|
soco
|
 |
« เมื่อ: 10-09-2007, 19:04 » |
|
คตส.ชี้มูลทักษิณ-พจมานผิดซุกหุ้นภาค 2 -------------------------------------------------------------------------------- โดย Post Digital 10 กันยายน 2550 18:44 น. นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคตส.มีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารงานโดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก เป็นประธาน โดยให้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ในกรณีซุกหุ้นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) ภายใน 7 วัน ทั้งนี้มีข้อมูลว่าข้ออ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา ไม่เป็นความจริงในกรณีที่ระบุว่าได้โอนหุ้นชินคอร์ปฯ ให้กับคนในครอบครัวหมดแล้วก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งการเมือง และน่าจะเข้าข่ายว่ามีลักษณะการอำพรางข้อมูล ซึ่งการกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (3) ที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=190584**************************** ซุกกานเข้าปายยยยยยยย 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สมปอง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 10-09-2007, 19:07 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
 ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้ ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน |
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 10-09-2007, 19:17 » |
|
คตส.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา "แม้ว-อ้อ" ซุกหุ้น 18:59 น. นายแก้วสรร อติโพธิ เลขาธิการ คตส.แถลงภายหลังการประชุมว่า คตส.มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภรรยา ในคดีซุกหุ้น เนื่องจากที่ผ่านพบว่า มีการกระทำผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ป.ป.ช.ที่ห้ามไม่ให้รัฐมนตรีถือหุ้นธุรกิจสัมปทาน แต่พบว่ามีการใช้หุ่นเชิดใช้ชื่อถือหุ้นแทน ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และยังพบว่าในช่วงรัฐบาล พ .ต.ท.ทักษิณ ได้มีมาตรการของรัฐ ที่ให้สัญญา หรือแก้ไขสัญญากับบริษัทในเครือชินคอร์ปฯ โดยขัดกฎหมายหลายครั้ง ดังนั้น คตส.จึงเห็นว่าควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ภริยา และจะเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนคดีที่ใช้อำนาจรัฐ เพื่อประโยชน์แก่ธุรกิจโทรคมนาคม ก็จะรายงานต่อ คตส.ภายใน 1 สัปดาห์ http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=T&newsid=278807************
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สมปอง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 10-09-2007, 19:19 » |
|
มาเรื่อยๆ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้ ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน |
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 10-09-2007, 19:30 » |
|
คตส.เปิดหลักฐานมัด'แม้ว'มีอำนาจเซ็นใน'บ.แอมเพิลริช'-ใช้'วินมาร์ค'กว้านซื้อหุ้นฟัน3.6พันล้าน จำนวนคนอ่าน 858 คน | วันที่ 09 กันยายน 2550 - เวลา 22:11:44 น คตส.เปิดหลักฐานมัด 'ทักษิณ' เป็นผู้มีอำนาจลงนามในบัญชีที่บริษัทแอมเพิลริชฯเปิดไว้ที่ยูบีเอส ถึงก.ค. 2548 ก่อนเปลี่ยนเป็นชื่อลูก ขณะที่ใช้บัญชีวินมาร์คไล่ซื้อหุ้นชินคอร์ป ก่อนขายให้เทมาเส็กฟันไปกว่า 3,600 ล้านบาท ระบุเข้าข่ายผิดกฎหมาย ผู้สื่อข่าว'มติชนออนไลน์' รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ในวันที่ 10 กันยายน คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารงานโดยมิชอบ ในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตนเอง และพวกพ้อง ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส.เป็นประธาน ได้นำเสนอรายงานการตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือชินคอร์ปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ฝากไว้ในต่างประเทศในนามบุคคลอื่น(นอมินี)และผ่านบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนต์และบริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ดซึ่งจดทะเบียนในเลขที่เดียวกันบนเกาะบริติช เวอร์จิ้น ทั้งนี้ อนุกรรมการตรวจสอบพบว่า บัญชีเปิดในนามบริษัทแอมเพิลริชฯในบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น แอสเสท พลัส ในประเทศไทย,ยูบีเอส เอจี สิงคโปร์นั้น พ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจลงนามตั้งแต่ต้นจนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 2548 จึงเปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจลงนามจาก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวก่อนที่จะขายหุ้นให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้ง จำกัดของสิงคโปร์ในวันที่ 23 มกราคม 2549 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามรายงานของคณะอนุกรรมการฯพบว่า ในวันที่ 11 มิถุนายน 2542 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ โอนหุ้นชินคอร์ปจำนวน 32.92 ล้านหุ้น(ต่อมาแตกพาร์เป็นหุ้นละ 1 บาท ทำให้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 329.2 ล้านหุ้น)ให้แก่บริษัทแอมเพิลริชฯซึ่งเปิดบัญชีไว้ที่ บริษัทหลักทรัพย์แอสเสท พลัสในประเทศไทยนั้น ขณะเดียวกันบริษัทวินมาร์คซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ระบุว่า เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณได้เปิดบัญชีไว้ที่ บริษัทหลักทรัพย์วิคเคอร์บัลลาส ที่สิงคโปร์เพื่อถือหุ้นชินคอร์ปจำนวน 55 ล้านหุ้น จากนั้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2543 บริษัทแอมิพลริชฯได้โอนหุ้นชินคอร์ปจำนวน 100 ล้านหุ้นไปฝากไว้ในบริษัทหลักทรัพย์วิคเคอร์บัลลาส ที่สิงคโปร์ที่เดียวกับที่บริษัทวินมาร์คเปิดบัญชีไว้ ต่อมาเมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ตรวจสอบการซุกหุ้นซึ่งฝากไว้กับคนรับใช้ เมื่อต้นปี 2544 มีการโอนหุ้นที่บริษัทวินมาร์คถืออยู่จากบริษัทหลักทรัพย์วิคเคอร์บัลลาส ไปที่บริษัทยูบีเอสเอจี สิงคโปร์ และมีการย้ายหุ้นชินคอร์ปที่ถือโดยแอมเพิลริชฯตามมาในบัญชีเดียวกันในเดือนสิงหาคม 2544 จากนั้นจึงแยกเปิดบัญชีที่ยูบีเอสฯอีกหนึ่งบัญชีและโอนหุ้นชินคอร์ปที่บริษัทวินมาร์คถือหุ้นจำนวน 55 ล้านหุ้นไปฝากไว้ 'ช่วงที่ ก.ล.ค.เข้าตรวจสอบ พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีอ้างว่า ได้โอนหุ้นบริษัทแอมเพิลริชฯให้แก่นายพานทองแท้ไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2543 แต่ปรากฏว่า อนุกรรมการฯได้ตรวจสอบพบเอกสารหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้มีอำนาจลงนามในการเปิดบัญชีของแอมเพิลริชฯที่ยูบีเอส สิงคโปร์ จนกระทั่งมีการนำหุ้นที่แอมเพิลริชถือกระจายอยู่ 2 บัญชีในยูบีเอสฯมารวมกันเป็นบัญชีเดียวเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2548 จึงมีการเปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจลงนามเป็นนายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทาในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน'แหล่งข่าวกล่าว แหล่งข่าวกล่าวว่า หลักฐานดังกล่าวเป็นการแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจในการจัดการหุ้นชินคอร์ปและน่าจะเป็นเจ้าของหุ้นที่แท้จริงซึ่งขัดต่อมาตรา 100 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าวซึ่งมีโทษอาญาจำคุกไม่เกิน 3 ปี รายงานของอนุกรรมการยังระบุด้วยว่า สำหรับบัญชีของบริษัทวินมาร์คที่เปิดไว้ที่ยูบีเอส สิงคโปร์ได้กว้านซื้อหุ้นชินครอ์ปไว้จากที่อยู่ระหว่าง 39-55 ล้านหุ้นใช่วงต้นปี 2549 เป็น 113 ล้านหุ้นในราคาประมาณ 39 บาทและนำมาขายในช่วงที่เทมาเส็กตั้งโต๊ะรับซื้อหรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์ไป 74 ล้านหุ้นได้เงินไปกว่า 3,600 ล้านบาทโดยมีกำไรประมาณ 500 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คาดว่า ในช่วงเย็นวันที่ 10 กันยายน จะมีการแถลงข่าวและเปิดเผยรายการตรวจสอบการจัดการหุ้นชินคอร์ปของพ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด  ************************* |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สมปอง
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 10-09-2007, 19:34 » |
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้ ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน |
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 10-09-2007, 19:46 » |
|
คตส.เชือดซ้ำ แม้ว-อ้อ ซุกหุ้น แฉเหลี่ยมถ่ายโอนผ่านนอมินี โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2550 19:16 น. ที่ประชุม คตส.ลงมติ แจ้งข้อหา แม้ว-อ้อ เพิ่มฐานซุกหุ้น งัด กม.ป.ป.ช.ฟัน กรณีตั้งบริษัทนอมินีถ่ายโอนทรัพย์สิน แถมใช้อำนาจแก้ไข กม.ถือหุ้นธุรกิจสัมปทานเอื้อประโยชน์ตระกูลชินวัตรและพวกพ้อง วันนี้ (10 ก.ย.) นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส.กล่าวภายหลังการประชุม ว่า คตส.มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและภรรยา ในคดีซุกหุ้น เนื่องจากที่ผ่านพบว่า มีการกระทำผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ป.ป.ช.ที่ห้ามไม่ให้รัฐมนตรีถือหุ้นธุรกิจสัมปทาน นายแก้วสรร กล่าวว่า พบมีการใช้หุ่นเชิดใช้ชื่อถือหุ้นแทน ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และยังพบว่าในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีมาตรการของรัฐ ที่ให้สัญญาหรือแก้ไขสัญญากับบริษัทในเครือชินคอร์ป โดยขัดกฎหมายหลายครั้ง ดังนั้น คตส.จึงเห็นว่าควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา ที่จะเปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนคดีที่ใช้อำนาจรัฐ เพื่อประโยชน์แก่ธุรกิจโทรคมนาคม ก็จะรายงานต่อคตส.ภายใน 1 สัปดาห์ รายละเอียดคำแถลงนายแก้วสรร
นายแก้วสรร แถลงว่า ธุรกรรมการโอนหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวชินวัตร ไปยังกลุ่มทุนเทมาเส็กที่บอกว่าไม่ต้องเสียภาษีนั้น ไม่ถูกต้อง เรายืนยันว่าหุ้น 329 ล้านหุ้น ในส่วนของบริษัทแอมเพิลริชนั้น ที่ขายให้กับเทมาเส็กต้องเสียภาษี เสนอกรมสรรพากรให้เรียกภาษีไปแล้ว 4.7 หมื่นล้านบาท ข้อนั้นเป็นเรื่องของภาษี แต่ขณะเดียวกันอีกมิติหนึ่งก็เป็นมิติในทางคดีคอร์รัปชั่น ว่า รัฐธรรมนูญใหม่ในปี 2540 รวมทั้งฉบับปัจจุบันกฎหมายปราบปรามการคอร์รัปชั่นใหม่ในปี 42 เห็นว่าการที่พ่อค้า นายทุนทั้งหลาย ที่จะมาเป็นรัฐบาลสิ่งที่น่าวิตกก็คือ การถือประโยชน์ทับซ้อน เพราะฉะนั้นกฎหมายที่สำคัญที่ควบคุมการถือหุ้นนี้ มีอยู่ 2 ข้อหลักๆ
1.ถ้าเป็นหุ้นธุรกิจสัมปทานแล้ว ห้ามถือเด็ดขาด เหตุเพราะว่าถ้าผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วบริษัทของผมได้สัมปทานโทรศัพท์ ผมก็ต้องถือประโยชน์สาธารณะที่จะดูแลบริการให้ได้คุณภาพ ราคายุติธรรม ขณะเดียวกันถืออีกประโยชน์หนึ่ง คือ เงินปันผล และมูลค่าหุ้น คนๆ เดียวกันมาถือ 2 ประโยชน์อย่างนี้ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมาตรา 100 ของพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.(3) กำหนดไว้ว่าผู้ที่เป็นรัฐมนตรีจะคงถือไว้ซึ่งหุ้นในบริษัทที่ได้สัมปทานจากรัฐไม่ได้ ถ้าละเมิดบทบัญญัติข้อนี้ ติดคุก 3 ปี ปัญหามีอยู่ว่าในปี 42 หลังจากที่มีกฎหมายเช่นนี้แล้ว ถ้าผมกำลังตั้งพรรคการเมือง และมีหวังจะเป็นนายกรัฐมนตรี และผมถือ หุ้นกับภรรยาชินคอร์ปอยู่ 49.6 เปอร์เซ็นต์ และมีกฎหมายตัวนี้บอกว่า คุณจะเป็นนายกฯ คุณต้องทิ้งหุ้น ผมจะตัดสินใจอย่างไร ทางแรก เคารพกฎหมายขายหุ้นทิ้งไปเลย และไม่ยุ่ง ทางที่ 2 หาตัวแทนเชิดมาถือหุ้นแทน หรือสิ่งที่เราเรียกก็ คือ ซุกหุ้น ตามที่เราเข้าใจกัน นายแก้วสรร กล่าวด้วยว่า หุ้นชินคอร์ปพอขายในต้นปี 49 ได้ราคา 73,300 ล้าน และไม่เสียภาษี ในกรณีนี้ได้ถูก คตส.ชี้ไปแล้วว่า ในส่วนภาษีนั้น สำหรับส่วนของแอมเพิลริช คุณต้องเสียภาษี 4.7 หมื่นล้านบาท กรมสรรพากรกำลังพิจารณาเพื่อจะเรียกเก็บต่อไป แต่ในมุมทางอาญาได้ตั้งคำถามว่า ท่านได้ทิ้งหุ้นชินคอร์ปจริงหรือเปล่า ข้อนี้ คตส.ได้ตรวจพบพฤติการณ์ที่มีลักษณะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจชินคอร์ป ในช่วงที่ท่านเป็นนายกฯ หลายประการ เราพบการตรากฎหมายสรรพสามิต ภาษีสรรพสามิต โทรคมนาคม เสร็จแล้วก็บอกบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายว่าจริงๆ ไม่ต้องเสียหรอก ไปหักจากค่าสัมปทานเถอะ ตัวนี้ทำให้รัฐวิสาหกิจของรัฐเสียประโยชน์ไป 30,000 ล้าน นี่เกิดในรัฐบาลของท่าน ขณะเดียวกัน กระทรวงไอซีที สหภาพแรงงาน ก็รายงานและฟ้องต่อ คตส.ว่ายังมีอีก เราได้พบการแก้ไขสัญญาให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่กับเอไอเอสว่า สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นระบบพรีเพด คือเติมเงิน ขอลดค่าสัมปทานได้ไหม จาก 25 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 20 องค์การโทรศัพท์ฯ ยอมตามนั้นโดยไม่มีเหตุผล รัฐเสียเงินทันที 40,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นมาตรการที่เอื้อประโยชน์เหล่านี้ทำให้ คตส.ต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ที่มีนายกล้านรงค์ เป็นประธาน และผมเป็นเลขาฯ นายบรรเจิด และมีอีก 2-3 ท่าน ให้รับหน้าที่ไต่สวนว่า 1. ท่านนายกฯ ได้สละหุ้นจริงไหม 2. ในระหว่างที่ท่านดำรงตำแหน่งในรัฐบาลได้มีการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป เพียงใดบ้าง 3. สิ่งที่ท่านเห็นอีกเรื่องหนึ่งคือที่คุณสักชี้แจง คือเรามองเห็นว่า ถ้าท่านนายกฯ ซุกหุ้นชินคอร์ปจริง และมีมาตรการเอื้อประโยชน์ต่อชินคอร์ปจริง ทั้งหมดนี้จะทำให้หุ้นชินคอร์ปกลายเป็นทรัพย์สินที่ท่านได้มาโดยมิสมควรแก่การใช้อำนาจหน้าที่ ตรงนี้ศัพท์เขาเรียกว่า ร่ำรวยผิดปกติ เพราะฉะนั้นเมื่อพบว่าเงินขายหุ้น 73,000 ล้าน โยกย้ายปกปิดกระจายตัวไป ออกไปต่างประเทศก็มี ตรงนี้เราถึงได้มีคำสั่ง มีมติให้อายัดทรัพย์ ในระหว่างที่อายัด หลายคนบอกว่า อายัดเท่าไรไม่จบไม่สิ้น 11 หนแล้ว วันนี้หนที่ 12 ไปเอาที่ดินเขาใหญ่เขาอีก คำตอบต้องขอเคลียร์อันนี้นะ เรามองและเราเชื่อว่า หุ้นชินคอร์ปถูกซุก และใช้อำนาจรัฐปรนเปรอหรือไม่ ถ้าใช่ หุ้นนี้เป็นทรัพย์สินที่มิสมควรได้โดยชอบ เป็นประโยชน์ที่มิสมควร ฉะนั้นเมื่อมันแปลงเป็นค่าหุ้น 73,000 เราตาม เมื่อมันแปลงเป็นที่ดิน เราตาม แปลงเป็นหลักทรัพย์ เราตาม อยู่ในมือพี่น้อง บริษัท ทนาย ไปไหน เข้าไทยคม มูลนิธิอะไรก็แล้วแต่ เราตามอายัด เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าอายัดเท่าไรไม่หยุด เราอายัด 73,000 ครับ และทุกวันนี้เราตามได้ประมาณ 65,000 เพราะฉะนั้นถ้าพบอีกก็ต้องเก็บให้ครบ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ซ้ำซากนะ เป็นการตามเงินตัวนี้ให้ได้ เพราะฉะนั้นประเด็นวันนี้เป็นก้าวสำคัญอีก ขอชี้แจงดังต่อไปนี้ พอเราอายัดเขาไว้ แล้วคดีจริงๆ มันจะขึ้นสู่ศาลเมื่อไร การที่คดีจะขึ้นสู่ศาล ประเด็นแรกที่ คตส.จะต้องมีมติให้ได้ก็คือว่า จริงหรือไม่ว่าหุ้นชินคอร์ปยังเป็นของอดีตนายกฯ ทักษิณ และภริยา ถ้าไม่จริง หยุดยุ่งเรื่องหุ้นชินคอร์ป เรื่องอาญานี่เลิกไปเลย 73,000 ที่จะยึดเป็นของแผ่นดินโดยอาศัยเรื่องหุ้นชินคอร์ปนี่ หยุด ส่วนจะยึดโดยความผิดอื่น http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000106877**************** จัดปายยย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Tam-mic-ra
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 10-09-2007, 20:59 » |
|
จะเข้ามาอ่านหาข้อมูลสักหน่อย เห็น บรรทัดแรก มีคำว่า คตส.
ผมก็เลิกอ่านระ ไม่ไหว ไร้ความเป็นกลาง หาเรื่องใส่ร้ายเกินไป 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 10-09-2007, 21:15 » |
|
จะเข้ามาอ่านหาข้อมูลสักหน่อย เห็น บรรทัดแรก มีคำว่า คตส.
ผมก็เลิกอ่านระ ไม่ไหว ไร้ความเป็นกลาง หาเรื่องใส่ร้ายเกินไป เค้าไม่ได้ใส่ร้ายถ้าใส่ร้ายป่านนี้ไอแม้วมันโดนเป็นร้อยคดีแล้วคดีที่ไอแม้วโดนมันก็เนื้อๆทั้งนั้นไม่ใช่นำหนะคุณคุณเอียงเองหรือเปล่า  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ชัย คุรุ เทวา โอม
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 10-09-2007, 21:23 » |
|
มันขาดความอบอุ่นแน่เลย ซุกน่าดู |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..." คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน (How the Steel Was Tempered) นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933 ******************************* เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ http://www.oknation.net/blog/amalit1990 |
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 10-09-2007, 21:40 » |
|
แจ้งข้อหาซุกหุ้นทักษิณอายัดที่ดิน'พานทองแท้' [10 ก.ย. 50 - 21:15]
วันนี้ (10 ก.ย.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) พร้อมด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. ร่วมกันแถลงผลการประชุมใหญ่ คตส. ว่า ที่ประชุมมีมติให้คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารงานโดยมิชอบ ในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง แจ้งข้อกล่าวหาต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา หลังตรวจสอบพบว่าการกระจายชื่อผู้ถือครองหุ้นชินคอร์ป จำนวน ร้อยละ 49.6 เมื่อปี 2542-2543 ภายใต้ชื่อ บริษัท แอมเพิลริช ไม่ใช่เป็นการขายหุ้นที่แท้จริง แต่ถูกใช้ชื่อถือหุ้นแทน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงข้อห้ามตามกฎหมาย ที่ห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นธุรกิจสัมปทานและห้ามมิให้บริษัทที่รัฐมนตรีถือหุ้นเป็นคู่สัญญากับรัฐ บุคคลทั้ง 2 คน จึงมีความผิดตามมาตรา 100 (3) ของกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีโทษจำคุกถึง 3 ปี และมีความผิดต่างกรรมต่างวาระในหลายข้อหา นายสัก กล่าวต่อว่า คตส.มีมติให้คณะอนุกรรมการฯ แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้ง 2 คน ภายใน 7 วัน พร้อมเปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ขณะที่การดำเนินคดีในส่วนการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจโทรคมนาคมของตนเองนั้น ให้รายงานผลต่อ คตส. ภายใน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังเสนอให้กรมสรรพากร เรียกเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป กับแอมเพิลริช จำนวน 4.7 หมื่นล้านบาทด้วย โฆษก คตส. กล่าวด้วยว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบติดตามทรัพย์สินของบุคคลที่ คตส. มีคำสั่งให้อายัด มีคำสั่งให้เพิกถอนการอายัดทรัพย์สินและบัญชีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังตรวจสอบพบว่าเป็นการนำเงินไปชำระหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ขณะเดียวกันยังได้สั่งอายัดทรัพย์ที่ดินจำนวน 4 แปลง ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี ที่พบว่ามีการนำเงินจากการขายหุ้นที่ถูกอายัดทรัพย์ไปซื้อที่ดินดังกล่าว http://www.thairath.com/onlineheadnews.html?id=60616*********** ไทยรัฐลงข่าวนี้ด้วยล่ะ 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 10-09-2007, 21:46 » |
|
น้ำลดตอผุดเรื่อยๆเลยแฮะ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^   |
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 10-09-2007, 22:27 » |
|
วันก่อนเพิ่งจะมีคนบอกว่าแอมเพิลริช เปิดไว้ที่เกาะ BVI เฉยๆ ไม่ได้ทำธุรกรรมอะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วหุ้นที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในตารางนี้มันหุ้นในมือแอมเพิลริชไม่ใช่หรือ รีบมาแก้ตัวด่วน! |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.=
== นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 10-09-2007, 22:46 » |
|
วันก่อนเพิ่งจะมีคนบอกว่าแอมเพิลริช เปิดไว้ที่เกาะ BVI เฉยๆ ไม่ได้ทำธุรกรรมอะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วหุ้นที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในตารางนี้มันหุ้นในมือแอมเพิลริชไม่ใช่หรือ รีบมาแก้ตัวด่วน! ช่อง 14 ไม่เท่ากับ ช่อง 1 เรอะ ก็แค่เปลี่ยนที่วางของในบ้าน ถ้าพานทองแท้บอกว่าเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แล้วใครจะทำ อะไรได้ ก็เอกสารมันออกมาแบบนั้นอยู่แล้ว ชอบจินตนาการ นอกเอกสารซะเรื่อย แบบนี้จะมั่วไปแบบไหนก็ได้เพราะไม่ต้อง ใช้เอกสารมายืนยัน แค่เชื่อได้ว่าตามฟอร์มอีกแล้ว |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 10-09-2007, 23:23 » |
|
ช่อง 14 ไม่เท่ากับ ช่อง 1 เรอะ ก็แค่เปลี่ยนที่วางของในบ้าน
ถ้าพานทองแท้บอกว่าเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แล้วใครจะทำ
อะไรได้ ก็เอกสารมันออกมาแบบนั้นอยู่แล้ว ชอบจินตนาการ
นอกเอกสารซะเรื่อย แบบนี้จะมั่วไปแบบไหนก็ได้เพราะไม่ต้อง
ใช้เอกสารมายืนยัน แค่เชื่อได้ว่าตามฟอร์มอีกแล้ว
น้องพาน ไม่เกี่ยวมั๊ง อย่าเพิ่งไปหาคลุกให้เด็กเลย โอกาสยังมี น่ะ ๆ แค่โดนอายัด ที่หมูสี ไปสี่แปลง ก็เก้าขาไปครึ่ง แล้วน่ะนั่น  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปุถุชน
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 10-09-2007, 23:50 » |
|
จะเข้ามาอ่านหาข้อมูลสักหน่อย เห็น บรรทัดแรก มีคำว่า คตส.
ผมก็เลิกอ่านระ ไม่ไหว ไร้ความเป็นกลาง หาเรื่องใส่ร้ายเกินไป ถ้าปิดหู ปิดตา ปิดปาก ไม่ติดตาม ก็ไม่มีโอกาสรู้ว่า
ทักษิณ จำเลยหนี"หมายจับ"นั้น "ซุกหุ้น" อีกแล้ว ๆ ๆ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 11-09-2007, 00:07 » |
|
ช่อง 14 ไม่เท่ากับ ช่อง 1 เรอะ ก็แค่เปลี่ยนที่วางของในบ้าน
ถ้าพานทองแท้บอกว่าเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แล้วใครจะทำ
อะไรได้ ก็เอกสารมันออกมาแบบนั้นอยู่แล้ว ชอบจินตนาการ
นอกเอกสารซะเรื่อย แบบนี้จะมั่วไปแบบไหนก็ได้เพราะไม่ต้อง
ใช้เอกสารมายืนยัน แค่เชื่อได้ว่าตามฟอร์มอีกแล้ว
ถ้าพานทองแท้มาบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของ WinMark ด้วยก็กลายเป็นการ "แจ้งย้อนหลัง" อีกรอบ เพราะคราวนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่แอมเพิลริชอย่างเดียว แต่พันไปถึง WinMark ด้วยนะครับ แล้วใครนะบอกว่าแอมเพิลริชเปิดมาเฉยๆ ไม่ได้ทำธุรกิจธุรกรรมอะไรทั้งนั้น (สงสัยจะเป็นท่านท้าวฯ) จะเห็นว่ามีการโยกไปย้ายมาตลอดเวลา ถ้าเกิดโดนจับได้อีกว่าหุ้น 3 ร้อยล้านหุ้นนี้นำมาใช้ "ปั่นหุ้น" คงจะสนุกสนานกันใหญ่ ได้คดีเพิ่มเข้าไปอีก ยังสงสัยว่า พานทองแท้ จะอยากรับว่าเป็นคนจัดการทั้งหมดอีกไหม .. เวรกรรมจริงๆ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.=
== นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|
Tuba ✿ﾟ✎..✿.｡.:｡ღ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 11-09-2007, 00:07 » |
|
จะเข้ามาอ่านหาข้อมูลสักหน่อย เห็น บรรทัดแรก มีคำว่า คตส.
ผมก็เลิกอ่านระ ไม่ไหว ไร้ความเป็นกลาง หาเรื่องใส่ร้ายเกินไป ไปหาในพันทิบดิครับ จะได้เป็นกลาง แต่คงจะกลางหว่างขาไอ้เหลี่ยม กัน พจมาร นะครับ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทหาร เป็นอะไรก็ไม่ได้ดี นอกจากเป็นทหาร
ตำรวจ เป็นอะไรก็ดีไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นตำรวจ
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 11-09-2007, 00:09 » |
|
สรุปประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง แอมเพิลริช กับ วินมาร์ค จากกรณี "ซุกหุ้น" คราวนี้- บริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนต์ (API) และบริษัทวินมาร์ค ลิมิเต็ด (WinMark) จดทะเบียนในเลขที่เดียวกันบนเกาะ BVI
- API เปิดบัญชีในบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น แอสเสทพลัส ในไทย และยูบีเอสเอจี (UBS) ในสิงคโปร์
โดยมีทักษิณเป็นผู้มีอำนาจลงนามมาตั้งแต่ต้น จนถึงเดือน กค.48
- WinMark เปิดบัญชีที่ Vickers เพื่อถือหุ้น SHIN 55 ล้านหุ้น
- API ก็เปิดบัญชีที่ Vickers โอนหุ้น SHIN ไปพักไว้ 100 ล้านหุ้น
- WinMark เปิดบัญชีที่ UBS หลายบัญชีเช่นบัญชี UBS002, UBS006
- ทักษิณไม่เคยยอมรับว่า WinMark เป็นของตน แต่มีการโอนหุ้นระหว่าง WinMark กับ API มาโดยตลอด
- API มีการใช้บัญชี UBS002 ที่เปิดโดย WinMark ถือหุ้น SHIN ร่วมกับ WinMark เริ่มต้นจากโอนหุ้น SHIN
100 ล้านหุ้นจาก Vickers มาไว้รวมกับหุ้น SHIN 55 ล้านหุ้นที่ WinMark โอนมาจาก Vickers ที่เดียวกัน
- หลังจากโอนหุ้นไปมาในที่สุดหุ้น SHIN ในมือ API และ WinMark ก็ขายไปให้กับ Themasek--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บรรยายประกอบแผนผังการโอนหุ้น SHIN ในมือ API และ WinMark- 11มิย42 ทักษิณโอนหุ้น SHIN 32.92 ล้านหุ้นให้ API โดยเปิดบัญชีไว้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ AssetPlus ที่ประเทศไทย
ขณะเดียวกัน WinMark เปิดบัญชีกับ วิคเคอร์บัลลาส (Vickers) ในสิงคโปร์ ถือหุ้น SHIN ไว้ 55 ล้านหุ้น
- 13มค43 API โอนหุ้น SHIN 100 ล้านหุ้นไปฝากไว้กับ Vickers บริษัทเดียวกับที่ WinMark เปิดบัญชีไว้ก่อนหน้า
- 30มีค44 WinMark โอนหุ้น SHIN 54 ล้านหุ้นจาก Vickers ไปเปิดบัญชีไว้ที่ UBS (บัญชี UBS002)
- 22สค44 API โอนหุ้น SHIN 100 ล้านหุ้นจาก Vickers ตามมาอยู่ในบัญชี UBS002 ของ WinMark
- 10กย44 WinMark โอนหุ้น SHIN ที่เหลือ 1 ล้านหุ้นจาก Vickers มารวมไว้ที่ UBS002
- 10ตค44 WinMark เปิดบัญชีใหม่ที่ UBS อีก 1 บัญชี (UBS006) โอนหุ้น SHIN 54 ล้านหุ้นจาก UBS002 ไปฝากไว้
- 19กย45 API โอนหุ้น 17 ล้านหุ้นจากบัญชี UBS002 ให้กับ StandCharter
- 4ตค45 WinMark โอนหุ้น 17 ล้านหุ้นจากบัญชี UBS006 ไปเข้าบัญชี UBS002 ส่วนของ API เพื่อให้มี 100 ล้านหุ้นเท่าเดิม
- 22พค46 API โอนหุ้น 100 ล้านหุ้นจาก UBS002 (บัญชีของ WinMark) มาไว้ในบัญชี UBS007 ที่เปิดขึ้นใหม่
- 28พค46 API โอนหุ้น 229 ล้านหุ้นจากบัญชี AssetPlus ทั้งหมดมาพักไว้ที่บัญชี UBS002 (บัญชีของ WinMark)
- 13กค47 StandardCharter โอนหุ้น 18 ล้านหุ้นที่เคยได้รับโอนจาก API มาเข้าบัญชี UBS002 ของ WinMark
- 13ตค47 WinMark มีหุ้น SHIN ในบัญชี UBS002 เพิ่มขึ้นเป็น 55 ล้านหุ้น (คาดว่าโอนจาก UBS006 มารวมกันไว้)
- 31มีค48 API โอนหุ้น 229 ล้านหุ้นจากบัญชี UBS002 มาไว้ที่ UBS007 รวมกับของเดิม 100 ล้านหุ้นเป็น 329 ล้านหุ้น
- กค48 API มีการเปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจลงนามจากทักษิณเป็นพานทองแท้และ พิณทองทา
- 23มค49 API ขายหุ้น SHIN 329 ล้านหุ้นให้กับพานทองแท้และพิณทองทา นำไปขายให้กับ Themasek
- 15มีค49 WinMark ซื้อหุ้นมาเก็บในบัญชี UBS002 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 113 ล้านหุ้นนำไปขายให้ Themasek อีก 74 ล้านหุ้น--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- รู้สึกว่าจะใกล้ชิดสนิทสนมกับเหลือเกินนะครับสองบริษัทนี้ สงสัยทักษิณจะรู้ว่าเจ้าของ WinMark เป็นใคร
|
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2007, 00:34 โดย jerasak »
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.=
== นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|
|
|
so what?
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 11-09-2007, 00:38 » |
|
มีคนนี้อีกคนครับ ข้อหาเดียวกันเลย คอรัปชั่น ฟอกเงิน ซุกซ่อนสมบัติ http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/6986584.stmโดนรัฐบาลทหารส่งไปทัวร์ซะแปดปี แถมพอจะกลับมาสู้คดีเค้ายังจับเนรเทศต่ออีก เป็นไงครับ รัฐบาลทหารประเทศอื่นเค้า เมื่อเทียบกับเผด็จการขิงแก่  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สมปอง
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 11-09-2007, 07:44 » |
|
โดนแค่นี้เองเหรอ
น้อยจัง
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่ ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้ ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน |
|
|
|
NA-KORN
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 11-09-2007, 08:09 » |
|
มันไม่น่ารอดตั้งแต่ซุกฯภาค 1 แล้ว แต่ยังมีพวกหลงไหลไข่แม้วออกมาแก้ตัวให้มันอีก คตส.ก็มัวแต่ช้าจนจะหมดอายุอยู่แล้ว
ยังไม่ไปถึงไหนเลย ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาท้าทายอยู่อีก เห็นแล้วโมโหจริง ๆ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 11-09-2007, 09:58 » |
|
มีคนนี้อีกคนครับ ข้อหาเดียวกันเลย คอรัปชั่น ฟอกเงิน ซุกซ่อนสมบัติ http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/6986584.stmโดนรัฐบาลทหารส่งไปทัวร์ซะแปดปี แถมพอจะกลับมาสู้คดีเค้ายังจับเนรเทศต่ออีก เป็นไงครับ รัฐบาลทหารประเทศอื่นเค้า เมื่อเทียบกับเผด็จการขิงแก่ ไอคนเนี้ยอะเป็นเพื่อนบ้านไอแม้วนะคู้นนนลี้ภัยอยู่ประเทศเดียวกันด้วยน้าสงสัยจะเป็นลูกพี่ไอแม้วอะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 11-09-2007, 10:23 » |
|
คตส.เปิดธุรกรรมลับ!ชินวัตร-แอมเพิลริช-วินมาร์คโอนเงินไปนอก 8,650 ล้าน รายงานผลการตรวจสอบผู้ถือหุ้นชินคอร์ปที่แท้จริงที่นำเสนอ คตส.เปิดโปงธุรกรรมลับของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ทำผ่านแอมเพิลริชและวินมาร์คทั้งการโยกย้ายและกว้านซื้อหุ้นก่อนที่จะขายให้แก่เทมาเส็กเพื่อทำกำไรจำนวนมหาศาล รวมทั้งเป็นช่องทางในการโอนเงินไปนอกกว่า8,600ล้าน 
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 11-09-2007, 11:08 » |
|
สรุป จะยัดเยียดความเป็นเจ้าของให้ทักษิณเรอะ ด้วยวิธี นอมินี่ และ เชื่อได้ว่า แบบนี้ถ้าทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็อย่าลืม กุหลาบแก้ว พงส์ ไทยพาณิชย์ ว่าอยู่ดีๆ มาเกี่ยวกะดีลนี้ได้ยังไง ใครสั่งบุคคลเหล่านี้ได้ แล้วจะหนาว เหอ เหอ ถ้าวินมาร์คดันไม่ใช่ของทักษิณจริงๆ เปิดชื่อเจ้าของออกมาแล้วจะยอมรับกัน ได้หรือเปล่าล่ะ เดี๋ยวทำปิดตาข้างนึงอย่างเรื่อง กุหลาบแก้วอีก |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 11-09-2007, 11:20 » |
|
สรุป จะยัดเยียดความเป็นเจ้าของให้ทักษิณเรอะ ด้วยวิธี นอมินี่ และ เชื่อได้ว่า แบบนี้ถ้าทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็อย่าลืม กุหลาบแก้ว พงส์ ไทยพาณิชย์ ว่าอยู่ดีๆ มาเกี่ยวกะดีลนี้ได้ยังไง ใครสั่งบุคคลเหล่านี้ได้ แล้วจะหนาว เหอ เหอ ถ้าวินมาร์คดันไม่ใช่ของทักษิณจริงๆ เปิดชื่อเจ้าของออกมาแล้วจะยอมรับกัน ได้หรือเปล่าล่ะ เดี๋ยวทำปิดตาข้างนึงอย่างเรื่อง กุหลาบแก้วอีก |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 11-09-2007, 11:36 » |
|
สรุป จะยัดเยียดความเป็นเจ้าของให้ทักษิณเรอะ ด้วยวิธี นอมินี่ และ เชื่อได้ว่า แบบนี้ถ้าทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็อย่าลืม กุหลาบแก้ว พงส์ ไทยพาณิชย์ ว่าอยู่ดีๆ มาเกี่ยวกะดีลนี้ได้ยังไง ใครสั่งบุคคลเหล่านี้ได้ แล้วจะหนาว เหอ เหอ ถ้าวินมาร์คดันไม่ใช่ของทักษิณจริงๆ เปิดชื่อเจ้าของออกมาแล้วจะยอมรับกัน ได้หรือเปล่าล่ะ เดี๋ยวทำปิดตาข้างนึงอย่างเรื่อง กุหลาบแก้วอีก ก็ถ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้วทำไม API/ WinMark ถึงทำธุรกรรมพัวพันกันไปมาตลอดหลายปี โดยมีการใช้บัญชีเดียวกัน ( UBS002) ที่ WinMark เปิดไว้กับบริษัทหลักทรัพย์ UBS AG ตอนแรกๆ ก็ทำธุรกรรมผ่านบัญชีที่ Vickers เหมือนกันก่อนพากันโอนมาที่ UBS002 - 11มิย42 ทักษิณโอนหุ้น SHIN 32.92 ล้านหุ้นให้ API โดยเปิดบัญชีไว้ที่ บริษัทหลักทรัพย์ AssetPlus ที่ประเทศไทย ขณะเดียวกัน WinMark เปิดบัญชีกับ วิคเคอร์บัลลาส ( Vickers) ในสิงคโปร์ ถือหุ้น SHIN ไว้ 55 ล้านหุ้น - 13มค43 API โอนหุ้น SHIN 100 ล้านหุ้นไปฝากไว้กับ Vickers บริษัทเดียวกับที่ WinMark เปิดบัญชีไว้ก่อนหน้า - 30มีค44 WinMark โอนหุ้น SHIN 54 ล้านหุ้นจาก Vickers ไปเปิดบัญชีไว้ที่ UBS (บัญชี UBS002) - 22สค44 API โอนหุ้น SHIN 100 ล้านหุ้นจาก Vickers ตามมาอยู่ในบัญชี UBS002 ของ WinMark- 10กย44 WinMark โอนหุ้น SHIN ที่เหลือ 1 ล้านหุ้นจาก Vickers มารวมไว้ที่ UBS002- 10ตค44 WinMark เปิดบัญชีใหม่ที่ UBS อีก 1 บัญชี (UBS006) โอนหุ้น SHIN 54 ล้านหุ้นจาก UBS002 ไปฝากไว้ - 19กย45 API โอนหุ้น 17 ล้านหุ้นจากบัญชี UBS002 ให้กับ StandCharter - 4ตค45 WinMark โอนหุ้น 17 ล้านหุ้นจากบัญชี UBS006 ไปเข้าบัญชี UBS002 ส่วนของ API เพื่อให้มี 100 ล้านหุ้นเท่าเดิม - 22พค46 API โอนหุ้น 100 ล้านหุ้นจาก UBS002 (บัญชีของ WinMark) มาไว้ในบัญชี UBS007 ที่เปิดขึ้นใหม่ - 28พค46 API โอนหุ้น 229 ล้านหุ้นจากบัญชี AssetPlus ทั้งหมดมาพักไว้ที่บัญชี UBS002 (บัญชีของ WinMark) - 13กค47 StandardCharter โอนหุ้น 18 ล้านหุ้นที่เคยได้รับโอนจาก API มาเข้าบัญชี UBS002 ของ WinMark- 13ตค47 WinMark มีหุ้น SHIN ในบัญชี UBS002 เพิ่มขึ้นเป็น 55 ล้านหุ้น (คาดว่าโอนจาก UBS006 มารวมกันไว้) - 31มีค48 API โอนหุ้น 229 ล้านหุ้นจากบัญชี UBS002 มาไว้ที่ UBS007 รวมกับของเดิม 100 ล้านหุ้นเป็น 329 ล้านหุ้น - กค48 API มีการเปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจลงนามจากทักษิณเป็นพานทองแท้และ พิณทองทา - 23มค49 API ขายหุ้น SHIN 329 ล้านหุ้นให้กับพานทองแท้และพิณทองทา นำไปขายให้กับ Themasek - 15มีค49 WinMark ซื้อหุ้นมาเก็บในบัญชี UBS002 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 113 ล้านหุ้นนำไปขายให้ Themasek อีก 74 ล้านหุ้น ..โอกาสก็มีให้อธิบายมาตั้งหลายปีแล้วเหมือนกัน แต่ทักษิณไม่เคยอธิบายมีแต่เดินหนีลูกเดียว.. |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2007, 11:48 โดย jerasak »
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.=
== นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 11-09-2007, 11:42 » |
|
คุณjerasakครับ มีหลักฐานการโอนหุ้นแบบนี้
พอจะใช้กฎหมายปั่นหุ้นจัดการได้อีกข้อไหมครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 11-09-2007, 11:47 » |
|
สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้ส่งข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในการนี้ คณะพนักงานสอบสวน ซึ่งมีพนักงานอัยการ และผู้แทนสำนักงาน ก.ล.ต. เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาด้วย ได้สอบสวนในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ แล้ว พบพยานหลักฐานที่ทำให้น่าเชื่อว่า Win Mark VIF OGF และ ODF เป็นนิติบุคคลที่อำพรางการถือหุ้น (Nominee) ของพ.ต.ท. ทักษิณฯ และภรรยา จึงแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ และภรรยา เป็นเจ้าของหุ้นและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจดำเนินการเกี่ยวกับหุ้น SC Asset และหุ้นของบริษัทในครอบครัวชินวัตรอีก ๕ แห่งที่ถือโดยนิติบุคคลดังกล่าวมาโดยตลอดhttp://www.dsi.go.th/dsi/news_index.jsp?id=1700เอามาให้อ่าน ฉบับเต็มก็ไปตามลิ้งค์น่ะครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
jerasak
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 11-09-2007, 11:50 » |
|
คุณjerasakครับ มีหลักฐานการโอนหุ้นแบบนี้
พอจะใช้กฎหมายปั่นหุ้นจัดการได้อีกข้อไหมครับ
ปัญหาคือตลาดหลักทรัพย์จะร่วมมือด้วยหรือเปล่าสิครับ ที่ผ่านมาผมเคยตรวจสอบบุคคลากรในนั้นแล้ว..เซ็งครับ  |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
= A dreamer lives for eternity.=
== นักฝันมีชีวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 11-09-2007, 12:01 » |
|
ปัญหาคือตลาดหลักทรัพย์จะร่วมมือด้วยหรือเปล่าสิครับ ที่ผ่านมาผมเคยตรวจสอบบุคคลากรในนั้นแล้ว..เซ็งครับ ครับ บอร์ดที่เอื้อทำให้เกิดคำว่า "ติ๊กผิด" ดูแล้วก็ท่าทางจะเป็นไปได้ยากจริงๆ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 11-09-2007, 12:15 » |
|
ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าการเคารพเทิดทูนคนที่ตัวเองรัก จะทำให้คนเรามีอัตตาสูงถึงขั้นขาดเหตุขาดผลไปได้ขนาดนี้ ทั้งนี้ก็บวกกับความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ของคนเราด้วยแหละ  สงสารประเทศไทย ที่มีพวกวิญญาณคนพม่าที่ตายตอนสู้รบกับสยามสมัยนั้นมาเกิดเป็นคนไทยไม่รักชาติพวกนี้ คงตั้งใจจะมาแก้แค้นแผ่นดินไทยให้ถึงที่สุด เอาเป็นว่ารีบไปผุดไปเกิดที่อื่นเถอะนะ จะทำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้นะแถนะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^ |
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 11-09-2007, 14:43 » |
|
พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 (3) ที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือ เข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว
ข้อหาเดียวกับที่ประเทศลาวเลย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
|
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 11-09-2007, 19:25 » |
|
ใครช่วยแปลภาษาอังกฤษ ให้ หน่อยซิครับ....ผมไม่ค่อยสันทัด....." Any withdrawal is authorized by Mr. T. Shinawatra "
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 11-09-2007, 19:42 » |
|
ถ้าให้เดา ตัว ที ก็น่าจะเป็นคำย่อมาจาก คุณทึ๊ด ล่ะครับ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 11-09-2007, 22:34 » |
|
แถลงการณ์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ณ วันที่ 11 กันยายน 2550
ตามที่ คตส. ได้แถลงข่าวเรื่องการซุกหุ้นของบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นรอบสอง โดยมีการกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นเจ้าของหุ้นแอมเปิ้ลริช และเป็นเจ้าของกองทุนวินมาร์ค และกล่าวอ้างต่างๆนานาว่ามีหลักฐานข้อมูลที่คตส. อ้างว่าเชื่อถือและนำมาเป็นเหตุในการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นที่น่าสังเกตุว่าข้อมูลที่ คตส. นำมากล่าวอ้างนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลใหม่แต่อย่างใด เป็นเรื่องที่มีการชี้แจงต่อ คตส. แล้ว แต่ คตส. เลือกที่จะดูข้อมูลบางส่วนบางตอน มาพยายามสร้างเรื่อง ซุกหุ้น รอบสองขึ้นมาใหม่
ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องประชาชนรับทราบดังนี้
ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นเจ้าของบริษัทแอมเปิ้ลริชจริง แต่ได้มีการโอนขายหุ้นทั้งหมดในบริษัทดังกล่าวให้แก่บุตรชายและบุตรสาวแล้วตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว และเรื่องนี้ก็ได้มีการรายงานให้คณะกรรมการ กลต.ทราบและก็ได้มีการชี้แจงทางการเมืองให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทราบแล้ว ส่วนเอกสารที่ คตส นำมากล่าวอ้างว่า ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นผู้มีอำนาจลงนามสั่งการในบัญชีหุ้นของบริษัท แอมเปิ้ลริชตลอดเวลาที่ท่านยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ข้อมูลที่ทาง คตส. ขอไปก็เป็นเพียงเอกสารในการเปิดบัญชีหลายปีก่อนท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายก ซึ่งภายหลังจากที่ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ขายหุ้นชินคอร์ปไปหมดแล้ว ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรก็มิได้เป็นเจ้าของหรือผู้มีอำนาจลงนามในบัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด ความจริง ในการตรวจสอบของ คตส. ถ้ามีใจเป็นธรรม คตส.ก็ควรจะสอบสวน หรือตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะมาสรุปเอาเองโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบเช่นนี้
ข้อกล่าวหาที่ว่าท่านซุกหุ้นผ่านกองทุนวินมาร์คนั้นเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล และขณะนี้ทาง ดีเอสไอก็อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้อยู่และยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่ คตส.กลับสามารถสรุปประเด็นนี้ได้เองเหมือนแอมเปิ้ลริช การโอนหุ้นโดยธนาคารที่ทำหน้าที่เป็นคัสโตเดียนก็เป็นธุรกรรมการลงทุนโดยทั่วไปของนักลงทุนซึ่งไม่ได้มีอะไรชอบมาพากลหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด
ทาง คตส กล่าวอ้างว่ามีการโอนเงินปันผลของบริษัทชินคอร์ปเข้าบัญชีของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร จึงเป็นเหตุที่ทางคตส.มากล่าวอ้างว่าหุ้นทั้งหมดของชินคอร์ปยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตลอดเวลาที่ท่านยังเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นข้ออ้างว่าท่านอดีตนายกฯซุกหุ้นรอบสอง และอ้างต่อไปด้วยว่าด้วยเหตุนี้ ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจึงดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มชินคอร์ปซึ่งคตส.อ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอยู่ตลอดเวลา ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า ท่านได้ขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่บุตร ธิดา ก่อนท่านเข้ารับตำแหน่งนายกฯ และเมื่อบุตรธิดาของท่านได้รับเงินปันผลค่าหุ้นของชินคอร์ปมา ก็นำเงินดังกล่าวมาชำระหนี้ค่าหุ้นโดยจ่ายเข้าบัญชีคุณหญิงพจมาน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องทั้งตามกฏหมายและตามทำนองคลองธรรม และขอเรียนยืนยันว่าภายหลังจากที่มีการโอนขายหุ้นชินคอร์ปไปแล้ว ทั้งท่านพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน
ชินวัตร ไม่เคยได้รับเงินปันผลจากชินคอร์ปอีกเลย
ในขณะที่ทางคตส.มากล่าวอ้างว่า ทั้งบริษัทแอมเปิ้ลริช กองทุนวินมาร์ค และการโอนขายหุ้นให้บุตรธิดาของท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น ตัวแทนเชิด ในอีกคดีหนึ่ง คตส.เองกลับไปมีคำวินิจฉัยว่า นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร ได้ซื้อหุ้นจากบริษัทแอมเปิ้ลริช มาขายให้กองทุนเทมาเสคในราคาต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่เสียภาษี โดยในคดีภาษีอากรดังกล่าว คตส. รับรองว่าหุ้นของแอมเปิ้ลริช และหุ้นของชินคอร์ปเป็น กรรมสิทธิ์ ของ นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร และ คตส.ได้มีคำสั่งให้กรมสรรพากรทำการประเมินภาษีสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวด้วย จึงต้องถาม คตส.ว่าตกลง คตส.มีกี่มาตรฐาน มีกี่สมมติฐานในการดำเนินการสอบสวนและตั้งข้อกล่าวหา ถ้า คตส. กลับลำมากล่าวอ้างว่าหุ้นของแอมเปิ้ลริช และหุ้นชินคอร์ปเป็นของท่านพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็จะขัดกับการกล่าวหาในคดีประเมินภาษี จึงต้องเรียนถามด้วยว่าถ้า คตส.กลับลำแบบนี้ จะยกเลิกการประเมินภาษีนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตรหรือไม่
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
irq5
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 11-09-2007, 23:11 » |
|
 มะรู้ครับต้องคุยกับทนายของคุณพ่อ เอ๊ยไม่ใช่ๆ ลบเทปไปนะครับ ต้อคุยกับทนายที่พี่ดวงตา จ้างไว้ให้หนะครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..
....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
|
|
|
|
ปรมาจารย์เจได
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 12-09-2007, 02:28 » |
|
แถลงการณ์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ณ วันที่ 11 กันยายน 2550
ตามที่ คตส. ได้แถลงข่าวเรื่องการซุกหุ้นของบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นรอบสอง โดยมีการกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นเจ้าของหุ้นแอมเปิ้ลริช และเป็นเจ้าของกองทุนวินมาร์ค และกล่าวอ้างต่างๆนานาว่ามีหลักฐานข้อมูลที่คตส. อ้างว่าเชื่อถือและนำมาเป็นเหตุในการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นที่น่าสังเกตุว่าข้อมูลที่ คตส. นำมากล่าวอ้างนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลใหม่แต่อย่างใด เป็นเรื่องที่มีการชี้แจงต่อ คตส. แล้ว แต่ คตส. เลือกที่จะดูข้อมูลบางส่วนบางตอน มาพยายามสร้างเรื่อง ซุกหุ้น รอบสองขึ้นมาใหม่
ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงให้พี่น้องประชาชนรับทราบดังนี้
ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นเจ้าของบริษัทแอมเปิ้ลริชจริง แต่ได้มีการโอนขายหุ้นทั้งหมดในบริษัทดังกล่าวให้แก่บุตรชายและบุตรสาวแล้วตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว และเรื่องนี้ก็ได้มีการรายงานให้คณะกรรมการ กลต.ทราบและก็ได้มีการชี้แจงทางการเมืองให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทราบแล้ว ส่วนเอกสารที่ คตส นำมากล่าวอ้างว่า ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นผู้มีอำนาจลงนามสั่งการในบัญชีหุ้นของบริษัท แอมเปิ้ลริชตลอดเวลาที่ท่านยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ข้อมูลที่ทาง คตส. ขอไปก็เป็นเพียงเอกสารในการเปิดบัญชีหลายปีก่อนท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายก ซึ่งภายหลังจากที่ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ขายหุ้นชินคอร์ปไปหมดแล้ว ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรก็มิได้เป็นเจ้าของหรือผู้มีอำนาจลงนามในบัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด ความจริง ในการตรวจสอบของ คตส. ถ้ามีใจเป็นธรรม คตส.ก็ควรจะสอบสวน หรือตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะมาสรุปเอาเองโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบเช่นนี้
ข้อกล่าวหาที่ว่าท่านซุกหุ้นผ่านกองทุนวินมาร์คนั้นเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล และขณะนี้ทาง ดีเอสไอก็อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้อยู่และยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่ คตส.กลับสามารถสรุปประเด็นนี้ได้เองเหมือนแอมเปิ้ลริช การโอนหุ้นโดยธนาคารที่ทำหน้าที่เป็นคัสโตเดียนก็เป็นธุรกรรมการลงทุนโดยทั่วไปของนักลงทุนซึ่งไม่ได้มีอะไรชอบมาพากลหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด
ทาง คตส กล่าวอ้างว่ามีการโอนเงินปันผลของบริษัทชินคอร์ปเข้าบัญชีของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร จึงเป็นเหตุที่ทางคตส.มากล่าวอ้างว่าหุ้นทั้งหมดของชินคอร์ปยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตลอดเวลาที่ท่านยังเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นข้ออ้างว่าท่านอดีตนายกฯซุกหุ้นรอบสอง และอ้างต่อไปด้วยว่าด้วยเหตุนี้ ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรจึงดำเนินการต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มชินคอร์ปซึ่งคตส.อ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอยู่ตลอดเวลา ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่า ท่านได้ขายหุ้นชินคอร์ปให้แก่บุตร ธิดา ก่อนท่านเข้ารับตำแหน่งนายกฯ และเมื่อบุตรธิดาของท่านได้รับเงินปันผลค่าหุ้นของชินคอร์ปมา ก็นำเงินดังกล่าวมาชำระหนี้ค่าหุ้นโดยจ่ายเข้าบัญชีคุณหญิงพจมาน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องทั้งตามกฏหมายและตามทำนองคลองธรรม และขอเรียนยืนยันว่าภายหลังจากที่มีการโอนขายหุ้นชินคอร์ปไปแล้ว ทั้งท่านพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน
ชินวัตร ไม่เคยได้รับเงินปันผลจากชินคอร์ปอีกเลย
ในขณะที่ทางคตส.มากล่าวอ้างว่า ทั้งบริษัทแอมเปิ้ลริช กองทุนวินมาร์ค และการโอนขายหุ้นให้บุตรธิดาของท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น ตัวแทนเชิด ในอีกคดีหนึ่ง คตส.เองกลับไปมีคำวินิจฉัยว่า นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร ได้ซื้อหุ้นจากบริษัทแอมเปิ้ลริช มาขายให้กองทุนเทมาเสคในราคาต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่เสียภาษี โดยในคดีภาษีอากรดังกล่าว คตส. รับรองว่าหุ้นของแอมเปิ้ลริช และหุ้นของชินคอร์ปเป็น กรรมสิทธิ์ ของ นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร และ คตส.ได้มีคำสั่งให้กรมสรรพากรทำการประเมินภาษีสืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวด้วย จึงต้องถาม คตส.ว่าตกลง คตส.มีกี่มาตรฐาน มีกี่สมมติฐานในการดำเนินการสอบสวนและตั้งข้อกล่าวหา ถ้า คตส. กลับลำมากล่าวอ้างว่าหุ้นของแอมเปิ้ลริช และหุ้นชินคอร์ปเป็นของท่านพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็จะขัดกับการกล่าวหาในคดีประเมินภาษี จึงต้องเรียนถามด้วยว่าถ้า คตส.กลับลำแบบนี้ จะยกเลิกการประเมินภาษีนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตรหรือไม่
เฮ้ยๆ แถๆ ถ้ามั่นใจในหลักฐานว่าไม่ผิด ก็มาสู้คดีได้เลย ชนะใสๆ ฟ้องกลับ คตส เอาให้สุดๆไปเลยแถเอ๊ย 55555555555555 |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Tam-mic-ra
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 12-09-2007, 03:08 » |
|
ถ้าปิดหู ปิดตา ปิดปาก ไม่ติดตาม ก็ไม่มีโอกาสรู้ว่า
ทักษิณ จำเลยหนี"หมายจับ"นั้น "ซุกหุ้น" อีกแล้ว ๆ ๆ.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เขาหนีที่ไหน ตอนนั้นเขาติดต่อจะขอกลับ
คมช ดัน ไม่ให้กลับ อย่ามั่วครับ คนอ่านข่าวเยอะ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 12-09-2007, 04:19 » |
|
เขาหนีที่ไหน ตอนนั้นเขาติดต่อจะขอกลับ
คมช ดัน ไม่ให้กลับ อย่ามั่วครับ คนอ่านข่าวเยอะ
สงสัยอ่านแต่ข่าวเก่ามั๊งครับ คมช.เขาบอกว่าอยากกลับก็กลับมา จะรับประกันความปลอดภัยให้ ตั้งแต่ประกาศไปตั้งเป็นเดือนแล้ว จนเขารอให้กลับมาเองไม่ไหว ออกหมายจับเรียกให้กลับก็ยังไม่เห็นโผล่หัวมาเลย คิดว่าว่าแม้วเป็นโรคตา โรคปอดมากกว่าครับ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Tam-mic-ra
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 12-09-2007, 05:57 » |
|
สงสัยอ่านแต่ข่าวเก่ามั๊งครับ คมช.เขาบอกว่าอยากกลับก็กลับมา จะรับประกันความปลอดภัยให้ ตั้งแต่ประกาศไปตั้งเป็นเดือนแล้ว จนเขารอให้กลับมาเองไม่ไหว ออกหมายจับเรียกให้กลับก็ยังไม่เห็นโผล่หัวมาเลย คิดว่าว่าแม้วเป็นโรคตา โรคปอดมากกว่าครับ
หลังจากใส่ร้ายเขาไปเยอะหลายคดี ใครจะอยากกลับมา
จะรับประกันความปลอดภัยให้ หรือจะยิงให้
จ่ายัก คาบอม จำได้ไหม เรื่องเงียบฉี่ อิอิ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ScaRECroW
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 12-09-2007, 06:50 » |
|
สงสัยอ่านแต่ข่าวเก่ามั๊งครับ คมช.เขาบอกว่าอยากกลับก็กลับมา จะรับประกันความปลอดภัยให้ ตั้งแต่ประกาศไปตั้งเป็นเดือนแล้ว จนเขารอให้กลับมาเองไม่ไหว ออกหมายจับเรียกให้กลับก็ยังไม่เห็นโผล่หัวมาเลย คิดว่าว่าแม้วเป็นโรคตา โรคปอดมากกว่าครับ ปอดแหก กับ ตาขาว ละสิ |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.
ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
|
|
|
|
irq5
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 12-09-2007, 09:30 » |
|
 ดูแววว่ามีทางที่จะว่าความให้ทักษิณไม่ติดคุกได้ครับ ถ้าให้พานทองแท้ติดแทน
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..
....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 12-09-2007, 10:22 » |
|
ตอนที่มี ข่าวเก่า แต่ทำไมไม่ให้เขากลับล่ะ จะได้ไม่มีข่าวใหม่ มาให้คุณแถแบบนี้
หลังจากใส่ร้ายเขาไปเยอะหลายคดี ใครจะอยากกลับมา
จะรับประกันความปลอดภัยให้ หรือจะยิงให้
จ่ายัก คาบอม จำได้ไหม เรื่องเงียบฉี่ อิอิ ก็ดันทำผิดไว้เยอะเองนี่นา ตอนตัวเองมีอำนาจก็เบ่งคับปิดเรื่องไว้ได้ พอโดนเขาเขี่ยลงจากอำนาจ สารพัดเรื่องมันก็เน่าเหม็นคลุ้งออกมา นี่ยังไม่หมดนะ รอเดี๋ยวจะมีตามมาอีก 5555 Tam-mic-ra อย่าอ้างเรื่องน่าอับอายอย่างคาร์บ๊องดีกว่าครับ งานที่จัดฉากได้ห่วยที่สุด สร้างเรื่องแต่งหลักฐานออกข่าวซะหลายรอบ คิดว่าจะแนบเนียนแต่ก็ยังดูห่วยแบบนั้น เชื่อเลยว่าคนคิดแผนนี้โง่จริงๆ แผนอย่างนี้ต้องให้พวกคิดเองเออเอง วิตกจริตปนโง่ อย่างคนที่ออกมาแถลงว่าเครื่องบินที่ตัวเองโดยสารโดนวางระเบิดเป็นคนคิด แล้วผลสอบคาร์บ๊องก็คงจะออกมาแนวเดียวกันด้วย คือเป็นเรื่องโอละพ่อ ปิดแทบตายอยู่ตั้งนาน แต่ก็ปิดไม่มิด มีคนเอามาแฉ สร้างความอับอายจนให้ไอ้คนคิดแผนที่อีกรอบ จนมันไม่กล้ากลับมาเมืองไทย |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 12-09-2007, 11:53 » |
|
สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้ส่งข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในการนี้ คณะพนักงานสอบสวน ซึ่งมีพนักงานอัยการ และผู้แทนสำนักงาน ก.ล.ต. เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาด้วย ได้สอบสวนในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ แล้ว พบพยานหลักฐานที่ทำให้น่าเชื่อว่า Win Mark VIF OGF และ ODF เป็นนิติบุคคลที่อำพรางการถือหุ้น (Nominee) ของพ.ต.ท. ทักษิณฯ และภรรยา จึงแสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ และภรรยา เป็นเจ้าของหุ้นและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจดำเนินการเกี่ยวกับหุ้น SC Asset และหุ้นของบริษัทในครอบครัวชินวัตรอีก ๕ แห่งที่ถือโดยนิติบุคคลดังกล่าวมาโดยตลอดhttp://www.dsi.go.th/dsi/news_index.jsp?id=1700เอามาให้อ่าน ฉบับเต็มก็ไปตามลิ้งค์น่ะครับ DSI กำลังล่าตัวอยู่ ยังไม่สำนึก มามอบตัวต่อ DSI ได้แล้ว |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
soco
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 12-09-2007, 12:08 » |
|
วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10777 เปิดหลักฐานมัด"วินมาร์ค" ใช้"ยูบีเอส"ซื้อชินคอร์ป56.8ล้านหุ้น ก่อนขายเทมาเส็กฟันกำไร?   ในรายงานผลการตรวจสอบผู้ถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือชินคอร์ป ของครอบครัวชินวัตรที่แท้จริงซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้มอบหมายให้คณะทำงานร่วมของคณะอนุกรรมการการตรวจสอบหุ้นชินคอร์ปและคณะอนุกรรมการไต่สวนมาตรการเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องเป็นผู้จัดทำ ได้แสดงหลักฐานที่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ยังเป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ปที่แท้จริง ทั้งๆที่มีการโอนหุ้นชินคอร์ป (ในทางเอกสาร) ที่บุคคลทั้งสองถืออยู่กว่า 50% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดให้แก่ลูก เครือญาติ และบริษัทที่เป็น "นอมินี" ที่จัดตั้งขึ้นในต่างประเทศ อาทิ บริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนท์ และบริษัท วินมาร์ค ลิมิเต็ด ทั้งนี้ หลักฐานและข้อมูลที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วน หนึ่ง ในส่วนที่หุ้นชินคอร์ปที่โอนให้แก่ลูกๆ และเครือญาติกว่า 1,400 ล้านหุ้นนั้น ช่วงที่มีการโอนตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2543 เป็นต้นมา นอกจากจะขายให้ในราคาพาร์ต่ำกว่าราคาตลาดถึง 150 เท่าแล้วปรากฏว่า ไม่เคยมีการชำระเงินค่าเงินกันจริงแม้แต่บาทเดียว แต่ผู้ซื้อคือลูกๆ เครือญาติต่างออกเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินมอบให้แก่บุคคลทั้งสอง โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้ด้วย นอกจากนี้ เมื่อลูกๆ และเครือญาติได้รับเงินปันผลแล้ว เงินปันผลทั้งหมด เมื่อนำเช็คเข้าบัญชีในชื่อลูกๆและเครือญาติแล้ว จะถูกโอนกลับไปเข้าบัญชีคุณหญิงพจมานและ พ.ต.ท.ทักษิณเกือบทั้งหมดโดยบุคคลเหล่านี้มิได้แตะต้องเงินเลยแม้แต่บาทเดียว (อ่านรายละเอียดหน้า 20) สอง หลักฐานที่ คตส.เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้มีอำนาจในการลงนามในบริษัทแอมเพิลริชฯจนถึงเดือนกรกฎาคม 2548 (ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) แม้อ้างว่า ได้โอนหุ้นบริษัทแอมเพิลริชฯให้แก่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2543 หลักฐานดังกล่าวคือ คำขอเปิดบัญชีเงินฝากของธนาคารยูบีเอส เอจี สิงคโปร์ ที่นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการคุณหญิงพจมานส่งมอบให้แก่ คตส.ซึ่งจากปากคำของนางกาญจนาภายืนยันว่า ทางธนาคารยูบีเอสได้ส่งมอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้ว หลักฐานการเปิดบัญชีที่ธนาคารยูบีเอสที่นางกาญจนาภามอบให้มี 2 ฉบับแรก ฉบับแรกระบุว่า ผู้มีอำนาจลงนามแทนแอมเพิลริชฯ คือ Dr.T.Shinawatra ซึ่งทำขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายน 2542 ฉบับที่ระบุว่า ผู้มีอำนาจลงนามคือ นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2548 โดยอ้างถึงหนังสือของผู้มีอำนาจลงนามเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2542 ด้วย จากหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2542 ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจลงนามจาก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ใดเลยจนกระทั่งวันที่ 29 กรกฎาคม 2548 (เป็นช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2544)สาม หลักฐานที่พิสูจน์ว่า บริษัท วินมาร์ค ลิมิเต็ด (กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ระบุว่า มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ) เปิดบัญชีไว้ที่ธนาคารยูบีเอส เอจี สิงคโปร์ และใช้ยูบีเอสในการกว้านซื้อหุ้นชินคอร์ปตั้งแต่ต้นประมาณวันที่ 4 มกราคม 2549 ในราคาหุ้นละประมาณ 39 บาท ก่อนที่ครอบครัวชินวัตรจะขายหุ้นชินคอร์ปทั้งหมดให้แก่บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้ง ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท เมื่อวัน 23 มกราคม 2549 จากนั้นวินมาร์คจึงนำหุ้นที่กว้านซื้อจำนวน 74 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 3,600 ล้านบาทขายให้แก่เทมาเส็กในช่วงตั้งโต๊ะรับซื้อ หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ฟันกำไรไปประมาณ 500 ล้านบาทซึ่งประเด็นนี้ คตส.มองว่า อาจเข้าข่ายความผิดในการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้นตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 นอกจากนั้นเงินประมาณ 3,600 ล้านบาทที่เทมาเส็กจ่ายค่าหุ้นให้แก่บริษัทวินมาร์คในสิงคโปร์ได้ถูกโอนไปธนาคารในซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทันที สำหรับหลักฐานที่พิสูจน์ว่า บริษัทวินมาร์คเปิดบัญชีที่ยูบีเอสสิงคโปร์และใช้กว้านซื้อหุ้นชินคอร์ปประกอบด้วย 1.หนังสือจากวิคเกอร์ บัลลาส ลงวันที่ 6 กันยายน 2544 แจ้งการโอนหุ้นชินคอร์ปผ่านธนาคารซิตี้แบงก์ในกรุงเทพฯไปฝากไว้ที่บัญชีธนาคารยูบีเอส เอจี สิงคโปร์ สำหรับวินมาร์ค ลิมิเต็ด บัญชีเลขที่ 121751 (เอกสารที่ 1) 2.หนังสือของธนาคารไทยพาณิชย์ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2547 แจ้งการโอนเงินจำนวน 11,835,074.30 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 485 ล้านบาท) ไปให้บริษัทวินมาร์คที่ธนาคารยูบีเอส เอจี สิงคโปร์ บัญชีเลขที่ 121751 เงินจำนวนดังกล่าวเป็นการชำระค่าหุ้น บริษัท เอสซี ออฟฟิซ ปาร์ค บริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ บริษัท พีที คอร์ปอเรชั่น บริษัท เอสซีเค เอสเตท และบีพีคอร์ปอเรชั่นซึ่งบริษัทวินมาร์คขายคืนให้แก่ครอบครัวชินวัตรในราคาพาร์ หลังจากที่บริษัทดังกล่าวซื้อหุ้นทั้ง 5 บริษัทดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2543 (เอกสารที่ 2) 3.รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทชินคอร์ปจากรายงานประจำปีของบริษัทเอง พบว่า ธนาคารยูบีเอสสิงคโปร์บัญชีเลขที่ 121751 ถือหุ้นชินคอร์ปอยู่กว่า 53.6 ล้านหุ้นซึ่งเลขบัญชีตรงกับเอกสารหมายเลข 1 และ 2 เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เป็นบัญชีของบริษัทวินมาร์ค (เอกสารที่ 3) 4.รายงานการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปของธนาคารยูบีเอสจากบัญชีซึ่งมีหลักฐานว่าเป็นบัญชีเดียวกันที่รักษาหุ้นชินคอร์ปของวินมาร์คตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2549 ถึง 20 มกราคม 2549 พบว่า มีการกว้านซื้ออย่างถี่ยิบถึง 56.8 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนถึง 25.5% ของหุ้นที่ซื้อขายในตลาดทั้งหมดในช่วงนั้น (เอกสารที่ 4)ทั้งหมดนี้คือหลักฐานบางส่วนที่ คตส.จะพิสูจน์พฤติกรรม พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานว่า เข้าข่ายความผิดกฎหมายหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), พ.ร.บ.หลักทรัพย์กรณีการใช้ข้อมูลภายใน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะมีศักยภาพในการตรวจสอบมากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมา กรรมการ คตส.บางคนมองว่า นอกจากผู้บริหาร ก.ล.ต.บางคนไม่ให้ความร่วมมือแล้วยังใส่เกียร์ว่างอีกด้วยหน้า 17 http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco01120950&day=2007-09-12§ionid=0103****************** |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
