ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 06:01
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  กองทัพจับตา...แนวรบด้านอีสาน! กระแส"คว่ำรัฐธรรมนูญ" รุนแรง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
กองทัพจับตา...แนวรบด้านอีสาน! กระแส"คว่ำรัฐธรรมนูญ" รุนแรง  (อ่าน 712 ครั้ง)
ล้างโคตรทักษิณ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 903



« เมื่อ: 16-08-2007, 10:54 »

กองทัพจับตา"วันลงประชามติ" แม้จะเชื่อมั่นประชาชนจะยอมรับ แต่สั่งกองทัพภาคที่ 2 จับตาแนวรบด้านอีสานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบุรีรัมย์-อุดรธานี หลังข่าวสะพัดจ่าย 200-300 บาท ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับทิ้งพื้นที่ไม่ได้เลยในช่วงนี้

 ไม่ถึง1 สัปดาห์ก็จะถึง "วันลงประชามติ" ว่าจะรับ หรือไม่รับ "ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550" ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กองทัพ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างพยายามประโคมประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชนชนออกไปใช้สิทธิในวันที่ 19 สิงหาคมนี้โดยพร้อมเพรียง เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของประเทศชาติ

การลงประชามติครั้งนี้ถือเป็น "วันประวัติศาสตร์" ครั้งสำคัญของคนในชาติ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 4 ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงประชามติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ!!!

ในส่วนของฝ่ายกองทัพก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเร่งประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับประชาชน โดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้สั่งการให้สถานีวิทยุและโทรทัศน์กว่า 200 สถานีเร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยมีการเปรียบเทียบ "ข้อดี-ข้อเสีย" ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี2540 กับปี255

เป้าหมายของกองทัพคือ การแสดงให้เห็นว่า ทหารไม่มีเจตนารมณ์ที่จะ "สืบทอดอำนาจ" และส่งเสริมการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย หลังจากมีการ "ฉีกรัฐธรรมนูญ" ในการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา


จากข้อมูลการข่าวของกองทัพซึ่งส่งกำลังพลลงไป "เกาะติดพื้นที่" เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนทั้ง 76 จังหวัด ร้อยละ 70 ให้การตอบรับและพร้อมที่จะลงไป "ใช้สิทธิ" ในการลงประชามติเพื่อรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 


ส่วนอีกร้อยละ30 พบว่ายังมีไม่ท่าทีตอบรับว่าจะไปใช้สิทธหรือไม่ ในจำนวนนี้มีเพียงประมาณร้อยละ 2-3 เท่านั้นที่มีทีท่าว่าจะ"ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ" โดยส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่อยู่ในเครือข่ายของกลุ่มขั้วอำนาจเก่า


โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานทั้ง จ.อุดรธานีศรีสะเกษ ขอนแก่น และบุรีรัมย์ ขณะที่ในพื้นที่ภาคเหนือ คือ จ.เชียงใหม่กำแพงเพชร และเชียงราย ซึ่งมี "สองอดีตนักการเมืองใหญ่" ในฐานที่มั่นทั้งสองภาคเป็นผู้เดินเกม 


แม้จะถูกจ้องโจมตีจากกระแส"คว่ำรัฐธรรมนูญ" อย่างหนัก แต่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และสมาชิก คมช. ก็ยังมีความมั่นใจ โดยในส่วนของกองทัพเรือสั่งให้หน่วยต่างๆ ในสังกัด ไปชี้แจงข้าราชการและครอบครัวให้เห็นถึงความสำคัญของการลงประชามติว่า ทุกคนควรจะต้องไป เพราะเป็นสิทธิที่ต้องทำ


"ส่วนจะรับ หรือไม่รับนั้น ผมชี้แจงไปแล้วว่า จะมีผลดี ผลเสียอย่างไร เราไม่อยากชี้นำ แต่คิดว่าข้าราชการจะรู้ดีว่าอะไรควร อะไรไม่ควร" พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ยืนยันว่า จะเปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ 


สำหรับกระแสข่าวที่ว่ามีการ"ว่าจ้าง" ให้ประชาชนลงมติไม่รับร่างธรรมนูญ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ย้อนถามกลับมาว่า จะล้มเพื่ออะไร ล้มแล้วได้อะไร เท่าที่ดูจากข่าวว่าล้มเพื่อเป็นการดิสเครดิต คมช. ซึ่งตนเห็นว่าไม่น่าจะใช่ เพราะรัฐธรรมนูญนี้ร่างมาจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เป็นกลุ่มคนที่คัดเลือกกันเข้ามาเอง คมช.ไม่ได้เข้าไปยุ่ง และระหว่างร่างรัฐธรรมนูญ คมช. ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่าย 


"หากรัฐธรรมนูญล้ม คมช.ก็ไม่เกี่ยว ถ้าจะเกี่ยวก็ตรงที่ คมช.ต้องรับภาระเพิ่มมากขึ้น คือ การหารัฐธรรมนูญฉบับไหนมาปัดฝุ่นเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถามว่าจะล้มรัฐธรรมนูญเพื่ออะไร การดิสเครดิต คมช.ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ผมกลับมองตรงข้าม ถ้าล้มก็เหมือนกับว่า ให้เครดิต คมช. คือ เชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ คมช.เลือกจะดีกว่า ดังนั้น ผมเชื่อมั่นว่าไม่น่าจะล้มรัฐธรรมนูญ" ผบ.ทร. กล่าวดักคอกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวเพื่อล้มร่างรัฐธรรมนูญ


เมื่อถามว่าคมช.เตรียมหารือที่จะนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาใช้หากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ไม่ผ่านประชามติ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ตอบว่า ยังไม่มีการหารือ เราเชื่อว่ารัฐธรรมนูญจะผ่าน เพราะเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดในขณะนี้ 


พล.ร.อ.สถิรพันธุ์กล่าวฝากไปยังกลุ่มคนที่รณรงค์ให้เคลื่อนไหวไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรในการที่จะมาล้มรัฐธรรมนูญ เพราะอย่างไรก็ต้องเลือกตั้ง หากล้มไปก็ต้องรอรัฐธรรมนูญที่ คมช. และรัฐบาลเลือกขึ้นมาปรับใช้ หากล้มไปก็จะทำให้การเลือกตั้งช้าออกไปอีก และไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร คนที่จะไปรณรงค์ดิสเครดิต คมช.จะเสียเงินเสียทองเปล่าๆ สู้เก็บเงินเอาไว้แล้วเอาไปสมัคร ส.ส.เพื่อไปต่อสู้กันในสภาจะดีกว่า


ทั้งนี้พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ แสดงความเชื่อมั่นว่า คนระดับกลางโดยเฉพาะใน กทม. ร้อยละ 90 น่าจะยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ระดับรากแก้วที่ไม่มีโอกาสได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอย่าว่าแต่ระดับรากแก้วเลย แม้แต่คนระดับกลางๆ ก็ไม่ได้อ่าน เมื่อไม่ได้อ่านแล้วอาจจะฟังจากคนชี้นำแล้วก็อาจจะมีมีอะไรนิดหน่อย ซึ่งตนเป็นห่วงตรงจุดนี้มากกว่า


พล.อ.พัลลภปิ่นมณี ที่ปรึกษาผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ที่ปรึกษาผอ.รมน.) กล่าวถึงแนวทางการทำงานของกอ.รมน.ว่า ได้พยายามทำความเข้าใจในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่ได้บังคับ และชี้แจงเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 เมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนเรื่องประชาชนจะลงประชามติรับ หรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของเขา ไม่ได้ไปบังคับ 


"เจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน.ลงไปในพื้นที่ทุกจังหวัดและอำเภอโดยจะเข้าไปชี้แจงกับบรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจะทำเหมือนกันทุกภาค ไม่เฉพาะภาคเหนือ หรือภาคอีสาน ที่กำลังมีข่าวการจ้างคว่ำรัฐธรรมนูญ" 


สำหรับพื้นที่ที่มีข่าวการจ้างล้มรัฐธรรมนูญพล.อ.พัลลภ ระบุว่า ได้จัดให้เจ้าหน้าที่เข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน และจับตามองความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่พยายามปลุกระดมคว่ำรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน


"ประชาชนจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แน่นอน" พล.อ.พัลลภ มั่นใจและบอกว่า นี่คือสิ่งที่ทำให้ พล.อ.สนธิ มั่นใจด้วยว่า ประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์ประชาชนจะรับร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากข้อมูลที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. เข้าไปพบปะประชาชนและมีการสอบถามดู ไม่ถึงกับต้องมีการทำโพลล์สำรวจ 


เขายังกล่าวถึงข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วยว่าเป็นฉบับที่แก้ไขและมีจุดเด่น จุดดีอยู่มาก ประชาชนควรจะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะถึงอย่างไรประเทศไทยต้องมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้


"ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่าน หรือไม่ผ่าน ก็จะต้องมีการเลือกตั้ง ถ้าไม่ผ่าน คมช.ก็ต้องไปเอารัฐธรรมนูญฉบับอื่นมาแก้ไขเพื่อให้เกิดการเลือกตั้ง" 


ส่วนกลุ่มที่จ้องล้มร่างรัฐธรรมนูญนั้นที่ปรึกษา ผอ.รมน. มองว่า เป็นกลุ่มที่ "เสียผลประโยชน์" และโดยส่วนตัวเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวจะผ่านการลงประชามติ เพราะเงินไม่สามารถจ้างได้ทั้งประเทศ 


พล.ท.สุจิตรสุทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงมาตรการการทำงานในพื้นที่ว่า จากข้อมูลในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคอีสานที่ได้รับมาไม่น่าห่วงอะไร และเชื่อมั่นว่าประชาชนจะลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ


เราได้เข้าไปพูดคุยกับแกนหลักของกลุ่มอำนาจตามพื้นที่ต่างๆแต่คิดว่าเมื่อเราจับมือกันในสาย กอ.รมน. ทั้งพลเรือนตำรวจ และทหาร เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนให้รู้ว่า รัฐธรรมนญฉบับนี้ดีอย่างไร จึงคิดว่าไม่น่าห่วงอะไร 


สำหรับพื้นที่ที่มีอิทธิพลพล.ท.สุจิตร ระบุว่า ได้จัดกำลังเข้าไปเหมือนกัน และเป็นพื้นที่ที่ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มี "แกนนำ" หรือ "หัวคะแนน" หนาแน่น ซึ่งได้จัดกำลังเข้าไปบ่อยครั้งขึ้น


พล.ท.สุจิตรให้ข้อมูลว่า "เงิน" เป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ โดยจากการทำงานร่วมกับตำรวจพบว่า มีการจ่ายเงินให้แก่ประชาชนเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนเท่านั้น 


"มันมีแต่ข่าวที่บอกว่า คนนี้รับ คนนี้จ่าย โดยได้รับค่าจ้างประมาณคนละ 200-300 บาทซึ่งขณะนี้เราติดตามอยู่ว่าเขาจ่ายให้ใครบ้าง แต่ก็ยังตามไม่ถึงตัวผู้จ้าง" 


ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า "อดีตนักการเมือง" รายหนึ่งมีบทบาทสำคัญอยู่เบื้องหลังการจ่ายเงินคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ พล.ท.สุจิตร ระบุว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้ติดตามอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังไม่ปรากฏการทำความผิดชัดเจน แม้จะมีการขึ้น-ลงระหว่างพื้นที่กับกรุงเทพฯ ตลอดก็ตาม แต่เชื่อว่าประชาชนแยกแยะได้ว่าอะไรดี หรือไม่ดี


ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำว่าถ้าชาวบ้านเข้าใจเราแล้ว เขารู้อะไรดี อะไรไม่ดี และมีอุดมการณ์ของความรักชาติ เรื่องของเงินก็ไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่เป็นปัญหา" 


แม่ทัพภาคที่2 มั่นใจเช่นเดียวกับผบ.ทบ.ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านการลงประชามติถึง 99 เปอร์เซ็นต์เพราะการทำงานร่วมกัน ทั้งพลเรือน ทหาร และตำรวจ ซึ่งทำงานกันอย่างเต็มที่ และชาวบ้านก็คงจะเข้าใจที่เราทำกันทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่อชาติบ้านเมืองร่วมกัน 


กระนั้นแม้จะทำงานมวลชนมาอย่างหนัก แต่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยอมรับว่า อีกฝ่ายก็รุกหนักไม่แพ้กัน...


"ตอนนี้กระแสคว่ำรัฐธรรมนูญรุนแรงมาก โดยเฉพาะ จ.บุรีรัมย์อุดรธานี หรือจังหวัดที่มีอดีต ส.ส.เป็นจำนวนมากโดยกลุ่มนี้จะไปพูดเพื่อให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะมีการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ จึงถือเป็นช่วงที่สำคัญ ทางกองทัพภาคที่ 2 จึงต้องดูแลและติดตามเป็นพิเศษเรียกได้ว่าจะทิ้งพื้นที่ไม่ได้เลยในช่วงนี้"
 


http://www.komchadluek.net/2007/08/mili/u001_131218.php?news_id=131218
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: