aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: 10-10-2007, 19:49 » |
|
ทว่าคนผู้หนึ่ง หากร่ำดื่มจนเมามาย พฤติกรรมย่อมผิดแปลกจากปกติธรรมดา ในเรื่อง "จับอิดนึ้ง" มีคำกล่าวประโยคหนึ่ง
" ตอนที่เมามายจริง ๆ ทั้งไม่เจ็บปวดรวดร้าว ทั้งไม่รื่นเริงหฤหรรษ์ ลืมเลือนอดีตกาล ปราศจากอนาคต แม้แต่ปัจจุบัน เนื่องเพราะห้วงสมองเวิ้งว้างว่างเปล่า ตอนที่เมามายจริง ๆ ทั้งมิได้คำนึงถึงผู้อื่น และมิได้ครุ่นคิดถึงตนเอง แม้แต่เรื่องที่ตนเองกระทำ ก็คล้ายพฤติการณ์ของผู้อื่น ไม่มีส่วนสัมพันธ์กับตน
แต่ยามเมื่อคนผู้หนึ่งเมามายจริง ๆ เรื่องที่กระทำออกมา ย่อมต้องเพราะเพื่อคนผู้หนึ่งและคนผู้นั้นย่อมเป็นที่สลักฝังใจยากลืมเลือน มาตรแม้นห้วงสมองเวิ้งว้างว่างเปล่า คนผู้นั้นยังประดับในห้วงดวงใจ ตราตรึ่งในห้องสมอง ผูกพันสนิทกับจิตใจ ผู้ที่เมามายจริง ๆ จะกระทำเรื่องเช่นนั้นโดยไม่คำนึงถึงทุกสรรพสิ่ง แม้กระทั่งตัวเองก็มิทราบว่ากำลังกระทำเรื่องราวใด มีแต่ผู้เมามายจริง ๆ จึงสามารถเข้าใจซึ้งถึงความรู้สึกนี้ เป็นความรู้สึกที่ยากทนทานรับได้จริง ๆ"
......
โกวเล้งอาศัยปากกาด้ามเดียวได้มาแทบทุกสิ่ง ที่ไม่สมควรมีล้วนมีแล้ว แต่โดวเล้งยังคงอ้างว้าง ว้าเหว่และขมขื่น เป็นความอ้างว้างทางใจที่สุดจะทนทานได้ โกวเล้งเขียนโคลงไว้บทหนึ่ง "กาลเวลารุมเร่งเร้า ความหลังราวกระบี่จากฝักไม่คืนกลับ กลางวิกาลคนไม่เมามายล้มพับ ผู้ใดร่วมคว่ำจอกกับข้าพเจ้า"และยังเขียนร้อยแก้วบทหนึ่ง บรรยายถึงชีวิตที่ผ่านมาดังนี้
"วิกาลดึกสงัด สรรพเสียงเงียบสงบ สร่างเมาตื่นขึ้นมา พลันพบเห็นผู้นอนเคียงข้างกาย ถึงกับเป็นคนที่กระทั่งชื่อแซ่ก็ยังไม่รู้จัก รสชาติเช่นนี้ท่านเคยลิ้มลองหรือไม่?"
ในเสียงโห่ร้องยกย่องเยินยอ เมื่อกลับบ้านเพียงลำพัง นั่งอยู่ริมหน้าต่างอันมืดมิด เพียงหวังให้ฟ้าสว่างโดยเร็ว จิตใจเช่นนี้ ท่านเคยได้คำนึงถึงบ้างหรือไม่?
ค่ำคืนนี้เริงร่าหรรษา สนุกสนานสมปรารถนาทุกเรื่องราว แต่กระทั่งตนเอง วันพรุ่งนี้จะอยู่ที่ใดก็ยังไม่ทราบ กระทั่งค่ำคืนนี้จะเมามายในที่ใดก็ยังไม่ทราบ?
ลมอรุณเฉื่อยฉิวลูบไล้เดือนค้างฟ้า แม้เป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นความงามที่เยือกเย็นวังเวงเพียงใด บีบคั้นจิตใจผู้คนให้แหลกสลายเพียงไหน? ความสุขสันต์หรรษาเช่นนี้ ท่านยินดีไปเสพรับหรือไม่?
หากแม้นท่านต้องการสิ่งใดก็มีสิ่งนั้น ชีวิตยังจะมีสิ่งมีค่าใดให้ท่านไปเสาะแสวงหา?
ความอ้างว้างเช่นนี้มีผู้ใดทราบ?
ข้าพเจ้า (โกวเล้ง) ทราบ
เนื่องเพราะข้าพเจ้าก็เป็นคนในยุทธจักร เป็นคนพเนจรไม่มีราก หากมีคนว่าข้าพเจ้ากำลังฆ่าตัวตายช้า ๆ แส่หาที่ตายเอง นั่นก็เนื่องเพราะคนผู้นั้นยังไม่ทราบในมือข้าพเจ้ามีสุราพิษ (คำสุราพิษแผลงจากวิถีชีวิตที่ขมขื่น) อยู่ก่อนแล้ว
"แน่นอนย่อมเป็นสุราพิษที่ดีที่สุด"
"บางครั้งหารัก บางคราหาสุรา บางครั้งกระชับดาบ บางคราจับพู่กัน ระหว่างความเป็นตาย เพียงชั่วพริบตา ตายแล้วจะเป็นไร...เพียงหวังคนมั่งมีเงินทอง เพียงหวังคนร่วมเรียงเคียงหมอน วิกาลเลิศล้ำ ข้าพเจ้าอยู่เดียวดาย ผู้ใดร่วมเมามายกับข้าพเจ้า"....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: 13-10-2007, 13:26 » |
|
โกวเล้งอาศัยปากกาด้ามเดียวได้มาแทบทุกสิ่ง ที่ไม่สมควรมีล้วนมีแล้ว แต่โดวเล้งยังคงอ้างว้าง ว้าเหว่และขมขื่น เป็นความอ้างว้างทางใจที่สุดจะทนทานได้ โกวเล้งเขียนโคลงไว้บทหนึ่ง "กาลเวลารุมเร่งเร้า ความหลังราวกระบี่จากฝักไม่คืนกลับ กลางวิกาลคนไม่เมามายล้มพับ ผู้ใดร่วมคว่ำจอกกับข้าพเจ้า"
และยังเขียนร้อยแก้วบทหนึ่ง บรรยายถึงชีวิตที่ผ่านมาดังนี้
"วิกาลดึกสงัด สรรพเสียงเงียบสงบ สร่างเมาตื่นขึ้นมา พลันพบเห็นผู้นอนเคียงข้างกาย ถึงกับเป็นคนที่กระทั่งชื่อแซ่ก็ยังไม่รู้จัก รสชาติเช่นนี้ท่านเคยลิ้มลองหรือไม่?"
ในเสียงโห่ร้องยกย่องเยินยอ เมื่อกลับบ้านเพียงลำพัง นั่งอยู่ริมหน้าต่างอันมืดมิด เพียงหวังให้ฟ้าสว่างโดยเร็ว จิตใจเช่นนี้ ท่านเคยได้คำนึงถึงบ้างหรือไม่?
ค่ำคืนนี้เริงร่าหรรษา สนุกสนานสมปรารถนาทุกเรื่องราว แต่กระทั่งตนเอง วันพรุ่งนี้จะอยู่ที่ใดก็ยังไม่ทราบ กระทั่งค่ำคืนนี้จะเมามายในที่ใดก็ยังไม่ทราบ?
ลมอรุณเฉื่อยฉิวลูบไล้เดือนค้างฟ้า แม้เป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นความงามที่เยือกเย็นวังเวงเพียงใด บีบคั้นจิตใจผู้คนให้แหลกสลายเพียงไหน? ความสุขสันต์หรรษาเช่นนี้ ท่านยินดีไปเสพรับหรือไม่?
หากแม้นท่านต้องการสิ่งใดก็มีสิ่งนั้น ชีวิตยังจะมีสิ่งมีค่าใดให้ท่านไปเสาะแสวงหา?
ความอ้างว้างเช่นนี้มีผู้ใดทราบ?
ข้าพเจ้า (โกวเล้ง) ทราบ
เนื่องเพราะข้าพเจ้าก็เป็นคนในยุทธจักร เป็นคนพเนจรไม่มีราก หากมีคนว่าข้าพเจ้ากำลังฆ่าตัวตายช้า ๆ แส่หาที่ตายเอง นั่นก็เนื่องเพราะคนผู้นั้นยังไม่ทราบในมือข้าพเจ้ามีสุราพิษ (คำสุราพิษแผลงจากวิถีชีวิตที่ขมขื่น) อยู่ก่อนแล้ว
"แน่นอนย่อมเป็นสุราพิษที่ดีที่สุด"
"บางครั้งหารัก บางคราหาสุรา บางครั้งกระชับดาบ บางคราจับพู่กัน ระหว่างความเป็นตาย เพียงชั่วพริบตา ตายแล้วจะเป็นไร...เพียงหวังคนมั่งมีเงินทอง เพียงหวังคนร่วมเรียงเคียงหมอน วิกาลเลิศล้ำ ข้าพเจ้าอยู่เดียวดาย ผู้ใดร่วมเมามายกับข้าพเจ้า"
....
ข้อความต่อไปนี้ชื่อ "มิใช่ล้ำค่า" เป็นโกวเล้งเขียนไว้ก่อนเสียชีวิตไม่นาน
"มีอยู่วันหนึ่ง เหง่ยคัง ถามข้าพเจ้าว่า "โลกนี้มีของเหลวที่ล้ำค่าที่สุดสองชนิด ชนิดหนึ่งคือสุรา อีกชนิดหนึ่งคืออะไร? ข้าพเจ้าตอบว่าน้ำ เหง่ยคัง ชมว่า "ใช่ ข้าพเจ้าถามคนหลายคน มีแต่ท่านที่ตอบถูก"
ซึ่งความจริงข้าพเจ้าผิดมหันต์ น้ำเป็นสิ่งจำเป็น เป็นสิ่งที่ไม่อาจขาดได้ เมื่อขาดน้ำคนต้องตาย แต่ไม่อาจใช้คำว่า "ล้ำค่า" มาเปรียบเปรยน้ำ เช่นเดียวกับที่มีคนถามว่า "โลกนี้มีวัตถุล้ำค่าที่สุดสองชนิด ชนิดหนึ่งคือเพชร อีกชนิดหนึ่งคืออะไร?" ข้าพเจ้าไม่อาจตอบว่าเป็นข้าว และไม่อาจตอบว่าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดมิใช่เพชร แต่เป็นยูเรเนียม
เนื่องเพราะพวกเราเป็นคน เป็นคนธรรมดา มีทัศนคติธรรมดา ความรู้สึกนึกคิดธรรมดา ในสายตาพวกเรา ของที่ "ล้ำค่า" กับ "จำเป็น" แตกต่างกัน กระทั่ง "คุณค่า" ก็แตกต่างกัน
ดังนั้น ข้าพเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าตอบคำถามนี้ผิด แต่มิใช่ความผิดของข้าพเจ้า หากแต่เป็นเหง่ยคังถามผิด เนื่องเพราะโลกนี้มีของเหลวที่ล้ำค่าเพียงชนิดเดียว ของเหลวชนิดนี้คือ "สุรา"
เนื่องเพราะมีแต่สุราจึงสามารถทำให้ผู้คนลืมเรื่องที่ไม่สมควรนึกถึง และเรื่องน่าเศร้าที่สุดของผู้คน คือ นึกถึงเรื่องที่พวกเขาไม่สมควรนึกถึง
นอกจาก "ความตาย" แล้ว มีแต่สุราจึงสามารถทำให้ผู้คนลืมเลือนเรื่องเหล่านี้
ความตายช่างล้ำค่าปานนั้น มีเพียงครั้งเดียว ไม่มีครั้งที่สองเด็ดขาด"
ป่วยเรื้อรังเพราะสุรา อาการป่วยเพราะสุรา ความจริงเป็นเรื่องสุนทรีย์ยิ่ง แต่ป่วยจนตับอักเสบ นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
ตอนที่โกวเล้งป่วย แพทย์สั่งห้ามแตะต้องสุราอย่างเด็ดขาด วันเวลาของโกวเล้งคล้ายเปลี่ยนเป็นยาวนานขึ้น เพื่อนพ้องเปลี่ยนเป็นลดน้อยลง ปกติมักมีผู้คนมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน ตอนนี้ล้วนบอกว่า "เด็กน้อยนั้นไม่ดื่มสุราแล้ว ไปก็ไม่มีความหมาย ย่อมไม่อาจนั่งตาจ้องตากันสองต่อสอง" ยังมีเพื่อนที่ทำคอมพิวเตอร์บอกกับโกวเล้งว่า "เมื่อก่อนพอเห็นโกวเล้งดื่มสุราก็นึกกลัวยิ่ง กลัวว่าจะถูกจับกรอกเมามาย ไม่กล้าชวนไปทานข้าว เดี๋ยวนี้โกวเล้งงดสุรา คิดชวนไปทานข้าว ดูเหมือนเปลี่ยนเป็นไม่มีความหมายแล้ว"
แต่ปีศาจสุรา หากขาดสุรา เท่ากับปลาที่ถูกจับขึ้นจากน้ำ ไหนเลยมีชีวิตอยู่ได้!
ในที่สุด โกวเล้งก็ไม่อาจทนทานความเงียบเหงาได้
ก่อนสิ้นใจไม่กี่วัน โกวเล้งชักชวนเพื่อนพ้องออกไปร่ำดื่มอย่างสะท้านฟ้าสะเทือนดินสามวันสามคืน เมามายแล้วนอน ตื่นแล้วดื่มต่อ ดื่มแล้วเมามายอีก ฟื้นตื่น ร่ำดื่มหลายครั้งหลายหน เพื่อนพ้องหวาดกลัวกันถ้วนหน้า ไม่ยอมร่วมดื่มด้วย แต่โกวเล้งยังร่ำดื่มจนไม่ได้สติ แม้ทราบดีว่าร่างกายไม่อาจแตะต้องสุรา พอดื่มสุราลงไป ไม่มีตับคอยกรอง โลหิตประดังขึ้นมา แต่โกวเล้งมิได้คำนึงถึงความใดๆ ร่ำดื่มอยู่สามวันสามคืน หมดเงินไปสามแสนเหรียญไต้หวัน ในที่สุดทางเดินอาหารปริแตก กระอักโลหิตออกมาจำนวนมาก
ชีวิตของโกวเล้ง คล้ายดั่งมีความคับแค้นกับสุรา ต้องดื่มสุราประดามีในใต้หล้าจนหมดสิ้นจึงยอมเลิกรา
แต่สุราในใต้หล้า ไหนเลยดื่มได้หมดสิ้น
คิดอาศัยสุราราดรดทุกข์ ทุกข์กลับทัมถมทวีคูณ!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: 13-10-2007, 16:56 » |
|
ต้องขอขอบคุณคุณ aiwen^mei เป็นอย่างยิ่งที่นำเรื่องราว
ทั้งนิยาย และคารมคำพูดอันคมคาย ของ โก้วเล้งมาให้อ่านครับ
ถ้ามีเวลารบกวนคุณ aiwen^mei นำมาลงต่อๆไปนะครับ ขอบคุณครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: 14-10-2007, 10:58 » |
|
ผมก็คิดเหมือนกันกับคุณ เม่ย ครับ 
ผมเองก็ศิษย์เสียวลิ้มยี่อ่ะ แหะๆๆ แต่ตำราอาจารย์ท่านทวงกลับหมดแล้ว  ใจดีจัง ที่ท่าน ขวานผ่าซาก (เปลี่ยนชื่อหรือคะนี่) คืนอาจารย์ไปหมดเลย ส่วนเม่ยเหลือเก็บอยู่บ้างเล็กน้อย  ตอนเรียนชั้นประถม ท่านพ่อท่านแม่ส่งเข้าเรียนโรงเรียนจีนค่ะ แต่เสียดายว่า ยังอยู่ในช่วงที่ประเทศจีนยังเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ยากจน ดังนั้น โรงเรียนจีนทั้งหลายจึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเอกชนอยู่แล้ว โรงเรียนไหนที่เลี้ยงตัวเองไม่ได้ ก็ปล่อยให้ปิดตัวลง จนเป็นที่มาของคำว่า "เรียบร้อยโรงเรียนจีน" ฟังผู้ใหญ่เล่าว่า ก่อนหน้านั้น บางบ้านที่มีการเรียนสอนภาษาจีนเป็นการส่วนตัวถูกตรวจค้นและโดนยัดข้อหาว่าเป็น "คอมมิวนิสต์" ก็มีค่ะ เมื่อเย็นวาน ระหว่างดู "จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์" นึกถึงสำนวนจีนอมตะ "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" จึงเรียนถามท่านผู้อาวุโสถึงต้นฉบับภาษาจีน ขอนำมาฝากท่านขวานผ่าซากนะคะ 路遥知马力,日久见人心(สำเนียงแต้จิ๋วว่า โหล่วเอี้ยวไจแบ๋ลัก หยิกกู้เกี้ยงหนั่งซิม) ต้องขอขอบคุณคุณ aiwen^mei เป็นอย่างยิ่งที่นำเรื่องราว
ทั้งนิยาย และคารมคำพูดอันคมคาย ของ โก้วเล้งมาให้อ่านครับ
ถ้ามีเวลารบกวนคุณ aiwen^mei นำมาลงต่อๆไปนะครับ ขอบคุณครับ  ไม่เป็นไร หามิได้ค่ะ ด้วยความยินดีค่ะ และพอดีเป็นของโปรดอย่างหนึ่งด้วยล่ะค่ะ ความเห็นข้างต้นพูดถึงความสามารถในเชิงสุราของปีศาจสุรา เมื่อพูดถึงสุราทีไร บ่อยครั้งทำให้ นึกถึง "ลี้คิมฮวง" เพราะดูเหมือนลี้ถ้าฮวยไต้เฮียบท่านจะดื่มสุราราดรดทุกข์จริง ๆ  มีคลิปวิดีโอเพลงไตเติ้ลเรื่อง "ฤทธิ์มีดสั้น" มาฝาก เป็นเวอร์ชั่นของไต้หวัน โดย "เจียวเอินจวิ้น" รับบท "ลี้คิมฮวง" นะคะ http://www.tudou.com/programs/view/Qj6XQIC8_1o/ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: 14-10-2007, 13:53 » |
|
ขอคุณคุณ aiwen^mei 路遥知马力,日久见人心 ผมว่าน่าจะแปลให้ได้สำนวนเดิมก็ต้อง "หนทางพิสูจน์กำลังของม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจของคน" ในไตเติ้ลที่คุณ aiwen^mei นำมาหลังเพลงจบ สำเนียงจีนกลาง มันมี เซี่ยวหลี่เฟยเตา มีดบินลี้น้อย กับ เซี่ยวหลีฉังเตา ซ่อนดาบในรอยยิ้ม อิอิ ผมสมัยเมื่อเด็กก็คง เป็นช่วงเดียวกับคุณ เว่ย แหละครับ รัฐบาลสมัยนั้น มีกฏหมายคอมมูนิตย์ ต้องเรียนๆหลบๆอ่ะ ที่ผมเรียนๆทั้ง แต้จิ๋ว และจีนกลาง แต่อยู่บ้านนอก รู้สึกจะไม่เข้มงวดนักครับ เข้า กทม.มาที น้าชายชอบพาไปดูหนังที่ กรุงเกษมประจำเลย กับเฉลิมบุรี ถ้าจำไม่ผิดอยู่ทางเจริญกรุง ทุกครั้งที่เข้า กทม. ท่านบอกว่าจะได้ฝึกภาษา เพราะในโรงหนัง ไม่มีพากย์ไทยครับ น้าชายคนเล็กผม ก็เป็นครูสอนหนังสือจีนนะครับ อยู่แถวดาวคนอง ก็สอนเป็นชุดๆละ5-8คน เริ่มสอนเป็นรุ่นๆ จากเด็กเล็ก ถึงเด็กโต สอนจากราวๆ 5 โมงเย็นถึง 4-5ทุ่ม ถึงหมดคนเรียนครับ สมัยผมเรียนกลางวันเรียนไทย กลางคืนและวันหยุด ถึงได้เรียนกลางวันกัน อยากขอรบกวนคุณเม่ยนิด เรื่องการเปลี่ยนภาษาไทยเป็นจีน ต้องซื้ออะไรใส่เพิ่มเติมไหมครับ และวิธีพิมพ์ด้วย ช่วยชี้แนะทีครับ เผื่อนึกสนุกจะกลับไปหัดเรียนใหม่ หยี่เตี้ยง ผม 40กว่าปียังดีอยู่นะครับ นานๆคิดไม่ออกก็เปิดมาดูครับ ขอขอบคุณครับ ตอๆเสี่ยหนิง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: 14-10-2007, 15:55 » |
|
ใจดีจัง ที่ท่าน ขวานผ่าซาก (เปลี่ยนชื่อหรือคะนี่) คืนอาจารย์ไปหมดเลย ส่วนเม่ยเหลือเก็บอยู่บ้างเล็กน้อย  ตอนเรียนชั้นประถม ท่านพ่อท่านแม่ส่งเข้าเรียนโรงเรียนจีนค่ะ แต่เสียดายว่า ยังอยู่ในช่วงที่ประเทศจีนยังเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ยากจน ดังนั้น โรงเรียนจีนทั้งหลายจึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเอกชนอยู่แล้ว โรงเรียนไหนที่เลี้ยงตัวเองไม่ได้ ก็ปล่อยให้ปิดตัวลง จนเป็นที่มาของคำว่า "เรียบร้อยโรงเรียนจีน" ฟังผู้ใหญ่เล่าว่า ก่อนหน้านั้น บางบ้านที่มีการเรียนสอนภาษาจีนเป็นการส่วนตัวถูกตรวจค้นและโดนยัดข้อหาว่าเป็น "คอมมิวนิสต์" ก็มีค่ะ เมื่อเย็นวาน ระหว่างดู "จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์" นึกถึงสำนวนจีนอมตะ "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" จึงเรียนถามท่านผู้อาวุโสถึงต้นฉบับภาษาจีน ขอนำมาฝากท่านขวานผ่าซากนะคะ 路遥知马力,日久见人心(สำเนียงแต้จิ๋วว่า โหล่วเอี้ยวไจแบ๋ลัก หยิกกู้เกี้ยงหนั่งซิม) ไม่เป็นไร หามิได้ค่ะ ด้วยความยินดีค่ะ และพอดีเป็นของโปรดอย่างหนึ่งด้วยล่ะค่ะ ความเห็นข้างต้นพูดถึงความสามารถในเชิงสุราของปีศาจสุรา เมื่อพูดถึงสุราทีไร บ่อยครั้งทำให้ นึกถึง "ลี้คิมฮวง" เพราะดูเหมือนลี้ถ้าฮวยไต้เฮียบท่านจะดื่มสุราราดรดทุกข์จริง ๆ มีคลิปวิดีโอเพลงไตเติ้ลเรื่อง "ฤทธิ์มีดสั้น" มาฝาก เป็นเวอร์ชั่นของไต้หวัน โดย "เจียวเอินจวิ้น" รับบท "ลี้คิมฮวง" นะคะ
http://www.tudou.com/programs/view/Qj6XQIC8_1o/  ขอบคุณสำหรับคลิปหนังและเพลงครับ
สังเกตจากมีดสั้น ดูมีราคาไปครับ มีดของลี้คิมฮวงจะดูธรรมดาไม่ได้ประดับอัญมณี และบางเบากว่าในวีดีโอ..
ชอบเพลงครับ เนื้อเรื่องก็ หากไม่เจ็บปวดไหนเลยจะลิ้มรสชาติของความสุขในบั้นปลายอย่างดื่มด่ำ
สุภาพสตรีอายุน้อยที่น่ารัก นับเป็นความสุขของนักรบที่ผ่านสมรภูมิชีวิตอย่างแท้จริง อิจฉาตัวเอกของเรื่องครับ อิอิ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #56 เมื่อ: 16-10-2007, 21:00 » |
|
ขอคุณคุณ aiwen^mei 路遥知马力,日久见人心 ผมว่าน่าจะแปลให้ได้สำนวนเดิมก็ต้อง "หนทางพิสูจน์กำลังของม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจของคน" ในไตเติ้ลที่คุณ aiwen^mei นำมาหลังเพลงจบ สำเนียงจีนกลาง มันมี เซี่ยวหลี่เฟยเตา มีดบินลี้น้อย กับ เซี่ยวหลีฉังเตา ซ่อนดาบในรอยยิ้ม อิอิ ผมสมัยเมื่อเด็กก็คง เป็นช่วงเดียวกับคุณ เว่ย แหละครับ รัฐบาลสมัยนั้น มีกฏหมายคอมมูนิตย์ ต้องเรียนๆหลบๆอ่ะ ที่ผมเรียนๆทั้ง แต้จิ๋ว และจีนกลาง แต่อยู่บ้านนอก รู้สึกจะไม่เข้มงวดนักครับ เข้า กทม.มาที น้าชายชอบพาไปดูหนังที่ กรุงเกษมประจำเลย กับเฉลิมบุรี ถ้าจำไม่ผิดอยู่ทางเจริญกรุง ทุกครั้งที่เข้า กทม. ท่านบอกว่าจะได้ฝึกภาษา เพราะในโรงหนัง ไม่มีพากย์ไทยครับ น้าชายคนเล็กผม ก็เป็นครูสอนหนังสือจีนนะครับ อยู่แถวดาวคนอง ก็สอนเป็นชุดๆละ5-8คน เริ่มสอนเป็นรุ่นๆ จากเด็กเล็ก ถึงเด็กโต สอนจากราวๆ 5 โมงเย็นถึง 4-5ทุ่ม ถึงหมดคนเรียนครับ สมัยผมเรียนกลางวันเรียนไทย กลางคืนและวันหยุด ถึงได้เรียนกลางวันกัน อยากขอรบกวนคุณเม่ยนิด เรื่องการเปลี่ยนภาษาไทยเป็นจีน ต้องซื้ออะไรใส่เพิ่มเติมไหมครับ และวิธีพิมพ์ด้วย ช่วยชี้แนะทีครับ เผื่อนึกสนุกจะกลับไปหัดเรียนใหม่ หยี่เตี้ยง ผม 40กว่าปียังดีอยู่นะครับ นานๆคิดไม่ออกก็เปิดมาดูครับ ขอขอบคุณครับ ตอๆเสี่ยหนิง บุปผาโรยราแล้วยังเบ่งบานได้อีก แต่คนเล่า? วัยหนุ่มสาวล่วงเลยลับ ยังมีผู้ใดเหนียวรั้งคืนกลับ!ขอยกสำนวนข้างต้นมาประกอบ ...ด้วยเริ่มเล่าความหลังเมื่อครั้งเยาว์วัย ( จำไม่ได้ว่าจากเรื่องอะไรของท่านโกวเล้ง)  ค่ะ เห็นด้วยค่ะว่า สำนวน 路遥知马力,日久见人心 ถ้าแปลตรงตัวก็มีความหมายแบบที่คุณขวานผ่าซากบอกนะคะ "หนทางพิสูจน์กำลังของม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจของคน" สมัยเม่ยเรียนนั้น เรียนภาษาจีนกลางอย่างเดียวค่ะ เรียนแค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง และก็ได้เรียนแค่ 4 ปี คือ ป.1- ป.4 ยังดีว่า ตอนหลัง ท่านแม่สอนเพิ่มเติมให้บ้าง แต่พอดีไม่ค่อยขยัน ก็เลยพอรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ ค่ะ  สำหรับสำนวน "เซี่ยวหลี่ฉังเตา" เม่ยรู้จักจากเรื่อง "ลูกปลาน้อย" ค่ะ อันเป็นฉายาของหนึ่งในสิบจอมโฉดชั่วที่ช่วยกันเลี้ยงเด็กร้ายกาจ "เซียวฮื้อยี้" ในหุบเขาคนโฉด ท่านแม่บอกว่า เค้าพูดว่า "เชี้ยลี่ฉั่งตอ" จำได้ว่า เรื่องนี้ รุ่นพี่แนะนำให้อ่านสมัยเป็นน้องใหม่ปี 1 พอดีเห็นรุ่นพี่คนนี้ อ่านนิยายกำลังภายในระหว่างพัก พอถามว่า "พี่ช่วยแนะนำหน่อยว่า อ่านเรื่องไหนดี" คำตอบที่ได้คือ "อ่านเซียวฮื้อยี้เลยน้อง รับรองสนุก ...." และก็สมราคา ยังจำได้ว่า เมื่ออ่านถึงตอนที่บรรยายว่าเซียวฮื้อยี้ถูกเลี้ยงให้เติบโตมาอย่างไร หัวเราะจนเหนื่อย ฮาจริง ๆ ค่ะ  เข้าใจว่า คุณขวานผ่าซากน่าจะเรียนการอ่านแบบ "กั๋วอิน" เหมือนกันนะคะ แต่ยุคนี้ต้องเรียนแบบ "พินอิน" ซึ่งตอนทราบครั้งแรกเมื่อนานมาแล้วก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ตอนหลังก็ต้องมาตามแกะรอยดูค่ะ มีดิกออนไลน์มาฝากนะคะ พอดีเสิร์ชเจอจาก http://www.china2learn.com เมื่อหลายเดือนก่อนโน้นค่ะ http://www.mymandarin.com/pinyin/pinyin_main.htmhttp://www.mandarintools.com/chardict.htmlhttp://www.xuezhongwen.net/chindict/chindict.php?page=mainสำหรับเรื่องพิมพ์นั้น ไม่ทราบแน่นะคะ แต่ตรงปุ่มภาษาของคอมพ์ที่ใช้อยู่ ได้เพิ่มภาษาจีน (CH) อีกภาษาหนึ่ง เวลาพิมพ์ก็ต้องใช้ระบบพินอินช่วยค่ะ เปี๋ยเค่อชี่ ๆ ค่ะ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2007, 21:05 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: 16-10-2007, 21:12 » |
|
ขอบคุณสำหรับคลิปหนังและเพลงครับ
สังเกตจากมีดสั้น ดูมีราคาไปครับ มีดของลี้คิมฮวงจะดูธรรมดาไม่ได้ประดับอัญมณี และบางเบากว่าในวีดีโอ..
ชอบเพลงครับ เนื้อเรื่องก็ หากไม่เจ็บปวดไหนเลยจะลิ้มรสชาติของความสุขในบั้นปลายอย่างดื่มด่ำ
สุภาพสตรีอายุน้อยที่น่ารัก นับเป็นความสุขของนักรบที่ผ่านสมรภูมิชีวิตอย่างแท้จริง อิจฉาตัวเอกของเรื่องครับ อิอิ  ขอบคุณท่านคิวไต้เฮียบค่ะ เดี๋ยวต้องคลิกดูอีกรอบเพื่อสังเกตว่า มีดสั้นของลี้คิมฮวงดูมีค่ามากเกินไปจริง ๆ สงสัยเป็นความหวังที่ท่านโกวเล้งแอบฝันไว้ว่าบั้นปลายชีวิตของลี้คิมฮวงจะเป็นจริงในชีวิตของตัวเองก็ได้กระมัง  นักแสดงที่รับบท "ซุนเซี่ยวอั๊ง" คนนี้ สวยน่ารัก เธอชื่อ "เจี่ยจิ้งเหวิน" ถ้าจำไม่ผิด เดี๋ยวจะลองหารูปของแม่นางเจี่ยมาโพสต์ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: 17-10-2007, 21:37 » |
|
ขอบคุณท่านคิวไต้เฮียบค่ะ เดี๋ยวต้องคลิกดูอีกรอบเพื่อสังเกตว่า มีดสั้นของลี้คิมฮวงดูมีค่ามากเกินไปจริง ๆ สงสัยเป็นความหวังที่ท่านโกวเล้งแอบฝันไว้ว่าบั้นปลายชีวิตของลี้คิมฮวงจะเป็นจริงในชีวิตของตัวเองก็ได้กระมัง  นักแสดงที่รับบท "ซุนเซี่ยวอั๊ง" คนนี้ สวยน่ารัก เธอชื่อ "เจี่ยจิ้งเหวิน" ถ้าจำไม่ผิด เดี๋ยวจะลองหารูปของแม่นางเจี่ยมาโพสต์ค่ะ มารอชมภาพสาวงามครับ ว่าจะงามสมคำร่ำลือหรือไม่? ขอบคุณล่วงหน้าและตลอดไปนะครับ.. 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: 17-10-2007, 22:01 » |
|
บุปผาโรยราแล้วยังเบ่งบานได้อีก แต่คนเล่า? วัยหนุ่มสาวล่วงเลยลับ ยังมีผู้ใดเหนียวรั้งคืนกลับ!ขอยกสำนวนข้างต้นมาประกอบ ...ด้วยเริ่มเล่าความหลังเมื่อครั้งเยาว์วัย ( จำไม่ได้ว่าจากเรื่องอะไรของท่านโกวเล้ง)  ค่ะ เห็นด้วยค่ะว่า สำนวน 路遥知马力,日久见人心 ถ้าแปลตรงตัวก็มีความหมายแบบที่คุณขวานผ่าซากบอกนะคะ "หนทางพิสูจน์กำลังของม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจของคน" สมัยเม่ยเรียนนั้น เรียนภาษาจีนกลางอย่างเดียวค่ะ เรียนแค่วันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง และก็ได้เรียนแค่ 4 ปี คือ ป.1- ป.4 ยังดีว่า ตอนหลัง ท่านแม่สอนเพิ่มเติมให้บ้าง แต่พอดีไม่ค่อยขยัน ก็เลยพอรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ ค่ะ  สำหรับสำนวน "เซี่ยวหลี่ฉังเตา" เม่ยรู้จักจากเรื่อง "ลูกปลาน้อย" ค่ะ อันเป็นฉายาของหนึ่งในสิบจอมโฉดชั่วที่ช่วยกันเลี้ยงเด็กร้ายกาจ "เซียวฮื้อยี้" ในหุบเขาคนโฉด ท่านแม่บอกว่า เค้าพูดว่า "เชี้ยลี่ฉั่งตอ" จำได้ว่า เรื่องนี้ รุ่นพี่แนะนำให้อ่านสมัยเป็นน้องใหม่ปี 1 พอดีเห็นรุ่นพี่คนนี้ อ่านนิยายกำลังภายในระหว่างพัก พอถามว่า "พี่ช่วยแนะนำหน่อยว่า อ่านเรื่องไหนดี" คำตอบที่ได้คือ "อ่านเซียวฮื้อยี้เลยน้อง รับรองสนุก ...." และก็สมราคา ยังจำได้ว่า เมื่ออ่านถึงตอนที่บรรยายว่าเซียวฮื้อยี้ถูกเลี้ยงให้เติบโตมาอย่างไร หัวเราะจนเหนื่อย ฮาจริง ๆ ค่ะ  เข้าใจว่า คุณขวานผ่าซากน่าจะเรียนการอ่านแบบ "กั๋วอิน" เหมือนกันนะคะ แต่ยุคนี้ต้องเรียนแบบ "พินอิน" ซึ่งตอนทราบครั้งแรกเมื่อนานมาแล้วก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ตอนหลังก็ต้องมาตามแกะรอยดูค่ะ มีดิกออนไลน์มาฝากนะคะ พอดีเสิร์ชเจอจาก http://www.china2learn.com เมื่อหลายเดือนก่อนโน้นค่ะ http://www.mymandarin.com/pinyin/pinyin_main.htmhttp://www.mandarintools.com/chardict.htmlhttp://www.xuezhongwen.net/chindict/chindict.php?page=mainสำหรับเรื่องพิมพ์นั้น ไม่ทราบแน่นะคะ แต่ตรงปุ่มภาษาของคอมพ์ที่ใช้อยู่ ได้เพิ่มภาษาจีน (CH) อีกภาษาหนึ่ง เวลาพิมพ์ก็ต้องใช้ระบบพินอินช่วยค่ะ เปี๋ยเค่อชี่ ๆ ค่ะ  ขอบคุณ คุณเม่ยเป็นอย่างยิ่งครับ ผมเข้ามาในยุทธจักรออนไลน์ ได้แค่สามปีเองครับ มีอะไรอยากขอคำชี้แนะด้วย นะครับ เซี่ยๆหวี่เตอกั่นฉิง อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: 18-10-2007, 00:32 » |
|
มาแล้วค่ะ ภาพนักแสดงสาวคนดังของไต้หวัน "เจี่ยจิ้งเหวิน" (贾静雯)    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~   ปล. 1. รับบท "ซุนเซี่ยวอั๊ง" ใน "ฤทธิ์มีดสั้น" เมื่อปี 1999 2. รับบท "เตี๋ยเมี่ยง" ใน "ดาบมังกรหยก" เมื่อปี 2004
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #61 เมื่อ: 18-10-2007, 01:11 » |
|
เย้..ถ้าไม่มีภาพสาวๆ ผมดูได้ไม่ค่อยนาน..ขอบคุณครับ

|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #62 เมื่อ: 20-10-2007, 08:53 » |
|
มาตรแม้นเป็นเบาะกลมใบหนึ่ง แต่เบาะกลมจัดวางอยู่ด้านตรงข้ามกับเจี่ยเฮียวฮง เจี่ยเฮียวฮงเมื่อออกปากเชื้อเชิญเต็งพ้งนั่งลง แสดงว่ายึดถือเต็งพ้งเป็นสหายแล้ว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
อี้จับซายามมีชีวิต เป็นศัตรูของเจี่ยเฮียวฮง แต่อี้จับซาเมื่อตายแล้ว เจี่ยเฮียวฮงกลับยึดถือเป็นสหาย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เนื่องเพราะอี้จับซาพลันพบว่า กระบี่ที่สิบห้านำมาซึ่งความตายและการทำลายล้าง มันไม่อาจทิ้งท่ากระบี่เช่นนี้อยู่ในโลก มันไม่อาจเป็นคนบาปของบู๊ลิ้ม
เนื่องเพราะพลังและท่าพลิกแพลงของท่ากระบี่ที่สิบห้า สุดที่อี้จับซาจะควบคุมบังคับได้ คล้ายคนผู้หนึ่งพบว่า อสรพิษที่ตนเองเลี้ยงไว้ กลับกลายเป็นมังกรพิษตัวหนึ่ง เติบโตเป็นมังกรพิษที่ไม่อาจควบคุมบังคับได้ มันได้แต่ทำลายตัวเอง
เนื่องเพราะชีวิตและเลือดเนื้อของอี้จับซา หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับมังกรพิษตัวนี้ มันหากคิดทำลายมังกรพิษตัวนี้ ต้องทำลายตัวเองก่อน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เพลงดาบโค้งเป็นเพลงดาบอาถรรพณ์ชั่วร้าย ผู้ฝึกปรือเพลงดาบโค้งจะถูกชักนำเข้าสู่เส้นทางอธรรม เป็นคนชมชอบฆ่าฟัน
แต่เต็งพ้งยึดมั่นในรักแท้ อานุภาพของความรัก อยู่เหนืออำนาจมารชั่วร้าย สามารถควบคุมตนเอง สามารถควบคุมเพลงดาบ
เต็งพ้งสามารถใช้เพลงดาบโค้งฆ่าคนที่ต้องการฆ่าและสามารถยั้งดาบไว้ไมตรีต่อบุคคลที่ไม่ต้องการฆ่า
...พลังจากรักแท้ เป็นพลังที่ลึกล้ำพิสดาร เป็นพลังที่ไม่มีสิ่งใดเทียมทานได้
ความสำเร็จในเชิงดาบของเต็งพ้ง บรรลุถึงขั้นดาบก็คือคน คนยังเป็นคน
ดาบโค้งอยู่ในมือเต็งพ้ง ดาบโค้งเพียงเป็นเครื่องมือของคน
ความสำเร็จในเชิงฝีมือของเต็งพ้งนี้ นับเป็นยอดฝีมือที่ยากยิ่งจะพบพานแล้ว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เจี่ยเฮียวฮงเล่า ?
...
เพลงกระบี่ของเจี่ยเฮียวฮง บรรลุถึงขั้นสูงสุด ไม่จำเป็นต้องจับกระบี่อีก ไม่ว่าสิ่งของใดอยู่ในมือท่าน ล้วนเป็นกระบี่ได้
ต่อให้เป็นกิ่งไม้ท่อนหนึ่ง หญ้าฟางต้นหนึ่ง ล้วนสามารถเปล่งอานุภาพของท่ากระบี่
เนื่องเพราะกระบี่อยู่ในใจท่าน กระบี่ของท่านแฝงอยู่ทุกแห่งหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #63 เมื่อ: 20-10-2007, 09:38 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #64 เมื่อ: 20-10-2007, 22:31 » |
|
สตรีที่น่าลุ่มหลงอย่างแท้จริง หาได้อยู่ที่การเปลือยเปล่าของนาง หากแต่อยู่ที่การรู้จักปกปิดของนางสตรีที่เปลื้องเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่านางหนึ่ง แม้มีอานุภาพเย้ายวนต่อบุรุษ แต่เป็นอานุภาพเย้ายวนที่จำกัด
สตรีที่สวมใส่เสื้อผ้า ปกปิดร่างกายมิดชิด แม้ปิดบังเสน่ห์เย้ายวนของสตรีไป แต่สตรีที่เปลือยเปล่าไร้การปกปิดนางหนึ่ง ก็ออกจะทำลายบรรยากาศเกินไป~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ....บุปผาในหมอกยิ่งงามเย้ายวน ชมบุปผาในหมอกยิ่งชวนวาบหวาม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ สตรีประทินโฉมเพื่อคนรัก พวกนางที่ประทินโฉม สวมใส่อาภรณ์งดงาม เพียงมุ่งหวังให้คนรักเชยชม~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ปล. 1. ตัดตอน "นงคราญยั่วรัก" ใน "อินทรีผงาดฟ้า" เมื่อ เต้งพ้งจำต้องเผชิญหน้ากับหลุมพราง (เสน่ห์) ของ "เจี่ยเซี่ยวเง็ก"  2. จากภาพเสื้อเหลืองสายเดี่ยวของน้องฟ้า 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
THE THIRD WAY
|
 |
« ตอบ #65 เมื่อ: 21-10-2007, 06:34 » |
|
ค่ะ  และขอคั่นด้วยภาพของ "ลี้คิมฮวง" ที่รับบทโดย "เจียวเอินจวิ้น" (焦恩俊)   เท่าที่ติดตาม คนนี้แหละคือลี้คิมฮวง ในดวงใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #66 เมื่อ: 21-10-2007, 15:17 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2007, 15:19 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #69 เมื่อ: 21-10-2007, 16:37 » |
|
ใต้ปลายปากกาโกวเล้ง "ลี้คิมฮวง" เป็นตัวละครที่ประทับตรึงใจผู้อ่านยิ่ง
ความจริงแล้ว ลี้คิมฮวงมีทุกสิ่ง สมบัติพัสถาน ชื่อเสียงเกียรติภูมิ หญิงคนรักที่งามสะคราญ แต่ปัญหา "ความรัก" กับ "คุณธรรม" เพื่อผู้มีพระคุณที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิต ภายหลังต้องทอดทิ้งทุกสรรพสิ่ง พกพาความอ้างว้างร่อนเร่พเนจรไปถึงนอกกำแพงใหญ่ "ชีวิตคนความจริง เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่ว่าผู้ใดล้วนอับจนปัญญา" ในชีวิตเขาเกลียดชังความเงียบเหงาทีสุด แต่กลับเป็นเพื่อนสนิทกับความเงียบเหงาอยู่เสมอมา
เพราะมรสุมชีวิตนี้ เป็นเหตุให้ลี้คิมฮวงปล่อยตัวปล่อยใจ ไม่วางท่าเคร่งขรึม ไม่สนใจว่าผู้อื่นรู้สึกต่อตัวเขาว่าอย่างไร มีคนหยามประณามเขาเป็นคนเสเพล ปีศาจสุรา เขากล่าวว่า "สาวกอันสัตย์ซื่อของสุรามิเห็นมีที่ใดไม่ดี นั่นยังประเสริฐกว่า วิญญูชนจอมปลอมสวมหน้ากากหลอกลวงมากมายนัก...ขอเพียงไม่ละอายต่อมโนธรรม ไยต้องไปสนใจว่าผู้อื่นคิดอย่างไร"
สิ่งที่น่าเลื่อมใสที่สุดคือ "ธาตุแท้คุณธรรม" ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกซิมไบ๊ไต้ซือชั้งชิกเอี้ย กับศิษย์เสียวลิ้มยี่ควบคุมตัวสู่เสียวลิ้มยี่เพื่อลงโทษ กล่าวหาเป็นโจรดอกเหมย ระหว่างทางซิมไบ๊ไต้ซือประสบกับฝีมืออำมหิตของเก๊กลักตั่งจู้แห่งดินแดนแม้ว ซิมไบ๊ไต้ซือหลังจากถูกพิษก็ปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เขาเห็นซิมไบ๊ไต้ซือถูกพิษสาหัสยิ่งมีแต่วัดเสียวลิ้มยี่พอจะมียาขจัดพิษช่วยเหลือได้ ที่น่าประหลาดก็คือ เขามิเพียงไม่หลบหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น ยังแบกซิมไบ๊ไต้ซือขึ้นเสียวลิ้มยี่อีกด้วย
นี่มิใช่จิตใจคุณธรรมเป็นอะไร?
จิตใจคุณธรรมของเขาแสดงออกภายใต้เปลือกนอกเย็นชากระด้าง เขาหนึ่งนั้นไม่ประโคมตัวอวดอ้างคุณธรรม สองไม่ตัดพ้อต่อว่าคำให้ร้ายตำหนิโทษที่เขาเคารพยกย่องเป็นบุคคลอันบริสุทธิ์จริงใจ ดูแคลนชนชั้นจอมปลอม
เขาถูกพิษของเมี้ยวนึ้งกุนแทบสูญเสียชีวิต พบพานกับหมอพิสดารเหมยยี่ซิงแซ แต่ไม่โอดครวญต่อความเป็นตายของตัวเอง เหมยยี่ซิงแซกล่าวกับเขาว่า "ท่านทราบหรือไม่ ตัวท่านรอดชีวิตได้อีกไม่นาน ยังไม่ไปเตรียมสั่งเสียเรื่องราว ไฉนมานั่งดื่มสุรา?"
ลี้คิมฮวงกล่าวว่า "เป็นตายร้ายดีสามัญเหลือเกิน ไหนเลยจะเห็นแก่เรื่องเช่นนี้มาเสียเวลาดื่มสุราได้"
"เช่นนี้เป็นว่าที่ท่านช่วยชีวิตข้าพเจ้า หาใช่เพราะต้องการให้ข้าพเจ้ารักษาอาการบาดเจ็บให้กับท่าน"
"หากต้องการดื่มสุรา มาร่วมดื่มกันสักหลายจอกได้ หากต้องการรักษาโรค โปรดเชิญไปให้ไกลกว่านี้ อย่าได้ถ่วงเวลาดื่มสุราของข้าพเจ้าให้เสียไป"
ด้านสติปัญญา ลี้คิมฮวงย่อมมิใช่คนโง่เขลา เขาสอบได้ตำแหน่งถ้ำฮวยจากฮ่องเต้ (บัณฑิตหน้าบัลลังก์ฮ่องเต้มีจอหงวน ปางั่ง และถ้ำฮวย) แต่เขามักถูกผู้คนหลอกลวง ทั้งนี้อาจบางทีเนื่องเพราะเขาไว้วางใจผู้คนเกินไป ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ความปลอดภัยของตัวเอง
จุดอ่อนในชีวิตของลี้คิมฮวงก็คือ "น้ำใจอันเปราะบาง" กล่าวไปแล้ว มีแต่คนใกล้ชิดเท่านั้นจึงสามารถทำร้ายเขาได้ หากคิดจะโค่นเขาให้พ่ายแพ้ มิว่าใช้กระบวนท่าใด หรืออาวุธใดต่างลำบากอย่างยิ่ง มีแต่ต้องใช้น้ำใจเท่านั้น มีบางครั้งแม้ทราบแน่นอนว่าเรื่องนั้นไม่อาจกระทำ แต่ยังไม่อาจหักใจให้เข้มแข็งไปปฏิเสธ สำหรับประการนี้ ผู้ที่ล่วงรู้จุดอ่อนของลี้คิมฮวงต่างก็หาประโยชน์ ลี้คิมฮวงเองก็ทราบ แต่ยังไม่มีปัญญาเปลี่ยนแปลงแก้ไข
ตัวอย่างเช่นครั้งหนึ่ง...
....
จาก "ยุทธจักรมังกรโบราณ" โดย พาสนา แพรวพรรณ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2007, 16:42 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #71 เมื่อ: 25-10-2007, 21:57 » |
|
ขอบคุณ คุณเม่ยเป็นอย่างยิ่งครับ ผมเข้ามาในยุทธจักรออนไลน์ ได้แค่สามปีเองครับ
มีอะไรอยากขอคำชี้แนะด้วย นะครับ เซี่ยๆหวี่เตอกั่นฉิง อิอิ
มิกล้า มิกล้าค่ะ ไม่ทราบคุณขวานผ่าซากได้แวะไปที่ "มุมจีน" ของเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์หรือยังคะ มีเรื่องน่าอ่านเกี่ยวกับจีนเยอะ เม่ยไม่ค่อยมีเวลาอ่าน แต่แวะไปบ้างเป็นครั้งคราว http://manager.co.th/China/default.htmlตรงส่วน "เว็บบอร์ด" ท้ายหน้า ก็ดีมากค่ะ เพราะมีกระทู้ที่ตั้งคำถามได้น่าสนใจมากมาย อ่านไม่หวาดไม่ไหว http://www2.manager.co.th/mwebboard/listWebboard.aspx?MBrowse=33ถ้าเข้าใจไม่ผิด "ผู้จัดการรายวัน" เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวมั้งคะที่ลงเรื่องเกี่ยวกับจีนมาตลอด น่าจะเท่ากับอายุของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้นะคะ ผมชอบเฉพาะซีนสำคัญอย่างในภาพนะซี ใครจะจ้าง บทลุงไม่ค่อยอยากเล่นครับ..กลัวอินไม่หาย  อิอิ  ค่ะ เพราะ "วีรบุรุษยากผ่านด่านหญิงงาม"  เดี๋ยวจะหาภาพของนึ่งเฮียบมาฝากนะคะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2007, 21:59 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #72 เมื่อ: 26-10-2007, 15:43 » |
|
ขอขอบคุณ aiwen^mei ที่ชี้แนะเว็บให้ครับ
พินอินกับกั๋วอิน มันผิดกันแค่พินอิน เป็นภาษาอังกฤษ
ผมจะเข้าไปที่เว็บคุณ aiwen^mei บอกให้ทราบต่อนะ
ถ้ามีเวลา ขอบคุณสำหรับไมตรีจิตเรื่องนี้ครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #73 เมื่อ: 26-10-2007, 19:50 » |
|
บทที่สร้างชื่อให้กับนักแสดงสาวสวย "หมี่เซี่ยะ 米雪" อึ้งย้ง ใน มังกรหยก หลี่ซื่อเหนียง ใน ศึกสายเลือด เถาไฉ่อี ใน ฤทธิ์หมัดสะท้านบู๊ลิ้ม ภาค 1 องค์หญิงฉางผิง ใน ศึกสองนางพญา เจ้าเชี่ยนหนาน ใน ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #75 เมื่อ: 26-10-2007, 21:03 » |
|
เย้ๆๆๆๆดีใจจัง ผมพิมพ์สำเร็จแล้วครับคุณ aiwen^mei
好花不常开 好景不常在 平时不烧香 临时抱佛脚
(อิอิ เอามาอวดคนแนะนำซะหน่อย ขอบคุณครับคุณ aiwen^mei )
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2007, 17:41 โดย ขวานผ่าซาก »
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
แอบอ่าน ซุ่มเงียบ
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: 26-10-2007, 21:51 » |
|
มาเก็บรูป หมีเซียะ ขวัญใจวัยเด็กของผม  ตอนที่เล่น มังกรหยก คู่กับ ไป่เปียว ผมยังเรียน ป.6 อยู่เลย รู้สึกว่านานยังกะชาติที่แล้วแน่ะ ยังมี วังหมินฉวน กับ หวีอันอัน อีก ไม่โพสท์ต่อเหรอครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
IF YOU DON'T STAND FOR SOMETHING, YOU MIGHT FALL FOR ANYTHING.
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #79 เมื่อ: 27-10-2007, 16:51 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #80 เมื่อ: 27-10-2007, 17:15 » |
|
ไอ่หยา หมีเซียะ ดาราจอแก้ว
ยังขาด อีกหลายคน เช่น เจ้าหย่าจือ
แล้วก็พวกดาราจอเงินน่ารักๆ สมัยก่อนหมีเซียะก็มีเยอะเหมือนกันครับ มาเก็บรูป หมีเซียะ ขวัญใจวัยเด็กของผม  ตอนที่เล่น มังกรหยก คู่กับ ไป่เปียว ผมยังเรียน ป.6 อยู่เลย รู้สึกว่านานยังกะชาติที่แล้วแน่ะ ยังมี วังหมินฉวน กับ หวีอันอัน อีก ไม่โพสท์ต่อเหรอครับ ยินดีค่ะ กำลังหาอยู่ค่ะ ตอนนี้ชมภาพของดาราสาวสวยอีกท่านหนึ่งไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ เธอคือ จางม่านอวี้ เว็บไซต์ของหมี่เซี่ยะค่ะ http://www.michelleyim.comถ้าคลิกที่ชื่อเรื่องที่เธอแสดงจากหน้านี้ http://www.michelleyim.com/mx-zuopin.html จะมีรูปในเรื่องให้ชมค่ะ เย้ๆๆๆๆดีใจจัง ผมพิมพ์สำเร็จแล้วครับคุณ aiwen^mei
好花不常开 好京不常在 平时不烧香 临时抱佛脚
(อิอิ เอามาอวดคนแนะนำซะหน่อย ขอบคุณครับคุณ aiwen^mei )
โห...เก่งมากค่ะ ข้าน้อยขอคารวะ  สุภาษิตที่สองจำไม่ได้ค่ะ ต้องเอาไปถามท่านผู้อาวุโส ถึงได้อ๋อว่า เมื่อก่อนเคยได้ฟังผู้ใหญ่อ้างถึงเหมือนกัน (แบบว่าถูก...น่ะค่ะ  ) อีกสุภาษิตหนึ่งที่ชอบค่ะ คือ 知人知面不知心 เมื่อกี๊ไปคลิก ๆ ดูเค้าว่า ต้องเป็น 知人知面要知心 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2007, 17:24 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #82 เมื่อ: 27-10-2007, 21:37 » |
|
หลักยุทธศาสตร์มีว่าไว้ รู้เขารู้เรา ต่อสู้ร้อยครั้งชนะร้อยครา~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ...จับโจรจับหัวหน้า ยิงคนยิงม้าก่อน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ...ชิงลงมือก่อนเข้มแข็งกว่า ลงมือภายหลังเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ นี่เป็นหลักการที่นักบู๊ล้วนจดจำขึ้นใจ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ แต่ยอดฝีมือชิงชัย ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความเป็นตาย ผลแพ้ชนะตัดสินเพียงชั่ววูบ นอกจากทั้งสองฝ่ายทราบแน่แก่ใจ กระทั่งผู้ชมดูก็ไม่แน่นักว่าจะทราบกระจ่างชัด~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ....ไร้ตัณหาจะเข้มแข็ง ไร้กังวลจะเด็ดเดี่ยว
ผู้ที่มีการศึกษา ล้วนเข้าใจความหมายของคำนี้ แต่น้อยคนที่ปฏิบัติได้
ไม่ว่าผู้ใดล้วนมีกิเลสตัณหา ดังนั้นปณิธานของคนจึงอ่อนแอเปราะบาง ไม่ว่าผู้ใดล้วนมีบุคคลที่ตนกังวลสนใจ ดังนั้นปณิธานของคนจึงสั่นคลอน~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ นับแต่โบราณกาลมา เหล่าวีรบุรุษผู้กล้า สามารถประกอบวีรกรรมระบือลือลั่น ล้วนอาศัยคำ กล้าหาญ นี้
แต่ความกล้าหาญไม่ได้เกิดขึ้นเอง หากแต่เกิดจากความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อลูก น้ำมิตรระหว่างสหาย ความรักระหว่างเพศ ความเห็นใจอกเห็นใจต่อมนุษยชาติ ความรักถนอมต่อชีวิต ความจงรักต่อชาติบ้านเมือง เหล่านี้ล้วนเป็นความรัก
หากปราศจากซึ่งความรัก ผู้ใดทราบโลกนี้จะเปลี่ยนเป็นโลกเยี่ยงไร ?~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ....กาลเวลามักเป็นสาเหตุเปลี่ยนแปลงทุกสรรพสิ่ง
สามารถพลิกความพ่ายแพ้เป็นชัยชนะ สามารถแปรชัยชนะเป็นพ่ายแพ้ เพียงขึ้นอยู่กับผุ้คนสามารถใช้เวลาให้เป็นประโยชน์อย่างไร
....กาลเวลาสามารถพลิกประวัติศาสตร์ และสร้างประวัติศาสตร์~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ จาก "อินทรีผงาดฟ้า" ของ โกวเล้ง โดย น.นพรัตน์ปล. "จูมง" ในค่ำคืนนี้ คล้ายกับว่าเดินเรื่องไม่ต่างจากสำนวนข้างต้น 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #83 เมื่อ: 28-10-2007, 17:14 » |
|
นักแสดงสาวสวยเจ้าหย่าจือ 赵雅芝 ฉิงฉิง ใน เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ หย่งย้ง ใน จอมโจรจอมใจ ...เจ้าแม่กวนอิม?
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2007, 17:25 โดย aiwen^mei »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #84 เมื่อ: 28-10-2007, 17:21 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #85 เมื่อ: 29-10-2007, 09:56 » |
|
ซวยเลยเรา แซวพี่คิว เล่นๆ คุณ aiwen^mei จะเอารูปดาราชายมาลง
เลยอดดูดาราสาวไปด้วยเลย แงๆๆๆๆๆๆ เธอเล่นจะเอาดาราชายมาลงบ้างอ่ะ  (ประท้วงดีไหมพี่คิว )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #86 เมื่อ: 29-10-2007, 11:15 » |
|
ฝากสภาษิตอีกคำครับ 入 港随湾 入乡随俗 คล้ายสำนวน"เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม" กับอยากฟังเพลงชุด "จอมใจจักรพรรค์"สักสองเพลงรบกวนคุณเม่ยหาให้ด้วย ชุด " 江山美人" อยากฟังอยู่คือ "扮皇帝" " 戏风" สองเพลงครับ ผมมีแต่แผ่นเสียง-เทป เดี๋ยวนี้มันฟังไม่ได้แล้วครับ วานกรุณาคุณเม่ย หาให้ด้วยจักขอบพระคุณยิ่งครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #87 เมื่อ: 30-10-2007, 07:54 » |
|
นักแสดงสาวสวย หวังจู่เสียน 王祖贤
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #88 เมื่อ: 30-10-2007, 08:10 » |
|
ฝากสภาษิตอีกคำครับ 入 港随湾 入乡随俗 คล้ายสำนวน"เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม" กับอยากฟังเพลงชุด "จอมใจจักรพรรค์"สักสองเพลงรบกวนคุณเม่ยหาให้ด้วย ชุด " 江山美人" อยากฟังอยู่คือ "扮皇帝" " 戏风" สองเพลงครับ ผมมีแต่แผ่นเสียง-เทป เดี๋ยวนี้มันฟังไม่ได้แล้วครับ วานกรุณาคุณเม่ย หาให้ด้วยจักขอบพระคุณยิ่งครับ  คำว่า "ขอบพระคุณ" มิกล้ารับค่ะ ท่านขวานผ่าซากมิต้องเกรงใจนะคะ ยินดีรับใช้ค่ะ ถ้าข้าน้อยสามารถ  ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับสุภาษิต จำสี่คำแรกได้ค่ะ เพราะได้ยินบ่อย ๆ ว่า "หยิบกั้งสุ่ยอวง" อีกสี่คำต้องไปถามท่านผู้อาวุโสเพราะจำไม่ได้...อ่านว่า "หยิบเฮียสุ่ยซก" ส่วนเรื่อง "กังซัวหมุยยิ้ง" หนังยอดฮิตสมัยอากงอาม่ายังสะโอดสะองอยู่นะคะ ตอนเม่ยเรียนปอสี่ เหล่าซือที่โรงเรียนให้การบ้านร้องเพลงนี้ ก็อาศัยฟังเทปสมัยนั้นที่ยังต้องมีสองม้วน ม้วนใหญ่ กับม้วนเล็ก  หลายปีก่อนมีซีดีหนังต้นฉบับเรื่องนี้ออกมา ตอนจบนั้นแสนเศร้า ถ้าท่านขวานผ่าซากอยากดู ยินดีไรท์ให้ค่ะ แต่ต้นฉบับตามเน็ต ไม่แน่ใจจะหาเจอมั้ยนะคะ แต่มีของหนูน้อย "จั๋วอีถิง" เอามาร้อง ก็น่ารักใส ๆ แบบเด็ก ๆ ดี ได้ดูจากวิดีโอเมื่อนานมาแล้ว มีคนอัพโหลดเพลง "ป้านหวงตี้" ไว้ที่ยูทิวบ์ด้วย แต่ยังไม่เจอ "ซี่ฟ่ง" ตามลิงก์ข้างล่างนี้ค่ะ http://youtube.com/watch?v=LdkHkJoNUHoสุขสันต์วันทำงานก๊าบบบ  ปล. เช้านี้มีภาพของสาวงามผู้โด่งดังจากบทผีสาวแสนสวย "โปเยโปโลเย" มาฝากก่อนนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #89 เมื่อ: 02-11-2007, 13:22 » |
|
ขอขอบคุณคุณ aiwen^mei ครับ สำหรับลิ้งค์เพลง" 江山美人" แล้วเมื่อไรจะนำภาพดาราสาวๆ ของจีนมาลงอีกครับ อิอิ คุณพี่คิว เลยไม่เห็นเข้ามา 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #90 เมื่อ: 02-11-2007, 22:18 » |
|
ก๊วยเจ๋ง + อึ้งย้ง ใน มังกรหยก (1983) ******* อดีตนักแสดงสาวสวยผู้ล่วงลับ องเหม่ยหลิง 翁美玲 *******
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #91 เมื่อ: 04-11-2007, 14:33 » |
|
เอ พักนี้คุณพี่คิว หายหน้าไม่เข้ามาดูเลยดาราสาวๆ
สงสัยจะกลัวเจอดาราชาย เอากระมังครับ อิอิ
พี่คิวพูดถึงคุณ aiwen^mei ไว้ได้ถูกต้องแล้วครับ
ที่ว่า "เธอรู้ใจและน้ำใจงาม" ขอบคุณครับ 谢谢您的好心肠 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #94 เมื่อ: 06-11-2007, 00:25 » |
|
จอมโจรจอมใจ (ชอลิ้วเฮียง - 1979) วังหมิงฉวน เจิ้งเส้าชิว เจ้าหย่าจือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เล่าปี๋
|
 |
« ตอบ #95 เมื่อ: 06-11-2007, 00:29 » |
|
สวัสดีครับคุณ aiwen^mei โก้วเล้งตายไปแล้วนะครับ
แต่ผมว่าคุณ aiwen^mei เขียนมาสไตล์คุณซูมนะครับ อิอิ (เดาว่าเหมือนนะ) 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว ไม่พราวไสว หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น พลันมืดมัว....
|
|
|
Cherub Rock
|
 |
« ตอบ #96 เมื่อ: 06-11-2007, 00:44 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #97 เมื่อ: 06-11-2007, 00:48 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #98 เมื่อ: 06-11-2007, 02:31 » |
|
หลายท่านที่พบปะกัน ก็ยืนยันมาแบบที่ผมว่านี่นา จะเป็นอื่นไปได้อย่างไร?
แค่ได้ยิน ได้เห็นตัวอักษรก็สุขใจแล้วล่ะครับ..อิอิ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #99 เมื่อ: 07-11-2007, 18:44 » |
|
นักร้องนักแสดงผู้มากความสามารถ วังหมิงฉวน 汪明荃 14 นางสิงห์เจ้ายุทธจักร ฝันสลาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|