กกต.ปัดขัดแย้งกันเอง ดาวดวงเดียวมี5แฉก เตมูจินจี้สอบ3บ.ใหญ่ จ่ายเงินคว่ำประชามติ!
Tuesday, 04 September 2007
กกต.สั่งระดับจังหวัดรายงานความเคลื่อนไหวหัวคะแนนทุกเดือน เตรียมพร้อมรับศึกเลือกตั้ง ขณะที่ สมชัย ปัดข่าวขัดแย้งเพื่อนกรณีแบ่งความรับผิดชอบเป็นด้านกิจการ ชี้เป็นดาวดวงเดียวกันแต่มี 5 แฉกเปรียบดาวพฤหัสมีพลังมาก จัดการส.ส.ทุจริตได้แน่
ด้านเตมูจินบุกกกต. จี้สอบไทยรักไทยใช้ 3 บริษัทจ่ายเงินเครือข่ายผู้บริหารท้องถิ่นคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ
วันที่ 4 ก.ย. 2550 นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ในการประชุมกกต. จะไม่มีการนำเรื่องการขอเข้าสังเกตการณ์เลือกตั้งของสหภาพยุโรป (อียู) เข้าพิจารณาในที่ประชุมเนื่องจากต้องการที่จะฟังการชี้แจงในเรื่องเจตนาและจุดประสงค์การเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของผู้แทนอียูที่จะเข้าพบกกต.ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ก่อน เพราะถ้ามาควบคุม คงทำไม่ได้ เนื่องจากประเทศเราเป็นประชาธิปไตย แต่หากมาสังเกตการณ์เลือกตั้งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรขัดข้อง และน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะทำให้ต่างชาติเชื่อถือมากขึ้น อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากการเข้ามาสังเกตการณ์ต้องมีการทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู)
นายสุเมธ ยังปฏิเสธกรณีนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแบ่งงานรับผิดชอบของกกต.ว่า ไม่ได้เป็นความขัดแย้งกันของกกต. เพราะที่ผ่านมาที่ประชุมกกต.ก็มีมติเป็นเอกฉันท์ ทำงานเป็นเอกภาพ แม้ว่าแต่ละคนจะมีความคิดไม่เหมือนกันก็เป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะให้ความเห็น
นายสุเมธ กล่าวถึงการกำหนดวันเลือกตั้งว่า เมื่อยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา คงจะกำหนดวันเลือกตั้งที่แน่นอนไม่ได้ ซึ่งการพูดถึงวันที่ 23 ธ.ค. ก็เป็นเพียงการกำหนดคร่าว ๆ ที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้พิจารณาจากสถานการณ์ และเป็นการหยั่งเสียงประชาชน และเห็นว่าการที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดตั้งคณะกรรมการมาดูแลการเลือกตั้งร่วมกับกกต.นั้น คณะกรรมการชุดดังกล่าวคงทำได้เพียงแค่สังเกตการณ์เลือกตั้งเท่านั้น เพราะการดูแล ควบคุมการเลือกตั้งนั้นเป็นหน้าที่ของกกต.
อย่างไรก็ตามก่อนการประชุมกกต.นายสุเมธ ได้เป็นประธานเปิดการอบรมเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิฟริดิช เนามัน จากประเทศเยอรมันที่ได้ส่งวิทยากรมาจัดการอบรมให้ความรู้ ความเชียวชาญด้านการให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องประชาธิปไตย โดยเฉพาะเทคนิคการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นอยู่แล้ว
ด้านนายสมชัย จึงประสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานด้านสืบสวนสอบสวนของ กกต. จะมีการทำงานเชิงรุกมากขึ้น ต่างจากสมัยก่อนที่รอให้มีเรื่องเสียก่อนแล้วค่อยทำ แต่เดี่ยวนี้จะมีการป้องปรามและหาพยานหลักฐานต่างๆเตรียมไว้เพื่อจะรู้ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น
ปัดข่าวกกต.ขัดแย้ง ชี้เป็นดาวดวงเดียวกันแต่มี 5 แฉก
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า กกต.มีงบหาข่าวให้แต่ละพื้นที่อยู่แล้วจึงให้มีการทำบัญชีหัวคะแนนในแต่ละจังหวัดโดยให้รายงานผลกลับเข้ามาเป็นเดือนๆ นอกจากนี้ยังมีการหาข้อมูลจากส่วนอื่นๆด้วยเช่นจากตำรวจ ขณะที่ส่วนกลาง ก็จะทำเครือข่ายรวบรวมข้อมูลเอาไว้ เพื่อใช้ในคราวที่จะมีการเลือกตั้ง เพื่อจับทุจริตการโกง ยอมรับว่ามีบัญชี แต่รายละเอียดคงจะบอกไม่ได้
เราคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะรุนแรง จึงไม่ประมาท คิดว่ากกต.น่าจะต้องทำงานเชิงรุกคือเข้าหาไปข้อมูล เพราะทางนักการเมืองก็ห่วงว่า กกต.จะทำงานตามนักการเมืองไม่ทัน จึงอยากบอกว่าไม่ต้องห่วง เรามีการปรึกษาอะไรกันอยู่ ไม่ใช่ว่าเราจะอยู่เฉยๆนายสมชัยกล่าว
นายสมชัย ยังชี้แจงกรณีตนเองบรรยายให้พนักงานกกต.ฟังและมีการระบุว่าการทำงานของกกต.เป็นดาว 5 แฉกว่า เป็นการสื่อความหมายผิดไป เพราะที่ตนบรรยายให้พนักงานฟังหมายถึง กกต.แบ่งงานเป็น 5 ด้าน การทำงานก็อ่อนลง ไม่ใช่หมายความว่าการทำงานของกกต. เป็นดาวห้าดวง
จริงๆ แล้ว กกต.เป็นดาวดวงเดียวกันแต่มี 5 แฉก ซึ่งดาว 5 แฉกคือดาวพฤหัส ที่มีพลังมากที่สุดในสุริยจักรวาล จึงจะมีพลังพอที่จะไปจัดการเลือกตั้งจับคนไม่สุจริตได้ หากลำพังต่างคนต่างทำ กำลังจะหายไป เราต้องให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าอย่าแบ่งเขาแบ่งเรานายสมชัยกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า กกต.มีความแตกแยกหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า กกต.แบ่งเป็น 5 ด้าน บางคนก็คุมเฉพาะด้านตัวเอง และบางทีพนักงานก็แยกเป็นส่วน โดยมองว่า งานของตนก็สนใจเฉพาะตรงนี้ ส่วนอื่นก็ไม่สนใจ กกต.ส่วนกลางยังดีที่มีพนักงานหลายคนก็สามารถทำงานไปได้ แต่ใน กกต. จังหวัดที่มีคนไม่กี่คน แล้วยังมาแบ่งพลังทำงานก็จะลดลงไปเราเห็นว่าควรจะสามัคคีอะไรช่วยได้ก็ต้องช่วยกันยืนยันว่าไม่มีข้อขัดแย้ง
นายสมชัย ยังกล่าวถึงการที่ร่างพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส., ส.ว.ใหม่กำหนดโทษผู้ที่ทุจริตการเลือกตั้งไว้สูงว่า การกำหนดโทษเช่นนี้ ทำให้ผู้สมัครระวังตัวมากขึ้น แต่ถ้าถามว่าอย่างนี้จะทำให้กกต.ทำงานง่ายหรือลำบากมากขึ้น ตอบว่ามันต้องใช้ความสามารถมากขึ้น
เตมูจินบุกกกต.จี้สอบไทยรักไทยใช้ 3 บริษัทจ่ายเงินคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ
วันเดียวกัน เวลา 12.00 น. นายชนาพัทธ์ ณ นคร เครือข่ายเตมูจิน ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธานกกต.ผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักงานกกต. โดยมีการนำเอกสารแสดงรายชื่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกเทศมนตรีที่นายชนาพัทธ์ระบุว่าเป็นเครือข่ายหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทยเดิม หรือพรรคพลังประชาชนในปัจจุบัน มามอบให้กกต.
ทั้งนี้นายชนาพัทธ์ กล่าวว่า ต้องการพบกกต.เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินเพื่อใช้การล้มร่างรัฐธรรมนูญในช่วงวันลงประชามติ โดยตนมีเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินให้กับนายกอบจ. และเทศมนตรีในภาคอีสานและภาคเหนือ รวมทั้งอยากสอบถามว่า กกต.มีกฎหมายคุ้มครองพยานหรือไม่อย่างไร เพราะได้การของข้อมูลดังกล่าวผิดกฎหมายทั้งแพ่งและอาญาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิและการโจรกรรมข้อมูล
ข้อมูลที่ได้มานั้นเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเป็นข้อมูลด้านการเงินที่มีบริษัทขนาดใหญ่ เช่น บริษัท M, T, I ซึ่งเป็น 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ และยังมีบริษัทอีกเป็นจำนวนมากดำเนินการเปิดบัญชีในธนาคารพาณิชย์ โดยใช้ชื่อพนักงานในบริษัทเหล่านี้ในการเปิดบัญชีก่อนจะนำบัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัสไปให้หัวคะแนนตามจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งนายกอบจ.ที่เป็นเครือข่ายจะได้รับบัตรเอทีเอ็มคนละ 3 ใบวงเงิน 10 ล้านบาท ส่วนนายกเทศมนตรี อบต. จะได้รับบัตรเอทีเอ็มคนละ 1 ใบ วงเงินประมาณ 3-4 ล้านบาท จึงอยากให้กกต.เข้ามาตรวจสอบเพื่อขยายผล เกี่ยวกับเส้นทางการจ่ายเงินตามท่อน้ำเลี้ยงต่างๆ เพราะจะมีผลต่อเนื่องไปถึงการเลือกตั้งส.ส. หากกกต.ดำเนินการได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเพราะจะได้ตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มอำนาจเก่านายชนาพัทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมพนักงานในบริษัทดังกล่าวจึงยอมให้นำชื่อไปเปิดบัญชี นายชนาพัทธ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่ได้เสียกัน อีกทั้งพนักงานก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบริษัทดังกล่าวน่าจะมีการต่อรองกันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์
http://thaiinsider.info/portal/content/view/6500/12/แต่พอมากระทู้นี้ในห้องสาธารณะ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=16241.0http://forum.serithai.net/index.php?topic=16251.0อะไรของมันกันแน่ หรือว่ากระทู้ในเสรีไทยมีคนแอบอ้างชื่อ เตมูจิน