ญาน นี่มาแปลก วันหนึ่งบอกอย่างหนึ่ง อีกวันหนึ่งบอกอีกอย่างหนึ่ง
การนั่งสมาธิเพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่นิพพานนั้น ระหว่างทางจะได้พานพบกับประสบการณ์แปลกประหลาดมหัศจรรย์ หลายลำดับขั้นตอน บ้างก็เรียกกันวาอภิญญา มี หูทิพย์ ตาทิพย์ ทายใจผูอื่นได้ ระลึกชาติได้ ทำปาฏิหารย์ เช่น เดินบนน้ำ ดำดิน เหาะ หายตัว สารพัดจะมหัศจรรย์
แต่การได้มาซึ่งอภิญญาเหล่านี้ พระสงฆ์ผู้ถือศีลบริสุทธิ์ ยังได้มาด้วยความเพียรอย่างหนัก ไม่ได้มาง่ายเช่นซื้อของในเซเว่น จึงยากที่จะเชื่อว่า บุคคลธรรมดาที่หนาไปด้วยกิเลส มากไปด้วยราคะ และหากินในสิ่งที่เรียกว่าญาน จะพึงมีได้
มี ยาน น่ะ พอเชื่อ แต่จะบอกว่ามี ญาน น่ะ
ฟันธง ชี้ขาด แหกตา

ตามที่ผมเคยอ่านหนังสือของพระเกจิบางที่ท่าน ท่านว่าญานนี่สั่งสมข้ามภพข้ามชาติได้ครับ
คือดวงจิตที่เคยฝึกจนเข้าถึงสมาธิแล้ว เมื่อตายไปแล้วเกิดใหม่ดวงจิตนั้นก็จะยังคุ้นเคยกับสมาธิ
ถ้าในชาติถัดๆมาได้มีโอกาสปฏิบัติเข้าถึงสมาธิก็จะสามารถเข้าถึงญานได้โดยง่าย
ดูอย่างบรรดาพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล พระบางรูปเมื่อฟังพระธรรมเทศนา
ก็บรรลุอรหันต์ นั่นเพราะการสั่งสมหรือฝึกจิตในอดีตชาตินั้นต่างกัน บางรูปฟังครั้งเดียวก็บรรลุ
บางรูปก็ต้องไปปฏิบัติธรรมอยู่นานจึงบรรลุ
อีกอย่างอภิญญาอย่างตาทิพย์มองเห็นอนาคตนั้น มีการเปรียบเทียบดังนี้ คือ
ทิพย์จักขุของพระพุทธเจ้านั้น การมองเห็นอนาคตหรืออดีตชาติจะแลเห็นชัดราวกับกลางวัน
ของพระปัจเจกพุทธเจ้าจะมองเห็นเหมือนยามกลางคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
ส่วนพระอรหันต์ที่มีอภิญญาก็จะเห็นได้ชัดเจนน้อยลงลงมาตามลำดับ
ส่วนของคนทั่วไปที่ได้แค่วิชชา 3 หรือ อภิญญา 5 นั้น คือแค่ ฤทธิ์ทางโลกีย์
ในเรื่องทิพย์จักขุนั้นการมองเห็นท่านเปรียบ เสมือนการมองสิ่งต่างๆภายใต้แสงเทียน
ซึ่งอาจมองผิดพลาดได้ อีกทั้งตราบได้ที่ยังไม่เข้าถึง อภิญญา 6 คือ อาสวักขยญาณ
ทำกิเลสให้สิ้นไป ญาณที่ได้ก็จะยังมีเสือมได้ตามระดับกิเลสและความั่นคงของจิต
ส่วนเรื่องหมอนิด นี่ผมไม่รู้นะว่าญานจริงหรือเปล่า