ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 00:52
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ชายคาพักใจ  |  ==อยู่มานานเกินไปหรือเปล่านี่ ตอนนี้มี "นมไก่" กันแล้ว== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==อยู่มานานเกินไปหรือเปล่านี่ ตอนนี้มี "นมไก่" กันแล้ว==  (อ่าน 1717 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 11-08-2007, 01:01 »

ไม่เคยนึกว่าคำพังเพย "ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่" จะกลายเป็นจริง ตอนนี้มี "นมไก่" แล้วครับ 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศิริราชผลิตนมจากเนื้อไก่รักษาทารกแพ้นมวัวสำเร็จครั้งแรกในโลก  
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=273950

ศิริราชเผยความสำเร็จในการผลิตนมจากเนื้อไก่รักษาทารกที่แพ้การดื่มนมวัว เป็นครั้งแรกของโลก โดยยังคงคุณค่า
สารอาหารครบถ้วน ย่อยง่ายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว จดสิทธิบัตรสูตรนมเรียบร้อยแล้ว พร้อมเตรียม
ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ต่างประเทศ

ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลเป็นประธานแถลงข่าวเรื่อง “ครั้งแรกของโลก
ศิริราชผลิตนมจากเนื้อไก่ รักษาทารกแพ้นมวัว” ร่วมกับ รศ.นพ.ธราธิป โคละทัต หัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์
ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ หัวหน้าสาขาวิชาโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์และครอบครัวผู้แพ้นมวัว ซึ่งหันไปกินนม
จากเนื้อไก่แทน

ศ.นพ.พิภพ หัวหน้าคณะผู้วิจัย กล่าวว่า ปัจจุบันหากพบเด็กแพ้นมวัว โดยทั่วไปแพทย์จะเปลี่ยนให้นมถั่วหรือสูตรนม
ชนิดพิเศษที่มีการย่อยโปรตีนในนมเหล่านั้น แต่ยังมีทารกอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากพอสมควรยังแพ้อยู่
ซึ่งเหลือนมอีกชนิดเดียวคือนมที่เป็นกรดอะมิโน แต่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศและราคาแพงมาก

จึงคิดถึงเนื้อไก่ซึ่งในวารสารต่างประเทศเขียนมานานเกือบ 40-50 ปีว่า หากแพ้นมทุกชนิด ลองให้เนื้อไก่ทำเป็น
ซุปไก่ทาน ซึ่งเคยรักษาอยู่แต่วิธีการค่อนข้างลำบากและสารอาหารไม่ครบถ้วน จึงพยายามคิดค้นนำเนื้อไก่มาทำ
เป็นน้ำนม แต่มีปัญหาเรื่อง เนื้อไก่ไม่ละลายไม่เข้ากัน โดยใช้เวลานานเกือบ 10 ปี ในที่สุดก็สามารถผ่านพ้นจุดของ
การไม่ละลายตัว การแยกชั้นกันได้ และเป็นนมสำหรับให้ทารกดื่มได้ และเด็กหลายคนดื่มแล้วไม่มีอาการแพ้เลย

“เทียบนมถั่วแล้วดีกว่าถึง 8 เท่า มีคนไข้เยอะมากที่แพ้นมทุกชนิดในเมืองไทยมาทานนม จากเนื้อไก่แล้วหายเลย
เติบโตดีทุกอย่างเป็นเวลาอันสมควร จึงแจ้งแก่คณะฯ และเป็นอีกแนวคิดหลังจากถูกโปรแกรมเมืองนอกมานานว่า
ถ้าไม่ทานนมแม่ต้องมาทานนมวัว ความคิดนั้นอาจต้องคิดใหม่ เพราะปัญหานมวัว นับวันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ”

หัวหน้าคณะผู้วิจัยกล่าว


ศ.นพ.พิภพ กล่าวอีกว่าสำหรับวิธีการทำนมจากเนื้อไก่นั้น ต้องใช้เนื้อไก่เฉพาะส่วนอก เพราะมีไขมันต่ำที่สุด

จากนั้นมาปรุงด้วยวิธีพิเศษ และเติมสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับทารก จนได้เป็นเนื้อนมที่เนียนละเอียดมาก
จากนั้นนำมาแช่แข็งที่ ลบ 72 องศาเซลเซียส และนำมาละลายเมื่อจะกิน ซึ่งทารกสามารถดูดนมจากเนื้อไก่นี้
ได้จากจุกนมปกติ ทั้งนี้ ได้ส่งนมจากเนื้อไก่ไปยังกรมวิทยาศาสตร์บริการเพื่อตรวจวัดคุณค่าสารอาหารต่าง ๆ
พบว่านมจากเนื้อไก่นี้มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนได้มาตรฐานสำหรับทารก

สำหรับรายละเอียดของการศึกษานี้จะตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition
แต่ทางคณะผู้ผลิตได้จดสิทธิบัตรสูตรนมจากเนื้อไก่แล้วเมื่อเดือนกันยายน 2549 สำหรับโครงการต่อไปจะศึกษา
เปรียบเทียบการกินนมวัวและนมไก่ในระยะยาว รวมทั้งจะพัฒนาต่อยอดเป็นสูตรอาหารสำหรับเด็กโตและผู้สูงอายุ

“ทุกวันนี้ทำนมสัปดาห์ละ 100 แก้ว แต่คงขยับเข้าไปในระดับอุตสาหกรรม เพื่อประโยชน์ประเทศ ไม่ต้องซื้อนม
จากต่างประเทศและใช้วัตถุดิบในประเทศ ราคาก็จะถูกลง ราคานมวัวทั่วไปกระป๋องละ 200 บาทต่อ 400 กรัม
ส่วนนมจากเนื้อไก่ 300 บาท แต่ถ้าทำมาก ๆ ก็สามารถยืนอยู่บนราคาของนมวัวได้ เพราะเนื้อไก่บ้านเรา ไม่แพง
และคาโบไฮเดรตก็มีแผนจะนำแป้งข้าวของเรามาเป็นส่วนของนมจากเนื้อไก่” ศ.นพ.ภิญโญกล่าว

ด้าน รศ.นพ.ธราธิป กล่าวว่า อุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในคนไข้เด็ก
ซึ่ง รพ.ศิริราช พบเป็นอันดับ 2-3 สำหรับโรคแพ้โปรตีนในนมวัวนั้น ในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาพบน้อยในประเทศไทย
แต่พบมากในต่างประเทศประมาณร้อยละ 2-4 อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยพบเด็กแพ้นมวัวเพิ่มขึ้นทุกปีสาเหตุสำคัญ
มาจากแม่เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองน้อยลง หันมาใช้นมวัวเลี้ยงลูกมากขึ้น นอกเหนือจากโรคภูมิแพ้ซึ่งอาจจะมีในบางครอบครัว

ทั้งนี้ โดยทั่วไปโรคแพ้นมวัวจะเป็นโรคของเด็กเล็กอายุ 1-2 ปี มักจะมีอาการภายในช่วง 1-2 เดือนแรก อาการ
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีอาการเฉียบพลันทานแล้วเกิดอาการทันที อีกกลุ่มหนึ่งหลังจากทานไปแล้ว 10-14 วัน
เริ่มมีอาการ อาการส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่ระบบผิวหนัง มีผื่นแพ้ ผื่นลมพิษ และอาการทางระบบทางเดินอาหาร
ซึ่งมีหลากหลายทั้งร้องกวน ท้องอืด อาเจียน ท้องเสีย รุนแรงมากมีอุจจาระปนเลือด แต่ส่วนหนึ่งมีอาการท้องผูก
แทนที่จะท้องเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวผู้แพ้นมวัวที่มาครั้งนี้ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังเด็กเปลี่ยนมาดื่มนมจากเนื้อไก่แล้ว
ทำให้เด็กมีชีวิตที่มีความสุขขึ้น เจริญเติบโตดีขึ้นไม่ท้องเสียรุนแรง ปวดท้อง หรือท้องอืด ผื่นก็ค่อย ๆ หายไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2007, 01:13 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 11-08-2007, 01:15 »

งานนี้ต้องมีผู้ใหญ่แย่งนมเด็กกินแน่เลย .. ถ้ามีโอกาสผมเองก็คงลองชิมนมไก่บ้างเหมือนกัน   
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #2 เมื่อ: 11-08-2007, 10:02 »

งานนี้ต้องมีผู้ใหญ่แย่งนมเด็กกินแน่เลย .. ถ้ามีโอกาสผมเองก็คงลองชิมนมไก่บ้างเหมือนกัน   

นมจากอกไก่....นึกว่านมของน้องไก่ซะอีก
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: