กระดูกเบอร์ใหญ่กับไอ้กล้วยบ่มแก๊ส [14 ก.ย. 50 - 19:21]
26 กันยายน พ.ศ.2549 เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ชินโซะ อาเบะ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต่อจากนายกรัฐมนตรีจุนอิจิโร โคอิซึมิ หลายคนบอกว่าประธานพรรคแอลดีพี/นายกรัฐมนตรีคนนี้นี่กระดูกอ่อนเหลือเกิน วันที่เป็นนายกฯมีอายุเพียงแค่ 51 ปี เป็นผู้นำของประเทศคนแรกที่เกิดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เป็นรัฐบาลได้ 3 เดือน อาเบะก็เสียรัฐมนตรีการปฏิรูปการบริหาร และกฎระเบียบ นายเจนิชิโร ซาตะ คนนี้โดนข้อหาใช้เงินกองทุนการเมืองผิดประเภท
พฤษภาคม พ.ศ.2550 ผู้อ่านท่านคงจะจำข่าวใหญ่ในญี่ปุ่นได้ นะครับ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร การป่าไม้และการประมง นายโตชิคัตสุ มัตสุโอกะ ฆ่าตัวตายไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะโดนซักในรัฐสภาข้อหาอื้อฉาวทางการเงิน
ต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2550 รัฐมนตรีกลาโหมคนที่ชื่อนายฟุมิโอะ คิวมะ ลิ้นแกพลาดพันดันไปพูดประโยค โศกนาฏกรรมจากการทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ขอโทษยังไง คนญี่ปุ่นก็ไม่ยอม รับกันไม่ได้ไปทั้งประเทศ สุดท้ายแกก็ต้องยื่นใบลาออกจากรัฐมนตรีกลาโหม
ปลายเดือนกรกฎาคม อ้าว พรรคแอลดีพีแพ้เลือกตั้งสมาชิกสภาสูง สามวันหลังจากรู้ผลการเลือกตั้ง รัฐมนตรีเกษตร การป่าไม้และการประมง คนใหม่ที่ชื่อว่านายโนริฮิโกะ อาคากิ ก็ลาออก พร้อมกับข่าวอื้อฉาวเรื่องเงินๆทองๆ
อาเบะจึงต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีเกษตรฯคนใหม่ คราวนี้เลือกเอานักการเมืองกระดูกเบอร์ใหญ่ ได้นายทาเคฮิโกะ เอ็นโดะ นายคนนี้เป็นรัฐมนตรีได้เพียงสัปดาห์เดียวก็ต้องลาออก ข้อหาใช้เงินช่วยเหลือการเกษตรผิดประเภท
ปีที่แล้ว ใครหลายคนก่นเตือนอาเบะว่า อย่าเพิ่งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเลย กระดูกของเอ็งน่ะยังไม่แข็งแกร่งพอ จะว่าไปแล้ว เอ็งมันก็เพียงไอ้มะม่วงบ่มแก๊ส ยังไม่น่าจะทานได้อร่อย แต่นายอาเบะและก๊วนแก๊งของแกในพรรคแอลดีพีไม่ฟัง ผลก็คือรัฐบาลของนายอาเบะก็อยู่ได้เพียง 11 เดือน 14 วัน ไม่ถึงปีด้วยซํ้าตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนานที่สุดก็คือ นายจุนอิจิโร โคอิซึมิ เจ้านายของนายอาเบะ
แต่นายโคอิซึมิแข็งแกร่งกว่านายอาเบะเยอะ เพราะนายโคอิซึมิ ผ่านเรื่องร้ายๆมามากมายจนชีวิตแข็งแกร่ง เป็นนักการเมืองคนแรกที่ประกาศหย่าภรรยา แถมยังเอาลูก 2 คนมาเลี้ยงโดยไม่ให้เจอหน้าแม่ ตอนที่หย่ากัน ภรรยาโคอิซึมิกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 3 ส.ส.โคอิซึมิประกาศ เปรี้ยงเลยว่า ข้าพเจ้าจะไม่รับไอ้เด็กในท้องนี่เป็นลูก เป็นนักการเมืองที่แหวกประเพณีอย่างนี้ โดนโจมตีจากสังคมน่าดู แต่โคอิซึมิก็ทนได้พ.ศ.2541 โคอิซึมิลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพี ผลคือสอบตก แกก็รอจนถึง พ.ศ.2544 ลงสมัครแข่งอีก คราวนี้ชนะใจ ได้เป็นประธานพรรค การเป็นประธานพรรคแอลดีพี ก็ได้เลื่อนชั้นเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นไปโดยอัตโนมัติตอนที่นายโคอิซึมิเป็นนายกรัฐมนตรี มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นกับรัฐมนตรีและ ส.ส.ลูกพรรคของแกบานเบอะเยอะแยะ แต่นายโคอิซึมิก็ทน ผู้อ่านท่านยังจำกรณีที่แกปลดนางมาคิโค ทานากะ ออกจากรัฐมนตรี ต่างประเทศได้ไหมครับ นักการเมืองคนดังอย่างนายมูเนโอ ซูซูกิ ก็โดนจับข้อหารับสินบน นายโคอิซิ คาโตะ ลาออกด้วยข้อหาลูกน้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องภาษี นายคาโตะเองก็โดนเรื่องใช้เงินจากกองทุนการเมืองไปจ่ายค่าที่พักของตัวเองในโตเกียว นายยูทะกะ อิโนอุเอะ อดีตประธานวุฒิสภา ก็ต้องลาออกเพราะผู้ช่วยตัวแสบมีส่วนร่วมรับสินบนจากบริษัทก่อสร้าง รัฐมนตรีเกษตรฯ นายทาเคเบโดนประชาชนประณามกรณีโรคเชื้อวัวบ้า นายพลนาคาทานิ โดนข้อหาทำผิดกฎหมายข้อมูลข่าวสาร ฯลฯ
นายจุนอิจิโร โคอิซึมิ กระดูกเบอร์ใหญ่ เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ พ.ศ.2544 จนถึง พ.ศ.2549 รวมเวลา 5 ปี
ไอ้กล้วยบ่มแก๊ส นายชินโซะ อาเบะ เด็กสร้างของนายโคอิซึมิ ผู้ซึ่งมีชีวิตการเมืองที่ราบเรียบสวยงาม ได้รับการบ่มเพาะอย่างดีจากพรรคแอลดีพี เพื่อหวังจะให้นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศ
ความชั่วไม่เคยมี ดีไม่เคยผ่าน ทำให้นายอาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีได้เพียง 11 เดือน 14 วัน บ้านเมืองในยุคนี้มีแต่ความระส่ำระสาย ไม่เป็นสับปะรด ไร้ฝีมือ
อาเบะทำหน้าแบะ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯแล้วครับ.
นิติภูมิ นวรัตน์
http://thairath.co.th/news.php?section=international01&content=60978ขออนุญาตนำอีกหนึ่งบทวิพากษ์โดย "นิติภูมิ นวรัตน์" มาฝากค่ะ
ไม่ทราบตอนจบ กระทบคุณมาร์คหน้าหยกหรือป่าว