่องบินวันทูโกตก หลังจากสหรัฐส่งผลการตรวจสอบกล่องดำและถอดเทปบันทึกเสียงระหว่างนักบินและหอบังคับการบิน 'เบื้องต้นคณะอนุกรรมการด้านเทคนิคพิจารณาข้อมูลและสภาพแวดล้อมได้ข้อสรุปว่า การเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้เกิดลมเฉือน หรือวินด์เชียร์ พัดขวางรันเวย์ 2 ที่สนามบินภูเก็ต จากข้อมูลในเทปบันทึกเสียงพบว่า นักบินพยายามนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินภูเก็ต แต่ด้วยความเร็วของลมเบื้องต้นอยู่ที่ 40 น็อต ถือว่าเป็นแรงลมที่แรงมากทำให้นักบินตัดสินใจดึงคันเร่งเพื่อบังคับให้เครื่องบินเชิดหัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่ล้อจะสัมผัสพื้นผิวรันเวย์ แต่ด้วยความแรงของลมทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัวจนลื่นไถลออกนอกรันเวย์และพุ่งไปบนเนินดินทำให้ไฟลุกไหม้จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 90 ราย' แหล่งข่าวกล่าว แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยังถือเป็นการสรุปเบื้องต้นเท่านั้น ทางคณะกรรมการตรวจสอบฯจะต้องตรวจสอบรายละเอียดในเชิงลึกต่อไปอีก เพื่อหาแนวทางวางมาตรการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของลมที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก ซึ่งคณะกรรมการจะต้องดูว่าจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอีกหรือไม่ นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า ผลกล่องดำมาถึงเมืองไทยแล้ว ส่วนการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงต้องมีหลายปัจจัย ยอมรับว่าวินด์เชียร์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ต้องดูปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่นด้วย ข้อมูลจาก มติชน  ขอเสนอว่า ควรปรับปรุงสนามบินภูเก้ตให้ป้องกันลมได้ดีกว่านี้ครับ มิฉะนั้นก็ต้องมีการเตือนลักษณะอากาศที่ดีกว่านี้สำหรับหอบังคับการบิน
เครืองบินที่จะลงสนามบินดังกล่าว ควรมีการตรวจสภาพยางและพื้นรันเวย์สนามบินภูเก็ตมากหน่อยด้วย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #90 เมื่อ: 18-10-2007, 12:48 » |
|
เกี่ยวกับกล่องดำ... กล่องดำ ทำจากอะไร ทำไมถึงได้ทนทานนัก http://www.expert2you.com/view_article.php?cat_sel=110000&art_id=1938 โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2547 10:16 น. ที่เรียกๆ กันว่ากล่องดำ แท้จริงแล้วเป็นกล่องส้ม เพื่อให้มองเห็นง่ายเวลาค้นหายามเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ เอ็มเทค - ความลึกลับของกล่องดำที่ทุกคนอยากจะรู้นั้น ก็คือข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ภายในกล่องเสียมากกว่า เพราะจริงๆ แล้ว 'กล่องดำ' นั้น มีสีส้มสดใสและสะท้อนแสงเด่นสะดุดตา เพื่อให้หน่วยกู้ภัยสามารถค้นหาได้ง่ายยิ่งขึ้นในกองซากเครื่องบิน กล่องดำ (black box) บรรจุอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการลำดับเหตุการณ์ของอุบัติเหตุทางการบิน มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ "Flight Data Recorder (FDR)" เป็นแบบที่บันทึกรูปแบบการบินในขณะทำการบินเป็นค่าของตัวแปรต่างๆ เช่น เพดานบิน ความเร็ว ความเร็วลม เป็นต้น และ "Cockpit Voice Recorder (CVR)" เป็นแบบที่บันทึกเสียงและสัญญาณวิทยุภายในห้องนักบิน เช่น เสียงสนทนาของนักบิน เสียงสัญญาณเตือนภัย เสียงเครื่องยนต์ เป็นต้น อุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งบนเครื่องบิน โดยกล่องดำจะอยู่ส่วนปลายของเครื่อง กล่องดำทั้ง 2 แบบจะมีเครื่องระบุตำแหน่งเพื่อการค้นหาใต้น้ำ เรียกว่า "Underwater Locator Beacon (ULB)" อยู่ด้วย เพื่อใช้สำหรับในกรณีที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุเหนือน้ำ และตกลงไปในน้ำ อุปกรณ์ที่เรียกว่า "pinger" จะส่งคลื่นเสียงความถี่ 37.5 กิโลเฮิรตซ์ เพื่อแจ้งตำแหน่งไปยังอุปกรณ์ค้นหาสัญญาณที่เรียกว่า "Pinger Locator System (PLS)" อุปกรณ์นี้สามารถส่งสัญญาณได้จากความลึกมากถึง 14,000 ฟุตและส่งสัญญาณได้นานถึง 30 วันเลยทีเดียว กล่องดำรอดจากอุบัติเหตุมาได้อย่างไรนั้นต้องยกนิ้วให้ "Crash-Survivable Memory Units (CSMUs)" ซึ่งห่อหุ้มอุปกรณ์บันทึกข้อมูล FDR และ CVR ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม มีความทนทานต่อความร้อนสูง ทนการกระแทกอย่างรุนแรง และทนต่อแรงกดดันได้มหาศาล ในสภาวะที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุตกกระแทกพื้นหรือการระเบิด ไม่ว่าเครื่องบินจะบุบสลายบู้บี้แค่ไหน แต่กล่องดำ (ส้ม) ก็ยังอยู่ได้สบายใจ โครงสร้างของกล่อง CSMUs ประกอบด้วยวัสดุ 3 ชั้น คือชั้นในสุดทำจากแผ่นอลูมิเนียมบางๆ ห่อหุ้มอุปกรณ์บันทึกข้อมูล (memory cards) ไว้ ชั้นที่สองเป็นฉนวนที่ทนอุณหภูมิสูงมากทำจากซิลิกา มีความหนาประมาณ 1 นิ้ว ช่วยป้องกันความร้อนจากไฟไหม้หลังจากเกิดอุบัติเหตุ และชั้นที่สามทำด้วยเหล็กกล้าไร้สนิมทนความร้อนสูง มีความหนา 0.25 นิ้ว ซึ่งบางบริษัทผู้ผลิตได้ใช้วัสดุไททาเนียมแทนก็มี CSMUs ต้องได้รับการทดสอบหลายขั้นตอนตามมาตรฐานก่อนที่จะถูกนำมาติดตั้งไว้ที่บริเวณหางของเครื่องบิน เช่น ทดสอบการยิงและการกระแทก (Crash impact) ทดสอบการทะลุทะลวง (Pin drop) ทดสอบการทนไฟ (Fire test) ทดสอบความกดดันใต้ทะเลลึก (Deep-sea submersion) ทดสอบความทนทานในระยะเวลานานๆ ในสภาพน้ำเค็มจัด (Salt-water submersion) ทดสอบการทนต่อสารเหลว เช่น น้ำมัน สารหล่อลื่นเครื่องยนต์ สารเคมีดับเพลิง เป็นต้น เรื่อง กล่องดำ การทำงาน http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=34733จาก รู้ไปหมด ศูนย์นิรภัยการบิน กรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศเปิดเผยว่า แท้ที่จริงแล้วกล่องที่ว่านี้มีอยู่หลายสี ไม่เฉพาะสีดำ สีที่เห็นกันบ่อยคือสีส้ม แต่ไม่นิยมเรียกว่ากล่องส้ม จะรวมๆเรียกกันว่า กล่องดำ กล่องดำทำจากโลหะพิเศษที่ทนทาน ทนแรงกระแทกอย่างรุนแรง ทนน้ำทนไฟ เวลาที่เครื่องบินตกและเกิดระเบิดอย่างรุนแรง กล่องดำมักจะไม่ได้รับความเสียหาย ตำแหน่งที่ติดตั้งจะอยู่ส่วนหางของเครื่องบิน เพราะเป็นบริเวณที่แข็งแรง และเมื่อเครื่องบินตก ส่วนหางจะได้ผลกระทบกระเทือนน้อยที่สุด ภายในกล่องดำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นแถบบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการบิน พิกัด ความเร็ว ระดับความสูง การเร่งผ่อนคันบิดปิดเปิดน้ำมัน แรงขับของเครื่อง และตำแหน่งของ แฟลบปีก เป็นต้น ส่วนที่สองเป็นแถบบันทึกเสียงการสนทนาภายในห้องนักบิน การติดต่อระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน รวมทั้งเสียงของลูกเรือที่เข้ามาในห้องนักบิน กล่องดำจะบันทึกเหตุการณ์ทุกอย่าง โดยจะเริ่มบันทึกตั้งแต่นักบินติดเครื่องไปจนถึงดับเครื่อง สมมติว่าเครื่องบินบินจากกรุงเทพฯไปลอนดอนต้องใช้ระยะเวลาเดินทาง 12 ชั่วโมง กล่องดำก็จะบันทึกข้อความตลอด 12 ชั่วโมง แต่หากมีอุบัติเหตุขึ้นข้อความที่สำคัญที่สุดจะอยู่ในช่วง 30 วินาทีสุดท้าย ซึ่งส่วนใหญ่นักบินจะมาทราบว่ามีอะไรผิดพลาดก็ตอนที่เครื่องใกล้ๆจะตก ซึ่งผู้ตรวจสอบจะเอากล่องดำทั้ง 2 กล่อง คือ กล่องบันทึกข้อมูลระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินและกับลูกเรือ ส่วนอีกกล่องคือส่วนที่บันทึกข้อมูลตัวเลขการบินต่างๆไปตรวจสอบประกอบกัน จึงเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญแหล่งหนึ่งที่จะบ่งชี้ถึงสาเหตุอับปางของเครื่องบินได้ เมื่อพบกล่องดำแล้ว จะถูกส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ หน่วยงานที่ได้รับการยอมรับคือ สถาบันเอ็นทีเอสบี ของสหรัฐอเมริกา การพิสูจน์และไขปริศนากล่องดำนี้จะกินเวลานานและเป็นความลับ ข้อมูลที่เคยตอบไปแล้ว ผมได้ดูข่าวต่างประเทศ เครื่องบินตกทะเลหรือมหาสมุทร จะเห็นเจ้าหน้าที่ต้องหากล่องดำของเครื่องบินแล้วใส่ถุงที่มีน้ำอยู่ด้วย เพื่ออะไรครับ-ป่าแก่ เบตง ตอบ- กล่องดำ เรียกอย่างเป็นทางการว่า เครื่องบันทึกเสียงของนักบิน The Cockpit Voice Recorder(CVR) และข้อมูลการเบิน Flight Data Recorder(FDR) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่บันทึกเหตุการณ์สุดท้ายของอุบัติเหตุทางเครื่องบินในแต่ลเเที่ยวบินเอาไว้ เริ่มคิดค้นกันช่วงทศวรรษ 1950 ช่วงปี พ.ศ. 2521-2539 กล่องดำบันทึกอุบัติเหตุทางกอากาศมากกว่า 28 เหตุการณ์ ที่ดังมากๆได้แก่ เครื่องบินวาลูเจ็ตโหม่างโลก เมื่อปี 2539 หรือเมื่อเร็วๆนี้ ช่วงที่เครื่องบินการเบินไทยตก เราจะได้ยินคำว่ากล่องดำบ่อยๆกล่องดำจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพิสูจน์สาเหตุการตก บางครั้งจะพบว่า เกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรม การชนกับฝูงห่าน การขัดข้องของเครื่องยนต์ ส่วนที่เป็นข้อมูลการบินหรือ FDR จะบันทึกอัตราความเร็ว ความกดอากาศ ระบายความสูงที่บิน อัตราความเร็วของเครื่องยนต์ อุณหภูมิ ตำแหน่งของการควบคุม และสถานะฉุกเฉิน เวลา การเร่งความเร็ว ฯลฯ ได้นาน 200 ชั่วโมงบิน ส่วน CVR จะบันทึกเสียงนักบินและนักบินผู้ช่วย การประกาศต่อผู้โดยสาร เสียงเครื่องยนต์ การสื่อสารระหว่างเครื่องบินกับสถานีภาคพื้นดิน สภาพอากาศ การเพิ่มหรือลดเกียรต์ลงจอด ฯลฯ ได้นาน 30 นาทีสุดท้าย กล่องดำเป็นกล่องที่จะทนความร้อนสูงมาก ถ้าเจอความร้อนถึง 1,100 องศา มันจะอยู่ได้นาน 30 นาที ถ้าเจอประมาณ 260 องศา จะทนได้นาน 10 ชั่วโมง ตัวกล่องดำจะไม่ได้สีดำอย่างชื่อ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะสีแสดพาดเส้นขาวสะท้อนแสง เพื่อช่วยให้การค้นหาด้วยตาง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะกันค้นหาด้วยสัญญาณวิทยุระบบอุลตรา โซนิค ซึ่งจะกระตุ้นให้ติดต่อถึงกันด้วยน้ำ ปกติแล้วจะส่งสัญญาณวิทยุค้นหาด้วยความถี่ 37.5 กิโลเฮิรตซ์ ได้ประมาณ 30 วัน ในระยะทาง 2 ไมล์ และมากกว่าความลึก 4 หมื่นฟุต การที่เจ้าหน้าที่ค้นหาไปเก็บกล่องดำมาได้และบรรจุใส่ถุงที่มีน้ำอยู่ด้วย ทางกรมพาณิชย์การบินให้เหตุผลว่า ก็เพื่อรักษาสภาพกล่องดำกรณีที่กล่องแช่อยู่ในทะเลหรือแหล่งน้ำ ถ้าตกลนบกก็ไม่จำเป็นต้องใช้ _________________ ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #92 เมื่อ: 23-10-2007, 15:29 » |
|
เรื่องความปลอดภัย ควรเป็นนดยบายเชิงรุกของทุกรัฐบาลครับ
รัฐบาลที่แล้วเห็น จาตุรนต์ พยายามลดอุบัติเหตุ
ก็ต้องพยายามมองให้กว้างๆครอบคลุม แล้วแก้ปัญหาให้แม่นๆ
สถิติช่วยได้ครับ เข็คทุกหัวข้อที่เป็นไปได้..
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #93 เมื่อ: 04-01-2008, 02:24 » |
|
ไม่ทราบรวมของเราด้วยหรือเปล่า?ปีหมูสุดเซฟ บินตกน้อยสุด กว่า4ทศวรรษ http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=212318เจนีวา (รอยเตอร์ส) ปี 2550 เหินฟ้าปลอดภัย อุบัติเหตุทำสถิติต่ำสุดในรอบหลายปี สำนักงานสถิติอุบัติเหตุทางอากาศยาน (เอโคร) ระบุว่า ปี 2550 ถือเป็นปีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการคมนาคมทางอากาศในรอบกว่า 4 ทศวรรษ เนื่องจากทั่วโลกเกิดอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงเพียง 136 ครั้งเท่านั้น เอโคร ซึ่งเป็นหน่วยงานบันทึกรายละเอียดของหายนภัยทางอากาศทั่วโลก ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 965 คน จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินที่มีขนาดผู้โดยสาร 6 คน รวมลูกเรือ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าปี 2549 ถึง 25% และต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2547
สำหรับอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรง 136 ครั้งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2506 ซึ่งทำให้ปี 2550 เป็นปีที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในรอบกึ่งศตวรรษของการบินพลเรือนทั้งนี้ อุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดเมื่อปีที่แล้ว เกิดขึ้นกับสายการบิน ทีเอเอ็ม ที่เมืองเซาเปาโลของบราซิล ตามมาด้วยสายการบิน เคนยา แอร์เวย์ส และสายการบินอดัม แอร์ ตกที่เมืองอูจุง ปันดัง เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ส่วนประเทศที่เกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินมากที่สุดคือสหรัฐ จำนวน 10 ครั้ง
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #94 เมื่อ: 04-01-2008, 19:19 » |
|
ตกลง ปีนี้อุบัติเหตุช่วงปีใหม่ของไทยเรา ประมาณ 401 คน
ลดลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อนเล็กน้อย.. 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
|
« ตอบ #95 เมื่อ: 04-01-2008, 19:56 » |
|
โอ้โฮ พี่คิวนี่ช่างขุดจริงๆ ผมนึกว่าเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุใหม่ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #96 เมื่อ: 04-01-2008, 20:19 » |
|
โอ้โฮ พี่คิวนี่ช่างขุดจริงๆ ผมนึกว่าเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุใหม่ เพิ่งสี่เดือนเอง..คนตายตั้งเยอะเทียบกับสถิติทั่วโลก
ความเห็นส่วนตัวผมว่า สนามบินภูเก็ตควรปรับปรุงป้องกันลมครับ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
