ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 08:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ชอบรับประทานขยะหรือนี่?!?!? 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ชอบรับประทานขยะหรือนี่?!?!?  (อ่าน 3923 ครั้ง)
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« เมื่อ: 22-08-2007, 23:39 »

เปิดสำนวน “ลับมาก” สตง. มัด “หมัก-บิ๊กกทม.” ทุจริตโรงานกำจัดขยะ พบพิรุธเพียบทั้งกดราคาขนขยะให้ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านจะได้ไม่ต้องเข้าข่ายกฎห มายร่วมทุน แถมเอื้อเอกชนหาช่องต่อสัญญา ส่อฮั้วประมูล พยานเผยซื้อซองประกวดราคาเจอข่มขู่ห้ามยื่นซองไม่งั้นเจอไข้โป้ง พบว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชนชงเอง-เซ็นเองทุกขั้นตอน 




รายงานข่าวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวนการทุจริตโครงการการจ้างเหมาเอกชนมูลฝอยไปทำลายโดยวิธีฝังกลบ ของกรุงเทพมหานคร ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สรุปผลสอบสวนว่า โครงการดังกล่าวมีการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสนอเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินคดีกับผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร 5 คนโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชนและอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วย
โดยล่าสุดกรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานผลการสอบสวนดังกล่าวของสตง.ที่ส่งไปยังกรุงเทพมหานครแล้ว ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ผลสอบสตง.ที่ตีตราประทับ “ลับมาก” หนาเกือบ 30 หน้า มีใจความสรุปว่า โครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยไปทำลายของกรุงเทพมหานคร จำนวน 3 โครงการมูลค่ารวมทั้งสิ้น 9,589 ล้านบาท แยกเป็น

1.โครงการกำจัดมูลฝอยที่โรงงานกำจัดมูลฝอยอ่อนนุช วงเงิน 3,546 ล้านบาท

2.โครงการกำจัดขยะมูลฝอยที่สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง 2,993 ล้านบาท

3.โครงการกำจัดมูลฝอยที่โรงงานกำจัดมูลฝอยที่หนองแขม วงเงิน 3,050 ล้านบาท

ซึ่งจะต้องทำตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 โดยเป็นโครงการที่ให้เอกชนเข้ามาลงทุนในการจัดหาที่ดิน สิ่งก่อสร้างและเครื่องจักรอุปกรณ์เพื่อกำจัดมูลฝอยด้วยทุนทรัพย์ของผู้รับจ้าง โดยมีการลงทุนในวงเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท กรุงเทพมหานครจึงต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535
               
ผลสอบสตง.ระบุว่า ภายหลังจากสตง.ได้เข้าตรวจสอบโครงการดังกล่าวโดยสอบพยานบุคคลและพยานเอกสารความเป็นมาของโครงการทั้งหมดโดยละเอียดพบว่า โครงการดังกล่าวเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2543 กทม.ได้ทำการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยและนำไปทำลายทั้งสามแห่งโดยมีการให้บริษัทเอกชนยื่นซองประกวดราคาและนายสมัคร สุนทรเวชได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาการประกวดราคาโดยมีนายอรรคเดช หอมเศรษฐี รองผอ.สำนักรักษาความสะอาดในเวลานั้นเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
               
ต่อมาผลการประกวดราคาเสร็จสิ้นลง กรุงเทพมหานครได้จ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ กำจัดขยะมูลฝอยที่โรงงานกำจัดขยะอ่อนนุช และจ้างบริษัท วัสดุพัณฑ์ จำกัด ได้งานกำจัดขยะที่สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง และจ้างบริษัทกลุ่ม 79 จำกัดขยะมูลฝอยที่โรงงานกำจัดมูลฝอยหนองแขม


ในช่วงของสัญญาดังกล่าว ห้างหุ้นส่วนจำกัดไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ที่ได้งานในโครงการกำจัดขยะที่อ่อนนุช ปรากฏว่าประชาชนได้ร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นก่อให้เกิดความรำคาญ ต่อมานายสมัครได้นำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมผู้บริหารกทม.เมื่อ 27 พ.ย.2544 และเสนอความคิดให้ใช้กรรมวิธีห่อด้วยวัสดุพลาสติกขยะ ตั้งแต่ 10 พ.ย.2546 แต่ต้องมีการแก้ไขสัญญาที่ทำไว้กับเอกชนเมื่อสัญญาดังกล่าวใกล้จะสิ้นสุดลง ซึ่งกทม.ก็เห็นชอบด้วยจึงได้อนุมัติงบประมาณเพื่อให้สำนักรักษาความสะอาดดำเนินการจ้างเหมาเอกชนต่อจากสัญญาเดิม โดยแยกงบประมาณเป็น 3 โครงการเช่นเดิม คือในปีงบประมาณ 2546 ในสวนของโรงานกำจัดมูลฝอยอ่อนนุช วงเงิน 3,546,000,000 บาท โครงการที่ท่าแร้งบางเขน วงเงิน 2,993,000,000  บาทและที่หนองแขม อันเป็นการจัดจ้างในปีงบประมาณ 2547 และกทม.ยังได้จ้างบริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ เมเนจเมนท์ เป็นที่ปรึกษาในการทำข้อกำหนดขอบเขตงานหรือทีโออาร์ และกระบวนการดังกล่าวก็ดำเนินไปจนกระทั่งบริษัททีม คอนซัลติ้ง เสนอเรื่องไปให้คณะกรรมการที่กรุงเทพมหานครแต่งตั้งขึ้น อันมีนายอรรคเดช หอมเศรษฐี เป็นประธานที่ส่งเรื่องไปตามขั้นตอนจนถึงนายสมัคร เมื่อ 3 ธ.ค. 2546 ซึ่งนายสมัครได้ลงนามเห็นชอบข้อกำหนดของโครงการและเห็นชอบให้ดำเนินการประกวดราคา และยังเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการรับและเปิดซองประกวดราคาและคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาพร้อมกันด้วย

แต่ปรากฏว่าในวันยื่นซองและเปิดซองข้อเสนอทางด้านเทคนิคในวันที่ 23 มี.ค. 2547 เมื่อถึงวันยื่นซองประกวดราคา แต่ละโครงการมีผู้ยื่นซองประกวดราคาเพียงรายเดียวทุกโครงการคือ จ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ กำจัดขยะมูลฝอยที่โรงงานกำจัดขยะอ่อนนุช และจ้างบริษัทวัสดุภัณฑ์จำกัดได้งานกำจัดขยะที่สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง และจ้างบริษัทกลุ่ม 79 จำกัดขยะมูลฝอยที่โรงงานกำจัดมูลฝอยหนองแขม


ต่อมาในขั้นตอนการพิจารณาผลการประกวดราคา เมื่อมีการพิจารณาด้านเทคนิคพบว่า ผู้เสนอราคาผ่านเกณฑ์ที่กำหนดในทีโออาร์ แต่เมื่อเปิดซองพบว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์เสนอราคาค่าจ้างเหมารวม ราคา 515 บาทต่อตัน บริษัทวัสดุภัณฑ์เสนอราคา 438 บาทต่อตันและบริษัทกลุ่ม 79 เสนอราคา 418 บาทต่อตัน คณะกรรมการได้ทำการต่อรองราคา ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ได้ลดเหลือ 513 บาทต่อตัน บริษัทวัสดุภัณฑ์ธุรกิจได้ลดราคาเหลือ 436 บาทต่อตัน แต่กลุ่ม 79 ยังยืนยันราคาเดิม คณะกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาจึงมีบันทึกลงวันที่ 12 พ.ค.2547ขอให้กองโรงงานกำจัดมูลฝอย ประมาณราคาค่าจ้างเหมาให้เป็นราคาปัจจุบัน โดยยึดถือตามขอบเขตของทีโออาร์
               
ผลสอบระบุอีกว่า ต่อมากทม.ได้แจ้งผลประมาณการราคาค่าจ้างเหมาใหม่ ปรากฏว่ากรณีที่มีการอัดและห่อด้วยพลาสติกที่นายสมัครเป็นผู้เสนอให้ใช้วิธีนี้ ราคาอยู่ที่ 527 ต่อตัน และแบบไม่มีการอัดและห่อพลาสติกราคา 438 บาทต่อตัน กรรมการพิจารณาประกวดราคาจึงได้ต่อรองราคาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ ได้ลดราคาเหลือ 512 บาทต่อตัน บริษัทวัสดุภัณฑ์ธุรกิจลดราคาเหลือ 435 บาทต่อตัน แต่กลุ่ม 79 ยังใช้ราคาเดิม และ

คณะกรรมการเห็นว่าราคาที่ผู้ประกวดราคาทั้งสามรายเหมาะสม แม้มีผู้เสนอราคาแต่ละโครงการเป็นรายเดียว จึงได้เสนอเรื่องให้นายสมัครอนุมัติให้จ้างผู้เสนอราคาทั้งสามราย เมื่อ 29 มิ.ย. 2547 ตามมูลค่าโครงการดังนี้โรงงานกำจัดมูลฝอยอ่อนนุช วงเงิน 3,546 ล้านบาท โครงการกำจัดขยะมูลฝอยที่สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง 2,993 ล้านบาท และโครงการกำจัดมูลฝอยที่โรงงานกำจัดมูลฝอยที่หนองแขม วงเงิน 3,050 ล้านบาท
บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« ตอบ #1 เมื่อ: 22-08-2007, 23:42 »

“การอนุมัติให้จ้างผู้เสนอราคาทั้งสามรายดังกล่าว จะทำให้ปริมาณมูลฝอยที่ขนไปทำลายตามสัญญา ต่ำกว่าปริมาณมูลฝอยที่กำหนดตั้งไว้ตามงบประมาณ คิดเป็น 1,180,713 ตัน คิดเป็นเงิน 558,888,614 บาท”ผลสอบของสตง.ระบุในตอนหนึ่ง
               
นอกจากนี้สตง.ยังชี้พิรุธของโครงการนี้ว่า ในการให้ปากคำของอดีตผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาดที่อยู่ในตำแหน่งช่วงปี 2543-2545 ให้การว่าสมัยนายพิจิตร รัตตกุล เป็นผู้ว่าฯกทม.ได้มีการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยโดยให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งสามสถานีขนถ่ายในปีงบประมาณ 2540 ซึ่งตอนนั้น กทม.ได้ประกวดราคาหาผู้รับจ้างได้แล้ว แต่ในช่วงพิจารณามีข้อสงสัยว่าโครงการดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขจะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมทุนพ.ศ.2535 หรือไม่ กทม.จึงได้หารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งได้ผลสรุปว่าโครงการนี้เข้าข่ายต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ดังกล่าว โครงการนี้จึงต้องยกเลิกไป
ผลการสอบสวนของสตง.ได้สรุปลักษณะความผิดของโครงการและผู้เกี่ยวข้องโดยละเอียดว่า การจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยทั้งสามโครงการกทม.ต้องทำตามพ.ร.บ.สาธารณสุขพ.ศ.2535 แม้ว่ากทม.จะดำเนินการประกวดราคาจ้างเหมา โดยจะจ่ายค่าจ้างกำจัดมูลฝอยให้ตามจำนวนมูลฝอยที่ผู้รับจ้างขนไปทำลายเป็นราคา “บาทต่อตัน” แต่การพิจารณาข้อกำหนดขอบเขตงานพบว่า ก่อนที่ผู้รับจ้างจะทำการขนมูลฝอยได้ จะต้องปรับปรุงอาคาร ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ จัดหารถบรรทุกมูลฝอยที่เหมาะสมและเตรียมเครื่องจักกลหนัก โดยเฉพาะที่อ่อนนุช ซึ่งผู้รับจ้างต้องติดตั้งระบบคัดแยกมูลฝอย เครื่องอัดและห่อหุ้มมูลฝอยด้วยพลาสติก ดังนั้นการดำเนินการโครงการดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นการให้เอกชนเข้ามาเป็นผู้ลงทุนในการจัดหาที่ดิน สิ่งก่อสร้าง เครื่องจักรอุปกรณ์
               
ผลตรวจสอบข้อเท็จจริงของสตง.ระบุด้วยว่า

ในการสอบสวนพบว่าโรงกำจัดขยะที่อ่อนนุช เอกชนต้องลงทุนในวงเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อสตง.คำนวณเงินลงทุนทั้งหมดพบว่าเอกชนต้องใช้เงินประมาณ 1,308,789,875 บาท ส่วนที่ท่าแร้ง พบว่า ต้องใช้เงินลงทุน 1,880,073,122 บาท และที่หนองแขม ใช้เงินลงทุน 1,890,834,868 บาท อีกทั้งกทม.ได้กำหนดเงื่อนไขไว้ในเอกสารประกวดราคาว่ากทม.สงวนสิทธิที่จะไม่รับพิจารณาข้อเสนอที่มีวงเงินลงทุนเกิน 1 พันล้านบาท ดังนั้นการอนุมัติให้ดำเนินการประกวดราคาจึงมีเจตนาหลีกเลี่ยงการปฏิบัตินามนัยของพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานพ.ศ.2535 เพื่อให้กทม.มีอำนาจในการอนุมัติเพียงหน่วยงานเดียวจะได้ไม่ต้องเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ


“การกระทำดังกล่าวมีผู้เกี่ยวข้องคือนายอดิศักดิ์ วิศวไพศาล ตำแหน่งผอ.กองโรงงานกำจัดมูลฝอย, นายอรรคเดช หอมเศรษฐี รองผอ.สำนักงานรักษาความสะอาด, นายไชยยุทธ ณ นคร ตำแหน่งรองปลัดกรุงเทพมหานคร, นางผ่องลักษณ์ วาสิกศิริ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าฯกทม. พฤติการณ์ดังกล่าวน่าเชื่อว่าเป็นการทุจริตหรือใช้อำนาหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินหรือทรัพย์สินของราชการ เห็นควรดำเนินคดีตามกฎหมายและทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว นอกจากนี้ยังเห็นควรให้ดำเนินการทางวินัยกับคณะกรรมการพิจารณาประกวดราคาโครงการที่ทำผิดพลาดในเรื่องการประมาณการราคาที่เอกชนเสนอมากับการคิดราคาตามที่ระบุไว้ในทีโออาร์โดยไม่มีการยกเลิกการประกวดราคา อันเป็นการทำผิดตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการพัสดุ พ.ศ.2538 และในการยื่นซองประกวดราคา ผู้ที่ซื้อเอกสารประกวดราคาไม่ได้มายื่นซองราคาแข่งขันราคากัน มีเพียงผู้จ้างที่เป็นคู่สัญญากับกทม.รายเดิมที่มายื่นซองเสนอราคา และได้เสนอราคาเฉพาะโครงการเดิมที่บริษัททำงานตามสัญญาอยู่โดยเฉพาะโครงการที่อ่อนนุช ที่นำวิธีการห่อขยะด้วยพลาสติกมาใช้ตามแนวทางของสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าฯกทม.ในสมัยนั้น และมีความพยายามจะต่ออายุสัญญาให้ผู้รับจ้างที่จะมีจุดคุ้มทุนคือต้องได้โครงการไม่น้อยกว่า 10 ปี ทั้งที่กทม.ไม่สามารถดำเนินการได้ จนกระทั่งได้มีการประกวดราคาใหม่ จนกระทั่งได้มีการประกวดราคาใหม่ มูลเหตุดังกล่าว จึงเป็นเหตุจูงใจให้มีการกระทำเพื่อให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ได้งานต่อไป”ผลสอบของสตง.ระบุ


ในตอนท้ายผลการสอบสวนยังได้สรุปความผิดของคณะกรรมการประกวดราคาด้วยว่า ในการสอบสวนยังพบว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด กองมณีก่อสร้าง ซึ่งไม่ได้ยื่นซองประกวดราคาได้มีหนังสือแจ้งว่าภายหลังการซื้อซองประกวดราคา ได้มีโทรศัพท์ข่มขู่ว่า หากเข้ายื่นซองประกวดราคา จะได้รับความเดือดร้อนและอันตราย เพราะงานนี้มีการจองไว้ก่อนโดยมีผู้ใหญ่รับรู้ และในวันยื่นซองยังมีชายฉกรรจ์หลายคนมาเฝ้ามองการขนเอกสารที่ขนออกมาจากรถยนต์ด้วย พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2542 จึงเห็นควรดำเนินคดีกับคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาที่มีกรรมการประกอบด้วย นาย อรรคเดช หอมเศรษฐี รองผอ.สำนักงานรักษาความสะอาดเป็นประธาน อีกทั้งหลังการทำสัญญาทั้งสามโครงการแล้วยังพบว่ามีการขยายเวลาสัญญาให้ผู้รับจ้างออกไปหลังไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาทำให้กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายเป็นเงิน 21,276,000 บาท จึงเห็นควรให้ดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ของกทม.ที่รับผิดชอบโครงการว่ามีความผิดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539

บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
หน้าเหลี่ยมด้าน ณ ประชาไท
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219


กูขอสู้พวกมึง ถึงเวลา กูจะออกไป แน่นอนขอให้เรียก


« ตอบ #2 เมื่อ: 22-08-2007, 23:48 »

 


ขยะมันยังรับประทาน เห้อ เลวได้ใจจริงๆๆ  ทีมงานมัน
บันทึกการเข้า

ผมไม่ใช่แฟน ประชาธิปัตย์ 
ไม่ใช่แฟน พลังประชาชน

แต่


สนับสนุน การกวาดล้างไอ้พวก นักการเมือง ชั่วๆ แบบเดิม

ไอ้เสนาะ ไอ้เตี้ยหมาตื่น ไอ้หนั่น ไอ้พวก***นี้ไม่ต้องไปเรียก ป๋านำหน้าหรอก



RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« ตอบ #3 เมื่อ: 23-08-2007, 00:22 »

ก็ลูกพี่มันหน้าเหลี่ยมยัง กินได้แม้แต่อุจจาระห้องส้วมในสุวรรณภูมิเลยนี่ครับ แค่ขยะ น้าหมักก็ชอบน่ะซี่ .

บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #4 เมื่อ: 23-08-2007, 00:23 »

 

จงมองให้ลึกซึ้ง

ในขยะ ก็มีซี่โครงไก่

 
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
varada
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,193



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 23-08-2007, 09:56 »

ใอ้พวกที่โกงกินนี่ มันน่าจับกรอกให้กินสิ่งที่มันโกงนะ
โกงหินจับหินกรอกปาก โกงดินจับดินกรอกปาก
โกงทรายจับทรายกรอกปาก โกงขยะก็เอาขยะนั่นแหล่ะกรอกปาก

เออมิน่าทำใมปากมันถึงได้เน่า มันชอบกินของเน่าๆนี่เอง
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 23-08-2007, 10:04 »

ใอ้พวกที่โกงกินนี่ มันน่าจับกรอกให้กินสิ่งที่มันโกงนะ
โกงหินจับหินกรอกปาก โกงดินจับดินกรอกปาก
โกงทรายจับทรายกรอกปาก โกงขยะก็เอาขยะนั่นแหล่ะกรอกปาก

เออมิน่าทำใมปากมันถึงได้เน่า มันชอบกินของเน่าๆนี่เอง


ดุจัง..........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
monty
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 161


« ตอบ #7 เมื่อ: 23-08-2007, 10:05 »

ดูๆแล้วจากหลายกรณีที่เป็นข่าว  คิดว่าป๋าหมากน่าจะมีเงินซุกไว้เยอะแหง๋ม

ขอให้อย่าได้มีโอกาสใช้อย่างสบายๆด้วยเถิด...
บันทึกการเข้า
ท้าวอภิมหาอัครเทพอลังการ
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258



« ตอบ #8 เมื่อ: 23-08-2007, 10:10 »

ท่านท้าวสงสัยมานานแล้วว่า


ทำไมคุณสมัครถึงต้อง ชิมไป บ่นไป


ที่แท้ก็กินแต่ขยะนี่เองจึง ชิมไป บ่นไป
บันทึกการเข้า
NA-KORN
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 221


« ตอบ #9 เมื่อ: 23-08-2007, 13:03 »

แม้แต่ขยะ คุณชมพู่ท่านย้งDAK-HA หากได้เป็นนายกแล้วประเทศไทยจะเหลืออะไร...หนาวจัง...พลังประชาชน
บันทึกการเข้า
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 23-08-2007, 13:11 »

ถ้าสมัครไม่อาสามาเป็นหัวหน้าพรรค คดีพวกนี้อาจจะยังไม่ถูกขุดขึ้นมาก็ได้

ถือว่าซวยไปละกันนะ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« ตอบ #11 เมื่อ: 23-08-2007, 13:22 »

อืมม์ น่าจะจริง ก็ดูสิ่งพ่นจากปากไอ้ชมพู่สิ แต่ละอย่างๆมีแต่ความ*****จัnไรทั้งนั้น ที่แท้กินขยะเป้นอาหารนี่เอง ปริศนากระจ่างแล้ว

จมูกหนา ไปตายซะ


บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #12 เมื่อ: 23-08-2007, 13:29 »

มาตรฐานปชต.แบบไทยๆก็คือ หล่อเล็กเปิดL/Cซื้อรถดับเพลิงแต่ลอยนวลไม่ผิดสักนิดเดียว แต่ถ้าใครก็ตามที่เคยทำงานหรือกำลังทำงานกับคุณทักษิณ...ผิดเต็มๆ ถ้าไม่ผิดก็ต้องเอาให้ผิดให้ได้


ศารเลวได้ใจจริงๆ!!
บันทึกการเข้า
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #13 เมื่อ: 23-08-2007, 13:35 »

มาตรฐานปชต.แบบไทยๆก็คือ หล่อเล็กเปิดL/Cซื้อรถดับเพลิงแต่ลอยนวลไม่ผิดสักนิดเดียว แต่ถ้าใครก็ตามที่เคยทำงานหรือกำลังทำงานกับคุณทักษิณ...ผิดเต็มๆ ถ้าไม่ผิดก็ต้องเอาให้ผิดให้ได้


ศารเลวได้ใจจริงๆ!!


ผลพวงจากการเซ็นซื้อรถดับเพลิงทิ้งทวนของหมัก

กทม.แจงการจัดซื้อรถดับเพลิง ยืนยันทำตามข้อตกลงในสัญญาทุกประการ
                  (1 ก.พ.49) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร จากประเทศออสเตรีย มูลค่า 6,700 ล้านบาทว่า การอนุมัติโครงการดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เป็นโครงการการค้าต่างตอบแทน หรือ เคาท์เตอร์เทรด โดยมีการลงนาม AOU (Agreement of Understanding) รวมทั้งมีการลงนามในสัญญาจัดซื้อระหว่างนายสมัคร สุนทรเวช ผู้เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์พุค จำกัด เมื่อวันที่ 27 ส.ค.47 โดยเหลือขั้นตอนการเปิดหนังสือ Letter of Credit (L/C) เท่านั้น ดังนั้นเมื่อคณะผู้บริหารชุดปัจจุบันเข้ามาดำรงตำแหน่ง จึงต้องใช้เวลาในการศึกษารายละเอียดของโครงการเพื่อความรอบคอบก่อนเปิด L/C ซึ่งจากการตรวจสอบในข้อสัญญาแล้วพบว่า กทม.จะเป็นผู้เสียผลประโยชน์ ประกอบกับเรื่องดังกล่าวได้มีการร้องเรียนไปยัง ปปช.ว่า ควรมีการตรวจสอบเรื่องราคาที่เห็นว่าแพงเกินไปหรือไม่ ซึ่งตนได้ทำหนังสือไปถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอให้ทบทวนและพิจารณาเรื่องดังกล่าวใหม่ แต่ได้รับการยืนยันจากนายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นว่า ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระดับประเทศ
อภิรักษ์ยันทำตามขั้นตอนสัญญาทุกประการ
                  ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.ยืนยันทำตามขั้นตอนของสัญญาทุกประการซึ่งรัฐบาลได้กระทำกับรัฐบาลออสเตรีย โดยกทม. มีหน้าที่เพียงเซ็นสัญญาและเปิด L/C มิเช่นนั้นอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารชุดปัจจุบัน มีความพยายามที่จะทบทวนสัญญาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถกระทำได้ ทำได้เพียงการเจรจาเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์เท่านั้น แม้จะได้เสนอกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ทบทวนโครงการดังกล่าวหลายครั้ง จนกระทั่งเจรจาได้เพียงเพิ่มสิทธิประโยชน์ และจำเป็นต้องเปิด L/C ตามสัญญา ซึ่งได้กระทำไปเมื่อวันที่ 10 ม.ค.48

                  สำหรับการเจรจาเพิ่มสิทธิประโยชน์นั้น ได้ข้อยุติ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.48 คือ 1.เพิ่มการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ภายในประเทศ จากเดิม 100 คน เป็น 750 คนจากจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 1,500 คน 2.เพิ่มการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดับหัวหน้าสถานี ที่ประเทศออสเตรเลีย จากเดิม 30 คน เป็น 50 คน 3.เพิ่มระยะเวลารับความเสียหายหรือชำรุดบกพร่องของสินค้าและการชำรุดเสียหายจากเดิม 1 ปี เป็น 3 ปี และ 4.เพิ่มวงเงินอะไหล่ที่บริษัทจัดให้โดยไม่คิดมูลค่าจากเดิม 300,000 ยูโร เป็น 1ล้านยูโร

พาดพิงผู้ว่าฯ เซ็นหนังสือก่อนปลัดกทม.
                  ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ กล่าวถึงข้อเท็จจริงกรณีการพาดพิงการเซ็นหนังสือก่อนปลัดกรุงเทพมหานคร ว่า คณะกรรมการซึ่งมีรองผู้ว่าฯ สามารถ ราชพลสิทธิ์ เป็นประธาน ได้มีข้อสรุปและเสนอว่า เห็นควรรับข้อเสนอตามผลการเจรจาดังกล่าวตามรายละเอียดที่ได้รายงานไว้ข้างต้นในการประชุมเมื่อ 7 ม.ค.48 จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาหากเห็นชอบให้รับข้อเสนอ และโปรดลงนามหนังสือ มอบอำนาจและมอบให้ปลัดกทม.แจ้งให้ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปดำเนินการออก L/C ให้ทันเวลา ตนจึงส่งเรื่อง ให้ปลัดกทม. ไปดำเนินการตามที่คณะกรรมการเสนอไม่ได้เป็นการเซ็นหนังสือก่อน แต่เป็นการสั่งการตามที่คณะกรรมการได้หารือร่วมกัน

แจงเหตุ เลือกออสเตรียเป็นประเทศคู่สัญญา
                  นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสาเหตุที่เลือกประเทศออสเตรียเป็นประเทศคู่สัญญา เนื่องจากก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะมีการอนุมัติหลักการของโครงการนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีระเบียบและวิธีการปฏิบัติโดยการให้สอบถามหน่วยงานต่างๆ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศ โดย นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศในขณะนั้น ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.47 กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรียว่ามีความราบรื่น อีกทั้งมีปฏิสัมพันธ์ด้านการค้าเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศออสเตรียมีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมหนัก เช่น เครื่องจักรกลทางด้านอุตสาหกรรม และการขนส่ง รวมทั้งเครื่องยนต์ต่างๆ อาทิ รถไฟ และรถยนต์ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานของไทยได้จัดซื้อเครื่องมือและเครื่องจักรจากประเทศออสเตรียหลายรายการ และยังคงใช้ในราชการปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อกระทรวงต่างประเทศตรวจสอบแล้วยืนยันไปยังคณะรัฐมนตรีฯ ทำสัญญากับประเทศออสเตรียน่าจะเป็นผลดี โดย บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์พุค จำกัด เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศออสเตรียบริษัทหนึ่ง ซึ่งเป็น ผู้จัดหาอุปกรณ์และครุภัณฑ์ตามโครงการ ที่รัฐบาลออสเตรียได้เสนอผ่านมาตามสัญญาไว้ชัดเจน จะเห็นได้ว่า การเลือกบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์พุด จำกัด ในประเทศออสเตรีย ไม่ใช่หน้าที่ของ กทม. เป็นหน้าที่ของรัฐบาล จากการตรวจสอบของหน่วยงานตามที่ข้อเสนอของกระทรวงต่างประเทศดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

                  รองปลัดฯ อนันต์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ข้อเสนอของฝ่ายออสเตรียจะทำโครงการดังกล่าวในลักษณะ Counter Trade ร้อยละ 100 ซึ่งความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องเต็มจำนวนก็ได้ แต่ทางออสเตรียเสนอมาเช่นนั้น น่าจะช่วยตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่จะระบายสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมไทย จะเป็นประโยชน์ต่อการขยายตลาดสินค้าไทยในออสเตรียต่อไป

ตรวจรถต้นแบบที่แหล่งผลิต
                  นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อมีการทำสัญญาแล้ว ก่อนการผลิตจะต้องทำรถต้นแบบเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญา (สเปค) ที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นไปตามสเปคที่ได้กำหนดไว้ทางบริษัทก็จะดำเนินการผลิตทันที อย่างไรก็ตามการรับรองรถต้นแบบ ต้องไปรับรองที่แหล่งผลิตหรือประกอบรถ กทม.ทำสัญญากับออสเตรียก็จริง แต่ทางออสเตรียแจ้งว่า การประกอบรถจะประกอบที่บริษัทโซมาติค ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบอุปกรณ์ด้านดับเพลิง ดังนั้นจึงต้องไปตรวจรถต้นแบบที่เบลเยี่ยม เนื่องจากสัญญาระบุไว้ว่าสถานที่ผลิตนั้นผู้ขายจะเป็นผู้กำหนด ทางกทม.จึงเดินทางไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งพบว่า รถดังกล่าวเป็นรถที่มาจากประเทศไทย ซึ่งก็ได้สอบถามบริษัทคู่สัญญาถึงกรณีดังกล่าวว่าเหตุใดจึงเป็นรถที่ผลิตในประเทศไทย และจะยืนยันได้อย่างไรว่ารถดังกล่าวผลิตได้มาตรฐานยุโรปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ซึ่งได้รับคำตอบว่ารถมิตซูบิชิทั้งหมดที่ใช้อยู่ในยุโรป สั่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น โดยญี่ปุ่นสั่งนำเข้ามาจากประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการผลิตมิตซูบิชิที่ใหญ่ที่สุดที่ส่งออกไปหลายภูมิภาค รวมทั้งประเทศอังกฤษ และยุโรป ส่วนเหตุที่เป็นพวงมาลัยขวา เพราะประเทศอังกฤษใช้พวงมาลัยขวา อย่างไรก็ตามกทม.ได้ทำหนังสือขอคำยืนยันจากรัฐบาลออสเตรียเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับการยืนยันกลับมา

มิตซูบิชิ L200 ปี 2004 รถต้นแบบตามข้อสัญญา
                  นายอนันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุที่ไม่สามารถปฏิเสธการรับรถยนต์ดังกล่าวได้เนื่องจากสเปคกำหนดเป็นรถมิตซูบิชิ L200 ปี 2004 เนื่องจากขณะเริ่มการเสนอซื้อขายอยู่ในปี 2004 โดยหลังจากตรวจสอบรถต้นแบบแล้วจะต้องใช้เวลาในการผลิต 1 ปี ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบไม่ได้มีเฉพาะข้าราชการกทม. แต่ยังได้เชิญอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกล 2 ท่าน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระนครเหนือ มาร่วมเป็นที่ปรึกษาในการตรวจสอบด้วย อย่างไรก็ตามกทม.มีหน้าที่เพียงตรวจสอบอุปกรณ์ว่าเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นตัวรถ โครงรถ เครื่องยนต์ อุปกรณ์ประกอบอื่นๆ ฯลฯ ซึ่งมีการระบุยี่ห้อไว้ทั้งหมด

                  นอกจากนี้ เนื่องจากสถานที่ประกอบเครื่องยนต์อยู่ต่างประเทศ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่สามารถเดินทางไปตรวจ ได้ตลอดเวลา ในสัญญาจึงได้กำหนดว่าให้มีบริษัทควบคุมคุณภาพซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ที่เป็นอิสระและมีชื่อเสียงระดับโลกเป็นผู้ตรวจสอบการประกอบรถตามที่ตกลงไว้ทุกประการ โดยจะตรวจสอบขั้นตอนการผลิตตามรถต้นแบบ จนถึงส่งลงเรือ จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับ

อภิรักษ์ ยืนยันทำตามขั้นตอนสัญญา
                  ผู้บริหารชุดปัจจุบันทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดการจัดซื้อรถดับเพลิงและอุปกรณ์ซึ่งได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อทบทวนโครงการและเจรจาต่อรอง โดยให้ยึดหลักการสำคัญว่ากรุงเทพมหานครต้องได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการ ทั้งนี้กรณี ที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มองเป็นประเด็นทางการเมือง เนื่องจากทุกอย่างต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ระบุชัดเจน
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #14 เมื่อ: 23-08-2007, 14:02 »

เรื่องขยะกับรถดับเพลิงในส่วนของคุณสมัครนั้น...ท้าวฯสนับสนุนให้มีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาให้ถึงที่สุด  แต่กรณีของหล่อเล็กนี่ซิ...มันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีปัญหาในเรื่องการเลือกปฎิบัติ


หรือท่านคิดว่าอย่างไรกันเล่า!?!
บันทึกการเข้า
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #15 เมื่อ: 23-08-2007, 14:11 »

เรื่องขยะกับรถดับเพลิงในส่วนของคุณสมัครนั้น...ท้าวฯสนับสนุนให้มีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาให้ถึงที่สุด  แต่กรณีของหล่อเล็กนี่ซิ...มันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีปัญหาในเรื่องการเลือกปฎิบัติ


หรือท่านคิดว่าอย่างไรกันเล่า!?!


นั่นสิ

เสธ หนั่นโดน กรณีแบบทักษิณ ดันโดนซิว
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #16 เมื่อ: 23-08-2007, 15:07 »

นั่นสิ

เสธ หนั่นโดน กรณีแบบทักษิณ ดันโดนซิว


นี่คือ 1 ในหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีกระบวนการโค่นรัฐบาลทักษิณ...โดยใช้อำนาจกองทัพ-อำนาจบริหาร-อำนาจตุลาการ จัดการตามแผนบันได 4 ขั้น


ตาสว่างกันบ้างหรือยังท่านทั้งหลาย!?!



"เปิดแผนล้างบางขั้วอำนาจ “ทักษิณ” - “ทรท.-พลังประชาชน” ถูกฝังทั้งเป็น!  
 


โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 23 สิงหาคม 2550 09:57 น.
 
 
   
 
 
       ทหาร! มั่นใจอำนาจเก่าฟื้นคืนชีพยาก แม้ผลประชามติจะออกมา 57:42 เปอร์เซ็นต์ ชี้กระบวนการศาลตอกฝาโลง “ทักษิณ” สนิท ด้านนักวิชาการเชื่อบิ๊กทหารลงเลือกตั้งจะเป็นช่องทางสกัดพรรคพลังประชาชนได้ ขณะที่ปชป.อ้าแขนรับทุกกลุ่มการเมือง พร้อมดัน “วาระประชาชน” สู้ “ประชานิยม” ส่วนมัชฌิมาเร่งประสาน “เสนาะ-สุวัจน์” เป็นพรรคทางเลือกที่ 3
       
       แม้ว่าร่างรัฐธรรมนูญ 2550จะผ่านความเห็นชอบจากเสียงสวนใหญ่ 57.81 เปอร์เซ็นต์ ฝ่ายตรงข้ามเบียดมาติดๆอยู่ที่ 42.19 เปอร์เซ็นต์ นั่นได้สะท้อนภาพออกมาได้ว่า คมช.-รัฐบาลชนะแบบเฉียดฉิว และ “ฝ่ายอำนาจเก่า” แสดงความแข็งแกร่งในพื้นที่ด้วยการรักษาฐานเสียงให้เป็นพลัง “โนโหวต” ในฐานที่มั่นอย่างเห็นได้ชัดจนถึงขนาดสั่ง “เลี้ยวซ้ายบ่ายขวา” ไปได้อย่างง่ายๆ
       
       ไม่เพียงเท่านี้ ผลคะแนนของการลงประชามติ ในครั้งนี้สามารถสะท้อนได้อย่างชัดเจนว่า ไม่เพียงแต่พรรคพลังประชาชนเท่านั้นที่มีฐานเสียงที่แข็งแกร่ง ทว่าพรรคอื่นๆก็ยังคงมียึดหัวหาดของตนได้เช่นกันทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ที่สามารถทำให้ร่างฯผ่านการลงประชามติได้ทั้งภาค และในภาคกลางพรรคชาติไทยก็ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นการสะท้อนว่า แนวโน้มการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่ใกล้จะมาถึงนั้นแต่ละพรรคต้องเตรียมการกันพอสมควร เพราะรู้ซึ่งจุดอ่อน-แข็งของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี
       
       เชื่อ “อำนาจเก่า” ฟื้นยาก
       
       ขณะเดียวกัน ผลการลงประชามติครั้งนี้ ฝ่าย คมช.มั่นใจว่า “กลุ่มอำนาจเก่า” ไม่สามารถลุกขึ้นจากหลุมได้ ซึ่ง “เสธ.ไก่อู-พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด” โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ระบุว่า นอกจากผลคะแนนจะทำให้มั่นใจแล้วยังมีประเด็นปัญหาที่จะตามมาโดยเฉพาะ กระบวนการทางศาลในการเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะยังคงทำหน้าที่เอาผิดและสามารถลดกระแสของกลุ่มอำนาจเก่าได้รวมถึง ภาพรวมของการเห็นชอบในครั้งนี้จะเป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่าประชาชนต้องการที่จะเห็นการเดินหน้าของประเทศ
       
       นอกจากนี้ แม้ว่ากลุ่มไทยรักไทยจะยังคงรักษาพื้นที่ในภาคอีสาน-เหนือได้ แต่มิได้หมายความว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะสามารถครองเก้าอี้ในภาคอีสานกว่า 136 ที่ได้ เนื่องจากยังมีพรรคการเมืองอื่นที่ยังจะพร้อมแข่งขันในสนามนี้
       
       ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ เนื้อหาสาระที่แปรเปลี่ยนไปของร่างฯนั้นมีการตีกรอบเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อนการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ด้วย ทั้งการแทรกแซงองค์กรอิสระและ การพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ฯลฯ นอกจากนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นสามารถสร้างการตระหนักรู้ให้เกิดขึ้นในสังคมได้อย่างดี
       
       คมช.เข็นคดี “ดิสเครดิต”
       
       สอดคล้องกับที่ ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มองว่า ต่อไปนี้อาจจะเห็นการเห็นการลงพื้นที่ทำความเข้าใจจากภาครัฐ รวมถึงการเร่งเอาผิดในคดีทุจริตโครงการต่างๆ ในเครือข่ายกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การรื้อคดีทุจริตโครงการโรงงานกำจัดขยะจำนวน 3 โครงการมูลค่ากว่า 9,589 ล้านบาทของ“สมัคร สุนทรเวช” อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ในช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูการเลือกตั้ง
       
       ปชป.หวังเบียดอีสาน
       
       กระนั้น เมื่อมองไปที่ฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะขั้วตรงข้ามกับ “กลุ่มไทยรักไทย” ที่พร้อมที่สุดสำหรับการเลือกตั้งในขณะนี้อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” นั้นเมื่อประเมินตัวเลขในพื้นที่อีสาน-เหนืออันเป็นฐานกำลังของ “พรรคพลังประชาชน” แม้จะพบว่ามีพื้นที่สีแดงที่มติ “โหวตโน” มีคะแนนชนะ “ฝ่ายรับ” ในหลายจังหวัด
       
       ทว่า เมื่อจับกระแสเสียงแล้วจะพบว่าคะแนน “โหวตโน” นั้น มียอดรวมที่ลดต่ำลงจากเดิมที่ “กลุ่มไทยรักไทย” เคยอ้างเสียงสวรรค์จากประชาชนที่ 16 ล้านเสียงจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 และเมื่อหั่นคะแนนของ “กลุ่มไม่รับ” โดยเน้นไปที่เนื้อหาของร่างฯที่ผลักดันโดยกลุ่มนักวิชาการในกลุ่ม “มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน” ที่เปิดกระแสไม่รับร่างฯ ซึ่งก็ไม่อาจเหมารวมว่าคะแนนโนโหวตจะเป็นของ “ฝ่ายอำนาจเก่า” ได้ทั้งหมด
       
       “คะแนนที่ออกมาจากการลงประชามติเป็นสิ่งสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า แต่ละพรรคมีกำลังเท่าใด และที่สำคัญ คะแนนที่เคยท่วมท้นในพื้นที่อีสาน-เหนือของกลุ่มไทยรักไทย ไม่เป็นเหมือนที่ผ่านมาแล้ว เพราะคะแนนความนิยมลดลงไปกว่าครึ่ง และเมื่อตัดกลุ่มประชาชนที่อยู่ตรงกลางออกไปโอกาสการชิงพื้นที่ในอีสานจึงเป็นเรื่องที่น่าลุ้น” นิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวพร้อมอธิบายต่อว่า คะแนนที่เกิดขึ้น นั้นมาจากความผูกพันและเครือข่ายของ “กลุ่มอำนาจเก่า” ที่ยังคงเหนียวแน่นและยากที่จะตัดขาด แต่ทว่าก็ไม่ถึงกับไม่มีทางเนื่องจากตัวเลขที่ลดลงนั้นเป็นช่องทางที่พรรคอื่นๆ จะสามารถที่จะเบียดเข้ามาชิงเก้าอี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญกลุ่มต่างๆมีการแยกตัวออกไปเป็นจำนวนมากทำให้ความแข็งแกร่งลดลง
       
       ในอนาคตอาจมีการจับมือกับกลุ่มการเมืองอื่นๆนอกเหนือจาก พันธมิตรฝ่ายค้านเดิมอย่าง พรรคชาติไทย พรรคมหาชน ซึ่งหากมีแนวคิดที่ตรงกันก็ยังเพิ่มโอกาสในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง
       
       “ความผูกพันกันเป็นเครือข่ายของกลุ่มไทยรักไทย ก็ต้องยอมรับว่า ส.ส.ยังมีเครือข่ายที่เหนียวแน่น แม้ว่าจะหมดสิทธิแต่ก็ยังเป็นกลุ่มก้อนที่มีประสิทธิภาพ แต่คะแนนที่ลดลงก็ถือว่ากลุ่มไทยรักไทยเองก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเช่นกันในการที่จะรักษาฐานเสียงให้ได้
       แต่กลุ่มทางการเมืองต่างๆ ที่มีแนวคิดทางการเมืองร่วมกันได้เราก็ยังคงเปิดโอกาสในการร่วมมือทางการเมืองเช่นกัน”
       
       ชู “วาระประชาชน”
       สู้ “ประชานิยม”
       
       อย่างไรก็ตาม แม้โอกาสจะเปิดแต่สิ่งสำคัญที่หลายพรรคจะต้องทุ่มความสำคัญอย่างหนักก็คือ การจัดกระบวนทัพกันใหม่เพื่อชิงชัยในพื้นที่อีสาน-เหนือ รวมถึงต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาในยุคของ “รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” นั้น “นโยบายประชานิยม” ยังคงเป็นพื้นฐานหลักที่ชาวบ้านยังคงให้ความนิยม ซึ่งสิ่งที่ ปชป.จะเน้นเพิ่มเติมขึ้นมาคือ การผลักดันเศรษฐกิจภาคชุมชน และภาคการผลิตทางการเกษตร อาทิ การปลูกมันสำปะหลัง รวมถึงการติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน
       
       ชี้บิ๊กสีเขียวลงสกัดดาวรุ่ง
       
       ขณะที่ นักวิชาการในพื้นที่ภาคเหนืออย่าง รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มองว่าการที่จะชิงพื้นที่ของพลังประชาชนให้ได้นั้นต้องส่งมือแข็งๆลงคุมพื้นที่ โดยเฉพาะ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.ที่เติบโตในถิ่นหมวกแดง หน่วยรบพิเศษบ้านป่าหวาย จ.ลพบุรี ก็เชื่อว่าจะสามารถชนะในเขตดังกล่าวได้ไม่ยาก
       
       “คนที่ไม่อยากลงการเมืองเขาไม่พูดกันบ่อย แต่การที่จะขจัดกลุ่มเก่าได้ต้องอาศัยนายทหารหรือ คนในกระแสสังคมในขณะนี้อย่าง พล.อ.สนธิ จึงจะกำราบได้อยู่หมัด ดังนั้นโอกาสที่พล.อ.สนธิจะเล่นการเมืองก็ยังถือมีโอกาสเป็นไปได้”
       
       หากตัดสินใจลงเลือกตั้งในครั้งหน้านี้ในพื้นที่ตนเองอย่างลพบุรี ก็เชื่อว่าจะสามารถเข้าสู่สนามการเมืองได้อย่างเต็มรูปแบบและมีความเป็นไปได้สูง
       
       อย่างไรก็ตาม หาก คมช.-รัฐบาลไม่คิดที่จะลงเล่นการเมือง การคิดที่จะตัดกำลังกลุ่มอำนาจเก่าก็จำเป็นที่จะต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจในเนื้อหาของร่างฯ ที่ถูกบิดเบือนจากกลุ่มต่างๆรวมถึงประเด็นสำคัญที่สุดของประชาชนก็คือการแก้ปัญหาปากท้องอันเป็นปัญหาใหญ่สุด จึงจะสามารถสกัด “กลุ่มอำนาจเก่า” ได้
       
       จะเห็นได้ชัดจากพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ถิ่นของ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ คมช.-รัฐบาลลงพื้นที่บ่อยจนคะแนนเสียงพลิกกลับขึ้นมาชนะได้ แต่ในทางกลับกับพื้นที่ภาคเหนืออย่าง จ.ลำพูนที่มีคะแนน “โนโหวต”สูงที่สุดในประเทศนั้นเป็นการตอกหน้า คมช.-รัฐบาลเข้าอย่างจังว่า การแก้ปัญหาปากท้องยังไม่ถึงขั้นและที่สำคัญสู้อดีตรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรไม่ได้ การเลือกสนับสนุนฝ่ายอำนาจเก่าจึงยังคงเป็นจำนวนที่สูงในพื้นที่ดังกล่าว
       
       มัชฌิมาประสาน “เสนาะ-พินิจ”
       
       ขณะที่ทาง “กลุ่มที่ประกาศตัวเป็นขั้วการเมืองที่ 3” อย่างกลุ่ม “มัชฌิมาประชาธิปไตย” นั้นภายหลังการกลับมารวมกันกับกลุ่ม “รวมใจไทย” (ธรรมาธิปไตยเดิม) นั้น เชื่อว่าการกลับมารวมกันอีกครั้งในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะเป็นพรรคทางเลือกที่ 3 ได้ เนื่องจากเป็นการเพิ่มขุมกำลังของกลุ่มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในภาคธุรกิจระดับโครงสร้างของประเทศ ซึ่งกลุ่มรวมใจไทยนั้นมีความเชี่ยวชาญและประกอบไปด้วยมือเศรษฐกิจที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะชื่อของ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ที่ถือว่ายังคงขายได้เนื่องจากเป็นผู้ทำคลอด “นโยบายประชานิยม” มากับมือ
       
       พร้อมทั้งการมาของ “เสี่ยอ๊อด-ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” อดีต ส.ส.พิจิตร ที่รับหน้าที่เป็นมือประสานระหว่างกลุ่มการเมืองอื่นๆ อาทิ กลุ่มประชาราช ของ “ป๋าเหนาะ” “เสนาะ เทียนทอง” หรือ “กลุ่มสมานฉันท์” ของ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ที่ยังคงมีการเดินหน้าเจรจาเพื่อจับมือกันทางการเมืองอยู่เสมอ
       
       “การจับมือทางการเมืองของมัชฌิมากับกลุ่มอื่นนั้นก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า รวมใจไทยได้มาร่วมกันทำงานแล้วและในกลุ่มประชาราชหรือ กลุ่มสมานฉันท์ นั้นยังคงมีการเจรจากันอย่างต่อเนื่องโดยผ่านประดิษฐ์ (ภัทรประสิทธิ์) แม้ว่าจะไม่ได้มีการพูดคุยกันโดยตรงผ่านคุณสมศักดิ์ก็ตาม”
       
       โสภณ เพชรสว่าง รองหัวหน้ากลุ่มมัชฌิมาประชาธิปไตย เผยพร้อมอธิบายต่อว่า ทางกลุ่มเองนั้นก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ซึ่งจากการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมานั้น มีผู้เข้าร่วมกับกลุ่มกว่า 200 คน โดยเน้นเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งนอกจากกำลังคนจะพร้อมแล้ว นโยบายก็ถือเป็นจุดแข็งภายใต้ความเชื่อมั่น ในผลงานเก่าของกลุ่มภายใต้ร่มเงาของ“กลุ่มไทยรักไทย”
       
       การเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ล้วนเป็นหนทางที่บรรดานักเลือกตั้งตั้งตารอเพื่อหวังกลับเข้าสู่อำนาจที่เคยมี ภาพของการจับขั้วระหว่างกลุ่มก๊วนต่างๆ จึงน่าจะเป็นภาพที่ชินตามากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเมืองที่ควรจับตามองอย่างยิ่งว่า “พลังประชาชน” จะงัดกลยุทธ์ใดเข้ามาสู้ในศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ท่ามกลางคู่ต่อสู้ที่เตรียมรอรุมกินโต๊ะอย่างใจจดใจจ่อ..."
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #17 เมื่อ: 23-08-2007, 15:21 »

มิน่า...จมูกถึงได้เหมือนหมู

สงสัยมานานแล้ว ว่าจมูกหมู บาน ๆ เนี่ย ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

ที่แท้ก็เอาไว้ ดุน แซะ คุ้ยกินขยะนี่เอง


อู๊ด ๆ ๆ ๆ
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 23-08-2007, 16:47 »

อ้าว ไอ้เท้าหมา ไหนบอกว่าไม่เชื่อบทความของ ผจก. ไง

แล้วเอ็งเสือกเอามาอ้างอิงทำไม

ไอ้ซากหมาาา!!!
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
สมปอง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #19 เมื่อ: 23-08-2007, 16:52 »



จงมองให้ลึกซึ้ง

ในขยะ ก็มีซี่โครงไก่

 
บันทึกการเข้า



ไม่มีดินผืนใดให้ไออุ่น เท่ากับดินที่คุณถือกำเนิด
ไม่มีดินผืนใดดูมั่นคง เท่ากับดินที่ลงสำมะโนครัว
ไม่มีดินผืนใดให้คุณเดิน เท่ากับดินที่คุณเดินตอนตั้งไข่
ไม่มีดินผืนใดมีความหมาย เท่าแผ่นดินสุดท้ายของเผ่าพันธุ์

ไม่มีเงินไม่มีทองยังไม่หมองเศร้า
มีแผ่นดินปลูกข้าวเราอยู่ได้
ไม่มีเงินไม่มีทองค่อยหาใหม่ บนแผ่นดินสุดท้ายของไทยทุกคน
ชัย คุรุ เทวา โอม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,846


สมัครรักแมว แต่ผมรัก Cat


« ตอบ #20 เมื่อ: 23-08-2007, 17:32 »

หมอนี่ไม่ได้กินขยะอย่างเดียวหรอกครับ

เลียประโปกไอ้เหลี่ยมด้วย

เลวๆอีกอย่าง ไว้ใกล้เดือนตุลาค่อยเขียนดีกว่า
บันทึกการเข้า

"...สิ่งที่มนุษย์เราหวงแหนที่สุดก็คือชีวิต และก็เป็นสิ่งที่ให้แก่เขาเพื่อดำรงอยู่ได้แต่เพียงครั้งเดียว เขาจักต้องดำรงชีวิตอยู่เพื่อที่ว่าจะไม่ต้องทรมานใจด้วยความโทมนัสว่าวันเดือนปีที่ผ่านไปนั้นปราศจากจุดหมาย จักต้องไม่มีความรู้สึกอับอายว่าตนมีอดีตอันต่ำต้อยด้อยคุณค่า ชีวิตเช่นนี้ เมื่อตายลงก็สามารถพูดได้ว่าชีวิตของฉัน และพลังกายพลังใจทั้งหมดของฉันได้อุทิศให้แก่อุดมการณ์ที่ดีงามที่สุดแล้วในโลกนี้ นั่นคือการต่อสู้เพื่อกอบกู้อิสรภาพของมนุษย์..."

คำรำพัน ณ สุสานสหายผู้เสียสละในการต่อสู้ปฏิวัติ จากนวนิยายโซเวียตยอดนิยมเรื่อง เบ้าหลอมวีรชน

(How the Steel Was Tempered)

นิโคไล ออสตร๊อฟสกี้ เขียน ค.ศ.1933


*******************************

เชิญเยี่ยมชมบล็อคครับ
http://www.oknation.net/blog/amalit1990
ปรมาจารย์เจได
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,771


รักแท้ก็เหมือนผี รู้ว่ามี แต่ไม่เคยเจอ


« ตอบ #21 เมื่อ: 23-08-2007, 19:28 »


นี่คือ 1 ในหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีกระบวนการโค่นรัฐบาลทักษิณ...โดยใช้อำนาจกองทัพ-อำนาจบริหาร-อำนาจตุลาการ จัดการตามแผนบันได 4 ขั้น
ตาสว่างกันบ้างหรือยังท่านทั้งหลาย!?!


โถ่ อาจารย์จ๊ะ

ผมหมายถึง เสธหนั่นโดนคดีซุกซ่อนทรัพย์สิน เหมือนกับทักษิณซุก
เสธหนั่นโดนแบน แต่ทำไมทักกี้ไม่โดนฟะ
 
บันทึกการเข้า

http://www.oknation.net/blog/jedimaster



"เมืองดอกบัวงาม  แม่น้ำสองสี  มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน  ถิ่นไทยนักปราชญ์  ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามลำเทียนพรรษา  ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์"

ไม่มีใครเน่าบริสุทธิ์ดุจดั่งมูล ประชาชินสมบูรณ์ซะที่ไหน เมื่อยืนหยัดโชว์จู๋และปาขี้ ประชาชินย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีขี้ผ่องอำไพ เหลี่ยมจันไsย่อมเป็นใหญ่อยู่ใต้ดิน ...

ขอเชิญร่วมกลุ่มต้านทักษิณใน hi5 ครับ

THAKSIN get out !!
http://www.hi5.com/friend/group/1123605--THAKSIN%2Bget%2Bout%2521%2521--front-html

say no to thaksin !
http://www.hi5.com/friend/group/1186900--say%2Bno%2Bto%2Bthaksin%2B%2521--front-html
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« ตอบ #22 เมื่อ: 04-09-2007, 19:36 »

แล้วโดนทหารกลั่นแกล้ง ย้ายผู้ว่าลิ่วล้อเหลี่ยมออกไปให้หมดแบบนี้ ลุงหมักที่ชาวอีสานเกลียดยิ่งกว่าขี้ จะเอาอะไรไปเรียกคะแนนเสียง โกงก็ทำได้ไม่ถนัด แล้วหัวหน้าท่านไม่กระอักเลือดตายเหรอ

บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #23 เมื่อ: 04-09-2007, 20:11 »

คนจำพวกนี้กินของแข็งพวกอิฐ หิน ปูนทราย รถดับเพลิงมาแล้ว



แค่ขยะนิ่มๆมันกระเดือกสบายๆ
บันทึกการเข้า
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« ตอบ #24 เมื่อ: 04-09-2007, 20:20 »

คนจำพวกนี้กินของแข็งพวกอิฐ หิน ปูนทราย รถดับเพลิงมาแล้ว



แค่ขยะนิ่มๆมันกระเดือกสบายๆ


แต่มันก็น่าอัศจรรย์นะครับ พวกขยะกินขยะพวกเดียวกันเองได้
บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
Gamobank
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229



« ตอบ #25 เมื่อ: 04-09-2007, 20:28 »

ปรกติแมลงวันมันไม่ตอมกันเอง แต่นี่เป็นแมลงวันสายพันธุ์ใหม่หัวสี่เหลี่ยมกินไม่เลือก
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #26 เมื่อ: 04-09-2007, 20:44 »

หมักนี่แมร่งชอบอ้างว่าจนตลอด
ชอบบอกใครต่อใครว่าขอเมียกิน
เดี๋ยวก็คงรู้ว่ามันแอบเอาเงินไปซุกไว้ที่ไหน แค่นายห้างทองรายเดียว
ก็ไม่รู้โดนมันดูดไปเท่าไหร่เท่าไหร่่

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2007, 20:47 โดย (ลุง)ถึก สไลเดอร์ » บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,131


กูรู้มึงต้องอ่าน ฮ่าๆ ขำขำนะจ๊ะ


เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 04-09-2007, 21:46 »

หมักนี่แมร่งชอบอ้างว่าจนตลอด
ชอบบอกใครต่อใครว่าขอเมียกิน
เดี๋ยวก็คงรู้ว่ามันแอบเอาเงินไปซุกไว้ที่ไหน แค่นายห้างทองรายเดียว
ก็ไม่รู้โดนมันดูดไปเท่าไหร่เท่าไหร่่

 


อื้ม....แล้วแม้วหละจะตายหรือจะรอดขนาดมันอาสาเล่นซะบ้านเค้าแตกย่อยยับ
แล้วมาอาสาช่วยแม้วอีกสงสัยจะตายทั้งตระกูล
บันทึกการเข้า

ขอมอบ เพลงนี้ให้กับพี่น้อง พันธมิตรทุกคนฮะ


http://www.imeem.com/sakujo/music/04_GaHIQ/09_avenged_sevenfold_strength_of_the_worldmp3/

strength of the world
RONALDO
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 684


ไม่มีใคร ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยได้ หากเราไม่ยินยอม


« ตอบ #28 เมื่อ: 04-09-2007, 23:41 »

อื้ม....แล้วแม้วหละจะตายหรือจะรอดขนาดมันอาสาเล่นซะบ้านเค้าแตกย่อยยับ
แล้วมาอาสาช่วยแม้วอีกสงสัยจะตายทั้งตระกูล

ก็ลองไปถามชาวตุลาที่เงินทับขาพูดไม่ออกสิครับ อุดมการณ์อะไรที่ผ่านมาถูกหมักผสมพันธุ์ไปหมดแล้ว

บันทึกการเข้า

เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าไล่พวกโกงกิน ขจัดระบอบทักษิณ ให้ออกไป
หน้า: [1]
    กระโดดไป: