มติเอกฉันท์ กกต.ไม่เซ็น MOU - เปิดกว้างทุกชาติตรวจสอบเลือกตั้ง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 กันยายน 2550 19:02 น.
อียูแห้ว กกต.มีมติเอกฉันท์ไม่เซ็น MOU ขณะเดียวกัน เปิดให้ทุกประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ตรวจสอบการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่ ปธ.กกต.โว ไม่ได้กลัวการตรวจสอบ สามารถจัดเลือกตั้งได้มาตรฐานสากลภายใต้กฎหมายไทย ไม่จำเป็นต้องให้ใครรับรอง
วันนี้ (11 ก.ย.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กกต.เพื่อพิจารณาถึงการขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของสหภาพยุโรป หรือ อียู ว่า กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์โดยเห็นตรงกันว่าจะไม่เซ็นเอ็มโอยู กับอียู เนื่องจากตลอด 9 ปีที่ผ่านมา กกต.ไม่เคยเซ็นเอ็มโอยูกับใคร ซึ่งเราเปิดโอกาสให้ทุกประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังเคยเชิญประเทศที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับ กกต.เข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้ง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เราให้สิทธิเสรีภาพทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม เราไม่จำเป็นต้องเจรจากับอียูอีก เพราะเรายืนยันว่าเราสามารถจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
มตินี้ไม่ใช่การแข็งข้อ หรือปิดประเทศ แต่เราเชื่อมั่นว่า สามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างเป็นมาตรฐานสากล เราไม่ได้กลัวการตรวจสอบ เรายินดีต้อนรับให้ทุกประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมทั้งอียู แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองการเลือกตั้งจากใคร ซึ่งเชื่อมติของ กกต.จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะทูตอียูก็ได้บอกแล้วว่าเคารพการตัดสินใจของไทย และภายใน 1-2 วันนี้ กกต.จะทำหนังสือแจ้งต่ออียูอย่างเป็นทางการ ซึ่งคงไม่แจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพราะนายกฯได้มอบให้ กกต.เป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว นายอภิชาต กล่าว
ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ได้นำเอกสารที่เป็นข้อมูลการหารือระหว่างเลขาฯ กกต.กับทูตอียู มาร่วมพิจารณา โดยประเด็นหลักที่มีการหารือกัน คือ จะเซ็นเอ็มโอยูหรือไม่ ซึ่ง กกต.ทั้ง 5 เห็นว่า ไม่ควรเซ็น ที่ประชุมจึงไม่ได้พิจารณาในรายละเอียดอื่นๆ ทั้งนี้ เราก็ไม่ขัดข้องที่จะอียูเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าเขามีเจตนาดีที่ต้องการเห็นพัฒนาการทางการเมืองของไทย อีกทั้งไม่มีเจตนาในการแทรกแซงอธิปไตยของไทย แต่เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมของเราที่ไม่เคยเซ็นสัญญากับประเทศใดมาก่อน มาปฏิบัติ
นายประพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมไม่ได้พิจารณากันว่า การเข้ามาของอียูนี้มีกลุ่มอำนาจเก่าหนุนหลังหรือไม่ เพราะเราไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ อีกทั้งทูตอียูก็ยืนยันชัดเจนว่า การเข้ามาครั้งนี้ไม่มีใครชักชวน และการตัดสินใจก็ไม่เกี่ยวกับใครให้การสนับสนุน ตัดสินใจด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ กกต.ก็ไม่ได้ปิดทางให้ประเทศอื่นเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ยินดีอำนวยความสะดวกให้กับทุกประเทศ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000107385
มตินี้ไม่ใช่การแข็งข้อ หรือปิดประเทศ แต่เราเชื่อมั่นว่า สามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างเป็นมาตรฐานสากล เราไม่ได้กลัวการตรวจสอบ เรายินดีต้อนรับให้ทุกประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมทั้งอียู แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองการเลือกตั้งจากใคร ซึ่งเชื่อมติของ กกต.จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะทูตอียูก็ได้บอกแล้วว่าเคารพการตัดสินใจของไทย และภายใน 1-2 วันนี้ กกต.จะทำหนังสือแจ้งต่ออียูอย่างเป็นทางการ ซึ่งคงไม่แจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพราะนายกฯได้มอบให้ กกต.เป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว นายอภิชาต กล่าว
คนไทยทั่วไป อ่านข้อความนี้แล้ว จะเข้าใจถึงหลักการ จิตสำนึกในหน้าที่ ความรับผิดชอบ
ศํกดิ์ศรี และ อธิปไตยของประเทศไทยของคณะกรรมการ กกต. .........
"ลิ่วล้อ"ทักษิณ จำเลยทุจริตคดีต่าง ๆ ของคณะกรรมการ คตส.
และ หนี"หมายจับ"ของศาลยุติธรรมไทย ไม่เข้าใจหรอก........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า