ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 23:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ชายฉกรรจ์กว่า100คน บุกรื้อแผงร้านค้าย่านอาร์ซีเอ..... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ชายฉกรรจ์กว่า100คน บุกรื้อแผงร้านค้าย่านอาร์ซีเอ.....  (อ่าน 2947 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 26-08-2007, 16:59 »

ชายฉกรรจ์กว่า100คน บุกรื้อแผงร้านค้าย่านอาร์ซีเอ
 
26 สิงหาคม พ.ศ. 2550 11:31:00
 
กลุ่มชายฉกรรจ์กว่า100 คน บุกทำลายแผงร้านค้าย่านอาร์ซีเอพังยับ เสียหายกว่า 30 ร้าน ชาวบ้านระบุเห็นรถกระบะ-รถตู้ ทะเบียนต่างจังหวัดขนกลุ่มคนร้ายเข้ามาในตลาด ใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 10 นาที

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม พ.ต.ท.ปัญญาพงษ์ ปัญญาวัชรากร พนักงานสอบสวน (สบ.3) สารวัตรเวร สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุมีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 100 คน บุกเข้ารื้อถอนทำลายเต็นท์และแผงร้านค้าในตลาดทางเข้าวัดอุทัยธารามใกล้กับสถานบันเทิงอาร์ซีเอ ถ.กำแพงเพชร7 แขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง กทม. เบื้องต้นพบว่าร้านค้าได้รับความเสียหายกว่า30 ร้าน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบแผงที่วางขายของภายในตลาดดังกล่าวถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย สินค้าได้รับความเสียหายกระจายเต็มพื้น นอกจากนี้ยังพบเต้นท์ถูกรื้อวางกองกับพื้น โดยมีกลุ่มแม่ค้าพ่อค้ายืนจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบสวนนายสำรวยหน่องพงศ์ หรือ ป๋ารวยอาร์ซีเอ ผู้ดูแลตลาดอายุ 48 ปีกล่าวว่า แผงร้านค้าของแม่ค้าพ่อค้าทั้งหมดได้เช่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นรายเดือน จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนเดือนละ 18,000 บาทโดยมีนายสุรพันธ์ วงการกช เป็นเจ้าของที่ดินและเป็นนักธุรกิจมาเกือบ 20 ปีแล้วแต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านตนได้นำเงินค่าเช่าที่ไปให้กับนายสุรพันธ์ตามปกติ แต่นายสุรพันธ์ไม่ยอมรับพร้อมกับอ้างว่าหมดสัญญาเช่าแล้ว และต้องการให้ย้ายออกไปตั้งร้านค้าที่อื่น  ตนจึงพยายามเจรจาต่อรองเพื่อขอเวลาในการหาพื้นที่ค้าขายใหม่ให้ได้เสียก่อน จนกระทั่งมาเกิดเหตุรุนแรงดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายทุน

"จากนี้ผมคงต้องติดต่อกับนายทุนเจ้าของที่ดินอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และผมจะแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มาก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้ ในข้อหาทำลายทรัพย์สิน เนื่องจากร้านค้าจำนวนมากได้รับความเสียหายยับเยิน ซึ่งทางเราต้องการให้ชดใช้ค่าเสียหายกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย" นายสำรวยกล่าว

จากการสอบถามพยานซึ่งเป็นชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมงได้สังเกตเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์มาจับกลุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตามจุดต่างๆ ที่บริเวณทางเข้าตลาด โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดโดยสารมากับรถกระบะ และรถตู้ ทะเบียนรถจังหวัดราชบุรี กับจังหวัดนครปฐม จำนวนกว่า 20 คันจากนั้นได้ขับรถทยอยเข้ามาในตลาดดังกล่าวเป็นขบวน  เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดได้ลงมาจากรถแล้วพากันทุบทำลายเต็นท์ร้านค้าได้รับความเสียหายพังยับเยิน โดยใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 10 นาทีเท่านั้น จากนั้นได้พากันขึ้นรถหลบหนี  เนื่องจากมีชาวบ้านได้แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ

ด้านพ.ต.ท.ปัญญาพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นนายสำรวยพร้อมกับบรรดาแม่ค้าได้แจ้งความ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาทำลายทรัพย์สินแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ขณะเดียวกันก็จะเรียกพยานแวดล้อม รวมทั้งนายจะเชิญนายสุรพันธ์ ซึ่งนายสำรวยอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว และกำลังมีข้อพิพาทกันนั้น มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาข้อเท็จจริง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
 

http://www.bangkokbiznews.com/2007/08/26/WW10_WW10_news.php?newsid=91370
 
   
ผมตั้งกระทู้ก่อนที่คนรักสองผัวเมีย จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆของคณะ คตส. และ หนี"หมายจับ" ของศาลยุติธรรม จะเข้ามาตั้งกระทู้เปรียบเทียบความสงบสุขของประชาชนในยุคอดีตนายกฯและนายกปัจจุบัน...
 
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ รักษาการ ผบ.ตร. ให้ความสนใจพฤติกรรมของอันธพาลกว่า 100 ตนนี้ด้วยครับ
เหตุการณ์นี้เป็น"ข่าวโอชะ"ของคนรักทักษิณที่ลืมเหตุการณ์พรรคพวก"ชูวิด" รื้อทำลายชุมชนการค้าซอยสุขุม 11(?)ระหว่างที่เจ้านายของพวกเขาเป็นนายกฯแล้ว.....
พวกเขา"รู้สึก"ตกใจที่เหตุการณ์พรรค์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่คณะ คมช.และรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ ที่อ้างว่ามีคุณธรรมและจริยธรรมมากกว่าอดีตนายกฯทักษิณ คนไม่มีคุณธรรมและจริยธรรมได้อย่างไร.....


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
สมปอง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #1 เมื่อ: 26-08-2007, 17:48 »

 

มันรื้อทำไมอะ
บันทึกการเข้า



ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด
ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว
ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่
ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์

ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า
มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้
ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #2 เมื่อ: 26-08-2007, 18:30 »



มันรื้อทำไมอะ
 
   
    รื้อไล่ที่ไงครับ
 
    กรณีนี้ผมมองว่า      คนออกกฎหมาย  ออกกฎหมายไม่เป็นธรรม  ทำให้ประชาชนต้องพิพาทกัน
 

               มีกฎหมายหลายสิบข้อที่ผมมองว่า   ออกมาไม่ดีทำให้ประชาชนพิพาทกัน   กรณีนี้เป็นต้น   เจ้าของที่ดิน  ให้ผู้เช่าเช่าทำประโยชน์  มีอายุสัญญา     และที่ดินผืนนี้คงมีมูลค่ามหาศาลเป็นร้อยเป็นพันล้านบาท เจ้าของที่ต้องการนำมาใช้ประโยชน์ให้คุ้นค่ากว่าเก็บค่าเช่า   พอหมดสัญญาเช่า ก็ไม่ให้เช่าต่อ   แต่ทางผู้เช่าก็ไม่ยอมย้ายออก  ยังคงดื้อดึงอาศัยอยู่ในที่แปลงนี้     ถ้าจะใช้กระบวนการทางกฎหมาย (ที่ผมเห็นว่าออกมาไม่ดีทำให้คนทะเลาะกัน) คือ    ฟ้องขับไล่      กว่าจะสืบพยานครบ ซึ่งมีเป็นร้อยปาก    กว่าจะครบ3ศาล ใช้เวลาไม่น้อยกว่า
 10ปี  และระหว่างที่ฟ้องร้องกัน แน่นอนว่าทางผู้เช่าจะไม่จ่ายค่าเช่าแล้ว       อยู่ไปเรื่อยๆจนกว่าศาลจะมีคำสั่งให้ย้ายออก     ก็เท่ากับอยู่ฟรีไป10ปี และไม่แน่ว่าทางศาลอาจสั่งให้เจ้าของที่จ่ายค่าขนย้ายให้ด้วย    และที่ดินราคาเป็นร้อยล้านพันล้านบาทให้คนมาอยู่ฟรี10ปีนี่   เสียหายมหาศาลนะครับ         เจ้าของที่ดินจึงต้องจำใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำคือ  จ้างมาเฟียมารื้อครับ  ค่าจ้างคงหลักล้านนะครับ  ลองคิดดู ใครอยากเสียเงินเป็นล้านล่ะ
 แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้กว่าจะรอให้ศาลสั่งต้องรอ 10ปี     และถ้าเจ้าของมีโครงการจะสร้างโครงการอะไรในที่ดินนี้
 รอไหวหรือครับ
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #3 เมื่อ: 26-08-2007, 18:37 »

กรณี "พิพาทเรื่องเช่าที่" คล้าย ๆ กัน ที่ตลาดสุรนคร เมืองโคราช
นักข่าว ไปซื้อของ (หรือจะไปทำข่าวแต่อ้างว่าไปซื้อของก็ไม่รู้ล่ะ) ถ่ายวิดีโอเล่น
นักเลงคุมตลาด เกิด "อาการวัวสันหลังหวะ" เพราะเจ้านายมีข้อพิพาทเรื่องเช่าที่กับเจ้าของที่อยู่
เลยจะมา เล่นงาน คนถ่ายวิดีโอ
โชคดีที่เป็นนักข่าวนะเนี่ย ถ้าเป็นคนธรรมดาอย่างเรา ๆ
คงโดนตื้บ ตายห่อไปแล้ว

http://www.oknation.net/blog/jaofoto/2007/08/25/entry-1
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #4 เมื่อ: 26-08-2007, 18:42 »

 ถ้าคิดว่าเจ้าของที่ดิน  โหด   ก็ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราสมมุตตัวเองเป็นเจ้าของที่ดิน  สัญญาเช่าหมดอายุแล้ว
 และเราอยากจะเข้าไปทำประโยชน์เอง เช่นทำห้างสรรพสินค้า   แต่หมดสัญญาเช่าแล้วทางผู้เช่าก็ยังไม่ยอมย้ายออก   ถ้าจะฟ้องร้องตามกฎหมายก็ใช้เวลา10ปี    เป็นคุณๆจะทำยังไงล่ะ??????????
 
          ผมถึงบอกไงว่า     กฎหมายออกมาไม่ดีทำให้คนพิพาทกัน
 
    ถ้าเป็นผมออกกฎหมาย   ผมจะออกว่า ถ้าหมดสัญญาเช่าแล้ว   เจ้าของที่ไม่ให้เช่าต่อ    ทางผู้เช่าจะต้องขนย้ายสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายออกจากที่ดินภายใน 6 เดือน  มิฉนั้นสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายจะตกเป็นของเจ้าของที่ดินทันที
 
     แค่นี้เอง  ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว
 ถ้าจะมองว่าเจ้าของที่ดินได้เปรียบ    ผมว่าไม่หรอก เพราะผู้เช่าต้องมีหน้าที่รู้อยู่แล้วว่า หมดสัญญาเมื่อไหร่
 ก่อนจะหมดสัญญาซัก 1ปี ก็ควรติดต่อถามเจ้าของที่ดินว่าจะให้เช่าต่อหรือไม่   ถ้าเค้าไม่ให้เช่าเราก็เตรียมตัวขยับขยายหาที่ใหม่       ถ้าเค้าให้เช่าต่อก็ทำสัญญากันล่วงหน้าว่าตกลงให้เช่าต่อ        ผมว่าวิธีของผมไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันหรอก
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #5 เมื่อ: 26-08-2007, 18:49 »

คุณ glock ครับ
บางที กฎหมายจะดี หรือ ไม่ดี อาจไม่ใช่ประเด็น
ถ้าคนเรา มันไม่เชื่อ ไม่กลัว กฎหมาย เสียอย่าง

ลองอ่านจาก กรณี ตลาดสุรนคร ที่ผมลิงค์มา
ผิดถูก ตื้นลึกหนาบาง ยังไงเราไม่รู้หรอก
แต่ ตามตัวบทกฎหมาย ก็คือ เรื่องยุติถึงศาลฎีกา ให้ผู้เช่า จ่ายค่าเสียหาย ให้เจ้าของที่ และ หมดสิทธิในการใช้พื้นที่
แต่ คนเช่า ไม่ยอมทำตามคำสั่งศาล แบบ ตัดสินก็ตัดสินไปสิ
กู....ไม่จ่าย ไม่ย้าย ไม่สน ซะอย่าง
ใครจะทำไม

เจ้าของที่จะทำอะไรได้ละครับ ต่อให้ มีกฎหมายให้ยึดทรัพย์สินเป็นของเจ้าของที่ หรืออะไรก็ตามเถอะ
เมื่อ เขาไม่ยอมปฏิบัติตาม
เจ้าของที่ จะทำอะไรได้ละครับ
นอกจาก..........ต้องใช้ วิชาโจร สู้กับโจร ตอบ
ถ้ามีปัญญาทำ
 
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #6 เมื่อ: 26-08-2007, 19:02 »

    หรืออย่าง สลัมต่างๆ ที่เห็นข่าวเผาไล่ที่กันบ่อยๆ   เรื่องมันเป็นอย่างนี้
 แต่ก่อนที่ดินยังไม่แพงเศรษฐีซื้อที่ดินไว้มาก ปล่อยไว้เฉยๆไม่ได้ทำอะไร   ก็มีคนยากคนจนมาขออาศัยปลูกเพิงปลูกกระต๊อบอยู่    เจ้าของที่ดินก็ไม่ว่าอะไร   ต่อมาก็มีคนจรจัด คนจนมาอยู่เพิ่ม ออกลูกออกหลานเพิ่มต่อเติมเพิงต่อเติมกระต๊อบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกลายเป็นชุมชนสลัม       พอเจ้าของที่ต้องการจะใช้ประโยชน์ในที่ดินนี้ก็บอกให้พวกที่มาอาศัยนี้ย้ายออกไป     พวกนี้ก็ไม่ยอมออกเพราะไม่รู้จะไปไหนเพราะอยู่เป็น10ปี20ปีแล้ว ( จริงๆควรมีสำนึกว่าที่นี้เราอาศัยเค้าอยู่   ควรมีความคิดที่จะหาทางขยับขยายมีที่ดินเป็นของตนเอง   แต่อย่างว่าคนเราคิดไม่เหมือนกัน  ถ้าคนเรามีหัวคิด  ประเทศนี้คงไม่มีคนจนหรอก)      ก็อย่างที่ผมว่าถ้าจะดำเนินการทางกฎหมาย มีวิธีเดียวคือ
 ฟ้องขับไล่    จำนวนพยานก็เท่ากับจำนวนคนที่มาอาศัยนั่นแหละ หรืออาจมากกว่าก็ได้เพราะเค้าอาจอ้างถึงเพื่อนถึงญาตมาเป็นพยานก็ได้    สมมุตว่าพยานในคดีฟ้องขับไล่นี้มี 200 คน   ศาลพิจารณาครั้งละ
 10ปาก(คน)   นัดแต่ละครั้ง ก็6เดือน   กว่าจะสืบพยานเสร็จ  5 ปี ( กรณีที่มาตามนัดทุกคนทุกครั้ง  ไม่มีใครอ้างว่าป่วยแล้วนัดเลื่อนนะครับ)  สืบเสร็จ5ปี   กว่าจะพิจารณาตัดสินก็อีก ปีหรือ2ปี      อุธรณ์อีก 2 ปี   ฎีกาอีก 2ปี
  ปาเข้าไป9ปีแล้วครับ         ถ้าเจ้าของที่ดินนี้จะขาย หรือจะทำโครงการในที่ดินนี้รอไหวเหรอครับ     ถึงได้จำเป็นจำใจ ต้อง   เผา ไงครับ
  
         เห็นหรือยังครับ   ถ้ากฎหมายออกมาไม่ดี จะทำให้คนพิพาทกัน
 แต่ผมเข้าใจเจตนาของคนออกกฎหมายนะครับ   คือเจตนาเค้าต้องการจะ  ช่วย   ผู้ด้อยโอกาศกว่า  แต่เค้า ภาษาหมากรุกว่า
   มองแค่ชั้นเดียว    จากเจตนาช่วย เลยกลายเป็น กระทืบซ้ำ
     มีกฎหมายหลายข้อครับ  ที่เพราะความที่มองเป็นแค่ชั้นเดียว  จากเจตนาจะเข้าข้าง เลยกลายเป็น  ทำร้ายเค้าทางอ้อม
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2007, 19:08 โดย glock19 » บันทึกการเข้า
Gun
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #7 เมื่อ: 26-08-2007, 19:15 »

ก็ยังงี้แหละครับ

แต่ขอแก้นิดนึง
คดีความพวกนี้ ถึงจะมีคนแค่นิดเดียวก็นานมาก ๆ ครับ
ญาติผมให้คนเช่าที่ดินแค่ 1 ครอบครัว พอหมดสัญญาจะเอาที่คืน
ไม่ยอม ก็ฟ้อง ครบ 3 ศาลครับ
ใช้เวลา 9 ปีถ้วน

นี่ขนาดคดีมีคู่กรณีแค่ 4-5 คนนะครับ
ถ้าฟ้องไล่ทั้งสลัม...จะกี่ปีก็ไม่รู้ 
บันทึกการเข้า
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-08-2007, 19:27 »

   ดูหนังฝรั่งหลายเรื่องแล้ว เกี่ยวกับ เจ้าของบ้านเช่า กับผู้เช่า    ผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่า   เจ้าของบ้านก็จับกระเป๋า
จับข้าวของโยนออกนอกประตูไปเลย     แต่กฎหมายไทยทำแบบนั้นไม่ได้  กฎหมายไทยต้อง  ฟ้องขับไล่
 สถานเดียว     สมมุติ     คุณมีบ้านให้เช่า   แล้วผมไปเช่าบ้านคุณ เดือนละ2,000  ผมจ่ายแค่เดือนแรกเท่านั้น
เดือนต่อๆมาผมไม่จ่ายแล้ว ผลัดไปเมื่อนั่นเมื่อนี้  พรุ่งนี้  มะรืนนี้  วันอาทิตย์   วันอังคาร    อาทิตย์หน้า เดินหน้า
 ไปตามเรื่องถ้าคุณจะให้ผมออก   มีทางเดียว คือ   คุณต้อง ฟ้องขับไล่     ฟ้องก็ฟ้องไปซิ ผมก็อยู่ฟรีไปเรื่อยๆจนกว่าศาลจะตัดสิน
 หรือถ้ารำคาญอยากให้ผมออกไวๆก็จ่ายค่าขนย้ายมาซัก 5000  พรุ่งนี้ผมออกเลย
     นี่กฎหมายมันเป็นอย่างนี้ คือเจตนา  เข้าข้าง  หรือ เอียงไปทางฝ่ายผู้ด้อยโอกาศกว่า   อย่างที่ผมว่า เจตนาจะเข้าข้าง แต่มองแค่ชั้นเดียว    จึงกลายเป็น  ซ้ำเติมผู้ด้อยโอกาศ    เพราะเจ้าของบ้านเช่าก็รู้ว่ากฎหมายมันเป็นแบบนี้   ดังนั้น จึงแก้โดยออกกฎ  ใครจะเช่าต้องจ่ายล่วงหน้า 3 เดือน หรือ 6เดือนพร้อมเงินค่ามัดจำความเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง       ลำบากคนจนอีก ตะเวณหาบ้านเช่า  เจอแต่คนเรียกค่าเช่าล่วงหน้า 3เดือน       เวรกรรม
      นี่แหละหนา   คนออกกฎหมายเอ๋ย เจตนาดีแต่ฉลาดไม่พอ  คิดจะช่วยกลับเป็นซ้ำเติมเค้า
   ถ้าออกกฎหมายแบบไม่เข้าข้างใคร     ผู้เช่าไม่มีเงินจ่าย    เจ้าของบ้านก็ขนของออกไปกองข้างนอกได้
 ก็ไม่ต้องเรียกค่าเช่าล่วงหน้า3เดือน
        แถวๆบ้านผมมีตาแป๊ะคนนึงมีตึกให้เค้าเช่าหลังนึง  คนเช่าไม่ยอมจ่ายค่าเช่า ไม่ยอมย้าย  กรูจะอยู่ฟรีอย่างเดียว  ฟ้องร้องกันหลายปี ตาแป๊ะรอไม่ไหวตัดสินใจ จ้างให้ย้ายออกไป      คนเช่าสบายไปอยู่ฟรีตั้งปี  แถมได้เงินใช้ฟรีอีกต่างหาก       ตอนหลังตาแป๊ะรู้แล้วว่ากฎหมายเป็นอย่างนี้ ทีนี้ถ้าใครจะเช่าต้องเอาเงินมาจ่ายล่วงหน้า6เดือน
 และหาคนมาค้ำประกันอีกต่างหาก
บันทึกการเข้า
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #9 เมื่อ: 26-08-2007, 19:30 »

ก็ยังงี้แหละครับ

แต่ขอแก้นิดนึง
คดีความพวกนี้ ถึงจะมีคนแค่นิดเดียวก็นานมาก ๆ ครับ
ญาติผมให้คนเช่าที่ดินแค่ 1 ครอบครัว พอหมดสัญญาจะเอาที่คืน
ไม่ยอม ก็ฟ้อง ครบ 3 ศาลครับ
ใช้เวลา 9 ปีถ้วน

นี่ขนาดคดีมีคู่กรณีแค่ 4-5 คนนะครับ
ถ้าฟ้องไล่ทั้งสลัม...จะกี่ปีก็ไม่รู้ 
                 กรณีอย่างที่คุณว่ามานี้ถ้าไปเจอเจ้าของที่ ใจร้อน     ก็     เผาครับ
 
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #10 เมื่อ: 26-08-2007, 19:37 »

คุณ Glock19

อ่านเรื่องปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงษ์ 10รอบโดยด่วน
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #11 เมื่อ: 26-08-2007, 19:44 »

  อีกตัวอย่างนึงของกฎหมาย ที่ออกมาไม่ดี   หวังที่จะ ช่วย จะเข้าข้างผู้ด้อยโอกาศ   กลับกลายเป็น   "ซ้ำเติม"
  ไปซะอีก    คือเรื่อง  เงินกู้ ไงครับ   ทำไมผู้ให้กู้ถึงต้องคิดดอกร้อยละ 5 ร้อยละ10   หรือร้อยละ20   ต่อเดือน
   ก็กฎหมายออกมาเข้าข้าง ผู้ด้อยโอกาศไงครับ
         คิดดู   สมมุตผมกู้เงินคุณ  2,000   สัญญาว่า เดือนเดียวจ่ายให้หมด (ถ้าคิดดอกเบี้ยตามกฎหมาย=25บาท)
 พอถึงกำหนดจ่ายคืน  ผมก็ผลัดเป็น พรุ่งนี้ มะรืนนี้  วันจันทร์ วันเสาร์ อะไรของผมไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 คุณมีทางเดียวที่จะทำได้คือ   ไปฟ้องศาล  เพื่อให้ผมชดใช้เงิน ต้น สองพัน  กับดอก 25 บาท      เป็นคุณคุณจะ
ไปฟ้องศาลมั๊ยล่ะครับ         นี่ไงเพราะเหตุนี้ เจ้าของเงินจึงต้องคิดดอกให้สูงให้คุ้มกับความเสี่ยง     คนจนคนด้อยโอกาศจึงต้องพลอยรับกรรม  โดนดอกเบี้ยแพงๆ  
    อ่ะลองคิดดู   ถ้าผมยืมเงินคุณ 2,000    1 เดือน และสัญญาจะให้ดอกเบี้ยคุณ 25 บาทแต่ถ้าผมเบี้ยวคุณต้องไปฟ้องศาลเอานะ   คุณจะให้ผมยืมมั๊ยล่ะ????      
บันทึกการเข้า
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #12 เมื่อ: 26-08-2007, 19:49 »

คุณ Glock19

อ่านเรื่องปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงษ์ 10รอบโดยด่วน
 
     ก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมันครับ   คุณอาจเห็นว่า  ความคิดแบบผม เป็นปีศาจ   
   และคุณเห็นด้วยกับ กฎหมาย ปัจุบัน ว่าดีแล้ว ถูกแล้ว         ก็ มันถึงได้ ต้อง   เป็นแบบนี้ไงครับ  ต้องเผาไล่ที่
  ต้องจ้างมาเฟียไล่ที่       ถ้าคุณคิดว่ามันดีแล้ว มันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆๆ
บันทึกการเข้า
Gun
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #13 เมื่อ: 26-08-2007, 19:58 »

คุณ Glock19

อ่านเรื่องปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงษ์ 10รอบโดยด่วน

ถึงการเผาอย่างที่คุณ glock 19 บอกจะรุนแรงไป แต่บางทีก็ต้องใช้วิธีรุนแรงประมาณนี้แหละครับ

ลองเป็นคุณดูมั่งสิ มีที่ดินแต่มีเหลือบมาเกาะ ทำให้ใช้ประโยชน์จากที่ดินไม่ได้
ประนีประนอมให้เวลา 1 ปีหาที่อยู่ใหม่ ก็ไม่ยอมไปซะที

เป็นคุณจะทำอย่างไรครับ
บันทึกการเข้า
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #14 เมื่อ: 26-08-2007, 20:38 »

555

ไม่รู้เป็นอะไรนะ ความคิด ผมกับคุณ glock ขัดกันตลอดเลยวุ้ย

เท่าที่ผมคิดว่า ที่ทางนั้น มิใช่ของเรา แต่เป็นของแผ่นดิน

หากคุณมีที่แต่ไม่ทำอะไร มันก็สูญเปล่า อย่างนี้ให้ประชาชนคนอื่นใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่ามั้ย
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 27-08-2007, 03:49 »

เจ้าของที่ น่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายได้เหมือนกันนะครับ คือ  ถ้าฟ้องไล่ใช้เวลา 9 ปี แล้วคนเช่าไม่จ่ายค่าเช่า ก็ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายส่วนนี้ แล้วเรียกค่าเสียหายส่วนที่เจ้าของทีเสียโอกาสเข้าไปด้วย
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #16 เมื่อ: 27-08-2007, 07:01 »

เจ้าของที่ น่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายได้เหมือนกันนะครับ คือ  ถ้าฟ้องไล่ใช้เวลา 9 ปี แล้วคนเช่าไม่จ่ายค่าเช่า ก็ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายส่วนนี้ แล้วเรียกค่าเสียหายส่วนที่เจ้าของทีเสียโอกาสเข้าไปด้วย
ค่าเสียหาย ค่าเสียผลประโยชน์ ค่าเช่าที่ค้าง ค่าศาล ค่าทนาย ค่าเสียเวลา ค่าดอกเบี้ย ฯลฯ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 27-08-2007, 07:27 »

กฎหมายบางเรื่องก็ปรับเป็นสากลได้
บางเรื่องควรปรับให้เข้ากับนิสัยประจำชาติ

ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจอำนวยความยุติธรรม ให้ทั้งสองฝ่าย
ก็รู้อยู่แล้ว เมืองไทยมีนักกฎหมายศรีธนญชัยเยอะ
บันทึกการเข้า

glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #18 เมื่อ: 27-08-2007, 07:55 »

ค่าเสียหาย ค่าเสียผลประโยชน์ ค่าเช่าที่ค้าง ค่าศาล ค่าทนาย ค่าเสียเวลา ค่าดอกเบี้ย ฯลฯ
 
         ฟ้องเรียกได้ครับ  ค่าอะไรต่อมิอะไร    ถ้าศาลเห็นสมควรก็จะตัดสินสั่งให้จ่าย    แต่   กฎหมายไทย
   ถ้าไม่มีจ่ายก็   ไม่ต้องจ่ายครับ       เช่นเจ้าของที่ฟ้องขับไล่   ผู้เช่า  ในระหว่างฟ้องนี้ ผู้เช่าก็อยู่ในที่ดินนี้ไปเรื่อยๆ  10ปีต่อมา ศาลสั่งให้เจ้าของที่ดินชนะ ผู้เช่าต้องย้ายออกและจ่ายค่าเช่า 10ปีนี้ให้ด้วย     แต่ถ้าคนเช่า
  ไม่มีจ่าย ( หรือมีแต่ทำเป็นไม่มี    โดยโอนทรัพย์สินให้ลูก ให้เมีย แล้วจดทะเบียน หย่า  ก็กลายเป็นคนตัวเปล่า)  ก็ไม่ต้องจ่ายครับ
บันทึกการเข้า
Gun
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #19 เมื่อ: 27-08-2007, 08:05 »

เจ้าของที่ น่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายได้เหมือนกันนะครับ คือ  ถ้าฟ้องไล่ใช้เวลา 9 ปี แล้วคนเช่าไม่จ่ายค่าเช่า ก็ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายส่วนนี้ แล้วเรียกค่าเสียหายส่วนที่เจ้าของทีเสียโอกาสเข้าไปด้วย

ไม่ฟ้องต่อละครับ
ถ้าฟ้องจะใช้เวลากี่ปีก็ไม่รู้ แล้วการไปศาลแต่ละทีมันก็เหนื่อยเอาเรื่องนะครับ
เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียสุขภาพจิตด้วย

อีกอย่างคู่กรณีก็ไม่น่าจะมีเงินจ่ายครับ 
บันทึกการเข้า
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #20 เมื่อ: 27-08-2007, 08:11 »

555

ไม่รู้เป็นอะไรนะ ความคิด ผมกับคุณ glock ขัดกันตลอดเลยวุ้ย

เท่าที่ผมคิดว่า ที่ทางนั้น มิใช่ของเรา แต่เป็นของแผ่นดิน

หากคุณมีที่แต่ไม่ทำอะไร มันก็สูญเปล่า อย่างนี้ให้ประชาชนคนอื่นใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่ามั้ย

        ถ้าคุณมีเงินเหลือ และอยากจะซื้อที่ดิน   เก็บไว้ให้ลูกของคุณบ้างล่ะ  คือวันนี้คุณอาจจะไม่ใช้ประโยชน์ในที่ดินนี้  แต่คุณซื้อตั้งใจซื้อไว้ให้ลูกอยู่ล่ะ     หรือ คุณซื้อที่ดินเก็บไว้ก่อน กะว่าจะเก็บเงินอีก5ปีเพื่อสร้างบ้านหรือ สร้าง
 โรงงาน   ผมเห็นที่ดินนี้คุณซื้อมาไว้เฉยๆไม่ทำประโยชน์อะไร  ผมเลยเข้าไปครอบครองซะ   เพราะผมถือว่าเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน  ( ตามที่คุณให้นิยามไว้ว่า ที่ดินถ้าเจ้าของไม่ทำประโยชน์ คือทรัพย์แผ่นดิน)    ผมเลยพาพวกเข้าไปปลูกบ้านอยู่ล่ะ คุณคิดยังไง
 
             คนเรา ต่างกัน   เพราะมีวิธีคิดต่างกันไงครับ   บางคนอยู่คฤหาสน์   บางคนอยู่ตึก  บางคนอยู่สลัม
 บางคนอยู่คุก    บางคนอยู่ใต้ทางด่วน       บางคนมีแต่คนรัก   บางคนมีแต่คนสาบแช่ง      เพราะวิธีคิดคนเราไม่เหมือนกัน    คุณก็คิดแบบคุณ    ผมก็คิดแบบผม  เพราะเรา ต่างกันไงครับ
  เด็กปั๊มก็คิดอย่างนึง      เจ้าของปั๊มก็คิดอย่างนึง       เถ้าแก่เจ้าของโรงสีคิดอย่างนึง     กรรมกรโรงสีก็คิดอย่างนึง
 และในการที่เถ้าแก่เจ้าของโรงสีคิดต่างกับกรรมกรโรงสี  ผมคงไม่ตัดสินหรอกครับว่า วิธีคิดของใครดีกว่า  เพียงแต่จะบอกว่า
 วิธีคิดแบบเถ้าแก่ทำให้เค้าได้เป็นเถ้าแก่    วิธีคิดแบบกรรมกรทำให้เค้าได้เป็นกรรมกร     ก็ไม่มีใครถูกใครผิดหรอก
 อย่าง คนบางพวกรักทักษิณ  ในขณะที่คนบางพวกเกลียดทักษิณ      ต่างคนต่างมีวิธีคิดของตัวเองครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2007, 08:59 โดย glock19 » บันทึกการเข้า
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #21 เมื่อ: 27-08-2007, 08:18 »

  อ่านดูดีๆ ผมไม่ได้บอกว่า วิธีเผาไล่ที่ หรือ จ้างมาเฟียรื้อไล่ที่ เป็นวิธีการที่ถูกต้อง     ไม่มีเจ้าของที่ดินคนใด
 อยากทำแบบนั้นหรอกครับ       แต่ที่ทำเพราะ  จำเป็น ต้องทำ     เพราะกฎหมาย มันออกมาไม่ดี
 
     
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #22 เมื่อ: 27-08-2007, 08:34 »

วีรบุรุษนาเกย์ท่านคงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องหยุมหยิมแบบนี้หรอก...มันต้องเรื่องบิ๊กๆอย่าง นปช. นี่ซิที่เจ้านายท่านสนใจมากก่า....อันนี้ท้าวฯว่าไปตามเนื้อผ้าล้วนๆน๊ะ
บันทึกการเข้า
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #23 เมื่อ: 27-08-2007, 08:45 »

  ต้องขอโทษคุณปุถุชน  เจ้าของกระทู้ด้วย ที่ผมชวนคุยคนละประเด็น กับที่คุณนำเสนอ ของคุณมองในประเด็นการเมือง   แต่ผมดันมาชวนคุยในแง่ของกฎหมาย     
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #24 เมื่อ: 27-08-2007, 10:39 »

 

เห็นด้วยกับคุณ Glock19 ครับ

เรื่องมองว่า ผลก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ

ไม่มีทางที่จะเอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่ด้อยกว่าได้ ด้วยการออกกฎหมายให้ยากๆแบบนี้ครับ

มีแต่จะซวย มากน้อย ถ้าคนอย่างไรก็ต้องจนต่อไปครับ ซวยอีกตะหาก

ถ้าถามว่ากฎหมายฟ้องร้องขับไล่ดีมั๊ย ผมก็ตอบผลตามปัจจุบันแหละครับ

รื้อ และ ไล่ ด้วยกำลัง แทน มันดีกว่าปิดล้อมด้วยกฎหมายที่แฟร์ ๆ หรือไม่




แต่หากแก้แบบคุณ Glock บอก ก็รบกวนแก้ ปรับเรื่องผู้ให้เช่ายกเลิกก่อนครบสัญญาด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #25 เมื่อ: 27-08-2007, 12:00 »

  ต้องขอโทษคุณปุถุชน  เจ้าของกระทู้ด้วย ที่ผมชวนคุยคนละประเด็น กับที่คุณนำเสนอ ของคุณมองในประเด็นการเมือง   แต่ผมดันมาชวนคุยในแง่ของกฎหมาย     



ไม่เป็นไรครับ....
ผมคิดว่าเป็นมุมมองอีกด้านหนึ่งครับ

ผมเห็นด้วยในเรื่องกฎหมายที่มีช่องโหว่และเปิดโอกาสให้หลีกเลี่ยงอย่างนั้น
ต้องแก้ไขกฎหมายและวิธีดำเนินการใหม่......

ในขณะเดียว วิธีการไป"รื้อ"อย่างนี้ ผิดกฎหมายบ้านเมือง
ก็ต้องถูกนำผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ไปดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย...
แยกเป็นสองคดีความ.....

ปล. บางคดีก็ไม่ล่าช้าครับ....
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับผู้เช่า เช่น....

1.บริเวณที่ดินเจริญผล เป็นที่ตั้งห้างโลตัส-เทสโก้เวลานี้
สนง.ทรัพย์สินให้ค่าขนย้าย ไม่ถึง 200,000 บาทต่อหนึ่งห้องแถว....

2.บริเวณศูนย์การค้าราชดำริ(ไดมารูเก่า) เป็นที่ดินสนง.ทรัพย์สินฯ เหมือนกัน
ให้ค่าขนย้าย 300,000 บาท เพื่อนำที่ดินนั้นไปให้ผู้เช่ารายใหม่...
ทำศูนย์การค้ายักษ์ใหม่....

3. ที่ดินสน.ทรัพย์สิน บริเวณรร.เรียนเตรียมทหารฯ ไนท์บาร์ซ่า มูลค่า 4000 ล้านบาท
ให้กลุ่มเซ็นทรัลเช่าใหม่ ทำศูนย์การค้าขนาดยักษ์แทนย่านการค้าเดิม....
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 27-08-2007, 12:07 »

จริง มันก็มีมุมกลับอีกมุมหนึ่ง อย่างในบางกรณี เช่าที่เขาเดือนละไม่กี่ตังมายี่สิบสามสิบปี ก็น่าจะถือว่าได้ประโยชน์กันมาพอสมควรแล้ว
จริง ๆ แล้ว คนที่เช่าที่เขาอยู่ ต้องประจักษ์ในใจตนเองตลอดเวลาว่า มันเป็นไปได้ที่วันใดวันหนึ่ง ที่เจ้าของที่อาจจะไม่ให้เช่าต่อ ก็ควรจะมองทางแก้ไขปัญหาของให้กับตนเองไว้บ้าง

บางครั้งมันเห็นได้อีกเหมือนกันว่า ในยามที่ตนเองได้เปรียบ สิ่งที่งอกเงยเป็นกำไร ก็ไม่เห็นส่งกลับคืนให้สังคมหรืออะไร พอตกยากก็มาเรียกร้อง บางทีมันก็ดูไม่แฟร์เหมือนกัน

แต่อย่างว่าแหละ นี่คือสังคมไทย
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
glock19
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 355


« ตอบ #27 เมื่อ: 27-08-2007, 12:25 »



ไม่เป็นไรครับ....
ผมคิดว่าเป็นมุมมองอีกด้านหนึ่งครับ

ผมเห็นด้วยในเรื่องกฎหมายที่มีช่องโหว่และเปิดโอกาสให้หลีกเลี่ยงอย่างนั้น
ต้องแก้ไขกฎหมายและวิธีดำเนินการใหม่......

ในขณะเดียว วิธีการไป"รื้อ"อย่างนี้ ผิดกฎหมายบ้านเมือง
ก็ต้องถูกนำผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง ไปดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย...
แยกเป็นสองคดีความ.....

ปล. บางคดีก็ไม่ล่าช้าครับ....
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์กับผู้เช่า เช่น....

1.บริเวณที่ดินเจริญผล เป็นที่ตั้งห้างโลตัส-เทสโก้เวลานี้
สนง.ทรัพย์สินให้ค่าขนย้าย ไม่ถึง 200,000 บาทต่อหนึ่งห้องแถว....

2.บริเวณศูนย์การค้าราชดำริ(ไดมารูเก่า) เป็นที่ดินสนง.ทรัพย์สินฯ เหมือนกัน
ให้ค่าขนย้าย 300,000 บาท เพื่อนำที่ดินนั้นไปให้ผู้เช่ารายใหม่...
ทำศูนย์การค้ายักษ์ใหม่....

3. ที่ดินสน.ทรัพย์สิน บริเวณรร.เรียนเตรียมทหารฯ ไนท์บาร์ซ่า มูลค่า 4000 ล้านบาท
ให้กลุ่มเซ็นทรัลเช่าใหม่ ทำศูนย์การค้าขนาดยักษ์แทนย่านการค้าเดิม....


             ทำให้เจ้าของที่ดินต้องคิดหนัก    ถ้าจะให้คนจนเช่าที่ดิน     คือนอกจากเสี่ยงต่อการเก็บค่าเช่าไม่ได้
   แล้วเวลาจะบอกเลิกให้เช่า  ยังต้อง จ่ายค่าขนย้าย ค่ารื้อถอนให้เขาอีก   อย่างนี้ คนจนคนไม่มีที่ดินของตัวเอง
  หาเช่าที่ดินยากขึ้นนะครับ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #28 เมื่อ: 27-08-2007, 12:56 »

จริง มันก็มีมุมกลับอีกมุมหนึ่ง อย่างในบางกรณี เช่าที่เขาเดือนละไม่กี่ตังมายี่สิบสามสิบปี ก็น่าจะถือว่าได้ประโยชน์กันมาพอสมควรแล้ว
จริง ๆ แล้ว คนที่เช่าที่เขาอยู่ ต้องประจักษ์ในใจตนเองตลอดเวลาว่า มันเป็นไปได้ที่วันใดวันหนึ่ง ที่เจ้าของที่อาจจะไม่ให้เช่าต่อ ก็ควรจะมองทางแก้ไขปัญหาของให้กับตนเองไว้บ้าง

บางครั้งมันเห็นได้อีกเหมือนกันว่า ในยามที่ตนเองได้เปรียบ สิ่งที่งอกเงยเป็นกำไร ก็ไม่เห็นส่งกลับคืนให้สังคมหรืออะไร พอตกยากก็มาเรียกร้อง บางทีมันก็ดูไม่แฟร์เหมือนกัน

แต่อย่างว่าแหละ นี่คือสังคมไทย

ผมนึกไปถึงเรื่องที่ดินการรถไฟ ที่มีคนเข้าไปปักหลักสร้างบ้านอยู่กันเป็นล่ำเป็นสันแบบไม่จ่ายเงิน

พอถึงเวลาที่จะต้องก่อสร้างทางรถไฟ กลายเป็นว่าไม่สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ทำให้การก่อสร้างล่าช้า
อย่างล่าสุดที่ผมเห็นกรณีรถไฟฟ้าสาย บางซื่อ-ตลิ่งชัน ตอนแรกสำรวจมีมาอยู่แค่ไม่กี่ร้อยหลังเท่านั้น
แต่พอถึงเวลาจะสร้างจริงกลายเป็น 3 พันกว่าหลัง เหมือนแห่กันมารอรับค่ารื้อถอน

พอเจรจาตกลงค่ารื้นถอนอะไรกันเสร็จกลับไปทำงบประมาณมาจ่าย กลายเป็นว่าขอขึ้นราคาเพิ่มอีก
วนกันไปมาไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ก่อสร้าง ก็เลยไม่ได้ก่อสร้างกันเสียที

จุดอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้มากมายเลยครับ ในความคิดผมถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละทั้งหมดมีสาเหตุมาจากการล่มสลายของสังคมเกษตรในชนบท ทำให้มีคนอพยพเข้ามา
ปักหลักอยู่ฟรีในพื่นที่ว่างๆ ของกรุงเทพฯ  พอถูกไล่ที่ก็ย้ายไปยึดที่ว่างเปล่าตรงอื่นต่อไปเรื่อยๆ
พอรู้ว่าตรงไหนจะมีการก่อสร้างก็รีบเข้ามายึดพืนที่รอรับค่ารื้อถอน

กลายเป็นว่ายิ่งทุ่มงบพัฒนากรุงเทพฯ ยิ่งทำให้เกิดปัญหาการอพยพเข้ามาแออัดในเมืองหลวง 
ถ้าไม่จัดการในเขาอยู่ในบ้านเกิดตัวเองได้ก็แก้ปัญหากันไม่จบ ยิ่งมาถึงตอนนี้ลุกลามกลายเป็น
คนรุ่นใหม่ Next Generation ที่เกิดในชุมชนแออัดแล้ว ปัญหายิ่งฝังลึกแก้ไม่ออกครับ


บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #29 เมื่อ: 27-08-2007, 13:08 »

 

ที่ผ่านมากรณีใหญ่ๆ เลยคือแฟลตดินแดงครับ

ถ้าได้ดูกระทู้แนะนำห้องชายคา เมื่อเดือนที่แล้วหัวข้อที่เป็นคนในแฟลตมาขอความเห็นใจ

แต่กลับโดนจวก ก็สมควรอยู่ครับ  มาให้เหตุผลว่า อยู่จนเรียนจบมหาลััย ผูกพัน คนอยู่ที่นั่นมีรายได้ดี บางคนก็รวย

บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
ScaRECroW
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,000


สุสูสัง ลภเต ปัญญัง - ผู้ฟังดี ย่อมเกิดปัญญา


เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 27-08-2007, 13:40 »

ผมนึกไปถึงเรื่องที่ดินการรถไฟ ที่มีคนเข้าไปปักหลักสร้างบ้านอยู่กันเป็นล่ำเป็นสันแบบไม่จ่ายเงิน

พอถึงเวลาที่จะต้องก่อสร้างทางรถไฟ กลายเป็นว่าไม่สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ทำให้การก่อสร้างล่าช้า
อย่างล่าสุดที่ผมเห็นกรณีรถไฟฟ้าสาย บางซื่อ-ตลิ่งชัน ตอนแรกสำรวจมีมาอยู่แค่ไม่กี่ร้อยหลังเท่านั้น
แต่พอถึงเวลาจะสร้างจริงกลายเป็น 3 พันกว่าหลัง เหมือนแห่กันมารอรับค่ารื้อถอน

พอเจรจาตกลงค่ารื้นถอนอะไรกันเสร็จกลับไปทำงบประมาณมาจ่าย กลายเป็นว่าขอขึ้นราคาเพิ่มอีก
วนกันไปมาไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ก่อสร้าง ก็เลยไม่ได้ก่อสร้างกันเสียที

จุดอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้มากมายเลยครับ ในความคิดผมถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละทั้งหมดมีสาเหตุมาจากการล่มสลายของสังคมเกษตรในชนบท ทำให้มีคนอพยพเข้ามา
ปักหลักอยู่ฟรีในพื่นที่ว่างๆ ของกรุงเทพฯ  พอถูกไล่ที่ก็ย้ายไปยึดที่ว่างเปล่าตรงอื่นต่อไปเรื่อยๆ
พอรู้ว่าตรงไหนจะมีการก่อสร้างก็รีบเข้ามายึดพืนที่รอรับค่ารื้อถอน

กลายเป็นว่ายิ่งทุ่มงบพัฒนากรุงเทพฯ ยิ่งทำให้เกิดปัญหาการอพยพเข้ามาแออัดในเมืองหลวง 
ถ้าไม่จัดการในเขาอยู่ในบ้านเกิดตัวเองได้ก็แก้ปัญหากันไม่จบ ยิ่งมาถึงตอนนี้ลุกลามกลายเป็น
คนรุ่นใหม่ Next Generation ที่เกิดในชุมชนแออัดแล้ว ปัญหายิ่งฝังลึกแก้ไม่ออกครับ




บางครั้งผมรู้สึกว่า คนพวกนี้โชคดีมากที่เกิดที่เมืองไทย สภาพสังคม ลักษณะของกฏหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับพวกเขามากจริง ๆ ถ้ามาเกิดที่อเมริกา แล้วประพฤติตนแบบนั้น มีแต่ตายกับตาย โดนฟ้องกระจุยกระจาย ถ้าหมดสัญญาแล้ว เจ้าของเขาไม่ต่อสัญญา ก็ต้องไป ไม่ต้องฟ้องเพราะ เพราะขึ้นศาลเมื่อไร ทั้งคนฟ้องและคนถูกฟ้อง กอดคอกันจน แต่ทนายจะรวย แต่จริง ๆ ตรงนี้ก็ไม่ใช่สาเหตุหลัก มันเป็นความรับผิดชอบของคนที่เขาปลูกฝังกันมานาน เด็ก ๆ พอเริ่มเรียนไฮสคูล ก็เริ่มหางานนอกเวลาทำกันแล้ว คนไทยสิ เรียนปริญญาโท พ่อแม่ยังขับรถไปส่ง สังคมที่นี่อยากได้อะไรต้องหาเอง แล้วต้องหาอย่างถูกต้องด้วย

จริง ๆ ที่อเมริกาก็มีเรื่องแย่ ๆ เกิดขึ้นเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้ ผู้พิพากษา ฟ้องร้านซักแห้ง หลายสิบล้านดอลล่าร์ เพราะร้านทำกางเกงหาย คนด่ากันโขมง ท้ายสุดร้านซักแห้งชนะคดี

หลายครั้งที่ผมนึกเล่น ๆ ว่า ถ้าคนไทยมีความรับผิดชอบ รู้สิทธิ์ และรู้หน้าที่ เราคงจะเจริญกว่านี้เยอะมาก โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องฉลาดกว่าเดิมเลย ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ลักษณะบ้างด้านของวัฒนธรรมไทยส่วนที่ดี ผสมกับการรู้จักรับผิดชอบ รู้จักหน้าที่ รู้ว่าสิทธิ์ที่ตัวเองมีนั้นต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ทำตรงนี้ได้ก็แทบกลายเป็นมหาอำนาจได้แล้ว
บันทึกการเข้า

Politic is nothing but the continuation of [the sin of] 7 by other means.

ท่านคิดว่า นรม. ควรทำอย่างไรเมื่อพบว่ากฏหมายบางฉบับมีช่องโหว่?
ก.ใช้อำนาจ นรม.ที่ได้รับมาจากประชาชนแก้กฏหมายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ของแผ่นดิน
ข.ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่เหล่านั้นเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนรอบข้าง แล้วก็อ้างว่าคนอื่นเขาก็ทำกัน
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #31 เมื่อ: 27-08-2007, 13:52 »

 
         ฟ้องเรียกได้ครับ  ค่าอะไรต่อมิอะไร    ถ้าศาลเห็นสมควรก็จะตัดสินสั่งให้จ่าย    แต่   กฎหมายไทย
   ถ้าไม่มีจ่ายก็   ไม่ต้องจ่ายครับ       เช่นเจ้าของที่ฟ้องขับไล่   ผู้เช่า  ในระหว่างฟ้องนี้ ผู้เช่าก็อยู่ในที่ดินนี้ไปเรื่อยๆ  10ปีต่อมา ศาลสั่งให้เจ้าของที่ดินชนะ ผู้เช่าต้องย้ายออกและจ่ายค่าเช่า 10ปีนี้ให้ด้วย     แต่ถ้าคนเช่า
  ไม่มีจ่าย ( หรือมีแต่ทำเป็นไม่มี    โดยโอนทรัพย์สินให้ลูก ให้เมีย แล้วจดทะเบียน หย่า  ก็กลายเป็นคนตัวเปล่า)  ก็ไม่ต้องจ่ายครับ
อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายโจทก์ครับว่าจะดักทางได้แค่ไหน ถ้าไม่มีจ่ายก็กลายเป็นบุคคลล้มละลาย และหนี้ที่เกิดระหว่างที่สมรศอยู่ก็ถือเป็นสินสมรสนะครับ ถึงหย่าไปก็ต้องแบ่งหนี้คนละครึ่งอยู่ดี
บันทึกการเข้า
watson
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 393


« ตอบ #32 เมื่อ: 27-08-2007, 14:00 »

อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายโจทก์ครับว่าจะดักทางได้แค่ไหน ถ้าไม่มีจ่ายก็กลายเป็นบุคคลล้มละลาย และหนี้ที่เกิดระหว่างที่สมรศอยู่ก็ถือเป็นสินสมรสนะครับ ถึงหย่าไปก็ต้องแบ่งหนี้คนละครึ่งอยู่ดี
ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสถือเป็นสินสมรส แต่หนี้สินไม่ใช่นะครับ หนี้ที่ก่อขึ้นจากฝ่ายหนึ่งโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีส่วนรู้เห็น จะเอาไปแบ่งคนละครึ่งไม่ได้ หนี้ใคร ก็หนี้คนนั้นครับ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #33 เมื่อ: 27-08-2007, 14:18 »

ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสถือเป็นสินสมรส แต่หนี้สินไม่ใช่นะครับ หนี้ที่ก่อขึ้นจากฝ่ายหนึ่งโดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีส่วนรู้เห็น จะเอาไปแบ่งคนละครึ่งไม่ได้ หนี้ใคร ก็หนี้คนนั้นครับ
ถึงได้บอกไงครับว่าโจทก์ดักทางได้แค่ไหน ถ้าตอนทำสัญญาให้คู่สมรสเป็นพยานจะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นได้หรือไม่ครับ แล้วเมื่อคู่สมรสทำสัญญาเช่าทรัพย์สินแล้วได้ผลประโยชน์นั้น จนกระทั่งผิดสัญญานี่อีกฝ่ายไม่รู้ไม่เห็นเลยรึครับ อ้างไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้ารู้แล้วแต่ไม่บอกยกเลิกว่าตนนั้นไม่เกี่ยวข้องก็กลายเป็นว่ายินยอม แล้วตรงลงว่าหนี้สินนี้ไม่จัดเป็นทรัพย์สินรึครับ
บันทึกการเข้า
watson
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 393


« ตอบ #34 เมื่อ: 27-08-2007, 14:40 »

ถึงได้บอกไงครับว่าโจทก์ดักทางได้แค่ไหน ถ้าตอนทำสัญญาให้คู่สมรสเป็นพยานจะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นได้หรือไม่ครับ แล้วเมื่อคู่สมรสทำสัญญาเช่าทรัพย์สินแล้วได้ผลประโยชน์นั้น จนกระทั่งผิดสัญญานี่อีกฝ่ายไม่รู้ไม่เห็นเลยรึครับ อ้างไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้ารู้แล้วแต่ไม่บอกยกเลิกว่าตนนั้นไม่เกี่ยวข้องก็กลายเป็นว่ายินยอม แล้วตรงลงว่าหนี้สินนี้ไม่จัดเป็นทรัพย์สินรึครับ
หนี้สินไม่ใช่ทรัพย์สินครับ ของใครก็ของคนนั้น นอกจากว่าจะทำสัญญากู้ร่วมกัน ถ้าแบบนี้ไม่ใช้แบ่งครึ่งนะครับ ถ้าฝ่ายหนึ่งไม่จ่าย อีกฝ่ายก็ต้องรับผิดชอบเต็มจำนวนไม่ใช่แค่ครึ่งเดียว
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #35 เมื่อ: 27-08-2007, 15:31 »

มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดย การให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส

มาตรา 1477 สามีภริยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิฟ้อง ต่อสู้ หรือดำเนินคดี เกี่ยวกับการสงวนบำรุงรักษาสินสมรส หรือเพื่อประโยชน์แก่สินสมรส หนี้อัน เกิดแต่การฟ้อง ต่อสู้ หรือดำเนินคดีดังกล่าว ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่สามีภริยาเป็น ลูกหนี้ร่วมกัน

มาตรา 1480 การจัดการสินสมรสซึ่งต้องจัดการร่วมกัน หรือต้องได้รับ ความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งตาม มาตรา1476 ถ้าคู่สมรสฝ่ายหนึ่งได้ ทำนิติกรรมไปแต่เพียงฝ่ายเดียว หรือโดยปราศจากความยินยอมของคู่ สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรม นั้นได้ เว้นแต่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมนั้นแล้ว หรือ ในขณะที่ทำนิติกรรมนั้นบุคคลภายนอกได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่า ตอบแทน
การฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้น หนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนหรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่ วันที่ได้ทำนิติกรรมนั้น

มาตรา 1479 การใดที่สามีหรือภริยากระทำ ซึ่งต้องรับความยินยอม ร่วมกัน และถ้าการนั้นมีกฎหมายบัญญัติให้ทำเป็นหนังสือหรือให้จด ทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ความยินยอมนั้นต้องทำเป็นหนังสือ

มาตรา 1488 ถ้าสามีหรือภริยาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวเพื่อชำระหนี้ก่อไว้ ก่อนหรือระหว่างสมรส ให้ชำระหนี้นั้นด้วยสินส่วนตัวของฝ่ายนั้นก่อน เมื่อไม่ พอจึงให้ชำระด้วยสินสมรสที่เป็นส่วนของฝ่ายนั้น

มาตรา 1489 ถ้าสามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ชำระหนี้นั้นจาก สินสมรสและสินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย 

มาตรา 1490 หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้นให้รวมถึงหนี้ที่สามี หรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรสดังต่อไปนี้
(1) หนี้เกี่ยวแก่การจัดการบ้านเรือน และจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับครอบ ครัว การอุปการะเลี้ยงดูตลอดถึงการรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวและ การศึกษาของบุตรตามสมควรแก่อัตภาพ
(2) หนี้ที่เกี่ยวข้องกับสินสมรส
(3) หนี้ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน
(4) หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายหนึ่ง ได้ให้สัตยาบัน

บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #36 เมื่อ: 27-08-2007, 15:38 »

มาตรา 138 ทรัพย์สิน หมายความรวมทั้งทรัพย์และวัตถุไม่มี รูปร่าง ซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้

แล้วหนี้สินนี่ไม่มีราคาถือเอาไม่ได้ใช่ไหมครับถึงไม่เป็นทรัพย์สิน
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #37 เมื่อ: 27-08-2007, 15:42 »

มาตรา 195 เมื่อทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้นั้นได้ระบุไว้แต่เพียง เป็นประเภท และถ้าตามสภาพแห่งนิติกรรม หรือตามเจตนาของ คู่กรณีไม่อาจจะกำหนดได้ว่าทรัพย์นั้นจะพึงเป็นชนิดอย่างไรไซร้ ท่านว่าลูกหนี้จะต้องส่งมอบทรัพย์ชนิดปานกลาง
ถ้าลูกหนี้ได้กระทำการอันตนจะพึงต้องทำ เพื่อส่งมอบทรัพย์สิ่ง นั้นทุกประการแล้วก็ดี หรือถ้าลูกหนี้ได้เลือกกำหนดทรัพย์ที่จะส่งมอบ แล้วด้วยความยินยอมของเจ้าหนี้ก็ดี ท่านว่าทรัพย์นั้นจึงเป็นวัตถุ แห่งหนี้จำเดิมแต่เวลานั้นไป

ทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้นั้นต่างจากหนี้สินหรือทรัพย์สินอย่างไรครับ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #38 เมื่อ: 27-08-2007, 15:51 »

มาตรา 1601 ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอด ได้แก่ตน


คงไม่ได้ถึงหนี้สินใช่ไหมครับเพราะหนี้สินไม่ใช่ทรัพย์สินนี่ แล้วรับผิดอะไรครับ
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #39 เมื่อ: 27-08-2007, 17:03 »

จะดำเนินการ หักหนี้ออกจากมรดกก่อนแบ่งครับ

ถ้าไม่มีมรดก หนี้ก็สูญอะครับ
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
หน้า: [1]
    กระโดดไป: