ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 08:09
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ไม้ทำเสาชิงช้าสองมาตรฐานของการรักษาป่า 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 3 [4]
ไม้ทำเสาชิงช้าสองมาตรฐานของการรักษาป่า  (อ่าน 16544 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #150 เมื่อ: 30-08-2007, 07:33 »

5. ต้นสักเก่าแก่มาก่อนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ที่เดิมสร้างโดยนายช่างหลวงยันตรกิจโกศล
   ราวๆ ปี 2471 แต่ก็ยังมีคนคิดว่าเป็นต้นไม้ปลูกริมถนน ไม่ได้อยู่ในป่า (สมควรโดนตัด) แหมแก่กว่า
   อายุถนนกี่ปีนั่นนับไม่ถูกเลย

ต้นสักน่ะไม่ว่าจะเก่าแก่ขนาดไหน และขึ้นอยู่ที่ไหนถือเป็น ไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามมาตรา 7
ของ พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จึงสามารถตัดใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น

..ใครบอกหรือว่าเป็นต้นไม้ปลูก เลอะเทอะใหญ่แล้วนะครับไปเอาที่ไหนมา..

แต่เรื่องไม่ได้อยู่ในป่า ก็เอานิยามตามที่คุณยกมานั่นแหละ

แต่ทั้งนี้มิได้นับเอาป่าละเมาะ หรือ... หรือต้นไม้สองข้างทางคมนาคม

เวลาที่เขาพิจารณาน่ะเขาดูปัจจุบันครับ ส่วนในอดีตมันจะเป็นมหาสมุทร หรือทะเลทรายก็ไม่เกี่ยว
แนวที่ตัดทางหลวงเมื่อปี 2471 อาจเคยเป็นทางคมนาคมมาก่อนอย่างทางเกวียนก็ไม่รู้ด้วยนะครับ
เพราะนั่นต้องรบกวนโดราเอมอนไปดูให้ .. ตอนนี้เราอยู่ในปัจจุบันครับหวังว่าคงเข้าใจ

อะไรจะโหยหาอดีตขนาดนั้น .. ตื่นได้แล้วครับตอนนี้ พ.ศ.2550 แล้ว 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #151 เมื่อ: 30-08-2007, 07:43 »

6. ขนาดต้นไม้คิดเป็นหน่วยคนโอบก็ 4-5 คนโอบ ดูวิธีการโอบเอาจากรูปแล้วกัน


ยังวนเวียนกับหน่วยคนโอบอยู่อีก มีที่ไหนเขาบอก 4-5 คนโอบครับ
มีแต่ 4 คนโอบเฉยๆ  รูปที่เอามาใช่ต้นสักที่เอามาทำเสาชิงช้าไหม
ถ้าใช่ไม่ทราบเป็นต้นไหนครับ หรือเอามาจากข่าวอื่น?

ก็บอกแล้วว่าวิธีคิดแบบนี้มันมีปัญหา .. อย่างต้นใหญ่เท่าขา
ก็คิดออกมาเป็น 2 คนโอบได้เหมือนกันจะเอามาอ้างอิงทำไมเนี่ย
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2007, 07:45 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #152 เมื่อ: 30-08-2007, 08:06 »

เถียงกันอยู่นั่น ไม่เบื่อหรือไง

ก็แค่ฝ่ายหนึ่งไม่อยากให้ตัดต้นไม้เก่าแก่อายุร้อยปี เพราะมันหาไม่ได้ง่ายๆ
กับอีกฝ่ายไม่เสียดาย เห็นมันสมควรตาย ไปเป็นสิ่งที่เห็นว่ายิ่งใหญ่กว่า

ถ้าต้นไม้มันมีปากบอกได้ว่า อยากไปเกิดเป็นดาวหรือเปล่า
ก็คงไม่ต้องเถียงกันเรื่องใครมีสิทธิฆ่าไก่ลงหม้อแกงถวายพระ

ป.ล. ขออภัย หากไม่เคยได้ยินนิทานดาวลูกไก่
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #153 เมื่อ: 30-08-2007, 08:12 »

7. ไม้สักเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตัดได้แต่ต้องขออนุญาต
8. นิยามคำว่าป่าไม้ทั่วโลกส่วนใหญ่จะยึดมาตรฐานจาก FAO
9. เมืองไทยก็มีคนนิยามคำว่าป่าไม้ใหม่ตาม FRA2000 (ปี 2543) เพราะคำว่า ป่า ใน พรบ. คลุมเครือ
   ตรงนี้น่าจะมีผลทำให้การนับพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้น เพราะว่ารวมเอา สวนป่า เข้าไปด้วย
10. คำว่า สวนป่า ภาษาอังกฤษใช้ plantation
---
12. การไม่ให้ตัดต้นไม้ก็เป็นความเชื่อ การสร้างหรือซ่อมเสาชิงช้าก็เป็นความเชื่อ
13. ความเชื่อสองอันขัดกัน ชื่อ กระทู้เลยกล่าวถึงคำว่า สองมาตรฐาน เพราะเหมือนจะให้น้ำหนักว่า ป่าไม้
    สำคัญกว่า แต่ในที่สุด เสาชิงช้า ก็สำคัญกว่านั่นเอง

- ไม้สักตัดได้เมื่อได้รับอนุญาต เขาตัดก็ถูกต้องแล้ว เรื่องรักษาป่ามันก็อีกเรื่องเอามาปนกันทำไม

- FAO ไม่เคยนิยามคำว่า "ป่าไม้" นิยามแต่คำว่า "forest" แต่มีคนไทยเอาแปลเพื่อให้นิยาม
  คำว่า "ป่าไม้" อีกต่อหนึ่ง ซึ่งมีกฎหมายอะไรออกมารับรองไหมล่ะครับ?

- เพิ่งจะบอกไปว่า "สวนป่า" ภาษาอังกฤษใช้ว่า "forestry plantation"
  ถ้าใช้แค่ว่า plantation เฉยๆ มันแปลว่า "สวน" หรือ "ไร่" เท่านั้นเอง
  อย่าง "mobile plantation" ก็แปลว่า "ไร่เลื่อนลอย" หรืออย่างคำว่า
  joint plantation ก็แปลว่า "ไร่นาสวนผสม" แปลผิดๆ ยังเอามาสรุปอีก

- การไม่ให้ตัดต้นไม้เป็นความเชื่อของ FAO หรือ ใครบอกว่าซ่อมเสาชิงช้าเป็นความเชื่อ
  การซ่อมเสาชิงช้ากับการรักษาป่าเป็นคนละเรื่อง ..
แต่คุณเองต่างหากเอามาโยงรวมกัน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2007, 08:33 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #154 เมื่อ: 30-08-2007, 08:20 »

เถียงกันอยู่นั่น ไม่เบื่อหรือไง

ก็แค่ฝ่ายหนึ่งไม่อยากให้ตัดต้นไม้เก่าแก่อายุร้อยปี เพราะมันหาไม่ได้ง่ายๆ
กับอีกฝ่ายไม่เสียดาย เห็นมันสมควรตาย ไปเป็นสิ่งที่เห็นว่ายิ่งใหญ่กว่า

ถ้าต้นไม้มันมีปากบอกได้ว่า อยากไปเกิดเป็นดาวหรือเปล่า
ก็คงไม่ต้องเถียงกันเรื่องใครมีสิทธิฆ่าไก่ลงหม้อแกงถวายพระ

ป.ล. ขออภัย หากไม่เคยได้ยินนิทานดาวลูกไก่


แล้วตัวคุณ snowflake เองคิดว่าต้นไม้อายุร้อยปีตัดได้หรือตัดไม่ได้ล่ะครับ
ให้มันอยู่ที่เดิมหรือย้ายมาเป็นเสาชิงช้าจะมีประโยชน์กับประเทศมากกว่า?
มีความคิดอะไรเรื่องนี้ไหม หรือเข้ามาบ่นเฉยๆ ครับ 

-----------------------------------------------------------------------------------------
ปล. เสาชิงช้าอายุสองร้อยกว่าปีมีอยู่แห่งเดียว แต่ต้นสัก 6 ต้นนั้นคัดมาจาก
      ต้นสักทั่วประเทศที่เข้าเกณฑ์ทั้งหมดเป็นร้อยต้นครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2007, 08:34 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #155 เมื่อ: 30-08-2007, 08:55 »



ก็แค่ฝ่ายหนึ่งไม่อยากให้ตัดต้นไม้เก่าแก่อายุร้อยปี เพราะมันหาไม่ได้ง่ายๆ
กับอีกฝ่ายไม่เสียดาย เห็นมันสมควรตาย ไปเป็นสิ่งที่เห็นว่ายิ่งใหญ่กว่า

ถ้าต้นไม้มันมีปากบอกได้ว่า อยากไปเกิดเป็นดาวหรือเปล่า
ก็คงไม่ต้องเถียงกันเรื่องใครมีสิทธิฆ่าไก่ลงหม้อแกงถวายพระ



เหวอ... สงสัยต่อไปกินมังสวิรัตคงยังบาปอยู่ดี
ต้องไปกินดินกินทรายแทนผักถึงจะได้บุญ

Meat is murder
...vegetable too.

บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #156 เมื่อ: 30-08-2007, 09:10 »

รู้หรือเปล่าว่าเสาชิงช้าต้นนึงมีอายุการใช้งานกี่ปี
รู้หรือเปล่าว่าเสาชิงช้าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพ
เสาชิงช้าเป็นมากกว่าสัญลักษณ์ และของตั้งโชว์
แต่เสาชิงช้าเป็นประวัติศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทย และเป็นหน้าตาของประเทศ
จะให้เสียหายมาไม่ต้องซ่อม โยนทิ้ง
แล้วเอารูปหล่อแม้วมาตั้งแทนเลยงั้นสิชอบแถถึงจะพอใจ


ขอแก้ ชอบแถไม่ได้งี่เง่า แต่ "โคตรโง่ และ โง่ดักดาน" ต่างหาก

มาตอกย้ำความจริงอีกที
พูดมาถึงขนาดนี้มันยังไม่รู้ถึงความโง่ของตัวเอง
เอาตัวเองมาประจานได้เป็นร้อยความเห็น แถข้างๆคูๆอยู่นั่นแหละ

เอากระทู้อีกอันมาให้ดูถึงความโง่ของชอบแถ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=16504.0
นอกจากโง่แล้วยังเลวด้วยนะครับ
http://forum.serithai.net/index.php?topic=16559.msg215607#msg215607
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2007, 09:28 โดย login not found » บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #157 เมื่อ: 30-08-2007, 10:12 »

ล่าสุดที่เจอในกระทู้นี้ไม่รู้จะเรียกว่า โง่ หรือ บ้า .. (หรืออย่างอื่น) ดีนะครับ
เอารูป skycoaster ในสวนสนุกมาลงว่าประเทศอื่นก็มีเสาชิงช้า และบอกว่า
ของประเทศอื่นทำด้วยเหล็ก

คงเริ่มจากหารูป "giant swing" ใน google แล้วหลับหูหลับตาเอามาลง
แต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เสาชิงช้าของพราหมณ์ แล้วคิดเอามาหลอกคนที่นี่
แบบนั้นก็ไม่ใช่โง่ หรือบ้า แต่ต้องเรียกว่าอย่างอื่นครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2007, 10:14 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
สมปอง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #158 เมื่อ: 30-08-2007, 10:16 »

คุณ jerasak ไม่เหน็ดเหนื่อยกับการสอนสัตว์ให้เข้าใจหรือครับ
บันทึกการเข้า



ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด
ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว
ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่
ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์

ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า
มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้
ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #159 เมื่อ: 30-08-2007, 10:19 »

ล่าสุดที่เจอในกระทู้นี้ไม่รู้จะเรียกว่า โง่ หรือ บ้า .. (หรืออย่างอื่น) ดีนะครับ
เอารูป skycoaster ในสวนสนุกมาลงว่าประเทศอื่นก็มีเสาชิงช้า และบอกว่า
ของประเทศอื่นทำด้วยเหล็ก

คงเริ่มจากหารูป "giant swing" ใน google แล้วหลับหูหลับตาเอามาลง
แต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เสาชิงช้าของพราหมณ์ แล้วคิดเอามาหลอกคนที่นี่
แบบนั้นก็ไม่ใช่โง่ หรือบ้า แต่ต้องเรียกว่าอย่างอื่นครับ



เขาก็รู้อยู่แล้วละครับ ว่ามันเสาเหล็กที่ว่าคืออะไร
และเขาเองก็เถียงมาตลอดว่า"ตัดต้นไม้เพื่อสนองตัณหาความเชื่อของผู้มีอำนาจ"
ต่อให้เป็นความเชื่อของใคร หรือสร้างมาแล้วเสาชิงช้านี้จะเป็นคุณกับประเทศอย่างไร
ถ้าเขาหาเรื่องเอามาด่าว่าเพื่อให้พ่อแม้วกลับมาได้ เขาก็จะทำอยู่ดี
คุณ jerasak คงต้องหาคำเรียกอย่างอื่นมาใช้แล้วละครับ
บันทึกการเข้า
truly
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 253


« ตอบ #160 เมื่อ: 30-08-2007, 10:23 »

คุณ jerasak ไม่เหน็ดเหนื่อยกับการสอนสัตว์ให้เข้าใจหรือครับ

คุณจี เขาเป็นคนรักสัตว์
 
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #161 เมื่อ: 30-08-2007, 19:56 »

แล้ว คุณ jerasak มี "พระเสาชิงช้า" ไว้บูชากี่องค์แล้วล่ะ
หากยังไม่มี อย่าชักช้า เดี่ยวหมด อดได้นะ

เรื่องความเชื่อส่วนบุคคล บังคับกันไม่ได้
ใครจะบูชา "พระเสาชิงช้า" ก็บูชาไป

เหตุใดต้องไม่พอใจ ผู้อื่นที่เขา บูชา "จตุคามรามเทพ"
"จอมปลวก" "สัตว์มีสองหัว" หรือเห็นต้นไม้อายุร้อยปี
สำคัญกว่าเสาชิงช้า


 
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #162 เมื่อ: 30-08-2007, 21:39 »

ก็มีแค่ต้นเดียวที่แก่พอจะเอามาอ้างในกระทู้ได้ เพราะเห็นอ้างแต่คำว่า "ร้อยกว่าปี" 

แล้วตกลงที่มีปัญหาเรื่องอายุต้นไม้เกินร้อยปีแล้วไม่ควรตัดน่ะ มันมีปัญหาที่ตรงไหน
จะเกิดหายนะแก่ท้องถิ่นหรือครับ.. หรือว่ามีปัญหาที่มีข้ออ้างอิงทางวิชาการ

FAO ของคุณน่ะเขาห้ามตัดต้นไม้ถ้าอายุเกินร้อยปีหรือครับ?  

แข่งกับกระทู้ปลาโบราณเล่นก็ได้นะ ไร้สาระดี ไม่เคยได้ยินเหรอว่า โบราณเค้าไม่ให้ตัดไม้ใหญ่ เพราะว่า

ผีป่า
เป็น ผีที่สิงสถิตอยู่ป่าดง หรือตามต้นไม้ใหญ่ ถ้าใครไปทำลายป่าหรือไปทำลายที่อยู่ของท่าน ก็จะเรียกว่าเป็นการ"ผิดผี" (การทำให้ผีที่สิงสถิตอยู่ตรงนั้นโกรธและคนคนนั้นก็จะถูกผีทำให้มีอันเป็นไป ) ผีป่าก็จะทำให้ป่วยหรือไข้ วิธีการที่จะทำให้หายจากอาการเหล่านั้นคือ ต้องพาหมอเหยามาทำพิธีเสี่ยงทายว่าท่านต้องการอะไรเป็นการขอขมา เมื่อทราบแล้วก็จะนำเอาสิ่งที่ผีตนนั้นต้องการไปให้ เรียกว่า "ไปแก้" เช่นต้องการหมูก็ต้องนำหมูไปแก้


FAO เค้าคงไม่ห้ามตัดต้นไม้อายุเกินร้อยปีหรอก แต่โดยสามัญสำนึกคนธรรมดาแล้ว สิ่งของที่อายุเกินร้อยปี
จะมองว่าเป็นของเก่า เนื่องจากเทียบกับอายุคน โดยเฉพาะสิ่งที่มีชีวิตยิ่งสมควรอนุรักษ์ เพราะเมื่อทำลายไป
แล้ว มีเงินก็ไม่สามารถสร้างต้นไม้อายุร้อยปีได้อีก คงต้องรออีกร้อยปีถัดไปถึงจะได้ แม้ว่าไม้สักจะมีคุณภาพดี
เมื่ออายุ 80-100 ปี แต่ในแง่การทำธุรกิจ คงไม่มีเจ้าของสวนป่ารายไหนรอได้นานขนาดนั้น ในยุคก่อนปิดป่า
จึงมีการตัดไม้สักเก่าแก่ทั้งที่ขออนุญาตและลักลอบตัดมาตลอด หลงเหลืออยู่ไม่มาก อุตส่าห์เหลือรอดมาได้
สมควรโดนตัดมั้ยล่ะ คิดหน่อยดิ ตั้งคำถามได้เลอะเทอะสุดแล้วที่ว่า "เขาห้ามตัดต้นไม้ถ้าอายุเกินร้อยปีหรือครับ"
ไม่รู้เอาส่วนไหนของร่างกายคิดคำถามเนี่ย 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #163 เมื่อ: 30-08-2007, 23:04 »

อนุรักษ์กับสงวนยังแยกไม่ออกอีกรึนี่ 100 ปีนะเด็ก ๆ ต้นเป็นพันปีก็ยังมีการตัดมาแล้ว 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #164 เมื่อ: 30-08-2007, 23:11 »

Four types of ages are recognized in the database: 
   XD: crossdated
   RC: ring counted
   EX: extrapolations (based on ring measurements usually)
   HI: historic record


Species    Age    Type    ID    Location    Collector(s), Dater(s), Reference

Pinus longaeva    4844    XD    WPN-114    Wheeler Peak, Nevada, USA    Currey 1965
Pinus longaeva    4789    XD    Methusela    Methusela Walk, California, USA    E. Schulman, T. Harlan
Fitzroya cupressoides     3622    XD         Chile     Lara and Villalba 1993
Sequoiadendron giganteum     3266    XD    CBR26    Sierra Nevada, California, USA    M. Hughes, R. Touchan, E. Wright
Sequoiadendron giganteum    3220    XD    D-21    Sierra Nevada, California, USA    Douglass 1919
Sequoiadendron giganteum    3075    XD    D-23    Sierra Nevada, California, USA    Douglass 1919
Sequoiadendron giganteum    3033    XD    CMC 3    Sierra Nevada, California, USA    T. Swetnam, C. Baisan
Juniperus occidentalis    2675    XD    Scofield juniper    Sierra Nevada, California, USA    Miles and Worthington 1998
Pinus aristata    2435    XD    CB-90-11    Central Colorado, USA    Brunstein and Yamaguchi 1992
Ficus religiosa    2217    HI         Sri Lanka    Anonymous
Sequoia sempervirens    2200     RC         Northern California, USA    E. Fritz
Juniperus occidentalis    2200    EX    Bennett Juniper    Sierra Nevada, California, USA    P. Brown
Pinus balfouriana    2110    XD    SHP 7    Sierra Nevada, California, USA    A. Caprio
Larix lyalli    1917    EX         Kananaskis, Alberta, Canada    Worrall 1990
Juniperus scopulorum    1889    XD    CRE 175    Northern New Mexico, USA    H. Grissino-Mayer, R. Warren
Juniperus occidentalis    1810     XD    Miles Juniper    Sierra Nevada, California, USA    Miles and Worthington 1998
Pinus flexilis    1670    XD    ERE    Northern New Mexico, USA    T. Swetnam, T. Harlan
Pinus balfouriana    1666    XD    RCR 1    Sierra Nevada, California, USA    A. Caprio
Pinus flexilis    1661    XD         South Park, Colorado, USA    C. Brunstein
Pinus flexilis    1659    XD    KET 3996    Ketchum, Idaho, USA    Schulman 1956
Thuja occidentalis    1653    XD    FL117    Ontario, Canada    Kelly and Larson 1997
Pinus balfouriana    1649    XD    BBL 2    Sierra Nevada, California, USA    A. Caprio
Chamaecyparis nootkatensis    1636    RC?          Vancouver Island, Canada    L. Jozsa
Taxodium distichum    1622    XD    BCK 69    Bladen County, North Carolina, USA    Stahle, Cleaveland, Hehr 1988
Thuja occidentalis    1567    XD    FL101    Ontario, Canada    Kelly and Larson 1997
Pinus flexilis    1542    XD         Central Colorado, USA    D. Yamaguchi
Pinus aristata    1438    XD         San Francisco Peaks, Arizona, USA    D. Graybill
Pseudotsuga menziesii    1350    RC?          Vancouver Island, Canada    M. Parker and L. Jozsa (?)
Juniperus occidentalis    1288    XD    HL 47    Sierra Nevada, California, USA    L. Graumlich, MB. Keifer
Pinus albicaulis    1267    XD    RRR15     Central Idaho, USA    Perkins and Swetnam 1996
Psuedotsuga menziesii    1275    XD    BIC 63    Northern New Mexico, USA     H. Grissino-Mayer
Juniperus occidentalis    1220    XD    Bennett Juniper    Sierra Nevada, California, USA    P. Brown
Juniperus occidentalis    1172    XD    DGS-19    Devils Gate Summit, California, USA    F. Biondi, S. Strachan
Pinus albicaulis    1100+    RC         Alberta, Canada    D. Belcher
Lagarostrobus franklinii    1089    XD         Tasmania, Australia    Cook et al. 1991
Pinus albicaulis    1050    XD         Alberta, Canada    Youngblut 2003
Thuja occidentalis    1032    XD         Ontario, Canada    Larson and Kelly 1991
Some Youngsters                
Pinus edulis    973    XD    SUN 2522    Northeast Utah, USA    Schulman 1956
Pinus ponderosa    929    XD         Wah Wah Mtns, Utah, USA    S. Kitchen
Picea engelmannii    911    XD    FCC 23    Central Colorado, USA    Brown et al. 1995
Pinus monophylla    888    XD    PGH-02    Pine Grove Hills, Nevada, USA    F. Biondi, S. Strachan
Pinus albicaulis    882    XD         Western Alberta, Canada    B. Luckman
Pinus ponderosa    843    XD    BRY 4002    Central Utah, USA    Schulman 1956
Pinus ponderosa    780     XD         Mount Rosa, Colorado, USA    F. Brunstein
Picea engelmannii    780    XD         Western Alberta, Canada    B. Luckman
Larix siberica    750    XD    OVL-5N    Ovoont, Mongolia    Nachin, B. Buckley, N. Pederson
Pinus ponderosa    742    XD         Northwest Arizona, USA    T. Harlan
Larix lyalli    728    XD         Western Alberta, Canada    B. Luckman
Pinus ponderosa    723    XD         Black Hills, South Dakota, USA    Bunkers et al. 1999
Pinus monophylla    718    XD    WRI-03    White Pine Range, Nevada, USA    F. Biondi, S. Strachan, R. Tausch
Pinus monophylla    703    XD    MTI-05    Mt. Irish, Nevada, USA    F. Biondi, S. Strachan
Pinus monophylla    703    XD    SSP-10    Shoshone Range, Nevada, USA    F. Biondi, S. Strachan
Picea glauca    668    XD         Klauane Lake, Yukon, Canada    Luckman 2003 (B. Luckman, R. van Dorp, D. Youngblut, M. Masiokas)
Abies magnifica var. shastensis    665    XD    CL2-5    Klamath Mtns, California, USA    C. Skinner, G. Everest,T. Kastner
Pinus siberica    629    XD    TPX-16     Tarvagatay Pass, Mongolia    G. Jacoby, Nachin, D. Frank
Pinus jeffreyi    626     XD    TGS-02    Truckee, California, USA    F. Biondi, S. Strachan
Picea glauca    601    XD         Aishihik Lake, Yukon, Canada    B. Luckman, E. Watson, & D. Youngblut 2002
Pinus strobiformis    599     XD    VPK02    San Mateo Mtns, New Mexico, USA    H. Grissino-Mayer, J. Speer, K. Morino
Pinus strobiformis    538    XD          Pinaleno Mtns, Arizona, USA    H. Grissino-Mayer
Picea glauca    522    XD         Norton Bay, Alaska, USA    Giddings 1951
Fagus sylvatica    503    XD    1012306F    Abruzzi Nat'l Park, Italy    Piovesan et al. 2005
Abies lasiocarpa    501    XD         Southern Yukon, Canada    Luckman 2003 (B. Luckman, M. Kenigsberg)
Picea abies                       468    XD    LBG    Bavarian Forest, Germany    R. Wilson
Torreya californica    455    XD         Sierra Nevada, California, USA    A. Caprio
Picea rubens    445    RC    05BCL901a    Fundy Escarpment, New Brunswick, Canada    B. Phillips
Picea rubens    405    XD         Nancy Brook, New Hampshire, USA    P. Krusic
Quercus alba     407    XD         Warren County, Iowa, USA    Duvick and Blasing 1983
Quercus gambelli    401    XD         North central Arizona, USA    F. Biondi
Quercus alba    373    XD    DYS08    Belmont County, Ohio, USA    Rubino and McCarthy 2000
Quercus stellata    373    XD    KEY13    Osage County, Oklahoma, USA    D. Stahle
Quercus rubra     326    XD    hem79    Wachusett Mountain, Massachusetts, USA    Orwig et al. 2001
Pinus echinata    324    XD    GMX307    Great Smokey Mtns NP, Tennessee, USA    2007 Dendroecological Fieldweek Fire History Group
Pinus echinata    315    XD    LAW38    Saline County, Arkansas, USA    D. Stahle
Quercus alba    289    XD    HT50    Pisgah Nat'l Forest, North Carolina, USA    Speer 2001
Quercus bicolor    285    XD    RHS01a    Catkill, New York, USA     D & N. Pederson, M. Hopton
Quercus muehlenbergii    278    XD         Iowa, USA    Duvick and Blasing 1983
Quercus prinus    265    XD    GL18    Pisgah Nat'l Forest, North Carolina, USA    Speer 2001
Pinus pungens    232    XD    GKA111    Griffith Knob, Virginia, USA    G. DeWeese, H. Grissino-Mayer, C. Lafon
Quercus lyrata    218    XD    SNA7    Desha County Arkansas, USA    D. Stahle
Quercus velutina    208    XD    GL45    Pisgah Nat'l Forest, North Carolina, USA    Speer 2001
Xanthorrhoea preissii    200    XD    Tree 41     Western Australia    D. Ward
Quercus rubra    166    XD    GL21    Pisgah Nat'l Forest, North Carolina, USA    Speer 2001
Quercus coccinea    122    XD    BP03    Pisgah Nat'l Forest, North Carolina, USA    Speer 2001
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #165 เมื่อ: 30-08-2007, 23:36 »

แล้ว คุณ jerasak มี "พระเสาชิงช้า" ไว้บูชากี่องค์แล้วล่ะ
หากยังไม่มี อย่าชักช้า เดี่ยวหมด อดได้นะ

เรื่องความเชื่อส่วนบุคคล บังคับกันไม่ได้
ใครจะบูชา "พระเสาชิงช้า" ก็บูชาไป

เหตุใดต้องไม่พอใจ ผู้อื่นที่เขา บูชา "จตุคามรามเทพ"
"จอมปลวก" "สัตว์มีสองหัว" หรือเห็นต้นไม้อายุร้อยปี
สำคัญกว่าเสาชิงช้า


 

ผมไม่พกพา "ของขลัง" น่ะครับคุณ snowflake ผมชอบ "วัดดวง" มากกว่า 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #166 เมื่อ: 30-08-2007, 23:50 »

แข่งกับกระทู้ปลาโบราณเล่นก็ได้นะ ไร้สาระดี ไม่เคยได้ยินเหรอว่า โบราณเค้าไม่ให้ตัดไม้ใหญ่ เพราะว่า
ผีป่า
เป็น ผีที่สิงสถิตอยู่ป่าดง หรือตามต้นไม้ใหญ่ ถ้าใครไปทำลายป่าหรือไปทำลายที่อยู่ของท่าน ก็จะเรียกว่าเป็นการ"ผิดผี"
(การทำให้ผีที่สิงสถิตอยู่ตรงนั้นโกรธและคนคนนั้นก็จะถูกผีทำให้มีอันเป็นไป ) ผีป่าก็จะทำให้ป่วยหรือไข้ วิธีการที่จะทำให้
หายจากอาการเหล่านั้นคือ ต้องพาหมอเหยามาทำพิธีเสี่ยงทายว่าท่านต้องการอะไรเป็นการขอขมา เมื่อทราบแล้วก็จะนำเอา
สิ่งที่ผีตนนั้นต้องการไปให้ เรียกว่า "ไปแก้" เช่นต้องการหมูก็ต้องนำหมูไปแก้


555 ถ้ามีปัญหาแค่เรื่องผีป่า เขาบวงสรวงอะไรกันไปเสร็จเรียบร้อยก่อนจะตัดแล้วครับ
นอกจากเรื่องผีป่าไม่มีเรื่องอะไรจะอ้างดีกว่านี้แล้วหรือ 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #167 เมื่อ: 30-08-2007, 23:59 »

555 ถ้ามีปัญหาแค่เรื่องผีป่า เขาบวงสรวงอะไรกันไปเสร็จเรียบร้อยก่อนจะตัดแล้วครับ
นอกจากเรื่องผีป่าไม่มีเรื่องอะไรจะอ้างดีกว่านี้แล้วหรือ 

ประเด็น "ผิดผี" ที่เขาติดใจกันอยู่ในที่นี้ น่าจะเป็นผี(บุญ)ทักษิณ มากกว่าผีป่านะครับ 

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #168 เมื่อ: 31-08-2007, 00:43 »

FAO เค้าคงไม่ห้ามตัดต้นไม้อายุเกินร้อยปีหรอก แต่โดยสามัญสำนึกคนธรรมดาแล้ว สิ่งของที่อายุเกินร้อยปี
จะมองว่าเป็นของเก่า เนื่องจากเทียบกับอายุคน โดยเฉพาะสิ่งที่มีชีวิตยิ่งสมควรอนุรักษ์ เพราะเมื่อทำลายไป
แล้ว มีเงินก็ไม่สามารถสร้างต้นไม้อายุร้อยปีได้อีก คงต้องรออีกร้อยปีถัดไปถึงจะได้ แม้ว่าไม้สักจะมีคุณภาพดี
เมื่ออายุ 80-100 ปี แต่ในแง่การทำธุรกิจ คงไม่มีเจ้าของสวนป่ารายไหนรอได้นานขนาดนั้น ในยุคก่อนปิดป่า
จึงมีการตัดไม้สักเก่าแก่ทั้งที่ขออนุญาตและลักลอบตัดมาตลอด หลงเหลืออยู่ไม่มาก อุตส่าห์เหลือรอดมาได้
สมควรโดนตัดมั้ยล่ะ คิดหน่อยดิ ตั้งคำถามได้เลอะเทอะสุดแล้วที่ว่า "เขาห้ามตัดต้นไม้ถ้าอายุเกินร้อยปีหรือครับ"
ไม่รู้เอาส่วนไหนของร่างกายคิดคำถามเนี่ย 

ถ้า FAO เขาไม่ได้ห้ามตัดต้นไม้อายุเกินร้อยปี แล้วเขาห้ามตัดต้นไม้ที่ปลูกไว้ตัดใช้ประโยชน์ไหมครับ?

ถ้าจะอ้างสามัญสำนึกอะไรนั่นผมไม่เห็นว่าการเอาต้นสักมาทำเสาชิงช้าเป็นการทำลายต้นสักตรงไหน
เราแค่ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นเสาชิงช้าไปอีกร้อยปี แล้วถ้าชำรุดเราก็ย้ายไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์เพื่อให้
คนรุ่นหลังได้ดูได้ศึกษาตลอดไป สรุปว่าไม่ได้ถูกทำลายแต่ย้ายไปเพื่อทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ
ในการบูรณะอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม

ถ้าทิ้งไว้ที่เดิมอีกร้อยปีก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อประเทศมากกว่านี้ ถึงจะโตเพิ่มก็ได้อีกแค่นิดหน่อย
ส่วนเรื่องรออีกร้อยปีไม่ต้องหรอกต้นสักอายุ 60-70 ปีหรือมากกว่าตอนนี้ก็มีอีกไม่กี่ปีก็ได้ต้นอายุร้อยปี
เพิ่มขึ้นมาใหม่แล้ว บอกให้รู้ไว้อีกทีว่าในการคัดเลือกต้นสักมาทำเสาชิงช้าครั้งนี้มีต้นที่เข้าเกณฑ์ให้ไป
ตรวจเลือกเป็นร้อยต้นครับ ไม่ได้มีแค่ 6 ต้นนี้นะครับ


---

ท่าทางจะไม่รู้เรื่องการทำสวนป่าเลยนะนี่ เขามีการทำเป็นแปลงเวียนกันไปครับ สมมุติกำหนดตัดขาย
ที่อายุ 15 ปีเขาก็จะทำไว้ 15 แปลงหรือมากกว่าแล้วก็เวียนตัดทีละแปลง และปลูกใหม่วนไปเรื่อยๆ
โดยตอนอายุประมาณ 11 ปีก็ตัดขายเสียจำนวนหนึ่งเพื่อขยายระยะระหว่างต้น และหากมีต้นที่งามมากๆ
เขาก็จะยังไม่ตัดที่อายุ 15 ปีแต่เก็บเอาไว้ไปเรื่อยๆ

แต่ถ้าเป็นสวนป่าที่อยู่ในความดูแลของทางราชการเขาจะกำหนดอายุการตัดใช้ประโยชน์ไว้นานมาก
ตั้งแต่ 30 ปีไปถึง 60 ปี  ตัวอย่าง 4 ต้นจากสวนป่าห้วยไร่ก็ปลูกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 เพิ่มได้ตัดใช้
และพื้นที่ อ.เด่นชัย จังหวัดแพร่ มีการทำสวนป่าสมัยใหม่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2449 แล้วครับ


เมื่อปี พ.ศ.2530 ประมาณว่ามีพื้นที่สวนป่าเฉพาะทีเป็นไม้สักทั่วประเทศมากกว่า 1 ล้านไร่ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2007, 00:45 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #169 เมื่อ: 31-08-2007, 00:51 »

ไม้สักจัดเป็นไม้โตเร็วชนิดหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 10-20 ปีแรก
แต่ถ้าอายุมากขึ้นแล้วก็จะยิ่งโตช้าลงๆ จนแทบไม่โตเลย

ข้างล่างเป็นข้อมูลกรณีปลูกในพื้นที่ดีมาก แต่อาจโตได้มากกว่านี้ 25-30%
ในกรณีมีการบำรุงรักษาดี และคัดเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ดี
--------------------------------------------------------------------------------------
อายุ(ปี)     เส้นผ่าศูนย์กลาง(cm.)    ความสูง(เมตร)

10                      13.80                     14.10
20                      24.48                     28.80
30                      30.59                     30.00
40                      34.92                     33.00
50                      38.39                     34.90
60                      41.38                     36.30

--------------------------------------------------------------------------------------
ปลูกนานไปก็ไม่ค่อยโตเพิ่ม ถ้าเป็นสวนป่าเอกชนก็เลยมักจะตัดขายกัน
ตั้งแต่อายุไม่เกิน 20 ปี แต่ถ้าเป็นหน่วยงานราชการก็อีกเรื่องหนึ่งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2007, 00:57 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #170 เมื่อ: 31-08-2007, 01:28 »

ข่าวประจำวัน สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อเดือนก่อน..

ออป. ปลูกป่าโครงการ “หมู่บ้านป่าสักรักษ์น้ำ”ถวายสมเด็จพระราชินี
ที่ทรงเห็นความสำคัญของการปลูกสร้างสวนป่าเศรษฐกิจ

..และจะตัดเมื่อต้นสักครบอายุการตัดเท่านั้น..

http://thainews.prd.go.th/previewnews.php?tb=NEWS&m_newsid=255007110011
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าวภาค 07.00 น. วันพุธที่ 11 กรกฎาคม 2550 (ช่วงที่ 1)

สำนักพระราชวัง ร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ปลูกป่าโครงการ “หมู่บ้านป่าสักรักษ์น้ำ”
ในพื้นที่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ กว่า 165 ไร่ รวม 11,000 กล้าไม้
น้อมรับพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงเห็นความสำคัญของการปลูกสร้างสวนป่าเศรษฐกิจ บริเวณตำบลเพชรชมพู
กิ่งอำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร ที่เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติและป่าปลูกผสม พื้นที่รกร้างว่างเปล่าและเสื่อมโทรม
ให้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของธรรมชาติและอนุรักษ์ผืนป่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นายมนูญศักดิ์ ตันติวิวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กล่าวว่า การปลูกสร้างสวนป่าไม้สัก
เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในประเทศไทย ประกอบกับเป็นแหล่งศึกษาความรู้ทางวิชาการด้านการปลูกสร้างสวนป่า ความ
หลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมอาชีพ ที่สำคัญเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ของมูลนิธิฯให้เป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ ให้ราษฎร
เข้ามาใช้พักอาศัย เฝ้ารักษาป่าและทำกิน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และให้เกิดประโยชน์สูงสุดในพื้นที่ขนาดเล็ก
เกิดการอนุรักษ์ดินและน้ำ และการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่าได้อย่างลงตัว

สำหรับการปลูกป่าไม้สักบนพื้นที่ตำบลเพชรชมพูนั้น จะไม่มีการตัดไม้สักมาใช้ประโยชน์ แต่จะตัดเมื่อต้นสักครบอายุการตัด
เท่านั้น
นอกจากนี้ จะสร้างหมู่บ้านตัวอย่าง คือ “หมู่บ้านป่าสักรักษ์น้ำ” ขึ้น เพื่อให้กับราษฎรที่ยากจน ไม่มีที่ทำกินได้อยู่อาศัย
และใช้ประโยชน์บนพื้นที่ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระชนมายุ
ครบ 75 พรรษในปีนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2007, 01:39 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #171 เมื่อ: 31-08-2007, 16:42 »

ปัญหาป่าไม้ในประเทศไทย

- ชาวบ้านจำนวนหนึ่งมีอาชีพทำไม้ (ตัดต้นไม้ในป่าธรรมชาติ) มาแต่เดิม
  เมื่อรัฐบาลยกเลิกการทำไม้ทำให้ตั้งแต่ปี 2532 ชาวบ้านกลุ่มนี้ขาดอาชีพ
  ต้องทำไร่ไถนาที่ไม่เคยทำ และที่ดินทำกินก็มีไม่พอ

- เมื่อรายได้จากการทำเกษตรไม่เพียงพอก็เลยต้องหารายได้เสริมด้วยการ
  ลักลอบตัดไม้ในป่าขายตามอาชีพเดิม โดยมีนายทุนทำไม้อยู่เบื้องหลัง
  หลังปี 2532 เกิดสถานการณ์แบบนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

- ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขคือปัญหาการทำมาหากินที่ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
  ทำให้เกิดโครงการต่างๆ เพิ่มเข้ามาเช่นการปลูกสมุนไพรขายเป็นอาชีพเสริม
  รวมทั้งการเพาะเห็ดขาย การเลี้ยงปลาในบ่อเพื่อขายและบริโภค รวมทั้งการ
  ลดรายจ่ายลงโดยการผลิตปุ๋ยและยาฆ่าแมลงด้วยตัวเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการ
  รักษาทรัพยากรธรรมชาติโดยลดการใช้สารเคมีที่จะปะปนลงสู่แหล่งน้ำ

- การทำสวนป่าคือการลดปัญหาการลักลอบตัดไม้ในป่าธรรมชาติ เพื่อให้
  ธรรมชาติมีเวลาฟื้นตัว แต่ไม่ใช่ไม่ใช้ประโยชน์จากผลิตผลของป่าเลย
  จึงเป็นที่มาของแนวคิดป่าชุมชน ที่ให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าป่าเป็นของทุกคน
  และต้องช่วยกันดูแลไม่ให้ถูกทำลาย

- แม้ประเทศไทยไม่ปลูกต้นสักทำเป็นสวนป่า ก็ยังคงมีความต้องการใช้สูง
  และต้องนำเข้าจากต่างประเทศอยู่ดี กลายเป็นก่อปัญหาให้ประเทศเพื่อนบ้าน
  ขณะที่ความต้องการในตลาดโลกก็มีระดับสูงเพราะไม้สักเป็นไม้คุณภาพดี
  เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และเป็นไม้ประจำถิ่นในแถบไทยลาวพม่าเป็นหลัก

  จึงควรมองไม้สักในฐานะพืชเศรษฐกิจ เหมือนกับการทำอุตสาหกรรมเกษตร
  ที่ควรส่งเสริมจะ เช่นเดียวกับ การเลี้ยงไก่ เลี้ยงกุ้ง (ราคาไม้สักจากสวนสัก
  ปัจจุบันประมาณลูกบากศ์เมตรละ 1 หมื่นบาท และเมื่อเข้าสู่ตลาดราคาจะ
  สูงถึงระดับ 50,000 บาทต่อลูกบากศ์เมตร)
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #172 เมื่อ: 31-08-2007, 16:55 »

ปัญหาป่าไม้ในประเทศไทย

- ชาวบ้านจำนวนหนึ่งมีอาชีพทำไม้ (ตัดต้นไม้ในป่าธรรมชาติ) มาแต่เดิม
  เมื่อรัฐบาลยกเลิกการทำไม้ทำให้ตั้งแต่ปี 2532 ชาวบ้านกลุ่มนี้ขาดอาชีพ
  ต้องทำไร่ไถนาที่ไม่เคยทำ และที่ดินทำกินก็มีไม่พอ

- เมื่อรายได้จากการทำเกษตรไม่เพียงพอก็เลยต้องหารายได้เสริมด้วยการ
  ลักลอบตัดไม้ในป่าขายตามอาชีพเดิม โดยมีนายทุนทำไม้อยู่เบื้องหลัง
  หลังปี 2532 เกิดสถานการณ์แบบนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

- ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขคือปัญหาการทำมาหากินที่ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
  ทำให้เกิดโครงการต่างๆ เพิ่มเข้ามาเช่นการปลูกสมุนไพรขายเป็นอาชีพเสริม
  รวมทั้งการเพาะเห็ดขาย การเลี้ยงปลาในบ่อเพื่อขายและบริโภค รวมทั้งการ
  ลดรายจ่ายลงโดยการผลิตปุ๋ยและยาฆ่าแมลงด้วยตัวเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการ
  รักษาทรัพยากรธรรมชาติโดยลดการใช้สารเคมีที่จะปะปนลงสู่แหล่งน้ำ

- การทำสวนป่าคือการลดปัญหาการลักลอบตัดไม้ในป่าธรรมชาติ เพื่อให้
  ธรรมชาติมีเวลาฟื้นตัว แต่ไม่ใช่ไม่ใช้ประโยชน์จากผลิตผลของป่าเลย
  จึงเป็นที่มาของแนวคิดป่าชุมชน ที่ให้คนในหมู่บ้านรู้ว่าป่าเป็นของทุกคน
  และต้องช่วยกันดูแลไม่ให้ถูกทำลาย

- แม้ประเทศไทยไม่ปลูกต้นสักทำเป็นสวนป่า ก็ยังคงมีความต้องการใช้สูง
  และต้องนำเข้าจากต่างประเทศอยู่ดี กลายเป็นก่อปัญหาให้ประเทศเพื่อนบ้าน
  ขณะที่ความต้องการในตลาดโลกก็มีระดับสูงเพราะไม้สักเป็นไม้คุณภาพดี
  เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และเป็นไม้ประจำถิ่นในแถบไทยลาวพม่าเป็นหลัก

  จึงควรมองไม้สักในฐานะพืชเศรษฐกิจ เหมือนกับการทำอุตสาหกรรมเกษตร
  ที่ควรส่งเสริมจะ เช่นเดียวกับ การเลี้ยงไก่ เลี้ยงกุ้ง (ราคาไม้สักจากสวนสัก
  ปัจจุบันประมาณลูกบากศ์เมตรละ 1 หมื่นบาท และเมื่อเข้าสู่ตลาดราคาจะ
  สูงถึงระดับ 50,000 บาทต่อลูกบากศ์เมตร)


เรียนถามคุณจีครับ ว่า 1 ไร่ ไม้สักอายุ 20 ปี จะให้ไม้ได้ประมาณกี่ลูกบาตรเมตรครับ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #173 เมื่อ: 31-08-2007, 17:25 »

เรียนถามคุณจีครับ ว่า 1 ไร่ ไม้สักอายุ 20 ปี จะให้ไม้ได้ประมาณกี่ลูกบาตรเมตรครับ 

เท่าที่ค้นเจอเป็นข้อมูลเก่ามากตั้งแต่ปี 2531-34 ก่อนการปิดป่า เขาสรุปที่อายุแค่ 15 ปีจะได้ 12 ลูกบากศ์เมตร/ไร่
ราคาขายอะไรต่างๆ ที่เห็นในนั้นปัจจุบันจึงพุ่งสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวแล้วครับ และเป็นการปลูกเพียง 200 ต้นต่อไร่
ซึ่งปัจจุบันอาจปลูกเริ่มต้นตอนแรกกันที่ระดับ 400 ต้นต่อไร่

..ผมมีข้อมูลเมื่อปี 2535 อีกชุดหนึ่งขอเวลาไปค้นหาเดี๋ยวเอามาลงให้ครับ..

สำหรับข้อมูลปี 2531-34 ถ้าสนใจลองตามลิงค์ไปอ่านรายละเอียดดูนะครับ คิดว่าให้ข้อมูลมากที่สุดเท่าที่เห็นแล้วครับ
ที่เห็นข้างล่างนี้ตัดมาเฉพาะส่วน "ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ"

http://www.dnp.go.th/development/teak.htm
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ

            ในการหาผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการปลูกสร้างสวนป่าไม้สักนั้น  ได้มีการศึกษาในพื้นที่ที่ต้นสักเจริญเติบโตดี 
โดยกำหนดรอบตัดฟันไว้  15  ปี  อัตราความเพิ่มพูน 7  เซนติเมตรต่อปี  กำหนดให้มีการตัดไม้บำรุงป่าในปีที่ 6  และทำการตัดสาง
ขยายระยะในปีที่ 11  ได้ปริมาตรไม้ 3 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่  โดยจำนวนต้นไม้ที่ปลูกระยะ 2 x 4 เมตร  มีจำนวน 200 ต้นต่อไร่
 (อายุ 1 – 5 ปี  มีต้นไม้ 180 ต้นต่อไร่ อายุ 6 – 10 ปี  มีต้นไม้ 90 ต้นต่อไร่  อายุ 11 – 15 ปี  มีต้นไม้ 45 ต้นต่อไร่) 
และผลผลิตเมื่อไม้มีอายุครบรอบตัดฟันจะมีปริมาตรไม่ต่ำกว่า 12 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่อไร่
และรายละเอียดการดำเนินงานดังแสดงใน  ตารางที่ 7  (ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้)

            จะเห็นได้ว่า  ต้นทุนการผลิตหรือค่าใช้จ่ายในการปลูกบำรุงไม้สักนั้น  รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไร่ละ 7,200 บาท  (ปี พ.ศ. 2531)
และถ้าคิดอัตราส่วนลดหรืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 15%  ต่อปี  ซึ่งเวลา 15 ปี จะต้องเสียดอกเบี้ยรวม  22,000 บาทต่อไร่  ดังนั้นเมื่อ
รวมต้นทุนดังกล่าวข้างต้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อไร่  เมื่อครบ 15 ปี รวมทั้งสิ้น 29,200 บาทต่อไร่

            รายได้จากการขายไม้ในสวนป่าไม้สัก  เมื่อมีอายุครบรอบตัดฟัน  15  ปี  มีดังต่อไปนี้

            1.  ปริมาตรไม้จากการตัดสางขยายระยะเมื่ออายุ  11  ปี  จะได้ไม้ที่มีเส้นรอบวงกลางท่อนประมาณ  50  - 60  เซนติเมตร 
และมีปริมาตรไม้  3  ลูกบาศก์เมตรต่อไร่  โดยที่ราคาไม้ประมาณว่า 6,200  บาทต่อลูกบาศก์เมตร  (ข้อมูลราคาไม้ซุงสักได้มาจาก
องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  (อ.อ.ป.)  ช่วงระยะเวลาเดือนสิงหาคม  2534  ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)  จะมีรายได้จากการขายไม้
ประมาณ 18,600  บาทต่อไร่

            2.  ปริมาตรไม้จากการตัดไม้  เมื่ออายุครบรอบตัดฟัน  15  ปี  จะได้ไม้ที่มีเส้นรอบวงกลางท่อนประมาณ  80 – 90 เซนติเมตร 
และมีปริมาตรไม้ประมาณ 12 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่  โดยที่ราคาไม้ประมาณไว้ว่า  8,200  บาทต่อลูกบาศก์เมตร  จะมีรายได้จากการขายไม้
ประมาณ  98,400  บาทต่อไร่

            ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจจากการขายไม้สัก  รวมทั้งสิ้น  117,000  บาท  ต่อในระยะเวลา 15 ปี  ดังนั้นกำไรที่จะได้
จากการปลูกสร้างสวนป่าไม้สักตามโครงการนี้  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  117,000 – 29,200  =  87,000  บาท  ต่อไร่  ต่อ 15 ปี

            โดยเฉลี่ยแล้ว  เกษตรกรจะมีรายได้หรือผลตอบแทนประมาณ  5,900  บาทต่อไร่ต่อปี  ซึ่งยังไม่รวมถึงรายได้  จากการขาย
พืชผลทางการเกษตรที่สามารถปลูกร่วมกับไม้สักด้วย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2007, 18:17 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #174 เมื่อ: 31-08-2007, 17:48 »

หาของปี 2535 ที่เก็บไว้ไม่เจอ ไปเจอบทความที่เขียนเมื่อปี 2548 แทนครับ
อันนี้นี้เขาคิดราคาไม้สักมาเป็นต้นในแต่ละอายุ แต่ก็พอจะประเมินผลตอบแทน
ได้เหมือนกัน โดยมีการตัดขายครั้งแรกตั้งแต่อายุ 5-6 ปี

ประมาณว่าถ้าปลูก 400 ต้นต่อไร่ พออายุ 5-6 ปีตัดขาย 200 ต้นจะได้ต้นละ 300 บาท
ก็คือได้ 60,000 บาท และพออายุ 10 ปีตัดขายอีกสัก 100 ต้นได้ต้นละ 900 บาทก็คือ
ได้อีก 90,000 บาท พอไปถึงอายุ 15 ปีถ้าตัดขายอีกจะได้ราคาถึงต้นละ 8-9 พันบาท
เหลืออยู่ 100 ต้นก็เหยียบๆ ล้านบาท ถ้าปล่อยไว้จนอายุถึง 20 ได้ต้นละ 18,000 บาท
น่าสนใจมากทีเดียวนะครับ ..

ราคาไม้สักอายุ 15 ปี ที่ปลูกตามธรรมชาติ ระหว่างปี 2530-2535 ได้ราคาต่อต้นดังนี้

ปี 2530  ราคาต้นละ  4,599 บาท
ปี 2531  ราคาต้นละ  5,253 บาท
ปี 2532  ราคาต้นละ  7,414 บาท
ปี 2533  ราคาต้นละ  7,642 บาท
ปี 2534  ราคาต้นละ  8,010 บาท
ปี 2535  ราคาต้นละ  8,950 บาท


ข้างล่างนี้เป็นบางส่วนเกี่ยวกับผลตอบแทนที่เอามาให้ดูฉบับเต็มตามไปอ่านได้ที่นี่ครับ
http://www.geocities.com/saletree/info_teak_1.htm
ที่มา :: เทคโนโลยีชาวบ้าน วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 17 ฉบับที่ 354 หน้า 112
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม้สัก-เมืองไทยยังซื้อจากนอก
...

ถ้าดูตามที่ ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติวิจารณ์ว่าด้วย "สักทอง " แล้ว ก็ว่าถ้าใจร้อนนัก ปลูก 5-6 ปี ก็ตัดขายได้
ควรใช้วิธีตัดสักในไร่แบบแถวเว้นแถว ตัดแค่ 200 ต้น ในวัยดังกล่าว ขายไปได้ต้นละ 300 บาท ก็พอมีรายได้
มาหมุนเวียนไปก่อน กลับจะดีเสียอีกไม้สักที่เหลือจะมีอาหารเยอะขึ้น จะเจริญเติบโตเร็วขึ้น

สักอ่อนระดับ 5-6 ปีนั้น ผู้ซื้อเอาไปทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ ของเด็กเล่น ปลูกกระท่อม หรือห้องพักในเรือ
ทำไม้แกะสลัก หรือไม้ตะเกียบ เป็นไม้สักวัยเนื้ออ่อน

แถวสักที่เหลือ รอถึง 10 ปี ขายได้แพงขึ้นต้นละ 900 บาท ถ้าอายุ 15 ปี จะขายได้ต้นละ 8,000-9,000 บาท
และถ้าอายุ 20 ปี ราคาต้นหนึ่งถึง 18,000 บาท เหลือไว้ในไร่สัก 100 ต้น ก็รวยเงินล้านกันแล้ว

...

การปลูกสักแผนใหม่ มักคำนึงถึงอายุแต่ละวัยว่า จะปลูกเอาอายุ 5 ปี 10 ปี หรือ 15 ปี แม้จะใช้วิธีบำรุงรักษา
คล้ายกัน แต่ข้อปลีกย่อยย่อมต่างกัน สักในเมืองไทยถ้าอายุมากๆ จะหาคนมั่งมีทรัพย์สินซื้อได้ไม่มาก เพราะ
ราคาสูงมาก จึงมักทำโครงการปลูก 5-6 ปี

ระยะปลูกกล้าสัก กรมป่าไม้เสนอระยะ 2x4 เมตร ไร่หนึ่งจะปลูกได้ 200 ต้น แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่าควรใช้ระยะ
2x2 เมตร เพื่อให้สักใกล้ชิดกันบ้าง จะได้ แข่งกันเจริญเติบโต จะได้ด้านความสูง และลำต้นตั้งตรง เป็นรูป
ทรงกระบอกสวยงาม และจะได้ปริมาณถึง 400 ต้น ต่อไร่ การเบียดกัน เมื่อเกิดกิ่งหักร่วง จะไม่ทำให้เกิด
ตางอกกิ่งเสียความสวยงาม เพราะเป็น การเบียดกันหักไปเอง ทั้งยังมีใบมากปกดิน พวกวัชพืชก็ขึ้นลำบาก

แต่ถ้าปลูกระยะ 4x4 เมตร จะได้ผลทางทำให้ขนาดต้นใหญ่โต แต่ปลูกได้ เพียงไร่ละ 100 ต้น ไม่เปลือง
งบประมาณซื้อหรือเพาะกล้าสักมากไป แต่มีข้อเสียค่าบำรุงเรือนยอดที่มักขึ้นช้า แต่เกิดผลดีมีช่องว่าง
ให้ปลูกพืชแซมได้หลายปี เพื่อชดเชยที่ได้ผลช้า

การบำรุงรักษาสวนป่าไม้สัก ต้องกะแผนเป็นระยะๆ อายุ 1 ปี ต้องดายหญ้า พวกวัชพืช ปลูกซ่อม ใส่ปุ๋ย รดน้ำ
และสร้างแนวป้องกันไฟป่า ส่วนในระยะ 2-5 ปี ก็ทำคล้ายกันในบางเรื่อง ในวัย 5 ขวบ ถ้าต้องการตัดต้อง
หยุดรดน้ำ เพื่อ ทำให้ไม้เกิดแก่นมากขึ้น โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม-เมษายน และในวัย 6-10 ปี เป็นช่วง
เหลือต้นที่เว้น ต้นสักจะเร่งเติบโต เพราะไม่มีการแย่งอาหารมาก เหมือนเก่า

เมื่อถึง 11-15 ปี เป็นช่วงต้นสักถูกตัดจนเหลือประมาณ 100 ต้น ตอนนี้ต้องระดมการบำรุงรักษามาก
เน้นความเจริญเติบโต ดายวัชพืช สกัดเชื้อไฟป่า 1 ครั้ง ต่อปี ใส่ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 500 กรัม ต่อต้น

ปีที่ 15 ต้องลดการรดน้ำเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เพื่อให้หยุดการเจริญเติบโต เนื้อไม้จะเกิดคุณภาพ
แกร่ง สวย และทำกระพี้ให้เป็นแก่นก่อนตัด

...

ดูตัวเลขราคาไม้สักอายุ 15 ปี ที่ปลูกตามธรรมชาติ ระหว่างปี 2530-2535 จะได้ราคาต่อต้นตามปีดังนี้
4,599 , 5,253 , 7,414 , 7,642 , 8,010 และ  8,950 บาท แสดงตัวเลขบ่งชี้ว่า ราคาไม้สักนับวันจะสูงขึ้น
ถ้าบำรุงรักษาดี จะต้องได้ราคาดีกว่าที่ยกมา ถ้าเหลือ 100 ต้น ในวัย 15 ปี ตกราคาต้นละ 8,000-9,000 บาท
จะได้เงินถึง 8-9 แสนบาท แต่ถ้าอายุ 20 ปี จึงตัด อาจเป็นต้นละ18,000 บาท ถ้า 100 ต้น ก็เป็นเงินเกือบ
2 ล้านบาท แล้ว

ปลูกป่าไม้สักดีกว่าทำสวนผลไม้ตรงที่หน้าออกผล ไม่ต้องจ้างคนเฝ้า ส่วนเลี้ยงสัตว์ก็ค่าใช้จ่ายจิปาถะทุกวัน
ปลูกสักเพียงใช้ค่าบำรุงรักษาบ้าง และเลี้ยงสัตว์ และปลูกไม้ผล ราคามีโอกาสตก ก็มีโอกาสขาดทุน
ประชากรประเทศยิ่งมาก ไม้ยิ่งจำเป็นในการปลูกเคหสถานมากตาม ทุกวันนี้เมืองไทยต้องสั่งนำเข้าไม้สัก
มากขึ้นทุกปี และไม้สักไม่ขึ้น กับฤดูกาลเหมือนผลไม้ หรือขึ้นกับวัยเหมือนสัตว์ ถ้าจำเป็นก็รอตัดได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2007, 17:53 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #175 เมื่อ: 31-08-2007, 19:39 »

ส่วนอันนี้เป็นนโยบายพรรคชาติไทย (ที่ขโมยซีนโครงการรัฐบาลสุรยุทธ์ที่ทำตั้งแต่ พย.49
มาอีกต่อหนึ่ง และเป็นส่วนหนึ่งของแนวพระราชดำริ ปลูกต้นไม้ 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่าง)
โครงการ “ปลูกป่า 15 ปีใช้หนี้แทนเกษตรกร” ไม่เห็นว่าจะขัดกับการรักษาป่าตรงไหน  Mr. Green

จาก.. หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2550
http://www.rubberthai.com/newspaper/late_news/2550/July50/02-07-03.htm
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชาติไทยเสนอนโยบายปลูกไม้ใช้หนี้

         นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย กล่าววานนี้ (1 ก.ค.) ถึงแนวนโยบาย
ด้านการเกษตรของพรรค ในฐานะผู้รับผิดชอบนโยบายด้านการเกษตรกรของพรรค จึงคิด
โครงการ “ปลูกป่า 15 ปีใช้หนี้แทนเกษตรกร” ขึ้น เพราะจากการสำรวจข้อมูลจากสถาบันการเงิน
ที่เกษตรกรมีหนี้สินค้างชำระพบว่า เกษตรกรประมาณ 35 ล้านครัวเรือนมีหนี้สินในสถาบันการเงินต่างๆ
ทั้ง ธ.ก.ส. สหกรณ์ต่างๆ กองทุนหมู่บ้านและนายทุนนอกระบบอยู่ รวมทั้งสิ้นราว 6 แสนล้านบาท
แบ่งเป็น

1. เกษตรกรที่เป็นหนี้ ตั้งแต่ 1 แสนบาท แต่ไม่ถึง 2 แสนบาท มี 1.1 ล้านครัวเรือน
2. เป็นหนี้ระหว่าง 2 แสน แต่ไม่ถึง 3 แสนบาท มี 2 ล้านครัวเรือน และ
3. เป็นหนี้ระหว่าง 3 แสนบาท ไม่เกิน 4 แสนบาท อีก 2.5 ล้านครัวเรือน

คิดรวมเป็นร้อยละ 75 ของเกษตรกรที่เป็นหนี้ทั้งหมด ที่เหลืออีกร้อยละ 25 เป็นหนี้ตั้งแต่ 4 แสนบาท
ถึงหลักล้านบาทขึ้นไป ดังนั้น พรรคชาติไทยจึงมีแนวนโยบายที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริงอีกทั้งเป็น
การสนองแนวพระราชดำริ ในการอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่าไม้ และช่วยเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ สร้างสมดุล
ให้กับสภาวะแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นอยู่ด้วย คือ การปลดหนี้สินให้เกษตรกร
ทั้งหมด 6 แสนล้านบาทนั้น แต่มีข้อแม้ว่าต้องเข้าร่วมโครงการปลูกป่า


หนี้ 1 แสน ปลูก 1 ไร่ 15 ปีตัดขาย

         เลขาธิการพรรคชาติไทย กล่าวว่า โดยให้เกษตรกรปลูกป่าไม้เศรษฐกิจยืนต้นของแต่ละภูมิภาค
อาทิ ภาคเหนือ-ไม้สัก ภาคใต้-ไม้ยางพารา ภาคอีสาน-ไม้เต็ง ไม้รัง ในอัตราแสนละไร่ คือคนที่เป็นหนี้
1 แสนบาท ต้องปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินของตัวเอง 1 ไร่ เป็นหนี้ 2 แสนบาท ก็ปลูก 2 ไร่ โดยเกษตรกร
ที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ดูแลรักษาพันธุ์ไม้ที่ปลูกตลอดเวลา 15 ปี เมื่อครบกำหนดก็สามารถตัดต้นไม้
ดังกล่าวขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ต่อสถาบันการเงิน โดยในเวลา 15 ปีที่ปลูกป่า รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายชดเชย
ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแต่ละปีกับสถาบันการเงิน แต่มีเงื่อนไขว่าเกษตรกรต้องปลูกและดูแล
รักษาต้นไม้ให้เจริญเป็นไม้ยืนต้น และห้ามตัดขายโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนก็จะถูกตัดออกจากโครงการ
สำหรับการเริ่มโครงการปีแรกให้เริ่มที่เกษตรกรรายย่อยที่เป็นหนี้ 1 แสนบาทก่อน พอปีที่ 2 ก็ขยายเพื่อให้
เกษตรกรที่เป็นหนี้ 2 แสนบาท ส่วนพันธุ์ ต้นกล้าไม้เศรษฐกิจยืนต้นนั้นก็ให้ทางกรมป่าไม้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
โดยรัฐจะส่งเสริมงบประมาณเพิ่มในส่วนนี้ให้

ลดการนำเข้าไม้ปีละ 2 หมื่นล้านบาท

         “โครงการนี้สามารถปฏิบัติได้จริง เพราะเป็นการแบ่งเบาภาระหนี้สินของเกษตรกรรายย่อย โดย
ส่งเสริมให้ปลูกต้นไม้ในที่ดินของตัวเอง เพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต และสามารถชำระหนี้จากมูลค่า
ของไม้เศรษฐกิจที่ปลูกเมื่อครบกำหนด 15 ปี เพราะจากการสำรวจข้อมูลพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยต้อง
นำเข้าไม้จากประเทศเพื่อนบ้านตกปีละ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเงินตกปีละกว่า 2 หมื่นล้านบาท
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ ขณะที่โรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ทั่วประเทศมีราว 1 หมื่นแห่งยังมีความต้องการไม้
ที่ปลูกมาใช้ในอุตสาหกรรมดังกล่าวอีกทั้งไม้ยืนต้น เช่น ไม้สัก เมื่ออายุ 15 ปี ก็จะมีวงปี มีแก่นไม้ จะมีมูลค่า
ที่สูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และนับวันป่าไม้บ้านเราก็ถูกทำลายลงเรื่อยๆจนไม่เหลือแล้ว จึงคิดว่านี่เป็นทางออกที่ดี
ช่วยทั้งเกษตรกรและสถาบันการเงินที่มีหนี้ค้างชำระมายาวนาน ซึ่งแนวนโยบายนี้ได้รับความ เห็นชอบจาก
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยแล้ว โดยจะเริ่มรณรงค์ใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้านี้เพราะพรรค
มั่นใจว่ามีการเลือกตั้งขึ้นจริง และคิดว่านโยบายนี้จะช่วยเกษตรกรรายย่อยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถปลดและ
ลดหนี้สินที่ติดกับ ธ.ก.ส.ได้จริง” นายประภัตรกล่าว
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #176 เมื่อ: 31-08-2007, 19:51 »

..นับถือคุณ Jerasak จริงๆ 
นอกจากเป็นคลังข้อมูล(เพียบสาระสมกับที่ตามอ่าน)แล้ว
ยังใจเย้นเย็น.. เพียรแปรรูปปฏิกูลจนกลายเป็นปุ๋ยชั้นดีมีคุณค่า

บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #177 เมื่อ: 02-09-2007, 12:09 »

..นับถือคุณ Jerasak จริงๆ 
นอกจากเป็นคลังข้อมูล(เพียบสาระสมกับที่ตามอ่าน)แล้ว
ยังใจเย้นเย็น.. เพียรแปรรูปปฏิกูลจนกลายเป็นปุ๋ยชั้นดีมีคุณค่า


ระวังมันจะเอาปฎิกูล Lot ใหม่มาถมอีกนะคัรบ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #178 เมื่อ: 11-09-2007, 06:36 »

ล่าสุดที่เจอในกระทู้นี้ไม่รู้จะเรียกว่า โง่ หรือ บ้า .. (หรืออย่างอื่น) ดีนะครับ
เอารูป skycoaster ในสวนสนุกมาลงว่าประเทศอื่นก็มีเสาชิงช้า และบอกว่า
ของประเทศอื่นทำด้วยเหล็ก

คงเริ่มจากหารูป "giant swing" ใน google แล้วหลับหูหลับตาเอามาลง
แต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เสาชิงช้าของพราหมณ์ แล้วคิดเอามาหลอกคนที่นี่
แบบนั้นก็ไม่ใช่โง่ หรือบ้า แต่ต้องเรียกว่าอย่างอื่นครับ



*  เห็นด้วยกะพี่อังศนา ....

    เรื่องที่คุณ จี  ...  ใจเย็นมั๊ก ๆ ในการตอบคำถามพวก = > กวนประสาท

    มีแต่คน   " เพี้ยน "  เท่านั้นแหละที่เอาเสาชิงช้าสวนสนุก  .... มาบอกว่าเหมือนเสาชิงช้าบ้านเรา

    แถมจากที่   มั่ว   เรื่องเอา ... เสาเหล็ก มา อ๊อก  ก็น่าจะทำเป็นเสาชิงช้าได้เหมือน ๆ กันแล้ว

    พี่แกคุยไปคุยมาโยงไปโน้นอีกเรื่อง  .....  ผีป่า

    แล้วยังมาสรุปอะไร  มั่ว ๆ  อีก 13  ข้อ  (  ข้อ 14  หาเรื่องแขวะ เอ้ )
    นี่  ....  ชอบแถ  เวลากินยาเนี่ยยย ... ลืมเขย่าขวดป่าว
   
บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #179 เมื่อ: 11-09-2007, 06:56 »

*  เห็นด้วยกะพี่อังศนา ....

    เรื่องที่คุณ จี  ...  ใจเย็นมั๊ก ๆ ในการตอบคำถามพวก = > กวนประสาท

    มีแต่คน   " เพี้ยน "  เท่านั้นแหละที่เอาเสาชิงช้าสวนสนุก  .... มาบอกว่าเหมือนเสาชิงช้าบ้านเรา

    แถมจากที่   มั่ว   เรื่องเอา ... เสาเหล็ก มา อ๊อก  ก็น่าจะทำเป็นเสาชิงช้าได้เหมือน ๆ กันแล้ว

    พี่แกคุยไปคุยมาโยงไปโน้นอีกเรื่อง  .....  ผีป่า

    แล้วยังมาสรุปอะไร  มั่ว ๆ  อีก 13  ข้อ  (  ข้อ 14  หาเรื่องแขวะ เอ้ )
    นี่  ....  ชอบแถ  เวลากินยาเนี่ยยย ... ลืมเขย่าขวดป่าว
   

เอ้ เวลาจะคิดอะไรเราควรใช้เหตุผลและข้อมูลประกอบด้วย เสาชิงช้าที่เกิดมาบนโลกนี้
วัตถุประสงค์หลักตั้งแต่มันอันเล็กๆ คืออะไร ถ้าไม่ใช่การเล่นเพื่อความบันเทิงสำหรับ
เด็ก เมื่อคนรับรู้ว่ามันเป็นของโยกเล่นสนุก ก็ต้องรับรู้ถึงความมั่นคงเมื่อปักอยู่บนพื้นดิน
จึงเป็นที่มาของคนโบราณที่นำไปผูกกับพิธีตรียัมปวายของศาสนาพราหมณ์ เล่าเป็นตำนาน
ว่าเทพต้องการหยั่งความแข็งแรงของพื้นโลก โดยแกว่งไปกับต้นไม้ แล้วจึงประยุกต์มาใช้
ในพิธีนี้ ความศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอยู่ที่พิธี แต่เมื่อมาเมืองไทยหลังจากจบพิธีแล้ว เสาชิงช้า
ขนาดใหญ่ขนไปไม่ได้ ก็เลยกราบไหว้มันซะงั้น เป็นประเทศเดียวในโลกเลยมั้งนั่น ฝรั่งเค้า
ก็ใช้เสาชิงช้าตามวัตถุประสงค์ของมัน คงไม่มีประเทศไหนกราบไหว้เสาชิงช้า แถมยังบ้า
เอามาทำพระทั้งที่คนละศาสนาเฉย คนจัดทำเป็นมุสลิมเสามาจากศาสนาพราหมณ์จัดทำ
พระในศาสนาพุทธ สนุกดีมั้ยนั่น คนไม่เคยใช้เหตุผลคิดตามก็เชื่อเข้าไปกราบเข้าไป ถือ
เป็นศิริมงคลซะอีก เอ้ ลองกินให้มันน้อยลงหน่อย เผื่อไขมันที่อุดสมองจะจางลงมั่ง เวลา
มองอะไรจะได้ปรับเข้าสู่สากลได้ ไม่ใช่เอาประเทศไทยที่บูชาเสาชิงช้าอยู่ประเทศเดียว
มาเป็นหลัก แล้วไปว่าฝรั่งที่ใช้เสาชิงช้าทำเครื่องเล่นในสวนสนุกเป็นคนละประเภท น่าจะ
คิดได้ว่า เราเองนั่นแหละที่ไปกราบไหว้มันผิดวัตถุประสงค์การใช้งานต่างหาก
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #180 เมื่อ: 11-09-2007, 10:19 »

มันแยกไม่ออกระหว่างเสาชิงช้ากรุงเทพกับเสาชิงช้าสวนสนุกจริงๆ ด้วย
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #181 เมื่อ: 11-09-2007, 10:34 »

มันแยกไม่ออกระหว่างเสาชิงช้ากรุงเทพกับเสาชิงช้าสวนสนุกจริงๆ ด้วย


จะเอาอะไรกับคนเขาขี้เลื่อยทำหัวละครับ
ตัดแต่งข้อมูลก็ทำได้ แถแบบโง่ๆไม่มีเหตุผลก็ทำได้
เป็นพวกที่ขายได้ทุกอย่างแม้แต่พ่อแม่พี่น้อง ศักดิ์ศรี ความภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติ
ถ้าให้เงินจ้างมันกินขี้ก็คงจะรีบคว้าเข้าปากด้วยความภูมิใจด้วยเลยละมั๊ง
บันทึกการเข้า
อยากประหยัดให้ติดแก๊ส
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,406



« ตอบ #182 เมื่อ: 11-09-2007, 11:25 »

มันแยกไม่ออกระหว่างเสาชิงช้ากรุงเทพกับเสาชิงช้าสวนสนุกจริงๆ ด้วย


แยกออกสิ เสาชิงช้ากรุงเทพเค้าเอาไว้ให้พวกโง่งมงายมันกราบไหว้ไง
บันทึกการเข้า
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #183 เมื่อ: 11-09-2007, 11:32 »

แยกออกสิ เสาชิงช้ากรุงเทพเค้าเอาไว้ให้พวกโง่งมงายมันกราบไหว้ไง


  รีบเข้ามากินขี้เลยนะ
บันทึกการเข้า
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #184 เมื่อ: 11-09-2007, 11:41 »

แยกออกสิ เสาชิงช้ากรุงเทพเค้าเอาไว้ให้พวกโง่งมงายมันกราบไหว้ไง


อื้มถ้าพวกโง่งมงายก็คือตัวแกเองหละมั้งแปลกคนแฮะด่าตัวเองก็เป็นด้วย
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #185 เมื่อ: 11-09-2007, 13:14 »

โล้ชิงช้า ประเพณีประดิษฐ์ใหม่ของพราหมณ์สยาม

คอลัมน์ สุวรรณภูมิ สังคมวัฒนธรรม
โดย ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

 
หลักฐานเชื่อได้ที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชพิธีตรียัมปวายปรากฏอยู่ในกฎพระมณเฑียร-
บาลของกฎหมายตราสามดวงที่น่าจะเขียนขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาว่าพิธีตรียัมปวายกลายมาจาก "ติรุเว็ม?ปาไว" ซึ่งเป็นการ
สวดกล่อมเทพเจ้า ก็จะเห็นได้ว่าดั้งเดิมนั้นพิธีนั้นคงจะไม่เกี่ยวกับการ โล้ชิงช้าใหญ่

หลักฐานจากดินแดนต้นแบบคือประเทศอินเดีย จะพบได้ว่ามีเฉพาะการนำเทวรูปมา
ไกวในชิงช้า เช่น พระราชพิธีมาฆวิธานำ ที่ชาวเมืองพาราณสีจะประกอบขึ้นในวันขึ้น
13 ค่ำ เดือน 3 และงานโล้ชิงช้าสำหรับพระอิศวรในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือนไจต (ร(เดือน
5) เป็นต้น ลักษณะเช่นนี้ชวนให้นึกถึงพิธีการช้าหงส์ในพระราชพิธีตรียัมปวายด้วย

แม้ว่าจะไม่มีการกล่าวถึงการโล้ชิงช้าในกฎมณเฑียรบาล แต่เอกสารที่น่าจะกำหนด
อายุได้ในช่วงที่ใกล้เคียงกับฉบับอื่นคือ โคลงทวาทศมาส ได้กล่าวถึงพระราชพิธีตรี-
ยัมปวาย โดยพรรณนาความเปรียบภาพในพระราชพิธีดังกล่าวกับหญิงอันเป็นที่รัก
โดยบรรยายภาพบางส่วนในเทศกาลว่าประกอบพิธีในเดือนหัวกวางคือเดือนอ้าย มี
พราหมณ์ทำพิธีแขวนแผ่นกระดาน มีขบวนรำและการรำเสนง เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติอยู่
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

อย่างไรก็ดี การแขวนกระดานดังกล่าวไม่สามารถใช้พิสูจน์หรือยืนยันได้อย่างชัดเจน
ว่ามีการให้พราหมณ์นาลิวันขึ้นไปโล้ชิงช้า เนื่องจากโคลงดังกล่าวไม่ได้อ้างไว้อย่าง
ชัดเจน ประกอบกับที่หลักฐานบางส่วนได้ระบุให้ทราบว่าการแขวนกระดานที่เสาชิงช้า
ไม่จำเป็นต้องมีการโล้ชิงช้าเสมอไป เช่น หนังสือตำนานพราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราช
ที่มีข้อความที่กล่าวถึงพระราชพิธีตรียัมปวายในเขตพื้นที่ดังกล่าวโดยระบุว่า "...ฝั่งเสา
ชิงช้าผูกต้นกล้วยอ้อยแขวนบรมหงษ์..."

ข้อความในพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรา-
นุวัดติวงศ์ เมื่อปี พ.ศ.2476 ที่กล่าวถึงการเสด็จชมโบสถ์พราหมณ์ จังหวัดนครศรี-
ธรรมราช ว่ามีนางกระดานสามแผ่น แต่เมื่อพระองค์ทรงถามพราหมณ์ผู้เฝ้ารักษากลับ
ตอบว่า ไม่มีการถีบชิงช้า เพียงแต่นำกระดานขึ้นแขวนเท่านั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยมีพระบรมราชอรรถา-
ธิบายมาก่อนแล้วว่า การที่พราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราชประกอบพิธีตรียัมปวายโดย
การนำกระดานขึ้นแขวนเพียงสังเขปนั้น เป็นการทำพิธีพราหมณ์อย่างย่อๆ ตามมีตาม
เกิด แต่หากพิจารณาในมุมกลับกันแล้วก็อาจเป็นไปได้ว่า พิธีตรียัมปวายอย่างที่กลุ่ม
พราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราชประกอบนั้นเป็นพิธีอย่างเก่า ส่วนการประกอบพิธีโดยมี
การให้พราหมณ์นาลิวันขึ้นไปโล้ชิงช้านั้นคงจะเป็นการขยายให้เกิดขึ้นภายหลัง โดย
มีหลักฐานยืนยันได้เก่าสุดในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับวันวลิตที่เขียนขึ้นในรัชสมัย
พระเจ้าปราสาททองแล้วเล่าย้อนไปในช่วงก่อนหน้า

ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับดังกล่าวมีข้อความที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า พระเจ้า
แผ่นดินแห่งเมืองรามรัฐ (Rammaradt) ชายฝั่งโจฬะมณฑล (Coromandel) ซึ่ง
เข้าใจว่าน่าจะหมายถึงเมืองราเมศวรัม ที่มีลักษณะเป็นเกาะ ได้ขอเจริญสันถวไมตรี
หลังจากพ่ายแพ้ต่อบุญญาธิการของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (ผู้สร้างวัดพระศรีสรร-
เพชญ) โดยได้ถวายกระดานโล้ชิงช้าและชิงช้า

พงศาวดารฉบับดังกล่าวอ้างว่าการโล้ชิงช้าเป็นการละเล่นไม่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน
ในสยาม พร้อมกันนี้ได้ส่งพราหมณ์ผู้ทรงความรู้อีกสองท่านให้แสดงวิธีโล้ชิงช้าเพื่อ
เป็นที่รู้จักและคงอยู่ในสยามตลอดไป ความตอนนี้คงจะเกี่ยวกับพระราชพิธีโล้ชิงช้า
ค่อนข้างแน่ เนื่องจากฟาน ฟลีต หรือที่เรียกอย่างไทยว่า วันวลิต ได้อธิบายต่อไป
ว่าในสมัยที่ท่านเข้ามา (ตรงกับรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง) ยังมีการ
ละเล่นชนิดนี้อยู่ในอยุธยา โดยจัดเป็นงานฉลองพิเศษประจำปีที่ใช้เวลาหลายวัน

ข้อความข้างต้นชวนให้นึกไปได้ว่าพิธีโล้ชิงช้าอย่างไทยคงจะรับมาจากแขกอินเดีย
ในสมัยดังกล่าว อย่างไรก็ดี เรื่องราวที่อ้างถึงการถวายชิงช้าดังกล่าวในเอกสารของ
ฟาน ฟลีต ยังมีลักษณะเป็นตำนานที่เต็มไปด้วยพระกฤดาภินิหารของกษัตริย์อยุธยา

ตำนานดังกล่าวยังมีรายละเอียดที่ใกล้เคียงเป็นอย่างยิ่งกับข้อความในช่วงต้นของ
ตำนานพราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราชที่กล่าวถึงการเข้าสู่ราชอาณาจักรสยามของ
พวกกพราหมณ์ในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เว้นแต่ว่า
ชิงช้าที่กล่าวถึงนั้นกลายเป็นชิงช้าทองแดงที่ใช้ในการไกวขับกล่อมเทวรูป ดังนั้น
ข้อความที่ปรากฏในเอกสารของ ฟาน ฟลีต จึงน่าจะมีลักษณะเป็นตำนานที่ชาว
อยุธยาในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองใช้ในการอธิบายเหตุของการโล้ชิงช้า
ในพระราชพิธีตรียัมปวาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโลกทรรศน์ของชาวอยุธยาในช่วงสมัย
นั้นว่าการโล้ชิงช้าเป็นพิธีการที่รับมาจากพราหมณ์อินเดียในช่วงต้นกรุงฯ นั่นเอง

จากหลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงอาจจะอนุมานได้ว่าการโล้ชิงช้าใหญ่นั้นควร
เกิดขึ้นในดินแดนอุษาคเนย์มากกว่า โดยแต่แรกเริ่มอาจจะมีที่มาจากการรับประเพณี
การขับกล่อมเทพเจ้าบนชิงช้าขนาดเล็กจากอินเดียมาในสมัยพระรามาธิบดีที่ 2 ดัง
มีหลักฐานปรากฏอยู่เป็น และขยายกลายเป็นพิธีการโล้ชิงช้าใหญ่ ซึ่งมีหลักฐานจาก
การบอกเล่าของ ฟาน ฟลีต อย่างน้อยตั้งแต่ในรัชสมัยของพระเจ้าปราสาททอง

ทั้งนี้เมื่อสืบค้นจากหลักฐานต่างๆ แล้วพบว่า ประเพณีการโล้ชิงช้าอย่างพราหมณ์
มีปรากฏเฉพาะในสยามประเทศเท่านั้น

มติชน วันที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10772

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra02070950&day=2007-09-07&sectionid=0131
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #186 เมื่อ: 11-09-2007, 15:12 »

แก๊สเน่านี่ เล่นบอร์ดมาก็นาน แต่ไม่ได้พัฒนาทางความคิดอะไรบ้างเลยหรือไง

เห็นเก่งเรื่องเดียวก็แต่ใช้ search หาข้อมูล   แต่โทษเฮอะข้อมูลเยอะก็ไม่ได้หมายความว่าจะถูกต้องเสมอไป

มีแต่ข้อมูลแต่ไม่เข้าใจในหลักการของมัน ก็เท่านั้น  เอาไปใช้แบบผิดๆ


การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เราไปยุ่งกับมัน หรือห้ามใช้มัน

แต่หมายถึงการใช้มันอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด และใช้อย่างสมดุล มันก็จะทดแทนกันได้

เรื่องเล็กก็ชอบทำเป็นเรื่องใหญ่  ที่เรื่องใหญ่ก็บอกเป็นเรื่องเล็ก 
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #187 เมื่อ: 11-09-2007, 16:22 »

บทความของ อ.ศิริพจน์ ที่คุณ snowflake เอามาลง กรุงเทพมหานครทำแจกในงานสัมมนาเมื่อวันที่ 7 กย 50 ที่ผ่านมาด้วยครับ
ก็รับฟังเอาไว้เป็นความคิดนึง เพราะยังสรุปอะไรไม่ได้คนเขียนก็ใช้คำพูดแบบคาดเดาตลอดบทความเหมือนกัน

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เปิดประวัติที่แท้จริงของเสาชิงช้า ในการเสวนา “โล้ชิงช้า พิธีกรรมดึกดำบรรพ์ของสุวรณภูมิ”

กรุงเทพมหานคร ร่วมกับคณะกรรมการกรุงเทพฯ ศึกษา จัดเสวนา “โล้ชิงช้า พิธีกรรมดึกดำบรรพ์ของสุวรณภูมิ” บอกเล่าประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของเสาชิงช้าให้เยาวชน นักศึกษา และผู้สนใจได้รับรู้และภาคภูมิใจ ก่อนที่มาเที่ยวงานฉลองเสาชิงช้า โดยมีผู้ฟังเสวนาประมาณ 500 คน

นายพิชัย ไชยพจน์พานิช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีฉลองเสาชิงช้า อย่างเป็นทางการ ในวันพุธที่ 12 กันยายน 2550 เวลา 17.00 น. ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยกรุงเทพมหานคร กำหนดจัด “งานฉลองเสาชิงช้า พ.ศ. 2550” เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่ 11-13 กันยายน 2550 การประกอบพิธีตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เน้นให้ความรู้แก่ประชาชนถึงประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง กิจกรรมหลักภายในงานฉลองเสาชิงช้าประกอบด้วย พิธีพุทธ-พราหมณ์ พิธีเปิดงานนิทรรศการ รถรางชมเมือง การสาธิตและการแสดงลานวิถีไทย การประกวดภาพถ่าย “มหัศจรรย์เสาชิงช้า” และมหรสพเฉลิมฉลอง

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นอกเหนือจากการจัดงานฉลองแล้ว กรุงเทพมหานครยังประสงค์ให้เยาวชน ประชาชนชาวไทย และสื่อมวลชน ได้มีความรู้ความเข้าใจในความสำคัญของเสาชิงช้าว่า ต้นกำเนิดของเสาชิงช้า และพิธีโล้ชิงช้าแท้จริงนั้นมาจากไหน สมัยโบราณนั้นมีการโล้ชิงช้ากันอย่างไร โดยร่วมกับคณะกรรมการกรุงเทพฯ ศึกษา จัดกิจกรรมเสวนา เรื่อง “โล้ชิงช้า พิธีกรรมดึกดำบรรพ์ของสุวรรณภูมิ ไม่ใช่พิธีพราหมณ์ชมพูทวีป” ในวันที่ 7 ก.ย. 50 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ และได้เชิญ ศ.ทองต่อ กล้วยไม้ ณ อยุธยา มาเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องเสาชิงช้า

ทั้งนี้ภายในงานมีการแจกสูจิบัตรเรื่องการโล้ชิงช้าแก่ผู้เข้าร่วมเสวนา ในเนื้อหาของสูจิบัตรมีการบอกเล่าประวัติของ “ลานคนเมืองหน้าวัดสุทัศน์ เสาชิงช้า หน้าโบสถ์พราหมณ์” โดยอาจารย์ศรีศักร วิลลิโภดม จากมูลนิธิเล็ก วิริยุพันธุ์ ตำนานพิธีตรียัมปวาย และ โล้ชิงช้าประเพณีประดิษฐ์ใหม่ของพราหมณ์สยาม เขียนโดยอาจารย์ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งมีภาพเก่าแก่ของการโล้ชิงช้าในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากนี้อาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศ ยังเล่าไว้ถึงโล้ชิงช้าในภาษาไทยมาจากคำกระเหรี่ยงว่าลาชิงช้า ด้วย

จากนั้น รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับครูมืด (ประสาท ทองอร่าม) และอาจารย์ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ จากกรมศิลปากร เล่าถึงความสำคัญและความน่าสนใจในการจัดแสดงมหรสพ ว่าการแสดงแต่ละชุดที่นำมามีความหมาย ความสำคัญ และความสนุกสนานอย่างไร เหตุใดจึงเป็นการแสดงที่นำมาในงานฉลองเสาชิงช้า และคำแนะนำในการชมนิทรรศการในงานฉลองเสาชิงช้าที่จะบอกเล่าเรื่องของประวัติความเป็นมาของเสาชิงช้า ขั้นตอนการบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า ตลอดการดำเนินการกับเสาชิงช้าในอนาคต เป็นต้น


---------------------------- (กมลพร...กปส. รายงาน)
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: 1 2 3 [4]
    กระโดดไป: