ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 20:17
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  "ในหลวง" ทรงย้ำคณะทูตให้เห็นถึงความสำคัญของภาษาไทย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
"ในหลวง" ทรงย้ำคณะทูตให้เห็นถึงความสำคัญของภาษาไทย  (อ่าน 2047 ครั้ง)
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« เมื่อ: 29-08-2007, 21:23 »

วันนี้ (29 ส.ค.) เวลา 16.44 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยที่ปฏิบัติราชการอยู่ในต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานพระบรมราโชวาท ในโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดให้มีการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทย ประจำปี 2550 ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2550
        โอกาสนี้ นายนิตย์ พิบูลสงคราม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ ยังทรงชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของภาษาที่แสดงให้เห็นถึงความมีอารยธรรมและความเจริญของชาติไทยที่มีมาช้านาน
        "ท่านทูตคงกลุ้มใจที่คนที่ไปอยู่ต่างประเทศ ไม่กี่วัน ลืม ไม่นาน กลับมาพูดภาษาไทยไม่ได้ เพราะว่านึกว่าไปต่างประเทศนั้นต้องไปเรียนรู้ความเป็นไม่เป็นไทย ฉะนั้นก็เห็นใจท่าน เพราะว่าท่านเป็นทูต คนที่ไปต่างประเทศไม่กี่วันและไปพบกับท่านทูต พูดภาษาไทยไม่ได้ แต่ว่าต่างประเทศ ฝรั่งไปพบท่าน มาเมืองไทยไม่นานกลับไปพูดภาษาไทยได้ อันนี้ก็ชอบกล ประหลาดมาก แต่ว่าต้องเข้าใจว่าคนที่ไม่ได้ไปต่างประเทศ แต่ก็ได้มีโอกาสไปต่างประเทศ เขามีปมด้อย คนไทยนั้นส่วนใหญ่ไม่มีปมด้อย คนไทยมีความภูมิใจที่เป็นคนไทย เพราะว่าอยู่เมืองไทย เป็นคนไทย เขาได้สามารถศึกษาว่าเมืองไทย คนไทย มีความดี แต่ผู้ที่ไปต่างประเทศนึกว่า เราก็พูดอย่างเดียวกับผู้ที่ไปเมืองฝรั่ง ไม่ใช่พวกที่ไปเมืองแขก เมืองจีน แต่ว่าพวกที่ไปฝรั่งเพราะเห่อว่าฝรั่งเขาเจริญ ฝรั่งเขาเจริญเพราะว่าบ้านเมืองของเขามีความก้าวหน้าหลายอย่าง คนไทยก็เลยมีปมด้อยว่าเราไหนว่าไม่มีความเจริญ ปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะทำยังไงสำหรับแก้ไข ก็เล่าให้ท่านฟังแล้วว่าข้าพเจ้ามาเมืองไทย ไม่รู้ภาษาไทย แล้วก็ออกไป อายุ 5 ขวบ กลับมาอายุ 11 ก็ไม่ค่อยรู้ภาษาไทย ที่จริงรู้ภาษาไทยก็โดยที่สมเด็จพระบรมราชชนนีท่านไม่พูดภาษาฝรั่งกับเรา ท่านพูดภาษาไทย ก็เลยรู้ภาษาไทย แต่เขียนภาษาไทยไม่ค่อยได้ อ่านไม่ค่อยได้ ตอนอายุ 11 ก็ได้เรียน จนกระทั่งอายุ 18 ก็เขียนภาษาไทย อ่านภาษาไทยไม่ค่อยได้ มาอ่านภาษาไทยได้ทีหลัง แต่ก็อยู่ที่ความเป็นไทยนี่ลำบาก ก็พยายามที่จะเรียนภาษาไทย แต่ผู้ที่ไปแล้วไปหาท่านทูตแต่พูดภาษาไทยไม่ชัด นั่นส่วนใหญ่เขาก็รู้ภาษาไทย ออกไป 2-3 วัน ลืมภาษาไทยแล้ว เพราะว่าเป็นคนที่ไม่ศึกษา วิธีที่จะทำท่านทูตก็คงต้องล้างสมองเขา วิธีที่จะปฏิบัติ ต้องล้างสมองเขาว่าประเทศไทยมีภาษาไทยมานานแล้ว นาน มีวัฒนธรรมไทย มีนานกว่าประเทศต่างประเทศในยุโรปหลายประเทศ ก่อนนี้ในต่างประเทศ เป็นที่เขาเรียกว่า Middle Age หมายความว่าเป็นยุคที่ไม่เจริญ เมืองไทยนี่ยุคกลางของเราเจริญแล้ว ถ้าอยากจะให้แก้ไข เราจะต้องศึกษายุคกลางของเราว่าเจริญแล้ว และบอกกับพวกที่เขานึกว่าเมืองไทยไม่เจริญให้เข้าใจ แล้วก็ที่ประเทศไทยนี้มีภาษาไทย มีตัวอักษรไทยมาตั้งแต่สมัยที่เป็นยุคกลางของฝรั่ง หมายความว่า Middle Age ของคนฝรั่ง ของเราหลายร้อยปี มีภาษา มีตัวอักษร ของฝรั่งไม่มี เราไม่พูดถึงอเมริกา ไม่พูดถึงแอฟริกา แต่ในยุโรปซึ่งเป็นประเทศที่เจริญ แต่ตอนนั้นไม่ได้เจริญ เราเจริญก่อน แต่ว่าที่เมืองไทยจะไม่เจริญเพราะว่ามีคนอย่างพวกที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเมืองไทยเจริญมานานแล้ว ก็วิธีที่จะทำคือต้องรู้สึกยกย่องและต้องพยายามที่จะทำให้เข้าใจว่าเมืองไทยนี้เจริญมานานแล้ว"
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #1 เมื่อ: 29-08-2007, 21:25 »

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000101984

บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 29-08-2007, 23:34 »

รักในหลวงที่สุดเลยครับ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


หน้า: [1]
    กระโดดไป: