ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 14:48
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
วิจารณ์แซด! “นิธิ” หย่าเมีย-แยกเรือนอยู่กินกับผู้หญิงคนใหม่  (อ่าน 13171 ครั้ง)
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« เมื่อ: 13-09-2007, 03:20 »

“นิธิ” ตัดสินใจหย่าภรรยาที่อยู่กินกันมานานแล้ว แยกเรือนมาร่วมเรียงเคียงหมอนกับผู้หญิงคนใหม่ที่เป็นนักวิชาการอิสระในมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนด้วยกัน โดยฝ่ายหญิงก็ได้แยกทางกับสามีเก่ามาเช่นเดียวกัน ขณะที่ในแวดวงวิชาการ คนรู้จักรู้ข่าวต่างช็อก-วิจารณ์กันแซด หวั่นกระทบภาพลักษณ์
       
       วันนี้ (12 ก.ย.) หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้รายงานข่าวว่า นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ และผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้ตัดสินใจหย่าขาดกับภรรยาที่อยู่กินกันมานาน โดยแยกมาเช่าบ้านและใช้ชีวิตคู่ร่วมกับนางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนด้วยกัน
       
       หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้อ้างแหล่งข่าวจากวงวิชาการระบุว่า อาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจะนัดประชุมกันในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับทิศทางของมหาวิทยาลัยหลังจากนายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระและผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้ตัดสินใจเปลี่ยนคู่ชีวิต
       
       แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทราบข่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า นายนิธิ นักวิชาการชื่อดัง และแกนนำในการโหวตโนรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้แยกทางกับภรรยาและตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับนางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ นักวิชาการอิสระ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
       
       แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า ช่วงแรกทราบแต่เพียงว่านายนิธิได้แยกบ้านอยู่กับภรรยาและไปเช่าบ้านฉันสามีภรรยากับนางสุชาดา แต่ไม่มีพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ
       
       “พวกเรารับทราบกันเมื่อวันที่ 5 ก.ย.นี้ในแวดวงเพื่อนฝูง โดยคุณสุชาดาได้เป็นผู้แจ้งให้ทราบว่าได้จดทะเบียนหย่ากับสามีแล้วเช่นกัน และอาจารย์นิธิได้แยกทางกับภรรยาแล้ว” แหล่งข่าวเปิดเผย
       
       อย่างไรก็ตาม ทันทีที่นางสุชาดาได้แจ้งเรื่องนี้ ทีมอาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนรู้สึกช็อกและหวั่นเกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์หรือการดำเนินการงานมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนหรือไม่
       
       “ทุกคนอยากให้มหาวิทยาลัยนี้อยู่ต่อ หลายคนบอกเรื่องนี้กระทบแน่ ถึงแม้นักวิชาการเข้าใจการตัดสินใจในครั้งนี้ เพราะอาจารย์เป็นผู้ดึงดูดคนมาเข้าเว็บมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน” แหล่งข่าวเปิดเผย
       
       ด้าน นางสุชาดา ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่ถือเป็นเรื่องส่วนตัวเพราะได้ทำความเข้าใจกับสามีเก่าและหย่าร้างเป็นทางการเพื่อเลือกที่จะมีชีวิตส่วนตัวใหม่ ซึ่งก็เหมือนกับชีวิตคนอื่นๆ ในประเทศนี้
       
       “ดิฉันเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานในมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เพราะถึงแม้จะเลือกชีวิตคู่ใหม่ก็ไม่ได้ทำให้เสียงาน ไม่ทำให้เสียความน่าเชื่อถือต่อสังคม เพราะยังทำหน้าที่ที่ดีต่อตัวเอง ต่อสังคม ต่อเพื่อนฝูงได้เหมือนเดิม ที่ผ่านมาอาจารย์นิธิและพี่ก็ไม่ได้ตั้งตัวเป็นเจ้าแห่งกฎศีลธรรม หรือเป็นเรื่องความรู้คู่คุณธรรม เพราะว่าในชีวิตจริงทุกคนก็ควรมีสิทธิ์เลือกชีวิตคู่ของตัวเอง” นางสุชาดา กล่าว
       
       มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการสัมมนาเรื่องมหกรรมชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวานนี้(11 ก.ย.)ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้กันมาก โดยเฉพาะในเรื่องของภาพลักษณ์
       
       ทั้งนี้ นายนิธิถือว่าเป็นนักวิชาการที่ถือว่าเป็นที่รู้จักในแวดวงวิชาการค่อนข้างสูง และที่ผ่านมาได้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 สอดรับกับเครือข่ายคนรักทักษิณอย่างแข็งขัน
       
   โสนว์เฟกออกหัก
       
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 13-09-2007, 09:32 »

อ.นิธิ  ทำให้ดูแล้วนะคะ




จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป เดี๋ยวคนข้างล่างได้ยิน




ฮึ่ม  คิดจะเอาอย่างเค้าเรอะ



บันทึกการเข้า
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 13-09-2007, 11:48 »

เสรีประชาธิปไตย  จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #3 เมื่อ: 13-09-2007, 11:58 »

อ้าว มาแย่งเรตติ้งผมซะแระ คุณ room5   

คุณชมพู ... รูปบนสุดนี่ อึ๋ยยยย   
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 13-09-2007, 12:00 »

เรื่องปกตินะผมว่า ถ้าเคลียร์ครอบครัวตัวเองได้

ผู้หญิงก็ระดับ ดร. ด้วยกัน ไม่เห็นจะอะไรนักหนา

เปิดเผยดีกว่าทำลับ ๆ ล่อ ๆ พวกปิด ๆ บัง ๆ สร้างภาพเยอะนะจะบอกให้
บันทึกการเข้า

An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 13-09-2007, 13:45 »

มันก็เค่เรื่องส่วนตัว..

แต่ผมก็สงสัยว่าเหตุไรทางผู้จัดการถึงหยิบเรื่องนี้มาเล่น..(ขนาดเป็นข่าวเเนะนำ..)

เพราะเมื่อวานผมก็เเวบเข้าไปที่ผู้จัดการมาซึ่งตอนเเรกผมก็นึกว่าเป็นดาราที่ชื่อว่านิธิซะอีก..


และที่พูดแบบนี้ก็มิใช้ว่าอยากจะทำให้ตนเองเป็นคนดีอะไร..

แต่ผมก็คิดว่าคนเราคิดจะเล่นเรื่องอะไรมันต้องรู้จักลิมิตเเละขอบเขตกันมั่ง..

ก็แค่นั้นเอง..
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #6 เมื่อ: 13-09-2007, 14:05 »

เรื่องส่วนตัวอาจารย์เขานะ
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Kittinunn
Aloha007
Global Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,127


ไปได้สวย...ด้วยเกียร์ต่ำ!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 13-09-2007, 14:38 »

มันก็เค่เรื่องส่วนตัว..

แต่ผมก็สงสัยว่าเหตุไรทางผู้จัดการถึงหยิบเรื่องนี้มาเล่น..(ขนาดเป็นข่าวเเนะนำ..)

เพราะเมื่อวานผมก็เเวบเข้าไปที่ผู้จัดการมาซึ่งตอนเเรกผมก็นึกว่าเป็นดาราที่ชื่อว่านิธิซะอีก..


และที่พูดแบบนี้ก็มิใช้ว่าอยากจะทำให้ตนเองเป็นคนดีอะไร..

แต่ผมก็คิดว่าคนเราคิดจะเล่นเรื่องอะไรมันต้องรู้จักลิมิตเเละขอบเขตกันมั่ง..

ก็แค่นั้นเอง..

ตำหนิโพสต์ทูเดย์เถอะ คนต้นเรื่อง ผู้จัดการแค่นำมาเผยแพร่ต่อ
บันทึกการเข้า

“ผมเขียนไปในบล็อกนั้น แบบข้างบนนี้เหมือนกัน นึกว่า จะโพสต์ ปรากฏว่า เขาบอกว่า ต้อง สมัครสมาชิกก่อน ผมขี้เกียจ เลยมาโพสต์ที่นี่แทน อ้อ ตอนเขียน ผมใส่คำว่า ทุเรศ และ น่าสมเพช ไปด้วย” (อ.สมศักดิ์ เจียมธีระสกุล-เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน - ข้อความในเสรีไทย โดย Snowflake)

ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 13-09-2007, 14:46 »

ผมไม่ชอบเล่นเรื่องส่วนตัวใครนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเหมือนพวกสาวกไอ้เหลี่ยมที่เล่นเรื่องจดทะเบียนสมรสซ้อน

เคยด่าพวกมันเอาไว้ เดี๋ยวเข้าตัว อิอิ 

ขอเล็กๆ ใหญ่ๆลุยดีกว่าครับ แหะๆ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 13-09-2007, 19:14 »

ตำหนิโพสต์ทูเดย์เถอะ คนต้นเรื่อง ผู้จัดการแค่นำมาเผยแพร่ต่อ


ก่อนอื่น..ผมก็ต้องขอโทษที่เข้าใจผิดว่าต้นต่อข่าวนี้มาจากผู้จัดการ..เพราะเเค่เห็นชื่อของคนเป็นข่าวเเละลักษณะืข่าวผมก็ไม่อยากจะอ่านแล้้ว..

เพราะผมก็คิดว่าถ้าประเด็นส่วนตัวที่มันทำให้ประเทศชาติเสียหายผมก็ว่าสมควรจะเอามาเเฉ..ผมสนับสนุน..


แต่ประเด็นส่วนตัวแบบนี้มันเกินไป..และคนอย่างอ.นิธิแกก็มิใช้คนที่เลวอะไรมากมาย..เพราะถึงหลายๆกรณีผมจะเห็นไม่ตรงกะแก..แต่ก็อย่างว่่าแกก็ไม่ได้เลวอะไรมากมาย..จนขนาดต้องเล่นกันขนาดนี้..

และต่อให้แกจะเลว..ตามความคิดใครก็ตาม..ผมก็ยังคิดว่าถึงกระนั้นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่..ที่ต่อให้แกจะหย่าซักพันครั้งประเทศชาติก็คงจะไม่เสียหายอะไรใช้รึไม่ครับ..
 
 
และถ้าถามว่า โพสต์ทูเดย์  สมควรไหมผมก็ว่าไ่ม่ควร.. 


แต่การที่ผู้จัดการเอามาเล่นต่อผมก็คิดว่าไม่สมควรอีกเช่นกัน..
 
บันทึกการเข้า
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #10 เมื่อ: 13-09-2007, 19:53 »

ถ้าหย่ากันแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรนี่ครับ

แต่ถ้าทางฝั่ง อ.นิธิ ยังแค่แยกกันอยู่ไม่ได้จดทะเบียนหย่าเป็นเรื่องเป็นราว ...อันนี้ก็อาจทำให้เกิดข้อครหาจากสังคมได้เป็นธรรมดา

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #11 เมื่อ: 13-09-2007, 20:06 »

ผมไม่ทราบว่า นิธิ มันเป็นใคร

ผมพอจะทราบ ตอนเรื่องดีเบต เรื่องประชามติ รัฐธรรมนูญ 2550


ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน


ผมก็เลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ต้องไปลง ประชามติ ให้จงได้

ชีวิตใคร ชีวิตมัน พวกกิ๊ก ชู้ ก็แล้วแต่ ชีวิตใครชีวิตมัน มันจะทิ้งใคร ผมไม่สนใจด้วยซ้ำไป ครับ

ผมขอตอบอีกสักทีน่ะครับ เพื่อน ๆ คงไม่ว่า
บันทึกการเข้า
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #12 เมื่อ: 13-09-2007, 22:05 »

เรื่องปกตินะผมว่า ถ้าเคลียร์ครอบครัวตัวเองได้

ผู้หญิงก็ระดับ ดร. ด้วยกัน ไม่เห็นจะอะไรนักหนา

เปิดเผยดีกว่าทำลับ ๆ ล่อ ๆ พวกปิด ๆ บัง ๆ สร้างภาพเยอะนะจะบอกให้


ขอสนับสนุนความคิดลุงแคนค่ะ
บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 14-09-2007, 03:43 »

 

เรื่องนี้จะกระทบถึงเสถียรภาพของหลายฝ่าย

โดยเฉพาะทีมงานมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนครับ

ในทางความคิดทางการเมืองติดตามตรวจสอบกันต่อไป


ส่วนพวกที่ชอบเอาบทความของนิธิมาอ้าง ต้องขอให้ติดตามเป็นพิเศษครับ ว่าจะนำมาอ้างอิงได้มากน้อยเพียงไร?
บันทึกการเข้า

สหายนำชัย
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #14 เมื่อ: 14-09-2007, 06:38 »

ผมไม่ทราบว่า นิธิ มันเป็นใคร

ผมพอจะทราบ ตอนเรื่องดีเบต เรื่องประชามติ รัฐธรรมนูญ 2550


ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน


ผมก็เลยมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ต้องไปลง ประชามติ ให้จงได้

ชีวิตใคร ชีวิตมัน พวกกิ๊ก ชู้ ก็แล้วแต่ ชีวิตใครชีวิตมัน มันจะทิ้งใคร ผมไม่สนใจด้วยซ้ำไป ครับ

ผมขอตอบอีกสักทีน่ะครับ เพื่อน ๆ คงไม่ว่า

ผมสมเพชความคิดคุณจริง ๆ โดยเฉพาะข้อที่ว่า *** ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน***

อาจารย์นิธิมีจุดยืนที่แน่วแน่ผิดคือผิดถูกคือถูกไม่เลือกข้างไม่เลือกฝ่าย กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการตั้งแต่เริ่มปฏิวัติ กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดในประชาธิปไตยเชื่อมั่นในอำนาจแห่งปวงชน กลุ่ม ม.เที่ยงคืนไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับทักษิณหรือก๊วนการเมืองของใครคนใดคนหนึ่ง พวกเขาทำอย่างสุจริตใจ พวกเขาทำในสิ่งที่ที่ถูกต้อง พวกเขาทำในสิ่งที่ควรค่าแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง

ผมว่าคุณต่างหากที่ ไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง

ด้วยความไม่เคารพ
ส.นำชัย
บันทึกการเข้า

เพราะ...

   ผมเชื่อมั่นในความเป็นคน
   ผมเชื่อมั่นในอำนาจและการตัดสินใจของประชาชน
   ผมเชื่อมั่นในสิทธิเสรีภาพทางความคิดและการกระทำ อันหลากหลาย 
 
เหตุนี้.... ผมจึงเชื่อมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
   
...นิรนาม...
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #15 เมื่อ: 14-09-2007, 12:14 »

ผมสมเพชความคิดคุณจริง ๆ โดยเฉพาะข้อที่ว่า *** ผมว่าความเห็นเค้าไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง และไม่เชื่อมัน***

อาจารย์นิธิมีจุดยืนที่แน่วแน่ผิดคือผิดถูกคือถูกไม่เลือกข้างไม่เลือกฝ่าย กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการตั้งแต่เริ่มปฏิวัติ กลุ่ม ม.เที่ยงคืนยืนหยัดในประชาธิปไตยเชื่อมั่นในอำนาจแห่งปวงชน กลุ่ม ม.เที่ยงคืนไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับทักษิณหรือก๊วนการเมืองของใครคนใดคนหนึ่ง พวกเขาทำอย่างสุจริตใจ พวกเขาทำในสิ่งที่ที่ถูกต้อง พวกเขาทำในสิ่งที่ควรค่าแก่การสรรเสริญอย่างยิ่ง

ผมว่าคุณต่างหากที่ ไม่เอาอ่าว ไม่เอาความ ไม่ได้เรื่อง

ด้วยความไม่เคารพ
ส.นำชัย


555
ล็อกอินเฉพาะกิจ โผล่มาแก้ตัวแทนเลยแฮะ
ยืนอยู่บนหอคอยเนี่ยนะ เข้าใจรากหญ้าด้วยหรือ
ช่วยชาวบ้านหรือสนองตัณหาตัวเองกันแน่
ผิดคือผิด สุจริตใจ จริงเร้ออออออออออออ
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #16 เมื่อ: 14-09-2007, 12:27 »

วันหลังอนาจะตอบแบบพี่โซโก้ บ้างดีกว่า เราได้สมาชิกเพิ่มมาตั้งหนึ่งคนแนะ 

บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
เพื่อนร่วมชาติ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 777


« ตอบ #17 เมื่อ: 14-09-2007, 14:00 »

ความรู้สึกของผมต่ออาจารย์นิธิในเวลานี้ก็คือ

เขียนเรื่องประวัติศาสตร์ต่อไปเถอะครับ

อย่ามาเขียนเรื่องการเมืองเลย

ทัศนะของอาจารย์ช่วงต่อต้านรัฐธรรมนูญนี่มันช่างเข้ารกเข้าพงจริง ๆ
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 14-09-2007, 14:38 »

ไม่กี่วัน อ. แกก็จะไปสัมนา

คอยดูคำตอบของแก กับนักข่าวแล้วกัน

 Cool
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #19 เมื่อ: 14-09-2007, 14:45 »

ไม่อยากว่าแกครับ

เพราะว่าบทความกับหนังสือของอาจารย์ ทำผมได้ A หลายวิชาแล้วครับ 
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 14-09-2007, 16:32 »

ผมคิดว่า ควรจะดีใจกับ อ.นิธิ และดร.หญิง คนนั้นมากกว่านะครับ

เรื่อง ความรัก ครอบครัว หากไม่ได้อื้อฉาวหรือเป็นชู้ชาวบ้าน ผมไม่เห็นผิดตรงใหน

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา ๆ ของสังคมทั่วไป ถ้าเป็นแวดวงไฮโซ ก็เป็นข่าวซุบซิบวันเดียวก็จบ

คนสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วก็เลิกกัน ไม่ใช่เรื่องที่สังคมต้องกังวล

เว้นแต่ผู้นั้นต้องเป็น "ผู้นำประเทศ" หรือ นักการเมืองผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย

ผมเคยเห็นคนแก่ ๆ ที่หมดภาระส่งเสียลูกหลานจนตั้งตัวได้แล้ว

ก็กลับไปหาแฟนเก่า สมัยวัยหวานเยอะแยะไป...

แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ทำร้ายฝ่ายที่ถูกทิ้งไป ..ต้องเคลียร์ให้ได้อย่างจริงใจทั้งสองฝ่ายนะ


 

บันทึกการเข้า

ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #21 เมื่อ: 14-09-2007, 20:44 »


เรื่องส่วนตัว
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 14-09-2007, 23:08 »



เอาใจช่วยทีมงานมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทำหน้าที่เชิงวิชาการต่อไป..

แต่ในด้านวิจารณญาณทางการเมืองและสังคม หากนิธิยังมีบทบาท ก็ขอลดอันดับความน่าเชื่อถือครับ..

เพราะท่านมัวแต่ตั้งข้อสงสัยสังคม จนลืมสงสัยตัวเอง

ต้านเผด็จการ ทุกคนพูดได้เหมือนกัน..แต่ทุกอย่างต้องชัดเจนครับ


ขอให้ดูแลครอบครัวใหม่ให้ดีอย่าให้มีปัญหาแตกร้าวได้อีกครับ..สิทธิ์ย่อมมาควบคู่กับความรับผิดชอบเสนอ..

นักวิชาการท่านอื่นๆจะลอยตัวออกมาแสดงความเห็น เหมือนในอดีตคงไม่ได้ครับ
บันทึกการเข้า

room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #23 เมื่อ: 15-09-2007, 03:21 »

ที่โพสเนี่ยกะจะแซว snowfake ไม่ได้ตั้งใจ ดิสเครดิตนะจะบอกให้
เรื่องจิ๊บๆเอาขำๆบาง
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #24 เมื่อ: 15-09-2007, 12:31 »

ที่โพสเนี่ยกะจะแซว snowfake ไม่ได้ตั้งใจ ดิสเครดิตนะจะบอกให้
เรื่องจิ๊บๆเอาขำๆบาง

อ้าววว เป็นซะงั้น Surprised

...เดี๋ยวคุณ snowflake เธอโกรธไม่มาตัดแปะอีก พวกเราจะเหงานะคะ Mr. Green

ตอนนี้ทั่นเท้ามหาภัย กับคุณน้าติดแก๊ส หายหน้าไปหลายวันแล้วด้วยค่ะ  Mr. Green
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 15-09-2007, 13:26 »

ถ้าจะมองเป็นเรื่องส่วนตัว ก็อาจจะพูดได้ว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว มีสิทธิที่จะทำได้
แต่ถ้ามองเป็นเรื่องส่วนรวม ก็น่าจะมองได้ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสังคม(หรือเปล่า)
หากเราจะบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของสมัยนี้ ใครๆก็ทำกัน มันถึงจุดนั้นแล้วหรือยังที่เราจะมองว่าเป็นเรื่องปกติ
ถ้ามองเป็นเรื่องธรรมดาปกติไปแล้ว  ก็แสดงว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา และก็ไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขให้ดีขึ้น

กรณี อ.นิธิ  แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็จริง  แต่ก็มีผลกระทบต่อสังคม  อาจจะมีผลกว่าข่าวดารามีกิ๊กก็ได้
เพราะทั้งคุณวุฒิ และวัยวุฒิ ของ อ.นิธิ  ก็มิใช่น้อย   รวมทั้งหน้าที่การงาน ความคิดความอ่านย่อมจะมีมากกว่าบุคคลอื่นๆอยู่มาก
การจะตัดสินใจอะไร ย่อมเป็นที่จับตาของคนอื่นๆ  โดยเฉพาะคนที่ชอบนับถือที่ตัวบุคคล ไม่ได้นับถือที่เหตุผลและการกระทำ
อาจทำให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบได้  เพราะคิดว่าขนาด คนเรียนสูงขนาดนั้น อายุขนาดนั้น ทำงานอย่างนั้น ยังทำได้เลย

ผมเห็นด้วยกับคุณ Q  ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ภาพพจน์ของ อ. แกเสียไปพอสมควร
การแก้ปัญหาสังคม ต้องอาศัยความเข้าใจ  ไม่ได้ใช้แค่ความรู้
แค่ครอบครัวตัวเอง ยังไม่เข้าใจ  จะไปเข้าใจปัญหาสังคมได้อย่างไร
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 15-09-2007, 13:29 »

 

สังคมแห่งการคลิก ดร.อุทัย   ดุลยเกษม

ท่านผู้อ่านที่ฝืนใจอ่านข้อเขียนของผมในเล่มนี้ คงรู้สึกได้ว่าพักหลังๆ นี้ผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องการหย่าร้าง และปัญหาในครอบครัวบ่อย... ซึ่งผมต้องยอมรับว่า เป็นความจริง

เหตุผลก็เพราะผมเห็นว่าเรื่องของความเป็นปึกแผ่นของระบบครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญมาก หากระบบครอบครัวอ่อนแอหรือพังทลายแล้ว ปัญหาอื่นๆ จะตามมามากมาย

ผมคิดว่าถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องเด็กและเยาวชนกันอย่างถึงรากถึงโคน คงไม่มีหนทางใดดีไปกว่าการทำให้ระบบครอบครัวเป็นปึกแผ่น และได้ทำหน้าที่ของความเป็นครอบครัวอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมอ่านสถิติเกี่ยวกับอัตราการหย่าร้างในสังคมไทยในรอบ 10 ปี (2535-2544) เห็นสถิติแล้วก็ตกใจ เพราะอัตราการหย่าร้างในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มขึ้นมากจนน่าใจหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีหลังๆ ตัวเลขสถิติที่สำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทยรายงานนี้เป็นการหย่าร้างที่เป็นทางการเท่านั้น
... ในปี 2535 อัตราการหย่าร้างมีเพียง 9.7%
… ในปี 2540 อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นเป็น 18.7%
... และในปี 2544 อัตราการหย่าร้างสูงขึ้นเป็น 23.4%

ผมจึงพยายามวิเคราะห์แบบไม่เป็นระบบนักว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ก็พบว่าน่าจะมีผลมาจากกระแสโลกาภิวัฒน์มากกว่าเหตุอื่น ที่ผมเห็นอย่างนี้ก็เพราะ ประการแรกกระแสโลกาภิวัฒน์ได้สร้างระบบคุณค่าอย่างใหม่ขึ้นหลายอย่าง และมีอิทธิพลต่อผู้คนจำนวนมาก ระบบคุณค่าที่ว่านี้ได้แก่
ระบบคุณค่าแบบฉาบฉวยผิวเผิน ทุกวันนี้เราจะสังเกตเห็นได้ไม่ยากว่า ผู้คนจำนวนมากนิยมทำสิ่งต่างๆ อย่างผิวเผินฉาบฉวย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การทำงาน การคบเพื่อน การติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกัน เป็นต้น ล้วนแต่ฉาบฉวยผิวเผินกว่าแต่ก่อนเป็นอันมาก

ระบบคุณค่าแบบเน้นความรวดเร็ว โดยเฉพาะความรวดเร็วในการได้รับผล เราเห็นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน เช่น การเดินทางก็นิยมการเดินทางแบบเร็วๆ การเรียนหนังสือก็นิยมการจบเร็วๆ การตรวจคนไข้ก็ยมตรวจเร็วๆ การทำธุรกิจอยากรวยเร็วๆ การเป็นนักการเมืองก็อยากมีอำนาจ และตำแหน่งหน้าที่สูงเร็วๆ เป็นต้น การนิยมความรวดเร็วนี้มิได้สนใจว่าผลที่ได้รับจะมีคุณภาพหรือไม่ เพราะไม่สำคัญ ดังที่นักธุรกิจชื่อดังหลายคนกล่าวว่า “เก่งไม่กลัว กลัวช้า” เป็นต้น

ระบบคุณค่าแบบเห็นแก่ได้ ไม่ว่าในเรื่องอะไร เมื่อลงมือทำก็จะคิดเฉพาะประโยชน์ที่ตนเองและพวกพ้องจะได้รับ แม้ว่าการได้รับประโยชน์นั้นจะเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นก็ตาม เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมือง และราชการ

ระบบคุณค่าแบบคลิก (Click) หมายความว่า เมื่อไม่ชอบใจก็ 'คลิก' ทิ้งคำว่า 'คลิก' นี้ เป็นมือชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า Remote Control เช่นเราใช้รีโมตในการเปิดปิดและเปลี่ยนช่องโทรทัศน์นั่นแหละ เวลาเราไม่ชอบรายการใดก็คลิกเปลี่ยนช่องทันที และหากอยากกลับมาดูอีกก็คลิกได้อีก
วัฒนธรรมการคลิกนี้กลายเป็นระบบคุณค่าที่คนจำนวนมากดูดซับไปโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นเวลาไม่ชอบใจอะไรก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ เหมือนการเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นการ 'คลิก' กันมากในกลุ่มเพื่อนทั้งชายและหญิง คนบางคน 'คลิก' บ่อยมากจนตามไม่ค่อยทัน ไม่เชื่ออ่านข่าวพวกดาราหรือลูกท่านหลายเธอที่มีเงินมีทองมากมากดูเถิด

เมื่อวัฒนธรรมการ 'คลิก' บวกเข้ากับระบบคุณค่านิยม 'ความฉาบฉวย' และระบบคุณค่านิยม 'ความเร็ว' เรื่องที่ไม่เคยเกิดมาก่อนก็ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ว่าจำเพาะเรื่องการหย่าร้าง เราก็เห็นได้ชัดว่าผู้คนจำนวนมากในยุคนี้ตกลงใจเป็นคู่ผัวเมียกันได้ง่ายและรวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก และเมื่อไม่ชอบใจก็ 'คลิก' เปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจ ที่เห็นอัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

การ 'คลิก' เพื่อเปลี่ยนคู่นั้นอาจกระทำได้ง่าย แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับมีมากมาย เช่น สถิติจากกองวิชาการและแผนงาน กรมประชาสงเคราะห์ ได้รายงานว่า ในการสำรวจสถานการณ์เด็กถูกทอดทิ้ง (0-6 ปี) ในสถานสงเคราะห์ 21 แห่งที่อยู่ในความดูแลของกรมประชาสงเคราะห์ ... เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33.5 ในปี 2541 และจากการสำรวจจำนวนเด็กแรกเกิดถูกทิ้งในโรงพยาบาลรัฐรวม 40 แห่ง ... จาก 90 ต่อเด็กแสนคนในปี 2539 เพิ่มเป็น 120 ต่อเด็กแสนคนในปี 2541

สถิติเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งของความเป็นจริงเท่านั้น แต่ก็ไม่ค่อยมีคนสนใจนัก เพราะคนส่วนใหญ่ก็นิยมความฉาบฉวยอยู่แล้ว หรือที่พอมีความอาทรอยู่บ้างก็จะช่วยเหลือ ในลักษณะฉาบฉวยเช่นบริจาคเงินสงเคราะห์ให้เท่านั้นเอง

ผมรู้สึกว่าการมีคู่ของผู้คนในยุนี้คล้ายๆ กับการเป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้น เมื่อแรกเห็นก็ชอบใจหลงใหลอยากได้เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่เมื่อได้มาเป็นเจ้าของแล้ว ก็ชื่นชมอยู่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อหมดความชื่นชมแล้วก็ต้องการเปลี่ยนใหม่ คล้ายกับการเป็นเจ้าของรถยนต์หรือเครื่องประดับยังไงยังงั้น คนที่เก็บทั้งของเก่าไว้ และสามารถหาของใหม่มาเพิ่มได้ก็ทำทั้งสองอย่าง เราจึงเห็นคนบางคนมีรถยนต์หลายคัน มีนาฬิกาหลายเรือน มีเครื่องประดับหลายชุด

แต่ของจำพวกนี้ไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึก แต่ในกรณีของคนนั้น คนเราไม่สามารถทนต่อการที่จะเป็นเพียงเครื่องใช้หรือเครื่องประดับสำรอง การระหองระแหงและความบาดหมางต่างๆ จึงเกิดขึ้นและนำไปสู่การแตกหักหย่าร้างในที่สุด

ผมคิดว่า ในยุคนี้อาจมีความจำเป็นอย่างมากที่สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันทางสังคมชนิดอื่นๆ จักต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในการช่วยให้ผู้ที่จะเริ่มมีครอบครัวได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การ 'มีคู่' ก็คือ การที่มีสมาชิกสองคนที่ตกลงใจร่วมมือร่วมใจกันสร้างองค์กรที่เรียกว่า 'ครอบครัว' ให้เป็นปึกแผ่น เฉกเช่นเดียวกับสมาชิกของบริษัทห้างร้าน ในการกระทำใดๆ สมาชิกทั้งสองคนจะต้องไม่คิดถึงตนเอง ให้มากกว่าคิดถึงเป้าหมายขององค์กร หากทำได้เช่นนี้ความขัดแย้งจะลดน้อยลงมากทีเดียว

ผมคิดว่าผู้คนจำนวนมากไม่ค่อยได้คิดเรื่องเป้าหมายของการมีครอบครัวมากไปกว่าการได้มีคู่ที่ตนเองรักใคร่ชื่นชม เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือการสร้างครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นก็คิดกันน้อย หาไม่ไฉนเลยอัตราการหย่าร้างจึงสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าตกใจ

น่าจะต้องมีการเคลื่อนไหวผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง และต่อเนื่องเพื่อให้ระบบครอบครัวไทยเข้มแข็งและเป็นปึกแผ่นขึ้น หากเราปล่อยปละละเลยไม่รีบหาทางแก้ไขก็เท่ากับว่าเรากำลังช่วยกันสร้างปัญหาสังคมให้ขยายวงกว้างขึ้น และเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นด้วย ดังจะเห็น ได้จากสถิติการใช้ยาและสารเสพติดของนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากระบบคุณค่าที่เกิดจากวัฒนธรรม 'คลิก' แล้วสังคมปัจจุบันนี้ยังอาจเรียกได้ว่าเป็นสังคมแห่งการ 'รูด' ด้วยก็ยังได้ เพราะทุกวันนี้ผู้คนใช้วิธีรูดบัตรกันเป็นว่าเล่น หลายคนอาจไม่คิดว่าวัฒนธรรมการรูดบัตรมีนัยอะไร แต่ผมกลับเห็นว่าวัฒนธรรมการรูดบัตรนี้เป็นการสร้างระบบคุณค่าแห่งความฉาบฉวย ทำให้ไม่เห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ เช่นทำให้คนเรามองไม่เห็นความเชื่อมโยงระหว่างที่มาของเงิน (รายได้) และสัดส่วนของจำนวนเงินที่เรามีกับค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายออกไป (รายรับ-รายจ่าย) เป็นเหตุให้เราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ทางการเงินของเราได้ สำหรับคนรวยคงไม่มีปัญหามากเท่ากับคนที่ไม่รวย แต่ใช้ชีวิตแบบคนรวย

เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่รู้เท่าทันกับสิ่งเหล่านี้ สังคมเราก็จะเผชิญปัญหามากมาย ผมยังมีความเชื่อมั่นในระบบครอบครัวว่าจะเป็นแกนของการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างยั่งยืน จึงอยากเห็นระบบครอบครัวเข้มแข็งและเป็นปึกแผ่น เพื่อจะช่วยให้ปัญหาสังคมหลายๆ ปัญหาลดน้อยลง

เราในฐานะพ่อแม่หรือนักวิชาชีพ วิชาการทั้งหลายคงต้องลงมือปฏิบัติการ เพื่อแก้ปัญหานี้กันอย่างจริงจังเสียละกระมัง

(update 5 มกราคม 2004)
[ ที่มา... กรุงเทพวันอาทิตย์   ปีที่ 15 ฉบับที่ 5483 (360) วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ]
http://www.elib-online.com/doctors47/family_click001.html
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #27 เมื่อ: 20-09-2007, 02:52 »

มันก็เืรื่องของ มนุษย์ขี้เหม็น ที่ยังหลงอยู่ใน รูป รส กลิ่น เสียง แค่นั้นแหละ

ความเป็นนักวิชาการ ก็ไม่ได้ทำให้มันเป็น เทพ แต่อย่างไร
บันทึกการเข้า
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #28 เมื่อ: 20-09-2007, 05:40 »

วันก่อนเห็นเว็บผู้จัดการเอารูปมาลงแล้วสงสาร  Sad Sad

เฮี้ยว เหี่ยว แทบจะตะบันน้ำกินแล้ว
เลยของดที่จะวิจารณ์ต่อครับ   
บันทึกการเข้า
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 20-09-2007, 08:48 »

เรื่องอะไรที่มันอยู่ใต้สะดือ...สาวกเผด็จการช๊อบชอบ แต่พอเรื่องที่มันเกี่ยวกับสาระของสังคมเช่น การยึดอำนาจโดยทหาร การโคดนาชวนเชื่อรายวันที่ใช้ภาษีจากชาวบ้านตาดำๆ การใช้อำนาจเถื่อนแทรกแทรงวงการตุลาการ ต่างๆนานาเหล่านี้กลับทำเป็นดัดจริตไม่พูดสักแอ๊ะ


ที่สำคัญก็คือ ทั้ง อ. นิธิและภรรยายคนใหม่ต่างก็เลิกกับคนเก่าเรียบร้อยแล้ว แต่บางคนที่แอบจดทะเบียนซ้อน หรือแย่งเมียเพื่อนในพรรคเดียวกันนี่ซิ...ชั่วแบบไม่ต้องตีความจริงๆ!!!


ขอบคุณสำหรับทู้นี้ที่เป็นเวทีให้ท้าวฯเข้ามาชู๊ดเหน่งๆน๊า


พูดอยู่ได้ หลักฐานน่ะหามาได้หรือยัง  สาวกทักกี้นี่ทำไมหูเบาเชื่อคนง่ายจัง

เถียงกับเท้านี้ เถียงจนตายก็ไม่จบ เพราะพูดเรื่องนึงก็ไปอีกเรื่องนึง โยงมั่วไปหมด

ถึงว่าคิดอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน โน่นนิดนี่หน่อย
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 20-09-2007, 11:10 »


หลักฐานเรื่องไรฤา!?!

ไม่รู้ว่ะ ก็เห็นชอบถามหาหลักฐานไม่ใช่หรอ เวลาจะกล่าวหาใคร
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #31 เมื่อ: 20-09-2007, 13:39 »

โถ ...ที่ไอ้ตัวที่มันล่อเด็กในพรรค จนต้องไปโยนให้ทนายหน้าหอ รับเซ้งต่อหน่ะ มันใคร

อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนตัวเองซิ จ๊ัะ

ในบอร์ดนี้คงมีแต่จ๊ะ เท่านั้นแหละ ที่พาลูกไปขายตัว แล้วพ่อเอาเงินไปเที่ยวไม้เอก
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #32 เมื่อ: 20-09-2007, 13:53 »

ไปจำขี้ปากยายแม้นกระเทยควายซ่องไหนมาหล่ะเนี่ย!?!

อ้าวเรื่องจริงเหรอเนี่ย 

แต่ก็เป็นคนแก่ที่หน้าด้านหน้าทน จริงๆ นะ
บันทึกการเข้า
peejho
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #33 เมื่อ: 24-09-2008, 08:22 »

ตามข่าวแจ้งแค่ว่าต่างคนต่างมีคู่ใหม่  แต่ไม่ได้นำเสนอ มิติ ของเจ้าตัวว่าเขามีเหตุผลอะไร
เราชอบคิดไปเองตามหลักกู (คล้ายหลักการ) ว่า นี่มันคือการแย่งผัว แย่งเมียชาวบ้าน ผิดศีลธรรม โดยที่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เมีย อ.นิธิ และ ผัว อ. สุชาดา รู้สึกอย่างไร ทั้งหมดอาจจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ ที่ลงเอยแบบนี้ แต่เนื่องจากข่าวไม่ได้แจ้งไว้ ทำให้ข้อมูลค่อนข้างลำเอียง ไปยังฝ่ายที่โจมตี อ.นิธิ

จากที่อาจารย์เขียนเรื่องปฏิรูปการเมืองในมติชนรายวัน และมีการพูดถึงการไฮแจ๊คทำเนียบ  ทางฝ่ายพันธมิตรเล่นตอบโต้กลับว่าอาจารย์ไฮแจ๊คเมียเพื่อน  ผมว่าการเล่นกลับอย่างนี้ดูไร้เหตุผลมาก
ถ้าอ่านบทความของ อาจารย์นิธิ แล้วรู้จักจับประเด็น ท่านแค่ต้องการสื่อสารว่า
จะปฏิรูปทั้งที ก็เห็นด้วย แต่อย่าปฏิรูปเฉพาะการเมือง  ปฏิรูปทั้งองค์รวมไปเลย สังคม การศึกษา ฯลฯ และอีกปัจจัยที่สำคัญคือ  อย่ามาเอาทำเนียบเป็นตัวประกัน  การปฏิรูปไม่ได้เกิดจากการขู่เข็ญ บังคับ แต่ต้องเปิดใจปฏิรูป  ทั้งทางฝ่ายพันธมิตร และฝ่ายรัฐบาล
ในตอนท้ายของบทความ อาจารย์ ยังแอบกัดระบอบทักษิณพร้อมทั้งเสนอความเห็นว่าวิธีการที่พันมิตรทำ ไม่สามารถกำจัดระบอบนี้ได้ (ซึ่งหมายความว่าอาจารย์ก็ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณเช่นกัน)

ผมเป็นอีกคนที่ไม่ชอบระบอบทักษิณ  แต่เลือกวิธีการ และเหตุผลในการปฏิบัติตัว  ลองเปิดกว้างฟังความคนที่เห็นแตกต่างบ้างก็ไม่เลวนะครับ สำหรับตัวพันธมิตรเองด้วย  อย่าเห็นว่าคนที่เห็นแตกต่างเป็นคนเลวเลยครับ    ขอร้อง
บันทึกการเข้า
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 24-09-2008, 15:27 »

สามีคุณสุชาดา หน่ะไม่เท่าไหร่

แต่เท่าที่ทราบ ภรรยา จานนิธิ ช๊อคซีนีม่า ไปเลย เพราะอยู่ๆ แกเก็บของออกจากบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คนในวงการ ต้องไปเยี่ยมให้กำลังใจแก เพราะแกไม่พูดไม่จา ไม่กินข้าวกินปลาอยู่หลายวัน

เรื่องที่ด่าจานนิธิ ไม่ใช่ด่าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยหรอก ขอบอก
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Bo.
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 106



เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 24-09-2008, 15:56 »

เหอๆ
เสียดายอ่ะ ที่ตอนเด็ก ๆ ชอบอ่านบทความนิธิ

แต่โตมา ก็รู้อะไร ๆ ขึ้นเยอะ

คนที่วิพากษ์สังคมได้ลุ่มลึก
แต่ท้ายที่สุดกลับทำในสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจและศีลธรรมของสังคม
ถ้านิธีนี่เป็น ตาแก่ข้างบ้านที่ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักก็คงไม่มีใครจะสนใจหรอก

เห็นได้ชัดว่าขนาดคนใกล้ตัวแก ยังออกอาการรับไม่ได้

ยอมรับเถอะค่ะ นี่คือจุดหักเหของชีวิตนิธิ
ที่จะต้องมาเป๋เอาตอนแก่
ขอให้มีความสุขกับชีวิตครอบครัวใหม่หลังวัยเกษียร
บันทึกการเข้า

You can't walk no line.
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #36 เมื่อ: 24-09-2008, 16:52 »

เหอๆ
เสียดายอ่ะ ที่ตอนเด็ก ๆ ชอบอ่านบทความนิธิ

แต่โตมา ก็รู้อะไร ๆ ขึ้นเยอะ

คนที่วิพากษ์สังคมได้ลุ่มลึก
แต่ท้ายที่สุดกลับทำในสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจและศีลธรรมของสังคม
ถ้านิธีนี่เป็น ตาแก่ข้างบ้านที่ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักก็คงไม่มีใครจะสนใจหรอก

เห็นได้ชัดว่าขนาดคนใกล้ตัวแก ยังออกอาการรับไม่ได้

ยอมรับเถอะค่ะ นี่คือจุดหักเหของชีวิตนิธิ
ที่จะต้องมาเป๋เอาตอนแก่
ขอให้มีความสุขกับชีวิตครอบครัวใหม่หลังวัยเกษียร

คนมีความรู้ วิเคราะห์เก่ง ไม่จำเป็นต้องสามารถ
ทำอย่างทีตัวเองสั่งสอนก็ได้ นี่เป็นตัวอย่าง

ถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ทำถูกต้อง ถ้าสังคมไทย
ทำแบบนี้กันทุกคนจะเป็นอย่างไรกันเนี่ยะ เรื่องนี้
ขุดมาลึกแค่ไหน ก็ยังนินทากันหนุกหนานอยู๋นั่นเอง
บันทึกการเข้า
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #37 เมื่อ: 24-09-2008, 16:58 »



ถ้าภรรยาเก่า ไม่ได้มีความผิดอะไร
เพียงเพราะเจอรักใหม่ ก็ดูแลเค้าบ้าง
คิดว่าอายุคงมากแล้ว
เจ็บช้ำน้ำใจ ตอนอายุมาก
.....................
เราก็ไม่รู้เรื่องของเค้าหรอก
บันทึกการเข้า

Cylonn
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #38 เมื่อ: 24-09-2008, 17:08 »

ถ้าวันหนึ่งผมติดเด็ก แล้วตัดสินใจทิ้งลูกทิ้งเมียไปอยู่กับเด็กเนี้ย

ผมคงไม่ใช่ผู้ชายชาติหมาใช่ไหม
บันทึกการเข้า
Augustine
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 219



« ตอบ #39 เมื่อ: 24-09-2008, 17:19 »

ตำหนิโพสต์ทูเดย์เถอะ คนต้นเรื่อง ผู้จัดการแค่นำมาเผยแพร่ต่อ
น่าตำหนิทั้งคนต้นเรื่อง ทั้งคนเผยแพร่อะแหละ
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย...   ...ที่ไหนเค้าทำกันแบบนี้

หน้า: [1]
    กระโดดไป: