ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 14:28
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  โรงสีเพรสซิเด้นท์ปิดตัว หลังเป็นหนี้กว่าหมื่นล้านบาท 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
โรงสีเพรสซิเด้นท์ปิดตัว หลังเป็นหนี้กว่าหมื่นล้านบาท  (อ่าน 3103 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« เมื่อ: 23-08-2007, 10:13 »

โรงสีเพรสซิเด้นท์ปิดตัว หลังเป็นหนี้กว่าหมื่นล้านบาท
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 สิงหาคม 2550 09:17 น.
 
 
       นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงการปิดกิจการโรงสีเพรสซิเด้นท์ ซึ่งเป็นโรงสีขนาดใหญ่ที่มีไซโลและกำลังการผลิตกว่า 500 ตันต่อวัน แต่มีปัญหาด้านการบริหารจัดการ ได้ปิดกิจการลงแล้ว ส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงาน จำนวน 195 คนต้องตกงานทันที อีกทั้งกรรมกรแบกหามนับร้อยคน
        ปัญหาการปิดกิจการครั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับค่าเงินบาทแข็งตัว แต่เกิดจากโรงสีเพรสซิเด้นท์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ กู้เงินจากธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยธนาคาร ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย มูลค่าหนี้กว่า 10,000 ล้านบาท แล้วเกิดภาวะเอ็นพีแอล ไม่สามารถหมุนเงินได้ทัน ประสบปัญหาขาดทุน จึงปิดกิจการดังกล่าว

 
 http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000099119



ตั้งกระทู้ให้คนรักสองผัวเมีย จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆ ของคณะกรรมการ คตส. และ ดีเอสไอ
มา 'ตีไข่ใส่ไข' ว่าเพราะการรัฐประหารและการบริหารแผ่นดินไม่ดีของรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์......

ก่อนจะ"ใส่ไข่"ขยายความ ควรไปสอบถาม วัฒนา อดีตหลานเขยเจ้าสัวฯก่อนว่าควรหรือไม่ควร.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


ปล. รายการนี้ ธนาคาร 6-7 แห่งคงเสียหายมากกว่า 6-7000 ล้านบาท
      เพราะเปิดช่องว่าง'ธรรมเนียมปฎิบัติ'.....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007, 13:40 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 23-08-2007, 11:43 »

โรงสีนี้เกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นด้วยเหรอครับ ลุงปุ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #2 เมื่อ: 23-08-2007, 12:02 »

โรงสีเพรซิเดนท์ กับ เพรซิเดนท์ อกริฯ นี่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกันหรือเปล่าครับ ลุงปุ ?
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #3 เมื่อ: 23-08-2007, 12:57 »

 

เศรษฐกิจเน่าหนัก โรงสี ส่งออกรายใหญ่ปิดตัวเสียหายกว่า หมื่นล้าน




 
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 23-08-2007, 13:10 »



เศรษฐกิจเน่าหนัก โรงสี ส่งออกรายใหญ่ปิดตัวเสียหายกว่า หมื่นล้าน




 

ประโยคแนวๆนี้ แถ มันชอบ 
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #5 เมื่อ: 23-08-2007, 13:21 »

โรงสีเพรซิเดนท์ กับ เพรซิเดนท์ อกริฯ นี่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกันหรือเปล่าครับ ลุงปุ ?


โรงสีนี้เกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นด้วยเหรอครับ ลุงปุ


พาณิชย์โอดประมูลข้าวได้ราคาต่ำ โยน "สมคิด" เคาะราคาวันนี้ หลังถกมาราธอนประมูล ข้าวในสต๊อกรัฐบาล 5.4 แสนตัน มูลค่า 6.2 พันล้านบาท เผย "เพรซิเดนท์ฯ" เจ้าเก่าเสนอสูงสุดแค่ 283 เหรียญ/ตัน ซื้อแบบยกล็อตข้าวขาว 5% แต่กดราคาสุดฤทธิ์

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสาร เปิดเผยถึงการเปิดซองประมูลเสนอซื้อข้าวสารเพื่อการ ส่งออกต่างประเทศของภาครัฐจำนวนกว่า 544,000 ตันตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 วานนี้(15 ส.ค.) ว่า ยังไม่สามารถสรุปผลการพิจารณา เคาะราคาให้แก่เอกชนรายใดได้ เพราะราคาที่ภาคเอกชนเสนอยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จะต้องเจรจาต่อรองกันต่อ ซึ่งในวันนี้จะสามารถสรุปได้ หลังเสนอให้นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พิจารณาก่อน

ทั้งนี้ จำนวนข้าวที่ระบายในครั้งนี้คิดเป็น 20% ของจำนวนข้าวที่มีอยู่ในมือรัฐบาลราว 2.7 ล้านตัน คิดเป็นจำนวนข้าวหอมมะลิ 1 ล้านตัน เพรซิเดนท์ฯกดราคา 66.1 ล้านบาท

สำหรับการประมูลครั้งนี้ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริเทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้เสนอซื้อข้าวในโกดังรัฐบาล ทั้งหมดจำนวน 544,248.91 ตัน มูลค่า 153,634,671.45 เหรียญสหรัฐ หรือ 6,299,021,529.45 บาท โดยเสนอซื้อข้าวทุกชนิดที่เปิดประมูล ได้แก่ ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% และข้าวขาว 25% เลิศ

ทั้งนี้ เพรซิเดนท์ฯได้เสนอซื้อข้าวขาว 5% ในราคา 282-283 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปริมาณ 537,828.76 ตัน ข้าวขาว 15% ในราคาตันละ 263 เหรียญสหรัฐ ปริมาณ 1,922.14 ตัน และข้าวขาว 25% เลิศ ในราคาตันละ 250 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นราคาและปริมาณสูงสุดกว่าผู้ร่วมประมูลในครั้งนี้ โดยเพรซิเดนท์ฯ ต่อรองราคาข้าวขาว 5% ทำให้ลดลงตันละ 3 เหรียญสหรัฐ คิดเป็น 1,613,486.28 เหรียญสหรัฐ หรือ 66,152,937.48 บาท

ในขณะที่รายอื่น อาทิ บ.แคปปิตอลซีเรียลส์ จำกัด เสนอซื้อข้าวขาว 5% ในราคาตันละ 268 เหรียญ จำนวน 336,937.11 ตัน และข้าวขาว 15% ให้ราคาตันละ 250 เหรียญสหรัฐ ในปริมาณ 1,922.14 ตัน

บริษัท ไชยพร อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เสนอซื้อข้าวขาว 5% ให้ราคาตันละ 243-275.5 เหรียญสหรัฐ ในปริมาณ 329,616.70 ตัน บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด ให้ราคาตันละ 276-282.5 เหรียญสหรัฐ ในปริมาณ 257,098.17 ตัน

บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ให้ราคาตัน ละ 270 เหรียญ ในปริมาณ 118,515.50 ตัน บริษัท ตั้งฮั้วค้าข้าว ให้ราคาตันละ 282 เหรียญ ในปริมาณ 12,147.55 ตัน แต่สำหรับราคาข้าวในตลาดโลก ตามรายงานของสภาหอการค้าไทย ข้าวขาว 5% อยู่ที่ 287 เหรียญสหรัฐต่อตัน ข้าวขาว 15% อยู่ที่ 272 เหรียญสหรัฐต่อตัน และข้าวขาว 25% เลิศ อยู่ที่ 255 เหรียญสหรัฐต่อตัน

"การประมูลครั้งนี้เป็นไปอย่างซื่อสัตย์สุจริต และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุด มีความโปร่ง ใสและสามารถตรวจสอบได้" นายการุณกล่าว

ทั้งนี้ผู้ชนะการประมูลจะต้องทำสัญญากับองค์การคลังสินค้าภายใน 10 วัน ให้วางหนังสือค้ำประกันธนาคารหรือเงินสด 5% ของมูลค่าข้าวสาร และต้องขนย้ายสินค้าภายใน 3 วันหลังจากวันที่ทำสัญญา และต้องดำเนินการส่งออกภายใน 270 วัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทเพรซิเดนท์ฯถือว่าเป็นบริษัทค้าข้าวที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคนายวัฒนา เมืองสุข เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยก่อนหน้านี้บริษัท เพรซิเดนท์ฯ เคยได้รับซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาล จำนวน 1.7 ล้านตัน แต่มีปัญหาผิดสัญญารับมอบข้าวเพื่อการส่งออกล่าช้าไม่เป็นไปตามกำหนด ทั้งยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงค้าข้าวเรื่องสต๊อกข้าวลม นำข้าวที่จะส่งออกมาเวียนเทียนข้าวในประเทศ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นโยบายสำคัญของตนคือ จะดูแลราคาสินค้าเกษตร และจะหาช่องทางระบายสินค้าเกษตรให้ได้ราคาดี ให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น โดยเฉพาะข้าว ต้องได้ราคาดี ซึ่งวันนี้จะมีสรุปการประมูล    



http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=37556



หนังสือพพิมพ์เคยลงข่าวว่าคณะกรรมการ คตส.ได้สอบถึง "เช็ค" จำนวนหนึ่งเกี่ยวข้องกับทุจริตโครงการเอื้ออาทร ผ่านบัญชีธนาคารของบริษัทนี้ ในสมัยที่ วัฒนาเป็นรัฐมนตรีคุมการเคหะแห่งชาติ รับผิดชอบโครงการบ้านเอื้ออาทร".....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007, 13:42 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #6 เมื่อ: 23-08-2007, 13:26 »

เดี๋ยวนี้คนไทยชักเริ่มชินเกี่ยวกับข่าวธุรกิจเจ๊งกันรายวัน...คงทำใจกันได้แล้วอ่ะน๊ะท้าวฯว่า
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #7 เมื่อ: 23-08-2007, 13:29 »

เดี๋ยวนี้คนไทยชักเริ่มชินเกี่ยวกับข่าวธุรกิจเจ๊งกันรายวัน...คงทำใจกันได้แล้วอ่ะน๊ะท้าวฯว่า

คิดแบบง่ายๆดีกว่า   คนไทยที่เป็นเจ้าของธุรกิจ มีน้อยมังครับ

จะเดือดร้อนต่อเมื่อของตัวเองปิดแหละครับ
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 23-08-2007, 13:31 »

อ่าฮะ เรื่องมันมีเลศนัย
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #9 เมื่อ: 23-08-2007, 13:33 »

ค้าข้าวตะลึงบริษัทห้องแถว หอบ300 ล.ซื้อ" เพรซิเดนท์อะกริ "  
    
 
 ส่งหาเพื่อน ปริศนาสหพัฒน์ทิ้งหุ้นเพรซิเดนท์ อะกริฯ 61% แฉขบวนการเชิดบริษัทห้องแถว ออกหน้าซื้อหุ้น 300 ล้านบาท วงการค้าข้าวเชื่อเป็นแค่ "นอมินี" ของทุนการเมืองยักษ์ "ประชาชาติธุรกิจ" บุกสำรวจสำนักงานใหญ่บริษัทจัสมิน เซอร์เวย์ฯ เป็นร้านขายข้าวเล็กๆ ทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้าน ผลประกอบการขาดทุนตลอด 3 ปี ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเงินมาซื้อหุ้นบริษัทยักษ์ค้าข้าว

  "ประชาชาติธุรกิจ" ได้นำเสนอข่าวความมหัศจรรย์ของบริษัทค้าข้าวที่ชื่อบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด มาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งในแง่มุมของบริษัทค้าข้าวที่ก้าวขึ้นมาสู่หมายเลข 1 ในวงการส่งออกข้าวอย่างรวดเร็วในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เฉพาะปีนี้บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริฯได้ส่งออกข้าวไปแล้วถึง 1.2 ล้านตัน ท่ามกลางความเคลือบแคลงของเพื่อนร่วมวงการค้าข้าว "สงสัย" ว่า เพรซิเดนท์ อะกริฯสามารถทำได้จริงๆ หรือจากกรณีอื้อฉาว "ข้าวลม" ที่กำลังเกิดขึ้นกับบริษัทอยู่ในปัจจุบัน

แต่จากความสามารถที่เหนือชั้นและสายสัมพันธ์ในทางการเมืองที่แนบแน่น ประกอบกับมีบุคคลระดับรัฐมนตรีออกมาคอยแก้ต่างให้ ส่งผลให้บริษัทเพซิเดนท์ อะกริฯประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างสูง ดังเห็นได้จากรายได้และผลกำไรที่โตแบบพรวดๆ จนใครๆ ในวงการต่างเชื่อกันว่า บริษัทแห่งนี้มีอนาคตที่สดใส

จากการตรวจสอบ "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่าผลประกอบการของเพรซิเดนท์ อะกริฯ ช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า ปี 2544 อันเป็นปีแรกที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ พบว่าบริษัทมีรายได้ 5,511.7 ล้านบาท มีกำไร 68 ล้าน ปีถัดมา 2545 บริษัทมีรายได้ 7,600.9 ล้านบาท มีกำไร 79 ล้านบาท ล่าสุดปี 2546 บริษัทมีรายได้ 8,594 ล้านบาท ทำกำไรเพิ่มเป็น 87 ล้านบาท ตัวเลขแห่งความมั่งคั่งและมั่นคง เปรียบเทียบกับบริษัทในธุรกิจเดียวกันหลายบริษัทแล้ว ถือว่า ดีเยี่ยม เกรด AA

แม้ว่าการเติบโตแบบพรวดพราดของ เพรซิเดนท์ อะกริฯ จะถูกจับตามองจากฝ่ายตรวจสอบอย่างพรรคประชาธิปัตย์และวุฒิสภาอย่างเข้มข้น ดังเห็นได้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเนื้อหาการอภิปรายได้พาดพิงไปถึง บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริฯ นับจากการขายข้าวผ่าน "บูล็อก" ตัวแทนค้าของอินโดนีเซียจนมาถึงการประมูลข้าวลอตใหญ่ 1.7 ล้านตัน ของกระทรวงพาณิชย์ที่บริษัทนี้ได้ไปคนเดียว และแม้ว่าฝ่ายค้านจะพยายามโยงสายสัมพันธ์ระหว่างนายวัฒนา เมืองสุข กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร กรรมการบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริฯ แต่ที่สุดเรื่องก็เงียบหายไปเฉยๆ

ถัดมา 2 เดือน นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ได้บริจาคเงินสนับสนุนพรรคไทยรักไทย 1 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะเป็นการตอบแทนเชิงนโยบายหรือไม่

แต่เรื่องแปลกๆ ที่แฝงปริศนาเกี่ยวกับเพรซิเดนท์ อะกริฯ ยังไม่จบลงเพียงเท่านั้น เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จู่ๆ กลุ่มสหพัฒน์ที่ถือหุ้นใหญ่อยู่ในเพรซิเดนท์ อะกริฯ ได้ประกาศขายหุ้น 61 เปอร์เซ็นต์ (เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ 51% ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ 10%) ให้แก่บริษัท จัสมิน เซอร์เวย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทเล็กๆ ที่มีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 1 ล้านบาท

เหตุผลของเพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ที่ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการขายหุ้นเพรซิเดนท์ อะกริฯ จำนวน 51% ก็คือ ธุรกิจพืชผลทางการเกษตรมีราคาผันผวนโดยธรรมชาติ มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และมีกำไรน้อยมาก อย่างไรก็ตาม พิจารณาจากผลประกอบการของเพรซิเดนท์ อะกริฯ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าเหตุผลไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าใดนัก

ปัญหาที่น่าคิดคือ ขนาดบริษัทในเครือสหพัฒน์ยังไม่กล้าแบกรับความเสี่ยงของ เพรซิเดนท์ อะกริฯ แล้วเหตุไฉนบริษัทที่ตั้งอยู่ในตึกแถวเล็กๆ จะมีเงินมาซื้อหุ้น เพรซิเดนท์ อะกริฯต่อจากกลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งคำนวณคร่าวๆ แล้ว กลางเดือนธันวาคมศกนี้ จัสมินฯจะต้องหาเงินมากกว่า 300 ล้านบาทไปซื้อหุ้น เพรซิเดนท์ อะกริฯ

เมื่อสอบถามคนในวงการค้าข้าว ส่วนใหญ่ยืนยันกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จัสมินฯเป็นแค่บริษัทที่ถูกเชิดโดยยักษ์ใหญ่ทุนหนาระดับชาติ แต่ใครกันที่อยู่เบื้องหลังการเทกโอเวอร์ เพรซิเดนท์ อะกริฯ ในดีลที่มีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท

ขณะที่ผู้บริหารของเครือสหพัฒน์ยอมรับกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เพรซิเดนท์ อะกริฯ โตเกินกว่าที่สหพัฒน์จะควบคุมได้ และสหพัฒน์ไม่ต้อง การให้งบดุลของบริษัทในเครือมีหมายเหตุยืดยาว อันเป็นปัญหาจากระบบบัญชีที่สลับซับซ้อน ฉะนั้น เพื่อภาพลักษณ์ขององค์กรที่มุ่งเน้นเรื่องบรรษัทภิบาล ทำให้สหพัฒน์ ตัดสินใจขายหุ้นเพรซิเดนท์ อะกริฯ ออกไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อพิสูจน์ว่า บริษัทจัสมินฯอาจเป็นแค่ตัวแทนของกลุ่มทุนใหญ่ ผู้สื่อข่าว "ประชา ชาติธุรกิจ" ได้ตามไปพิสูจน์สำนักงานใหญ่ของจัสมินฯ 197/8 หมู่ 5 ถ.เพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ พบว่าเป็นร้านค้าข้าวเล็กๆ นอกจากนี้ บ้านเลขที่นี้ยังใช้เป็นที่จดทะเบียนตั้ง หจก. ส.มนสิทธิ์เทรดดิ้ง (ธุรกิจรับเหมา) และบริษัท ล รัตนสิน แมชชินเนอรี่ (ขายเครื่องจักร) และเมื่อสอบถามลูกจ้างภายในร้านก็ได้คำตอบว่า ไม่รู้จักกรรมการบริษัทจัสมินฯ แม้แต่คนเดียว (อ่านรายงานพิเศษ หน้า 20 )

เมื่อตรวจสอบผลประกอบการของบริษัท จัสมินฯ ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัทจัสมินฯขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2544 ขาดทุน 8,650 บาท ปี 2545 ขาดทุน 3,000 บาท และปี 2546 ขาดทุน 4,000 บาท

แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดแกนนำรัฐบาล เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หากรัฐบาลไทยรักไทยบริหารนโยบายข้าวได้อย่างเหมาะสม นอกจากจะได้ฐานเสียงจากชาวนาทั่วประเทศหลายสิบล้านเสียงแล้ว ที่สำคัญต้องอย่าลืมว่า ธุรกิจค้าข้าววันนี้มีมูลค่านับหมื่นล้านต่อปี มีอนาคตมากกว่าธุรกิจขายโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำไป เพราะอย่างไรเสีย คนก็ต้องกินข้าววันละ 3 มื้อ

ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในเรื่องของการส่งออก "ข้าวลม" ภายหลังจากที่นายปราโมทย์ วานิชานนท์ ในฐานะกรรมการนโยบายข้าว ได้ทำหนังสือเรื่อง "ปัญหาตัวเลขการส่งออกข้าว" ที่มีความ คลาดเคลื่อนกันอยู่ประมาณ 200,000 ตัน ถึงนายพินิจ จารุสมบัติ ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) ขอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงาน คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจพาณิชย์และอุตสาห กรรม ได้จัดประชุมเรื่องดังกล่าวในวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ โดยกรรมาธิการซึ่งมีนายอนันต์ ดาโลดม เป็นประธาน ได้เชิญตัวแทนผู้เกี่ยวข้องจากกรมการค้าต่างประเทศ-กรมศุลกากร-สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ขาดเพียงตัวแทนสมาคมโรงสีข้าวไทย ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนเข้าประชุม โดยนายอนันต์กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเกิดกรณีวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปริมาณการส่งออกข้าวกว่า 280,000 ตัน ของบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ซึ่งนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีคำสั่งให้กรมการค้าภายในตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นที่ประชุมกรรมาธิการในวันนี้จึงมีการนำตัวเลขการส่งออกข้าวรวมทั่วประเทศของกรมศุลกากรมาเปรียบเทียบกับตัวเลขของคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และตัวเลขของสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ ปรากฏว่าตัวเลขการส่งออกข้าวของกรมศุลกากรในปี 2545 มีการส่งออก 7,327,025.46 ตัน ปี 2546 ประมาณ 7,342,788.56 ตัน และ 10 เดือนแรกของปี 2547 มีการส่งออกข้าว 8,142,459.34 ตัน ส่วนตัวเลขของสภาหอการค้า กับสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ ปี 2545 ส่งออกข้าวประมาณ 7,208,381.60 ตัน ปี 2546 ประมาณ 7,572,599.28 ตัน และ 10 เดือนของปี 2547 ส่งออกข้าวประมาณ 8,309,433.8 ตัน

โดยมีข้อน่าสังเกตว่า ตัวเลขการส่งออกข้าวจากหน่วยงานทั้ง 3 ไม่ตรงกัน มีส่วนต่างเฉลี่ยประมาณ 100,000-200,000 ตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่กำลังมีปัญหา "ข้าวลม" ขณะนี้คือ 10 เดือนแรกของปี 2547 มีส่วนต่างกันอยู่ประมาณ 160,000 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.6

ด้านผู้แทนของกรมศุลกากรกล่าวว่า ทางกรมศุลกากรได้ตรวจสอบตัวเลขการส่งออกข้าวประจำปี 2545-2546 และช่วง 10 เดือนของปี 2547 ตามที่ได้รับหนังสือแจ้งมา ซึ่งเป็นตัวเลขการส่งออกจริงที่ได้รับการยอมรับตามระบบสากล พบว่าตัวเลขการส่งออกข้าวจากกรมการค้าต่างประเทศ-สภาหอการค้าฯ สูงกว่าตัวเลขส่งออกข้าวจริงของกรมศุลกากรมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าใบอนุญาตส่งออกข้าวจะต่ออายุได้ 3 เดือนก็ตาม ถ้ามองในทางเปอร์เซ็นต์ จะมีความแตกต่างกันเพียงร้อยละ 1 กว่า แต่หากคิดเป็นประมาณการรวมทั้ง 2 ปีก็จะมีปริมาณการส่งออกข้าวที่แตกต่างกันเกือบ 400,000 ตัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก

ขณะที่นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ ซึ่งเป็น 1 ในกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงในที่ประชุม มีสาระสำคัญอยู่ที่สมาคมได้เตรียมตัวเลขปริมาณการส่งออกข้าวย้อนหลังช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2545-ปัจจุบัน ในขณะนี้ประเด็นอยู่ที่บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง แจ้งปริมาณการส่งออกข้าว 10 เดือนแรกของปีนี้ถึง 283,000 ตัน ขณะที่บริษัทนครหลวงค้าข้าว ผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของประเทศ มีปริมาณการส่งออกสูงสุดที่ทำได้เพียง 210,000 ตันเท่านั้น แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริฯมีข้าวในสต๊อกมากเพราะชนะการประมูลข้าว 1.7 ล้านตันจากโครงการรับจำนำของรัฐบาล ดังนั้นการตรวจสอบจะต้องใช้ตัวเลขส่งออกข้าวของกรมศุลกากรและกรมการค้าต่างประเทศมายืนยัน จะทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้

"ปกติแล้วสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศมีเงื่อนไขว่า สมาชิกสมาคมทุกบริษัทจะต้องเสียค่าธรรมเนียม (ค่าต๋ง) ในการส่งออกข้าวอัตราตันละ 15 บาท เพื่อเป็นค่าบำรุงสมาคม โดยคิดตามตัวเลขการส่งออกของสภาตรวจข้าว ดังนั้นบริษัทผู้ส่งออกไม่น่าจะยอมเสียค่าส่งฟรี ทั้งที่ไม่ได้ส่งออกจริง แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ว่าตัวเลขการส่งออกข้าวจริงของกรมศุลกากรจะต่ำกว่าตัวเลขของคณะกรรมการตรวจข้าวมากถึงขณะนี้" นายวิชัยกล่าว

เมื่อที่ประชุมไม่สามารถหาข้อสรุปตัวเลขการส่งออกข้าวที่แท้จริงได้ในขณะนี้ นายอนันต์กล่าวว่า ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ทางคณะกรรมาธิการจะเชิญองค์การคลังสินค้า (อคส.) มาให้ข้อมูลเรื่องเงื่อนไขและราคาในการขายข้าวจำนวน 1.7 ล้านตันให้กับบริษัทเพรซิเดนท์ อะกริฯ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสต๊อกข้าว และทางคณะกรรมาธิการจะทำหนังสือไปยังกรมศุลกากร เพื่อขอข้อมูลการส่งออกข้าวประจำปี 2545-2547 ของผู้ส่งออกเป็นรายบริษัท เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของฝ่ายวิชาการของกรรมาธิการในการหาข้อสรุปต่อไป

- - -- - - - - - - - -- - - - - - - - -- -
ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 02 ธันวาคม 2547
ที่มา : http://www.matichon.co.th/prachachat/
  
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007, 13:37 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #10 เมื่อ: 23-08-2007, 13:34 »

เดี๋ยวนี้คนไทยชักเริ่มชินเกี่ยวกับข่าวธุรกิจเจ๊งกันรายวัน...คงทำใจกันได้แล้วอ่ะน๊ะท้าวฯว่า

  "ประชาชาติธุรกิจ" ได้นำเสนอข่าวความมหัศจรรย์ของบริษัทค้าข้าวที่ชื่อบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด มาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งในแง่มุมของบริษัทค้าข้าวที่ก้าวขึ้นมาสู่หมายเลข 1 ในวงการส่งออกข้าวอย่างรวดเร็วในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เฉพาะปีนี้บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริฯได้ส่งออกข้าวไปแล้วถึง 1.2 ล้านตัน ท่ามกลางความเคลือบแคลงของเพื่อนร่วมวงการค้าข้าว "สงสัย" ว่า เพรซิเดนท์ อะกริฯสามารถทำได้จริงๆ หรือจากกรณีอื้อฉาว "ข้าวลม" ที่กำลังเกิดขึ้นกับบริษัทอยู่ในปัจจุบัน


ปลงได้ก็ดี คุณ"ท้าวฯ"............
ดีใจที่ไม่โกรธ กล่าวร้าย คณะ คมช. และ  รัฐบาลนี้ ที่ทำให้บริษัทส่งออกข้าวหมายเลขหนึ่งในยุคทักษิณ  เจ๊ง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-08-2007, 13:38 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #11 เมื่อ: 23-08-2007, 13:49 »

จาก'บูล็อก'ถึงบ้าน'เอื้ออาทร' สัมพันธ์ลึก'ทักษิณ-วัฒนา-อภิชาติ' ติดคุก!!!!  (อ่าน 387 ครั้ง) 

RONALDO
ขาประจำ


    จาก'บูล็อก'ถึงบ้าน'เอื้ออาทร' สัมพันธ์ลึก'ทักษิณ-วัฒนา-อภิชาติ' ติดคุก!!!!
« เมื่อ: 24-03-2007, 21:15 » อ้างถึง

--------------------------------------------------------------------------------
อึ้งกันไปทั้งประเทศ เมื่อผลวินิจฉัยการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร 600,000 หน่วย ตามนโยบายประชานิยมรัฐบาลทักษิณ โดยนายแก้วสรร อัติโพธิ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. เพราะผลวินิจฉัยพบหลักฐานสำคัญมัดตัว นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่ามีส่วนพัวพันรับเงินใต้โต๊ะจำนวน 82 ล้านบาท จากบริษัท พาสทิญ่าไทย จำกัด หนึ่งในผู้ได้รับสิทธิ์ดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร ทั้งเส้นทางการเงินโยงใยไปถึงบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทค้าข้าวรายใหญ่รายหนึ่ง......

 "สินบน-ฟอกเงิน"บ้านเอื้อฯ:
ความผิดปกติของเส้นทางการเงิน ที่ส่งผ่านบริษัท พาสทิญ่าไทย ไปยังบริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทอื้อฉาวที่มีความสัมพันธ์แนบแน่น ในสมัยที่นายวัฒนา นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีหลักฐานสำคัญ ที่พบว่ามีขบวนการโยกเงินจากบริษัทพาสทิญ่า ไปฟอกเงิน ที่ บริษัทเพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง ก็คือ
วันที่ 15 มีนาคม 2549 ปรากฏชื่อของนาย ชาฮ์นน บินยาขอบ ได้อนุมัติให้ออกเซ็คเงินสด ธนาคารกรุงเทพสาขารัตนาธิเบศร์ จำนวน 11 ฉบับ ยอดเงิน 18,750,260 บาท จากบัญชี เลขที่ 058-301793-4 ชื่อบัญชี บจก .พาสทิญ่า ไทย 18,750,260 บาท  เข้าบัญชีของ คนขับรถของ นายอภิชาต จันทร์สกุลพร เจ้าของบริษัทเพรซิเดนท์ ฯ และเงินจำนวนนี้ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย และ อีกเช็คเงินสดอีก 34 ฉบับ 63,850,000 บาท เข้าบัญชี นางสาวรุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงานแม่บ้านของบริษัทเพรซิเด้นท์ ฯผ่านธนาคารกรุงเทพสาขาอโศก-ดินแดง และโอนผ่านต่อไปบังบัญชีของ นางสาวกรองทอง วงศ์แก้ว พนักงานพิมพ์ดีดของบริษัทเพรซิเด้นท์ ฯที่ได้รับมอบฉันทะจากนางสาวรุ่งเรืองให้เบิกถอนเงิน จำนวน 63,850,000 บาท และนำเข้าบัญชีตนเอง 400,000 บาทและถอนเงินจำนวนดังกล่าวออกโดยไม่มีร่อยรอยว่าส่งไปที่ใดต่อส่วนเงินที่เหลือจำนวน 63,450,000 นางสาวกรองทอง ได้โอนเข้าบัญชีตนเองอีกครั้ง และแยกย่อย กระจาย เข้าบัญชีของบริษัทเพรซิเด้นท์ 2 บัญชี ซึ่งเป็นของธนาคารกรุงเทพสาขาเพชรบุรีตัดใหม่ จำนวน 31,004,204.75 บาท อีกบัญชี จำนวน 24,400 ,000 บาท และเข้าบัญชีของนายอภิชาต ธนาคารกรุงเทพสาขาอโศกดินแดง 155,313 บาท และบัญชีของ นางกิ่งแก้ว ลิมปีสุข สาขาเดียวกัน 3,000,000 บาท

 
http://forum.serithai.net/index.php?topic=12585.msg172504
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #12 เมื่อ: 23-08-2007, 13:55 »

" อภิชาติ" ปิดปากแจงข้อเท็จจริง หนี้-ข้าว อคส.
ผู้ประกาศ : user39 2 ส.ค. 2550
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2240
 
   โรงสีวิพากย์กรณี "เพรซิเดนท์" แบงก์ชะล่าใจในการปล่อยสินเชื่อ เผยธุรกิจกำไรแค่จิ๊บจ๊อยแต่บางแบงก์ปล่อยกู้วงเงินมากเกินเหตุ ขณะทีท่าอคส.เริ่มอ่อนยอม รับยังไม่เคยหารือบิ๊กเพรซิเดนท์ฯ แต่คาดคงมีปัญหา หาตลาดรองรับไม่ทัน ขณะที่ " อภิชาติ" ยังอยู่ในประเทศไทย แต่ปิดปากไม่ยอมไม่แจงข้อเท็จจริง

                 จากกรณีที่ตลอด 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมาได้มีข่าวเกี่ยวกับบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัทค้าข้าว ซึ่งขยับชั้นขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการส่งออกข้าวของไทย สมัย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ  ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายวัฒนา เมืองสุข ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยครั้งหนึ่งบริษัทเพรซิเดนท์ฯ เป็นผู้ประมูลข้าวล๊อตใหญ่รายเดียวจำนวนถึง 1.7 แสนตัน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีธนาคารเจ้าหนี้โดยธนาคารไทยธนาคารออกมาระบุบริษัท เพรซิเดนท์ฯเป็นหนี้ธนาคาร 1,760 ล้านบาท เริ่มค้างชำระหนี้ เริ่มค้างชำระหนี้กับธนาคาร 1 เดือน พร้อมกับร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  นอกจากนี้บริษัท เพรซิเดนท์ฯยังเป็นหนี้กับธนาคารอื่นๆ รวม 9 ธนาคารเป็นเงิน 12,000 ล้านบาท

              ขณะเดียวกันนายพิสุทธิ์ ชลากรกุล  ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ออกมาระบุว่า ขณะนี้มีปริมาณข้าวที่บริษัท เพรซิเดนท์ฯ ประมูลได้และยังไม่มารับมอบ รวมทั้งสิ้นประมาณ 7 แสนตัน สัญญาล๊อตสุดท้ายจะครบกำหนดวันที่ 17 สิงหาคม ศกนี้  โดยข้าวจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นข้าวที่เพรซิเดนท์ฯปฏิเสธการรับมอบ โดยอ้างข้าวเสื่อมคุณภาพ และอีกส่วนหนึ่งขอเลื่อนการรับมอบ กระทั่งวันสุดท้ายที่เลื่อนรับมอบจะครบกำหนด 17 สิงหาคมนี้

              นายพิสุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ อคส. ยังไม่ได้เชิญผู้บริหารบริษัทเพรซิเดนท์ฯ มาหารือถึงปัญหาสัญญาซื้อขายข้าวระหว่างอคส.กับบริษัทเพรซิเดนท์ฯ เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาสัญญาแต่ละสัญญาหลังจากเรียบร้อยแล้วจะเชิญมาหารือร่วมกัน

              " สัญญาค้าข้าวเป็นเรื่องของธุรกิจ ต้องดูปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องของการค้า อาจจะเป็นเพราะว่ามีการประมูลซื้อไปจำนวนมากๆ แล้วหาตลาดไม่ทัน เมื่อหาตลาดรองรับไม่ทันจึงเกิดปัญหาสภาพคล่องตามมา อย่างไรก็ดีขณะนี้ทางเพรซิเดนท์ฯยังมารับมอบข้าวสัญญาเล็กๆล๊อตละ 2-3 ล้านบาท โดยชำระเป็นแคชเชียร์เช็ค ไม่ได้เงียบหายไปในฐานะคู่สัญญาแต่อย่างใด แต่ยังไม่ถึงขั้นการเจรจาระดับผู้บริหารเพราะ อคส.อยู่ระหว่างตรวจสอบสัญญาอยู่ "

                ผู้สื่อข่าว " ฐานเศรษฐกิจ" รายงานว่า สำหรับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ประธานกลุ่มบริษัท เพรซิเดนท์ฯ ขณะนี้ยังคงอยู่ในประเทศไทยไม่ได้หลบหน้าหนีหายไปไหน เมื่อวันอังคารที่ 31 กรกฎาคม นายอภิชาติยังคงเดินทางมาทำงาน ณ สำนักงานใหญ่แหห่งใหม่ของกลุ่ม  เพรซิเดนท์กรุ๊ป ซึ่งเป็นอาคาร 9 ชั้น ภายในปรีชาคอมเพล็ก ย่านสี่แยกสุทธิสาร ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งอาคารแห่งนี้กลุ่มเพรซิเดนท์ฯได้ใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท เพื่อซื้อไว้เป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มเพรซิเดนท์ฯ ทั้งหมดเมื่อปี 2547 ปีเดียวกับที่บริษัทเพรซิเดนท์ฯประมูลซื้อข้าวจากรัฐบาลเป็นจำนวนมากถึง  2.3 ล้านตัน

                  โดยกลุ่มบริษัท เพรซิเดนท์ฯ ได้ย้ายจากสำนักงานเดิมซึ่งเป็นตึกแถว 2 คูหา 2 ชั้น ในซอยสุทธิพร 2 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดน เขตดินแดง มาอยู่สำนักงานแห่งใหม่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2548

                  อย่างไรก็ดี ท่ามกลางข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกับบริษัท เพรซิเดนท์ฯ นายอภิชาติ ยังคงเก็บตัวเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อใดๆ  เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้มอบหมายให้เลขานุการส่วนตัวชี้แจงกับผู้สื่อข่าว ฐานเศรษฐกิจว่าติดประชุมยังไม่สะดวกที่จะให้รายละเอียดใดๆหากพร้อมจะชี้แจง ฐานเศรษฐกิจฉบับแรก

                   " คงเห็นแล้วนะค่ะว่าท่านยังคงอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ต่างประเทศแต่วันนี้ท่านยังไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์ " เลขานายอภิชาติ กล่าว

                   แหล่งข่าวในวงการโรงสีข้าว กล่าวว่า ปัญหาภาระหนี้ของบริษัท เพรซิเดนท์ฯ ซึ่งทำธุรกิจข้าวครบวงจร  ตั้งแต่โรงสีข้าวจนถึงการส่งออก และค้างชำระหนี้กับธนาคาร คงจะกล่าวโทษบริษัท เพรซิเดนท์ เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้เพราะที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีว่า ธุรกิจโรงสีข้าวมีการแข่งขันกันสูงมาก โอกาสกำไรน้อย ธนาคารควรจะมีการวิเคราะห์ให้รอบครอบก่อนทำการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจโรงสีต่างถูกธนาคารขนาดใหญ่คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ หริอปล่อยให้แล้วติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด จนลูกหนี้เองขาดความคล่องตัว ในที่สุดรีไฟแนนซ์ไปยังแบงก์อื่น  ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า เจ้าหนี้ของโรงสีส่วนใหญ่จะเป็นแบงก์ขนาดเล็ก ส่วนแบงก์ใหญ่แทบจะไม่มีลูกหนี้เป็นกลุ่มโรงสีกันแล้ว..
 
 http://pcoc.moc.go.th/pcocsys/template01/view_news.aspx?data_id=408&control_id=9&pv=39&view=1
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #13 เมื่อ: 23-08-2007, 13:58 »

  "ประชาชาติธุรกิจ" ได้นำเสนอข่าวความมหัศจรรย์ของบริษัทค้าข้าวที่ชื่อบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด มาอย่างต่อเนื่อง  ทั้งในแง่มุมของบริษัทค้าข้าวที่ก้าวขึ้นมาสู่หมายเลข 1 ในวงการส่งออกข้าวอย่างรวดเร็วในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เฉพาะปีนี้บริษัทเพรซิเดนท์ อะกริฯได้ส่งออกข้าวไปแล้วถึง 1.2 ล้านตัน ท่ามกลางความเคลือบแคลงของเพื่อนร่วมวงการค้าข้าว "สงสัย" ว่า เพรซิเดนท์ อะกริฯสามารถทำได้จริงๆ หรือจากกรณีอื้อฉาว "ข้าวลม" ที่กำลังเกิดขึ้นกับบริษัทอยู่ในปัจจุบัน


ปลงได้ก็ดี คุณ"ท้าวฯ"............
ดีใจที่ไม่โกรธ กล่าวร้าย คณะ คมช. และ  รัฐบาลนี้ ที่ทำให้บริษัทส่งออกข้าวหมายเลขหนึ่งในยุคทักษิณ  เจ๊ง......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




มันเป็นเรื่องปรกติที่สมัยทักษิณที่คนไทยจะได้ยินแต่เรื่องเป็นมงคล เพราะคนไทยส่วนใหญ่ต่างได้รับอานิสงค์จากการบริหารประเทศที่ดีเยี่ยมของคุณทักษิณ แต่พอยุคสมัยนี้...ธุรกิจเจ๊งกันระนาว ข่าวอัปมงคลเกิดขึ้นบานราวเห็ดหน้าฝน มันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้มิใช่หรือ?

ยุคนี้สมัยนี้เก่งแต่เรื่องเดียวจริงๆ คือ การทำลายล้างนโยบาย/โครงการดีๆที่รัฐบาลทักษิณทำไว้...ปลื้มไหมท่านปุ!?!
บันทึกการเข้า
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #14 เมื่อ: 23-08-2007, 14:17 »

เจอบทความดีๆมาฝากท้าวนะ

ศักยภาพการแข่งขันของไทย พ.ศ.2550 [22 ส.ค. 50 - 21:37]
 
นิติภูมิ เขียนคอลัมน์ของวันนี้ที่สำนักงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ ผมเดินทางมาจังหวัดชัยภูมิครั้งนี้พร้อมรายงานประจำปี 2550 ของการลำดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศต่างๆ ที่จัดทำโดยสถาบัน International Management Development หรือ IMD ซึ่ง ดร.รุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์ กรุณาส่งให้ผมก่อนที่จะเดินทาง

สถาบัน IMD นำประเทศทั้งหมด 61 แห่ง มาศึกษาอย่างละเอียด ผลการศึกษาวิเคราะห์ พ.ศ.2550 ไทยเรามีศักยภาพในการแข่งขันอยู่ ลำดับที่ 33 แย่กว่าปีที่แล้ว พ.ศ.2549 เรายังอยู่ในลำดับที่ 29 และ พ.ศ. 2548 เราอยู่ลำดับที่ 25

IMD วิเคราะห์ประเทศต่างๆ จาก 4 ปัจจัยครับ อย่างแรกคือ ปัจจัย ด้านเศรษฐกิจของประเทศ อย่างที่สอง ก็ประสิทธิภาพการทำงานในภาครัฐของประเทศ อย่างที่สาม ก็ประสิทธิภาพในภาคธุรกิจของประเทศ และปัจจัยที่สี่ เป็นโครงสร้างในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

อย่างหนึ่งซึ่งผมเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของ ดร.รุ่งเรือง ก็คือ ตัวเลขการส่งออกของไทยนั้น ไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง ซึ่งในส่วนของศักยภาพในการส่งออก ทาง IMD ได้ยกให้ไทยอยู่ในระดับที่ 13 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ดีพอสมควร

สินค้าส่งออกของไทยในแต่ละปีนั้น มีโครงสร้างที่เป็นสัดส่วนของสินค้าเกษตรร้อยละ 14 ภาคบริการร้อยละ 16 และสินค้าอุตสาหกรรมร้อยละ 70

ตัวเลขการส่งออกของไทยปีหนึ่งหลายล้านล้านบาท มีหลายหน่วยงานออกมาประกาศหน้าชื่นตาบานว่าเราประสบความสำเร็จ นิติภูมิ ขอเรียนข้อเท็จจริงนะครับ ว่าสินค้าอุตสาหกรรมร้อยละ 70 นั้น หาใช่ สินค้าของคนไทยทั้งหมดไม่

ทว่าสินค้าร้อยละ 60 ของสินค้าอุตสาหกรรมที่ไทยส่งออก เป็นสินค้าอุตสาหกรรมของบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

เอาแค่สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกมารับใช้กันเพียงอย่างเดียว อย่างรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้านี่ ไอ้เปี๊ยกลูกเจ้อ้อยก้นซอยมันยัง รู้เลยครับ ว่าไม่ใช่ของคนไทย ให้ผลิตซักปีละล้านคัน คนไทยก็ไม่ได้อะไรมาก ได้แต่ค่าแรงงานประมาณร้อยละ 3-5 ขายรถยนต์ ได้คันละ 1 ล้านบาท คนไทยได้ค่าแรงงานเพียง 3-5 หมื่นบาท บีโอไอ ก็ส่งเสริมการลงทุนซะจนเราแทบจะเก็บภาษีอะไรไม่ได้ เครื่องจักรที่เอามาใช้ในการผลิตก็ยกเว้นภาษีแทบทั้งนั้น

ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ของต่างชาติที่ผลิตในไทย) ไปขาย เมืองนอก ไทยได้แค่ตัวเลขกับค่าแรงงานเล็กน้อยที่เอามาใช้หมุนเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนเงินกำไรก้อนใหญ่ถูกส่งกลับไปทะนุบำรุงประเทศแม่ที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฯลฯ

บริษัทโตโยต่วยของญี่ปุ่นผลิตเกวียนในประเทศไทยขายได้ปีละ 1 แสนเล่ม เล่มละ 1 ล้านบาท ได้เงินมา 1 แสนล้านบาท รัฐบาลไทยก็รีบโพนทะนาสาธยายบอกกับประชาชนคนทั่วประเทศว่า อ้า ท่านเห็นไหม เห็นฝีมือของพวกผมแล้วอ๊ะยัง ผมทำให้เงินเข้าประเทศได้ 1 แสนล้าน บาท จากการส่งออกเกวียนไปขายนอกประเทศ

สำนักงานของบริษัทโตโยต่วยในต่างประเทศไม่ได้ส่งเงิน 1 แสนล้านกลับมาให้บริษัทโตโยต่วยในประเทศไทยเลย เป็นแค่ตัวเลขอ้างอิงการส่งออกไปและมาข้ามบัญชีระหว่างบริษัท Transferred Price เพื่อเอามาหักค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการผลิตในไทย ไอ้นี่เป็นการลงตัวเลขทางบัญชีของบริษัทข้ามชาติไปมา เพื่อหักกลบลบหนี้เท่านั้นไม่มีส่วนกระตุ้นหรือช่วยหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจของไทย ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ


จาก 61 ประเทศ ระบบเศรษฐกิจและการค้าในประเทศของไทยปีนี้ จึงอยู่ในลำดับที่ 47 ส่วนการลงทุนจากต่างประเทศ ตอนนี้เราบ๊วยไปอยู่ ลำดับที่ 45 เพราะนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและการเงินหันไปลงทุนในเวียดนามแทนกันมากขึ้น

ผู้อ่านท่านที่เคารพรู้สึกไหมครับ ว่าเราคนไทยจนลงทุกวัน มีทรัพย์สินน้อยลง มีเงินออมน้อยลง แต่หนี้สินมากขึ้น เมื่อผู้คนไม่มีรายได้ รัฐบาลจะเก็บภาษีมาจากไหน ที่พรรคการเมืองพูดจาว่าจะมีนโยบาย เรียนฟรี รักษาพยาบาลฟรี สร้างถนนหนทางและทำแม่น้ำลำคลองให้ สะอาดนั้น บริษัทไทยเจ๊งกันเกือบหมด จึงเก็บภาษีไม่ได้ เก็บภาษีไม่ได้ ก็ไม่มีเงิน ท่านจะทำไอ้อย่างที่ท่านโม้ไว้ได้ยังไง

บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
Limmy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,346


« ตอบ #15 เมื่อ: 23-08-2007, 14:44 »

มีเลศนัยแน่นอน

ราวกับว่าตั้งขึ้นมาประมูลข้าว ทำ Stock ลม แล้วล้มบริษัท พาเจ้าหนี้แบงค์เป็นลม ส่วนผู้บริหารล้มบนฟูก

งานนี้ต้องตามติดครับ
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #16 เมื่อ: 23-08-2007, 14:53 »

มีเลศนัยแน่นอน

ราวกับว่าตั้งขึ้นมาประมูลข้าว ทำ Stock ลม แล้วล้มบริษัท พาเจ้าหนี้แบงค์เป็นลม ส่วนผู้บริหารล้มบนฟูก

งานนี้ต้องตามติดครับ


เพื่อนเป็นพ่อค้าส่งข้าวออกใหญ่มีระดับ ยังโดนไปกว่า 600 ล้านบาท
ติดตามกลับมายังไม่ถึง 200 ล้านบาท ยังไม่รู้ว่าจะลงเอ่ยเท่าใด.....



ปล. ลูกหนี้สมัยนี้ ไม่หนี ไม่(ยอมรับ)โกง แต่ไม่จ่าย แถมทวงบุญคุณด้วย....
      คงติด"นิสัย"อดีตผู้นำฯ "โกงแต่ทำงาน"........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #17 เมื่อ: 23-08-2007, 14:57 »


มันเป็นเรื่องปรกติที่สมัยทักษิณที่คนไทยจะได้ยินแต่เรื่องเป็นมงคล เพราะคนไทยส่วนใหญ่ต่างได้รับอานิสงค์จากการบริหารประเทศที่ดีเยี่ยมของคุณทักษิณ แต่พอยุคสมัยนี้...ธุรกิจเจ๊งกันระนาว ข่าวอัปมงคลเกิดขึ้นบานราวเห็ดหน้าฝน มันสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารประเทศของรัฐบาลนี้มิใช่หรือ?

ยุคนี้สมัยนี้เก่งแต่เรื่องเดียวจริงๆ คือ การทำลายล้างนโยบาย/โครงการดีๆที่รัฐบาลทักษิณทำไว้...ปลื้มไหมท่านปุ!?!



ผู้ใช้นามแฝง"ท้าวฯ" รำลึกถึงยุคสมัย"โกงแต่ทำงาน"
ร่วมกันโกง ร่วมกันทำงาน หมดยุค หมดโอกาส........
ทำงานอย่างสุจริตชนไม่ได้ ก็ต้องปิดบริษัทโกงมันเสียเลย.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #18 เมื่อ: 23-08-2007, 15:24 »


ผู้ใช้นามแฝง"ท้าวฯ" รำลึกถึงยุคสมัย"โกงแต่ทำงาน"
ร่วมกันโกง ร่วมกันทำงาน หมดยุค หมดโอกาส........
ทำงานอย่างสุจริตชนไม่ได้ ก็ต้องปิดบริษัทโกงมันเสียเลย.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




เอาอีกแว้วววว....พอจับผิดทางกฎหมายไม่ได้ก็โยนบาปว่าคนนั้นคนนี้โกงแต่ไม่มีหลักฐานใดๆ สงสัยประเทศไทยเราชอบการกล่าวหาคนอื่นลอยๆว่าคนนั้นคนนี้เป็นปอบก็เลยเชื่อทั้งหมู่บ้าน ไม่สงสารประเทศไทยบ้างหรือท่านที่ตอนนี้ย่อยยับขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกนิสัยเดิมๆ!?!
บันทึกการเข้า
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #19 เมื่อ: 23-08-2007, 22:04 »


เอาอีกแว้วววว....พอจับผิดทางกฎหมายไม่ได้ก็โยนบาปว่าคนนั้นคนนี้โกงแต่ไม่มีหลักฐานใดๆ สงสัยประเทศไทยเราชอบการกล่าวหาคนอื่นลอยๆว่าคนนั้นคนนี้เป็นปอบก็เลยเชื่อทั้งหมู่บ้าน ไม่สงสารประเทศไทยบ้างหรือท่านที่ตอนนี้ย่อยยับขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกนิสัยเดิมๆ!?!

โกงหลักฐานมีไหม ไม่รู้ แต่บวชฤาษี หลกฐานยังไม่มีนะ ไอเท้าหมา ชาติสุนัข ข้าร้องขอหลักฐานเอ้งมานานแล้ว เอามหาน่อยดิวะ ไอคนไร้สัจจะ

สงสัย คำว่าหลักฐานของเอ็งอะ เอากลับไปนอนกอดเหอะ เพราะเอ็งมันก็ทำอะไรไม่เคยแสดงหลักดฐาน พูดปากเปล่ามาตลอด ไอชาติหมา
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #20 เมื่อ: 23-08-2007, 23:41 »


เอาอีกแว้วววว....พอจับผิดทางกฎหมายไม่ได้ก็โยนบาปว่าคนนั้นคนนี้โกงแต่ไม่มีหลักฐานใดๆ สงสัยประเทศไทยเราชอบการกล่าวหาคนอื่นลอยๆว่าคนนั้นคนนี้เป็นปอบก็เลยเชื่อทั้งหมู่บ้าน ไม่สงสารประเทศไทยบ้างหรือท่านที่ตอนนี้ย่อยยับขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกนิสัยเดิมๆ!?!



บริวารสองผัวเมีย จำเลยคดีทุจริตต่าง ๆ เช่น ที่ดินรัชดา ซีทีเอกซ์ ภาษีหุ้นฯ ฯลฯ
ตราบใดที่ยังได้รับผลประโยขน์ ขอให้ญาติพี่น้องตายต่อหน้า ก็ไม่เชื่อว่าคนที่ยอมรับว่า"โกงแต่ทำงาน" และ "บกพร่องโดยสุจริต" จะประพฤติ จะฉ้อราษฎร์บังหลวง
ถึงแม้ว่าจะเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว ก็คิดว่าฝันไปเท่านั้น................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #21 เมื่อ: 23-08-2007, 23:47 »

ความเลวทรามของบริวารสองจำเลยผัวเมียคือ....
คนอื่นแค่เป็นข่าว ก็ปักใจเชื่อแล้วว่า ทุจริตจริง เลวจริง......

ส่วน"นายผู้ชาย" "นายผู้หญิง"  "คุณชาย" และ "คุณหนู" ถูกออก"หมายจับ" จากศาลยุติธรรม
ก็"แถไถล"ว่า พอจับผิดทางกฎหมายไม่ได้ก็โยนบาปว่าคนนั้นคนนี้โกงแต่ไม่มีหลักฐานใดๆ
สงสัยประเทศไทยเราชอบการกล่าวหาคนอื่นลอยๆว่าคนนั้นคนนี้เป็นปอบก็เลยเชื่อ
.............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


คนพรรค์นี้ยัง"แถไถ"ไปได้อีกไม่กี่เดือนหรอก..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: